ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ในความรักมีเพียงเธอตลอดไป

    ลำดับตอนที่ #3 : บทที่ ๒ นักวิทยาศาสตร์

    • อัปเดตล่าสุด 29 พ.ค. 49


    บทที่ ๒ นักวิทยาศาสตร์

                 ศาสตราจารย์ อนุพงศ์ ราชศักดิ์ ก้าวขึ้นบันไดอย่างช้าๆ อายุที่มากขึ้น  ทำให้ร่างกายเขาร่วงโรยลง การเคลื่อนไหวไม่คล่องแคล่ว  ผิวหนังที่ยับย่นนั้นก็บ่งบอกให้รู้ถึงความเสื่อมที่มาเยือนได้เป็นอย่างดี  ในใจเขาก็คิดไปต่างๆนาๆ   เขายังคงนึกทบทวนถึงการกระทำของตนเอง  กับบางสิ่งซึ่งมันไม่เป็นการสมควรเลย แต่ก็ทำลงไป เขาถอนใจหายออกมาอีกคราหนึ่ง คงไม่นานนักหรอก  การกระทำอันน่ารังเกียจจะสร้างประโยชน์ให้แก่มนุษย์โลกที่ยังมีชีวิตอยู่เท่าที่ดวงดาวนี้จะเคยรับรู้มา

                 ชายชาวต่างประเทศรูปร่างสูงใหญ่สองคนในสูทชุดสีเข้มเดินออกมาจากมุมมืดของห้องโถงขนาดใหญ่ แล้วมายืนประจันหน้าตรงด้านหน้าเขา ทั้งคู่ต่างมีสีหน้าเรียบเฉย  

                 เขาเดินตามชายสองคนไป หรือจะเรียกว่าถูกคุมตัวไปก็ย่อมได้ การได้พบกับเพื่อนเก่าเพื่อนแก่สมัยเรียนปริญญาเอกด้วยกันที่ต่างประเทศอีกครั้ง อาจเป็นเรื่องที่ดีก็จริง แต่ในใจตอนนี้ยังคงนึกปฏิเสธอยู่  หากแต่เมื่อเดินตามจนไปสุดอีกริมด้านหนึ่ง ก็พบห้องสีน้ำเงิน หนึ่งในสองคนนั้น เปิดประตูแล้วผายมือเชิญให้เข้าข้างใน

                  ฟิลิเป้ยืนอยู่บนชั้นลอยสูงเหนือหัวคนทั้งสาม เขายังคาบไปป์ แล้วปล่อยควันอันตรายออกมาไม่เปลี่ยนแปลง เวลาต่างไปยี่สิบปี เขาดูแก่ลงไปมาก จากความทุ่มเทค้นคว้างานด้านวิทยาศาสตร์อย่างหนัก ทำให้เขาดูแก่เกินอายุจริงไปพอสมควร

                  ศาสตราจารย์ อนุพงศ์ ราชศักดิ์ เริ่มนึกทบทวนถึงตัวเอง และคำตอบต่างๆก็วนเวียนไปมา จนเขาเริ่มนึกสงสัยตัวเองอีกครั้ง คำพูดเดิมๆของฟิลิปเป้ก็ลอยกลับมาในหัวเขาอีกครั้ง

                  พอล  คุณคิดถูกแล้วที่ไว้ใจผม ผลงานของคุณจะทำให้โลกได้รับประโยชน์มากที่สุด  แต่

    โดยผ่านทางองค์กรของเราเสียก่อน องค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไรอย่างเราจะทำให้สิ่งที่คุณค้นพบมีประโยชน์ต่อคนนับล้านๆคน คุณจะได้ช่วยคนมากมายเกินกว่าที่คุณนึกคิดได้

                  

                  เขาสูดลมหายใจลึกๆ เงยหน้าขึ้นมองเพื่อนเก่าเพื่อนแก่  บางที่ฟิลิปเป้อาจเป็นคำตอบสุดท้ายที่เขาจะไว้ใจได้

                  ในประเทศไทย การค้นพบของเขากลับไม่เป็นที่ยอมรับกัน    สื่อมวลชนต่างขนานนามเขาว่าเป็น หมอผีแห่งวงการวิทยาศาสตร์ และโครงการเขาก็เกือบจะพับไป  หากแต่เขาตัดสินใจใช้เงินตนเองเพื่อทำการค้นคว้าต่อ  หลังจากเกษียณตัวเองจากงานราชการ เงินทองก็เริ่มร่อยหรอลง  ในที่สุดเขาตัดใจยอมรับเงินจากองค์กรที่เพื่อนเก่าคนนี้เป็นเจ้าของมาทำวิจัยต่อ โดยมีข้อแม้ว่าต้องแลกกับ การเป็นเจ้าของสิทธิงานวิจัยนี้ครึ่งหนึ่ง

