ลำดับตอนที่ #5
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ย้ายเข้าคฤหาสน์
ตื่นขึ้นมาเพราะการปลุกของสองสาวงาม อาหารเตรียมพร้อมเอาไว้แล้ว ล้างหน้ากินข้าว แล้วเรียก แม่เล้าเข้ามาตกลงจ่ายเงินไถ่ตัวทั้งสองสาว ตัวแลกเงินร้อยตำลึงกับเงินอีกเจ็ดสิบตำลึง จ่ายแถม ๆ ไป ให้จัดซื้อเสื้อผ้าให้สาว ๆ ทั้งสองคน
บอกให้ทั้งสองสาวจัดการเรื่องของตัวเองไปก่อน สักพักจะมารับ พร้อมกับเรียกรถม้าพร้อมกับหีบใส่ผ้าสองใบที่ซื้อต่อแม่เล้ามา
พอถึงค่าพักทหารก็สั่งให้คนอื่น ๆ รอข้างนอก อี้หนานยกหีบเข้ามาด้านในทั้งสองหีบ หีบหนึ่งใส่ห้าร้อยตำลึงเงิน อีกหีบหนึ่งใส่ สี่ร้อยตำลึงทอง พร้อมกับเสื้อผ้าที่ติดตัวพกไปด้วย อี้หนานลากหีบที่หนักราวสามสิบกิโลออกมาแล้วให้สารถีช่วยยกเข้าไปในรถ
หนักแบบนี้ใส่เงินเหรอครับ สารถีถามออกมา อี้หนานก็ตอบเลี่ยง ๆ ไปว่าใส่หนังสือ อีกหีบหนึ่งใส่เงิน ด้วยความที่ ที่นี่เป็นค่ายทหารจึงไม่กลัวเท่าไหร่นัก แต่ก็ไม่กล้าประมาทเลยตอบส่ง ๆ ไป
"ไปสำนักงานซื้อขายบ้านพัก... ไปร้านแลกเงินก่อนแล้วค่อยไปสำนักงานซื้อขายบ้าน"
ผ่านไปราวห้านาทีก็ถึงที่หมาย ให้สารถียกหีบทั้งสองใบเข้าร้านรับแลกเงิน แลกมาเป็นร้อยตำลึงสี่ใบ สิบตำลึงสิบสองใบ ใส่คาหีบไว้สิบตำลึงเงินกับสิบตำลึงทอง
สรุปว่าตอนนี้มี ตั๋วแลกเงินร้อยตำลึงสี่ใบ สิบตำลึงสิบสองใบ ตำลึงทองติดตัว สิบแปดตำลึง ตำลึงเงินติดตัวอีกสิบตำลึง ในหีบมีอีก สิบตำลึงเงิน สิบตำลึงทอง บ้านหลังหนึ่งมันจะราคาซักเท่าไหร่กันเชียว... หลังเล็ก ๆ นะไม่ใช่คฤหาสน์
พอไปถึงก็บอกงบสี่ร้อยตำลึง ก็ให้คนนำทางขึ้นรถมาด้วยกัน พร้อมแนะนำบ้านหลายหลังให้ชม สุดท้ายก็ไม่พอใจเท่าไหร่จึงเพิ่มงบไปอีกเท่าตัว บอกจ่ายผ่อน ทางนายหน้าก็ยิ้มรับไม่มีปัญหา สุดท้ายได้คฤหาสน์เก่าหลังหนึ่ง ด้านหลังมีสระบัว และลานกว้าง ด้านหน้าร่มรื่น เหมาะกับการรับแขก จึงทำสัญญาขายกันเสร็จสรรพในราคาเจ็ดร้อยตำลึง อี้หนานจ่ายให้ก่อนครึ่งหนึ่ง อีกครึ่งให้มารับอีกหนึ่งให้มารับพรุ่งนี้ วันนี้ไม่ได้เตรียมมา นายหน้ายิ้มหน้าบาน คุณชายท่านนี้จ่ายเงินรวดเร็วจริง ๆ
พอได้บอกชื่อว่าเอี้ยอี้หนานไป คนขายก็อึ้งมองหน้าแบบงงพร้อมสับสน
"มีอะไรเหรอ นายหน้า"
"คือไม่ทราบว่าคุณชายคือคนตระกูลเอี้ยเสียมารยาทแล้ว แต่ที่ตกใจไม่ใช่แค่แช่ของคุณชาย แต่ตกใจที่เจ้าของบ้านที่บอกขายก็แซ่เอี้ยเหมือนกัน"
"ห๊ะ!? ...เอ่อ เอี้ยที่อยู่ที่นี่เป็น... ข้าไม่ใช่คนในตระกูลเอี้ยน่ะ พ่อของข้าทำการค้าขายทางเรือ ข้าเดินทางมาทำการค้าที่นี่ และติดใจเมืองนี้เลยว่าจะซื้อบ้านเพื่อทำการค้า ข้ารับซื้อผ้าเนื้อดีราคาแพง เครื่องประดับที่มีราคาสูง ถ้าสนใจ หรือแนะนำลูกค้ามาให้ ข้าจะให้ค่านายหน้าหนึ่งส่วน ว่าง ๆ ก็แวะมาได้นะ"
"แน่นอน ๆ รบกวนคุณชายเอี้ยแล้ว"
วางหีบเอาไว้ในตู้เหล็กหนา พร้อมกุญแจหนึ่งดอก กลัวทำกุญแจหายจริง ๆ เดี๋ยวไปหาร้านทำกุญแจสำรองไว้อีกดอกดีกว่า
พอเก็บหีบทั้งสองเสร็จ ก็ออกเดินทางไปรับ เจียวโหยวเจียวหลานมีของใส่หีบห้าหีบ ส่วนมากเป็นเสื้อผ้าเครื่องประดับของใช้ส่วนตัวจะอยู่ในห่อผ้า
