คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ราชาแห่งมิเนร่า
เมื่อสองวันก่อน
“อีกสองวันจะมีฑูตจากเมืองโมโนซ่าเดินทางมาถึงยังมิเนร่าเพื่อเจริญสัมพันธไมตรีแล้วยังส่งของกำนัลมาเป็นน้ำใจเล็กๆ น้อยๆ อีกด้วยพระเจ้าค่ะ”
แล้วคนสนิทที่เปรียบเสมือนมือขวาขององค์ราชาริชาร์ด โอเวเดียสก็ต้องกลืนน้ำลายอึกใหญ่ก่อนจะรายงานข้อความตอนท้าย
“และจะมาเพื่อจะมายลโฉมว่าเจ้าหญิงเฟดิน่า โอเวเดียสด้วยว่าเจ้าหญิงมีสิริโฉมงดงามเพียงใดพระเจ้าค่ะ”
เมื่อรายงานจากคนสนิทได้แว่วเข้ามาในพระกรรณก็ต้องขมวดพระขนงทันทีกับการที่เมืองโมโนซ่าต้องส่งฑูตมาเพื่อดูหน้าตาของบุตรสาวของตนเรื่องที่ผู้เป็นราชาแห่งมิเนร่ารู้อยู่เต็มอกว่าการที่โมโนซ่าส่งของกำนัลมาเพื่อเป็นเรื่องบังหน้าเพื่อที่จะมาดูหน้าตาของบุตรสาวของพระองค์อยู่แล้ว แต่ที่ไม่เข้าใจคือทำไมต้องส่งคนมาดูหน้าตาของบุตรสาวของพระองค์ด้วยทั้งๆ ที่เฟดิน่า โอเวเดียสบุตรสาวของตนถึงจะเก่งเยี่ยงชาย แต่กลับสวยอย่างค้าดไม่ถึงเช่นกัน
“เจ้าเข้าใจเนื้อความที่ส่งมาไหมคาซัด”
เสียงอันส่งอำนาจได้ดังไปทั่วทั้งห้องทรงพระอักษร เมื่อความส่งสัยได้เข้าเกาะกุมใจราชาผู้ยิ่งใหญ่พระองค์นี้ คาซัดผู้เป็นคนสนิทได้แต่กลืนก้อนเหนียวๆ ลงคอก่อนจะเล่าเรื่องข่าวที่องค์พระราชาทรงอาจไม่รู้ก็เป็นได้
“คือว่ากระหม่อมได้ยินมาว่าชาวบ้านแถบชายแดนเขาได้พูดกันว่าเจ้าหญิงเฟดิน่า โอเวเดียส มีรูปโฉมที่อัปลักษณ์แถมยังบึกบึนเยี่ยงชายอีกพระเจ้าค่ะ”
เมื่อได้ทรงฟังรายงานสิ่งที่คนสนิทได้ยินมา ทำให้องค์ราชาถึงกับพระเพลาอ่อนลงทันที จากที่พระขนงขมวดอยู่แล้วก็ทรงขมวดแรงกว่าเดิม เมื่อได้ยินรายงานที่ไม่มีมูลความจริงแม้แต่น้อย
“คาซัลเจ้ารู้ไหมว่าทำไมชาวบ้านถึงได้พูดถึงบุตรสาวของข้าเยี่ยงนั้น และคาซัลเจ้าก็น่าจะรู้อยู่เต็มอกว่าเรื่องที่ชาวบ้านพูดกันไม่เป็นความจริงแม้แต่น้อย”
ราชาริชาร์ด มีความขุ่นเคืองกับเรื่องนี้เป็นอันมาก ก็ในเมื่อเจ้าหญิงเฟดิน่า โอเวเดียส นั้นงดงามหาที่เปรียบไม่ได้ ใครเจอพระองค์ก็มีแต่จะหลงรักในความงดงามของนางทั้งนั้น
“กระหม่อมคิดว่าอาจ เพราะ ชาวบ้านอาจจะเข้าใจผิดบางประการหรืออาจจะเพราะว่าชาวบ้านอาจจะเป็นไม่เคยเห็นพระสิริโฉมอันงดงามของเจ้าหญิงเฟดิน่า โอเวเดียส ก็เป็นได้ ทำให้ชาวบ้านต่างพูดกันไปต่างๆ นาๆ ก็ได้นะพระเจ้าคะ”
คาซัลคนสนิทเมื่อรายงานสิ่งที่คิดว่าน่าจะเป็นสาเหตุของข่าวรือจบ ก็ได้ถอนหายใจเบาๆ เมื่อเห็นพระพักต์ขององค์ราชาเริ่มคายจากความตึงเครียดลง
