แผนลวงใต้บ่วงรัก - นิยาย แผนลวงใต้บ่วงรัก : Dek-D.com - Writer
×

แผนลวงใต้บ่วงรัก

ความรักของ ณัฐสรกับหนุ่มหล่อที่เพอร์เฟกต์ และต่างฐานะ

ผู้เข้าชมรวม

569

ผู้เข้าชมเดือนนี้

6

ผู้เข้าชมรวม


569

ความคิดเห็น


0

คนติดตาม


5
จำนวนตอน : 4 ตอน
อัปเดตล่าสุด :  30 ธ.ค. 55 / 01:30 น.

อีบุ๊กจากนิยาย ดูทั้งหมด

loading
กำลังโหลด...
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ

ความรักของ  ณัฐสรกับหนุ่มหล่อที่เพอร์เฟกต์ และต่างฐานะ

 

 

                แผนลวง..ใต้บ่วงรัก

กุญแจซอลล์

 

ที่พักพิงใหม่......100เปอร์เซ็นต์

 

 

ณัฐสร กุลวิตรเพิ่งรู้ตัวว่านี่คือบ้านหลังใหม่ที่ได้รับการช่วยเหลือจากเครือญาติ    ก่อนหน้านั้นห้าวันสาเหตุมันเนื่องจากเธอไม่มีบ้านจะอยู่ เนื่องจากว่าบ้านหลังใหญ่โตปานคฤหาสน์ถูกขายทอดตลาดแล้ว หนี้สินที่เกิดจากการที่บิดาลงทุนทำธุรกิจแล้วเกิดเจ๊งไม่เป็นท่าคนในครอบครัวพลอยตกที่นั่งลำบากด้วย เมื่อบิดาถูกประกาศให้บุคคลล้มละลาย สมาชิกในครอบครัวประกอบด้วยพ่อแม่ลูกทั้งสามชีวิต

  แต่เธอก็ยังมีพี่สาวและพี่ชาย พี่สาวคนโตออกเรือนไปแล้ว..แต่ไม่ได้ให้การช่วยเหลือใดเลย เพราะทางนั้นใช่ว่าจะฐานะดีสักหน่อย ทั้งๆที่เป็นสะใภ้เจ้าของร้านทองย่านเยาวราช  ส่วนพี่ชายคนโตซึ่งเป็นวิศวกร ก็ใช้ชีวิตร่อนเร่อยู่ที่แคมป์ก่อสร้างตามต่างจังหวัด   ที่บริษัทแม่ในกรุงเทพส่งให้พี่ชายไปประจำสาขาที่ต่างจังหวัด..ไม่ว่าเหนือตะวันออกหรือใต้  ปัจจุบันทราบข่าวว่าพี่ชายอยู่ที่จังหวัดแห่งหนึ่งทางภาคใต้ อีกประมาณสามเดือนโครงการเสร็จถึงจะได้เข้ามาในกรุงเทพ

ดีที่ณัฐสรหรือกิ่ง  คนในครอบครัวเรียกชื่อเธอว่า น้องกิ่ง  คุณอรุณอุไรเป็นมารดา  สาธิตเป็นบิดา บ้านที่เคยอยู่หรูหราต้องมาซื้อทาวเฮ้าส์ซึ่งค่อนข้างแคบ ดีที่ยังมีสมบัติหลงเหลืออยู่ชิ้นหนึ่งเดียวที่มีซึ่งเป็นของคนอื่น  เพราะทรัพย์สินรายการอื่นๆถูกธนาคารยึดไปเกือบหมดแล้ว..เพราะว่าทาวเฮ้าส์หลังนี้จะว่าไปก็ไม่ใช่มรดกของครอบครัวเธอ..ไม่งั้นหนีมิพ้นธนาคารตามมายึด..แต่เป็นของลุงเธอเอง   สุธน ซึ่งอนุญาตให้ครอบครัวน้องชายซึ่งไม่มีบ้านจะอยู่  ได้อยู่อาศัยฟรี.. และเสียค่าน้ำค่าไฟเองต่างหาก  ถือว่าเป็นการผ่อนเบาภาระทางบ้านให้ลงได้บ้าง  บิดากำลังเสียขวัญและเสียใจอย่างหนัก ซึ่งท่านก็ได้รับการดูแลใกล้ชิดจากมารดา

 

 

