ตอนที่ 17 : อริรักกัน
ท่านผอออกล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
“ทางโรงเรียนกำลังถูกเพ่งเล็ง อย่าไปก่อเรื่องแบบนี้ คำสั่ง พอนักเรียนตีกันก็ถูกคำสั่งจากรัฐให้ปิดโรงเรียน ครูไม่อยากให้สถาบันเราเป็นแบบนี้ เราอยู่มานานก่อตั้งมานานสั่งสมความรู้ ผลิตแรงงานนักศึกษาที่จบเป็นศิษย์เก่าไปรับใช้ประเทศชาติมาแล้วหลายรุ่น อย่าทำให้เสี่ยมเสียชื่อเสียงของสถาบัน” ท่านผอออกล่าวด้วยสีหน้าเครียด
มันมีอิทธิพลจริงๆสำหรับข่าวพาดหน้าหนึ่งของวันนี้ ระบุถึงผู้เสียชีวิตเป็นช่างกลต่างสถาบัน ที่ถูกคู่อริรุมแทงทำร้าย ทำให้บรรยากาศเรียนเช้าของวันนั้นเงียบเหงา
ที่โรงแรมหรูริมหาดพัทยา ลินจงเปิดประตูกระจกด้วยตัวเองรับลมทะเล ลมเย็นมาก แม้หล่อนจะอยู่บนที่สูง ชั้นที่สิบห้า ฮารุตะพาหล่อนมาพักผ่อนที่นี่ ที่นี่แวดล้อมไปด้วยเพื่อนชาติเดียวกับเขา คือชาวญี่ปุ่นด้วยกัน ซึ่งส่วนมากเป็นพนักงานของบริษัทและเป็นผู้บริหารระดับสูง ที่เข้ามาทำงานในประเทศไทย เพราะถูกบริษัทแม่ในประเทศญี่ปุ่น ส่งมา ฮารุตะเช่นเดียวกัน เขาเป็นผู้บริหาร บริษัทรถยักษ์ใหญ่ของประเทศ ผลิตอะไหล่และชิ้นส่วน ลินจงค่อยๆเรียนรู้สังคมวัฒนธรรมของคนญี่ปุ่นไปโดยเรื่อย เพราะหล่อนรู้ว่า ฮารุตะจะจับจองตัวหล่อนเป็นคู่ชีวิต เขาแสดงให้เห็นถึงความนัยความมั่นคง ฐานะเขามั่นคงแน่นอน เพราะหล่อนดูเงินเดือนจากสลิปของเขา ตัวเลขหกหลัก ความเป็นอยู่ของเขาสุขสบายหรูหรา หล่อนเคยเข้าไปที่คอนโดซึ่งบริษัทเช่าให้ เขาจ่ายแค่ค่าน้ำและไฟ เคยไปที่นั่นห้าหกครั้ง หล่อนจึงมั่นใจว่าเขาจริงจังกับหล่อน และเขามักบอกเสมอว่า เขารักหล่อน พูดด้วยคำภาษาไทยที่ฟังแปร่งหูไปหน่อย แต่ก็ลึกลงไปด้วยความจริงใจที่สัมผัสได้
ทำให้ลินจงยอมที่จะไปไหนมาไหนกับเขา เพราะหล่อนมั่นใจ วันหยุดเขามักจะพาหล่อนไปเที่ยว พามาที่คอนโดของเขา ฮารุตะมีกำหนดอยู่ประเทศไทยสามปี แต่ครบแล้วเขาต่อเพิ่มไปอีก ทำให้เป็นหกปี หมายถึงอยู่ยาว ไม่มีกำหนดกลับ เพราะเขากำลังหลงรักสาวไทยผู้กุมหัวใจมั่นของเขา