สัญญาอธิษฐาน

ลำดับตอนที่ #2 : บทที่หนึ่ง

 โอโหถ้าโตไปหนูอินได้ดอกกุหลาบอย่างนี้บ้างก็ดีนะอินทิราพูดอย่างเฝ้อฝันปวินทัศได้เเต่มองเเล้วยิ้มว่าแต่หนูอินอยากรู้เกี่ยวกับดอกกุหลาบอีกไหมครับเดี๋ยวพี่เล่าให้ฟังอีก ไม่เอาแล้วคะพี่ทัศเบื่อหนูอินอยากจะรู้เกี่ยวกับอย่างอื่นบ้างเอาต้นลีลาวดีดีกว่าพี่ทัศว่าปลูกอยู่ตรงไหนคะหนูอินอยากไปดูแล้วนะคะปวินทัศจึงเดินนำพาอินทิราไปดูต้นลีลาวดี ดอกสวยจังเลยคะอินทิราพูดขณะมองอย่างชื่นชมพลางหยิบดอกที่ร่วงอยู่บนพื้นมาดม หอมด้วยหนูอินชอบอินทิราพูดออกมาพี่ทัศช่วยเล่าเกี่ยวกับต้นลีลาวดีให้ฟังหน่อยซิคะหนูอินอยากรู้ปวินทัศจึงพูดขึ้นว่าต้นลีลาวดีชื่อเดิมคือต้นลั่นทม เป็นไม้ดอกยืนต้นในสกุล Plumeria มีหลายชนิดด้วยกัน บางคนมีความเชื่อว่า ไม่ควรปลูกต้นลั่นทมในบ้าน เนื่องจากมีชื่อเป็นอัปมงคล คือไปพ้องกับคำว่า 'ระทม' ซึ่งแปลว่า เศร้าโศก ทุกข์ใจ แต่ปัจจุบันนิยมเรียกชื่อใหม่ ว่า ลีลาวดี และนิยมปลูกกันแพร่หลายอย่างมาก ชื่อพื้นเมืองอื่นๆ ได้แก่ จำปา, จำปาลาว และจำปาขอม เป็นต้น (สำหรับชื่อภาษาอังกกฤษ ได้แก่ Frangipani, Plumeria, Templetree) และที่สำคัญนะหนูอิน ลั่นทม เป็นไม้ที่นำมาจากเขมร ทางภาคใต้ เรียกชื่อว่า "ต้นขอม" "ดอกอม" ส่วนใหญ่ที่ปลูกกันเป็น "ลั่นทมขาว" เล่ากันว่า ไม้นี้นำเข้ามาปลูกในไทย เมื่อคราวไปตีนครธม ได้ชัยชนะ นำต้นไม้นี้เข้ามาปลูก และเรียกชื่อเป็นที่ระลึกว่า "ลั่นธม" "ลั่น" แปลว่ ตี เช่น ลั่นฆ้อง ลั่นกลอง "ธม" หมายถึง "นครธม" ภายหลัง "ลั่นธม" เพี้ยนเป็น "ลั่นทม"คนโบราณมีความเชื่อว่า ต้นลั่นทมนั้น ไม่ควรปลูกในบ้าน ด้วยมีชื่ออัปมงคล คือไปพ้องกับคำว่า ระทม ซึ่งแปลว่า เศร้าโศก ทุกข์ใจ, จึงได้มีการเรียกชื่อเสียใหม่ให้เป็นมงคล ว่า ลีลาวดี ทั้งนี้ไม่ได้มีการกำหนดเปลี่ยนชื่อแต่อย่างใดลีลาวดี ถ้าแปลตามความหมายตามอักษรแล้ว ก็คือต้นดอกไม้ที่มีท่วงท่าสวยงามอ่อนช้อย ไม้นี้เดิมเรียก ลั่นทม เป็นไม้ยืนต้นในเขตร้อน ที่เห็นทั่วๆไปมีดอกสีขาว แดง ชมพู ชื่อเดิมของพันธุ์ไม้นี้คนส่วนใหญ่เข้าใจว่าคำนี้ มาจากคำว่า ระทม ซึ่งหมายถึงความเศร้าโศก จึงไม่เป็นที่นิยมปลูกในบริเวณบ้านหรือที่อยู่อาศัย