ณัฐสรหรือกิ่งเองก็กลัวว่าบิดาจะเตลิดหนีเหมือนกัน  มีข่าวคราวที่เธอเคยเจอคือนักธุรกิจประสบปัญหาขาดทุนหนี้สินรุมเร้า จึงหาทางออกด้วยการปลิดชีพของตัวเอง  ขออย่าให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นในครอบครัวของณัฐสรเลยเธอคงทำใจไม่ได้  โชคดีประการสำคัญของเธอที่มีญาติผู้ใหญ่ใจดีเช่นลุงแท้ๆ แต่ป้าสะใภ้นี่คงจะคิดในสิ่งที่ตรงกันข้าม เพราะป้าสะใภ้ค่อนข้างเป็นคนงกตระหนี่ในทรัพย์สมบัติ  เรื่องที่จะให้คุณจิตราออกปากช่วยเหลือเห็นจะไม่มีทาง  เรื่องนี้เธอเห็นจะขอบคุณสูงสุดที่คุณลุงซึ่งกรุณาเมตตาเอ็นดูครอบครัวของหลาน  พี่ชายคนโตของเธอยังไม่ทราบเรื่องนี้เลย..  

มันกะทันหันและเขาวาดฝันในบ้านหลังนี้มาก มันเป็นเพราะเธอติดต่อส่งข่าวคราวถึงพี่ชายไม่ได้.. ไม่ทราบว่าเกิดอะไรกันแน่ เพราะว่าธีธัชพี่ชายคนนี้วาดฝันนักหนาอยากให้บ้านหลังนี้คงอยู่ต่อไป เพราะเขารักมันมาก  และไม่เคยที่จะยอมสูญเสีย  

ตั้งแต่เด็กแล้วณัฐสรรู้ดี  เธอเองสนิทสนมกับพี่ชายคนที่สองมากกว่า พี่สาวคนโตที่เป็นผู้หญิงมากกว่า อาจจะเพราะนิรดา พี่สาวคนโตมีวัยห่างจากเธอถึงเจ็ดปีอีกอย่างทางด้านอารมณ์และความรู้สึกพี่สาวคนโตค่อนข้างปิดกั้นตัว ขณะที่เธอกับพี่ชายคนรองยังเด็กพี่สาวคนโตก็เรียนจบชั้นประถมเสียแล้วกำลังเริ่มโตเป็นสาว ดังนั้นสิ่งที่ห่างกันคือช่องว่างระหว่างวัย

 แต่ณัฐสร ก็จำได้ว่า  พี่สาวคนนี้ของเธอเคยอุ้มและดูแลเธอมากพอสมควร คงจะเป็นในฐานะของพี่ที่มารดาฝากฝังเอาไว้ทุกครั้งในคราวครั้งที่ทำธุระที่ต่างจังหวัดไกลๆหลายคืน..ไม่สามารถนำตัวเธอและพี่ชายไปด้วยได้

นั่นคือหน้าที่รับคำสั่งเลี้ยงน้องของผู้ปกครองต่างหาก.. 

ทีนี้ณัฐสรจะทำอย่างไรดี  เด็กสาวแสนสวยเองจบชั้นพาณิชย์ในปีสุดท้ายพอดี  จึงไม่ได้สร้างภาระอย่างใดให้ครอบครัวมาก  เมื่อเธออยู่นิ่งเฉยไม่ได้ จึงสมัครงานให้กับตนเอง ..ขอภาวนาด้วยเถิดพ่อเจ้าประคู๊นให้ลูกช้างได้งานทำ

จะได้ผ่อนเบาภาระหนักของครอบครัว และพ่อแม่สบายใจ  สิ่งที่ณัฐสรหรือกิ่งต้องการทำอย่างมากที่สุดคือ  ให้บุพการีทั้งสองสบายใจ  เพราะความกังวลทั้งหมดของบิดามารดาอยู่ที่เธอซึ่งเป็นลูกสาวคนเล็กที่สุดหวงซ้ำยังเอาตัวเองไม่รอด..  ประการหนึ่งคือณัฐสรจะไม่ทำให้พ่อแม่หนักใจ รายจ่ายในบ้านก็ลดจากที่เคยใช้..แต่ปรับเปลี่ยนตัวเองอย่างกะทันหัน ที่เคยเป็นคุณหนู ก็ลดทั้งอารมณ์ความรู้สึกรวมทั้งรสนิยม..

รับกับสภาพที่แปรผันได้  โดยไม่สนใจมองหน้าใคร..แม้แต่คนที่คิดเยาะหยันนินทา  จากเพื่อนสนิทบางคนสาวอย่างณัฐสรก็ไม่เคยคิดสนใจเอามาเป็นอารมณ์ให้รกสมองเล่น..  เธอมีภาระยิ่งใหญ่คราวนี้ต้องช่วยเหลือครอบครัวในการกอบกู้ฐานะ 

ซึ่งบิดายังพักรักษาตัวเพื่อริเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง   ท่านมีปณิธานมีความมุ่งหวังอยู่ที่จะสานต่อสิ่งที่ล้มละลายให้ฟื้นขึ้นมา  ถ้าหากณัฐสรไม่ช่วยแล้วใครจะช่วยล่ะ  คนในครอบครัวพี่ชายเธอแทบพึ่งไม่ได้เงินเดือนเขาเหยียบสามหมื่นด้วยซ้ำ  ไม่รู้เอาไปไว้ที่ไหนหมด..ไม่เคยส่งข่าวคราวมาทางครอบครัวเลย..

