ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เทพยุทธพลังแฮกเกอร์

    ลำดับตอนที่ #1 : พลาดซะแล้ว

    • อัปเดตล่าสุด 6 ก.ย. 61


    "เจ้าได้รับโอกาสเกิดใหม่"แสงสว่างสีขาวเปล่งเสียงที่ทรงอำนาจออกมา


    "เกิดใหม่ ในโลกที่มีดาบและเวทมนตร์!? และยังได้รับความสามารถได้ตามต้องการอีกหนึ่งอย่างงั้นเหรอ? "


    ถามออกไปด้วยความดีใจ เหมือนได้เจอกับความฝันที่เป็นจริง ได้มาเจอเหตุการณ์เหมือนในนิยายได้แบบนี้ ทั้งที่ก่อนหน้านี้คิดว่าชีวิตคือการดับสูญ ไม่มีเจ็บป่วยไม่มีพระเจ้า ไม่มีสวรรค์นรก ไม่มีอะไรเลย แต่กลับกลายเป็นว่า ได้รับชีวิตใหม่ที่เหมือนนิยายมาอย่างนี้


    "ใช่แล้ว เจ้าได้รับพรหนึ่งประการ ต้องการอะไรก็เอ่ยปากมาได้เลย"


    แฟนตาซีล่ะแฟนตาซี ฮาเร็มในฝันกับพลังสุดโหด ว๊า ฮะ ฮ่า ความสามารถแบบไหนดีนะ ในนิยายเราอ่านไปเอาสนุกเข้าว่า แต่พอมาถึงตัวเอง ก็อยากได้ชีวิตสุดสโลว์ไลฟ์ ทำอะไรก็ง่ายไปหมด ในนิยายอาจจะดูน่าเบื่อไปบ้าง ชิลไปวัน แต่ถ้าเกิดเป็นตัวเอง จะบ้าเลือกชีวิตลำบากไปทำไมกันล่ะ ต้องเลือกที่เอาสบายไว้ก่อนอยู่แล้ว อย่างไอ้นิยายสมาทโฟนที่กลายเป็นอนิเมะอะไรแบบนั้น ไม่ก็แบบไอ้โปรแกรมเมอร์ที่เข้าไปในเกมตัวเอง นั่นแหละ! แบบไอ้คน นั้นน่ะ


    "ผมขอความสามารถในการแก้ไขตัวเลขพารามิเตอร์ต่าง ได้ตามต้องการครับ" ไอ้นี่แหละโกงที่สุด ดีที่สุด แทบจะเรียกว่าเสกอะไรก็ได้ตามต้องการ ว๊า ฮะ ฮ่า


    "ตามที่เจ้าปรารถนา"


    ตัวของเราเรืองแสงขึ้นเรื่อย จนกระทั่งมองไม่เห็นอะไรอีกนอกจากแสงสีขาว จึงหลับตาไป พอลืมตาขึ้นมาพบว่าตัวเองมาอยู่บนทุ่งโล่งแล้ว


    "บริการฉับไว ไม่มีคุยยอกย้อนตบมุข หรือขอโทษขอโพยอะไร ไม่ถึง 10 นาทีก็ส่งมาอีกโลกหนึ่งแล้ว จะบอกว่าตาพระเจ้าอะไรนั่น ก็คงจะยุ่งมากเหมือนกัน... เอาล่ะชั่งหัวเรื่องพวกนั้นไปก่อน ตอนนี้เรามาดูความสามารถเราดีกว่า 'Status'


    ...มีสายลมพัดผ่านเบา เมื่อมองไปรอบ ก็พบกับแอ่งน้ำเล็ก แสดงว่าฝนเพิ่งตกได้วันสองวัน


    "ใช่ที่ไหนกันเล่า! แม่ง ไม่มีอะไรขึ้นมา ปกติมันต้องมีหน้าจอสเตตัสขึ้นมาซิวะ! "