“ข้าคิดว่าเรื่องข่าวรือคงไม่เท่าไหมหรอกคาซัล”
องค์ราชาก็เริ่มเครียดอีกครั้งเมื่อต้องนึกถึงบุตรสาวองค์โตอย่างเจ้าหญิงเฟดิน่า โอเวเดียส ทำให้องค์ราชาได้แต่พระอัสสาสะยาวๆ ด้วยความเหนื่อยใจ
คาซัลที่รับใช้มานานก็รู้ทันทีว่าเรื่องที่องค์ราชาทรงเครียดและเรื่องที่เครียดคงจะไม่พ้นเรื่องการหมั้นของเจ้าหญิง ที่ยังทรงไม่รู้ว่าจะต้องแต่งงานในไม่ช้า
“กระหม่อมเข้าใจว่ากษัตริย์ตรัสแล้วไม่คืนคำแล้วกระหม่อมก็คิดว่าเจ้าหญิงคงเข้าใจพระองค์เช่นเดียวกับที่กระหม่อมเข้าใจ”
องค์ราชาได้ยินคนสนิทพูดปลอบพระองค์เช่นนั้น ก็ได้แต่หันหลังไปมองแสงแดดที่สาดส่องเข้ามาในห้องพระอักษรยามบ่ายแก่ๆ แล้วก็ได้แต่พูดขอบคุณเบาๆ กับคนสนิทของพระองค์
ที่ยังทรงคอยอยู่เคียงข้างพระองค์จนบัดนี้
“ขอบใจมากคาซัล”
คนได้รับคำขอบคุณก็ได้แต่ก้มหัวให้เจ้าชีวิตที่ตนจะภักดีไปจนวันตาย
ริชาร์ดกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ได้แต่ยืนอยู่ตรงจนกระทั่งรู้สึกถึงพายุลูกใหญ่จะมาให้ไม่ช้าเมื่อได้ยินเสียงของเจ้าหญิงโซดิเนีย โอเวเดียส กำลังเดินตามเจ้าหญิงเฟดิน่า โอเวเดียสผู้เป็นพี่ อย่างอ่อนอกอ่อนใจ
“ท่านพี่ใจเย็นๆ ก่อน ท่านพ่อกำลังทรงงานอยู่.............”
แต่แล้วเมื่อผู้เป็นน้องพูดไม่ทันจบ ประตูห้องพระอักษรก็ถูกเปิดออกอย่างแรงจนทำให้คาซัลถึงกับสะดุ้ง เมื่อเจ้าหญิงเฟดิน่าที่ใส่ชุดทหารของเมืองอยู่ตามติดๆมาด้วยเจ้าหญิงโซดิเนียที่อยู่ในชุดสีฟ้ากระโปรงฟูฟ่องวิ่งตามผู้เป็นพี่มาแล้วเมื่อทั้งสองพระองค์มาถึงตนคาซัลก็รีบทำความเคารพผู้เป็นเจ้าหญิงทั้งสองพระองค์
“นี้มันหมายความว่ายังไงท่านพ่อ”
ผู้เป็นพ่อก็ได้แต่หันหน้ามา แล้วก็ต้องเจอกับสายตาที่เดือดดาลเป็นอย่างมากของเจ้าหญิงเฟดิน่า โอเวเดียส ที่กำลังพยายามคาดคั้นพระองค์อยู่
“อะไรหรอเฟดิน่า”
องค์ราชาได้แต่เฉย จนทำให้เจ้าหญิงเฟดิน่า โอเวเดียส ต้องเปิดประเด็นเรื่องของตัวเองทันที
“เรื่องที่จะให้ลูกแต่งงานกับไอ้เจ้าชายเส็งเคร็งของเมืองโมโนซ่านั้น มันเป็นเรื่องจริงหรือว่าเป็นแค่ว่าเรื่องโจ๊ก ขององค์ราชากับพวกผู้เฒ่าผู้แก่ยามจิบน้ำชายามบ่ายกันละท่านพ่อ”
นี้บุตรสาวของตนรู้แล้วหรอเนี่ย ริชาร์ดผู้เป็นพ่อได้แต่ถอนหายใจเบาๆ เมื่อรู้ว่าพายุลูกนี้คงใหญ่กว่าที่ตนคิดมากนัก
“เจ้าไปได้ยินใครพูดมาละเฟดิน่า”
แล้วเจ้าหญิงตัวดีก็ได้แต่ยิ้มที่มุมปาก
