ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เทพยุทธพลังแฮกเกอร์

    ลำดับตอนที่ #9 : จอมยุทธสาวฮั่วจิ่ว

    • อัปเดตล่าสุด 22 ส.ค. 61


        หลังจากที่อี้หนานพูดจนจบก็ไม่มีใครพูดอะไรต่อ บรรยากาศเริ่มหนักขึ้น

        "เอาล่ะเรื่องแซ่เอี้ยของข้านั้น ข้าก็ขอยืนยันแล้วว่า ข้าไม่ใช่คนของท่าน ท่านก็อย่ามาเหมาข้ารวมกับท่านเลย ให้ท่านถือซะว่า ข้าเป็นคนรู้จักที่มาเยี่ยมเยียนเท่านั้น"

        "ย่อมเป็นเช่นนั้น" เอี้ยยี่เอ่ยตอบ

        "งั้นข้าขอเริ่มพูด จุดประสงค์ที่ข้ามาในวันนี้ เลยก็แล้วกัน"

        "เนื่องจากข้าเป็นพ่อค้า พ่อแม่ข้าก็เป็นพ่อค้าแม่ค้า ข้าโตมาอย่างสงบสุข เงินทองไม่มีขาด แม่ของข้าก็ไม่ได้บังคับให้ข้าฝึกยุทธ"

        พูดถึงตรงนี้ อี้หนานก็ยกชาขึ้นมาจิบ

        "ตอนนี้ที่บ้านของข้ามีสาวใช้สี่คนและคนงานอีกคน ข้าอยากหาอาจารย์หญิงซักคน มาสอนวรยุทธให้พวกนางและตัวข้า เป็นเพราะข้าแซ่เอี้ย ไปไหนมาไหนก็ได้ยินเรื่องของตระกูลเอี้ยผู้เชี่ยวชาญวรยุทธที่เก่าแก่ อีกทั้งลุงยี่ก็ชวนข้ามาเที่ยวที่นี่ ข้าจึงตั้งใจมาทำการค้ากับท่าน... อ๊ะเรื่องวิชาที่ฝึกเอาทั่ว ๆ ไปก็พอ ไม่ต้องเอาเคล็ดลับ วิชาประจำตระกูลอะไร เพราะข้าไม่ได้สนใจอะไรพวกนั้น พวกท่านสนใจทำการค้ากับข้าไหม"

        "เรื่องนี้..." คนอื่น ๆ มองหน้ากัน "ขอเวลาใคร่ควรซักนิด" เอี้ยยี่เป็นคนตอบ

        "ถ้างั้นก็รบกวรแล้ว เรื่องเงินไม่มีปัญหา หากท่านเตรียมพร้อมเสร็จเมื่อไหร่ ก็ให้ไปหาข้า ที่บ้านได้เลย พวกท่านทราบแล้วว่าข้าอาศัยอยู่ที่ใด"

        หลังจากพูดคุยทั่วไปอีกเล็กน้อย อี้หนานก็เดินทางกลับ เอี้ยยี่ไปส่งที่หน้าประตู


        "เด็กหนุ่มคนนี้น่าตกใจจริง ๆ อายุแค่สิบสี่ สิบห้า คำพูดกลับเต็มไปด้วยความรู้ความห้าวหาญ พูดจาฉะฉานชัดเจนถึงเพียงนี้" เอี้ยหยางพูดกับทั้งสามคน

        "คำพูดสีหน้าสายตาล้วนมั่นคง ไม่มีท่าทางว่าโกหกอะไร อีกทั้งยังไม่ต้องการอะไรจากเราอีก ท่านพ่อข้าว่า..." เอี้ยปี้เฉินแสดงความคิดเห็น

        "ข้าไม่เชื่อใจเขา! อยู่ ๆ ก็โผล่มา ต้องสืบให้ดีซะก่อน ไม่งั้นตระกูลเอี้ยเราจะต้องจบสิ้นแน่ ๆ "

        "จบสิ้นอะไรตาแก่! อีกห้าปีก็ครบกำหนดจ่ายหนี้ นั่นแหล่ะที่เรียกว่าจบสิ้น เรื่องของเอี้ยอี้หนานข้าจัดการเอง"

        "ใครคือตาแก่ เจ้าดูหน้าเอี้ยยี่ซิ แก่กว่าข้าเสียอีก!"