    ไม่ได้ก็ไม่ได้ มองไปรอบ อีกที แล้วหันมาสำรวจตัวเอง เหมือนเสื้อผ้าจะเปลี่ยนไป ลองค้นตัวดูเหมือนมีแต่เสื้อผ้าเท่านั้นแถมเป็นเสื้อผ้าเก่า อีกต่างหาก ชุดเหมือนพวกชุดฝึกเทควันโดอะไรพวกนั้น แถมไม่มีกางเกงในมาให้ แย่มาก บริการด่วนไปหน่อยนะพระเจ้า


    "ตรงนั้นมีแม่น้ำ"


    พอเดินไปที่แม่น้ำเห็นเงาที่สะท้อนเป็นเด็กหนุ่มหน้าตาบ้าน คนหนึ่ง อายุประมาณ 14-15 หมุนหน้าซ้าย หมุนหน้าขวา ลองเอามือจับหัวดู ก็พบผ้ามัดจุกที่หัว แล้วก็ลองแก้ออกมา เป็นผมยาวประบ่า...


    "เดี๋ยวนะ แฟนตาซีมันต้องหน้าฝรั่งดิ แล้วไอ้ชุดแบบโบราณแบบนี้ อย่าบอกนะไอ้ที่หลุดมานี่ไม่ใช่โลกในยุคยุโรป... บัดซบ! เอาเป็นว่าสำรวจไปรอบ ก่อน ยังไงเราก็มีความสามารถพิเศษอยู่ดี..." เอาผ้ามามัดสูง จะได้เหมือนพวกจอมยุทธ


    เดินมั่ว มาสักพักก็เจอเส้นทางเหมือนถนน ตอนนี้มีสองทางเลือก ซ้ายกับขวา ทางไหนคือเข้าเมืองกันแน่


    ลองเอามือตบ ดูอีกที ตัวเปล่าชัด สภาพเหมือนขอทาน เงินไม่มี ของกินไม่มี ถ้าเดินผิดทางละก็ได้มีอดตายแน่...


    "สุดแท้แต่สวรรค์" ด้วยชุดฝึกยูโดสีหม่น ชุดนี้ กับผมยาวที่มัดสูง ทำให้ได้ฟิลลิ่งจอมยุทธไม่น้อย ถ้ามีพัดกระดาษและกระบี่ข้างเอวคงเท่ไม่หยอก


    เดินมาสักพัก ก็เจอกระท่อมที่มีม้าหลายตัวผูกอยู่ข้าง พลันรู้สึกได้ยินเสียงหัวใจตัวเองเต้น ดังและเร็ว ตื่นเต้นเหมือนกันแฮะ จะโผล่มาที่ไหนยุคอะไรเดี๋ยวก็ได้รู้กันแล้ว...


    ยืนอึ้งอยู่หน้าทางเข้าสักพัก จึงเดินเข้าไปถามคนที่เหมือนเด็กเสิร์ฟ


    "พี่ชาย ที่นี่คือที่ไหน ข้าหลงทาง ไม่ทราบว่าเมืองที่ใกล้ที่สุดไปทางไหน"


    "น้องชาย ที่นี่เรียกว่าเมือง 'หัวอาน' ที่เจ้าอยู่นี่เป็นจุดพักม้าห่างจากเมืองได้ 2 ลี้"


    ไอ้สองลี้นี่มันกี่กิโลวะ


    "ถ้าข้าเดินไปใช้เวลาเท่าไหร่เหรอ? "


    "ไม่ไกลเท่าไหร่หรอก ชั่วยามเดียวก็ถึงแล้ว"


    แล้วไอ้ชั่วยามมันกี่นาทีวะ


    "ขอบคุณพี่ชายมาก" ยกมือคำนับ แล้วก็เดินไปทางที่เสี่ยวเอ้อคนนั้นบอก


    สรุปว่ากูมาอยู่ในหนังจีน ไม่รู้หนังจีนตามประวัติศาสตร์ หรือกำลังภายใน แต่ก็ไม่เลวที่คุยกันรู้เรื่อง แต่กูอ่านตัวหนังสือพวกมึงไม่ออกจริง แม่งวุ้นแปลภาษาทำงานไม่ครบวงจรเลย