“รู้มาจากใครไม่สำคัญหรอกท่านพ่อ ที่สำคัญมันเป็นเรื่องจริงหรือไม่เท่านั้นที่ลูกอยากรู้ท่านพ่อ”
เรื่องนี้คงจะปิดไว้ไม่ไหวแล้วจริงๆสินะ แล้วราชาริชาร์ดเมื่อคิดแบบนั้นก็ได้ตอบสิ่งที่ค้างคาใจให้บุตรสาวฟัง
“แล้วถ้าข้าตอบว่ามันเป็นเรื่องจริงละเฟดิน่า เจ้าจะรับได้ไหม”
“ไม่” แล้วเสียงเล็กแต่ดังของเจ้าหญิงเฟดิน่าก็พูดขึ้นมาทันที
พระองค์คิดอยู่แล้วว่าบุตรสาวของตนคงจะไม่ยอมจึงไม่กล้าที่จะบอก แต่เมื่อรู้แล้วพระองค์ก็คงต้องพูดกับบุตรสาวให้รู้เรื่องทั้งหมด
“ยังไงเจ้าก็ต้องแต่งเฟดิน่า มันเป็นหน้าที่ของเจ้าที่เจ้าจะต้องทำตาม”
ผู้เป็นพ่อก็พูดขึ้นมาเสียงขรึมทันที เพื่อให้บุตรสาวรู้ถึงความสำคัญในครั้งนี้มากขึ้น
“แต่ลูกไม่แต่งงานยังไงลูกก็ไม่แต่งกับเจ้าชายเส็งเคร็งอย่างนั้น”
จะให้ลูกแต่งกับคนที่ไม่ได้เรื่องแบบนั้น ให้ลูกไปอยู่ชายแดนตลอดชีวิตยังดีกว่าแต่งงานกับคนพันธุ์นั้น ที่วันๆไม่สุราก็นารีผู้ชายอย่างนั้นไม่มีวันที่ข้าจะเอาทำพันธุ์หรอก
แล้วเจ้าหญิงผู้เก่งกาญก็ได้แต่ด่าบุรุษผู้เป็นถึงพระคู่หมั้นอย่างออกรสออกชาติพร้อมทั้งยิ้มที่มุมปากกับความคิดของตน แต่เหมือนองค์ราชาจะรู้ความคิดของบุตรสาวตัวดีก็ได้ตรัสขึ้นมาทำให้เจ้าหญิงยิ่งโกรธพระคู่หมั้นเขาไปอีก
“ถ้าเจ้าคิดจะไปชายแดนหรืออะไรอย่างนั้น เลิกหวังได้เลยเฟดิน่า เพราะพ่อจะเป็นคนไปตามเจ้ามาแต่งจนได้”
แล้วใบหน้าสวยหวานก็หุบยิ้มทันที เมื่อได้ยินผู้เป็นพ่อตรัสออกมา
“ถ้าในเมื่อท่านพ่อทรงไปสัญญกับองค์ราชาแห่งเมืองโมโนซ่าทำไมท่านพ่อไม่แต่งไปซะเองล่ะ”
ผู้เป็นพ่อได้แต่ซ่ายหน้ากับคำตอบที่บุตรสาวทรงตรัสออกมาพร้อมทั้งยังหันไปขอกำลังใจจากบุตรสาวคนเล็กที่ได้แต่ยืนฟังแล้วก็ซ่ายหน้าเหมือนกับพระองค์ได้ความดื้อดึงของผู้เป็นพี่
“ข้าเป็นบุรุษไม่ใช่สตรีเยี่ยงเจ้าเฟดิน่า แล้วอีกอย่างเจ้าก็ยี่สิบชันษาเข้าไปแล้ว”
“ยังไงถ้าลูกไม่แต่งท่านพ่อก็จะบังคับให้ลูกแต่งให้ได้ใช่ไหม”
“ใช่”แล้วพระองค์ก็พูดขึ้นทันที
“ลูกจะยอมแต่งแต่โดยดีก็ได้ แต่ลูกมีข้อแม้ท่านพ่อ”
“อะไรหรือเฟดิน่า”
พระองค์ถามขึ้นด้วยความสงสัยทันที แต่ลูกสาวตัวดีได้แต่ยิ้มมุมปากก่อนจะพูดถึงข้อแม้ที่ทำให้พระองค์ถึงกับเป็นใบ้ไปเลย
“ข้าจะข้อพิสูจน์ว่าคู่หมั้นของลูกนิสัยแย่เหมือนอย่างที่ชาวบ้านรืออยู่หรือไม่ แต่ถ้าไม่เป็นจริงลูกจะยอมแต่งแต่โดยดีไม่มีข้อแม้ใดๆ แต่ถ้าเขาแย่จริงท่านพ่อจะต้องยกเลิกงานแต่งงานทันที”