 

 

 

ส่วนทางครอบครัวพี่สาวยิ่งแล้วใหญ่เลย ทราบเรื่องแบบนี้แทบจะไม่หันมาเหลียวแล  เป็นเพราะคงกลัวสามีกระมัง..  พี่เขยของเธอก็บอกแล้วว่ายี่ห้องกพอๆกัน  ทั้งๆที่ครอบครัวมีกิจการร้านทองเป็นเถ้าแก่เนี้ยอยู่สุขสบาย   เรื่องหยิบยืมเงินทองของครอบครัวสามีมาช่วยเหลือพ่อแม่ของตนเองเป็นสิ่งที่น่าจะทำได้ 

แต่นิรดาไม่ทำ..อาจจะเป็นเพราะว่า  จำนวนเงินมันมากมายทีเดียว ไม่ใช่ล้านสองล้าน แต่เป็นสามสิบล้าน.. แบบนี้ใครก็จนปัญญากันทั้งนั้น  แต่เธอก็ไม่ว่าอะไรหรอก เพียงแต่พี่สาวจะแวะมาเยี่ยมเยียนดูอาการของบิดาและมารดาบ้าง..

ช่วยปลอบท่านก็ยังดี  ในช่วงที่เธอออกไปหาสมัครงาน..  กลางวันที่บ้านไม่มีใคร เธอรู้ว่านิรดาพี่สาวมีภาพที่ต้องรับผิดชอบเลี้ยงลูกทั้งสองคนน้องบาสกับน้องบอม ซึ่งเป็นหลานสาวและหลานชายของเธอ  แต่ก็มีหน้าที่เป็นแม่บ้านอย่างเดียว

 จะแวะมาเยี่ยนเยียนบุพการีให้กำนิดไม่ได้นักหรือไง  หรือว่ามีสามีแล้วลืมกำพืดของตัวเอง  เธอไม่อยากจะคิดอย่างนี้หรอก น่าจะเตือนให้พี่สาวรู้บ้าง  เพราะโตๆกันแล้ว  เธอห่างจากพี่สาวตั้งเจ็ดปี  ขณะที่เธอก้าวขึ้นวัยสิบแปดปี  พี่สาวคนโตคงก้าวขึ้นเลขหลักสาม   จึงได้ตัดสินใจโทร.ไปหาพี่สาวกรอกเสียงอ่อนหวาน

พี่กบคะ  กิ่งเอง ใจคอพี่กบจะไม่คิดมาเยี่ยมพ่อแม่บ้างเลยหรือคะ กิ่งรู้ว่าพี่ช่วยเหลือเรื่องเงินทองไม่ได้  แต่พ่อแม่ต้องการกำลังใจ แล้ววันนี้กิ่งไม่ได้อยู่บ้าน พอดีเขานัดสัมภาษณ์งาน ..เลยอยากให้พี่กบมาที่นี่ พาหลานมาด้วยนะคะ พ่อกับแม่บ่นคิดถึงใหญ่เลย      เป็นสุ้มเสียงของน้องสาวซึ่งนิรดาพี่สาวคนโตเข้าใจดี..หลังจากรับสาย อึกอักเล็กน้อยก่อนจะตอบไป ที่น้องสาวเหมือนกล่าวหาว่าเธอไม่คิดดูดำดูดีพ่อแม่มากนัก. 

 

 

 

เหตุผลที่น้องสาวพูดเอ่ยนั้น ดูเหมือนจะไม่ผิดนัก เพราะเธอรู้สึกขี้เกรงใจครอบครัวสามี รวมทั้งพ่อสามีแล้วก็แม่สามี ที่เป็นคนเข้มงวดถี่ถ้วนกับเงินทอง   รวมทั้งนิรดาเมื่อเป็นสะใภ้บ้านหลังนี้ก็ยังอยู่ในสายตาของท่านทั้งสอง  ดีที่ลูกสาวกับลูกชายของเธอเป็นหลานโปรดของอาม่าอากง..

