ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เทพยุทธพลังแฮกเกอร์

    ลำดับตอนที่ #20 : ท้าดวลอีกครั้ง

    • อัปเดตล่าสุด 20 ส.ค. 61


        อี้หนานอยากจะซื้อกระบี่กลับไปเป็นของฝาก แต่ตอนนี้เขาเหลือเงินไม่มากแล้ว อี้หนานจึงเดินทางไปร้านขายอุปกรณ์เวท อี้หนานไม่ได้อยู่นานนักเพราะกลัวหน้ามืดซื้อของจนเกินงบ ของที่ร้านนี้มีแต่ของดีๆทั้งนั้น หลังงานประมูลเขาจะมาค้นให้ทั่ว ของราคาหลักหมื่นตำลึงทองยังมีขาย ไม่แน่อาจมีของที่แพงกว่านั้นอีกหลายเท่า

        พอเลือกลูกแก้วตรวจสอบพลังปรานเสร็จ อี้หนานก็คิดถึงซูซง ผ่านมาได้แค่วันเดียวอี้หนานจึงไม่คิดอีกและเดินเล่นต่อ

        อี้หนานแวะซื้อเหล้าผลไม้ที่โรงเตี้ยมแห่งหนึ่ง

        "ข้าต้องการโต๊ะตัวนี้!"

        อี้หนานถึงกับหันกลับไปมอง เมื่อได้ยินประโยคคลาสสิคดังผ่านหู หน้าคุ้นๆ อี้หนานหรี่ตามองอีกครั้ง

        "คุณชายหยง ข้าจะรีบย้ายโต๊ะทันที" คนที่นั่งกินค้างอยู่สามคน ลุกขึ้นมาคำนับอย่งพร้อมเพียง

        "ยังดีที่พวกเจ้ามีสัมมาคารวะ คุณชายหยงย่อมไม่ถือสา อาหารที่เจ้ากินคุณชายจะออกให้ พวกเจ้าออกไปได้" เบ้คนหนึ่งที่ยืนด้านหลังคุณชายหยงออกมาพูด "ยังไม่รีบขอบคุณคุณชายอีก"

        ""ขอบคุณคุณชายหยงที่เมตตา""

        แม่งพวกนี้ขนาดขอบคุณยังพูดพร้อมกันได้อีก แสดงว่าเหตการณ์แนวนี้เกิดบ่อยขนมีสคริปให้พูดตาม จดเอาใว้เสียหน่อย บทพูดตัวประกอบพวกนี้เอาใว้หลบหน้าหลบตาได้ดีนัก

        หลังจากดูฉากดังกล่าวจนเหล้าผลไม้เอามาส่ง อี้หนานก็จำไม่ได้อยู่ดีว่าเคยเจอหน้าที่ไหน คงไม่สำคัญอะไร อี้หนานก็เดินออกจากโรงเตี้ยมและจ้างรถม้าไปส่งที่คฤหาสน์

        "ท่านน้าข้าออกไปซื้อยามาให้ท่านแล้ว สองเม็ดต่อวันใช่ไหม"

        เอี้ยปี้เฉินรับยามาเก็บในกล่องหยกก่อนจะเอาเข้าไปในแหวนมิติ

        "ไหนน้าขอจับชีพจรหน่อย" อี้หนานยื่นมือให้ เอี้ยปี้เฉินจับจังหวะการเต้นของหัวใจตรงข้อมือ "ชีพจรเป็นปกติ"

        "ยังไงถึงไม่ปกติ"

        "เร็วหรือช้า รุนแรงหรือแผ่วเบา คือไม่ปกติ เจ้าที่กินยาแก่นปรานเข้าไป หากร่างกายรับไม่ไหวก็จะเต้นเร็วและแรงผิดปกติ"

        "ท่านน้าบอกว่าข้าปกติ งั้นขอข้ากินอีกเม็ดท่านว่ายังไง"

        เอี้ยปี้เฉินลังเล "รอพรุ้งนี้ก่อนดีกว่า พรุ้งนี้ก่อนฝึกภาคเช้าข้าจะฝังเข็มให้ทุกคน"