แล้วนี้พระองค์จะทำอย่างไรดี ในเมื่อเงื่อนไขของเฟดิน่าเหมือนจะไม่เข้าข้างพระองค์เลยแต่เมื่อคิดดูดีๆ ถ้าหากว่าเจ้าชายไม่ได้เป็นอย่างในที่ชาวบ้านพูดเรื่องงานแต่งงานก็ง่ายขึ้นเพราะขนาดข่าวรือเรื่องของบุตรสาวยังไม่มีมูลความจริง อย่างงั้นเรื่องของเจ้าชายอาจจะไม่เป็นจริงก็เป็นได้ เมื่อคิดได้ดังนั้นองค์ราชาจึงรับขอเสนอของบุตรสาวทันที เพราะ ถึงมันจะเป็นหลุมพรางของบุตรสาวมันจะเป็นไรไปถ้าพระองค์จะตกลงไป
“ได้ ข้าให้เจ้าได้พิสูจน์แต่ข้าใหเวลาเจ้าหนึ่งเดือนเท่านั้น”
“ได้ท่านพ่อแล้วข้าจะพิสูจน์ให้ดู”
เมื่อได้ยินว่าขอเสนอของตนไม่เป็นหมัน ก็ยิ้มอย่างดีอกดีใจก่อนจะกล่าวลาผู้เป็นพ่อทันที แต่แล้วเมื่อเดินไปถึงประตูเสียงผู้เป็นพ่อก็ได้ถามขึ้นมากับสิ่งที่สงสัยทันที
“เดี๋ยวก่อน เฟดิน่า”
“มีอะไรหรือท่านพ่อ” แล้วร่างบางก็หันมาทันทีเมื่อผู้เป็นพ่อเรียก
“พ่อแค่สงสัยว่าเจ้าจะพิสูจน์อย่างไรเฟดิน่า”
เมื่อร่างบางได้ยินอย่างนั้น ก็ได้แต่อมยิ้มแล้วก็ตรัสออกมา ทำให้พระองค์ยิ่งสงสัยหนักกว่าที่ควรจะเป็นเข้าไปอีก
“ความลับท่านพ่อ”
แล้วร่างบางก็เดินหายออกไปจากหลังประตูทันที เหลือไว้แต่ริชาร์ดกษัตริย์แห่งมิเนร่าที่ทิ้งตัวลงบนเก้าอี้ตัวเดินอย่างหมดแรงกับคนสนิทที่มองมาอย่างเป็นห่วง
“คาซัลเจ้าว่าข้าตัดสินใจผิดหรือถูกที่รับข้อเสนอของเฟดิน่า”
คาซัลก็ได้แต่มององค์ราชาของตนพร้อมกับความเห็นใจที่ทรงมีเจ้าหญิงที่ทรงทั้งดื้อรั้นอย่างเจ้าหญิงเฟดิน่า
“นักปราญน์ยังรู้พลาด คนฉลาดยังรู้พลั้งแล้วราชาอย่างองค์ริชาร์ดจะกระโดดลงหลุมพรางที่บุตรสาวขุดขึ้นมาจะเป็นไรไปละกระหม่อม”
“ฮึๆๆ”
แล้วกษัตริย์ริชาร์ดก็ได้แต่หัวเราะในลำคอกับคำพูดของคนสนิทที่ไม่ว่าอย่างไรก็รู้ความคิดพระองค์ซะทุกเรื่อง
“แล้วอีกอย่างกระหม่อมคิดว่าพระองค์ก็คงอยากจะลองตกลงไปอยู่แล้วไม่ใช่หรือกระหม่อม”
“ฮ้าๆๆๆ”
เมื่อได้ฟังสิ่งที่คนสนิทพูดยิ่งทำให้พระองค์ทรงสรวลดังก่อนจะเงียบลงพร้อมกับรับสั่งกับคนสนิท
“ข้าว่าวันหลังข้าจะพาเจ้าลงมาในหลุมบ้างดีไหมคาซัล เพื่อเจ้าจะได้เปลี่ยนบรรยากาศจากที่เคยมาอยู่ในหลุมบ้าง”
คนสนิทที่ยินฟังได้แต่ยิ้มน้อยๆ ก่อนจะตอบคำตอบที่ยิ่งทำให้องค์ริชาร์ดสรวลดังกว่าเก่า
“กระหม่อมคิดว่า กระหม่อมตกหลุมตั้งแต่พระองค์ทรงตอบตกลงเจ้าหญิงซะอีก”
สุดท้ายกษัตริย์ริชาร์ดกับคาซัลคนสนิทก็วางงานต่างๆ เมื่อรู้ว่าถึงเวลาจิบน้ำชายามบ่ายแก่ๆกับคนแก่อย่างที่เฟดิน่าบุตรสาวได้พูดไว้
ความคิดเห็น