อย่างไรก็ตามมีผู้มีความรู้ด้านภาษาไทยกล่าวถึงคำว่า ลั่นทม ว่า ลั่นทมที่เรียกกันแต่โบราณ หมายถึง การละแล้วซึ่งความโศกเศร้าแล้วมีความสุขและที่สำคัญนะหนูอินลีลาวดีไม่ใช่ชื่อพระราชทานแต่มีคนอื่นตั้งชื่อกันเองปวินทัศอธิบายด้วยรอยยิ้มซึ่่งอินทิราก็ฟังอย่างตั้งใจพี่ทัศนี่น่าจะเรียนเกษตรหรือไม่ก็ทำอาหารนะหนูอินว่าพี่ทัศต้องไปกว่าเรียนวิศวกรโยธาอะไรนี่อีกนะคะปวินทัศมีสีหน้าสลดลงวูบหนึ่งเเต่ก็ปั้นสีหน้าเป็นยิ้มแย้มอย่างรวดเร็วโดยที่อินทิราไม่ทันสังเกตเห็นเพราะมัวเเต่ดมดอกลีลาวดีต่อเนื่องจากชอบกลิ่นหอมของดอกลีลาวดี พี่ทัศมีดอกไม้อื่นอีกไหมคะหนูอินอยากฟังพี่ทัศเล่าต่อนะคะปวินทัศมีซิเอาดอกราชพฤกษ์เเล้วกันะปวินทัศลากเเขนอินทิรามาดูดอกราชพฤกษ์ทันทีเป็นดอกสีเหลืองดูแปลกตาดีอินทิราพูดเเละมองดูอย่างสนใจพี่ทัศช่วยเล่าให้ฟังหน่อยซิปวินทัศ
เริ่มเล่าเกี่ยวกับดอกราชพฤกษ์ทันที ดอกราชพฤกาษ์หรือคูนป็นไม้ดอกในตระกูล Fabaceae เป็นพืชพื้นเมือของเอเชียใต้ ตั้งแต่ทางตอนใต้ของปากีสถาน ไปจนถึงอินเดีย พม่า และศรีลังกา ดอกราชพฤกษ์เป็นดอกไม้ประจำชาติไทย นิยปลูกเป็นไม้ประดับในพื้นที่เขตร้อนและกึ่งเขตร้อน เจริญเติบโตได้ดีที่สุดในที่โล่งแจ้ง สามารถปลูกได้ทั้งดินร่วนซุย ดินร่วนปนทราย ดินร่วนเหนียว ทนต่อความแห้งแล้งและดินเค็มได้ดี แต่ไม่ทนในอากาศหนาวจัด ซึ่งอาจติดเชื้อราหรือโรคใบจุดได้
พี่รู้เเค่นี้ละหนูอินปวินทัศพูดออกมาเเล้ววิธีการปลูกทำอย่างไรคะอินทิราถามต่ออย่างสนใจวิธีการปลูกนะหนูอินปวินทัศอธิบายในช่วงแรกๆต้นราชพฤกษ์จะเจริญเติบโตได้ช้าในระยะเวลาประมาณ 1-3 ปีแรก หลังจากนั้นต้นราชพฤกษ์จะเจริญเติบโตเร็วขึ้น เปลือกจะเป็นสีน้ำตาลเรียบ มีรากแก้วยาวสีเหลือง และ มีรากแขนงเป็นจำนวนมาก เมื่อต้นราพฤกษ์มีอายุ 4-5 ปี จึงออกดอกและเมล็ดและการดูแลรักษาปวินทัศร่ายยาวทันทีเมื่อเห็นอินทิราสนใจฟังแสง ต้นราชพฤกษ์ต้องการแสงแดดจัด หรือกลางแจ้ง น้ำ ต้นราชพฤกษ์ต้องการปริมาณน้ำน้อย ควรให้น้ำ 7-10 วัน/ครั้ง อายุประมาณ 4 ปี สามารถทนต่อสภาพธรรมชาติได้ดิน ต้นราชพฤกษ์เจริยเติบโตได้ดีดินร่วนซุย ดินร่วนปนทราย ดินร่วนเหนียว ปุ๋ย