        "วันนี้ท่านฝังเข็มพวกนางแล้วใช่ไหม"

        "ใช่ข้าทำตอนที่เข้าออกไปข้างนอก"

        "อ่ะท่านน้า ข้าซื้อมาฝาก" อี้หนานหยิบซาลาเปาออกมา

        "ขอบใจ"

       
        อี้หนานวันนี้ส่งการบ้านไปแล้วแถมว่าตอนนี้ก็ยังไม่เย็นมาก จึงเสกทองให้พลังหมด ให้จัดสำรับก่อนเวลา แล้วก็เรียกให้พวกนางต้มยาให้อาบ ตอนนี้อี้หนานสามารถใช้เตาอักขระไฟจึงนอนหลับคาเตาได้อย่างสบายใจ

        ตื่นมาอีกที เอาหีบออกมาจากแหวนเสกทองจนหมดพลังอีกรอบ แล้วสวมเสื้อผ้าบางรำมวยเดินพลังปรานขับไล่สิ่งตกค้างพอเริ่มง่วงก็กลับเข้าไปในหม้ออาบยาต่อ

        วันนี้ตื่นมาเจ็ดโมงออกจากอ่างยาขึ้นมาอาบน้ำ

        "อรุณสวัสดิ์คะนายท่าน"

        "อรุณสวัสดิ์พี่สาวเล้งชู่"

        "วันนี้ตื่นเช้านะคะ"

        "ข้าจะนอนแบบนี้ล่ะ ไม่สามชั่วยามก็นอนยาวหกชั่วยามไปเลย เป็นนิสัยข้าไปแล้ว"

        "ข้าจะไปบอกคนอื่นให้จัดสำรับก่อนนะคะ"

        อี้หนานพยักหน้า

        "อรุณสวัสดิ์เสี่ยวหนาน"

        "ท่านน้า อรุณสวัสดิ์"

        "เสี่ยวหนาน ข้าสังเกตว่าเจ้าแทบไม่ยอมฝึกเคลื่อนพลังลมปรานเลย"

        "ข้าก็ฝึกทุกวันนะท่านไม่เห็นเอง" อี้หนานยิ้มให้

        "ถือว่าเจ้าพูดจริงก็แล้วกัน ฝึกพลังลมปรานบ่อยๆ เจ้ากินแต่ยาพื้นฐานมันจะไม่แน่น พอถึงเวลาใช้พลังปรานต่อสู้ ถึงเจ้ามีระดับปรานมากกว่าก็จะแพ้ให้คนระดับต่ำกว่า"

        "ข้าจะจำใว้"

        อี้หนานก็นั่งขัดสมาธิเดินพลังปรานรอเวลาเรียกกินข้าวเช้า ไม่นานก็มีคนมาเรียก

        อาหารที่กินเป็นอาหารเสริมพลังปรานเกรดชาวบ้าน หรือจะเรียกอีกอย่างก็คือระดับต่ำสุด อย่างเนื้อที่ทำอาหารจารนี้ เอี้ยปี้เฉินเล่าว่าแม้แต่ทหารที่ใส่เกราะซักหน่อยไปกันสามคนก็สามารถล่าได้ สมุนไพรก็หาได้ทั่วไป เห็ดหญ้าสมุนไพรที่เติบโตมีให้เก็บตลอดปี สำนักครามมังกรจึงถือว่าเป็นสำนักที่หาเนื้อสัตว์อสูรออกมาปล่อยขายในตลาดมากที่สุด จึงเหมาะกับพวกที่ฐานะไม่ดี เมื่อเข้าสำนักนี้จะหาเงินได้ไวที่สุด

        อี้หนานได้ฟังก็จดใว้ในสมุดเมื่อเจอคนสำนักนี้คำถามแรกคือมีเนื้ออสูรขายไหม

        "ท่านน้าถ้าอย่างนั้นก็ต้องมีสำนักที่ทำอาหารเพิ่มพลังปรานโดยเฉพาะด้วยใช่ไหม"

