ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เ ก็ บ ข อ ง ข น า ด ใ ห ญ่

    ลำดับตอนที่ #4 :

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 18
      0
      9 เม.ย. 57

    BLACK LIST ll 17

    Kiss me

     

                2 อาทิตย์ต่อมา

                ฉันออกมาจากโรงพยาบาลเรียบร้อยแล้ว และตอนนี้กำลังอยู่ในสถานการณ์มาคุที่สุดกับผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่า คุณแฟน !!!’

                “แล้วทำไมจะอยู่บ้านฉันต่อไม่ได้”

                “ก็นายเป็นผู้ชาย จะให้ฉันมาอยู่บ้านนายสองต่อสองได้ยังไงเราเป็นแค่แฟนกันนะ !

                ฉันที่พูดพลาง มือก็ยุ่งวุ่นวายอยู่กับการเก็บของอยู่พลาง ฉันพยายามยัดเสื้อผ้าที่ไททันซื้อให้ใส่กระเป๋าใบโตให้ได้มากที่สุด ก็ไม่รู้ว่าจะซื้อมาให้ทำไมนักหนา แพงก็แพง ซื้อตามจตุจักรฉันก็ใส่ได้ !

                “เธอใช้คำว่า แค่อย่างนั้นเหรอ”

                เมื่อฉันเริ่มสัมผัสได้ถึงความอึมครึมจากประโยคเมื่อกี้ ก็หันไปมองหน้าเขาเพื่อดูท่าทีและนั่นมันทำให้ฉันแอบตกใจเล็กๆ ไททันดูเคร่งขรึมมากกว่าที่คิดและดูจริงจังมากจนฉันก็แอบหวั่นว่าฉันทำอะไรผิดไปจริงๆงั้นเหรอ -0- ?

                เอ่อฉันว่าฉันไม่ได้ผิดนะ

                คือ..ผู้หญิงกับผู้ชายที่เป็นแค่แฟนมาอยู่ห้องเดียวกันมันดูน่าเกลียดไม่ใช่เหรอ TOT

                “กะ..ก็มันจริงนี่”

                “เธอใช้คำว่า แค่เป็นแฟนเหรอนับดาว”

                ไททันที่เริ่มขมวดคิ้วเป็นปมเขาก็เริ่มระบายอารมณ์ออกมาจากการถอนหายใจแรงๆเพื่อเรียกสติไม่ให้เสือร้ายที่อยู่ในจิตใต้สำนึกออกมาขย้ำฉัน เพราะตอนนี้ถึงจะออกมาจากโรงพยาบาลแต่แผลที่โดนยิงก็ยังไม่ได้หายสนิทสักเท่าไหร่

                เขามองหน้าฉัน ใบหน้าเขาก็ยังคงเรียบเฉย แต่ฉันแอบสัมผัสได้เล็กๆเหมือนว่าเขาจะรู้สึกผิดหวังที่ฉันพูดแบบนั้นอยู่

              “ฉันโกรธเธอว่ะ”

                ว่าจบไททันก็เดินออกไปด้วยท่าทีที่ฉันคุ้นๆ ว่าเหมือนจะเคยอ่านเจอในนิยายรักหวานช่ำทะลุปอดว่ามันเป็นอาการที่เรียกว่า งอน !!!

                นี่เขางอนฉันเหรอ -0-;;;

                เมื่อดูจากท่าทางของไททันเมื่อกี้ ฉันก็เริ่มวางมือจากทุกสิ่งทุกอย่างก่อนที่จะวิ่งเข้าไปดึงชายเสื้อเขาเอาไว้ทันที

                “โกรธเหรอ”

                “ถ้าแผลเธอหายสนิทป่านนี้ก็คงนอนเล่นอยู่ในห้องนั่นอีกสักชั่วโมงสองชั่วโมง”

                นี่ฉันต้องขอบคุณพระเจ้าสินะ ที่แผลยังไม่หายดี TOT

                “นะ..นี่ไททัน”

                ฉันพูดด้วยเสียงตะกุกตะกักเป็นเพราะคำขู่ของเขาเมื่อกี้ ก็เรียกชื่อให้เขาหันมาสบตากับฉันตาก็ไม่มีท่าทีว่าจะหันมาสักนิด หนอยยหมอนี่ ! คิดว่าตัวเองเป็นเด็กหรือไงกันยะ !
                ฉันเดินอ้อมไปหาไททันด้านหน้าก่อนที่จะใช้มือตัวเองทั้งสองข้างประกบเข้ากับแก้มทั้งสองข้างของเขาเพื่อที่จะบังคับให้ไททันหันมาสบตากับฉันตรงๆ ไททันได้ใช้สายตาที่เรียบเฉยแต่หากแฝงด้วยความกรุ่มกริ่มมองลงมาที่ฉันตรงๆอย่างไม่ปิดบังจนจะกลายเป็นฉันเองที่กลายเป็นคนเขินเขาแทน !!