ตอนนี้ลินจงก็หัดเรียนเขียนอ่านภาษาญี่ปุ่นที่โรงเรียนสอนภาษา หล่อนคิดว่าจำเป็น เพราะหล่อนตัดสินใจแน่วแน่ ความร่ำรวยก็มีส่วนถูกต้อง ที่หล่อนจะเลือกผู้ชายที่เพียบพร้อมคนนี้ วัยของเขามากกว่าหล่อนห้าปี ไม่เป็นปัญหา เพราะงานการที่หล่อนทำ มันก็อยู่ในวงเวียนที่เอาเนื้อตัวเข้าแลก ฮารุตะไม่ถือสาในเรื่องนี้ ไม่มองอดีตที่หล่อนเคยผ่าน เขาเองก็บอกว่าเขาเคยมีภรรยาชาวญี่ปุ่นเหมือนกัน แต่ก็เลิกกันแล้ว มีบุตรชายด้วยกันหนึ่งคน ทางแม่เอาไปเลี้ยง
เขากอดหล่อนทางด้านหลัง
“คุณชอบมั๊ยลิลลี่” เขามักจะเรียกหล่อนว่าลิลลี่
“ชอบมากค่ะฮารุตะซัง” หล่อนตอบเขา
ชลบุรีในเขตพัทยาศรีราชาเป็นชุมชนชาวญี่ปุ่นที่แข็งแกร่งและขนาดใหญ่ ส่วนมากชาวญี่ปุ่นพาครอบครัวมาอยู่ด้วยกันที่เมืองไทย มีโรงเรียนสำหรับลูกเป็นนานาชาติ มีที่พักเป็นคอนโดหรูแวดล้อมไปด้วยสาธารณูปโภคครบครันสนามเด็กเล่นสระว่ายน้ำ ส่วนภรรยาชาวญี่ปุ่นเป็นแม่บ้านอยู่กับบ้านเลี้ยงลูก
“ข้าวปั้น” เก่งรบเรียกเพื่อนที่เพิ่งสนิทสนมเขาเป็นเด็กหนุ่มในวัยเดียวกับเก่งรบ สอบเข้าได้เหมือนกัน ตั๋นเป็นคนแนะนำให้รู้จัก ข้าวปั้นเป็นคนขี้อายไม่กล้าพูด เขาไม่ได้สนิทสนมกับเก่งรบตั้งแต่แรก เก่งรบก็มองอยู่ห่างๆ เพราะคิดว่าคนละชั้น การแต่งกายการขับรถเก๋งมาเรียนหนังสือนี่ ไม่ใช่ธรรรมดา แต่มาเข้าใจอีกทีว่า เพื่อนใหม่คนนี้ติดดินมาก เขาเป็นกันเองกินอาหารได้ทุกอย่างไม่เลือก ไม่ว่าข้างถนนหรือภัตตาคาร หรือในห้าง สนิทกันมาอาทิตย์หนึ่ง ข้าวปั้นอุปนิสัยดีอ่อนโยนร่าเริง การเรียนปากกลาง ชอบในวิชาชีพช่าง จนสอบเข้ามาในคณะวิศวะอิเลกทรอนิกส์ได้ ที่สนิทสนมกันมากที่สุดตอนทำกิจกรรม ในเร็วๆนี้จะมีการรับน้อง จากรุ่นพี่ ในกลุ่มนักศึกษาช่างที่เป็นเด็กใหม่ รับฟังเรื่องราวและการปฏิบัติ ไปกันทุกคน ในอีกหนึ่งอาทิตย์ที่จะถึง
สิ่งที่ทำให้เกิดความกลมกลืนหรือสนิทสนมมากกว่าเดิมนั้น อยู่ที่เล่นตะกร้อเล่นฟุตบอลด้วยกัน แม้จะเลือกเรียนคนละสาขาแต่ก็อยู่ร่มเงาศึกษาเดียวกัน มีความเป็นอันหนึ่งเดียวกัน เฮฮาสนุกสนานร่วมกัน
