ลำดับตอนที่ #21
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #21 : นอน นอน นอน และ นอน ๆ
อี้หนานออกจากห้องนอน ก็เห็นเอี้ยหลานและเอี้ยเล้งชู่อยู่ที่อีกด้านของประตู
"พวกเจ้ามาทำอะไรที่นี่ ไม่ยอมไปฝึก"
"การฝึกเสร็จสิ้นแล้วค่ะ นายท่านนั่นแหละ ทำให้หี่โหยวไม่ได้ไปฝึก แอบมาทำอะไรกันสองคน" เอี้ยหลานตอบอย่างงอน ๆ
"อ่า" อี้หนานเกาหัว "ข้าผิดเอง นี่เวลาเท่าไหร่แล้ว"
"ยามซื่อเจ้าค่ะ"
"วันนี้ออกไปกินอาหารข้างนอกกัน พี่สาวหลาน ท่านตัดชุดนอนไม่ได้นอนไปถึงไหนแล้ว"
"หลังจากแจกให้พวกเราคนละตัวแล้ว ข้ามีอีกเพียงสองชุดเท่านั้น"
"เอาจริง ๆ ท่านตัดได้ห้าตัวในวันเดียวก็ถือว่าเร็วมาก ๆ แล้วนะ"
"ข้าย่อมให้พวกนางช่วยข้า"
"อ่อก็ว่าอยู่ ข้าว่าจะลองเอาสินค้าทดลอง ส่งไปให้แม่เล้าเจียวได้ดู"
"ขอเป็นวันพรุ่งนี้ก็แล้วกันนะคะ"
"ก็คงต้องตามนั้น...งั้นวันนี้ก็ไม่ต้องออกไปก็แล้วกัน"
อี้หนานเดินไปหาเอี้ยปี้เฉิน
"ท่านน้า ข้าขอฝากท่านเลือกซื้อกระบี่พลังปรานให้ข้าซักหน่อย ถูก ๆ ก็พอ"
"อ่อเรื่องนี้ข้าเตรียมไว้ให้แล้ว"
"ใช่กระบี่พวกนี้ราคาไม่ได้แพง และข้าก็หยิบติดมือมาจากโรงตีเหล็กภายในตระกูล"
"อ่อ ท่านมีช่างตีเหล็กส่วนตัวด้วย เอข้าอยากถาม ข้าสามารถแกะสลักลงไปใส่ส่วนนี้ของแหวนได้ไหม" อี้หนานแบบฝ่ามือชี้ด้านในแหวนที่โล่งว่าง
"ได้ซิ แหวนพวกนี้เหมือนว่าเขาจะแกะเอาไว้ด้านในใต้อัญมณีที่หัวแหวน แต่หากมีอักขระสลักภายนอกแหวน ก็อย่าทำนะ มันอาจรบกวรการทำงานของอักขระเวท"
"ข้าขี้ลืมน่ะ อาจจะซื้อแหวนอีกหลายวง อยากแกะสลักกันลืมเอาไว้"
"เจ้าคนเดียวสวมแหวนมิติสองวงแล้ว เจ้ายังไม่พอใจอีก"
มือขวาของอี้หนานสวมแหวนที่นิ้วชี้และนิ้วกลาง อี้หนานเอามือมาลูบแหวนอย่างรักใคร่
"แม้ข้ามีแหวนขนาดใหญ่ แต่แหวนที่จุได้เพียงหนึ่งเซียะ ข้าก็แยกเก็บพวกของใช้ที่หยิบใช้งานบ่อย ๆ พวกสมุดตำราอาหารเครื่องดื่ม ส่วนแหวนวงใหญ่มันเหมือนห้องเก็บของ ยัดใส่ไปแทบทุกอย่าง ตอนนี้มันมั่วไปหมด ข้าอยากได้หลาย ๆ วงมาจัดแยกหมดหมู่ของมัน"
"เจ้านี่แปลกดีจริง ๆ ส่วนมากใส่แค่วงเดียวเท่านั้น ใส่มากไปจะเป็นการยั่วพวกโจรให้มาปล้นเสียเปล่า ๆ "
"หากเป็นเช่นนั้น ข้าจะเอามาสวมคอเป็นสร้อยแอบไว้ด้านใน ใส่แค่วงสองวงนี่ล่ะ"
"เอาเถอะ ๆ ตามใจเจ้าก็แล้วกัน"
"ท่านน้าข้าขอกระบี่จากท่านเลยได้ไหม"