    เอาวะเดินก็เดิน เขาบอกไม่ไกลเท่าไหร่เดินไปเรื่อย ก็แล้วกัน เดี๋ยวมันก็ถึง ตอนนี้เหมือนจะประมาณ 8-9 โมง ยังเช้าอยู่ อากาศก็ไม่ร้อนอะไร สบาย น่า


    ...ครึ่งชั่วโมงต่อมา แม่งเอ้ย! เดินตามทางมาครึ่งชั่วโมงได้แล้วมั้งยังไม่ถึงอีก เมื่อกี้มีรถวิ่งผ่านมา น่าจะลองขอเข้าติดรถไปด้วย แย่จริง


    ...อีกครึ่งชั่วโมงต่อมา เหี้ย.. เดินมาตั้งนานแล้วไม่เห็นแม้แต่เงา เมืองอยู่ทางนี้แน่เหรอวะ แค่ถามทางเสี่ยวเอ้อเมื่อกี้ไม่น่าจะหลอกกัน เราก็เดินตามถนนมา ไม่มีทางหลงแน่นอน เอาวะพยายามเข้า


    ...อีกครึ่งชั่วโมงต่อมา สัตว์เอ้ย! ไอ้เสี่ยวเอ้อนั่นหลอกกูแน่ หน้าตาออกจะซื่อสัตย์ ไม่น่าทำตัวหมา แบบนี้เลย รู้งี้เดินไปอีกทางก็ดีหรอก


    ...ครึ่งชั่วโมงต่อมา


    "ขอโทษด้วยครับ ขอโทษที่ผมพูดจาอวดดี พระเจ้าได้โปรดช่วยส่งปาฏิหาริย์ มาด้วยเถอะ กระผมจะถวายหัวหมูสิบหัว" ตอนนี้เดินมาไม่รู้นานแค่ไหน เหนื่อยมาก น่าจะเกือบ เที่ยงได้แล้วมั้ง เดินมานานมากแล้ว น้ำก็ไม่มีให้กิน จะหมดลมอยู่แล้ว ได้โปรดเถอะ ส่งอะไรก็ได้มาที


    'กุบกับ 'เฮ้ยเสียงนี้มันหรือว่า


    หันไปข้างหลังเจอรถม้ามุ่งหน้ามาทางนี้ เอาวะ ยืนขวางแม่ง แน่จริงก็เข้ามา ถ้ามึงไม่หยุดกูจะกระโดดหลบให้ดู!


    "ฮี้" ...โอ้ดูเหมือนม้าจะหยุดแล้ว โชคดี


    "เจ้าเป็นใครมาจากไหนกัน กล้ามาขวางทางรถม้าของกุล 'อู๋' ของเรา ถ้ายังเกะกะอีกข้าจะใช้แส้นี่เฆี่ยนตีเจ้า"


    "ช้าก่อนพี่ชาย พี่ชายคนดี ข้าลงทาง เดินตามถนนมาตั้งสองชั่วโมงแล้ว ไม่มีใครผ่านมาเลย พี่ชายได้โปรดเมตตา ให้ข้าร่วมทางไปด้วยเถอะ ดูเหงื่อบนเสื้อข้าซิ ข้าไม่กล้าหลอกท่านหรอก ได้โปรดช่วยเหลือข้าน้อยด้วย"


    "บังอาจ..."


    "พี่เอียน มีอะไรเหรอ"


    "คุณหนูอยู่ข้างในเถอะครับ แค่คนหลงทางมาขวางรถม้าไว้เท่านั้น"


    "คนหลงทางั้นเหรอ" เสียงใสของสาวน้อยดังเข้ามา


    "ใช้แล้วข้าเป็นคนหลงทาง ขอคุณหนูอู๋ได้โปรดเมตตา บอกทางเข้าเมืองแก่ข้าและช่วยมอบน้ำดื่แก่ข้าซักเล็กน้อย ข้าเดินมาสองชั่วโมงได้แล้วกระมัง" ก้มหน้าคุกเข่าขอร้องเด็กสาวในรถม้า ผู้หญิงมักใจดีกับผู้เดือดร้อน แถมยังเป็นคุณหนูอีกตะหาก ถ้าคุณหนูนี่เห็นด้วย คนขับรถม้านั่นไม่มีทางปฏิเสธแน่