"พวกเจ้าสองคนมีใครทำอาหารได้มั้ง" ทั้งสองยกมือ "ดี ๆ ถ้างั้นเอาของไปเก็บก่อน แล้วเราสามคนออกไปหาซื้อของเข้าบ้านกัน ข้าเพิ่งย้ายมาอยู่ยังต้องจัดการอะไรอีกหลายอย่าง"
อีกด้านหนึ่งนายหน้าก็ไปบอกข่าวดีให้แก่ตระกูลเอี้ย ที่ขายบ้านได้เต็มราคา และบอกผู้ซื้อใช้ชื่อว่าเอี้ยอี้หนาน เป็นชายหนุ่มอายุราว สิบสี่
หลังจากคุยกับอีกหลายคนก็ไม่มีใครรู้จักสักคน
"เขาบอกว่า พ่อทำการค้าทางทะเล เอี้ยอี้หนานคนนี้รับซื้อเครื่องประดับราคาแพง และเสื้อผ้าอย่างดี"
"สกุลเอี้ยที่ทำการค้าทางทะเลเหรอ ข้าไม่เคยได้ยินมาก่อน แต่แผ่นดินนี้กว้างขวาง อี้หนานคนนี้อาจช่วยเหลือพวกเราก็ได้ เอาล่ะ ข้าตัดสินใจแล้ว พรุ่งนี้ตอนไปรับเงินอีกครึ่งหนึ่ง ข้าจะเดินทางไปด้วย"
ทางด้านเอี้ยอี้หนานกับสองสาวก็ช่วยกันเลือกเสื้อผ้าให้กับเด็กหนุ่ม ซื้อเหมาไปหลายสิบชุด สุดท้ายก็ไปเจอของที่น่าสนใจสุด ๆ แหวนมิติ ปริมาตรของแหวนจะเป็นลูกบาศก์ แหวนขนาดหนึ่งเซียะ ให้เจ้าของร้านแสดงขนาดให้ดู ยาวประมาณ 30 เซนติเมตร (1 เชียะ ประมาณ 33.33 ซม. หรือ 1/3 เมตร) ราคาห้าร้อยตำลึง
อี้หนานสนใจมากพอถามว่ามีขนาดใหญ่กว่านี้หรือไม่ก็บอกว่าไม่มีแล้ว ทางร้านไม่ได้รับมาขาย ของที่แพงเกินไปคนธรรมดาซื้อไม่ไหว ทางร้านรับแหวน 1 เซียะ ครึ่งปีมานี้ทางร้านนำเข้าแหวนมาเพียงสิบวงเท่านั้น ตอนนี้เหลือห้าวง
เหมา แบบนี้ต้องเหมา "ข้าขอจองเลยได้ไหม ทั้งสี่วงเลย อีกสามวันให้ท่าไปที่บ้านหลัง.....ตรงถนน.... ข้าอาจจะเตรียมตำลึงทองไว้ให้ท่าน ไม่ใช่ตั๋วแลกเงินนะ"
"ทั้งหมดเป็นเงิน สองพันกับอีกห้าร้อยตำลึงทอง ขอรับคุณชาย"
"แน่นอนจ่ายสดด้วย แต่ต้องรอสามวัน... เอ่อเจ้าของร้านขอของแถมด้วยซิ ข้าไม่ขอลดราคา แต่ท่าควรจะแถมพวกเครื่องประดับเล็ก ๆ น้อยให้แก่ข้าบ้าง" พลางเหลือบตาลืมตาไปทางสองสาวที่กำลังเลือกเครื่องประดับอยู่
"ถ้าคุณชายเหมาแหวนทั้งหมดจริง ๆ ละก็ ได้! ให้แม่นางทั้งสองเลือกกันได้ตามสบาย อีกสามวันข้าจะแถมไปให้ อย่าพอเหมาะ"
"อย่างพอเหมาะเนอะ ....พี่สาวโหยวพี่สาวหลาน เลือกเครื่องประดับไปเยอะ ๆ ชอบชิ้นไหนก็บอกเจ้าของร้านได้เลย ข้าได้ซื้อของราคาแพงมาก ๆ จากเขา เขาจะให้เป็นของแถม เลือกไว้เยอะหน่อย เผื่อชิ้นไหนเขาไม่แถมอะไรยังไง ก็ให้เขาเอาที่เหลือมา"
สองสาวเลือกเครื่องประดับร่วมยี่สิบชิ้น เจ้าของร้านก็แนะนำประวัติ วิธีการสร้างแบบต่าง ๆ ให้แก่พวกเธอโดยไม่มีสีหน้าที่ไม่พอใจ
"เถ้าแก่ชิ้นไหนราคาเท่าไหร่ท่านค่อยคิดกับข้าทีหลังนะ ข้าจะฝึก ๆ ดูสินค้าเหล่านี้ อีกสามวันเจอกัน"
"ได้ ๆ อีกสามวันเจอกัน"
วันนี้อี้หนานพอใจมากเจอแหวานมิติในตำนาน พ่อให้เจอกระบี่วิเศษ สุดยอดเคล็ดวิชา ก็ไม่อาจกระตุ้นความอยากเป็นเจ้าของเท่าแหวนมิติอีกแล้ว เป็นไอเทมที่ใช้งานบ่อยที่สุดโดยแท้จริง แถวตอนนี้พ่อให้ได้ของอ่านอื่นมาก็ไม่ได้อยู่ดีไม่เหมือนแหวนพวกนี้ ไม่ต้องฝึกอะไรก็ใช้ได้ ยอดเยี่ยมจริง ๆ
ตอนนี้เงินติดตัวราวร้อยห้าสิบตำลึงทอง แบ่งให้สาว ๆ พกไว้คนละห้าตำลึงทอง คิดอีกที เงินเดือนทหารยามเดือนละแค่สองตำลึงเงิน... ทหารฝึกหัด ๆ จึงสั่งออกไปว่าให้ใช้ถึงสิ้นเดือนหน้า ถ้ามีรายจ่ายอะไรที่มีราคาแพงก็ค่อยว่ากันอีกทีหนึ่ง