        เอี้ยยี่ได้ฟังคำพาลของพี่ชายน้องสาวตัวเอง ก็ได้แต่ถอนหายใจ

        "ท่านพ่อเรื่องนี้ท่านตัดสินเถอะ"เอี้ยยี่แสดงความคิดเห็น

        เอี้ยหยางที่ครุ่นคิดก็เอ่ยคำตัดสิน

        "เอี้ยหวินเจ้าไปสืบเรื่องของอี้หนาน ก่อนที่จะเดินทางมาเมืองนี้ เอี้ยปี้เฉินเจ้าอยากจัดการเรื่องของอี้หนาน ข้าอนุญาต รออีกสามวัน เจ้าค่อยไปสอนยุทธให้กับอี้หนาน เอี้ยยี่ส่วนเจ้า รวบรวมเรื่องของอี้หนาน ตั้งแต่มาถึงเมืองนี้ และมารายงานให้แก่ข้า"

        "ครับ/ค่ะ ท่านพ่อ"

        ตามแผนของอี้หนานคือจ้างคนสกุลเอี้ย เพื่อแสดงให้เห็นถึงความมั่งคั่งของตน และค่อย ๆตะล่อมให้เชื่อใจ ใช่แล้วสี่คนในห้องนั้น เอี้ยหวินคือคนที่พูดได้ใกล้เคียงที่สุด แต่ก็ยังไม่ถูกต้องนัก เพราะอี้หนานจะใช้ประโยชน์จากกระกูลเอี้ย ย่อมไม่ปล่อยให้ตระกูลล่มสลายอย่างแน่นอน

        แต่อี้หนานก็พลาดที่นึกว่าจะคุยกันง่าย ๆ เอาเงินฟาดเอาก็จบ แต่เรื่องกลับไม่ง่ายเช่นนั้น จึงได้แต่กลับคฤหาสน์ไปโดยดี

        "พี่สาวทุกท่านไม่เป็นอะไรนะ"

        "พวกข้าไม่เป็นอะไร นายท่านโปรดสบายใจ"

        "พี่สาวเล่าเรื่องคนแซ่เกาให้ข้าฟังหน่อย"

        "คุณชายเกา เป็นแขกของข้าน้อยมาประมาณสองปีมาแล้ว ชื่อเต็มคือเกาหลง อายุยี่สิบห้าปี เป็นลูกชายของขุนนางเกา จึงถูกตามใจตั้งแต่เด็ก เป็นผู้ฝึกวรยุทธ ถ้าข้าจำไม่ผิดอยู่ขั้นกำเนิดปรา
    "

        "ไอ้ขั้นกำเนิดปรา
    นี่เก่งมากไหม"

        "ผู้ฝึกยุทธย่อมต้องเก่งกาจเหนือคนธรรมดา ให้เอี้ยเล้งจูเล่าเรื่องนี้จะดีกว่า"

        "เรียนนายท่าน ผู้ฝึกยุทธ จะมีระดับชั้นต่าง ๆ อยู่ ในแต่ละขั้นจะแบ่งได้สิบระดับ ขั้นแรกปรา
    ก่อราก เมื่อถึงขั้นสิบ จะมีพลังเทียบเท่าคนสิบคน และเมื่อทะลวงขั้นกำเนิดปรา ได้จะมีพละกำลังเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งเท่าตัว"

        "เก่งขนาดนั้นเชียว แล้วทำไมกลางตลาดเมื่อครู่ เกาหลงถึงไม่ได้ลงมือ สั่งให้ลูกน้อยออกหน้าแทน"

        "เป็นนิสัยของคุณชายเกา เขาบอกว่าผู้ฝึกยุทธไม่ควรลงมือกับคนธรรมดา จึงชอบให้ลูกน้องลงมือแทน"

        "ใช้หลายคนรุมคน ๆ เดียว มันต่างกันตรงไหนวะนั่น เอาล่ะ ๆ ให้ข้าเดาต่อ ไอ้เกาหลงนี่จะต้องไปเที่ยวหอนางโลมเพื่อไปหาเจ้า พอรู้ว่าเข้าถูกไถ่ตัวก็คงรู้สึกขายหน้า ทำเป็นเสแสร้งมาไถ่ตัว ถ้าจะไก่ตัวจริง ๆ คงไม่ต้องใช้เวลาถึงสองปีหรอก หึ!"