              “จะจูบก็รีบๆสิ ฉันก็อยากให้เธอเป็นคนเริ่มมานานแล้วเหมือนกัน”

                “บ้าเหรอ ! นายนี่มันลามก ฉันไม่ได้จะทำแบบนั้นสักหน่อย >////<

                “เหรอ..ถ้าอย่างนั้นก็เสียใจด้วยนะเพราะวิธีง้อฉันมีแค่วิธีเดียวคือ จูบ”

                “นายอย่ามาพูดประโยคนี้ด้วยสีหน้าเรียบเฉยไร้อารมณ์แบบนั้นนะ !!

                “หึ..แล้วจะให้ทำสีหน้าแบบไหนกันละ แบบนี้เหรอ”

                ไททันเริ่มเปลี่ยนสีหน้าตัวเองให้ดูดีขึ้น เขาเริ่มปรับแววตาให้ดูเจ้าเล่ห์และมีเล่ห์เหลี่ยมอย่างไม่ปิดบัง แสดงธาตุแท้และเสือร้ายที่อยู่ในจิตใต้สำนึกเขาออกมาทีละนิดๆจนฉันก็เผลอลืมมองลึกเข้าไปยังดวงตาที่แสดงความต้องการออกมาอย่างเปิดเผยออกมา เขาเริ่มบดเบียดร่างกายจนเข้ามาประชิดกับร่างกายฉัน..ถ้าจะบอกว่านี่คือครั้งแรกที่ทำให้ฉันเห็นอีกมุมมองของเขาก็คงจะใช่ มันเป็นครั้งแรกที่ฉันตกหลุมที่เขาขุดเอาไว้แบบไม่รู้ตัวเลยจริงๆ !

                “ฉันไม่หลงกลนายหรอก”

                “งั้นก็อย่าหน้าแดงสิครับ J

                ฉันถอยหลังไปเรื่อยๆจนในที่สุดแผ่นหลังฉันก็สัมผัสได้ถึงความเย็นเชียบจากผนังห้อง นี่เขาต้อนฉันจนมาถึงทางตันแล้วอย่างนั้นเหรอ เมื่อไหร่กัน !

                “ไม่ได้หน้าแดงสักหน่อย”

                ความจริงฉันก็ปฏิเสธไปอย่างนั้นแหละ แต่ความจริงก็รับรู้ได้ถึงไออุ่นและความร้อนที่อยู่บริเวณใบหน้าและก้อนเนื้อข้างซ้ายที่มันเต้นโครมครามอย่างไม่หยุดไม่หย่อนเลยสักนิดเดียว

                “เขินงั้นสิ”

                “เปล่า >////<

                “หึ..งั้นก็ต้องพิสูจน์แล้วสินะ J

                “พะ..พิสูจน์อะไรของนาย”

                “จูบสิ”

                นี่เขาจะวกมาเรื่องจูบให้ได้เลยใช่มั้ย !!!

              “ไม่ !

                “อีกแล้วนะนับดาว..เธอปฏิเสธอีกแล้ว”

                “เอ่อ..

                “ทำไมต้องปฏิเสธ หรือเธอรังเกียจ”

               

               

               