"จากนี้พวกพี่สาวก็ไม่ใช่แซ่เจียวแล้ว พี่สาวเป็นคนของข้า งั้นก็ใช้แซ่ข้าไปก็แล้วกัน ได้ยินว่าบ่าวที่นี่ก็ใช้แซ่เดียวกับเจ้านายได้"
""ขอบคุณค่ะ คุณชายเอี้ย""
"ต่อไปเรียกข้าอี้หนานเถอะ ข้าจะเรียกพวกท่านว่าพี่โพยว พี่หลาน"
""ค่ะ คุณชายอี้หนาน""
ราวเที่ยงวัน ก็เดินทางกลับคฤหาสน์ ให้แม่นางทั้งสองลองฝึกทำอาหาร ว่าจ้างคนขับรถม้าไปซื้อฟืนและน้ำใส่ถังมาเยอะ ๆ เท่าที่จะขนไหว
กลับเข้าห้องน้ำหีบใส่เงินที่ซื้อมาใหม่เข้ามาอีกห้าหีบ ล้วนเป็นหีบเปล่าที่มีขนาดใหญ่คงทนแข็งแรง นายหน้าบอกกว้างสองเซียะสูงสองเซียะยาวสามเซียะ สามเซียะน่าจะถือหนึ่งเมตร สองเซียะก็คง 0.66เมตร จะเก็บได้กี่ตำลึงกันนะ วันนี้ยังไม่ได้เรียกเงินเลยสักครั้ง กินข้าวเสร็จก่อนแล้วค่อยว่ากัน
พี่สาวทั้งสองทำอาหารมา หกอย่างแบ่งกันทำคนละสามจาน รสชาติก็ไม่เลว ดีกว่าทำเองเยอะ แต่ไม่เท่าอาหารที่กินที่หอนางโลม ที่นั่นทำอร่อยจริง ๆ แต่แค่นี้ก๋พอแล้ว เสียดายข้าวที่นี่แข็งไปหน่อยไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ กินกับข้าวเล่นไปก็แล้วกัน ตักพวกกับข้าวที่มีน้ำมาลาดบนข้าวแล้วค่อยกิน
"พี่สาวโหยวไม่มีมีข้าวนุ่ม ๆ ขายเหรอแถวนี้"
"มีค่ะ แต่ราคาแพงมากเพราะปลูกแถวนี้ไม่ได้ต้องนำเข้ามาไกล"
"ไม่เป็นไร ซื้อมาเถอะ ซื้อมาเยอะ ๆ ตุนไว้ ข้าชอบข้าวนุ่ม ๆ นี่สิบตำลึงทอง ซื้อมาได้แค่ไหนก็แค่นั้น"
"ค่ะคุณชาย"
"เดี๋ยวข้าจะอ่านหนังสือเงียบ ๆ ห้ามใครรบกวน ข้าจะออกมาเองตอนหัวค่ำ ของในบ้านนี้ ถ้าขาดเหลืออะไร ก็ออกเงินไปก่อน จดเอาไว้ พอหัวค่ำข้าออกมาแล้วต่อยรายงาน"อี้หนานก็เข้าห้องนอน ไปพร้อมกับมองหีบใหญ่ทั้งสามใบ แล้วก็กะขนาดคร่าว ๆถ้าใช้คำจำกัดความแปลก ๆ หน่อยก็คือ หีบหนึ่งใบ มี หกลูกบาศก์เซียะ... ไม่คุ้นกับคำนี้จริง ๆ หนึ่งลูกบาศก์เซียะเก็บเงินได้ประมาณ 250 ตำลึงได้มั้ง รวมเป็น 1500 ตำลึงแฮกโลด...ผ่านไปสักพักหนึ่งหีบเต็ม สองหีบ หีบที่สามไม่ได้ ได้เงินมาอีกราวสามพันตำลึง หักเงินที่ใช้หยิบเข้าหยิบออกไปไม่เกินสิบตำลึงทอง ย้ายเงินไปใส่หีบเล็กแยกออกมาสามร้อยห้าสิบตำลึงทอง ไว้จ่ายค่าบ้านพรุ่งนี้ ตอนนี้ขอนอนก่อน... ครอก
.
ตื่นมาอีกทีตอนเย็น ก็เทเอาตำลึงทองเข้าไปใส่ในตู้เหล็กตู้นี้ใหญ่น่าดูน่าจะใส่ได้สิบกว่าหีบ หีบละพันห้าร้อยตำลึง เงินขนาดนี้งอกมาทุกวันมันก็ยังไงอยู่ ต้องวางแผนแก้ตัวสักหน่อย จ้างเรือขนหีบใส่ดินยกเข้ามาที่คฤหาสน์แสร้งทำว่าสนเงิน...
ตบหน้าผากตัวเองหนึ่งที อีกสามวันสั่งให้คนเอาแหวนมิติมาส่งนี่นา ลืมไปเสียสนิท ใครถามก็บอกขนผ่านแหวนมิติเป็นอันจบ ได้ยินมาว่าคนรวย ๆ ใช้ผลึกแทนค่าเงิน
ให้คนรับซื้อผลึกมาส่งที่นี่ดีกว่านอนเราก็นั่ง ๆ นอน ๆ สลบวันละสามรอบกันไป
พอนึกวิธีการได้ ก็ให้พวกพี่สาวติดต่อมาให้ติดต่อเชิญพ่อค้าผลึกมาที่นี่ กินข้าวพูดคุยเล่น แล้วทำกิจกรรมที่บนเตียงกันต่อ พอเกือบเที่ยงคืนก็เดินเข้าห้องเก็บสมบัติ เสกตำลึงทองมาอีกสองหีบ พอหีบที่สามลองค่อย ๆ เพิ่มตัวเลข
ห้าร้อย แฮกได้ แก้เป็นหนึ่งพัน... พลังงานไม่เพียงพอ ฝากไว้ก่อนพรุ่งนี้จะค่อย ๆ เพิ่มทีละสิบ คอยดู...
