ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เทพยุทธพลังแฮกเกอร์

    ลำดับตอนที่ #15 : ผลการดวล

    • อัปเดตล่าสุด 25 ส.ค. 61


        "ทำไมมันถึงเละเทะอย่างนี้" เอี้ยปี้เฉินที่กลับมาจากการไปซื้อของ

        "เรียน แม่นางปี้เฉิน เอี้ยไป่อิ๋งได้ท้าดวลกับนายท่าน แต่นายท่านไม่รับคำท้า นางจึงหยิบกระบี่ไม้ไล่ตีนายท่าน นายท่านก็วิ่งหนี ผ่านไปสองเค่อ นายท่านจึงรับคำท้าดวล โดยเปลี่ยนเป็นการนั่งสมาธิแข่งกัน ใครลืมตาก่อนคนนั้นแพ้"

        เอี้ยปี้เฉินมองทั้งสองคนที่นั่งสมาธิอยู่ก็ยิ้ม

        "เจ้าเด็กนี่รู้จักวิธีที่หลอกล่อ ทำให้อิ๋งเอ่อร์สงบได้"

        "และยังมี ทั้งสองได้พนันกัน ถากนายท่านชนะ ให้เอี้ยไป่อิ๋งเรียกท่านท่านว่าหนานเกอ แต่หากแพ้นายท่าจจะถูกนางเรียกว่าลูกเต่า โดยให้เอี้ยไป่หลงเป็นคนตัดสิน"

        พอได้ฟังจนจบ เอี้นปี้เฉินก็หัวเราะเสียงดัง

        "ข้าเข้าใจแล้ว" เอี้ยปี้เฉินก็เดินไปตรงหน้าของเอี้ยไป่อิ๋ง และพูดด้วยน้ำเสียงตำหนิ "อิ๋งเอ่อร์! เจ้าเอาดาบไม้ไล่ตีคนเรื่องนี้ข้าได้ยินไม่ผิดหรือไม่"

        "ท่านแม่ ข้า..." เอี้ยไป่อิ๋งพยักหน้า

        "เจ้ารู้ไหมเจ้าทำผิดขนาดไหน เจ้าเอาดาบไม้ไล่ตีเจ้าของบ้าน ทั้งยังทำข้าวของเสียหายเยอะขนาดนี้ เจ้าลองลืมตาขึ้นมาดูผลงานของเจ้า"

        "ท่านแม่ข้าขอโทษ"

        "แม่สั่งให้เจ้าลืมตาขึ้นมาดูผลงานของเจ้า ลืมตาขึ้นมา!" เอี้ยปี้เฉินกระแทกเสียงประโยคสุดท้าย ทำให้ เอี้ยไป่อิ๋งลืมตาขึ้นมาทันที

        อี้หนานได้ฟังประโยคของเอี้นปี้เฉินก็ยิ้ม

        "เจ้าเห็นรึยังข้าวของกระจัดกระกายเสียหายไปหมด แม่จะลงโทษเจ้าให้เจ้าทำความสะอาดลานนี้ทั้งหมดคนเดียว ห้ามให้คนอื่นช่วย"

        "ท่านแม่!"

        "เจ้าทำผิดเจ้าต้องรับผิดชอบ นี่แค่ทำความสะอาดเท่านั้น แม่ไม่ได้ให้เจ้าจ่ายค่าเสียหาย โดยการหักเงินค่าอาหารก็ดีแค่ไหนแล้ว"

        "ค่ะท่านแม่ อิ๋งเอ่อร์ยอมรับผิดแล้ว"

        "เจ้าต้องขอโทษอี้หนานด้วย"

        "อี้หนานข้าขอโทษ"

        "เสี่ยวหลง เอี้ยไป่อิ่งลืมตาแล้วใช่หรือไม่ เจ่าช่วยประกาศผลการประลองให้ข้าได้ยินที" อี้หนานหลับตาพูดออกมาเสียงดังพอควร

        "ครับ ผลการประลองแข่งทำสมาธิ ผู้ชนะ พี่ชายอี้หนาน!"

