ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เทศกาลของ2เรา

    ลำดับตอนที่ #1 : เทศกาลของ2เรา ตอน1

    • อัปเดตล่าสุด 11 มี.ค. 50



    จริงๆ แล้วมันเป็นความกังวลที่ไม่ควรจะกังวลเลย
    หากไม่ใช่เพราะเพื่อนร่วมชั้นเธอมีทโมนอยู่กลุ่มหนึ่ง...

    “เฮ้ย! ส่งมาทางนี้สิวะ!”

    และก็ยังไม่ทันขาดคำดี เสียงโหวกเหวกของทโมนที่ว่าก็ได้ดังขึ้น ทำลายบรรยากาศอันสงบเงียบของห้องเรียนไปเสียสนิทใจ ดึงให้เธอถึงกับกลอกตามองเพดานห้องพลางถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่ายใจ ก่อนจะนับหนึ่งถึงสิบสะกดกลั้นอารมณ์กรุ่นๆ ที่ทำท่าว่าจะพุ่งเร่าๆ ก็เพราะไอ้ทโมนพวกนี้นี่ล่ะที่ทำให้เธอต้องกลายเป็นผู้สังเกตการณ์การมาของอาจารย์ แล้วคอยเตือนหรือว่า แล้วก็ไม่ว่าจะด้วยวิธีการใด เธอจะต้องทำให้ความสงบที่ควรจะเป็นของห้องเรียนปรากฏต่อหน้าอาจารย์ที่เข้ามาได้ทันท่วงที

    จะเรียกว่าผักชีโรยหน้าหรืออะไรก็ตามทีเถอะ แต่จะให้ไอ้ทโมนที่ว่าไม่ก่อเรื่องทั้งวันเห็นจะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เว้นเสียแต่ว่าจะขอกับซานตาครอสเท่านั้น แล้วเธอก็ไม่มีความคิดอยากจะขออะไรกับคุณลุงซานต้าเสียด้วย แม้ว่าวันนี้จะเป็นวันคริสต์มาสก็ตาม

    เธอเหลือบมองออกไปนอกห้องอีกครั้ง อาศัยว่าที่นั่งของเธอนั้นติดริมประตูและอยู่ชิดประตูหน้าของห้องพอดี เธอจึงสามารถสังเกตความเคลื่อนไหวนอกห้องได้อย่างชัดเจน บนระเบียงทางเดินนอกห้องไม่มีแม้แต่เงาอาจารย์ท่านใดเดินไปมา และนั่นก็เรียกเสียงถอนหายใจออกมาอย่างโล่งใจให้ดังขึ้น ไม่ใช่แค่อาจารย์ประจำวิชาเท่านั้นที่เธอต้องสอดส่องความเคลื่อนไหว อาจารย์ท่านอื่นที่สอนห้องอื่นก็เหมือนกัน ถ้ามันโครมครามมากๆ อาจารย์ห้องข้างๆ ก็มีสิทธิ์โผล่เข้ามาว่าได้เหมือนกัน

    “คืนรองเท้าฉันมา!” เสียงของเพื่อนร่วมชั้นอีกคนดังขึ้นก่อนที่เสียงโครมครามของโต๊ะไม้จะดังตามมา ถึงไม่หันไปมอง เธอก็พอรู้แล้วต้นตอของความโกลาหลนี้คืออะไร

    ศึกชิงรองเท้า

    ชิงกันได้ทุกเดือน ชิงกันได้ทุกสัปดาห์ แล้วไอ้คนถูกชิงก็เป็นรายเดิมทุกสัปดาห์ ไม่มีเปลี่ยน

    เธอไม่เคยเข้าใจว่าการชิงรองเท้ามันสนุกหรือมันตรงไหน แล้วเธอก็ไม่เคยเข้าใจเจ้าของรองเท้าเหมือนกันว่าจะถอดให้เขาคอยมาชิงไปทำไม ทั้งทีโดนได้ทุกสัปดาห์ตั้งแต่อยู่ห้องเดียวกันมา แต่เขาก็ยังอุตส่าห์ถอดรองเท้าในห้องเรียน ทั้งที่โรงเรียนก็ไม่ได้ขอร้องให้ถอดรองเท้าบนตึกเรียนซักนิด