      

                     ศาสตราจารย์ อนุพงศ์ ราชศักดิ์ นึกถึงอดีต  ฟิลิปเป้ ในตอนนั้น กับตอนนี้ช่างต่างกันเสียจริง  ตอนนั้น อำนาจของเงินทองและชื่อเสียงที่ไม่ยั่งยืน ไม่ได้ทำให้จิตใจที่ยึดมั่นในอุดมการณ์ของเด็กหนุ่มที่มาจากครอบครัวที่ยากจนแถบเมดิเตอร์เรเนียนหวั่นไหวแต่อย่างใดเลย  แต่เมื่อกาลเวลานั้นล่วงเลยผ่านไปหลายต่อหลายปี   ฟิลิปเป้ ผู้นั้นก็ถูกกลืนหายไปตามวัย  เขากลับกลายเป็นเจ้าขององค์กรวิทยาศาสตร์การแพทย์ที่หนังสือธุรกิจตีพิมพ์ว่าเป็นยักษ์ใหญ่ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก   

                    ศาสตราจารย์ อนุพงศ์ ราชศักดิ์  หรี่มองไฟด้านบน ตาเขาเริ่มฝาฟางเมื่อมองขึ้นไปกระทบกับแสงไฟ  จริงอยู่ เขาอาจมีชีวิตเหลืออีกไม่มากแล้ว แต่ผลงานของเขานั้นจะทำให้โลกจดจำชื่อของ  ศาสตราจารย์ อนุพงศ์ ราชศักดิ์   คนไทยคนแรกที่คิดค้นผลงานล้ำค่าที่ทำให้มวลมนุษย์ทั้งหลายลดอาการเจ็บไข้และหยุดความตายได้สำเร็จ   

                     ฟิลิปเป้เดินลงมาหาเขาอย่างช้าๆเหมือนกัน โลกของคนยุคเขากำลังจะสิ้นไป  เมื่อแก่ตัวลง เขาก็ต้องยอมรับสัจธรรมอย่างหนึ่งว่า คนเราเกิดมาก็ต้องเจ็บ และตาย  หากจะไม่คิดโทษพระเจ้าก็ต้องนึกโทษตัวเราเองที่รักษาชีวิตให้ยืนยาวเป็นอมตะไม่ได้ หากเมื่อเราสามารถติดต่อกับมนุษย์ต่างดาวได้แล้ว ยังมีโอกาสไปตั้งถิ่นฐานยังดาวดวงอื่นได้แล้ว  ทำไมเราจึงหยุดยั้งอาการเจ็บป่วยและความตายไม่ได้ มือซ้ายของเขาสั่นเทาอีกครั้ง มันมักเป็นเช่นนี้ ยามคิดถึงการต่อกรกับพระเจ้า หากแต่เขาไม่ใช่เด็กหนุ่มที่แข็งแรง อดทนต่อการทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยได้เหมือนเช่นเคยแล้ว  ทั้งที่ยามนี้ จะไม่มีภรรยามาคอยบ่น คอยเตือน ยามที่เขาโหมงานอย่างหนักเหมือนเช่นเคยแล้ว

                      ฟิลิปเป้คงเป็นเช่นเขา วัฎจักรขาลงคงคล้ายกัน การทำงานอย่างเกินกำลัง จนก่อร่างสร้างองค์กรขนาดมหึมาที่มีคนยอมรับนับถือได้ นับว่าเป็นการลงทุนเกือบจะทั้งชีวิตของเขาเลยทีเดียว ผมที่บางจนเกือบเห็นหนังศีรษะ คงเป็นคำตอบได้ดี อย่างหนึ่ง  เมื่อครั้งหนึ่งการทดลองของเขากับสารเคมีเกิดผิดพลาดขึ้น มันจึงถูกจารึกลงบนตัวและเป็นร่องรอยแห่งความเจ็บปวดอีกบทหนึ่ง  ฟิลิปเป้ เพื่อนยาก ที่น่าสงสาร........ 