        "ก็สำนักจ้าวสุริยันยังไงล่ะ"

        "สำนักนี้นี่ เหมาหมดเลยนะเรื่องอะไรที่เกี่ยวข้องกับไฟ"

        "นั่นแหละจุดเด่นของสำนัก ไฟมีทั้งพลังที่รุนแรง และสามารถสร้างสรรได้มากมาย อาวุธ ยา อาหาร ล้วนเกิดจากไฟทั้งสิ้น"

        "เป็นสำนักที่ดูดีไม่เลวเลย ใว้มีโอกาสข้าจะจ้างพ่อครัวจากสำนักนั้นซักคน"

        "หวังว่าพ่อครัวเหล่านั้นจะยอมลดตัวลงมาทำอาหารให้เจ้านะ"

        "มันก็ไม่แน่"

        "เอาเถอะ เตรียมตัวฝังเข็ม ข้าจะฝังให้เจ้าก่อนแล้วค่อยไปฝังให้พวกนาง และเด็กๆ"

        อี้หนานพยักหน้า การฝังเข็มกินเวลาไม่นาน เข็มที่ฝังแต่ละเข็มแฟงพลังปรานเล็กน้อย การฝังเข็มขับไล่สิ่งตกค้างนี้ ต้องนอนรอซักพักถึงจะถอนออก เมื่อนางฝังเข็มให้อี้หนานเสร็จ ก็เดินไปหาคนอื่นๆ และทำการฝังเข็มในอีกห้องนึง

        "เอาล่ะข้าฝังเข็มให้พวกเจ้าจนเสร็จแล้ว ตอนนี้ทุกคนไปรวมที่ลานฝึกได้"

        ทุกคนเดินออกไปที่ลานฝึก

        "อี้หนานมาดวลกับข้า"

        อี้หนานเดินผ่านไม่สนใจ

        "อี้หนานเกอ จับคู่ฝึกกับข้า"

        "ได้ซิ" อี้หนานหันมายิ้มให้เอี้ยไป่อิ๋ง

        "ท่านแพ้ข้าแน่ ฮึ!"

        เอี้ยปี้เฉินเดินเข้ามาในลานฝึก "สองวันที่ผ่านมาเราเรียนการฟาดและแทงไปแล้ว วันนี้ข้าจะมาสอนจังหวะก้าวเดินในการต่อสู้ เดินอย่างไรถึงหลบหนีได้ เดินอย่างไรถึงไล่ต้อนคู่ต่อสู้ได้ วันนี้เราจะมาเรียนเรื่องนี้กัน"

        "เอี้ยอี้หนานและเอี้ยไป่อิ๋งเป็นตัวอย่างที่ดี จากที่ข้าได้ยินมา อิ๋งเอ่อร์ใช้กระบี่ไล่ตามเสี่ยวหนาน แต่ก็ตามไม่ได้ เพราะอี้หนานหลอกล่อให้อีกฝ่านโจมตีและหาช่องว่างหลบหนี นี่เป็นวิธีที่ดี แต่สถานการณ์ย่อมไม่เป็นเช่นนั้น หากอิ๋งเอ่อร์ใจเย็นกว่านี้ ไม่โจมตีและไล่ต้อนให้อีกใยจนมุมและโจมตีในคราวเดียว เสี่ยวหนานย่อมหนีไม่พ้น"

        "เสี่ยวหนานออกมา ข้าจะโจมตีเจ้า เจ้าลองหนีให้รอด ข้าจะเดินเท่านั้น แต่เจ้าสามารถวิ่งได้ ถายในลานนี้ คนอื่นๆออกจากลานไปก่อน"

        อี้หนานพยักหน้า เขาเริ่มจากถอยห่างจากตัวเอี้ยปี้เฉิน เธอก็เดินตามแบบปกติ พออี้หนานรู้สึกถูกบีบและพุ่งตัวไปด้านข้าง เอี้ยปี้เฉินก็เดินมาใช้กระบี่จู่โจมปิดทางหนี เมื่อเขาจะหนีไปอีกทาง ก็โดนแบบเดิม อี้หนานตอนนี้ชิดติดกับขอบลานฝึก เอี้ยปี้เฮินเดินเบี่ยงด้านซ้าย อี้หนานจึงพึ่งไปอีกทางและโดนกระบี่สัมพัดที่คอเบาๆ