        "คงเป็นเช่นนั้น"

        "แล้วไอ้ระดับปรา
    ขั้นต่าง ๆ นี่ จะรู้ได้ไงว่าอยู่ขั้นไหนอะไรยังไง สามารถตรวจวัดได้ไหม"

        เอี้ยเล้งจูหยักหน้า "มีหินทดสอบพลังปรา
    อยู่เจ้าค่ะ แต่ว่าคนธรรมดาไม่สามารถใช้ได้ เพราะต้องควบคุมพลังเพื่อโคจรปรา และส่งออกไปภายนอกร่างกายเพื่อให้พลังได้สัมผัสกับหอนทดสอบ และผู้ฝึกยุทธที่เก่งกาจจะสามารถครวจจับระดับพลังอย่างคร่าว ๆ ได้อีกด้วย แต่ถ้าเจอผู้เก่งกว่า ก็จะสามารถรับรู้แรงกดดัน แต่ไม่อาจระบุพลังได้"

        "อ่าฮะ งี้คนอื่นก็รู้หมดล่ะซิ ว่าข้าอ่อนด้อยขนาดไหน ดีแล้วที่ไม่เคยทำกร่างอะไร..." เอี้ยอี้หนานกระพริบตาปริบ ๆ มองรอบ ๆ ตัว

        "อะแฮ้ม! มา ๆ กินข้าว ๆ "

        หลังจากกินเสร็จ ซักพักนึงพ่อค้าร้านขายเครื่องประดับ ก็เดินทางมาถึง

        "สวัสดีคุณชาย"

        "สวัสดีท่านพ่อค้า ในหีบคือทองหนึ่งพันห้าร้อยตำลึง และนี่คือตั๋วแลกเงินหนึ่งพันตำลึง"

        "เช่นนั้นข้าขอตรวจสอบทองในหีบซักครู่ นี่คือแหวนที่ท่านสั่งเอาไว้ทั้งห้าวง เครื่องประดับที่ข้าแถมให้อยู่ในแหวนแล้ว"

        อี้หนานจึงเล่นแหวนในมือซักครู่ ในระหว่างที่พ่อค้ากำลังตรวจนับทองในหีบ

        "เอ่อ.. ท่านพ่อค้า ข้าจะเอาของในแหวนเข้าออกได้ยังไง?"

        "ง่าย ๆ เพียงท่านถ่ายพลังปรา
    เพียงเล็กน้อย ใส่แหวนเท่านั้นเอง"

        พ่อค้าก็เอาทองในหีบ ใส่แหวนและนำออกมาให้อี้หนานดู

        ถึงว่าละซิ ตอนที่พ่อค้าผลิกใช้แหวนเอาของเข้าออก ตัวแหวนถึงมีแสงเรืองออกมา ที่แท้ก็ใช้พลังปรา
    ด้วย

        อี้หนานนั่งนิ่งแสร้งทำว่าตรวจสอบเรียบร้อย และเมื่อพ่อค้าตรวจสอบทองในหีบเสร็จ ก็ขอตัวลา อี้หนานลุกไปส่งที่หน้าประตู

        "เหี้ยเอ้ย! ใช้ปราณไม่ได้นี่ทำให้โลกนี้อยู่ยากจริง ๆ ต้องหาวิธีใช้ปรา
    ให้ได้ซะแล้ว เอาแค่ใช้งานแหวนมิติได้ก็พอแล้ว"

        อี้หนานรู้สึกเสียหน้า ที่ซื้อแหวนมาตั้งห้าวงแต่หลับใช้ไม่ได้เสียนี่

        "เอี้ยเล้งชู่ มานี่หน่อย"

        "นายท่านมีอะไรให้บ่าวรับใช้"

        "ไปสำนักงานรับจ้างกับข้า"

        "ไปกันสองคนแค่นั้นเหรอนายท่าน" เอี้ยเล้งชู่มองอย่างสงสัย

        "หม่าเทียนย่อมต้องไปด้วย"

        เอี้ยเล้งชู่ถอนหายใจเบา ๆ

        ทั้งสามคนจึงเดินทางไปสำนักงานจัดหางาน

        จากที่ฟัง ๆ ดูสำนักงานนี่มัน น่าจะคล้าย ๆ กับพวกกิลด์นักพจญภัย ถ้างั้นเป็นธรรมดาที่จะมีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้น

        เมื่อมาถึงสถานที่ ก็มองสำรวจรอบอย่างระแวง

        "เจ้าเคยมาที่นี่รึเปล่า"

        "ย่อมเคยมาเจ้าคะ ได้ติดตามแม่เล้ามา ติดต่อจอมยุทธรับจ้างไปช่วยงานเป็นครั้งคราว"