แล้วก็กลับไปหลับบนเตียงกับสองสาว
วันรุ่งขึ้นในตอนเช้า ...ขี้เกียจไปฝึกว่ะ ออกจากทหารเลยก็แล้วกันเที่ยง ๆ ค่อยไปบอก เมื่อวานบอกให้นายหน้าจัดซื้อบ้านมาเอาเงินในตอนเช้า เคลียร์ไปเป็นเรื่อง ๆ ก่อนก็แล้วกัน
พอราวแปดโมงเช้า นายหน้าก็เข้ามาพร้อมกับคนอีกสองคน
"สวัสดีคุณชายเอี้ยอี้หนาน สองท่านนี้เป็นเจ้าของเดิมของคฤหาสน์หลังนี้มาส่งมอบบ้าน ถ้าบ้านมีอะไรเสียหายสามารถปรับแก้ได้ภายในสามวัน"
"ข้าเอี้ยยี่ เป็นเจ้าของเดิมของที่นี่ และผู้ติดตามของข้า พ่อบ้านซา"
"ท่านก็แซ่เอี้ยบังเอิญแท้ พวกเราอาจมีบรรพบุรุษเดียวกัน แต่ข้าไม่ได้เกิดแถวนี้นะข้าเกิดในต่างแดน นั่งเรือมาไกลมาก"
"เช่นนั้นข้าขอรบกวน ถามชื่อท่านพ่อของคุณชาย"
"พ่อข้าชื่อเอี้ยก้วย" พูดไปพลางยิ้มกว้าง "ท่านพ่อของข้าคือจอมยุทธผู้หนึ่งที่มีอินทรีเป็นเพื่อน ข้าภูมิใจในตัวท่านมาก ท่านแม่ของข้าเป็นเจ้าของกิจการทางทะเล ข้าไม่มีวิทยายุทธจึงสืบสานงานต่อจากท่านแม่"
"แล้วท่านปู่ของท่านล่ะ"
"พ่อของเอี้ยก้วยคือเอี้ยคั...แฮ่ม เอี้ยกวง แต่น่าเศร้า ปู่ของข้าเป็นทหารออกรบสุดท้ายก็ตายไป โดยท่านย่าก็ท้องโดยที่ไม่รู้ตัว ต่อมาให้กำเนิดท่านพ่อของข้าและตกเลือดตายไป ทำให้ข้าไม่ทราบว่าปู่เป็นคนจากที่ไหน สุดท้ายก็ได้ญาติท่านย่าเลี้ยงดูมาจนโต แต่ชีวิตของท่านพ่อต้องระหกระเหิน เดินทางตลอดเวลา จนสุดท้ายก็พบรักกับแม่ข้าที่แคว้นห่างไกล และชะตาชีวิตของข้าก็ไม่ต่างจากท่านพ่อนัก ต้องเดินทางย้ายที่อยู่ไปเรื่อย เพราะท่านแม่ของข้าทำการค้าทางทะเล... น่าเศร้าสุดท้ายถูกโจรสลัดปล้น ตอนนี้ ท่านพ่อและท่านแม่ของข้าหายสาบสูญไปในทะเล ทำให้ข้าเบื่อชีวิตในทะเล จึงลองหันมาดูลู่ทางการค้าบนบกบ้าง เดินทางมาเรื่อย ๆ จนมาถึงที่นี่"เอี้ยยี่มองหน้าพ่อบ้านซา และพึมพำเบา ๆ ว่า "หรือว่าเป็นท่านอากวง"
พ่อบ้านพยังหน้า "เป็นไปได้ แต่เราต้องลองคุยกันไปก่อน"
ถึงไม่ได้ยินแต่การแสดงสีหน้าและท่าทางของทั้งคู่เหมือนตกใจและยอมรับ แต่ยังมีข้อกังขาอยู่
"เช่นนั้นท่านมีอะไรกับข้าน้อยอ่านนั้นหรือ? "
"ก็ตามที่นายหน้าบอก ข้ามาส่งมอบบ้าน และตกใจเล็กน้อยที่เจ้าก็แซ่เอี้ยเหมือนกันจึงสงสัยว่าเราอาจเป็นญาติกันก็ได้"
อี้หนาน โบกมือไปมาเบา ๆ "เป็นไปไม่ได้หรอกท่าน ข้ามาจากที่ห่างไกลมาก ๆ คงไม่มีเรื่องบังเอิญแบบนั้นแน่ ๆ เราใช้แซ่เอี้ยเหมือนกัน ถ้ามีอะไรเเดือดร้อนก็เชิญท่านบอกมาได้เลย"
"ไม่มี ๆ เอาเป็นว่าถ้าท่านสะดวกข้าขอเชิญท่านไปพูดคุยที่ตระกูลเอี้ยด้วยกันสักครั้ง"
"แน่นอน ๆ วันหน้าต้องรบกวนแล้ว" ได้คำเชิญแบบนี้ก็สบายเราล่ะ กำลังคิดอยู่เลยว่าจะหาวิธี หลอกลวงยังไง อ้อยเข้าปากช้างแบบนี้ ขอกัดไม่ปล่อยเลยก็แล้วกัน
หลังจากนายหน้ารับเงินเรียบร้อยแล้ว ทั้งสามก็เดินทางออกจากบ้านไป
"พี่สาวโหยวพี่สาวหลาน ช่วยออกไปเรียกพ่อผลึกร้านใหญ่ ๆ หน่อย มาพบข้าทีหลังเที่ยง ข้าจะกลับมาก่อนเที่ยงเพื่อกินข้าวก่อนคุยธุระ ตอนนี้ข้าจะออกไปข้างนอกก่อน"
"ทราบแล้วค่ะคุณชาย"
.
อี้หนาน กลับไปที่ค่ายทหารไปที่ฝ่ายทะเบียน เนื่องจากแทบไม่ได้ทำงาน เข้าฝึกหนึ่งครั้ง ยืนยามหนึ่งครั้ง
หลังจากคืนชุดทหารแล้ว เอี้ยอี้หนาน ยังต้องจ่ายค่าปรับ เป็นเงินสองตำลึงเงิน แค่นี้ขนหน้าแข้งพี่ไม่ร่วงหรอก เมื่อจัดการเสร็จเรียบร้อย ก็ฝากบอกคนในหมู่ว่า ตนพบญาติแล้ว จึงจะเริ่มทำการค้าอีกครั้งหนี่ง ขอบคุณทุกคนที่ช่วยดูแล มอบให้หนึ่งตำลึงเงินค่าบอกข้อความและฝากอีกสองตำลึงทองเพื่อให้พี่น้องเลี้ยงส่งโดยที่มีธุระไม่สามารถล่ำลาได้ด้วยตัวเอง
ฝากข้อความเสร็จก็เดินทางกลับที่พัก พอเจอหน้าสาว ๆ ก็ชวนออกไปซื้อพวกเครื่องเขียนตำราต่าง ๆ และสารภาพว่าอ่านภาษาของที่นี่ไม่ออกจริง ๆ และเขียนภาษาโลกเดิมให้ดู ทั้งภาษาชาติเดิมของตน และภาษาอังกฤษ แน่นอนว่าไม่มีใครเข้าใจ
เป็นนัยว่ากูอ่ะมีความรู้นะ แต่ภาษาที่นี่พูดได้แต่อ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ เพราะมาจากต่างแดน เด็กนอกอ่ะเด็กนอก ทีนิพาสาอารายอายม่ายข้าวจาย ดุยุโน้ว?
บอกให้ทั้งสองสาวจัดการเรื่องของตัวเองไปก่อน สักพักจะมารับ พร้อมกับเรียกรถม้าพร้อมกับหีบใส่ผ้าสองใบที่ซื้อต่อแม่เล้ามา
พอถึงค่าพักทหารก็สั่งให้คนอื่น ๆ รอข้างนอก อี้หนานยกหีบเข้ามาด้านในทั้งสองหีบ หีบหนึ่งใส่ห้าร้อยตำลึงเงิน อีกหีบหนึ่งใส่ สี่ร้อยตำลึงทอง พร้อมกับเสื้อผ้าที่ติดตัวพกไปด้วย อี้หนานลากหีบที่หนักราวสามสิบกิโลออกมาแล้วให้สารถีช่วยยกเข้าไปในรถ
หนักแบบนี้ใส่เงินเหรอครับ สารถีถามออกมา อี้หนานก็ตอบเลี่ยง ๆ ไปว่าใส่หนังสือ อีกหีบหนึ่งใส่เงิน ด้วยความที่ ที่นี่เป็นค่ายทหารจึงไม่กลัวเท่าไหร่นัก แต่ก็ไม่กล้าประมาทเลยตอบส่ง ๆ ไป
"ไปสำนักงานซื้อขายบ้านพัก... ไปร้านแลกเงินก่อนแล้วค่อยไปสำนักงานซื้อขายบ้าน"
ผ่านไปราวห้านาทีก็ถึงที่หมาย ให้สารถียกหีบทั้งสองใบเข้าร้านรับแลกเงิน แลกมาเป็นร้อยตำลึงสี่ใบ สิบตำลึงสิบสองใบ ใส่คาหีบไว้สิบตำลึงเงินกับสิบตำลึงทอง
สรุปว่าตอนนี้มี ตั๋วแลกเงินร้อยตำลึงสี่ใบ สิบตำลึงสิบสองใบ ตำลึงทองติดตัว สิบแปดตำลึง ตำลึงเงินติดตัวอีกสิบตำลึง ในหีบมีอีก สิบตำลึงเงิน สิบตำลึงทอง บ้านหลังหนึ่งมันจะราคาซักเท่าไหร่กันเชียว... หลังเล็ก ๆ นะไม่ใช่คฤหาสน์
พอไปถึงก็บอกงบสี่ร้อยตำลึง ก็ให้คนนำทางขึ้นรถมาด้วยกัน พร้อมแนะนำบ้านหลายหลังให้ชม สุดท้ายก็ไม่พอใจเท่าไหร่จึงเพิ่มงบไปอีกเท่าตัว บอกจ่ายผ่อน ทางนายหน้าก็ยิ้มรับไม่มีปัญหา สุดท้ายได้คฤหาสน์เก่าหลังหนึ่ง ด้านหลังมีสระบัว และลานกว้าง ด้านหน้าร่มรื่น เหมาะกับการรับแขก จึงทำสัญญาขายกันเสร็จสรรพในราคาเจ็ดร้อยตำลึง อี้หนานจ่ายให้ก่อนครึ่งหนึ่ง อีกครึ่งให้มารับอีกหนึ่งให้มารับพรุ่งนี้ วันนี้ไม่ได้เตรียมมา นายหน้ายิ้มหน้าบาน คุณชายท่านนี้จ่ายเงินรวดเร็วจริง ๆ
พอได้บอกชื่อว่าเอี้ยอี้หนานไป คนขายก็อึ้งมองหน้าแบบงงพร้อมสับสน
"มีอะไรเหรอ นายหน้า"
"คือไม่ทราบว่าคุณชายคือคนตระกูลเอี้ยเสียมารยาทแล้ว แต่ที่ตกใจไม่ใช่แค่แช่ของคุณชาย แต่ตกใจที่เจ้าของบ้านที่บอกขายก็แซ่เอี้ยเหมือนกัน"
"ห๊ะ!? ...เอ่อ เอี้ยที่อยู่ที่นี่เป็น... ข้าไม่ใช่คนในตระกูลเอี้ยน่ะ พ่อของข้าทำการค้าขายทางเรือ ข้าเดินทางมาทำการค้าที่นี่ และติดใจเมืองนี้เลยว่าจะซื้อบ้านเพื่อทำการค้า ข้ารับซื้อผ้าเนื้อดีราคาแพง เครื่องประดับที่มีราคาสูง ถ้าสนใจ หรือแนะนำลูกค้ามาให้ ข้าจะให้ค่านายหน้าหนึ่งส่วน ว่าง ๆ ก็แวะมาได้นะ"
"แน่นอน ๆ รบกวนคุณชายเอี้ยแล้ว"
วางหีบเอาไว้ในตู้เหล็กหนา พร้อมกุญแจหนึ่งดอก กลัวทำกุญแจหายจริง ๆ เดี๋ยวไปหาร้านทำกุญแจสำรองไว้อีกดอกดีกว่า
พอเก็บหีบทั้งสองเสร็จ ก็ออกเดินทางไปรับ เจียวโหยวเจียวหลานมีของใส่หีบห้าหีบ ส่วนมากเป็นเสื้อผ้าเครื่องประดับของใช้ส่วนตัวจะอยู่ในห่อผ้า
"พวกเจ้าสองคนมีใครทำอาหารได้มั้ง" ทั้งสองยกมือ "ดี ๆ ถ้างั้นเอาของไปเก็บก่อน แล้วเราสามคนออกไปหาซื้อของเข้าบ้านกัน ข้าเพิ่งย้ายมาอยู่ยังต้องจัดการอะไรอีกหลายอย่าง"