        "เอาล่ะ เสี่ยวอิ๋งไหนลองขอโทษข้าใหม่ซิ เมื่อสักครู่ข้าได้ยินไม่ถนัด"

        "อี้หนานเกอ ข้าทอโทษที่เอาไม้ไล่ตีท่าน ข้าขอโทษที่ทำลายข้าวของของท่าน"

        อี้หนานลืมตาขึ้นและยิ้ม "ข้าอภัยให้กับเจ้า" อี้หนานเอาลูบหัว

        เอี้ยไป่อิ๋ง ทำท่าจะปัดมือ แต่แม่ของนางถลึงตาดุใส่ นางจึงทำได้เพียงก้มหน้ามองพื้น

        เมื่อทุกอย่างจบลง เอี้ยไป่อิ๋งก็เก็บกวาดลาน เอี้ยปี้เฉินมานั่งข้าง ๆ เอี้ยหนานและมองไปทางเอี้ยไป่อิ๋ง

        "เจ้านี่เหมือนที่ข้าคิดเอาไว้จริง ๆ ทำให้อิ๋งเอ่อร์ของข้าแพ้ราบคาบ ได้อย่างสบาย ๆ ข้าวของพวกนี้ข้าจะชดใช้ให้เจ้า"

        "ไม่เป็นไรหรอกท่านน้าของพวกนี้ไม่มีราคามากนัก ท่านไม่ต้องลำบาก แล้วเรื่องแหวนมิติเป็นยังไงบ้าง พอจะมีข่าวดีหรือไม่"

        "เรื่องนี้ข้ามีข่าวดีจริง ๆ อีกสี่วันจะถึงงานประมูลใหญ่ประจำเดือน ที่นั่นจะมีแหวนมิติเข้าร่วมประมูลอย่างแน่นอน แต่ข้าไม่รู้หรอกว่าเป็นแหวนระดับใด"

        "อ๋อในงานประมูลนี่เอง ข้าเคยได้ยิน ท่านน้าสนใจไปร่วมประมูลกับข้าไหม"

        "กับเจ้าเหรอได้ซิ"

        "เมื่อครู่ที่ข้าเล่นไล่จับกับเสี่ยวอิ๋ง ทำให้ข้านึกมาได้ว่า ยังไม่ได้ฝึกวิชาต่อสู้อะไรเลย ดีที่นางเป็นคนอารมย์ร้อน ข้าจริงหลอกล่อและหนีจากนางมาได้โดยไร้รอยแผล หากแต่ถ้าดวลกันตรง ๆ อย่างเวทีประลองข้าคงอยู่ไม่ถึงสิบลมหายใจ และต้องกระโดดลงเวทีอย่างแน่นอน"

        เอี้ยปี้เฉินหัวเราะ "ได้ข้าจะสอนเจ้า เรียกคนอื่น ๆ มารวมกันได้เลยข้าจะได้สอนพร้อม ๆ กัน"

        "พี่สาวเล้งชู่ท่านตามคนอื่น ๆ มาที่ลาน เราจะฝึกวิชากระบี่กัน"

        "ค่ะนายท่าน!" เอี้ยเล้งชู่รีบวิ่งไปบอกคนอื่น ๆ ให้มารวมกันที่ลานฝึก



        "วันนี้ข้าจะเริ่มสอนวิชาดาบให้พวกเจ้า ท่าพื้นฐานการฟาดกระบี่ มันคล้าย ๆ กับมวยบริหารปราณที่เจ้าเคยเรียนไปแล้ว การฟาดกระบี่ต้องกวัดแกว่งไปตามจังหวะหายใจ และที่ขาดไม่ได้ก็คือการวางเท้าที่มั่นคง ฐานของร่างกายที่มั่นคงจะทำให้กระบี่ส่งแรงได้มาก ให้พวกเจ้ายืนโดย..."

        เอี้ยปี้เฉินสอนท่ายืน การฟาดกระบี่ตามจังหวะลมหายใจ และท่าชุดเบื้องต้น

        "ต่อไปเป็นการฝึกตั้งรับให้ทุกคนจับคู่กัน อิ๋งเอ่อร์หลงเอ่อร์ ออกมาทำให้พวกพี่ ๆ ได้ดูเป็นตัวอย่างหน่อย"

        ทั้งสองเดินออกมา เอี้ยปี้เฉินก็ปรบมือ เอี้ยไป่อิ๋งก็ฟาดกระบี่ใส่น้องชายของตน ทางเอี้ยไป่หลงก็ใช้กระพี่ไม้รับกระบี่เอาไว้ เอี้ยปี้เฉินก็ปรบมืออีกครั้งคราวนี้ เอี้ยไป่หลงก็ฟากกระบี่และเอี้ยไป่อิ๋งเป็นฝ่านตั้งรับ

