ลำดับตอนที่ #18
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #18 : เลือกสำนัก
อี้หนานนอนราบอยู่กับพื้น หอบอย่างหมดแรง การฝึกในวันนี้นอกจากต้องกันกระบี่ ยังต้องหาช่องว่าง อ่านจังหวะคู่ต่อสู้ และเมื่อเริ่มชิน เอี้ยปี้เฉินก็เปลี่ยนเป็นคำว่า 'จู่โจม' ก็คือการจู่โจมโดยผู้ฝึกตัดสินใจเอาเอง โดยจู่โจมเพียงฟาดและแทงเท่านั้น ลงมือเพียงดาบเดียว แล้วหยุดรอจังหวะกลับมาตั้งรับสลับกัน
"แม่นางเล้งชู่และแม่นางหลาน ทำได้ดีในการโจมตีผสม พวกเจ้าคนหนึ่งมั่นคง อีกคนหนึ่งฉับไว แม่นางเล้งชู่หาช่องว่างจู่โจมได้ดี และแม่นางหลานก็ปรับแก้ท่าทางได้อย่างรวดเร็ว"
"แม่นางโหยวฝีมือพัฒนาขึ้นมาก แต่แม่นางจื่อกลับเคลื่อนไหวติดขัด ยังกล้าๆกลัวๆอยู่ พยายามให้มากกว่านี้... ส่วนเสี่ยวหนาน" เอี้ยปี้เฉินหันกลับมายิ้มให้อี้หนานที่หมดสภาพ "เจ้าก็พยายามต่อไปนะ อย่าให้เจ็บตัวเหมือนวันนี้อีก"
อี้หนานหมดแรงพูดไม่ออก อยากจะเถียงกลับไปว่า นางนั่นแหละลงมือหนักข้าถึงได้เจ็บตัวอย่างนี้ แต่ทำได้เพียงนอนหอบต่อไป
"เสี่ยวหนานเจ้าพักผ่อนอาบน้ำเสร็จแล้ว ก็มาหาข้าเพื่อกินยาและฝังเข็ม"
อี้หนานพยักหน้า นอนพักอีกซักครู่ ก่อนจะรวบรวมแรงลุกขึ้นไปอาบน้ำ
"อา... ความสุขที่แท้จริงคือความสุขหลังจากผ่านเรื่องทุกข์ อืม..."
"ให้ข้าช่วยอาบไหมคะนายท่าน" เอี้ยโหลวที่อาบน้ำเสร็จแล้วก็เข้ามาช่วย
"อืม" อี้หนานที่กำลังเคลิ้มกับน้ำอุ่น ไม่ได้สนใจเอี้ยโหยวเลยซักนิด นางบีบนวดร่างกายของอี้หนานอย่างเบามือ ทำให้อี้หนานสบายตัวเข้าไปอีก และหลับคาอ่างไปอีกครั้ง
"เสี่ยวหนานเจ้าตื่นหรือยัง"
อี้หนานได้ยินเสียงเรียก จึงลืมตามาเห็นเอี้ยปี้เฉินที่ถือฉามยามาให้เขากิน
"ขอบคุณท่านน้า" เขารับยาไปดื่ม "ตอนนี้เวลาใดแล้ว"
"ใกล้เข้ายามอู่แล้ว"
...จำไม่ได้จริงๆได้ยามซื่อยามอู่มันกี่โมง อี้หนานจึงเดินไปหาสมุดที่ตนจดมาเปิดดู 'ยามอู่ 11.00 น. จนถึง 12.59 น.' ตอนนี้ก็เกือบๆสิบเอ็ดโมง ถ้าเขานะนอนตอนนี้ก็คงตื่นเกือบจะไม่ได้เห็นตะวันแล้ว
"พี่สาวโหยวติดต่อช่างไปซ่อมแซมโกดังเห่าหรือยัง"
"แม่นางแเฉินและข้า ไปติดต่อช่างซ่อมเรียบร้อยแล้วเจ้าค่ะ ช่างบอกว่าใช้เวลาซ่อมและปรับปรุงซักสามวัน ข้าได้สั่งให้เขาดำเนินการเร็วที่สุดโดยเพิ่มค่าจ้างเป็นเท่าตัวเพื่อเพิ่มแรงงานในการซ่อมแซม"