เอี้ยปี้เฉินก็ส่งกระบี่พร้อมฝักดาบให้ รูปร่างธรรมดา ๆ ไม่ได้วิเศษแต่อย่างใด
"ขอบคุณท่านน้า ข้าก็ขอตัวไปนั่งสมาธิต่อก็แล้วกัน"
อี้หนานเดินไปข้าง ๆ ลานฝึกและนั่งสมาธิเดินลมปราน
คิดได้เช่นนี้อี้หนานก็เดินไปหาเอี้ยปี้เฉิน
เอี้ยปี้เฉินจับชีพจรและมองหน้าเอี้ยหนาน "ยังไม่ใช่วันนี้"
"ถ้างั้นพรุ่งนี้ ข้าจะมาขอให้ท่านตรวจอีกครั้ง...เกือบลืมนี่ยาสองเม็ดของวันนี้"
อี้หนานจึงจากไปอย่างง่าย ๆ และวางแผนที่จะนอนแต่หัววัน เสกทองและหลับไป
เมื่อตื่น อี้หนานก็ให้เอี้ยปี้เฉินตรวจร่างกาย กินข้าว ส่งการบ้านประจำวัน เสกทอง แล้วนอนหลับไปในเวลาประมาณสามทุ่ม
เป้าหมายที่เขาเลือกคือ เอี้ยจื่อ เธอเป็นหญิงสาววัยสิบหกตัวเล็ก ๆ หน้าตาตอนหลับยิ่งทำให้อายุของเธอเหมือนเด็กเล็ก ๆ หน้าอกของนางก็เหมาะสมกับวัย อี้หนานจึงลงมือกับเธอ
ตื่นมาอีกทีตอนเช้า อี้หนานกินข้าว ฝังเข็ม แล้วก็ไปฝึก
"วันนี้ข้ามาแนะนำอาวุธชนิดต่าง ๆ
'ดาบบาง' เป็นอาวุธที่เน้นเฉือนให้เป็นแผล บางเหมือนแผ่นกระดาษ ว่องไวเปลี่ยนทิศทางโจมตีไดเง่าย แต่ไม่แข็งแรงไม่เกมาะกับการนำไปปะทะกับอาวุธอีฝ่าย
'ดาบสองคม' อันนี้เป็นดาบรูปทรงเหมือนกระบี่แต่หนากว่า ทหารส่วนมากใช้ดาบสำริดไม่ใช่ดาบเหล็ก ใช้น้ำหนักดาบฟาดฟันไปที่เกราะของคู่ต่อสู้ เป็นอาวุธที่มีน้ำหนักเหาะกับการเข้าเผชิญหน้า ด้วยน้ำหนักที่มากจึงไม่เหมะกับทางแคบ ๆ หรือพื้นที่จำกัด
'ดาบใหญ่และดาบผ่าม้า' เป็นอาวุธที่ดึงเอาจุดเด่นของดาบ โดยการเพิ่มน้ำหนัก ทำให้มีพลังทำลายที่สูงมาก ดาบผ่าม้าออกแบบมาเมื่อใช้บนหลังม้า หรือก็ตามชื่อ สามารถผ่าม้าเป็นสองซีกได้ในดาบเดียว ตัวดาบมีความยาวและด้ามจับก็ยาวขึ้น
'มีด' อาวุธที่รวดเร็ว เหมาะสำหรับทางแคบ ระยะประชิด จุดเด่นคือมีขนาดเล็กเก็บซ่อนได้ง่าย สามารถหยิบมากว้างปาเป็นอาวุธซัดชนิดหนึ่ง เหมาะเป็นอาวุธสำรองที่ทุกคนควรพกเอาไว้
'พลอง ' หรือกระบองอาวุธธรรมดาสามัญที่สุด ราวตากผ้าไม้กวาด ล้วนสามารถกลายเป็นพลองได้ มีผู้คนจำนวณหนึ่งพัฒนาพลิกแพลงมันจนผู้ที่อยู่ระดับเดียวกันรับมือไม่ได้ จุดเด้นที่สุดก็คือ มีขนาดยาวที่สุดในหมู่อาวุธประชิด พลองไม่มีคม แต่สามารถพลิกแพลงได้หลากหลาย ใช้ต่อตัว ดึงคน ส่งตัว และการโจมตีที่แรงที่สุดคือกระแทก แม้จะมีบางคนบอกว่าฟาดนั้นรุนแรงกว่า แต่ส่วนตัวข้าคิดว่าท่ากระแทกรุนแรงกว่า การส่งแรงน้ำหนักตัวกระแทกอีกฝ่ายสามาระทำให้เกราะบุบหรือทะลุได้