        "ให้อีกฝ่ายบุกอีกฝ่ายตั้งรับตามจังหวะจากข้า การตั้งรับจะยากกว่าการโจมตีเพราะต้องอ่านทางอีกฝ่ายและใช้กระบี่สกัดกั้นให้ตรงจังหวะ เอาล่ะต่อไปตาพวกเจ้า อี้หนานเจ้าคู่กับข้า อิ๋งเอ่อร์กับหลงเอ่อร์ แม่นางเล้งชู่กับแม่นางหลาน แม่นางโหยวกับแม่นางจื่อ"

        ทุกคนจับคู่กันตามที่เอี้ยปี้เฉินแนะนำ

        "อี้หนานให้เจ้าเริ้มก่อน ข้าจะตระโกนคำว่า'ฟาด' ให้เริ่มได้เลย คนอื่นก็ฟังด้วย ยืนให้มั่นคง เวลาฟาดอย่าฟาดแรงมากนัก พวกเจ้าพึ่งจะเริ่มฝึก เดี๋ยวจะบาดเจ็บเสียก่อน หากใครไม่ไหวก็พักก่อนได้เอาละนะ 'ฟาด' "

        อี้หนานสูดหายใจเข้าและฟาดกระบี่ใส่เอี้ยปี้เฉิน

        "เสี่ยวหนาน เจ้าฟาดได้ตามสบาย ข้ารับดาบเจ้าได้อยู่แล้ว 'ฟาด' "

        คราวนี้อี้หนานเป็นฝ่ายตั้งรับ เอี้ยปี้เฉินออกแรงเหมือนกับเอากระบี่มาวางบนร่างของเอี้ยหนานเท่านั้นแต่ความเร็วกลับพอ ๆ กับที่อี้หนานฟาดไปเมื่อซักครู่

        'ฟาด'

        คราวนี้อี้หนานออกแรงมากขึ้นและเปลี่ยนแนวกระบี่

        "ใช่ฝ่ายที่บุกต้องเปลี่ยนทิศทางโจมตีด้วย แม่นางโหยวกับแม่นางจื่อ พวกท่านไม่ต้องเปลี่ยนทิศทางมากนักให้ใช้เพียงสามทิศทางพอ หน้า ซ้าย และขวา แม่นางเล้งชู่กับแม่นางหลาน ความเร็วในการโจมตีไม่ต้องมาก ฝึกความเคยชินเสียก่อน เอาล่ะ 'ฟาด' "

        คราวนี้เอี้ยปี้เฉินก็ฟาดเหมือนเดิม แต่ความเร็วเยอะขึ้นเทียบเท่าที่อี้หนานโจมตีไปเมื่อครู่ อี้หนานแทบจะรับไม่ทัน แต่กระบี่ที่ฟาดมาไม่มีแรงจึงทำให้อี้หนานรับได้สบาย ๆ

        เอี้ยปี้เฉินยิ้ม "เสี่ยวหลาน ข้าจะฟาดความเร็วเท่านี้ล่ะนะ เจ้าต้องกันให้ดี ข้าจะเพิ่มแรงทีละนิด มองตามให้ทันล่ะ ไม่งั้นอาจเจ็บตัวได้"

        "ครับท่านน้า"

        'ฟาด' 'ฟาด' 'ฟาด' 'ฟาด'...

        หลังจากฝึกฟาดผ่านไปครึ่งชั่วยาม จังหวะการฟาดที่เอี้ยปี้เฉินให้ก็เร็วขึ้นเรื่อย ๆ เอี้ยโหยวกับเอี้ยจื่อไปพักนานแล้ว ทางเอี้ยหลานกับเอี้ยเล้งชู่ยังไม่พัก แต่ทั้งคู่ก็มีรอยช้ำเล็ก ๆ ทางอี้เล้งชู่ออกแรงให้พอควรแต่กลับให้เอี้ยหลานฟาดตามสบาย ทำให้ทั้งคู่บาดเจ็บไม่ต่างกัน