"เยี่ยม พี่สาวนี่เข้าใจข้าจริงๆ" อี้หนานเอามือไปจับมือเอี้ยโหยว แต่ก็ต้องกัดฟันทนเพราะต้องฝังเข็มเสียก่อน
"ท่านน้าแล้วร่ายกายของข้าจะปรับสมดุลเสร็จเมื่อไหร่"
"ไม่แน่อาจภายในวันนี้" นี่เป็นข่าวดีที่สุดของวันนี้ที่อี้หนานได้ยิน
หลังจากให้เอี้ยปี้เฉินฝังเข็มเขานอนอย่างว่าง่าย คราวก่อนหลับไปตอนฝังเข็มเลยไม่รู้ว่าใช้เวลามากเท่าไหร่ แต่ตอนนี้รู้แล้วขั้นตอนการฝังเข็มใช้สมาธิมาก แม้แต่ท่านน้าจะมีวรยุทธสูงแต่ก็มีเหงื่อออกเล็กน้อย และอี้หนานต้องนอนเป็นเม่นอีกครึ่งชั่วยาม ในระหว่างนี้อี้หนานเอาสมัดจดออกมาวางแผนการต่างๆ
"วันนี้วันที่เท่าไหร่"
"วันที่สิบเอ็ดเดือนห้า" เอี้ยปี้เฉินที่อยู่ใกล้ๆเป็นคนบอก
"เดือนนี้มีสามสิบเอ็ดวันใช่ไหม"
"ใช่"
งั้นเราก็มาที่นี่ วันที่หนึ่งเดือนห้า วันที่สิบสี่มีการประมูล เดือนหน้ามีสอบเข้าสำนัก
"ท่านน้าแล้วเดือนหน้าสอบเข้าสำนักนี่ สอบวันไหนกัน"
"สอบตั้งแต่วันแรกของเดือน ใช้เวลาสอบค่อนข้างนานอาจกินเวลาถึงยี่สิบวัน"
"งั้นถ้าอยากสอบต้องส่งเอกสารไปก่อนเดือนหน้าซินะ"
"ใช่ไปลงชื่อสมัครสอบก่อนเริ่มทดสอบ เพื่อนับจำนวน จำนวนผู้เข้าสอบแสดงถึงอิทธิพลชื่อเสียงของสำนัก มีผู้เดินทางมาจากเมืองอื่นๆเพื่อศึกษาต่อที่นี่ด้วย"
"เออใช่ ข้าลืมไปเลยว่ายังมีเมืองอื่น เมืองอื่นใกล้ๆนี่มีสำนักอะไรบ้าง"
"ก็มี สำนักล่องเมฆาลักษณะคล้ายๆสำนักชิงซาน สำนักต้าเซียนเป็นสำนักของราชสำนัก สำนักจ้าวสุริยัน ชื่อดุดันแต่กลับเป็นสำนักที่มุ่งเน้นปรานไฟ หลอมศาสตราวุธ หลอมโอสถ แต่สำหนักที่เด่นด้านยาที่สุดคือ สำนักเทพโอสถ สำนักนี้ไม่เน้นวรยุทธ เป็นเหมือนสำนักสนับสนุนสำนักอื่นอีกที"
"โอ้ ข้าสนใจสำนักพวกนี้จริงๆ น่าสนใจกว่าสำนักที่อยู่รอบเมืองนี้เสียอีก"
"ยังมีอีกหลายสิบสำนัก ที่อยู่ห่างไกลและไม่ค่อยได้ไปมาหาสู่กัน บางสำนักล่มสลาย หลายสำนักเกิดใหม่ สำนักแถบนี้มีสามสำนักรอบเมืองของเราและสี่สำนักในเมืองข้างเคียง จริงๆสำนักหลายแห่งก็ใหญ่พอที่จะเรียกได้ว่าเป็นอีกเมืองเช่นกัน แต่มีการล่มสลายและเกิดใหม่บ่อยครั้ง ทางราชสำนักจึงกำหนดใว้ว่าสำนักไม่ใช่เมือง แต่เมืองที่อยู่รอบสำนักชาวบ้านก็เรียกกันตามชื่อนะ อย่างสำนักชิงชาน เมืองรอบๆก็เรียกว่าเมืองชิงชาน อะไรแบบนี้"
"ถ้าข้าอยากซื้อกระบี่ดีๆก็ต้องไปเมืองจ้าวสุริยัน อยากได้ยาวิเศษก็ต้องไปเมืองเทพโอสถ ใช่ไหม?"