        "ถ้าอย่างนั้นเจ้าช่วยจัดการดำเนินเรื่องให้ทีก็แล้วกัน"

        "ได้เลยเจ้าคะ" เอี้ยเล้งชู่ตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงมั่นใจ และเดินไปพูดคุยกับพนักงานซักพัก จึงเชิญเข้าไปคุยที่ห้องส่วนตัว

        "เรียนนายท่านทั้งสอง ข้ามีนามว่าอ้วงลี่ เชิญกล่าวธุระมาได้"

        เอี้ยเล้งชู่หันมาสบตากับอี้หนาน อี้หนานจึงพยักหน้าเป็นเชิงอนุญาตให้เธอจัดการเรื่องนี้

        "ข้าและนายท่าน ต้องการมาเชิญจอมยุทธหญิงไปสอนเป็นการส่วนตัว"

        "ระดับของผู้ฝึกอยู่ที่ขั้นใด"

        "มีทั้งหมดห้าคน มีนายท่านที่นั่งอยู่ตรงนี้ ข้าพี่สาวน้องสาวข้าอีกสี่คน ล้วนแล้วแต่เป็นผู้เริ่มต้น"

        "ไม่ยาก ๆ แล้วพวกท่านต้องการเงื่อนไขพิเศษอะไรอีกไหม ว่าจ้างนานเท่าไหร่ สอนแบบตามเวลาหรือนอนพักที่นั่น"

        เอี้ยเล้งชู่หันมาขอความช่วยเหลือจากอี้หนาน

        "ข้าขอทดลองงานก่อนช่วงนึงก่อน ซักสามวัน แบบพักกับพวกข้า อายุอย่าให้มากนัก จะได้สนิดกับสาว ๆ ในบ้านข้าได้"

        "จอมยุทธหญิง สอนวิชาสำหรับผู้ฝึกเริ่มต้น แบบพักอาศัย สัญญาสามวัน เงื่อนไขอายุไม่เยอะ นายท่านโปรดรอซักครู่ ข้าจะไปเรียกคนมาให้"

        อี้หนานจิบชารอซักพักนึงก็มี หญิงสาวไม่ซิเด็กสาว อายุสิบหกปีเข้ามา แนะนำตัว

        "สวัสดีนายท่านทั้งสอง ข้ามีชื่อว่า ฮัวจิ่ว เป็นศิษย์ภายนอกของสำนักชิงชาน พลังยุทธระดับกำเนิดปรา
    ขั้นที่เจ็ด"

        หืม? สำนักชิงซาน เหมือนเคยได้ยิน จึงหันหน้าไปมอง เอี้ยเล้งชู่ และกระซิบถามเบา ๆ

        "สำนักชิงซานนี่ ทำไมคุ้น ๆ "

        เอี้ยเล้งชู่มองนายท่านของตนด้วยความแปลกใจ "เรียนนายท่าน เมืองหัวอาน มีสามสำนักสี่ตระกูลใหญ่ สำนักชิงซานคือหนึ่งในนั้น"

        "อ๋อ มิน่าล่ะ แม่นางฮัดจิ้วนี่มาจากสำนักชื่อดังนี่เอง"

        "ชื่อของข้าคือ ฮัว จิ่ว!" มีเสียงกระซิบเขา ๆ ดังมาที่หูของอี้หนาน

        อี้หนานจิงหันกับไปยิ้มเบา ๆ ให้กับแม่นางน้อยที่มีสีหน้าโกรธเล็กน้อย

        "นับถือ ๆ วิชาส่งเสียงด้วยพลังปรา
    ที่ล่ำลือ" จากในนิยาย "เช่นนั้น ค่าจ้างคิดยังไง"

        "วันละสิบตำลึงทอง!"

        "ตกลง!"

        ฮัวจิ่วแปลกใจเล็กน้อย เพราะราคาที่เรียกไปนั้นถือเป็นเท่าตัวของรายได้ปกติ แต่น้องชายคนนี้กลับ ตอบตกลงอย่างง่ายดาย

        "ขอทราบนามของนายท่าน"

        "เรียกข้าอี้หนาน ส่วนนี่พี่สาวเล้งชู่ แม่นางฮัวจิ่ว สามวันนี่เพียงพอไหมที่จะเรียนรู้การใช้ปรา
    แบบง่าย ๆ "

        "พรสวรรค์ของแต่ละคนล้วนไม่เท่ากัน แต่ยิ่งอายุน้อยก็จะฝึกได้อย่างรวดเร็ว"

        "แล้วอย่างข้าปีนี้อายุสิบสี่ถือว่าเยอะไหม"

        "ตัวข้าฝึกตอนเจ็ดขวบ พวกที่มีฐาณะล้วนเรื่อมฝึกตั้งแต่สี่ถึงห้าขวบ อย่างท่านที่ร่างกายยังโตไม่เต็มที่ถือว่าไม่สายเกินไปที่จะฝึก แต่พื้นฐานจะไม่แน่น ไม่อาจฝึกฝนไปยังระดับพลังขั้นสูงได้"

        "แล้วถ้ากินยาปรา
    เยอะ ๆ ล่ะ"

        "พวกคุณหนูคุณชายล้วนแล้วแต่กินอาหารเสริมปรา
    ยาเม็ดล้ำค่า อาบสมุนไพรตั้งแต่เด็ก ๆ อายุเท่ากับนายท่าน ก็ฝึกถึงขั้นปราฟ้าได้แล้ว"

        "...พี่สาว เอ่อ...จริง ๆ นะ ข้าไม่รู้เรื่องอะไรเลย ไอ้ระดับพลังอะไรนี่จำชื่อไม่ได้ซักนิด เดี๋ยวท่านจดให้ข้าไปท่องดูก่อนนะ"

        ฮัวจิ่วมองอี้หนานด้วยสายตาเหมือนกับเจอลิงที่เพิ่งลงจากเขา เหมือนกับเขาไม่มีความรู้ใด ๆ ในโลกมนุษย์ จึงใจเย็นลง และค่อย ๆ อธิบายช้า ๆ

        ระดับปรา
    แต่ละขั้นมีสิบระดับ ในทุก ๆ ช่วงรอยต่อของแต่ละขั้นพลังจะเพิ่มเป็นทวีคูณ

        ปรา
    ก่อราก    มีพลังเทียบเท่าหนึ่งคนในแต่ละระดับ
        กำเนิดปรา
        มีพลังเทียบเท่าห้าคนในแต่ละระดับ
        ปรา
    ปฐพี    สามาต่อยหินแหลกโดยที่ไม่ได้รับบาดเจ็บ
        ปรา
    ฟ้า    สามารถกระโดดราวกับเหาะเหิน
        ปรา
    แก่นกำเนิด    ตกผลักพลังงานในตันเถียน
        ปรา
    กำเนิดปฐพี    ปล่อยคลื่นพลังปราทำลายระยะไกลได้
        ปรา
    กำเนิดฟ้า    ยืนอยู่บนท้องฟ้าได้
        ปรา
    แก่นแท้        อายุกลายเป็นสองร้อยปี


        "ท่านรู้จัก ยาแก่นปรา
    ระดับหนึ่ง ไหมถ้าข้ากินไปซักสิบเม็ด ข้าจะสามารถทำลวงได้ถึงขั้นใด"

        "ข้าย่อมรู้จัก มันเป็นยาที่ดีที่สุด ที่ผู้ไม่มีวรยุทธสามารถรับประทานได้ แต่ว่าต่อให้ท่านกินสิบเม็ด อ่านก็อาจจะไม่สามารถทะลวงระดับกำเนิดปรา
    ได้โดยง่าย ต้องต้องมีพื้นฐานที่แน่นพอเสียก่อน"

        "แล้วข้าจะรู้ได้ยังไงว่าถ้ามีพื้นแน่นพอแล้ว"

        "ท่านก็ต้องฝึกฝนไปเรื่อย ๆ จนหว่าจะทะลวงระดับได้"

        แม่งสุดท้ายก็ต้องฝึกนาน ๆ พี่อยากได้วิชาลัดอ่ะ

        "แล้ววิธีที่เร็วที่สุดคืออะไร"

        "ข้าได้บอกท่านไปแล้ว กินอาหารเสริมปรา
    ยาเม็ดล้ำค่า อาบสมุนไพร สามวิธีนี้คือวิธีที่เร็วที่สุดสำหรับผู้ฝึกขั้นแรก"

        "งั้นพวกเราไปซื้อของพวกนี้กัน เออข้าได้ซื้ออาหารเสริมปรา
    มาบ้างแล้ว ท่านช่วยพาข้าไปซื้อของอย่างอื่นก็แล้วกัน"

        "เชิญคุณชาย"