ต้นราชพฤกษ์นิยมใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักในการบำรุงรักษา อัตรา 2-3 กิโลกรัม/ต้น ควรใส่ปีละ 3-4 ครั้งโรค ต้นราชพฤกษ์ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องโรค เพราะเป็นไม้ที่ทนทานต่อสภาพธรรมชาติพอสมควรรั้งการขยายพันธุ์ ต้นราชพฤกษ์นิยมขยายพันธุ์ด้วยการตอนกิ่ง การเพาะเมล็ด วิธีที่นิยมและได้ผลดี คือ การเพาะเมล็ดศัตรู ต้นราชพฤกษ์มีศัตรูหนอนเจาะลำต้น (Stem boring caterpillars) จะมีอาการ ลำต้นหรือยอดเป็นรู เป็นรอยเจาะทำให้กิ่งหักงอการป้องกัน ต้นราชพฤกษ์ควรปลูกโดยรักษาความสะอาดบริเวณแปลงปลูก หรือกำจัดแมลงพาหะ ใช้ยาเช่นเดียวกับการกำจัดกากำจัด ต้นราชพฤกษ์นิยมใช้ยาไดเมทโธเอท หรือ เมโธมิล อัตราและคำแนะนำระบุไว้ตามฉลาก พอเเล้วหนูอินปวดหัวอินทิราพูดออกมาทันทีปวินทัศจึงหยุดอธิบายแล้วพูดว่าหนูอินคงจะหิวพี่ทำขนมเค้กซ็อโกเเลตของโปรดไว้ให้ด้วยนะครับพูดจบปวินทัศก็เดินเข้าบ้านไปพร้อมจะหยิบเค้กมาให้อินทิรารับประทานทันที อร่อยจังเลยอินทิรากินอย่างเอร็ดอร่อยพี่ทัศนี่เก่งจังเลยถ้าหนูอินโตนะคะหนูอินจะหัดทำเค้กกับพี่ทัศนะคะอินทิราพูดออกมา ได้ซิถ้าหนูอินสนใจแล้วไม่ลืมคำพูดของตัวเองสักก่อนนะครับปวินทัศพูดออกมาขณะมองอินทิราอย่างเอ็นดูโดยมีสายตาไม่หวังดีอย่างกานจิมามองอย่างไม่หวังดี หึฉันจะทำลายความรักระหว่างอินทิรากับปวินทัศให้ได้เลยกานจิมาพึงพำออกมากลัวจะไม่สำเร็จละซิท่ามณีรัตนาพูดออกมาแล้วปรากฏกายยืนอยู่ข้างหลังกานจิมา กานจิมาหันขวับมาจ้องมองอย่างไม่พอใจแล้วสะบัดหน้าหนีไปอีกทางทันทีมณีรัตนาได้เเต่ถอนหายใจความรู้สึกของหญิงสาวได้เเต่เป็นห่วงปวินทัศกับอินทิราเหลือเกินไม่รู้ว่าจะเจออะไรอีกบ้างมณีรัตนาไม่อยากนึกถึงเลย
           อีกด้านหนึ่งอรดารีบเดินตามชายหนุ่มมาติดพลางตะโกนเรียก พี่มารุตๆทำไมต้องคอยหลบหน้าดาด้วยมารุตหันไปมองอรดานิดหนึ่งแล้วพูดว่าปล่าวพี่ไม่ได้หลบหน้าคุณดาเพียงเเต่พี่มีธุระขอตัวนะครับมารุตพูดจบรีบเดินเลี่ยงไปทันทีอรดาได้เเต่มองตามไปอย่างไม่เข้าใจในความเปลี่ยนแปลงของมารุต พี่มารุตเป็นอะไรไปอรดาพึงพำออกมาโดยที่ปวินทัศกับอินทิรามองเห็นเหตุการณ์มาโดยตลอดอินทิรารีบเดินตรงมาหาอรดาทันทีพี่ดาอรดาหันไปยิ้มให้อินทิรานิดหนึ่งแล้วถามว่าหนูอินมาทำอะไรอยู่ตรงนี้ ไปสวนดอกไม้ของพี่ทัศมาคะพี่ดาแล้วเดินลัดสวนจนมาเห็นเหตุการณ์เมื่อกี้พอดีว่าไหมพี่ทัศอินทิราหันไปหาปวินทัศทันทีปวินทัศได้เเต่พยักหน้ารับอย่างเเกนเเล้วรีบเดินเลี่ยงไปทันทีโดยไม่ให้อรดาได้ซักไซ้ถามเกี่ยวกับมารุตเพราะรู้ว่าอรดาต้องถาม เข้าบ้านดีกว่าหนูอินอรดาเอ่ยอินทิรารีบเดินตามพี่สาวเข้าบ้านไปพี่ทัศนี่ก็แปลกนะอินทิราพึงพำออกมาทันทีอรดากับอินทิราเดินเข้าบ้านก็เห็นว่ามีชายหนุ่มหน้าตาหล่อ ตาคม รูปร่างสูงโปร่งนั่งอยู่ที่ห้องรับเเขกกำลังพูดคุยกับพ่อเเม่อย่างสนิทสนมอินทิรามองอย่างสนใจใครคะพี่ดาหนูอินไม่เห็นรู้จักเลยแล้วพี่ดารู้จักไหมก็ไม่รู้จักนะเเต่หล่อว่าไหมหนูอินอรดาเเสดงความคิดเห็นอย่างขำอย่างบอกนะว่าพี่ดาชอบเขานะอินทิราพูดออกมาปล่าวหรอกพี่ก็แค่พูดไปตามที่เห็นนะหนูอินเพราะพี่กับพี่มารุตเราเป็นแฟนกันพี่ไม่สนใจหรอกอรดาพูดอย่างมั่นใจแล้วเหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้หนูอินช่วยถามพี่ทัศหน่อยซิว่าพี่มารุตเป็นอะไรหรือปล่าวพี่เป็นห่วงอรดาพูดออกมาหนูอินพี่ว่าเราออกไปข้างนอกดีกว่านะอรดาพูดจบก็จูงมืออินทิราออกจากบ้านไปทันทีแล้วออกไปเดินเล่นซึ่งเป็นจังหวะที่ชายหนุ่มคนนั้นเดินออกมาพอดีทำให้เห็นหน้ากันอย่างจังอรดากับอินทิรายิ้มให้ชายหนุ่มอย่างเป็นมิตรแล้วเอ่ยทักทายสวัสดีคะฉันชื่ออรดาแล้วนี่น้องสาวฉันชื่ออินทิราอรดาพูดแนะนำตัวเองและน้องสาวกับชายหนุ่มคนนั้นแต่ชายหนุ่มก็ไม่ได้พูดหรืออะไรนอกจากเดินเลี่ยงไป หยิ่งว่าไหมพี่ดาอรดาเองก็เห็นด้วยกับน้องสาวพี่ไม่เห็นชอบขี้หน้าเขาเลยอรดาพูดออกมาพลางมองชายหนุ่มที่เดินไปที่รถเเล้วขับออกไปขับรถคันหรูคงจะรวยไม่ใช่น้อยอินทิราพูดออกมาหล่อรวยเเต่นิสัยอย่างนี้เห็นทีจะไม่ไหวอรดาเเสดงความคิดเห็นออกมาและมารู้ภายหลังว่าชายหนุ่มคนนี้มีชื่อว่าพลวัตเป็นนักธุรกิจที่ทั้งหล่อเเละรวยมากๆและที่สำคัญเป็นคู่หมั้นของอรดาอีกด้วยเรื่องนี้ทำให้อรดาโวยวายอย่างนักทันทีหนูมีคนรักแล้วคือพี่มารุต ไอ้กระจอกนั่นหรือพ่อไม่เห็นว่ามันจะดีอะไรใช่ลูกคบมันลงได้อย่างไรพ่อพูดออกมาซึ่งแม่ก็เห็นด้วยกับพ่อหนูดาเชื่อพ่อนะคะลูกแม่เห็นว่าลูกเหมะสมกับพลวัตนะลูกอรดาถึงกับพูดไม่ออกอินทิราได้เเต่มองพี่สาวอย่างเห็นใจและทำท่าจะเดินเลี่ยงจากไปแต่ก็เจอสายตาของคุณแม่ที่มองมาจะไปไหนหนูอิน ไปหาพี่ทัศคะพูดจบอินทิราก็รีบเดินเลี่ยงไปทันที พี่ทัศนั่นใครแม่ไม่เห็นรู้จักเลยหนูดารู้จักไหมลูก พี่ข้างบ้านนะคะอรดาตอบคำถามมารดาเเละเป็นเจ้าของร้านกาแฟด้วยนะคะที่คุณพ่อคุณแม่ชอบไปนั่งทานนะคะอรดาอธิบายออกมาคงจะเป็นเพื่อนของนายมารุตอะไรนั่นใช่ไหมกระจอกเหมือนกันคุณเเม่พูดออกมาอย่างดูถูกซึ่งพ่อก็พยักหน้าเห็นด้วยไม่รู้ว่าทนคบได้อย่างไรอรดามองพ่อเเม่อย่างเหนื่อยหน่ายใจขึ้นมาทันที อินทิราที่เดินพ้นออกจากบ้านได้เเต่โล่งอกเเล้วรีบเดินไปหาปวินทัศที่บ้านพบว่าปวินทัศกำลังยุ่งอยู่กับการชงกาแฟอินทิราจึงเดินเข้ามาหาพี่ทัศกำลังชงกาแฟอยู่หรือคะขอหนูอินกินกาแฟ
ได้ไหมอินทิราพูดออกมาพลางเอื้อมมือจะคว้าเเก้วกาแฟ เเต่ปวินทัศขยับเเก้วกาแฟหนีแล้วพูดว่าเป็นเด็กไม่สมควรกินหรอกนะหนูอินอินทิราถึงกับหน้างอไปทันทีแล้วพี่ทัศไม่ไปเรียนหรือคะปวินทัศยกกาแฟขึ้นดื่มทันทีงั้นพี่ไปก่อนนะเดี๋ยวบ่ายๆพี่จะกลับมาปวินทัศบอกอย่างนึกขึ้นได้แล้วรีบออกจากบ้านและขับรถไปทันทีแต่มิวายทิ้งท้ายไว้ว่าถ้าหนูอินหิวก็เปิดหาอะไรกินในตู้เย็นหรือให้คนรับใช้ทำอาหารให้ก็ได้ คะอินทิรารับคำแล้วจึงนอนเล่นอยู่บนโซฟาแล้วหยิบหนังสือนิทานที่วางอยู่บนโต๊ะมาอ่านเล่น จนกระทั่งบ่ายปวินทัศก็กลับมายังไม่กลับอีกหรือหนูอินปวินทัศทักทันที รอพี่ทัศอินทิราพูดออกมาหนูอินเบื่อบ้านนะคะหนูอินไม่เข้าใจคุณพ่อคุณแม่จริงที่จะจับพี่ดาหมั้นกับคุณพลวัตอะไรนั่นทั้งที่พี่ดาก็มีพี่มารุตอยู่เเล้วพี่ดาคงไม่กล้าขัดใจคุณพ่อคุณเเม่ถึงกับโวยวายแค่ไหนก็ตามปวินทัศรับฟังนิ่งเเล้วพูดว่าเพราะฐานะของมารุตกับอรดาเเตกต่างกันมารุตมีฐานะยากจนแต่อรดามีฐานะร่ำรวยนะซิแต่หนูอินฟังพี่ทัศนะการที่เราจะคบใครก็ตามหนูอินต้องมองคนที่จิตใจอย่างมองคนที่ฐานะนะครับอินทิราได้เเต่รับฟังอย่างไม่เข้าใจสักเท่าไรโตไปหนูอินจะเข้าใจเองครับปวินทัศพูดต่อเมื่อเห็นสีหน้าท่าทางเหลอหราของอินทิราพี่จะไปที่ร้านกาแฟหนูอินจะไปกับพี่ที่ร้านไหมครับ ไปคะอินทิราพูดออกมาปวินทัศเดินออกจากบ้านไปโดยที่อินทิราเดินตามมาติดขึ้นรถหรือเดินไปดีปวินทัศพูดออกมาเดินซิคะพี่ว่าขึ้นรถไปดีกว่าร้านของพี่มันไกลจากบ้านพอสมควรเลยปวินทัศพูดจบก็เดินขึ้นรถไปทันทีอินทิราเผลอนั่งหลับระหว่างทางปวินทัศได้เเต่ส่ายหน้าพอไปถึงร้านกาแฟอินทิราก็เอาเเต่หลับปวินทัศชงกาแฟมาเสริ์ฟลูกค้าที่ร้านกาแฟของปวินทัศมีลูกจ้างประจำร้าน 2-3คนเป็นร้านกาแฟเล็กบรรยากาศดีมีลูกค้าประปรายไม่มากไม่น้อยเกินไปนักชายหนุ่มรู้สึกสนุกกับงานที่ตัวเองทำโดยที่มีรายได้เป็นของตัวเองไม่พึ่งเงินพ่อเเม่พี่ทัศอินทิราเรียกอย่างงัวเงียขณะมองสำรวจไปทั่วร้าน ร้านสวยจังเลยพี่ทัศ หนูอินตื่นเเล้วเลยปวินทัศเอ่ยทักขณะมองอินทิรานิ่้ง คะพี่ทัศแต่เพลียมากเลยรู้สึกฝันอะไรก็ไม่รู้เเต่เหมือนจริงมากเลยจำได้รางเหมือนพี่ทัศจะจูบหนูอินนะคะอินทิราพูดออกมาขณะมองริมฝีปากของชายหนุ่มนิ่งจนปวินทัศต้องกลั้นยิ้มมองอินทิราอย่างเอ็นดูแล้วย่อตัวให้เท่ากับเด็กหญิงแล้วหอมแก้มทันทีอย่างนุ่มนวลอินทิราถึงกับหัวเราะชอบใจแล้วพูดว่าพี่ทัศควรหอมเเก้มหนูอินบ่อยนะคะหนูอินชอบปวินทัศถึงกับยิ้มแล้วอดคิดไม่ได้ว่าถัาอินทิราได้เป็นน้องสาวแท้ของตัวเองก็ดีชินะเเต่คงได้เเต่คิดถ้าวันเวลาผ่านไปอินทิราโตขึ้นจะจดจำพี่ชายคนนี้ได้หรือปล่าวนะ พี่ทัศอินทิราเรียกเมื่อเห็นปวินทัศดูเหมื่อลอยปวินทัศหันไปยิ้มให้อินทิราอย่างเเล้วพูดว่าถ้าหนูอินโตขึ้นจะลืมพี่ทัศคนนี้หรือปล่าว ไม่มีทางอินทิราบอกอย่างมั่นใจโดยไม่รู้ตัวเลยว่าอนาคตเป็นสิ่งที่ไม่เเน่นอนเอาเสียเลยผิดกับปวินทัศที่ดูหวั่นใจเหรอเกินเพราะรู้สึกสังหรณ์ใจบางอย่างแล้วเกิดเห็นภาพบางอย่างเข้าให้เป็นภาพผู้หญิงที่ดูสวยงามมากๆใบหน้ารูปใขเรียวสวยจมูกโด่งดวงตาคมสวยดูจะมีมนต์สะกดบางอย่างอยู่ในตัวปวินทัศจึงเผลอมองตาค้างแล้วไดยินคำพูดที่ออกจากริมฝีปากจิ้มลิ้ม ฉันจะตามพวกแกสองคนอย่างหวังว่าจะมีความสุขเลย เดี๋ยวก่อนอย่างเพิ่งไปปวินทัศพูดออกมาเเต่สาวสวยคนนั้นก็หายวับไปกับตาทันที พี่ทัศๆอินทิราตะโกนเรียกเสียงดังจนคนในร้านหันขวับไปดูกันหมดแล้วแต่ปวินทัศก็ยังไม่ได้สติและค่อยทรุดลงกับพื้นตาปิดสนิทไปทันทีอินทิราถึงกับกอดปวินทัศร้องไห้เด็กในร้านรีบพาปวินทัศไปส่งโรงพยาบาลทันที คุณทัศเป็นอะไรไปครับผมเป็นห่วงยังปวินทัศได้สติฟื้นก็เห็นลูกจ้างหนุ่มนั่งเฝ้าตัวเองอยู่แล้วมองไปรอบก็พบว่าเป็นโรงพยาบาลแล้วหนูอินละอยู่ไหนปวินทัศเอ่ยถามถึงอินทิราทันทีอินทิราจึงเดินเข้ามาเเล้วกอดปวินทัศร้องไห้พี่ทัศรู้ไหมหนูอินใจไม่ดีเลยกลัวว่าพี่ทัศจะเป็นอะไรพูดจบก็ร้องไห้น้ำตาไหลทันทีปวินทัศได้เเต่ลูบผมอย่างปลอบโยนแต่สีหน้าเด็กหญิงก็ยังไม่ดีขึ้นเลย เป็นห่วงกันจังเลยนะกานจิมาพึงพำออกมาขณะปรากฎกายยืนดูอยู่ ฝีมือเธอละซิมณีรัตนาพูดอย่างรู้เท่าทันกานจิมาจึงหันไปมองเเล้วไงเธอจะทำอะไรก็คงทำอะไรหรอกนะมณีรัตนากานจิมาพูดอย่างเยาะเย้ยขณะปรายตามองแล้วพูดต่อไปเธอคงสนใจปวินทัศมนุษย์รูปงามเเต่เขาคงไม่้สนใจเธอเขามองไม่เห็นเํธอด้วยซ้ำมณีรัตนาถึงกับนิ่งอึ้งทันทีเเล้วพูดต่อว่าเธอคิดอะไรสกปรกจังเลยนะหรือว่าเธอคิดอย่างนั้นกานจิมามณีรัตนาตอบโต้ทันทีเป็นผลให้กานจิมาอ้ำอึ้งไปทันทีมณีรัตนาได้เเต่ส่ายหน้าแล้วพูดขึ้นว่าฉันหวังว่าเธอจะไม่ทำร้ายปวินทัศกับอินทิรานะเพราะฉันจะขัดขวางเธอจนถึงที่สุดเลยจำไว้มณีรัตนาพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นเล่นเอากานจิมาถึงกับอึ้งไปเลยแล้วหายวับไปทันทีมณีรัตนาจึง
มองปวินทัศอย่างห่วยใยทิพย์วารีเดินเข้ามาเเตะไหล่มณีรัตนาแล้วพูดว่าฉันรู้ว่าเธอคงคิดอะไรกับปวินทัศนะเเต่มันคงเป็นไปไม่ได้หรอกนะมณีรัตนาเธอเป็นเทพนะมณีรัตนายิ้มแกนให้กับทิพย์วารีสีหน้าเศร้าซึมทันทีฉันคิดว่าจะให้พรหนูอินได้โตเป็นผู้ใหญ่สักทีจะได้รู้ว่าเป็นเด็กมีความสุขมากกว่าเป็นผู้ใหญ่หลายเท่ามณีรัตนามองหน้าทิพย์วารีนิ่งแล้วพูดว่าจะดีหรือฉันเป็นห่วงหนูอินนะอย่าลืมซิว่าฉันกับหนูอินเคยผูกพันมาตั้งเเต่ชาติที่เเล้วฉันกลัวว่าจะต้องเสียหนูอินไปกลัวว่าหนูอินจะทำตามสัญญาไม่ได้ใครที่ได้รับพรของเธอนะทิพย์วารีถ้าทำไม่ได้อาจจบด้วยความตายซึ่งฉันไม่อยากให้เกิดขึ้นกับหนูอินเลยทิพย์วารีแต่อะไรจะเกินก็ต้องเกิดยังไงอินทิราก็จะไม่เป็นไรเธออย่าเป็นกังวลเลยทิพย์วารีปลอบโยนมณีรัตนาแล้วพูดขึ้นว่าเธอไม่ต้องเป็นห่วงหรอกนะยังไงปวินทัศก็คอยช่วยเหลือดูแลหนูอินอยู่แล้วนะเธอเองก็รู้ดีนี่ว่าปวินทัศกับหนูอินเป็นเนื้อคู่กันมาตั้งนานแล้วหลายภพหลายชาติมณีรัตนามีสีหน้าเศร้าหมองกับความจริงเรื่องนี้เเล้วพูดว่าฉันรู้เเต่ยังไงชาตินี้หนูอินกับปวินทัศก็ไม่ได้รักกันนอกจากรู้สึกต่อกันแบบพี่ชายกับน้องสาวเท่านั้นเท่าที่ฉันดูนะมณีรัตนาพูดออกมาแต่ในใจก็หวังว่าเป็นอย่างที่พูดทิพย์วารีมองมณีรัตนานิ่งเงียบแล้วพูดว่าเธอควรจะเลือกสนใจปวินทัศได้เเล้วชายหนุ่มคนนี้จะไม่มีวันชอบเธอหรอกนะมณีรัตนาถึงกับก้มหน้าเมื่อนึกถึงความจริงว่าต่อให้ปวินทัศไม่ได้รักหนูอินก็ไม่มีวันจะรักเธอได้หรอกนะเธอเเค่มีหน้าที่ดูแลปวินทัศกับหนูอินเท่านั้นอย่างก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวนะขนาดอรดาฉันยังไม่ก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวเลยทั้งที่ฉันเป็นนางฟ้าทูนหัวของอรดา
เขานะ... ว่าเเต่ฉันเองก็เห็นใจความรักระหว่างอรดากับมารุตเธอไม่คิดจะช่วยเขาบ้างหรือมารุตเป็นคนดีนะมณีรัตนาพูดออกมาทุกอย่างถูกกำหนดแล้วว่าต้องเป็นอย่างนี้ทิพย์วารีพูดออกมาแต่มณีรัตนาแย้งว่าเราเป็นเทพก็สามารถบันดาลให้เป็นไปได้ไม่ใช่หรือทิพย์วารีนิ่ง
เงียบแล้วพูดว่าฉันจะลองดูนะแต่ไม่รู้ว่าจะทำได้หรือปล่าวนะมณีรัตนายิ้มให้กำลังใจทิพย์วารค่อยหายวับไปทันทีไปปรากฏกายที่บ้าน
ของอรดาเห็นสาวน้อยกำลังร้องไห้อยู่เเว่นตาเปรอะไปด้วนน้ำตาทิพย์วารีมองอรดาอย่างเป็นห่วงเพราะพอจะนึกถึงเรื่องที่ทำให้อรดาร้องไห้ได้ แกต้องหมั้นกับพลวัตเขาคุณพ่อคุณแม่พูดออกมา แต่อรดารักพี่มารุตไม่ได้รักคุณพลวัตเขาเลยเขาจะยอมหมั้นกับดาหรือคะ
อรดาอดเเย้งขึ้นมาไม่ได้ ไม่มีปัญหาหรอกนะเรื่องนี้ยังไงพลวัตเขาต้องหมั้นกับแกอยู่ดีเขาไม่ได้พูดยากเหมือนเเกนี่ นี่คงคือสาเหตุทิพย์วารีถอนหายใจออกมาแล้วจะช่วยอย่างไรดีนะหรือว่าจะเข้าฝันอรดาแล้วบอกว่าควรทำอย่างไรดี ไม่ดีเเน่เลยทิพย์วารีกลุ้มใจและคิดไม่ตก...ว่าจะทำอย่างไรดี
         ปวินทัศเล่าเรื่องผู้หญิงที่เห็นให้อินทิราฟัง พี่ทัศเห็นจริงหรือคะไม่ได้ตาฝาดนะคะอินทิราพูดออกมา เต็มสองตาพี่เลยหนูอินปวินทัศยืนยันอย่างมั่นใจ ผู้หญิงคนนั้นต้องเป็นผีแน่หนูอินกลัวอินทิราเริ่มหน้าซีดเผือดตัวสั่นเทาอย่างหวาดผวาจนปวินทัศต้องดึงอินทิรามากอดอย่างปลอบประโลมแล้วพูดว่าอาจไม่ใช่ก็ได้แต่สีหน้าของอินทิราก็ไม่ดีขึ้นเลย