 เมื่อก่อนเธอมีหน้าที่ต้องช่วยเหลือสามีดูแลร้านทอง  ครั้นเมื่อมีลูกแล้วล่ะสามีจึงให้อยู่บ้านเลี้ยงแแต่ลูกเพียงอย่างเดียว  จะว่าไปเวลาเธอมีมาก แต่ที่ติดชินกับความสุขสบายเลยไม่นึกถึงครอบครัวเดิม  เมื่อน้องสาวโทร.มาคราวนี้เหมือนกระตุ้นเตือนจิตใต้สำนึกของตนเองดู.. ซึ่งนิรดาว่าจะไปแล้วหลายครั้ง

กิ่งโทร.มาขอร้องเท่านั้นแหละค่ะ มันอยู่ที่ใจของพี่กบเองด้วย ถ้าพี่กบจะมาหรือไม่มามันก็แล้วแต่พี่กบ แล้วต่อไปนี้ กิ่งคงไม่กล้ารบกวนพี่กบแน่

น้องสาวพูดเหมือนตัดขาด   นิรดาพี่สาวคนโตท้อเหมือนกันเอ่ยด้วยสุ้มเสียงที่รู้สึกผิดและแผ่ว

กิ่ง ..คราวนี้พี่รับปาก  เสียงตอบของพี่สาวสร้างความดีใจให้แก่เธออย่างมาก  ณัฐสรยิ้มอย่างดีใจแทบจะร้องตะโกนออกมา

หรือคะ..ดีใจจัง  มาเร็วๆด้วยนะคะพี่กบ ก็แล้วกัน  ล้วอย่าลืมพาหลานมาด้วยนะคะ พ่อกับแม่บ่นคิดถึงยายบาสกับตาบอมกันใหญ่..สงสารท่านเถอะค่ะ ไม่มีกำลังรอบข้างจากลูกหลานเลย

น้องสาวพูดยาวด้วยความดีใจ  รู้สึกหายกังวลและโล่งใจด้วยที่พี่สาวรับปากเอาไว้หลังจากที่เธอคิดว่าอาจจะถูกปฏิเสธ เลยรีบไปบอกพ่อแม่เอาไว้ก่อนจะออกไปจากบ้านเพราะนัดสัมภาษณ์งานที่รับตัวเข้าทำงานแล้ว

                ณัฐสรเริ่มออกจากบ้านเมื่อว่าพี่สาวคนโตเดินทางมาถึงตามกำหนด..  เธอไม่ได้พูดอะไรมากแค่ฝากพี่สาวให้ช่วยดูแลพ่อกับแม่.. เสร็จจากสัมภาษณ์งานเธอจะรีบกลับ

                ช่วงบ่ายโน่นแหล่ะคะ

เธอรีบจ้ำอ้าวออกจากบ้านด้วยกลัวไปที่บริษัทไม่ทัน เพราะกลัวว่าจะสายเหมือนกัน

 

 

 

เจ้านายที่รัก

 

                กลัวเหมือนกันว่าจะมาสายวันนี้เป็นวันที่บริษัทนัดสัมภาษณ์เพื่อตกลงรับเธอเข้าเป็นพนักงานของบริษัท..ณัฐสรเลือกเสื้อผ้าที่เหมาะสมในการใส่มาสัมภาษณ์งาน เสื้อผ้าที่เหมาะสมกับวัยสีอ่อนกระโปรงสีเทาดำกำมะหยี่ตัดกับเสื้อสีเหลืองนวลดอกบานบุรีติดลูกไม้สีขาว

                ออกจากบ้านแล้ว..มันเป็นอะไรที่ไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจมาก่อนเลย พะวักพะวนกับอาการของบิดา..กลัวท่าน.  ณัฐสรหรือกิ่งไม่อยากคิดออกมาเลย..มันเป็นความคิดไม่ดี... ปากเธอไม่เป็นมงคลแท้ หากเมื่อบิดาในวันนี้ได้รับการดูแลเอาใจใส่จากพี่สาวคนโตที่บิดาเองปรารถนาอย่างมาก..ในการที่จะให้พี่คนโตมาดูแลท่านบ้าง..  ณัฐสรเองก็พยายามสลัดความเครียดกังวลใจที่มีอยู่ออกไปสิ้น

                เพราะต้องเตรียมตัวไปทำงาน..นั่งรถเมล์ไปที่ทำงาน..คงสาย..แต่ขอภาวนาว่าอย่าสายเลย..เห็นมั๊ยปากเธอไม่เป็นมงคลอีกแล้วชอบคิดอะไรที่ติดลบเหลือเกิน..ต้องปรับเปลี่ยนตัวเองใหม่.. 