'หอก' เป็นอาวุธที่พัฒนามาจากพลอง จุดกำเนิดคือ พลองที่เหลาก้านหนึ่งจนแหลม หรือหลาว เป็นอาวุธที่มุ่งเน้นสุดเด่นของพลองคือการกระแทง เมื่อเพิ่มคมจึงเป็นการแทงที่รุนแรง ด้วยขนาดที่ยาวของมัน การแทงของหอกจึงมีระยะที่ไกลมาก ทำให้อีกฝ่ายคาดไม่ถึงได้ บางคนออกแบบโดยการเพิ่มใบมีดติดไปก้านข้างของหอก เมื่อแทงพลาด คมมีดเหล่านี้จะช่วยเฉือนคู่ต่อสู้
'ทวน' เป็นอาวุธที่ต่อยาดมาจากพลองเช่นกัน หรือจะพูดอีกอย่างคือดาบที่ผสมกับความยาวของพลอง สุดเด่น เพิ่มระยะการฟาดได้กว้าง และรุนแรง เหมือนดาบที่ยืดได้ แต่เมื่อเข้ากระชิด การต่อสู้จะคล้ายวิชาพลอง เหมาะกับใช้บนหลังม้า
'ธนู' เป็นอาวุธระยะไกลที่โดดเด่น ธนูจะมีการแบ่งเป็นหลายชนิด ธนูสั้น ธนูยาว วิธีใช้ก็เหมือนกัน ต้องใช้ลูกธนูง้างสายธนู และปล่อยออก ธนูตอนที่ถูกสร้างมาแรก ๆ ก็แข่งกันว่าใครจะยิงได้ไกลกว่ากันธนูจึงมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ภายหลังจึงมีธนูสั้นออกแบบมาให้คล่องตัวออกมา และเมื่อมีการเปลี่ยนวัสดุต่าง ๆ ทำให้ธนูสั้นก็สามารถยิงได้ไกลกว่าธนูยาวในยุคแรกหลายเท่า แต่ธนูยาวที่พัฒนาก็ยิ่งยิงได้ไหลยิ่ง ๆ ขึ้นไปอีก
'หน้าไม้' เป็นการพัฒนาของธนูสั้นอีกต่อนึง ในการยิงธนูผู้ยิงต้องรั้งสายธนูเพื่อเล็ง หน้าไม้นี้จึงออกแบบมาให้เล็งได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องออกแรงรั้งสายธนูให้เหนื่อย แต่หน้าไม้ธรรมดาเมื่อเปรียบเทียบกับธนูสั้น ธนูสั้นกลับยิงได้เร็วกว่าอยู่ดี หน้าไม้จึงเหมะสำหรับผู้ที่ไม่ได้ฝึกฝนการยิงธนู ใช้ง่ายเป็นไว แค่ง้างสาย เล็ง และยิง"
ทุกคนนั่งฟังจนมึนไปหลายรอบจำได้มั่งไม่ได้มั่ง
"ข้าก็พูดไปตามที่เคยเห็นเคยได้ยิน ไม่อาจถูกต้องมากนัก โลกนี้มีผู้เชี่ยวชาญเฉพาะอยู่อีกมาก ถ้าสนใจก็ไปหาตำราศึกษาเอาเองอีกทีหนึ่ง เอาล่ะมาหยิบเลือกอาวุธที่เจ้าสนใจไปลองได้ตามสบาย หุ่นฟางสำหรับฝึกแทงอาวุธมีคม เป้าธนูสำหรับหน้าไม้และธนู มีดกับดาบเจ้าก็ไปลองห่าง ๆ คนอื่นหน่อย แม้ที่ข้านำมาจะไม่ได้ลับคมแต่มันก็อันตรายอยู่ดี"
ทุกคนก็ไปรุมเลือก หยิบโน่นเล่นนี่ อี้หนานแนะนำพวกอาวุธระยะไกลให้เอี้ยโหยวและเอี้ยจื่อ พอเอี้ยเล้งชู่เห็นก็มาอวดธนูยาวในมือตน