        เอี้ยไป่อิ๋งกับเอี้ยไป่หลง แทบจะเหมือนการดวลดาบอยู่แล้ว ทางอี้หนานตอนนี้ถือว่าสะบักสะบอมที่สุดมีรอยช้ำทั่วทั้งตัว

        "เอาล่ะ ครั้งสุดท้ายแล้วกันให้ดี 'ฟาด' "

        อี้หนานยกกระบี่ไม้มากันอย่างรวดเร็วคราวนี้กันถูกทางอี้หนานยิ้มเล็กน้อยแต่กระบี่กลับหายไปเมื่อรู้สึกตัวกระบี่ก็วางเอาไว้ที่หน้าผากตัวเองแล้ว

        "ครั้งสุดท้ายข้าใช้ท่าหลอกกับเจ้า ข้าไม่ได้ใส่แรงใด ๆ แค่แสดงให้เจ้าดูและจำไว้เท่านั้น"

        "ขอบคุณท่านน้า"

        "ทุกคนพักได้ ไปอาบน้ำแล้วกลับมากินข้าว"

        ในขณะที่คนอื่น ๆ อาบน้ำ เอี้ยโหยวและเอี้ยจื่อก็เตรียมทำอาหารกลางวันให้ทุกคน

        การอาบน้ำเป็นไปอย่างลำบาก แต่พอลงไปแช่ในอ่างกลับสบายจนอยากจะหลับ

        อี้หนานตื่นมาอีกทีเพราะเอี้ยโหยวเข้ามาเรียก อี้โหยวเข้าทายาให้ก่อนที่จะไปกินข้าวกับทุกคน

        "เป็นยังไงบ้างกับการฝึกดาบครั้งแรก" เอี้ยปี้เฉินยิ้มถามกับอี้หนาน เมื่อกินอาหารเที่ยงเสร็จแล้ว

        "เจ็บตัวใช้ได้เลย"

        "วันอื่น ๆ ก็ฝึกเหมือนวันนี้ ช่วงเช้าฝึกวิชาต่อสู้ ช่างบ่ายก็ฝึกปรา ตารางฝึกนี้เจ้าว่ายังไง"

        "ขอเปลี่ยนช่วงบ่ายเป็นช่วงเย็นก็แล้วกันตอนบ่ายข้าจะวางแผนเรื่องกิจการที่จะเปิดใหม่ พี่สาวหลานบ่ายนี้เรามาคุยเรื่องร้านขายเสื้อผ้าของท่านกัน ท่านป้าข้าขอตัว"

        เมื่อเก็บกวาดเรียบร้อยแล้วอี้หนานก็เรียก เอี้ยหลานกับเอี้ยโหลเข้ามาคุย

        "พี่สาวหลาน ท่านออกแบบเสื้อผ้าถึงไหนแล้ว เอามาให้ข้าดูหน่อย"

        "นี่ค่ะนายท่าน"

        เอี้ยหลานหยิบกองกระดาษที่วาดเสื้อผ้าในแบบต่าง ๆ ให้อี้หนานดู อี้หนานมอง ๆ ดูก็ไม่ได้แตกต่างกับเสื้อผ้าทั่วไปมากนัก

        "ท่านพอจะมีแบบที่แปลก ๆ กว่านี้ซักหน่อย..." อี้หนานผุดความคิดและยิ้มแบบเจ้าเลห์

        "นี่คือทั้งหมดที่ข้าออกแบบมาแล้ว"

        "พวกชุดพิธีการต่าง ๆ ให้ท่านทำร้านสำหรับยืมดีไหม"

        "ยืม? ยังไงเหรอนายท่าน"

        "ก็เช่นชุดแต่งงาน ชุดออกงานสังคม ชุดงานศพ ให้ยืมใส่เป็นวัน ๆ ไป โดยทิ้งค่ามัดจำเอาไว้เท่าราคาเสื้อผ้า คิดค่าเช่าสองในสิบของค่าเสื้อผ้า หากเสื้อผ้าเสียหายก็มีค่าปรับ ถ้าเสียหายเยอะก็ยึดค่ามัดจำ"

        "ไม่ได้หรอกนายท่านคนที่มีเงินจะถือเรื่องพวกนี้มาก ไม่ยอมใส่ขุดที่คนอื่นสวมเด็ดขาดยิ่งชุดในงานพิธีสำคัญต่าง ๆ ด้วยแล้ว"