                        ทำไมชีวิตของคนที่สู้อย่างคุณจึงต้องตกอยู่ในสภาพเช่นนี้หนอ   ศาสตราจารย์ อนุพงศ์ ราชศักดิ์ คิดอย่างเวทนา

                        คุณแทบไม่เปลี่ยนไปเลยน่ะ พอล  ภาษาอังกฤษของฟิลิปเป้ยังคงยอดเยี่ยม แม้ว่าเขาจะไม่ใช่เจ้าของภาษาที่แท้จริง

                       ศาสตราจารย์ อนุพงศ์ ราชศักดิ์  มองหน้าเจ้าของคำพูดอย่างใจเย็น ก่อนพูดกลับไปอย่างเนิบๆว่า                                             

                       คุณคงคิดว่าผมใกล้ตายล่ะสิ   จริงอยู่ที่มะเร็งร้ายในตัวผมเกือบกลืนกินชีวิตผมไปเสียแล้ว หากแต่ผมไม่ยอมแพ้หรอก การลุกขึ้นสู้กับมันเพื่องานวิจัยที่มีค่าต่อมนุษย์ชาติโลก มันช่างคุ้มค่ายิ่งนัก  และ จะว่าไปแล้ว  หากนำสุขภาพผมมาเทียบกับคุณในตอนนี้  ยังนับว่าเป็นโชคของผมที่ก้อนเนื้อร้ายนั้นไม่ได้คร่าทุกอย่างไปหมด ผิดจากคุณ ฟิลิปเป้ คุณเปลี่ยนไป .........  

                           เจ้าของชื่อโบกมือไปมาราวกับไม่อยากฟัง  มือขวายังคงกำไม้เท้าแน่น ราวกับกลัวหกล้ม หลังจากแกว่งมือไปในอากาศได้สักพัก มือซ้ายสั่นๆนั้นก็ลงมาจับที่พนักบันไดตามเดิม เขาเอ่ยพูดอย่างช้าๆ

                           คุณก็เช่นกัน พอล  จริงอยู่  หลายปีทีเดียว ที่ผมโหมงานอย่างหนัก ผิดพลาดก็หลายครั้ง แต่ละครั้งนั้นก็หนักหนาจนแทบเอาชีวิตตัวเองไม่รอด แต่ใจผมสิ สู้ จนใครทั้งหลายในวงการของเรายอมรับ องค์กรนี้ถึงได้มีโอกาสกำเนิดขึ้นมา  หลังจากนั้น มันก็เป็นเหมือนแขนขาให้ผมสามารถต่อสู้ต่อพวกคนที่ไม่รู้จักวิทยาศาสตร์ได้ดี พวกคนที่จ้องจะเข้ามากอบโกยความคิดและผลงานของพวกเรา  ผมสร้างมันขึ้นมาเพื่อช่วยพวกเราต่อสู้กับนายทุนทางธุรกิจอันเอารัดเอาเปรียบ เจ้าพวกจับเสือมือเปล่า

     

                            ศาสตราจารย์ อนุพงศ์ ราชศักดิ์ ก้มหน้าลง แม้ว่าในใจเขาจะไม่เชื่อฟิลิปเป้แม้แต่น้อย แต่ก็ไม่คิดจะพูดแย้งกลับไป  เขาตัดสินใจเลือกพูดระบายความอัดอั้นออกมาแทน

                           แล้วที่คุณทดลองกับคน  ผลเป็นอย่างไรบ้าง?

                            ฟิลิปเป้ส่ายหน้าอย่างเย็นชา 

                            ลูกน้องผมคงทำอะไรผิดพลาดสักอย่าง  ผมกำลังตรวจสอบอยู่  อีกไม่เกินสามวันหรอก เราจะได้รู้ความจริง  แล้วทำดำเนินการค้นคว้าต่อไป

                            ศาสตราจารย์ชาวไทยย่นหน้า ใบหน้าฉายความกังวลออกมาอย่างชัดเจน    สีหน้าก็เคร่งเครียดขึ้นมาในทันใด

                            ผมบอกคุณแล้วไม่ใช่เหรอว่า ขอให้การทดลองกับคนป่วยคนนี้เป็นคนแรก และเป็นคนสุดท้าย  เราควรเริ่มต้นค้นหาสมมติฐานอีกครั้งกับสัตว์เซลล์เดียวก่อนถึงจะถูกต้อง  ผมยังมีเวลาให้กับงานวิจัยอยู่น่ะ

                            ฟิลิปเป้มองสหายเก่าแก่ด้วยสายตาแปลกๆแวบหนึ่ง แล้วจึงยิ้มละเมียดออกมา แล้วจึงพูดออกมาว่า

                             แต่ผมไม่มีเวลาแล้ว  พอล  เวลาของผมนั้นมีค่ามากที่คุณคิดหลายเท่านัก  ถึงแม้อะไรจะเกิดก็ตาม  ผมยังต้องการคุณกลับมาเหมือนเดิมน่ะ  พอล  คุณเป็นคนเดียวที่เข้าใจมันมากที่สุด

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×