“ปั้น ส่งบอลให้เราสิ” เลิกเรียนเร็วกว่ากำหนดในวันนี้ อาจารย์มีธุระ นักศึกษาเลยลงมาเล่นกีฬา มีทั้งเตะตะกร้อ และฟุตบอล เก่งรบลงสนามแข่งฟุตบอลกับเพื่อน เมื่อสนิทกับข้าวปุ้นแล้วเขาจึงกล้าคุย ข้าวปั้นยิ้มเป็นหนุ่มตัวสูงผิวขาวออกไปทางโย่ง ที่สำคัญใส่แว่นตาเพราะสายตาสั้น แต่การเล่นฟุตบอลไม่มีปัญหา เหนื่อยจากการเล่นก็ปาเข้าไปเกือบหนึ่งชั่วโมง พากันนั่งพักเอนหลังที่เก้าอี้ม้านั่ง เหงื่อแตกซ่กเปียกโชกกันไปหมด ครึ่งชั่วโมงต่อมาจึงแยกย้ายกันกลับ ข้าวปั้นนำรถเก่งส่วนตัวขับออกมา ลดกระจกเปิดบอกกับเพื่อนที่เดินผ่านทางริมถนน
“กลับก่อนนะทุกคน เจอกันพรุ่งนี้” เก่งรบกับตั๋นยิ้มให้เพื่อนเจ้าของรถเก๋ง แตน นุดีและวิชยาก็เช่นกันโบกมือให้หนุ่มหล่อพ่อรวยที่เลือกมาเรียนสายเดียวกับพวกเขา ทั้งๆที่จริงจะเลือกเรียนต่อพาณิชย์หรือต่อวิทยาลัยอื่นก็ได้ นี่เพราะความชอบใจรัก
แม่ที่ทำงานเป็นแม่ครัวร้านอาหารแถวฝั่งธนกลับเข้าบ้าน ปกตินางสมรไม่ค่อยเข้าบ้านเพราะที่ทำงานอยู่ไกล ทำให้ไปกลับไม่ได้ แต่นางไม่ห่วงลูกสาวทั้งสองคน คือไหมวาดกับลินจง เพราะมีญาติอยู่ดูแลข้างๆ ลินจงนั้นนางกำลังจะหมดห่วง เพราะว่าลูกสาวมักโทร.มาบอกว่า คบหาอยู่กับแฟนหนุ่มชาวญี่ปุ่น ห่วงใยแต่คนเล็กที่กำลังเรียนหนังสือ ไหมวาดกำลังโตเป็นสาวและน่ารัก
วางพลอตเอาไว้ล่วงหน้า
ลินจงอยู่กับแฟนหนุ่มชาวญี่ปุ่นเขาพาไปที่ห้างเพื่อชอปปิ้ง พัทยาสามคืนแล้ว กำหนดกลับกรุงเทพศุกร์ที่จะถึงนี้ เรียกว่ามาค้างพักถึงห้าวัน เช่าโรงแรมหรู เป็นความต้องการของฮารุตะ
เทคนิคช่างกลปราการเทพ
ลินจงอยู่กับแฟนหนุ่มชาวญี่ปุ่นเขาพาไปที่ห้างพาชอปปิ้งเพราะวันนี้เขาหยุด ไปที่พัทยา ส่วนต่างถูกตำรวจจับที่เขาออกขวาในช่วงเวลาเร่งด่วนมีผู้ดดยสารซ้อแนท้ายแต่สวมหมวกกันน้อค ทำให้หัวสียอย่างมาก ต้องแซงเพรารถเมล์สองคันเบียดอยู่เลนซ้ายสุด ยอมจ่ายค่าปรับแต่ก็บ่นเซ็ง
