คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Fahrenheit 4 มุมมองของผู้ชาย 4 อุณหภูมิ
Fahrenheit หรือออกเสียงตามภาษาจีนว่า เฟยหลุนไห่ คือส่วนผสมที่ลงตัวของ 4 หนุ่ม 4 อุณหภูมิ
เหยียนหย่าหลุน (แอรอน) อุณหภูมิ Cold 41℉
วังตงเฉิง (จิโร่) อุณหภูมิ Hot 95℉
เฉินอี้หรู (แคลวิน) อุณหภูมิ Warm 77℉
อู๋จุน อุณหภูมิ Cool 59℉
ด้วยความที่เป็นผู้ชายต่างอุณหภูมิ ก็เลยทำให้มุมมองความคิดของทั้ง 4 หนุ่มแตกต่างกันไปด้วย
Ask : คิดว่าตัวเองเป็นผู้ชายแบบไหน?
อู๋จุน : ผมน่าจะถูกจัดอยู่ในไทป์ของคนมองโลกแบบผู้ใหญ่ครับ คนชอบมองว่าผมผ่านประสบการณ์ชีวิตมาเยอะ เพื่อนที่ผมคบส่วนใหญ่ก็อายุมากกว่า ดังนั้นความคิดของผมเลยค่อนข้างโตกว่าอายุ
แคลวิน : ผมรู้สึกว่าตัวเองเป็นเหมือนเด็กหนุ่มที่กำลังโตขึ้นทุกวัน ปีที่ผ่านมาความคิดความอ่านของผมเปลี่ยนไปมาก เริ่มมีการไตร่ตรองว่าจะต้องทำอะไรกับชีวิต เริ่มคิดถึงอนาคต อยากมีรถ อยากมีบ้าน อยากมีครอบครัวของตัวเองด้วย เพราะอย่างนั้นผมจึงต้องพยายามเร่งเก็บเงิน เพื่อเตรียมทำความฝันให้เป็นจริงครับ
จิโร่ : ผมคิดว่าตัวเองยังไม่เป็นผู้ใหญ่เต็มตัว แต่ก็พูดได้เต็มปากว่าผมคือเด็กที่มีความรับผิดชอบคนหนึ่งที่มีความใฝ่ฝันจะเป็นผู้ใหญ่ที่มีความรับผิดชอบ
แอรอน : ผมเองก็ยังไม่แน่ใจเหมือนกันฮะ อยากรู้จักตัวเองให้มากกว่านี้ อยากรู้ว่าตัวเองอยากทำอะไร ตอนนี้ผมก็ยังไม่แน่ใจว่าจะมีความรับผิดชอบเพียงพอแล้ว หรือยังโตไม่เต็มที่กันแน่ (หัวเราะ)
Ask : ผู้ชายที่เป็นผู้ใหญ่เต็มตัวสำหรับเฟยหลุนไห่ต้องคุณสมบัติอย่างไร?
อู๋จุน : ต้องมีความรับผิดชอบครับ (อมยิ้มทำตาวาว)
แคลวิน : สิ่งที่ควรมีคือเป้าหมายในชีวิต และมุมมองในการดำเนินชีวิต
จิโร่ : นอกจากความรับผิดชอบแล้ว ผมว่าเรื่องหาเงินได้เยอะๆ นี่ก็สำคัญเหมือนกันนะฮะ (หัวเราะ)
แอรอน : ต้องเข้าใจผู้อื่น รู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา ตอนนี้ผมว่าตัวเองก็ก้าวหน้าไปเยอะแล้วนะ ใกล้เป็นผู้ใหญ่แล้วแหละ (หัวเราะ)
Ask : สำหรับคุณแล้วคิดว่าหนุ่มที่โตเป็นผู้ใหญ่แล้วไม่ควรทำอะไร?
อู๋จุน : ขาดความรับผิดชอบฮะ
แคลวิน : ไม่ควรโวยวายเหมือนเด็กเล็กๆ แต่อย่างนั้นก็เถอะ ผมเองก็ยังไม่วายเป็นบ่อยๆ ครับ ช่วงก่อนหน้านี้ก็มีครั้งนึง (หัวเราะ) ผมกับเพื่อนสนิทเราก่อสงครามเย็นเล็กๆ ขึ้นมา ผมงอนเขาจนไม่ยอมโทรศัพท์ไปหาเลย
จิโร่ : ออกนอกลู่นอกทางครับ แล้วก็ต้องไม่ย่อท้อกับชีวิต เพราะนั้นมันจะเป็น ตัวถ่วงความสำเร็จ
แอรอน : ผู้ชายที่ขาดความซื่อสัตย์ เชื่อถือไม่ได้สุดๆ
Ask : คิดว่าตัวเองดูแมนที่สุดตอนไหน?