อีกด้านหนึ่งนายหน้าก็ไปบอกข่าวดีให้แก่ตระกูลเอี้ย ที่ขายบ้านได้เต็มราคา และบอกผู้ซื้อใช้ชื่อว่าเอี้ยอี้หนาน เป็นชายหนุ่มอายุราว สิบสี่
หลังจากคุยกับอีกหลายคนก็ไม่มีใครรู้จักสักคน
"เขาบอกว่า พ่อทำการค้าทางทะเล เอี้ยอี้หนานคนนี้รับซื้อเครื่องประดับราคาแพง และเสื้อผ้าอย่างดี"
"สกุลเอี้ยที่ทำการค้าทางทะเลเหรอ ข้าไม่เคยได้ยินมาก่อน แต่แผ่นดินนี้กว้างขวาง อี้หนานคนนี้อาจช่วยเหลือพวกเราก็ได้ เอาล่ะ ข้าตัดสินใจแล้ว พรุ่งนี้ตอนไปรับเงินอีกครึ่งหนึ่ง ข้าจะเดินทางไปด้วย"
ทางด้านเอี้ยอี้หนานกับสองสาวก็ช่วยกันเลือกเสื้อผ้าให้กับเด็กหนุ่ม ซื้อเหมาไปหลายสิบชุด สุดท้ายก็ไปเจอของที่น่าสนใจสุด ๆ แหวนมิติ ปริมาตรของแหวนจะเป็นลูกบาศก์ แหวนขนาดหนึ่งเซียะ ให้เจ้าของร้านแสดงขนาดให้ดู ยาวประมาณ 30 เซนติเมตร (1 เชียะ ประมาณ 33.33 ซม. หรือ 1/3 เมตร) ราคาห้าร้อยตำลึง
อี้หนานสนใจมากพอถามว่ามีขนาดใหญ่กว่านี้หรือไม่ก็บอกว่าไม่มีแล้ว ทางร้านไม่ได้รับมาขาย ของที่แพงเกินไปคนธรรมดาซื้อไม่ไหว ทางร้านรับแหวน 1 เซียะ ครึ่งปีมานี้ทางร้านนำเข้าแหวนมาเพียงสิบวงเท่านั้น ตอนนี้เหลือห้าวง
เหมา แบบนี้ต้องเหมา "ข้าขอจองเลยได้ไหม ทั้งสี่วงเลย อีกสามวันให้ท่าไปที่บ้านหลัง.....ตรงถนน.... ข้าอาจจะเตรียมตำลึงทองไว้ให้ท่าน ไม่ใช่ตั๋วแลกเงินนะ"
"ทั้งหมดเป็นเงิน สองพันกับอีกห้าร้อยตำลึงทอง ขอรับคุณชาย"
"แน่นอนจ่ายสดด้วย แต่ต้องรอสามวัน... เอ่อเจ้าของร้านขอของแถมด้วยซิ ข้าไม่ขอลดราคา แต่ท่าควรจะแถมพวกเครื่องประดับเล็ก ๆ น้อยให้แก่ข้าบ้าง" พลางเหลือบตาลืมตาไปทางสองสาวที่กำลังเลือกเครื่องประดับอยู่
"ถ้าคุณชายเหมาแหวนทั้งหมดจริง ๆ ละก็ ได้! ให้แม่นางทั้งสองเลือกกันได้ตามสบาย อีกสามวันข้าจะแถมไปให้ อย่าพอเหมาะ"
"อย่างพอเหมาะเนอะ ....พี่สาวโหยวพี่สาวหลาน เลือกเครื่องประดับไปเยอะ ๆ ชอบชิ้นไหนก็บอกเจ้าของร้านได้เลย ข้าได้ซื้อของราคาแพงมาก ๆ จากเขา เขาจะให้เป็นของแถม เลือกไว้เยอะหน่อย เผื่อชิ้นไหนเขาไม่แถมอะไรยังไง ก็ให้เขาเอาที่เหลือมา"
สองสาวเลือกเครื่องประดับร่วมยี่สิบชิ้น เจ้าของร้านก็แนะนำประวัติ วิธีการสร้างแบบต่าง ๆ ให้แก่พวกเธอโดยไม่มีสีหน้าที่ไม่พอใจ
"เถ้าแก่ชิ้นไหนราคาเท่าไหร่ท่านค่อยคิดกับข้าทีหลังนะ ข้าจะฝึก ๆ ดูสินค้าเหล่านี้ อีกสามวันเจอกัน"
"ได้ ๆ อีกสามวันเจอกัน"
วันนี้อี้หนานพอใจมากเจอแหวานมิติในตำนาน พ่อให้เจอกระบี่วิเศษ สุดยอดเคล็ดวิชา ก็ไม่อาจกระตุ้นความอยากเป็นเจ้าของเท่าแหวนมิติอีกแล้ว เป็นไอเทมที่ใช้งานบ่อยที่สุดโดยแท้จริง แถวตอนนี้พ่อให้ได้ของอ่านอื่นมาก็ไม่ได้อยู่ดีไม่เหมือนแหวนพวกนี้ ไม่ต้องฝึกอะไรก็ใช้ได้ ยอดเยี่ยมจริง ๆ
ตอนนี้เงินติดตัวราวร้อยห้าสิบตำลึงทอง แบ่งให้สาว ๆ พกไว้คนละห้าตำลึงทอง คิดอีกที เงินเดือนทหารยามเดือนละแค่สองตำลึงเงิน... ทหารฝึกหัด ๆ จึงสั่งออกไปว่าให้ใช้ถึงสิ้นเดือนหน้า ถ้ามีรายจ่ายอะไรที่มีราคาแพงก็ค่อยว่ากันอีกทีหนึ่ง
"จากนี้พวกพี่สาวก็ไม่ใช่แซ่เจียวแล้ว พี่สาวเป็นคนของข้า งั้นก็ใช้แซ่ข้าไปก็แล้วกัน ได้ยินว่าบ่าวที่นี่ก็ใช้แซ่เดียวกับเจ้านายได้"