        "จังหวะสุดท้ายข้าแกล้งเปิดช่องว่างให้เจ้าหนี และเจ้าก็พุ่งไปแบบไม่คิด จึงถูกข้าดักทางได้ วันนี้ข้าจะไม่ได้มาสอนวิธีเคลื่อนไหวที่รวดเร็วแต่จะมาแนะนำเรื่องพวกนี้ การล้อมต้องล้อมห่างๆ การหนีต้องเข้าประชิด นี่เป็นรูปแบบหนึ่งในการเล่นหมากล้อม บางคนอาจไม่คุ้นเคย แต่ข้าจะแสดงให้เห็นของจริง เสี่ยวหนานเรามาสลับกันเจ้าเป็นคนไล่ เข้าวิ่งได้ข้าจะเดินเหมือนเดิม เจ้าไล่ข้าจนมุมหรือเอากระบี่แตะตัวข้าได้ถือว่าเจ้าชนะ"

        ทั้งสองคนมายืนตรงกลางก่อนอี้หนานจะเริ่มไล่ เอี้ยปี้เฉินก็ถอยหลังแบบง่ายๆไปที่มุม พอใกล้ถึงมุมอี้หนานก็โจมตีไล่ต้อนทันที แต่เอี้ยปี้เฉินกลับไม่หนี นางใช้กระบี่ตัวเองรับกระบี่อีกฝ่าย ปัดกระบี่ให้เสียหลัก สถานการณ์กลับตาลปัด อี้หนานเป็นคนยืนอยู่ที่มุมอับ ส่วนเอี้ยปี้เฉินยืนอยู่ในที่โล่งกว้าง

        "นี่เป็นแค่ตัวอย่างง่ายๆ แต่ในสถานการณ์จริง วิธีหนีตรงๆอาจได้ผลมากกว่า แต่การหาช่องว่างเพื่อทำลายกำแพงที่ล้อมอยู่ก็เป็นวิธีหนีอีกวิธีที่ข้าอยากแสดงให้เห็น สรุปคือวันนี้มีสองหัวข้อหลัก ไล่ต้อนแกล้งเปิดทางหนี กับ หาจุดอ่อนประชิดและทำลายกำแพงเพื่อหนีออกไป"

        "วันนี้จะเริมกันเร็วหน่อย จับคู่กัน แบ่งเป็นฝ่ายไล่และฝ่ายหนี ฝ่ายไล่ไล่ตามได้ก็จะเปลี่ยนเป็นฝ่ายหนี ฝ่ายหนีหากหนีได้ต่อเนื่องเกินครึ่งเค่อจะถือว่าชนะ เมื่อชนะติดต่อกันสองครั้งให้พักได้ แต่หากไล่ต้อนกันสลับไปสลับมาข้าจะเป็นคนตัดสิน วันนี้อาจฝึกกันนานหน่อย แต่ทุกคนมีเวลาพักเยอะ นั่งเดินพลังปรานและดูคนที่กำลังไล่จับกันในลานซ้อมเพื่อศึกษา"

        "คู่แรก.."

        "ท่านแม่ข้าขอคู่กับอี้หนานเกอ"

        "ได้!"

        เอี้ยไป่อิ๋งยิ้มดีใจ เวลาแก้แค้นของนเธอมาถึงแล้ว

        "ทั้งคู่ลงไปยืนกลางลานฝึก เอี้ยไป๋อิ๋งเป็นฝ่ายหนี เอี้ยอี้หนานเป็นฝ่ายไล่ เริ่มได้!"