    "สองชั่วโมง? เจ้าพูดผิดแล้วล่ะมั้ง เดินมาสองชั่วยามแล้วงั้นเหรอ เหงื่อบนตัวเจ้าก็เป็นหลักฐานอย่างดี เอาล่ะ ข้าเชื่อเจ้า... พี่เอียนให้น้ำแก่เขาซักหน่อยเถอะ เมืองก็อยู่ข้างหน้าแล้ว เขาคงเหน็ดเหนื่อยมาก"


    "ครับคุณหนู"


    "ขอบคุณคุณหนูอู๋ ขอบคุณพี่ชายเอียน" รับน้ำมาก็ดื่มเข้าไปอึกใหญ่ ดื่มเรื่อย จนหมด "พี่เอียนมีอีกไหม? ข้ากระหายเหลือเกิน"


    "ให้เขาไป"


    "ครับคุณหนู"


    หลังจากดื่มน้ำและเอามาราดหัว ล้างหน้าล้างตาเล็กน้อย พอหันกลับมาอีกที รถม้าก็จากไปแล้ว


    "คุณหนูอู๋ พบกันคราวหน้าข้าจะต้องตอบแทนแน่... แม่งเท่ว่ะคำพูดแบบจอมยุทธ ห้าวหาญเสียไม่มี ใกล้จะถึงเมืองแล้วซินะ จากที่คุณหนูอู๋บอกเอาไว้ พี่เสี่ยวเอ้อ เข้าน้อยขอโทษจริง พี่ซื่อสัตย์ใจดี บอกทางให้ข้า ไว้ข้ามีเงินข้าจะแวะเข้ามาอุดหนุนร้านท่าน" แต่ตอนนี้นี้ข้าไม่มีเงินเลยน่ะซิ เมื่อกี้น่าจะได้คืบเอาศอกขอเศษเงินติดตัวซักเล็กน้อย ดันเห็นแน่น้ำมากไปหน่อย ช่างเถอะ ถุงใส่น้ำพวกนี้เอาไว้ขายในเมืองก็แล้วกัน มีตั้ง... ห้าอันนี่เรากินเยอะขนาดนี้เลยเหรอ ช่างเถอะ เดินทางต่อ


    เดินมาอีกพักนึงก็เดินทางเข้าเมือง เดินผ่านประตูเหมือนมาแบบสบาย นึกว่าจะมีตวจอะไรอีก... เอาเป็นยืนคุยกับคนเฝ้าประตู สอบถามเรื่องต่าง เลยละกัน


    "พี่ชายข้ามาเมืองนี้ครั้งแรก เจอโจรปล้นกลางทาง ข้าไม่มีอะไรเหลือเลย มีติดตัวแค่ถึงใส่น้ำทีคนผ่านทางใจดีมอบให้เท่านั้น พี่ชายแนะนำให้ข้าที ข้าสามารถขายถุงพวกนี้ที่ไหน และที่ไหนสามารถหาเงินได้บ้าง ข้าไม่มีคนรู้จักในเมืองนี้เลย"


    "นี่เจ้าถูกโจรปล้นเหรอ ถูกปล้นที่ใดกัน พวกมันมีกี่คน"


    "ข้ามาทางทางนั้น โจรมีพี่คนข้าไม่แน่ใจ ข้าหนีเข้าป่ามาเรื่อย แล้วหลงทาง ข้าตกใจมาก ข้าวของที่ข้าพกมาหายไปหมดเลย ข้ามากจากนอกเมืองใกล้ ภูเขาทางแถว นั้น"


    "เจ้ามาจากหมู่บ้านเสียนหรอกเหรอ ค่อนข้างไกลพอดูเหมือนกันนะ เจ้าไม่มีเงินติดตัวเลยซินะ... เจ้าพอมีวิทยายุทธบ้างไหม"