    จะเรียกว่าความจำไม่ดีหรือไม่รู้จักเข็ดดีนะ

    ถ้าเรื่องทั้งหมดมันเป็นแค่การชิงรองเท้า เธอก็คงจะไม่ใส่ใจอะไรมากนอกจากคอยเตือนไอ้พวกทโมนที่ว่าให้ทันท่วงที แต่ทว่า เรื่องทั้งหมดมันไม่ได้จบแค่นั้น หลังจาก ที่เสียงโครมครามของโต๊ะไม้เงียบไปไม่ถึงอึดใจ เสียงหวีดร้องของเพื่อนร่วมชั้นที่เป็นผู้หญิงก็ดังขึ้นก่อนจะตามมาด้วยเสียงโห่ฮาป่าราบอย่างอย่างมีความสุขหรือสะใจของทโมนเหล่านั้น

    และนั่นก็ทำให้เส้นประสาทส่วนขันติของเธอขาดผึง
     มือเรียวขาวเอื้อมไปขยี้ผมที่ท้ายทอยอย่างหงุดหงิดใจก่อนที่ร่างบางจะลุกพรวด หันขวับไปมองต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด เสียงใสตวาดขึ้นอย่างคน
    ที่ระงับอารมณ์ตัวเองไม่อยู่แล้ว

    “พวกนายทำบ้าอะไรกันหา!? นายตรีเทพ!!”

    ต้นเหตุของเสียงโครมครามทั้งหมดหันมามองหน้าเธอ
    ด้วยหน้าตาตื่นพร้อมกันอย่างไม่ได้นัดหมาย คนที่ถูกเล่นงานเป็นคนแรกกะพริบตาปริบๆ ก่อนจะตอบกลับด้วยท่าทางที่ไม่สำนึกผิดเลยแม้แต่น้อย

    “อ้าว! หัวหน้าดูก็น่าจะรู้นะ พวกเราเล่นศึกชิงรองเท้ากันไง” ว่าแล้วเจ้าตัวก็ยังหัวเราะต่อไปอย่างมีความสุข แถมลูกคู่ที่อยู่ข้างๆ ยังหัวเราะรับกันอีกต่างหาก และนั่นก็ถึงกับทำให้เธอหรี่ตาจ้องมองเหล่าลูกคู่พวกนั้น

    ข้างๆ ร่างท้วมขาวหัวเกรียนตาตี่ตามเชื้อสายครึ่งจีนของตรีเทพคือร่างเล็กไว้ผมรองทรงของทวิภาคย์ที่ยิ้มเล็กยิ้มน้อยเหมือนถูกใจอะไรบางอย่าง
    ถัดไปเป็นร่างสูงใหญ่ค่อนข้างขาวพร้อมกับผมที่มักจะเสยไปข้างหลังเสมอของเมฆา รอยยิ้มแห้งๆ ผุดขึ้นมาบนสีหน้าเจื่อนๆ ของเจ้าตัว ข้างๆ
    เมฆาคือนายเอกพล คนตัวค่อนข้างคล้ำหุ่นนักกีฬาหัวเกรียนที่นั่งบนโต๊ะเรียนตัวหน้าห้อง ถัดไปจากทโมนทั้งสี่คือนายทัศไนยนายแว่น
    คนตัวขาวตัวเล็กยืนหน้าตาเดือดร้อน เท้าซ้ายมีเพียงถุงเปล่าๆ
    อยู่ข้างเดียวขณะที่เท้าขวามีรองเท้าผ้าใบสีดำตามปกติ
    ส่วนรองเท้าข้างที่หายไปที่เป็นปัญหากลับไปอยู่
    ในมือของจ๋าที่บัดนี้ยืนเดือดดาลอยู่ข้างๆ
    ทัศไนย ฝุ่นสกปรกเปรอะตามเสื้อนักเรียนสีขาว
    และจุดที่แปลกคือมีรอยฝุ่นเปรอะไปถึงผมประบ่าของจ๋าด้วย

    ติดตามตอนต่อไป...............

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×