กลายเป็นคิดดีพูดดีทำดีสิริมงคลคงจะเกิดกับตัวเอง   แต่ก็ภูมิใจลึกๆว่าบิดาคงหายดีวันดีคืนที่ได้พี่สาวมาช่วยเฝ้าดุแลอาการ ท่านป่วยเป็นไข้ใจ..สมองได้รับผลกระทบกระเทือนมากจากการทำธุรกิจล้มเหลว..ท่านถึงกับช๊อคไปครั้งหนึ่ง.. เพราะอาการของโรคประจำตัวกำเริบ

 

 

 

ที่สุดมาหยุดตรงที่หน้าบริษัทและนัดสัมภาษณ์งาน โชคดีสำหรับเธอที่มารายงานตัวทันก่อนแปดโมงครึ่ง.. รู้สึกสบายใจขึ้นแล้ว  เมื่อต้องนั่งรอร่วมปะปนกับผู้สมัครงานคนอื่น รอคิวในการเรียกสัมภาษณ์   ระหว่างนี้ในใจของณัฐสรเต้นตุ๊มๆต่อมๆมากเหลือเกิน..แต่ก็ขอภาวนาว่า..ให้ฝ่ายบุคคลของที่นี่รับทีเถ๊อะ..เอยากจะแบ่งเบาปัญหาของครอบครัว  ที่กำลังประสบความลำบากอยู่ 

 นางสาวณัฐสร ..เชิญได้ค่ะ  ไม่นานทันใดนักชื่อของเธอก็ถูกเรียกไปพร้อมกับนามสกุล.. รวดเร็วทันใจดีนัก จนณัฐสรแทบไม่มีเวลาคิด.. แต่เธอต้องแก้ปัญหาเป็นตอบแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าโดยใช้ไหวพริบปฏิภาณส่วนตัว..  ที่เธอคิดว่าเธอมักเอาตัวรอดได้เสมอ

เชิญนั่งค่ะ..   ระหว่างที่ทำการสัมภาษณ์เธอพยายามวางบุคลิกให้ดีที่สุดสบตาตรงกับผู้สัมภาษณ์..เอ่ยตอบด้วยวาจาที่คล่องแคล่วไม่ตื่นและน้ำเสียงจะแจ้งเต็มคำในบุคลิกที่มั่นใจของตนเอง..  ทั้งๆที่แต่ก่อนหน้านี้เธอใจฝ่อ.. แต่เธอก็ดึงสติกลับมาเป็นของตัวเองได้สำเร็จ 

 

ในที่สุดก็เป็นข่าวดีแจ้งแก่เธอในเวลาสิบห้านาทีผ่านไป  ขอแสดงความยินดีด้วยค่ะ คุณได้ผ่านการสัมภาษณ์คัดเลือกให้เป็นพนักงานของบริษัท..พรุ่งนี้มาเริ่มงานได้นะคะ กรุณามาให้เช้าๆหน่อย  ทางฝ่ายบุคลจะสอนวิธีตอกบัตรให้ แล้วก็เรียนรู้งานนิดหน่อย  เมื่อทางนี้แจ้งข่าวดีพร้อมกับยิ้มตอบ..เธอรู้สึกปลาบปลื้มใจยิ่งนัก ปีติแล่นล้นทรวง.งอย่างคาดนึกไม่ถึง..ว่าจะโชคดีอย่างนี้..

                แม้ไม่ได้คิดล่วงหน้า  แต่ก็มีความหวังว่าจะได้.. กิ่งหรือณัฐสรเหมือนเนื้อตัวบางเบาดุจปุยนุ่นปานประหนึ่งว่าจะลอยเหาะในอากาศได้.. มันเป็นความอิ่มใจอย่างมากครามครันเหลือเกินกับข่าวดีเช่นนี้  จึงกลับไปที่บ้านพร้อมกับหอบข่าวดีกลับไปด้วยใบหน้าที่ที่ยิ้มแย้มระรื่นหัวใจที่พองโตสุขล้น..แค่คำว่าพรุ่งนี้คุณต้องเตรียมตัวมาแต่เช้า..  ใช่เธอต้องมาแต่เช้าแน่   และจะไม่มีอะไรเกิดเป็นอุปสรรคในวันพรุ่งนี้อย่างแน่นอน

 

 

จึงกลับไปที่บ้านพร้อมกับหอบข่าวดีกลับไปด้วยใบหน้าที่ที่ยิ้มแย้มระรื่นหัวใจที่พองโตสุขล้น..แค่คำว่าพรุ่งนี้คุณต้องเตรียมตัวมาแต่เช้า..  ใช่เธอต้องมาแต่เช้าแน่   และจะไม่มีอะไรเกิดเป็นอุปสรรคในวันพรุ่งนี้อย่างแน่นอน  จึงกลับบ้านอีกครั้ง 