อู๋จุน : ตอนผมออกกำลังกายครับ เพราะตอนนั้นผมจะมีความมั่นใจมากสุด (หัวเราะ)
แคลวิน : ตอนที่ได้เทคแคร์ดูแลผู้หญิง อย่างเช่น ตอนฝนตกแล้วเราเดินกางร่ม ไปด้วยกัน 2 คน
จิโร่ : แมนที่สุดเหรอครับ...อืม ตอนที่ผมโชว์กล้ามมั้งครับ (หัวเราะ)
แอรอน : ตอนผมขี่มอไซค์ให้แฟนซ้อนท้าย พอผมเร่งความเร็วแฟนก็ขยับตัว มากอดผมแน่นขึ้น ผมรู้สึกว่าตัวเองได้ปกป้องเธอ (พี่ๆ ในวงส่งเสียงแซว ทำเอาแอรอน ออกอาการเขิน) (น่ารักจริงๆ)
Ask : ชอบใส่สูทมั้ย คุณรู้สึกว่าก่อนและหลังที่คุณใส่สูทแตกต่างกันอย่างไร?
อู๋จุน : ความจริงแล้วผมไม่ค่อยชอบ ใส่สูททีไรทำให้รู้สึกว่าตัวเองต้องคอยระวังตัวอยู่ตลอดเวลายังไงก็ไม่รู้ครับ
แคลวิน : หล่อครับ! ผมชอบใส่สูทมาก เพราะใส่ออกมาแล้วดูดีสุดๆ (หัวเราะ)
จิโร่ : บอกได้แค่ว่า ~ โอ้! หล่อจริงๆ คนอะไรทำไมถึงได้หล่อขนาดนี้นะ (หัวเราะดังกว่า)
แอรอน : ผมก็ไม่รู้ว่าจะพูดไงดี สาบานเหอะ! จะมีใครที่ไหนใส่สูทแล้วหล่อเกินผม (หัวเราะดังอลังการ)
Ask : เหตุการณ์ใดที่ทำให้คุณรู้สึกถึงความมีน้ำใจในหมู่เพื่อนมากที่สุด?
อู๋จุน : ตอนผมเป็นเด็ก เวลาเพื่อนผมถูกคนที่บ้านรังแกผมก็จะเสนอตัวไปช่วย ประมาณว่ารักความยุติธรรมแต่เด็กฮะ
แคลวิน : ไม่ว่าจะสุขหรือเศร้า คนเราก็ยังต้องการเพื่อน หากเพื่อนหรือว่าแฟนผมมีปัญหาทะเลาะเบาะแว้ง ผมก็จะดูแลเขาราวกับตัวเองเป็นพี่เลี้ยงเด็ก ซึ่งพวกเราจะผ่านเรื่องราวไปด้วยกัน จะว่าไปแล้วปกติผมจะยุ่งแค่ไหน ถ้าเพื่อนโทรมาขอความช่วยเหลือ ผมก็จะรีบไปช่วยทันที
จิโร่ : มีหลายเรื่องอยู่นะฮะ ยกตัวอย่างเช่น ครั้งหนึ่งเพื่อนของผมโทรมาหา ตอนตี 3 ว่ารถเสียให้ออกมาช่วยหน่วย ตอนนั้นมันก็ดึกมากแถมผมก็อาบน้ำแล้ว ซึ้งปกติ ถ้าผมอาบน้ำนอนแล้วจะไม่ออกไปไหนอีกแต่ผมก็ยังยินดีไปช่วยเพื่อนคนนี้ครับ หรือเรื่อง ที่ชอบผู้หญิงคนเดียวกับเพื่อน ผมก็หลีกทางให้เพื่อนนะ (หัวเราะ)
แอรอน : คืนวันนึง ผมกำลังนอนหลับฝันหวานอยู่ดีๆ เพื่อนสนิทผมก็โทรมาปลุกบอกว่าอกหัก ผมเลยต้องรีบบึ่งมอเตอร์ไซค์ไปปลอบเขาครับ (น่ารักจริงนะจ้า)
Ask : ถ้าหากแฟนคุณเข้ากับครอบครัวคุณไม่ได้ คุณจะทำอย่างไร?
อู๋จุน : อย่างแรกคือผมจะลองประเมินสถานการณ์ดูก่อน แล้วก็วิเคราะห์ว่าใครผิดใครถูก แล้วหาทางให้ทั้งสองฝ่ายกลับมาคืนดีกันด้วยเหตุผล เชื่อมสัมพันธ์กันด้วยสันติวิธีครับ
แคลวิน : โดยพื้นฐานแล้ว พ่อแม่ผมค่อนข้างจะเคารพการตัดสินใจของผมนะฮะ แต่ถ้าหากว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นจริง ผมจะขอเป็นคนสร้างความปรองดองแก่ทั้ง 2 ฝ่ายเอง
จิโร่ : ผมจะจับทั้งสองฝ่ายมานั่งพูดคุยเหตุผลของตน ให้ทุกอย่างจบลงโดยสันติ
แอรอน : ผมจะลองให้ทั้งสองฝ่ายทำความเข้าใจกันเอง แต่ถ้าเรื่องมันยังเกิดขึ้นซ้ำๆ ถึงเวลานั้นผมคงจะพาแฟนไปพบกับครอบครัว แล้วบอกพวกเขาว่า “ผมจะขอเป็นคนแบกรับความผิดนี้ไว้เองครับ”
Ask : คิดว่าความรักคืออะไร?
อู๋จุน : ความรักเป็นเรื่องของคน 2 คนที่ต้องใช้เวลาศึกษากัน ดังนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดของความรักคือต้องรู้จักเปิดใจมองทั้งสองมุม หากว่ามีตรงไหนที่ไม่เข้าใจเราจะได้จูนเข้าหากันได้
แคลวิน : ความรักนั้นต้องประคับประคองไปด้วยกัน ได้แชร์เรื่องราวต่างๆ ด้วยกัน บางทีผมว่ามันก็ไม่ต้องการอะไรพิเศษนะ แค่คนสองคนได้นั่งร่วมโต๊ะกินข้าวด้วยกัน ก็โรแมนติกพอแล้ว
จิโร่ : รักคือสิ่งบอบบางที่ต้องทะนุถนอมครับ ที่สำหรับคนรักกันต้องมีความซื่อสัตย์ต่อกันด้วย
แอรอน : ความไว้วางใจกันคือสิ่งสำคัญที่สุด เมื่อก่อนตอนที่ผมยังเด็กๆ เวลาผมมีแฟนก็อยากจะเห็นหน้ากันทุกวัน แล้วจะโทรคุยกันทุกคืนจนถึงตี 3 แต่ตอนนี้ผมโตขึ้น ก็อยากเก็บเงินไว้สร้างรากฐาน ผมเลยเปลี่ยนหลักการเป็นว่า “ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น อนาคตคือสิ่งสำคัญที่สุด”
Ask : เรื่องโรแมนติกที่สุดที่เคยทำให้แฟนคืออะไร?
อู๋จุน : ช่วงที่ผมเรียนอยู่ที่ออสเตรเลีย มีอยู่ครั้งหนึ่งผมคิดถึงแฟนคนก่อนมากๆ ก็เลยโดดเรียนบินกลับไปหาแฟนที่บรูไน แล้วจึงค่อยบินกลับมาเรียนต่อครับ
แคลวิน : ได้ไปพจญภัยกันสองต่อสองในที่ที่ไม่มีผู้คน เลยทำให้เราได้เรียนรู้กัน ทีละน้อย
จิโร่ : วาเลนไทน์ปีหนึ่ง ผมชื้อดอกไม้ช่อใหญ่มากแล้ววิ่งไปทำเซอร์ไพรส์ที่หน้าบ้านเธอแต่เช้า แล้วก็มีอีกครั้งหนึ่งคือวันเกิดแฟนคนก่อน ผมก็เตรียมกิ่งไม้จุดไฟเป็นคำว่า Happy Birthday ที่สวนสาธารณะ จากนั้นเรียกแฟนให้โผล่ทางหน้าต่างออกมาดูครับ
แอรอน : ผมเคยนั่งรถไฟตามหาแฟนที่ต่างจังหวัดซึ่งไกลมากแถมยังเป็นป่าด้วย
Ask : ครั้งแรกที่ออกเดท คุณพาแฟนคุณไปที่ไหน?
อู๋จุน : ภัตตาคารหรูครับ ผมมีความสุขมาก แล้วก็รู้สึกเหมือนได้ปลดปล่อย เราเลยสั่งแต่ของดีๆ ราคาแพงๆ มากินกัน หมดเงินไปมากเอาการเลย (หัวเราะ)
แคลวิน : ถ้าจำไม่ผิด เป็นร้านอาหาร บรรยากาศเงียบๆ แห่งหนึ่งครับ แล้วเราก็ผลัดกันเล่าเรื่องของตัวเอง
จิโร่ : ผมขี่มอเตอร์ไซค์พาเธอขึ้นเขาหยางหมิงไปนอนนับดาวกันครับ (โรแมนติกมากๆเลย)
แอรอน : ไปชมวิวกันในสถานที่แห่งหนึ่งที่คนไม่พลุกพล่าน แล้วก็พูดคุยเปิดเผยความในใจของกันและกันฮะ
Ask : ถ้าแฟนรบเร้าให้คุณใส่เสื้อคู่รักออกเดท คุณคิดว่าจะพิมพ์ลายการ์ตูนอะไรลงไปบนเสื้อ?