ข้าวปั้นคือเพื่อนที่มีฐานะมากที่สุดในโรงเรียนเพราะข้าวปั้นนำรถเก๋งขับมาโรงเรียน บางครั้งเป็นรถเบนซ์ของพ่อ ถามความรู้สึกของเขาถูกพ่อแม่กีดกันไม่ให้มาเรียนที่โรงเรียนช่าง เพราะอยากให้ลูกเรียนต่างประเทศ หรือสายสามัญ เนื่องจากได้ยินข่าวการทะเลาะวิวาทของนักเรียนช่าง แต่ปองพลเป็นคนดื้อ เขาชอบสายนี้ เขาเรียกว่ามันเป็นความท้าทาย ปองพลเลือกเรียนวศวกรรมไฟฟ้า เนื่องจากเขาสามารถสอบได้ ในวันที่เขาสอบได้ ในบ้านไม่มีใครดีใจสักคน พี่สาวของเขาคนโตเรียนอยู่มหาวิทยาลัยบจุฬา ส่วนคนที่สองเรียนอยู่ม.ธรรมศาสตร์ ครอบครัวเป็นคนมีฐานะ เพราะบิดาเป้นเจ้าของโรงงานผลิตอะไหล่าชิ้นส่วนรถยนต์อยู่แถวเทพารักษ์
เก่งเจอเข้าปั้นครั้งแรกไม่กล้าทัก เพราะข้าวปั้นดูหรูจากการแต่งตัว การขับรถ แต่ข้าวปั้นเป้นฝ่ายเข้ามาคบเขาก่อน เรียนด้วยกัน เพื่อนในโรงเรียนมักสนิทสนมกัน จึงรู้ว่าข่าวปั้นไม่ใช่คนเหยียดหรือดูถูกคนที่มีฐานะด้อยกว่า จากการชวนเล่นเตะตะกร้อและเตะบอลหลังเลิกเรียน ทำให้สนิทสนมกัน พร้อมกับเพื่อนคนอื่น เช่นตั๋น
โรงเรียนเทคนิคปราการ มีหัวโจกรุ่นพี่ ชื่อ ทัด คอยเสี้ยมสอนเพื่อจะล้างแค้นนักศึกษาต่าง
สถาบันที่เป็นคู่อริเก่า โอม เต้ หมอก แฮคส์ เอก เต้หลงรักบัว สาวพาณิชย์ที่คบหาอยู่กับนุดี แต่บัวชอบนุดีมากกว่าเพราเป็นหยิงด้วยกันเอาใจเก่ง บัวไม่ชอบอันธพาลเกกมะเหรก เต้ไปเจอบัวนั่งทานสุกีร์ในห่างกับนุดีก็ไม่พอใจ เข้าไปหาเรื่อง ในจำนวนเพื่อนโรงเรียนนี้ หมอกเป็นคนมีฐานะมากกว่าคนอื่น ที่บ้านมีร้านเกกมอินเตอร์เนตกับครอบครัว มีธุรกิจเกี่ยวกับเป็นเอเย่นต์รับจ้างทำพิธีทางศุลกากรให้กับลูกค้า พ่อแม่กีดกัน อีกอย่าง หมอกมีพี่ชายคนโตชื่อ น้ำ หรือ ภูภัทร และมีสาวคนรักที่เรียนรมหาวิทยาลัยด้วยกัน กำหนดว่าจะแต่งงานเมื่อเรียนจบ อรวิกา หรือ อุ้ม ซึ่งอุ้มเป็นพี่สาวคนโตของข้าวปั้น สองครอบครัวนี้ต่างเห็นรด้วยที่จะดองกันเพราะร่ำรวยทั้งคู่