        วนกลับมาร้านขายยาสกุลจาง ทำเอาอี้หนานอยากหันหน้ากลับ

        "แม่นางฮัวจิ่ว ท่านจัดการเรื่องพวกยากิน ยาอาบให้ข้าที ข้าขอเดินเล่นข้างนอกอีกครึ่งชั่วยามข้าจะกลับมา นี่เงินสำหรับจัดซื้อ เอาแบบที่ท่านคิดว่าเร็วที่สุดสำหรับคนห้าคน"

        อี้หนานยัดตั๋วแลกเงินใส่มือ สามพันห้าร้อยตำลึง

        "ท่านช่วยขอบิล...ใบราคาของที่ท่านซื้อมาด้วย เดี๋ยวข้ากลับมา"

        อี้หนานและเอี้ยเล้งชู่ เดินออกไปเที่ยวตลาด กันสองคน ปล่อยให้ฮั่วจิ่วจัดซื้อยาอยู่คนเดียว แน่นอนว่าหม่าเทียนก็เฝ้าม้าอยู่ข้าง ๆ ร้านขายยา

        เมื่ออี้หนานเดินทางหลับมา ตรวจสอบสินค้า ก็เจอยาใหม่สองชนิด สมุนไพรสำหรับอาบระดับเริ่มต้น ชุดละ 100 ตำลึง ตอนอาบต้องเติมสมุนไพรเรื่อย ๆ ยาชำระกาย ล้างสิ่งตกค้าง ไม่เพิ่มพลัง เม็ดละ 20 ตำลึง แล้วก็ชุดถังไม้สำหรับอาบ ห้าชุด

        อี้หนานมองถังอาบสมุนไพรที่มีขนาดเล็กมาก คือเวลาเข้าไม่มีปัญหา แต่เวลาออกต้องให้คนช่วยประคองออก

        "ถังมันเล็กไปมั้ง แม่นางฮัวจิ่ว เอาใหญ่กว่านี้หน่อย ไม่ก็เอาแบบห้าคนลงไปแช่พร้อมกันเลย!"

        ฮัวจิ่วกะลังจะอธิบาย เพื่อความประหยัดยา แต่เจอประโยคหลังก็ทำเอาอึ้งไปซักพัก

        คุณชายท่านนี้มีความคิดผิดแปลกทำเอาเราแปลกใจหลายครั้งหลายคน ตอนแรกก็ไม่รู้เรื่องที่แม้แต่เด็กเจ็ดขวบก็รู้ ต่อมาก็ความคิดสัปดนพรรค์นี้อีก หลุดมาจากป่าที่ไหนกัน

        "เพื่อประหยัดตัวยา มันต้องมีขนาดพอดีตัวนี่และ ส่วนถังใหญ่หลายคนเข้าไปรวมกัน จะไม่ค่อยได้ผลนัก ภายหลังต้องมีการปรับตัวยาให้เข้ากันกับแต่ละบุลคล"

        "น่าเสียดาย ๆ แต่เอาถังที่ใหญ่กว่านี้หน่อยเถอะ เข้าไปนั่งขดตัวในถังแคบ ๆ อึดอัดตายพอดี แต่ละครั้งต้องแช่นานขนาดไหนกัน"

        "ก็ตามสะดวก หนึ่งถึงสามชั่วยาม มากกว่านี้รางกายอาจไม่ดูดซึม ต้องออกมาอาบน้ำ รำมวยให้ให้ตัวยาในร่างกายเปลี่ยนเป็นพลังงานภายใน จึงค่อยกลับมาแช่ต่อ"

        "สามชั่วยามเรอะ พอดีเลย" พอดีกับการหลับหลังจากเสกทองพอดี "เอาเป็นว่าหาถังใหญ่ให้ลุกนั่งสะดวกกว่านี้หน่อย เปลืองสมุนไพรช่างมันเดี๋ยวข้าให้เจ้าออกมาซื้อเพิ่ม เอาที่มันลุกนั่งสบาย ๆ หน่อย...เอาเท่าถังอาบน้ำทั่วไปก็แล้วกัน"

        "แต่ถังอาบน้ำนี่มันใหญ่เกือบสองเท่าเลยนะนายท่าน"

        "เหอะน่า มา ๆ เปลี่ยนถังพวกนี้ให้หน่อย"

        หลังจากจ่ายเงินเพิ่มอีกเล็กน้อย ก็ได้ถังอาบน้ำขนาดเล็กสำหรับแช่คนเดียวมาห้าถัง ให้คนใส่รถขนตามรถม้ากลับคฤหาสน์

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×