เอี้ยปี้เฉินแนะนำให้เอี้ยหลานถือมีดสองมือ สอนวิธีจับและสลับมีดให้หมุนไปด้านบนหรือด้านล่าง อี้หนานเห็นก็สนใจมาก จึงมาเรียนวิชามีด
เอี้ยไป่อิ๋งไม่สนใจอาวุธอื่น ตนเชื่อว่ากระบี่คือยอดอาวุธ แต่เอี้ยไป่หลง เขาหลงไหลดาบผ่าม้ามาก ความยาวใหญ่ของมันทำให้เขาหลงไหลแต่เมื่อนำมาฟาดฟัน เด็กแปดขวบกับดาบที่ยาวกว่าหกเซียะ(2เมตร) ทำให้ท่าทางที่ดูตลกขบขันแก่ผู้พบเห็น ยกเว้ยเอี้ยเล้งชู่ที่ทำตาลุกวาว นางชอบดาบใหญ่ ๆ ธนูอันใหญ่ ๆ เป็นจอมยุทธห้าวหาญ นางก็เข้าไปพูดชื่นชม ทำให้เอี้ยไป่หลงเขินอายหน้าแดง
ทุกคนเล่นอาวุธต่าง ๆ เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา จนเที่ยงก็กินข้าว อี้หนานฝากให้เอี้ยหลานและเอี้ยโหยว นำเสื้อผ้าไปให้แม่เล้าเจียวที่หอนางโลม เป็นการให้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายเพื่อทดลองความต้องการของตลาด และกำหนดราคาในอนาคต
และอี้หนานก็ขอตัวไปเสกทองและนอนอีกครั้ง ช่วงนี้เขานอนเยอะเป็นพิเศษ เพราะต้องการตุนเงินเพื่อเข้าร่วมงานประมูลในวันพรุ่งนี้
"พี่สาวโหยวนี่เป็นหีบทองสำหรับพ่อค้าผลึกท่านช่วยเอาให้เขาด้วย ข้าจะเก็บตัวถึงตอนเย็น อาจตื่นไม่ทัน ขออาหารให้ข้าด้วย"
"ค่ะนายท่าน"
"ท่านน้าวันนี้ท่านตรวจให้ข้าหน่อยขากินยาแก่นปรานได้หรือยัง"
เอี้ยปี้เฉินจับชีพจร "เฮ้อ เจ้ากินได้แต่ข้าไม่อยากให้เจ้ากิน"
"ขอบคุณท่านน้า อ่ะนี่ยาสองเม็ดของวันนี้" อี้หนานส่งยาให้ และกินยาเข้าไป "ข้าจะเก็บตัวนอนแต่หัววัน ท่านจะเข้ามาดูอาการข้าก็ได้แต่ข้าคงไม่ตื่นพอตอนเย็นข้าจะให้ท่านตรวจร่างกายอีกครั้งนึง"
อี้หนานเชื่อมั่นว่าร่างกายของเขารับตัวยาไหวเพราะระดับที่เพิ่มขึ้นและการฝังเข็มทุกวัน แต่เขาก็ไม่มั่นใจนักจึงรอให้เอี้ยปี้เฉินยินยอมจึงค่อยกินยา
อี้หนานเสกทองรวดเดียวจนหมดพลัง ทำให้เขามีเงินมากถึงหกสามพันแปดร้อยตำลึงในแหวน และทองอีกสามหีบให้ห้องเก็บสมบัติ ตั๋วแลกเงินและเศษเงินต่าง ๆ อีกเล็กน้อย โควต้าหลังกินยาชุดนี้คือ 17,2xx
เนื่องจากอี้หนานเสกเงินหลักร้อยตำลึง จึงไม่ได้ตรวจสอบเศษด้านหลัง หลังจากอี้หนานมีแหวนมิติเขาก็ได้ทำการเสกทองรวดเดียวโดยการเปิดหีบทองเอาไว้ ความรู้สึกที่ทองค่อย ๆ ไหลล้นออกมาจากหีบทำให้อี้หนานหัวเราะได้ทุกครั้ง อี้หนานจึงต้องแอบเสกในห้องที่สามารถปิดล๊อกได้ กลัวคนจะรู้เรื่องพลังของเขา