อันดับแรกกิ่งหรือณัฐสรแทบจะบอกข่าวดีให้แก่บิดามารดาทราบก่อนเป็นอันดับแรก    คุณพ่อขาคุณแม่ขา ดีใจจังเลยค่ะ  กิ่งได้งานทำแล้วไชโย้  ฝ่ายบุคคลนัดให้ไปทำงานวันพรุ่งนี้  สร้างความปลาบปลื้มดีใจไม่แพ้ปานกันของทั้งสองสามีภรรยาส่งรอยยิ้มมาให้ลูกสาวคนเก่ง 

ตอนที่ณัฐสรกลับเข้ามาถึงบ้านนั้น ปรากฏว่าพี่สาวของเธอพร้อมด้วยหลานตัวน้อยที่อุ้มกระเตงมาด้วยเพื่อดุแลท่านทั้งสอง ได้กลับไปก่อนหน้านั้นสักประมาณสิบห้านาที สอบถามจากมารดาทำให้ทราบว่าพี่เขยเป็นคนมารับ..  งั้นก็แล้วไป.. ณัฐสรอยากจะเจอหน้าหลาน..อยากจะพูดคุย 

แต่ไม่เป็นไรเอาไว้โอกาสหน้าดีกว่า เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว  เย็นวันนั้นช่วงใกล้หนุ่มทุ่มเกิดฝนตกหนัก  ฝนฟ้าคะนองทำให้น้ำท่วมถนนรถราติดขัด  ณัฐสรมองลงมาจากหน้าต่างชั้นสองของบ้าน   ..ยามฝนตกหนักอย่างนี้นึกถึงพี่ชาย.. ที่ไม่ได้อยู่ด้วยในเวลานี้  ทำไมเขาไม่ส่งข่าวคราวมาให้ทางบ้านรับรู้บ้างนะ  ไม่รู้อยู่ทางนั้นลำบากหรือสุขสบายดี

 

 

 

หลังจากฝนหยุดตกก็ค่ำมืด  ณัฐสรเดินออกมาจากห้องพบว่าคนในครอบครัวบิดากับมารดากำลังนั่งดูข่าว จนคุณสาธิตเอ่ยเปรยให้ได้ยินว่า คิดถึงเจ้ามอสมัน..ทำไมใจแข็งเหลือเกินหนอลูกคนนี้..ไม่รู้มีอะไรผิดใจกับทางบ้านหรือเปล่า..เงียบหายไม่ส่งข่าว   มอสที่บิดาเอ่ยเรียกคือชื่อเล่นของธีธีช พี่ชายคนรองของเธอ..ซึ่งยังไม่ทราบข่าวคราวรู้แต่เพียงว่าอยู่ทางปักษ์ใต้..วุ่นอยู่กับโปรเจ็คโครงการห้างสรรพสินค้าหมื่นล้านกับโรงแรมแล้วก็บ้านจัดสรรนั่นล่ะ

อ้าว กิ่งยังไม่เข้านอนอีกหรือลูกนางอรุณอุไรเอ่ยทักบุตรสาวที่ยังไม่เข้านอน หลังจากที่ฝนหยุดตกแล้ว

ไหนล่ะบอกว่าพรุ่งนี้ต้องรีบไปทำงานแต่เช้าไม่ใช่หรือลูก  ทำไมไม่รีบเข้านอน   มารดาเอ่ยด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง แม้ว่าทั้งวันนี้ท่านจะวนเวียนอยู่กับการปรับทุกข์กับสามี    

ถึงเรื่องหนี้สินและธุรกิจ..ยังดีที่ลูกสาวคนโตมาเยี่ยมพอให้คลายหายเหงาและความคิดถึงลงได้บ้าง  ซ้ำพาหลานตัวน้อยให้ชื่นฉ่ำใจคนเป็นตายาย  ณัฐสรขยับกายทรุดนั่งที่โซฟาเคียงข้างมารดา..มีเรื่องหลายบอย่างอยากจะถามเหมือนกัน.. หลังจากที่เธอเอ่ยตอบไปแล้ว.. วันนี้พี่สาวมาดูแลบิดามารดา.. เป็นยังไงบ้างเธอก็อยากจะรู้.. แต่ที่เอ่ยออกมาก่อนคือพี่ชายก่อน

คิดถึงพี่มอสค่ะ แม่ ตอนนี้ไม่รู้อยู่ที่ไหน คนอะไรใจดำนักไม่ห่วงแม่ห่วงพ่อห่วงน้องเลย.. ทั้งๆที่ครอบครัวเราก็ตกอยู่ในฐานะอย่างนี้.. กลับมานี่พี่มอสจะรู้หรือเปล่าค่ะ ว่าบ้านเราถูกขายทอดตลาดแล้ว