        หากมองจากภายนอก เอี้ยไป่อิ๋งอายุเพียงแปดขวบ ไล่จับเอี้ยอี้หนานอายุสิบสี่ปี คงเหมือนหนูไล่จับแมว แต่ความจริงกลับไม่ใช่ เอี้ยไป่อิ๋งอยู่ระดับปรานก่อรากขั้นหกและฝึกฝนมาสามปี เมื่อเทียบกับอี้หนานที่ฝึกฝนเพียงไม่กี่วันและอยู่ระดับปรานก่อรากขั้นสองเท่านั้น แม้ครั้งก่อนนางจะใจร้อนเกินไปบ้าง แต่ครั้งนี้ไม่ใช่ ไม่นานเอี้ยอี้หนานก็จนมุมและหนีไม่พ้น พ่ายแพ้ให้เด็กสาวสูงเพียงหน้าอกของตน

        "ฮ่าๆๆ เห็นรึยังล่ะนี่แหละ ฝีมือที่แท้จริงของข้า"

        "ข้าก็บอกแต่แรกอยู่แล้วว่าข้าสู้เจ้าไม่ได้ เฮ้อ"

        อี้หนานก็กดดันเหมือนกัน เขาคิดว่าจะสามารถหลอกล่อได้เหมือนคราวที่แล้ว พอได้เห็นแบบนี้ก็คิดได้ว่า คราวก่อนนางคงออมมือให้ตนอยู่ส่วนนึง ก็ยิ้มส่งสายตาเอ็นดูไปให้เอี้ยไป่อิ๋ง

        "ถึงตาข้าไล่เจ้าบ้างล่ะ"

        เอี้ยไป่อิ๋งคิดว่ารอยยิ้มนั่นเป็นคำท้า "แน่จริงก็เข้ามา"

        อี้หนานเดินไปช้าไปเข้าหานาง เอี้ยไป่อิ๋งก็วิ่งเฉียงออกห่าง อี้หนานเพิ่มความเร็วไล่ตามนาง การไล่จับในพื้นที่แคบๆไม่มีอุปสรรคอะไรไม่ใช่เรื่องยาก แต่ที่ยากคือการใช้กระบี่โจมตีให้โดน อี้หนานไม่สามารถทำได้โดยง่าย

        "ฝีมือแค่นี้อย่าคิดว่าชาตินี้จะไล่จับข้าทันเลย"

        "คำพูดพวกนี้ใครสอนให้พูดเนี่ย เจ้าฝึกมาเป็นปี ข้าฝคกกับแม่เจ้ามาได้สามวัน สามวันเท่านั้นเจ้าคิดว่าจะเป็นแบบที่เจ้าพูดงั้นเหรอ"

        "เชอะ ข้ายังเด็ก ยังพัฒนาได้อีกเยอะ เจ้ามันโตแล้วเริ่มฝึกช้าแบบนี้ฝึกอีกไม่กี่ปี่ก็ถึงทางตันแน่นอน"

        คำพูดนี้แทงใจอี้หนานอย่างจัง เขาไม่ได้กังวลการฝึกของตัวเอง แต่เขากังวลแทนเอี้ยโหยว นางปีนี้อายุยี่สิบสองแล้ว และนางก็ไม่ได้มีพรสวรรค์อะไร ผู้หญิงที่เขาพบในโลกนี้ นางคือคนที่อี้หนานเป็นห่วงมากที่สุด

        เอี้ยโหยวเห็นสายตาที่อี้หนานมองมา ก็ยิ้มให้ นางย่อมได้ยินคำพูดของเอี้ยไป่อิ๋ง แต่ตอนนี้นางมีความสุขมาก แม้นางไม่อาจเป็นผู้ฝึกยุทธขั้นสูง แต่นางก็มีคนคอยห่วงใยและเป็นคนที่นางเคารพรัก ชาตินี้นับว่าไม่เสียชาติเกิดแล้ว

        อี้หนานย่อมมองนางออก แต่เขาเป็นคนโลภกิเลสหนา เขาต้องการให้นางอยู่เคียงข้างเขาได้ ถึงแม้อีกไม่นานจะต้องจากกัน...