ทัดแค้นใจเบิ้มที่ครั้งหนึ่งเคยรุมทำร้ายเพื่อนของเขาเจ็บปางตาย จึงนัดที่จะเอาคืนเพื่อนต่างโรงเรียนคือ เทคนิคอรุณ ความแค้นตรงนี้ขนาดที่ทัดจบไปแล้ว ยังวนเวียนมาที่โรงเรียน โดยฝังหัวรุ่นน้องในสถาบันให้ช่วยแก้แค้น เล่าว่ามันเป้นเรื่องที่นย่าอายที่สุดที่ถูกฝ่ายตรงกันข้ามเล่นงาน ถูกแย่งเข็มขัดไปเหมือนดูถูกหมิ่นศักดิ์ศรี เพื่อนรุ่นน้องก็ฮืออยากจะแก้แค้นด้วยอารมณ์คึกคะนองของวัยรุ่น ที่เพื่อนลากไป ในโรงเรียนนี้ มีคนไม่เห็นดีรกับการต่อยตีทำร้าย เพื่อล้างแค้น คือ โน้ต หรือนที นทีเป็นเด็กเรียนพ่อของเป็นช่างซ่อมรถเปิดเป็นอู่ เขามาต่อยอดครอบครัวด้วยการเรียนด้านช่างยนต์ เพื่อจบออกมาจะสานงานพ่อแม่
ข่าวนักศึกษาตายเป็นข่าวหน้าหนึ่งของโรงเรียน คนที่เคราะห์ร้ายคือจ้อน ถูกคมมีดจ้วงแทงมีบาดแผลร่างกายห้าแห่งไปสิ้นใจที้โรงพยาบาลเหตุเกิดขณะจ้อนอยู่ทำการบ้าสนคนเดีดยว ขระที่เพื่อนคนอื่นๆกลับไปหมดแล้ว จ้อนต้องเร่งทำรายงานส่งครูเพราเกรงว่าจะไมมีเวลาเสาร์อาทิตย์เขาตั้งใจจะไปเยี่ยมพ่อแม่ที่ชลบุรี แต่แล้วเขาถุกคู่อริรุมแทงตายที่ป้ายรถเมลื ท่ามกลางการกรีดร้องของผู้คนที่มายืนรอ โดยเฉพาะผู้หญิง เหตุเกิดที่ป้ายรถเมล์หน้าสถบัน หลักฐานที่ปรากฏคืออาวุธปืนปากกา กับรอยเลือดที่หยดเป็นทาง
คนที่รุมทำร้ายจ้อน คือ เอกกับไอ้เต้ เพราะแรงยุยงของทัด รุ่นพี่อันธพาล ไม่ต้องการให้ถึงตาย แต่จ้อนตายแล้ว ข่าวดังไปทั่วประเทศที่โรงเรียนถุกเพ่งเล็ง ผู้บริหารคณาจารยืถุกสอบสวงน ถุกตั้งปัญหาจากสังคมว่า ทำไมจึงเกิดเรื่องแบบนี้ พ่อแม่ของจ้อนมาจากต่างจังหวีดพร้อมด้วยเครือญาตินำศพของเขาไปบำเพ็ญที่บ้านเกิด ผู้ใหญ่และเจ้าหน้าที่บ้านเมือง ท่านผอบอตอรอ และรัฐมนตรีมหาดไทยกระทรวงศึกษธิการ สั่ง
ให้หาคนผิดมาลงโทษ กำหนด หลังจากเข้าสู่กระบวนการสอบสวนกับผู้บริหารมีคำสั่งให้ปิดโรงเรียนหนึ่งอาทิตย์ สั่งกำชับกับผู้บริหารถ้ามีการทะเลาะวิวาททำร้ายกันอีก จะปิดโรงเรียนถาวร
เพื่อนๆเสียใจมาก ที่จ้อนจากไปก่อนวัยสมควร เพือ่นๆอ่าลัย ได้ไปร่วมงานศพจ้อน นักข่าวสัมภาษณ์ ทุกคนสีหน้าสลด ฐานะของจ้อนไมดีนักพ่อแม่มีอาชีพเป้นชาวงประมทงพื้นบ้าน เขาใฝ่ฝันร่ำเรียนจบเพื่อจะกลับมาทำงานที่บ้านเกิดในโรงงานอุตสาหกรรมใกล้พ่อแม่ โปรดติดตาม
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ
