คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : นาง 5
หลังจากนางนั่งมาได้สักพัก เหตุการณ์ที่นางไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น มันเป็นเหมือนดั่งรูปภาพเก่าสีสดที่ติดตานาง เวลาเพียงไม่กี่นาที แต่เรื่องราวต่างๆที่ผ่านเข้ามามากมายอย่างเหลือคณา นางยังจำเหตุการณ์นั้นได้ดี แม้ลำดับของเรื่องราวมักจะกระโดดสลับกันไปมา แต่ภาพของรถโดยสารประจำทางที่พุ่งตรงเข้ามา ภาพคนนับสิบที่ลอยเคว้งราวกับถูกมือยักษ์เหวี่ยงไปในอากาศ ภาพคนนอนเกลื่อนกลาดบนพื้นถนน ท่ามกลางเสียงร้องลั่นจากความตกใจ
มันเป็นข่าวที่ดังมากในช่วงนั้น ภาพหัวข้อข่าวผุดเข้ามาอีก " ซิ่งสยองแหกโค้ง ชนสองแถว ตายแปด เจ็บนับสิบ " รูปคนขับรถโดยสารประจำทางที่ถูกจับได้ หน้าตาบูดเบี้ยว เลือดกลบปาก ประโยคข้อความที่ตามต่อมา "...โดนประชาฑัณฑ์จากไทยมุง หลังจากพยายามหลบหนี แต่ไปไม่ไหนไม่รอดเพราะเมายา... "
ภาพเหตุการณ์ต่างๆลอยวนเวียนสับไปสับมา จนนางเริ่มรู้ถึงความเจ็บปวดที่แผ่ซ่านมากขึ้นเรื่อยๆทั่วไปทุกจุดบนศีรษะ นางค่อยๆคลายความทรงจำต่างๆออกจากความคิด และพยายามหายใจอย่างช้าๆ เข้า ออกให้เป็นจังหวะ อย่างที่แพทย์ได้สอนไว้ สักพัก นางจึงค่อยๆลืมตามองท้องฟ้าที่กว้างใหญ่เวิ้งว้างอีกครั้ง ตานางเริ่มมองเห็นดวงจันทร์หมองๆดวงนั้นๆลอยอยู่เหนือหัวได้อีกครั้ง นางถอนหายใจโล่งอกหลังจากกลับจากการดำดิ่งไปกับห้วงความทรงจำที่เลวร้าย
มันเป็นเหตุการณ์ที่เปลี่ยนชีวิตนาง คงรวมถึง... ผู้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นั้นด้วยกระมัง นางคิดสรุป หลังจากอาการปวดศีรษะค่อยทุเลาลง
" ทำไมมันถึงต้องเกิดกับนางด้วย ? " นางตั้งคำถามนี้ในใจอีกครั้ง การที่ต้องเสียขาไปข้างหนึ่ง เพราะว่ากระดูแตกละเอียดจากการถูกตัวรถโดยสารประจำทางทับ ส่วนขาอีกข้างก็ไม่ดีเหมือนเดิมเสียแล้ว มันงองุ้มเข้าหาตัวเธอ ร่างกายส่วนอื่นๆ ถึงแม้จะได้รับการยืนยันว่าปกติ แต่นางกลับไม่รู้สึกเช่นนั้น เมื่อแขนทั้งสองข้างไม่ดีเหมือนดั่งเดิม ทั้งไร้เรี่ยวแรง และชาเกือบตลอดทั้งวัน แล้วยังต้องใช้ความพยายามเป็นอย่างมากในการหยิบจับสิ่งของในแต่ละครั้ง
"นี้หรือ...คือโชคดีที่รอดมา?"
