ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รวมเรื่องสั้นหนังสือร้องไห้

    ลำดับตอนที่ #1 : คำตอบเหนือคำตอบ 1

    • อัปเดตล่าสุด 3 พ.ค. 49


    คำตอบเหนือคำตอบ

    เมฆฝนสีทะมึนลอยตั้งเค้าครึ้มลอยอยู่กลางฟ้าแดงส้มสลับสีราวแต้มด้วยฝีมือมนุษย์  นกน้อยหลากพันธุ์ต่างบินรี่เพื่อกลับรัง มดดำตัวน้อยๆนับร้อยกำลังสาละวนเก็บไข่และเสบียง แล้วแบกไว้ด้วยเรี่ยวแรงเกินขนาดตัว พวกมันพากันเคลื่อนย้ายถ่ายเทสมบัติที่ห่วงแหนอย่างไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อยไปตามเส้นทางเก่าสู่ถิ่นเดิม ใต้ต้นกล้วยตายซากเหมือนดังเช่นครั้งก่อน

    " โชคดีเป็นของเราอีกครั้ง " ชายหนุ่มคิดในใจ  เมื่อเหลือบไปเห็นเพิงเก่าๆใกล้กับทางแยกสามแพร่งนั้น  เมื่อธรรมชาติส่งสัญญาณ  การกลับคืนสู่พื้นโลกของละอองฝนเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง ลมนั้นยังคงพัดแรงขึ้นเรื่อยๆ ทั้งหอบพาฝุ่นแดงลอยฟุ้งไปทั่วทิศ  ช่วงเวลาซึ่งบอกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาล  เมื่อธรรมชาติเตรียมปล่อยน้ำปริมาณมหาศาลลงสู่ดินเบื้องล่าง บรรดาเมฆสีเข้มๆพากันกลั่นตัว จากนั้นก็ทยอยกลายเป็นน้ำใสโปรยปรายให้ความชุ่มฉ่ำจากฟากฟ้าลงมา 


               
    เม็ดฝนเล็กๆจำนวนมากมายร่วงกรูลงมา  เสียงฟ้าคำรามดังสนั่นหวั่นไหว  สายฟ้าแลบเส้นยาวๆมีให้เห็นเป็นระยะๆ   เด็กชาวทุ่งกระโดดโลดเต้นไปมาอย่างมีความสุข  ท่ามกลางฝูงวัวที่กินหญ้าอยู่อย่างใจเย็น  ในที่สุด การรอคอยวัฏจักรอันน่ามหัศจรรย์ก็สิ้นสุดลง

    ดินแดนที่แห้งแล้งนานหลายเดือนเปิดรับความเขียวชะอุ่ม ชุ่มชื่น ชุ่มฉ่ำด้วยความเต็มใจ   เม็ดฝนตกกระหน่ำอย่างหนัก ฤดูกาลเริ่มต้นการทำงานอีกครั้ง

    ฝนนั้นคงตกหนักต่อเนื่องจนดูท่าไม่ยอมหยุดง่ายๆ ผู้คนทั้งหลายหลบฝนหาที่กำบังตัวต่างกันไป หนึ่งในนั้น คือ เพิงขายกาแฟโบราณเก่า ๆของชายชาวจีนแก่ๆขนาดย่อมๆ บริเวณทางสามแพร่งริมปากทางเข้าหมู่บ้าน เวลานี้ แกกำลังสาละวนกับการขายบรรดาเครื่องดื่มร้อนเย็น และดูเหมือนว่าบรรดาโต๊ะ เก้าอี้  ที่นั่ง สำหรับขาประจำจะไม่เพียงพอกับขาจรที่แห่กันเข้ามาสั่งเครื่องดื่มอย่างหนาตาระหว่างรอเวลาฝนหยุดตก ในผู้คนจำนวนมากที่ยัดเยียดกันอยู่โดยมิได้นัดหมายนั้น มีชายหนุ่มต่างถิ่นผู้หนึ่งซึ่งพยายามทำตัวให้กลมกลืนเป็นส่วนหนึ่ง เขาคงนั่งเงียบๆอยู่ท่ามกลางเสียงพูดคุยดังอึกทึกของคนทั่วเพิงนั้น เขานั่งฟังคนอื่นๆพูดคุยอย่างความตั้งใจ เมื่อผู้คนรวมตัวกันได้  ชายหนุ่มก็พบว่าเวลาชุลมุนกลับกลายเป็นเวลาแห่งการสังสรรค์ไปอย่างไม่น่าเชื่อ มันมิได้เป็นเวลาที่สร้างความหงุดหงิดให้ผู้คนแถบนี้อย่างที่เขาคาดเลย ช่างต่างกับชีวิตในเมืองกรุง  ของเขาอย่างสิ้นเชิง  เขาคิดในใจ ทำไมน่ะ ภายใต้ฟ้าผืนแผ่นเดียวกัน การใช้ชีวิตของคนเรานั้นกลับต่างกันลิบลับ  เมื่อไม่มีการแข่งขันแย่งชิงดีชิงเด่นกัน ไม่มีเวลาเป็นตัวกำหนดชีวิต  ไม่มีความนิยมด้านวัตถุมาเป็นตัวหลอกล่อแล้ว ชีวิตคนเราคงพบความสุขได้ไม่ยาก

    วงสนทนาสรวลเสเฮฮาใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ตามผู้คนที่พากันเข้ามาหลบฝน หากแต่สถานการณ์เฉกเช่นนี้  เกิดขึ้นในเมืองกรุงคงมีเสียงกร่นด่าของบางคน บางคนก็บ่นพึมพำโทษฟ้าว่าฝน และคงไม่พบช่วงเวลาดีๆสำหรับตัวเองไปได้ ทั้งที่มันอยู่ใกล้เพียงแค่เราเอื้อม

    เขาคิดทบทวนดู กลับรู้สึกประหลาดใจมากทีเดียว เมื่อธรรมชาติหยิบยื่นช่วงเวลาแห่งความสุขหฤหรรษ์ให้มนุษย์โลก คนบางคนกลับเลือกตอบแทนสิ่งล้ำค่านั้นด้วยการก้าวถอยหลบแล้วกลับมองมันในแง่ร้าย 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×