""ขอบคุณค่ะ คุณชายเอี้ย""
"ต่อไปเรียกข้าอี้หนานเถอะ ข้าจะเรียกพวกท่านว่าพี่โพยว พี่หลาน"
""ค่ะ คุณชายอี้หนาน""
ราวเที่ยงวัน ก็เดินทางกลับคฤหาสน์ ให้แม่นางทั้งสองลองฝึกทำอาหาร ว่าจ้างคนขับรถม้าไปซื้อฟืนและน้ำใส่ถังมาเยอะ ๆ เท่าที่จะขนไหว
กลับเข้าห้องน้ำหีบใส่เงินที่ซื้อมาใหม่เข้ามาอีกห้าหีบ ล้วนเป็นหีบเปล่าที่มีขนาดใหญ่คงทนแข็งแรง นายหน้าบอกกว้างสองเซียะสูงสองเซียะยาวสามเซียะ สามเซียะน่าจะถือหนึ่งเมตร สองเซียะก็คง 0.66เมตร จะเก็บได้กี่ตำลึงกันนะ วันนี้ยังไม่ได้เรียกเงินเลยสักครั้ง กินข้าวเสร็จก่อนแล้วค่อยว่ากัน
พี่สาวทั้งสองทำอาหารมา หกอย่างแบ่งกันทำคนละสามจาน รสชาติก็ไม่เลว ดีกว่าทำเองเยอะ แต่ไม่เท่าอาหารที่กินที่หอนางโลม ที่นั่นทำอร่อยจริง ๆ แต่แค่นี้ก๋พอแล้ว เสียดายข้าวที่นี่แข็งไปหน่อยไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ กินกับข้าวเล่นไปก็แล้วกัน ตักพวกกับข้าวที่มีน้ำมาลาดบนข้าวแล้วค่อยกิน
"พี่สาวโหยวไม่มีมีข้าวนุ่ม ๆ ขายเหรอแถวนี้"
"มีค่ะ แต่ราคาแพงมากเพราะปลูกแถวนี้ไม่ได้ต้องนำเข้ามาไกล"
"ไม่เป็นไร ซื้อมาเถอะ ซื้อมาเยอะ ๆ ตุนไว้ ข้าชอบข้าวนุ่ม ๆ นี่สิบตำลึงทอง ซื้อมาได้แค่ไหนก็แค่นั้น"
"ค่ะคุณชาย"
"เดี๋ยวข้าจะอ่านหนังสือเงียบ ๆ ห้ามใครรบกวน ข้าจะออกมาเองตอนหัวค่ำ ของในบ้านนี้ ถ้าขาดเหลืออะไร ก็ออกเงินไปก่อน จดเอาไว้ พอหัวค่ำข้าออกมาแล้วต่อยรายงาน"อี้หนานก็เข้าห้องนอน ไปพร้อมกับมองหีบใหญ่ทั้งสามใบ แล้วก็กะขนาดคร่าว ๆถ้าใช้คำจำกัดความแปลก ๆ หน่อยก็คือ หีบหนึ่งใบ มี หกลูกบาศก์เซียะ... ไม่คุ้นกับคำนี้จริง ๆ หนึ่งลูกบาศก์เซียะเก็บเงินได้ประมาณ 250 ตำลึงได้มั้ง รวมเป็น 1500 ตำลึงแฮกโลด...ผ่านไปสักพักหนึ่งหีบเต็ม สองหีบ หีบที่สามไม่ได้ ได้เงินมาอีกราวสามพันตำลึง หักเงินที่ใช้หยิบเข้าหยิบออกไปไม่เกินสิบตำลึงทอง ย้ายเงินไปใส่หีบเล็กแยกออกมาสามร้อยห้าสิบตำลึงทอง ไว้จ่ายค่าบ้านพรุ่งนี้ ตอนนี้ขอนอนก่อน... ครอก
.
ตื่นมาอีกทีตอนเย็น ก็เทเอาตำลึงทองเข้าไปใส่ในตู้เหล็กตู้นี้ใหญ่น่าดูน่าจะใส่ได้สิบกว่าหีบ หีบละพันห้าร้อยตำลึง เงินขนาดนี้งอกมาทุกวันมันก็ยังไงอยู่ ต้องวางแผนแก้ตัวสักหน่อย จ้างเรือขนหีบใส่ดินยกเข้ามาที่คฤหาสน์แสร้งทำว่าสนเงิน...
ตบหน้าผากตัวเองหนึ่งที อีกสามวันสั่งให้คนเอาแหวนมิติมาส่งนี่นา ลืมไปเสียสนิท ใครถามก็บอกขนผ่านแหวนมิติเป็นอันจบ ได้ยินมาว่าคนรวย ๆ ใช้ผลึกแทนค่าเงิน
ให้คนรับซื้อผลึกมาส่งที่นี่ดีกว่านอนเราก็นั่ง ๆ นอน ๆ สลบวันละสามรอบกันไป
พอนึกวิธีการได้ ก็ให้พวกพี่สาวติดต่อมาให้ติดต่อเชิญพ่อค้าผลึกมาที่นี่ กินข้าวพูดคุยเล่น แล้วทำกิจกรรมที่บนเตียงกันต่อ พอเกือบเที่ยงคืนก็เดินเข้าห้องเก็บสมบัติ เสกตำลึงทองมาอีกสองหีบ พอหีบที่สามลองค่อย ๆ เพิ่มตัวเลข
ห้าร้อย แฮกได้ แก้เป็นหนึ่งพัน... พลังงานไม่เพียงพอ ฝากไว้ก่อนพรุ่งนี้จะค่อย ๆ เพิ่มทีละสิบ คอยดู...