"ใช่แล้ว สำนักพวกนี้จะเปิดร้านขายสินค้าของสำนัก เพื่อเป็นรายได้เสริมให้แก่สำนักเหล่านั้น ของที่นำมาขายส่วนมากจะเป็นของศิษย์ในสำนักนั้นแหละ ไม่มีของอาจารย์ในสำนักหรอก"
ตอนนี้อี้หนานได้รู้เรื่องของสำนักต่างๆ ทำให้ตัวเลือกมีมากขึ้น
"ด้วยรถม้าของเจ้า อาตใช้เวลาเป็นเดือน"
"เป็นเดือนเลยเหรองั้นข้าคงหมดโอกาส แล้วสามสำนักล่ะ"
"สำนักชิงซานใกล้ที่สุดเดินทางเพียงสิบวัน สำนักมังกรครามสิบสองวัน และสำนักกระยี่สาวดึงส์สิบสองวันเช่นกัน"
"เดินทางนับสิบวันข้าต้องวางแผนดีๆแล้ว"
เอี้ยปี้เฉินยิ้ม "แต่ว่า ทั้งเจ็ดสำนักจะส่งเรือบินมารับที่เมืองนี้ และเดินทางก่อนสิ้นเดือนห้าวัน สำหรับสามสำนักเดินทางก่อนสิ้นเดือนสามวัน"
"อ่อ งั้นข้าก็สบายแล้วน่ะซิ นึกว่าจะไม่มีโอกาสเข้าร่วมสำนักนอกเมืองซะแล้ว"
"เจ้าอยากเข้าสำนักใด"
"แค่สามสำนักข้าก็คิดไม่ตกแล้ว นี่สามารถสอบได้เพิ่มอีกสี่ที่ข้าขอเวลาคิดก่อน"
สำนักกระบี่ดาวดึงส์ รวบรวมวิชาอาวุธกระบี่
สำนักชิงชาน เก่าแก่ฝึกจิตใจ
สำนักครามมังกร ล่าอสูร ฝึกวิชาแปลกประหลาดสำนักล่องเมฆา คล้ายๆชิงซาน
สำนักต้าเซียน สำนักของราชสำนัก
สำนักจ้าวสุริยัน มุ่งเน้นปรานไฟ หลอมศาสตราวุธ หลอมโอสถ
สำนักเทพโอสถ ก็ตามชื่อ
สำนักล่องเมฆานี่ตัดทิ้งไปได้เลย สำนักจ้าวสุริยันตัดทิ้ง อาวุธใช้อันเดียวซื้อเอาก็พอ ยาก็สู้สำนักเทพโอสถไม่ได้... แต่ถ้าเราพัฒนาพลังของเราได้ ก็แล้วยังไงล่ะหลอมขาย? เสกเงินเอาตรงๆง่ายกว่าเยอะ ช่างเหอะตัดทิ้ง
สำนักเทพโอสถ ซื้อเอาก็ได้อยู่หลอกแต่ถ้าไปถึงแหล่ง น่าจะหาซื้อได้เยอะขึ้น น่าสนใจสุดๆ แต่วิชาการต่อสู้สำนักนี้แทบจะไม่ได้เรื่อยที่สุด มองสำนักนี้ใว้ก่อน
สำนักกระบี่ดาวดึงส์ ชื่อเท่ ตัวสำนักไม่รู้ จบ
สำนักชิงซาน ใกล้ มีฮัวจิ่ว น้าปี้เฉินก็มาจากสำนักนี้ ดูดีในหลายๆด้าน เป็นสำนักเก่าแก่ วิชาย่อมมากมาย น่าสนๆ