อู๋จุน : ลายอะไรก็ได้ ที่ดูไม่เป็นผู้หญิงเกินไป หรือว่าเป็นสีชมพูหวานแหววครับ
แคลวิน : สมัยเรียนไฮสคูลผมเคยใส่มาแล้วครับ ตอนนี้ยังจำได้แม่นยำอยู่เลย (หัวเราะ) ตามปกติผมจะไม่ชอบใส่เสื้อสกีนลายการ์ตูนนะแต่วันนั้นไปเที่ยวสวนสนุกกับแฟน แล้วเราก็ใส่เสื้อคู่กันเป็นรูปมิคกี้กับโดนัลด์ดั๊ก ผมก็ว่าโอ.เค.นะ
จิโร่ : ผมจะบอกแฟนว่า “ชั้นเป็นคนง่ายๆ ให้ใส่อะไรก็ใส่ได้ทั้งนั้น”
แอรอน : ผมรับได้หมดฮะ ถึงแม้ว่าให้ผมใส่เสื้อสกีนลายเฮลโล คิตตี้ก็เหอะผมใส่ได้ทุกอย่างแหละ (หัวเราะ)
Ask : ครั้งแรกที่ไปทำความรู้จักพ่อแม่แฟน คุณจะซื้ออะไรเป็นของฝากให้ท่าน?
อู๋จุน : ตะกร้าของขวัญใส่น้ำผลไม้ครับ ดูเซฟที่สุด อร่อยแถมเป็นทางการ
แคลวิน : อืม...ตอบยากนะครับ อาจเป็นน้ำผลไม้ เพราะเหมาะกับทุกเพศทุกวัย
จิโร่ : น้ำผลไม้ครับ ไม่งั้นก็เหล้าไง...เหล้า ฮ่าๆๆ
แอรอน : จานชามเครื่องครัวหรูๆ สักชุดนึง
Ask : ถ้าต้องแนะนำสมาชิกเฟยหลุนไห่ให้กับน้องสาวของแฟน คุณคิดว่าจะแนะนำใคร?
อู๋จุน : ต้องดูก่อนนะฮะ ว่าสไตล์ของน้องสาวชอบแบบไหน ถ้าสาวน้อยน่ารักๆ ก็น่าจะเหมาะกับอาปู้ สุขุมหน่อยน่าจะชอบแบบแคลวิน แต่ถ้าเป็นคนเฮฮาร่าเริง ผมจะแนะนำให้รู้จักต้าตงครับ
แคลวิน : น้องสาวใช่มั้ย...อืม งั้นน่าจะชอบหนุ่มน้อยน่ารักแบบหย่าหลุนนะ
จิโร่ : ต้องเป็นอู๋จุนผู้แสนร่ำรวยอยู่แล้ว ไม่งั้นเขาจะเป็นคุณชายอยู่ที่บรูไนเหรอ (อู๋จุนตะโกนมาว่า “ชั้นไม่มีตังค์หรอก”)
แอรอน : อืม...พี่อู๋จุนหล่อและรวย พี่ต้าตงเขาก็น่ารัก พี่แคลวินเป็นคนเท่ๆ สรุปผมเลือกพี่อู๋จุนดีกว่า เพราะว่าเขาดูเป็นผู้ใหญ่มากสุด
Ask : ในวงเฟยหลุนไห่ คุณคิดว่าใครเชี่ยวชาญเรื่องความรักมากที่สุด?
อู๋จุน : เราแต่ละคนต่างมีสไตล์เป็นของตัวเอง ผมก็เลยคิดว่า เราป๊อปปูล่าร์เท่ากันทุกคนครับ (หัวเราะ)
แคลวิน : ต้าตงครับ! สไตล์ของเขาโดนใจสาวๆ มากที่สุด อู๋จุนรูปหล่อก็จริง แต่บางทีก็น่าเบื่อไปหน่อย ส่วนหย่าหลุนทำคะแนนได้ดีในหมู่สาวน้อยฮะ
จิโร่ : เฉินอี้หรูครับ รายนี้ชอบมีมุกเด็ดๆ มาเล่าให้สาวฟังอยู่เรื่อย (หัวเราะ)
แอรอน : ไม่มีครับ เพราะว่าพวกเขาอายุยังไม่ถึง (หัวเราะ)
ที่มา http://www.niyay.com/story/chapter/48087.html
ความคิดเห็น