แล้วก็กลับไปหลับบนเตียงกับสองสาว
วันรุ่งขึ้นในตอนเช้า ...ขี้เกียจไปฝึกว่ะ ออกจากทหารเลยก็แล้วกันเที่ยง ๆ ค่อยไปบอก เมื่อวานบอกให้นายหน้าจัดซื้อบ้านมาเอาเงินในตอนเช้า เคลียร์ไปเป็นเรื่อง ๆ ก่อนก็แล้วกัน
พอราวแปดโมงเช้า นายหน้าก็เข้ามาพร้อมกับคนอีกสองคน
"สวัสดีคุณชายเอี้ยอี้หนาน สองท่านนี้เป็นเจ้าของเดิมของคฤหาสน์หลังนี้มาส่งมอบบ้าน ถ้าบ้านมีอะไรเสียหายสามารถปรับแก้ได้ภายในสามวัน"
"ข้าเอี้ยยี่ เป็นเจ้าของเดิมของที่นี่ และผู้ติดตามของข้า พ่อบ้านซา"
"ท่านก็แซ่เอี้ยบังเอิญแท้ พวกเราอาจมีบรรพบุรุษเดียวกัน แต่ข้าไม่ได้เกิดแถวนี้นะข้าเกิดในต่างแดน นั่งเรือมาไกลมาก"
"เช่นนั้นข้าขอรบกวน ถามชื่อท่านพ่อของคุณชาย"
"พ่อข้าชื่อเอี้ยก้วย" พูดไปพลางยิ้มกว้าง "ท่านพ่อของข้าคือจอมยุทธผู้หนึ่งที่มีอินทรีเป็นเพื่อน ข้าภูมิใจในตัวท่านมาก ท่านแม่ของข้าเป็นเจ้าของกิจการทางทะเล ข้าไม่มีวิทยายุทธจึงสืบสานงานต่อจากท่านแม่"
"แล้วท่านปู่ของท่านล่ะ"
"พ่อของเอี้ยก้วยคือเอี้ยคั...แฮ่ม เอี้ยกวง แต่น่าเศร้า ปู่ของข้าเป็นทหารออกรบสุดท้ายก็ตายไป โดยท่านย่าก็ท้องโดยที่ไม่รู้ตัว ต่อมาให้กำเนิดท่านพ่อของข้าและตกเลือดตายไป ทำให้ข้าไม่ทราบว่าปู่เป็นคนจากที่ไหน สุดท้ายก็ได้ญาติท่านย่าเลี้ยงดูมาจนโต แต่ชีวิตของท่านพ่อต้องระหกระเหิน เดินทางตลอดเวลา จนสุดท้ายก็พบรักกับแม่ข้าที่แคว้นห่างไกล และชะตาชีวิตของข้าก็ไม่ต่างจากท่านพ่อนัก ต้องเดินทางย้ายที่อยู่ไปเรื่อย เพราะท่านแม่ของข้าทำการค้าทางทะเล... น่าเศร้าสุดท้ายถูกโจรสลัดปล้น ตอนนี้ ท่านพ่อและท่านแม่ของข้าหายสาบสูญไปในทะเล ทำให้ข้าเบื่อชีวิตในทะเล จึงลองหันมาดูลู่ทางการค้าบนบกบ้าง เดินทางมาเรื่อย ๆ จนมาถึงที่นี่"เอี้ยยี่มองหน้าพ่อบ้านซา และพึมพำเบา ๆ ว่า "หรือว่าเป็นท่านอากวง"
พ่อบ้านพยังหน้า "เป็นไปได้ แต่เราต้องลองคุยกันไปก่อน"
ถึงไม่ได้ยินแต่การแสดงสีหน้าและท่าทางของทั้งคู่เหมือนตกใจและยอมรับ แต่ยังมีข้อกังขาอยู่
"เช่นนั้นท่านมีอะไรกับข้าน้อยอ่านนั้นหรือ? "
"ก็ตามที่นายหน้าบอก ข้ามาส่งมอบบ้าน และตกใจเล็กน้อยที่เจ้าก็แซ่เอี้ยเหมือนกันจึงสงสัยว่าเราอาจเป็นญาติกันก็ได้"
อี้หนาน โบกมือไปมาเบา ๆ "เป็นไปไม่ได้หรอกท่าน ข้ามาจากที่ห่างไกลมาก ๆ คงไม่มีเรื่องบังเอิญแบบนั้นแน่ ๆ เราใช้แซ่เอี้ยเหมือนกัน ถ้ามีอะไรเเดือดร้อนก็เชิญท่านบอกมาได้เลย"
"ไม่มี ๆ เอาเป็นว่าถ้าท่านสะดวกข้าขอเชิญท่านไปพูดคุยที่ตระกูลเอี้ยด้วยกันสักครั้ง"
"แน่นอน ๆ วันหน้าต้องรบกวนแล้ว" ได้คำเชิญแบบนี้ก็สบายเราล่ะ กำลังคิดอยู่เลยว่าจะหาวิธี หลอกลวงยังไง อ้อยเข้าปากช้างแบบนี้ ขอกัดไม่ปล่อยเลยก็แล้วกัน
หลังจากนายหน้ารับเงินเรียบร้อยแล้ว ทั้งสามก็เดินทางออกจากบ้านไป
"พี่สาวโหยวพี่สาวหลาน ช่วยออกไปเรียกพ่อผลึกร้านใหญ่ ๆ หน่อย มาพบข้าทีหลังเที่ยง ข้าจะกลับมาก่อนเที่ยงเพื่อกินข้าวก่อนคุยธุระ ตอนนี้ข้าจะออกไปข้างนอกก่อน"
"ทราบแล้วค่ะคุณชาย"
.
อี้หนาน กลับไปที่ค่ายทหารไปที่ฝ่ายทะเบียน เนื่องจากแทบไม่ได้ทำงาน เข้าฝึกหนึ่งครั้ง ยืนยามหนึ่งครั้ง
หลังจากคืนชุดทหารแล้ว เอี้ยอี้หนาน ยังต้องจ่ายค่าปรับ เป็นเงินสองตำลึงเงิน แค่นี้ขนหน้าแข้งพี่ไม่ร่วงหรอก เมื่อจัดการเสร็จเรียบร้อย ก็ฝากบอกคนในหมู่ว่า ตนพบญาติแล้ว จึงจะเริ่มทำการค้าอีกครั้งหนี่ง ขอบคุณทุกคนที่ช่วยดูแล มอบให้หนึ่งตำลึงเงินค่าบอกข้อความและฝากอีกสองตำลึงทองเพื่อให้พี่น้องเลี้ยงส่งโดยที่มีธุระไม่สามารถล่ำลาได้ด้วยตัวเอง
ฝากข้อความเสร็จก็เดินทางกลับที่พัก พอเจอหน้าสาว ๆ ก็ชวนออกไปซื้อพวกเครื่องเขียนตำราต่าง ๆ และสารภาพว่าอ่านภาษาของที่นี่ไม่ออกจริง ๆ และเขียนภาษาโลกเดิมให้ดู ทั้งภาษาชาติเดิมของตน และภาษาอังกฤษ แน่นอนว่าไม่มีใครเข้าใจ
เป็นนัยว่ากูอ่ะมีความรู้นะ แต่ภาษาที่นี่พูดได้แต่อ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ เพราะมาจากต่างแดน เด็กนอกอ่ะเด็กนอก ทีนิพาสาอารายอายม่ายข้าวจาย ดุยุโน้ว?
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น