    "ไม่มีแม้แต่น้อยเลยท่าน ถ้าเลยหนีมาแบบหลับหูหลับตามาเรื่อย บังเอิญ่าเจอโรงพักม้านอกเมือง ถ้าจึงได้เดินทางมาที่เมืองนี้ จริง แล้วเป้าหมายของข้าคือเดินทางมาเมืองใหญ่นี่แหละ ข้าตั้งใจจะมาหาเงินที่นี่"


    "อ๋อ ไม่เป็นวรยุทธ เดินทางจากบ้านนอกในภูเขา เข้าเมืองใหญ่เพื่อหวังหาเงิน แต่ถูกปล้นกลางทาง ตามนี้ซินะ... แล้วเจ้าอ่านออกเขียนได้หรือไม่? "


    "...ข้า ข้ามาจากบ้านนอก จึงไม่มีคนสอน ข้า..."


    "ไม่เป็นไร ไม่มีวรยุทธ ไม่มีความรู้ ใต้หล้มีคนแบบเจ้ามากมาย เจ้ายังเป็นเด็กหนุ่มอยู่ ข้าเชื่อว่าเจ้ายังมีอนาคต อย่าเพิ่งท้อถอย... ข้าชื่อว่าต้าจง เจ้าชื่ออะไร"


    ...ชื่ออะไร แม่งคิดหนักวะ เอาชื่ออะไรดีวะ ต้องรีบตอบเดี๋ยวจะผิดสังเกต เอาชื่อพระเอกหนังจีนมาผสม กัน "ข้าเอี้ยอี้..หนาน ยินดีที่ได้รู้จัก"


    "เจ้าคนตระกูลเอี้ยงั้นเหรอ? "


    "ไม่ใช่ ข้าแซ่เอี้จริง แต่มาจากบ้านนอก ไม่รู้จักใครในเมืองนี้เลย ตระกูลเอี้ยกับข้าไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกัน อาจแค่มีบรรพบุรุษเดียวกัน พ่อข้าบอกว่าไม่มีญาติที่ไหนแล้ว"


    "อืม ให้ข้าลองติดต่อคนตระกูลเอี้ยดูไหม? "


    แม่งเอาชื่อเอี้ยก้วย ผสมกับต้วนอี้ เติมหนานเข้าไป เพราะกลัวจะโดนล้อชื่อที่มีแต่ อ.อ่าง ยังจะมาเจอคนสกุลเอี้ยที่นี่อีก


    "ไม่ต้องหรอกท่า เดี๋ยวจะหาว่าข้าแอบอ้างเสียเปล่า ข้าไม่ต้องการความช่วยเหลือจากพวกเขาหรอก"


    "งั้นเหรอ... เจ้าสนใจมาเป็นทหารไหม เงินเดือนอาจไม่มาก เจ้าที่ไม่มีวรยุทธและอ่านเขียนไม่ได้ แต่ก็ซื่อสัตย์ดี สนใจไหมมีที่ให้นอนมีข้าวให้กิน มีคนสอนวรยุทธให้ทุกวัน แถมยังได้เงินเดือนอีก"


    ทหารเหรอ ไม่ไหวมั้งอยากได้ชีวิตสโลว์ไลฟ์อ่ะ แต่แม่งไม่มีเงิ เอาวะดีกว่าร่อนเร่ไม่มีอะไรกิน "คำเชิญของพี่ต้าจง น่าสนใจจริง ข้าขอร้อบรับด้วยใจ"


    "ดี! นี่จะเที่ยงพอดี ออกเวรข้าแล้ว ไปหาอะไรกินกันแล้วไปหานายทะเบียน"


    "รบกวนพี่ต้าจงแล้ว"