น้ำตานางไหลทุกครั้ง เมื่อรู้สึกว่าตัวเองกลับกลายเป็นคนพิการที่ไร้ประโยชน์ ไม่มีใครต้องการ และเมื่อมาเจอแววตาสีหน้าลูกน้อยๆทั้งสามที่แสดงความไม่เข้าใจในการเปลี่ยนแปลงของนางแล้วมันยิ่งทำให้นางอ่อนแอเสียเหลือเกิน ความหดหู่ กังวล และสิ้นหวัง ได้เข้ามากัดกินชีวิตนาง
นางเริ่มทำใจให้ดีขึ้นได้ในราวสองสามปีหลังนี้เอง หลังจากได้อ่านหนังสือธรรมะที่เพื่อนบ้านคนเดิมนำมาให้ยืมด้วยกลัวนางจะฟุ้งซ่าน เมื่อนางได้อ่านมันเข้า ประกายความคิดและความหวังของนางก็ถูกจุดขึ้นอีกครั้ง จากนั้น นางก็หันมาอ่านหนังสือธรรมะอย่างจริงจัง
นางเคยนึกย้อนกลับไปในตอนแรกที่ต้องกลับมาสู่บ้าน ในฐานะคนง่อยเปลี้ยเสียขา การที่ต้องกลายเป็นคนพิการ และตกเป็นเป้าสายตาของคนอื่นๆที่ต่างพากันรุมมองนางด้วยสายตาแปลกๆนับว่าเป็นสิ่งที่ทำร้ายจิตใจนางมาก ไม่ใช่คนพวกนี้หรอกที่ก่อทุกข์ ไม่ใช่เพราะสายตาแปลกๆของคนอื่นๆหรอกที่ทำให้นางทุกข์ใจหนักขึ้น แต่เพราะจิตใจนางเองต่างหากที่ไม่ยอมรับกับสภาพร่างกายที่เปลี่ยนไป มันเป็นการยากที่จะใช้ชีวิตอยู่ได้อย่างเป็นสุข
นาฬิกาโบราณส่งเสียงแกร็ก แกร็ก บอกเวลา นางสะดุ้งขึ้นมาจากภวังค์ความคิด นางหันกลับมามองสิ่งรอบข้าง นางยังต้องอยู่ต่อไปอีกนาน แต่นางกลับไม่รู้สึกเจ็บปวดอีกแล้ว เมื่อนางได้ธรรมะเป็นสะพานที่เชื่อมนางกับโลกใบนี้อีกครั้ง
เงินสงเคราะห์ที่ได้ เมื่อรวมกับเงินชดเชยค่าเสียหายในครั้งนั้น แม้ไม่มากนัก เมื่อต้องแลกมากับความพิกลพิการของนาง แต่นางก็ตั้งใจเก็บเป็นทุนการศึกษาให้ลูกๆน้อยทั้งสาม ลำพังเงินรายได้จากสามีคนเดียวก็แทบไม่พอค่าใช้จ่ายอยู่แล้ว นางขอเพียงแต่ให้พวกลูกๆได้รับโอกาสเล่าเรียนมากกว่านางและสามี
นางมักร้อยพวงมาลัยไว้เพื่อเป็นการหารายได้ช่วยเหลือสามีอีกทาง และพยายามนำไปขายด้วยตนเองเท่าที่จะมีโอกาส ด้วยนางหวังว่าพวงมาลัยที่ทำขึ้นจะได้ไปแขวนอยู่บนรถให้บรรดาคนขับรถทั้งหลายได้ฉุกคิด ได้ตรอง เพียงขอให้พวกเขาได้สงสัยถึงความพิกลพิการของนางเถอะ แล้วถามต่อถึงสาเหตุของมัน พวกเขาจะได้ความจริงไว้คอยเตือนสติ จะได้ไม่ก่อเรื่องร้ายๆขึ้นเพราะตัวพวกเขาเอง
แม้ว่า สามีนางจะบ่นว่านาง เพราะไม่ทราบถึงความตั้งใจที่แอบแฝงของนาง การบ่นว่าของเขาไม่ได้ทำให้นางท้อแท้แต่อย่างใด นางกลับคิดว่า อย่างน้อยมันก็เป็นการหาเงินรายได้ช่วยแบ่งเบาภาระเขาอีกทางหนึ่ง
ตอนนี้ สามีนางคงอยู่ระหว่างเดินทางไปส่งลูกๆทั้งสามที่โรงเรียน นางไม่ร้องไห้มาสอง สามปีแล้ว ไม่ใช่ เพราะนางตายจากโลกด้วยหัวใจที่แห้งแล้ง หรืออยู่เพื่อรอวันตายอีกต่อไปหรอกน่ะ แต่เป็นเพราะนางเลือกจะอยู่เพื่อช่วยเหลือคนอื่นๆต่างหาก เพื่อเตือนสติ และเป็นตัวอย่างที่ยังยืนอยู่ได้
ความคิดเห็น