        "ไม่เป็นไรลองทำดูก่อน เป้าหมายจริง ๆ ของเราไม่ใช่เช่าชุด แต่เป็นการขายชุดในรูปแบบการเช่า ข้าเชื่อว่าต้องมีคนที่ไม่ยอมใส่ชุดที่คนอื่นใส่ตามที่เจ้าว่า เราก็คิดเงินค่าเช่ามากหน่อย ซักครึ่งนึงของราคาเต็ม ข้าเชื่อว่าต้องมีคนจ่ายแน่นอน และมันก็มีโอกาสที่ชุดที่ใส่จะถูกใจ ชุดใหม่ก็ราคาเต็มอยู่แล้ว ชุดเก่าก็ปล่อยเช่าในราคาตามคุณภาพของผ้า เอาเป็นว่าพี่สาวโหยวจดบันทึกเรื่องเมื่อี้เอาไว้"

        "ค่ะนายท่าน"

        "พี่สาวหลานเน้นออกแบบชุดราคาแพงสำหรับออกงานและพิธีต่าง ๆ ชุดธรรมดาที่ตัดไว้ เราจะแยกชุดเป็นสอบแบบ แบบแรกชุดสำหรับขาย และแบบที่สองชุดสำหรับเช่า ชุดสำหรับขายทุกชุดสามารถเช่าได้ แต่มีกำหนดวันไม่เกินสามวันถึงมาขายคืนร้านได้ครึ่งนึง เราจะเรียกสินค้าที่รับซื้อคืนมาว่าเสื้อผ้ามือสอง โดยราคาจะอยู่ที่ เจ็ดถึงแปดส่วนของราคาเต็ม และชุดมือสองนี้เราก็ปล่อยเช่าด้วยเช่นกันแต่ราคาสำหรับให้ยืมจะเป็นสองส่วน แต่เงินค้ำประกันคือราคาเต็มนะ"

        อี้หนานจิบชา "ต่อไปเราจะออกแบบชุดชั้นในกัน พวกท่านทั้งสองคนข้าเชื่อว่าประสบการณ์ด้านนี้มีไม่น้อยกว่าผู้หญิงคนอื่น ๆ เราจะออกแบบชุดชั้นในเผด็จศึก หรืออีกชื่อชุดไม่ได้นอน เมื่อสวมใส่ชุดนี้จะทำให้ผู้ชายที่นอนด้วยไม่สามารถนอนได้ ท่านพอนึกภาพออกซินะ"

        "ค่ะนายท่าน" สีหน้าของทั้งคู่ยิ้มและมีสีแดงเล็กน้อย

        "ต่อจากนั้น ให้ท่านตัดชุดพวกนี้" อี้หนานเอาดินสอมาวาดชุดเมท ชุดกี่เพ่า ชุกกระโปรงยาว ชุดคลุม เสื้อกันหนาวเสื้อกันฝน ชุดอะไรก็ได้ที่ตัวเองนึกออก หญิงสาว

        "ค่อย ๆ ทำไปนะชุดพวกนี้ อ๋อข้านึกขึ้นมาได้ ชุดนอนไม่ได้นอนของข้าจะส่งตัวอย่างให้แม่เล้าเจียวไปทดลอง เดี๋ยวข้าจะวาดตัวอย่างให้ดู"

        อี้หนานก็วาด ชุดชั้นใน ซีทรู ลูกไม้ ถุงน่อง ชุดชั้นในลายเสือ ชุดหูแมว ชุดกระต่าย

        "นานท่านชุดพวกนี้..." อี้โหยวตื่นตะลึงเมื่อเห็นชุดที่อี้หนานวาด

        "นี่แหละชุดออกศึกของผู้หญิง ผู้ชายอาจต้องใส่เกราะออกรบ แต่ผู้หญิงก็ต้องมีชุดพวกนี้เช่นกัน ไอ้ชุดสำหรับเช่าอะไรนั่นแค่แผนการค้าทั่วไป แต่รายได้หลักของเราจะมากจากชุดพวกนี้ ข้าขอบอกว่าชุดพวกนี้ต้องเลือกผ้าที่นุ่มลื่นเนื้อละเอียดเท่าที่จะทำให้ และราคาจะต้องแพงกว่าต้นทุนหลายเท่า ร้านเราจะเน้นเนื้อผ้าสำเร็จ รับสั่งตัดเราจะไม่เน้นมากนัก"