    เดินตามพี่ต้าจงเช้ามาที่โรงทหารของทหาร อาหารเป็นหมี่ผัดขิงวิญญาณหมู ชื่ออาจจะเท่แต่หน้าตาคือสีเหลืองล้วน หมี่สีเหลือง ขิงก็สีเหลือง ส่วนวิญญาณหมูก็คือ เอากากหมูมาผัดให้เปิดน้ำมันก่อนเอาไปผัด บางจานอาจมีเศษกากหมูติดมาถือว่าทำบุญมาดี แต่ส่วนมากจะไม่มี เมนูนี้เลยได้ชื่อว่า 'หมี่ผัดขึงวิญญาณหมู' ส่วนทหารที่ยศสูงหน่อยจะมีน้ำซุปแถมมาให้อีกจาน มีแค่นี้เท่านั้น พวกที่ยศสูงมาก ก็จะออกไปกินกันที่อื่น ที่นี่มีแค่ ทหารยาม หัวหน้าหมู่แบบพี่ต้าจง กับทหารเบ้หน่วยต่าง มากินกัน ที่นี่จริง แล้วใครมากินก็ได้ เพราะฟรี เพราะฉะนั้นนาน ที่จะเห็นทหารยศสูง มากินก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะต้องการประหยัดนั่นเอง


    พูดคุยกันพอหอมคอและกินอาหารกลางวันเสร็จแล้วก็ไปหานายทะเบียนฟังระเบียบการต่าง โดยรวม ก็ไม่มีอะไรมาก ทำตามต้าจงก็จบ เพราะต้าจงเป็นคนพามา ก็เลยให้เขารับผิดชอบเรื่องต่าง หาไปห้องพัก เป็นห้องพักแบบรวม มีเตียง 20 เตียง ต้าจงเป็นหัวหน้าหมู่เวรยาม ดูแลทางเข้าประตูตะวันตก


    ในประตูตะวันตกมีหน่วยอื่น อีกหลายหน่วย แยกย่อยกันไป ทหารที่เฝ้าก็มีหลายหมู่ผลัดกันเฝ้า วันนึงจะแบ่งเป็น 4 กะ เช่า บ่าย ค่ำ หลังเที่ยงคืน หนึ่งวันมี 12 ชั่งยาม แบ่งกันคนละ 3 ชั่วยาม หรือ 6 ชั่วโมง จึงได้รู้ว่าเสี่ยวเอ้อบอกว่าเดินทาง หนึ่งชั่วยาม เขาก็เดินทางประมาณสองชั่วโมงนิด เป็นตามที่เสี่ยวเอ้อจุดพักม้าคนนั้นบอกไว้จริง วันหลังจ้องตอบแทนคุณแน่ ถึงจะลืม น้าไปแล้วก็เถอะ


    ตอนแรกคิดว่าวันหนึ่งทำงานแค่ 6 ชั่วโมง แต่ว่าไม่ใช่ ทุกวันจะต้องฝีกอีก 4 ชั่วโมง อย่างวันนี้ ค้าจงเข้าเวร 6โมงเช้า-เที่ยง พัก 1 ชั่วโมง ฝึก 4 ชั่วโมง พัก 1 ชั่วโมง เข้ากะหัวค่ำของอีกหน่วยที่ฝึกตอนบ่ายพร้อมกัน


    ยกตัวอย่าง ต้าจงอยู่หน่วยสอง เข้าก็เช้า คนจากหน่วย 4 ที่ต้องเข้ากะตอน 6โมงถึงเที่ยงคืนก็ต้องมาฝึกตอนบ่ายเหมือนกัน โดยที่ฝึกก่อนหนึ่งชั่วโมงแล้วเข้ายาม ส่วนต้าจงเข้ายามก่อนฝึก พอฝึกเสร็จก็เลิกงานพักผ่อน


    หน่วยหนึ่งและสาม ก็จะคล้าย กัน โดยที่การฝึกทหารจะทำในช่วงเช้าแทน


    แม่งพลาดซะแล้ว ไม่รู้ว่าจะโผล่ในยุคจีนโบราณแถมเปิดค่าสถานะไม่ได้ อ่านหนังสือก็ไม่ออก แบบนี้จะใช้พลังโกงยังไงวะเนี่ย!


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×