เอ่ยพร้อมกับถอนใจออกมา เมื่อท่านรู้ว่าบุตรสาวคิดถึงเรื่องนี้ โดยที่ท่านเองก็เป็นห่วงและกังวลใจไม่น้อย.. เวลาว่างช่วงอยู่กลางวันประสาสามีภรรยาก็ครุ่นคิดเรื่องนี้เช่นกัน  และท่านทั้งสองเองก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าบุตรชายคนนี้ไปอยู่เสียที่ไหน จนลืมกลับบ้านกลับช่อง.. แต่ก็ยังเฝ้ารอวันที่ให้เขามาถามไถ่ข่าวคราวพ่อแม่ให้พ่อแม่ได้เห็นหน้า

 

 

ปรากฏกาย

 

 

จุลวีร์ได้รับโทร.ทางไกลจากเพื่อน..ถึงกับแปลกใจชะงักที่จู่ๆเบอร์โทร.ขึ้นหมายเลขศูนย์สองซึ่งเป็นเบอร์โทรศัพท์สาธารณะดังขึ้น

ฉันเอง  เว่ย ไอ้มอส  ตอนนี้อยู่ที่พังงาอยู่ เป็นไงมั่งนายแจ๊บ

เรื่อยๆว่ะ สายทางกรุงเทพตอบเพื่อน กำลังคิดถึงจุลวีร์เช่นกัน ที่จู่ๆปรากฏเสียงออกมาเหมือนขอมดำดินโดยไม่ทันคาดคิดมาก่อน  

 มอสหรือธีธัชซึ่งอยู่ในไซด์งานโครงการก่อสร้างห้าสงสรรพสินค้าขนาดยักษ์ที่จังหวัดพังงา  ซึ่งโทร.ถามข่าวคราวเกี่ยวกับกรุงเทพ..ซึ่งเขาไม่กล้าโทร.ไปถามทางบ้านโดยตรง เพราะรู้สึกว่าทำเรื่องที่ไม่ดีเอาไว้ ..แต่เรื่องอะไรน่ะหรือ  ขอเก็บเป็นความลับดีกว่า..   วันนี้ดีใจที่ได้โทร.เข้าไปหาเพื่อนสนิทซึ่งมีฐานะทางสังคมสูงตำแหน่งฐานะทายาทนักธุรกิจเจ้าของผลิตภัณฑ์ส่งออกเครื่องหนัง  เรียกได้ว่าถ้าแจ๊บหรือธีธัชไม่คิดจะทำงานก็สุขสบายไปตลอดชีวิต

แต่ภาพความผิดชอบด้วยการเป็นบุตรชายคนเดียว แถมท้ายด้วยน้องสาวคนสุดท้องอีกคนที่ชื่อ ปวริสาข์ หรือน้องแป้ง  ซึ่งเป็นสุดที่รักของพ่อแม่ เป็นที่สุดหวงของพี่ชายคนเดียว..ซึ่งไม่มีใครกล้าเผยตัวมาจีบ 

แจ๊บเป็นหนุ่มหล่อสมาร์ทใบหน้าคมคายจมูกโด่ง  ผิวขาวจัดเป็นที่ต้องตาต้องใจเพศตรงกันข้าม..แต่เขาก็บื่อหน่ายต่อสิ่งเหล่านี้นัก  เบื่อการรุมห้อมล้อม เบื่อการป้อยอเอาใจ  ที่สัมผัสลึกๆแล้วมันมีความไม่จริงใจผสมผเสแค่อยากหลอกลูกชายเศรษฐีอย่างเขาไปวันๆหนึ่งมากกว่า  ถึงได้ออดอ้อนฉอเลาะ ..ให้ชายหนุ่มหน้าตาดีอย่างเขาเปย์ออกมา

แต่คนอย่างจุลวีร์หรือจะหลงกลคนได้ง่าย เขาอ่านออกด้วยสายตา  วันนี้เพื่อนสนิทเก่าที่อยู่ทางไกลถึงพังงาส่งข่าวมาบอก..จำเป็นที่จุลวีร์ต้องเปิดหูเปิดใจรับทราบ..  ไม่ทราบว่าเพื่อนได้รับความลำบากหรือเปล่าจึงโทร.มา  แต่เขาก็พร้อมที่จะช่วยเหลือ ถ้าสามารถช่วยเหลือได้ ไม่เหลือบ่ากว่าแรงนัก

ฝั่งเจ้าเพื่อนของเขามันก็มีทีท่าว่าอึกอัดแต่ยังอึกอัก คล้ายไม่กล้าเอ่ย  มันเป็นอะไรของมันวะ  มัวแต่อึกอัก มีปัญหาอะไรก็ว่ามา..  หรือว่าไปฉุดลูกสาวเขาเป็นเมีย..  จุลวีร์เผลอคิดสะระตะไปไกลโน่น  แต่ยังหรอกต้องให้เจ้าตัวเอ่ยขึ้นก่อน  เขาเผลอไปคาดเดาไม่ได้หรอก