    ::Talk Talk :: Open V-Writer diary
    สวัสดีคะ มาเเล้วสำหรับอีกตอนเป็นตอนที่เรียกความหวานเเหวว
    ซึ่งบอกได้เลยว่าช่วงนี้เริ่มมีอารมณ์สุนทรีในการเขียนน้อยลงเป็นอย่างมาก
    เเต่จิตใจอันสูงสุดที่อยากจะให้มันสำเร็จจริงๆก็คือ "การเขียนนิยายเรื่องนี้ให้จบ"
    ซึ่งการเขียนถ้าเขียนด้วยอารมณ์ว่างเปล่าคิดเเต่พล็อตเเละตอนต่อไปอย่างเดียว
    เเน่นอนว่าเนื้อเรื่องที่ได้ก็คงจะได้ความว่างเปล่า ถ้าเราไม่ใส่อารมณ์ไปในตัวอักษร
    สิ่งที่คนอ่านได้รับก็คงจะเป็นความน่าเบื่อเเละไม่สนุกวีเชื่ออย่างนั้น
    เเล้วทีนี้โดยส่วนตัววันนี้มาบ่น ๆ ให้ฟังว่าบางทีที่อัพช้าเพราะ
    วีเคยตั้งใจเอาไว้เหมือนกันว่าอยากจะให้นิยายเรื่องนี้สนุกที่สุดเท่าที่วีจะพยายามได้
    มันเลยมีช้อยส์ให้เลือกสองข้อในอารมณ์ ณ ตอนๆนี้คือ
    รอให้วีบิวต์อารมณ์ซึ่งมันต้องใช้เวลานาน กับ อัพเเละเขียนต่อไปทั้งเเบบนี้
    ซึ่งคิดไปคิดมาวีเลือกช้อยส์ที่สอง เพราะไม่อยากเสียคำพูดที่เคยบอกไว้
    ว่า..จะอัพ จะอัพ จะอัพ !!! โดยส่วนตัวการที่ไม่อัพเเละให้รีดเดอร์รอเเล้ว
    วีก็คิดว่าเออมันไม่เเฟร์สำหรับรีดเดอร์วะ เพราะอะไรที่คิดเเบบนี้
    ก็เพราะวีก็เป็นรีดเดอร์เหมือนกัน เเละทีนี้ด้วยความรู้สึกส่วนตัวล้วนๆเลยว่า
    ก่อนที่ฉันจะเริ่มเขียนนิยายเรื่องนี้ไม่มีคนเเอดเฟบฉันเลย
    ฉันพยายามถีบนิยายเรื่องนี้ให้มีคนเเอดเฟบมากขึ้น มากขึ้น โดยการอัพซ้ำ ๆ อัพเรื่อย ๆ
    หรือเเม้กระทั่งโปรโมทนิยายจากวิธีการต่างๆ เเต่พอมาวันนี้
    วันที่เริ่มหมดไฟ กลับหนีไปง่ายๆเเบบนี้เชียวเหรอ วันที่ฉันมีคนเเอดเฟบซึ่งก็ไม่มากมายอะไร
    เเต่กลับเป็นเเรงผลักดันให้ฉันเขียนนิยายต่อไป เขาต้องเป็นคนรอฉันหรือไงวะ ไม่เห็นเเก่ตัวไปหน่อยหรือไง 
    ซึ่งถ้าใครว่ามันดูเฟคอันนี้ก็เเล้วเเต่ เเต่ก็นะจากความรู้สึกส่วนตัว
    เลยจะมาบ่นเฉยๆ ซึ่งมันก็ยาวนิดนึง ใครอ่านหรือไม่อ่านก็ไม่เป็นไร 
    เเต่หลังจากวันที่บ่นไป จะพยายามบิวต์อารมณ์จากทุกวีถีทางเเบบสุด ๆ !!
    ไม่ว่าจะเป็นการฟังเพลง ดูละคร ดูหนัง !! เพื่ออารมณ์ร่วม 
    ไฟติ้งคะ จะพยายาม เย้ !  o^________^o

    อีกนิดนึง :: คิดไปคิดมา วีรู้เเล้วว่าทำไมถึงหมดไฟในการเขียน
    เป็นเพราะว่ามันยังอยู่ในช็อตที่คู่พระนางต้องเเสดงความรักเเละผูกพันให้กัน
    ซึ่งวีก็ไม่รู้ว่ามันต้องเเสดงยังไง ตัวของนับดาวต้องถ่ายทอดอารมณ์ออกมายังไง
    เพราะเอาจริงๆ เรื่องความรักเเละความรู้สึกของคนสองคน
    คนที่ยังไม่เคยเจออย่างวีเองก็คงไม่รู้หรอกว่ามันเป็นยังไง เพราะยังไงวีก็คิด
    ว่ามันเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน ยากที่คนไม่เคยเจอจะอธิบายออกมาได้
    อาจเป็นเพราะอายุยังน้อย ไม่เจอเรื่องราวเเบบนี้ 
    อาจเป็นเพราะ ไม่เคยมีเเฟน หรืออะไรก็ตามเเต่
    เเต่มันก็ยากมากๆอะ ซีเรียสมากกับการอธิบายถึงความรู้สึกของตัวละคร
    วีรู้สึกเหมือนตัวเองเขียนยังไม่ดี รู้สึกอยากได้เทรนเนอร์เก่งๆมาสอน ! TOT
    ขนาดตอนที่ไททันมองสภาพศพของนับดาวเเล้ววียังอธิบายไม่ได้อารมณ์เลย
    อ่านเองเเล้วมันยังรู้สึกถึงความว่างเปล่าที่ออกมา เครียด !!!!!
    เครียดจนอยากจะมีความรักในตอนนี้ เดี๋ยวนี้เเล้วเอามาเขียน T{}T
    อิมเมจิ้นของวียังไม่ถึงจุดๆนั้นทำยังไงดี อ้ากกก @@!#!$!$!$#$
    เเต่ยังไง บ่นยังไงวีก็อยากจะเเต่งต่อ ! ยังไงมันต้องผ่านไปได้ล่ะว่ะ ! ^__^
    ผ่านช็อตคู่รักหวานเเหววยังมีขวากหนามให้เดินผ่านอีกเยอะ !! 
    ฉันจะรอเขียนตอนนั้นนะฮืออออออออ T{}T ;;; #รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นตัวอิจฉาในละคร
    มาตอนนี้ก็ยังยืนยันคำเดิมว่ายังไงก็จะเเต่งต่อ !!!!
    จะเสพทุกสรรพสิ่ง ไม่ว่าจะเป็นละคร อนิเม เพลง บลา ๆๆ ที่ทำให้อิมเมจิ้นทะลุเเสนเเปด 
    เเล้วจะเก็บเอาไปฝัน จากนั้นก็จะเอามาเเต่งเป็นนิยาย !
    ไฟติ้งงงงงงงงงงงงงงงงง  V^_______________^V







     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×