        "ขายได้แน่นอนค่ะนายท่าน" เอี้ยหลานยืนยัน

        "ขอให้เป็นอย่างนั้น ตอนนี้พวกท่านแยกกันทำงาน หนึ่งหาร้านค้าใหญ่และเด่นที่สุด สองรับคนงานจำนวนมาก สามจัดเตรียมพื้นที่ขนากใหญ่สำหรับโรงงาน ท่านสองคนไปจัดการเรื่องพวกนี้ เรื่องที่สี่เรื่องผ้าข้าจะจัดการเอง พี่สาวโหยวจดหัวข้อสี่ข้อเมื่อกี้แยกอีกส่วน และส่งให้ท่านน้าได้ดูเพื่อถามความคิดเห็น เริ่มดำเนินการได้"

        เอี้ยโหยวได้เอาหัวข้อทั้งสี่ไปปรึกษากับเอี้ยปี้เฉิน เอี้ยหลานก็นั่งมองแบบที่อี้หนานกำลังวาดและลองวาดและดัดแปลง พลางถามเกี่ยวกับเนื้อผ้าที่ต้องการในแบบต่าง ๆ

        "พี่สาวท่านพอมีความรู้เรื่องเครื่องมือผลิดผ้าบ้างไหม"

        "ขอโทษด้วยค่ะ นายท่านข้าสนใจแต่เรื่องการตัดเย็บเรื่องพวกนี้ไม่รู้เลยจริง ๆ "

        "อ่าไม่เป็นไร" ก็คงต้องไปหาช่างไม้ ติดต่อขอซื้อเครื่องทอผ้าจากที่ต่าง ๆ

        "นายท่าน แม่นางเอี้ยปี้เฉินบอกว่าจะลองไปถามคนรู้จัดให้ค่ะ"

        "เขาบอกไหมเรื่องใดบ้าง"

        "ทั้งหมดเจ้าค่ะ"

        "โอเคให้คนในพื้นที่ และมีอำนาจจัดการเรื่องพวกนี้ก็น่าจะสะดวกดี

        "ถ้างั้นก็ ตามคนอื่น ๆ เราจะออกเที่ยวซื้อของกัน"

        อี้หนานเดินไปาเอี้ยปี้เฉิน

        "ท่านน้า ท่านช่วยข้าหาซื้อร้านค้าขนาดใหญ่ในพื้นที่ ๆ คนผ่านเยอะที่สุด ได้ไหม นี่เป็นเรื่องสำคัญที่สุด"

        "ได้แน่นอนร้านค้าพวกนี้เปลี่ยนมือตลอดเวลาอยู่แล้ว แต่ว่าเจ้ามีงบประมาณเท่าไหร่"

        อี้หนานก็ยิ้มกับคำถามนี้ "ไม่ จำ กัด!"

        "ขนาดนั้นเชียว!?"

        "ใช่เรื่องทำเลที่ตั้งสำคัญที่สุด หากมีที่ดีจริง ๆ ข้าย่อมซื้อแน่นอน และยิ่งใหญ่ยิ่งดี"

        "ถ้าเป็นร้านเล็ก ๆ แต่ทำเลดีล่ะเจ้าสนใจไหม"

        "สน! แต่ข้าต้องการร้านขนาดใหญ่ด้วย เอามันทั้งสองร้านนี่ล่ะ"

        "ห่างกันมากไม่เป็นไรใช่ไหม"

        "ไม่มีปัญหา ข้าจะขายหลายอย่าง ร้านใหญ่จะเป็นที่เก็บสินค้าหลัก ร้านย่อยข้าจะจัดให้สวยงามสำหรับแขกที่มีฐานะ"

        "ไม่จำกัดแน่ใช่ไหม"

        "ไม่จำกัด แต่ถ้าแพงมากต้องแบ่งจ่ายหลายงวดหน่อยนะ"

        "ได้"

        "เออท่านน้าข้ารบกวรท่านอีกเรื่อง ข้าไม่มีแหวนมิติจึงขนย้ายเงินลำบากท่านช่วยข้าแลกเป็นตั๋วแลกเงินซักหน่อย"

        "ได้ซิแลกเยอะไหม"

        อี้หนานยิ้ม "หมื่นห้าพันตำลึงทอง"
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×