 

 

อ้าว  นายมีอะไรก็ว่ามา

เมื่อทางนั้นนิ่งนานเกินไป ทางฝ่ายจุลวีร์เลยเอ่ยขึ้นแทน  คิดว่าเพื่อนคงไม่อยากเป็นฝ่ายพูดขึ้นก่อน   จากนั้นจึงเห็นทางฝ่ายนี้เปิดปากพูด  

ฉันมีเรื่องอยากรบกวนนายหน่อยแจ๊บ  พูดได้แค่นี้ก็เหมือนมีเรื่องที่ธีธัชต้องอุบปากเงียบไว้..เหมือนกับเรื่องที่เขาจะเอ่ยนี่ มันเป็นเหมือนเรื่องคอขาดบาดตายนัก

                พูดออกมาได้ไม่ต้องเกรงใจ

ธีธัชหนุ่มวิศวกรค่อยๆโล่งอกเบาใจอยู่หน่อย  ..แล้วก็ใจชื้นขึ้นมาด้วยที่เพื่อนเปิดโอกาสให้พูดและกำลังรับฟังความคิดเห็น  สหายสองหนุ่มกำลังตอบโต้กันไปมาหลังจากที่ไม่ได้พบกันเนิ่นนาน ฝ่ายเพื่อนผู้อยู่ไกลกว่าอยากจะฝากฝังให้..

 เพราะตนเองมีปัญหากับทางบ้าน.. ไม่กล้าเผชิญหน้าเขาไป.  เท่าที่คาดเดา..จุลวีร์เพื่อนคนนี้คิดว่า เพื่อนรักต้องมีเรื่องที่ร้ายแรงทำอะไรผิดแล้วไม่กลับไปสู้หน้าของพ่อแม่ได้  ทางธีธัชก็บอกให้เขารับปากก่อน

  เอ้า  รับปากนายก็ได้   จุลวีร์ตอบเพื่อน  เพื่อให้อีกฝ่ายสบายใจ   จุลวีร์คงทำได้แค่นั้นตราบใดที่เพื่อนรักของเขาไม่ยอมเอ่ยมากกว่าความจริงที่เขาซ่อนปิดอยู่     แล้วนายจะขึ้นมากรุงเทพเมื่อไหร่   

อีกฝ่ายครุ่นคิดก่อนเอ่ยตอบ    

 คงจะเป็นต้นเดือนหน้าที่โพรเจ็คหมดแล้ว..    เห็นเพื่อนตอบเช่นนี้จุลวีร์ก็สบายใจ รวมทั้งให้กำลังใจ

                ก็ดีนายจะได้ขึ้นมาหาครอบครัวเสียที..พ่อแม่ แล้วก็น้องสาวของนาย คงคิดถึงนายอย่างมาก

                ขอบใจนะไอ้จุล ที่นายก้ห่วงเราเหมือนกัน

ธีธัชซาบซึ้งในความรู้สึกของเพื่อนที่มีต่อเขา แต่จุลวีร์ปราม    เฮ่ย อย่าคิดมากเราเพื่อนกัน..  นายลำบากฉันช่วยได้ก็ช่วย

                งั้นฝากนายสักอย่างหนึ่ง

                เรื่องอะไรว่ามา

ธีธัชเงียบไปครู่ก่อนที่เขาจะเอ่ยอย่างที่ใจปรารถนาไม่แน่ว่าเพื่อนจะทำได้หรือเปล่า..  แต่ว่าเรื่องแค่นี้คงไม่เป็นปัญหาหรอกน่า..  เขาอยากให้จุลวีร์ติดต่อน้องสาวของเขาเพื่อถามปัญหาบางอย่าง..  และขอเบอร์มือถือของน้องสาวของเขามาด้วยจะได้สะดวก..เพราะว่าเขานั้นคราวก่อนทำเบอร์ของณัฐสรน้องสาวหาย

                บอกแล้วไม่ต้องเกรงใจ พูดออกมาได้เลยมอส..  เสียงของธีธัชเอ่ยขึ้นอีกครั้ง

                   ได้.. สิ่งที่ฉันฝากอยากจะเอ่ยคือ..ช่วยติดต่อหาน้องสาวของฉันให้หน่อยสิ..  ..รบกวนไปที่บ้านของฉัน ขอเป็นวันหยุดเสาร์อาทิตย์น่าจะสะดวกกว่า

นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

loading
กำลังโหลด...

อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

loading
กำลังโหลด...

คำนิยม Top

ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

คำนิยมล่าสุด

ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

ความคิดเห็น