        "เอาล่ะพอได้แล้ว!" เอี้ยปี้เฉินตระโกนออกไป อี้หนานที่กำลังคิดอะไรเพลินๆพลันได้สติ "เสี่ยวหนาน ตอนนี้เจ้าไม่สามารถจู่โจมถูกตัวนางได้เพราะเจ้ายังไร้ฝีมือ แม้ข้าจะสอนแค่ช่วงเช้าแต่เวลาว่างๆเจ้าก็ฝึกได้เช่นกัน ต้องขยันมากกว่านี้ เปลี่ยนคู่ประลอง เอี้ยหลานเป็นคนไล่ เอี้ยเล้งชู่เป็นคนหนี... เตรียวพร้อม... เริ่ม"

        เอี้ยไป่อิ๋งยิ้มเยาะ แล้วหันไปโม้ให้เอี้ยไป่หลงฟัง ส่วนอี้นานที่เดินออกมาก็ถูกเอี้ยโหยวทัก จึงชวนนางมาพูดในตัวบ้าน

        "นายท่าน"

        "พี่สาว ท่านต้องขยันฝีกให้มากนะ ข้ากลัวว่าซักวัน" อี้หนานหลับตาถอนหายใจ พักนึงจึงลืมตาแล้วพูดต่อ "ข้าอาจจะต้องแยกจาดท่านตลอดกาล"

        เอี้ยโหยวก็ตกใจ ไม่คิดว่าอี้หนานจะพูดแบบนี้ "นายท่านจะทอดทิ้งข้างั้นเหรอ เอี้ยโหยวจะพยายามให้มากกว่านี้นายท่านอย่าทิ้งข้าเลยนะ ข้า...ข้าจะเป็นประโยชน์ให้นายท่าน จะให้.."

        "ชู่..." อี้หนานเอานิ้วชี้แตกขอบปากให้นางหยุดพูด "ข้าย่อมไม่ต้องการทิ้งท่านแน่นอน" อี้หนานสวมกอดอี้โหยว "ข้ารักท่านออกปานนี้ ย่อมไม่ปล่อยหลุดมือไปง่ายๆ" อ้อมกอดแน่นขึ้น เอี้ยโหยวรู้สึกอบอุ่นในใจแ "แต่ว่า... ข้ากลัว ซักวันลูกนกก็ต้องออกบิน ข้ากลัวท่านบินไปกับข้าไม่ไหว เอี้ยจื่อเป็นอีกคนที่อาจไม่ไหวแต่นางอายุยังน้อย มีข้าเป็นผู้สนับสนุน นางย่อมสามารถก้าวเดินไปข้างหน้าได้ แต่กับท่าน..."

        เอี้ยโหยว "ข้าย่อมขยันฝึกฝนแน่นอน แต่ว่าถึงแม้จะมีวันนั้น... ก็เหมือนกับที่ท่านพูดกัยข้า เราพบกันเพียงสิบสองวัน แต่สิบสองวันนี้เป็นเวลาที่ข้ามีความสุขที่สุด แม้ตายก็ไม่เสียดาย หากแต่ข้ามีประโยชน์ต่อท่านเพียงเล็กน้อย ข้าก็ยินดี"

        อี้หนานอุ้มตัวเอี้ยโหยวขึ้นมา "เจ้าย่อมมีประโยชน์กับข้า เจ้าคือคนสำคัญที่สุด" อี้หนานเดินกลับไปที่ห้องนอนของตน "และเรื่องนี้ก็ด้วย"

        นางหัวเราะคิกคักเมื่ออี้หนานเริ่มลูบไล่ ซุกหน้าไปที่หน้าอก และโลมเลียนาง

        "ท่านแม่! มีคนหน้าไม่อายแก้ผ้ากลางวันแสกๆ ประตูก็ไม่ยอมปิด"

        อี้หนานหันกลับไปมองที่ประตู เขาลืมปิดไปจริงๆ เพลิดเพลินกับเป้าหมายตรงหน้าเกินไปหน่อย อี้หนานจึงเดินไปปิดประตู เอี้ยโหยวก็หัวเราะไม่หยุด ทำเอาอี้หนานคึกคักเป็นอย่างยิ่ง
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×