สำนักครามมังกร เหมือนว่าสำนักนี้จะเน้นภาคปฏิบัติ ให้ล่าสัตว์อสูร หาวิชาฝึกเอาเอง... ข้อมูลสัตว์อสูรจ่ายเงินซื้อเอาก็ได้ แถมสำนักนี้มีกลิ่นเลือดลอยหึ่งมาแต่ไกล ตัดทิ้ง... แต่เอี้ยไป่อิ๋ง กับ เอี้ยไป่หลง ช่างเหอะชีวิตใครชีวิตมัน ไม่ต้องไปสน ตัดทิ้ง!
สุดท้ายสำนักต้าเซียน สำนักของราชสำนักหลิ่นดราม่ามาแต่ไกล หาคนหนุ่นไปหายอดฝีมือดีกว่า ไปหาพวกสาบปกครง ไม่เข้าข้างนี้ก็ต้องเข้าข้างนี้ ตัดทิ้ง
สรุปเหลือ สามสำนัก สำนักกระบี่ดาวดึงส์สุดเท่ สำนักชิงชานน่าจำทำอะไรๆง่ายดี สำนักเทพโอสถซื้อยาง่ายดีวิชาไปหาเอาดาบหน้า
กลับมาถามตัวเองเราเด่นเรื่องอะไร มีแต่เรื่องเงินเท่านั้นแหละ แล้วอะไรที่เงินซื้อไม่ได้ ฝีมือ วิชาลับ ยอดอาวุธ แต่ว่าของพวกนี้ในนิยาย ตัวเอกแม่งก็ไปแอบเจอแอบฝึกเอาเองทั้งนั้น ของที่ซ่อนในสำนักส่วนมากมีแต่วิชาโหลๆ ที่ใครๆก็ฝึกกัน เพราะงั้นสำนักกระบี่ดาวดึงส์สุดเท่ตัดทิ้ง
หากวัดดวงฝึดเอาตามรูปแบบหนังกำลังภายใน สำนักชิงชานต้องซ่อนความลับอะไรใว้ให้ค้นเหมือนฮอกวอตส์ อาจมีดันเจี้ยนใต้เมือง ให้มาเปิดหีบตู้ลับ กาชาปองลุ้นโชคกันสนุกสนาน กับอีกสำนัก โอสถ วิชาแพทย์ หากไปตะลุยใต้หล้า สำนักนี้อ่อนด้วยกระจอกสุด เผ่นหนีเนิ่นๆเน้นรักษาตัวรอด ก็ดูปลอดภัยไม่มีความลับอะไรมากพาพวกพี่สาวไปอยู่สำนักนี้ดีกว่า...สโลว์ไลฟ์
"ท่านน้าข้าตัดสินใจแล้ว ข้าจะไปอยู่สำนักเทพโอสถ ฝึกวิชาปรุงยา"
"เจ้าตัดสินใจแล้วเหรอ ทำไมต้องสำนักนี้"
"เพราะข้าไร้ฝีมือ ไปสำนักอื่นก็คงไม่รอด ศึกษาตำรายา วิชาแพทย์ดีกว่า ข้าจะได้พาพวกพี่สาวคนอื่นๆ เดินทางไปกับข้าด้วย"
"เจ้าไม่ได้ไร้ฝีมือหรอกนะ" เอี้บปี้เฉินมองไปข้างนอก "โดยเฉพาะแม่นางเล้งชู่ นางไม่เหมาะกับวิชาหลอมโอสถ"
อี้หนานถอนหายใจ "เป็นเช่นนั้นจริงๆ" อี้หนานมองไกล "ข้าคงต้องแยกจากพวกนางก็คราวนี้ เอี้ยเล่งชู่ข้าจะส่งไปสำนักกระบี่ดาวดึงส์ นางชอบกระบี่มากนอกจากกระบี่นางไม่ค่อยได้จับอาวุธอื่นเลย นางจะต้องไปได้ดีกับกระบี่ดาวดึงส์"
"ข้าก็คิดเช่นนั้น แล้วคนอื่นๆล่ะ"
"เอี้ยหลานพื้นฐานไม่เลวกล้าคิดกล้าทำ แต่นางกลับชอบวิชาตัดเย็บ ข้าอาจให้อยู่สำนักชิงซานที่เดินทางไกล้ที่สุดและสามารถฝากให้ฮัวจิ่วดูแลได้ ส่วนเอี้ยจื่อนางสนิดกับฮัวจื่อก็จริงแต่กลับไม่เหมาะกับการฝึกวิทยายุทธ นางเหมาะสมกับสำนักเทพโอสถ และสุดท้ายเอี้ยโหยว นางสามารถฝึกฝนได้แต่อายุของนางมากเกินไป ไม่เหมาะจะเข้าสำนักใดๆ ข้าอาจให้นางติดตามข้าหรือ เอี้ยจื่อ"
"คำพูดเจ้าเหมือนว่าจะไม่สนใจสำนักเทพโอสถแล้ว"
"อ่า พอข้าคิดว่าต้องแยกกับเอี้ยเล่งชู่ แลัเอี้ยหลาน การที่ข้าแยกจากเอี้ยจื่อและเอี้ยโหยวก็ไม่แตกต่าง หากพวกนางสอบได้..." อี้หนานเปล่ยนสีหน้าจากเศร้าๆ เป็นยิ้มเจ้าเลห์ "ท่านน้าสำนักต่างๆต้องจ่ายเงินเท่าใดถึงจะเข้าได้"
เอี้ยปี้เฉินส่ายหัว "ข้านึกว่าเจ้าจะตั้งใจฝึกซะอีก"
"ข้าต้องเผื่อเหตุการณ์ไม่คาดฝันเสียก่อน กฏเกณของสำนักแต่ละที่ไม่เหมือนกัน เอี้ยจื่อกับเอี้ยโหยวสองคนนี้เทานั้นที่ข้าเป็นกังวล สำนักเทพโอสถ น่าจะให้ท่องชื่อตำรา หายาสมุนไพร ไม่รู้เวลาอีกเพียงเล็กน้อยพวกนางจะทำได้ไหม ไม่สู้วางแผนสำรองแต่เนิ่นๆเอาใว้ ส่วนตัวข้า ถ้าพวกนางเข้าสำนักเทพโอสถได้ ข้าไปเรียกวิชาที่อื่นดีกว่า อาจเป็นสำนักล่องเมฆา..."
"เจ้านี่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาพอถึงวันไม่ใช่ว่าจะเปลี่ยนอีกนะ"
"ก็ไม่แน่" อี้หนานพูดยิ้มๆ "ท่านน้าช่วยบอกข้าด้วยข้าต้องยัดเงินเท่าไหร่ในแต่ละสำนัก"
"หมื่นตำลึง พวกนางทุกคนเข้าได้แน่นอน"
"ดี! เออนึกขึ้นได้ ท่านให้พวกนางกินยาแก่นปรานระดับหนึ่งแล้วหรือยัง"
"ยังอยู่ที่ข้าทั้งเจ็ดเม็ด"
"อีกเม็ดก็ของเจ้า"
"หืม? ตอนนี้ข้ากินได้แล้วเหรอ"
"ใช่เจ้ากินได้แล้ว ร่างกายเจ้าใกล้ปรับสำเร็จแล้ว ตอนนี้เจ้าลองใช้แวนมิติซิอาจจะใช้ได้แล้วก็ได้"
"จริงเหรอ!?"
อี้หนานรีบลุกไปหยิบกล่องที่เก็บแหวนมิติทุกวงเอาใว้ออกมา หยิบแวนห้าวงแรกขึ้นมาถือก่อนเพราะเขาจำไม่ได้แล้ววงไหนเก็บเครื่องประดับเอาใว้
อี้หนานส่งพลังจากนิ้วโป้งผ่านแหวน เขารับรู้ได้ถึงกระแสพลังที่ไกบกบัยยังนิ้วชี้ ตัวแรงเริ่มแปร่งแสงและข้อมูลของสิ่งของในแหวนก็...ไม่มีอะไรเกิดขึ้น อี้หนานเปลี่ยนแหวนไปเรื่อยๆ ในที่สุดแหวนที่เก็บเครื่องประดับเอาใว้เขาก็หาเจอ เขาตั้งสมาธิไปที่สิ่งของแล้วสั่งในใจ
'ออกมา'
เครื่องประดับโผล่ออกมาลอยในอากาศเล็กน้อยก่อนจะตกลงมา
"เจ้าต้องรีบเอามือคว้าเอาใว้ ไม่งั้นมันจะหลุดออกจากพลังปรานของเจ้า"
อี้หนานตั้งสมาธิอีกครั้ง
'เก็บ...' ไม่เกิดอะไรขึ้น อี้หนานเอาแหวนไปใกล้ๆและสั่งเก็บอีกครั้งครั้งนี้เก็บได้สำเร็จ
"เยส!" อี้หนานสูดหายใจยาวแล้วถอนหายใจยาวๆออกมา "ในที่สุดข้าก็ใช้มันได้" อี้หนานหลับตาซึมซับความประทับใจนี้เอาใว้ "พี่สาวโหยวเอาเหล้าผลไม้ออกมาให้ข้า"
เหล้าผลไม้แช่เย็นในตู้แช่ เอี้ยโหยวรินใส่แก้วกระเบี้ยงสองใบให้อี้หนานและ เอี้ยปี้เฉิน
"นี่เจ้าซื้อตู้แช่เย็นมาเหรอ ข้าพึ่งเห็น"
อี้หนานยกเหล้าผลไม้ขึ้นมาจิบก่อนจะกระดกหมดถ้วย และหายใจเข้าออกเบาๆ
"ใช่ข้าซื้อมาเมื่อวานนี้เอง พร้อมกับเหล้าผลไม้นี่ด้วย มีผลไม้แช่เย็นด้วยนะท่านสนใจไหม"
"เจ้าต้องระวังให้ดี เจ้าเด็กทั้งสองของข้าชอบผลไม้มาก ถ้าสองคนนั้นเห็นผลไม้เจ้าต้องหมดตู้แน่ๆ"
"ไม่เป็นไร หมดค่อยซื้อมาอีก"
"ไม่ได้ต้องซ่อนดีๆ เดี๋ยวอิ๋งเอ้อร์กับหลงเอ่อร์ จะกินข้าวไม่ลง"
"ถ้างั้นค่อยเอาออกมาให้พวกเขาหลังอาหารก็แล้วกัน"
"ได้"
อี้หนานจิบเหล้าผลไม้อีกพักนึงก็สั่งให้นำไปเก็บ
"เรียกพวกพี่สาวมารวมกันข้ามีเรื่องจะประกาศ"
เอี้ยโหยวออกไปเรียกคนอื่นๆมารวมกัน
"วันที่ยี่สิบนี้ ข้า เอี้ยอี้หนานจะเดินทางไปเข้าร่วมสำนัก...ล่องเมฆา!"
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น