ดูอย่างคฤหาสน์เก่าหลังนี้ แม้มันจะเล็กแต่มันก็เป็นคฤหาสน์ มีพื้นที่ มีลานกว้าง มีสวน มีเรือนคนรับใช้แยกต่างหาก ถือว่าครบครัน และราคาเพียงแค่เจ็ดร้อยตำลึง และอี้หนานก็ไม่ลืมในช่วงที่ฝึกทหาร แม้เขาเข้าร่วมกิจกรรมเพียงวันเดียวยังรู้สึกเหนื่อย แต่ก็มีคนที่ทำได้ทั้งเดือน และได้เงินเพียงไม่กี่ตำลึงเงิน คฤหาสน์หลังนี้แม้แต่ฝันก็ไม่กล้าคิด อี้หนานกลับสามารถซื้อมันได้ง่าย ๆ จะไม่ให้เขาหัวเราะอย่างบ้าคลั่งได้อย่างไร
"ว๊า ฮะ ฮ่า ๆ "
เอาจริง ๆ ทองสามหมื่นตำลึงนี่ก็ถือว่าต้องใช้พื้นที่จัดเก็บจำนวนมาก หีบกว้างสองยาวสามสูงสองเซียะใส่ได้พันห้าร้อยตำลึง 12 ลูกบาศก์เซียะ แหวนสิบเซียะ พันลูกบาศก์
'1500/12*1000=ความจุทองของแหวน'
อี้หนานคำนวนหยาบ ๆ ลงในกระดาษ เท่ากับ125,000ตำลึงทอง
"ยังใส่ได้อีกเยอะ"
อี้หนานเดินออกมา ฟ้ายังไม่มืดสนิด
"อ่าวพ่อค้าเมิ่ง สวัสดี"
"สวัสดีคุณชาย ท่านบายดีไหม"
"ต้องขอบคุณพ่อค้าเมิ่งที่ช่วยดูแลข้า ตอนนี้ข้าสบายดี จริงซิพ่อค้าเมิ่งพรุ่งนี้ท่านช่วยเตรียมผลึกสำนวนมากให้ข้าได้ไหม ข้าต้องการเข้าร่วมงานประมูล"
"ขอโทษด้วยคุณชาย ผลึกที่คุณชายสั่งไว้ข้าได้จัดเอาไว้ให้แล้ว แต่ว่าหากมากกว่านี้ ข้าไม่อาจเตรียมไว้ให้ท่านได้ทันก่อนเข้าร่วมประมูล"
"น่าเสียดายจริง ๆ "
"แต่ข้าสามารถบอกคุณชายได้ ร้านค้าผลึกของข้าได้เตรียมผลึกพลังระดับสูงเข้าร่วมในงานนี้"
"ฟังดูน่าสนใจยิ่ง พอจะบอกได้ไหมว่ามีพลังเท่าไหร่"
พ่อค้าเม่งยิ้มและสายหัว "ข้าให้ท่านไปรอลุ้นในงานประมูลจะดีกว่า"
"ได้ข้าจะรอวันนั้น"
พ่อค้าเมิงนับเงินเสร็จก็ออกจากคฤหาสน์
"พี่สาวทำอาหารให้ข้าหน่อยข้าจะหลับแต่หัวค่ำเพื่อเตรียมแรงไว้สำหรับงานประมูล"
"ค่ะนายท่าน"
อี้หนานเข้าไปเสกเงินในห้องสมบัติ กินข้าว ทำสามธิแล้วก็นอน
ตื่นมาอีกทำเหมือนเดิม เสกทอง หาข้าวกิน แล้วก็นอน
พรุ่งนี้คือวันผลานเงิน มีเท่าไหร่ใช้ให้หมด อี้หนานนั่งจดบันทึก เขามีเงินถึง หนึ่งแสนหนึ่งมื่นห้าพันสี่ร้อยตำลึง อี้หนานหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง ก่อนจะหลับไป
(ยาแก่นปราน+3000 โควต้าเหลือครึ่งนึง)
เงินเริ่ม29400+14200(1)+20200(2)+17200(3)+17200(4)+17200(5)
จึงเป็น 29400,43600,63800,81000,98200,115400
รวมกันทั้งหมด มีในแหวนถึง 115,400 แหวนจุได้ขั้นต่ำประมาณ 125,000 ตำลึงทอง
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น