คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : เจ้าชายเส็งเคร็ง
กริ่งๆๆ
เสียงกระทบกันของกระดิ่งสีเงินทองที่แขวนอยู่บนหน้าประตูพร้อมกับการปรากฎตัวของบุรุษทั้งสองที่อยู่ในเครื่องแบบของทหารของมิเนร่า แม้เสียงกระดิ่งหน้าร้านจะดังคนภายในร้านก็หาสนใจไม่ เพราะ อย่างไรหมู่บ้านทาร์แห่งนี้ก็เป็นที่แวะพักผ่อนของคนมากหน้าหลายตาอยู่แล้วทำให้ไม่มีใครได้สนใจแขกผู้มาใหม่ยกเว้นเจ้าของร้านเท่านั้น
“ยินดีต้อนรับค่ะ”
แล้วหญิงสาวผู้มีผมสีดำ พร้อมดวงตาสีดำสนิท ร่างท้วมเล็กน้อยแต่ดูน่ารัก ได้เดินออกมาจากโต๊ะข้างหลังสุด พร้อมทั้งเข้ามาหาแขกผู้มาใหม่ทั้งสอง เมื่อหญิงสาวเดินเข้ามา เฟดิน่าก็กระชับผ้าคลุมหน้าทันที แล้วหญิงสาวที่เดินมาเมื่อได้เห็นหน้าแขกผู้มาใหม่ใกล้ๆ หญิงสาวก็ยิ้มหวานขึ้นมา
“ขอโทษครับคือเราต้องการห้องพักซักสองห้องครับ”
เมื่อคาลพูดจบหญิงสาวร่างท้วมแต่น่ารักก็ยิ่งยิ้มเข้าไปอีก ทำให้คาลได้แต่ยิ้มหวานตอบอย่างตามนิสัยผู้ที่มีหน้าตาดีเป็นทุนอยู่แล้ว ทำให้เฟดิน่าได้แต่ทำหน้าเซ็งคนหน้าตาดี
“สองห้องหรอคะ คอยซักครู่นะคะ”
“ครับ”
แล้วหญิงสาวก็ยิ้มหวานอีกครั้ง ก่อนจะเดินไปยังโต๊ะข้างหลังสุดที่เธอเดินออกมา
เมื่อหญิงสาวเดินออกไป เฟดิน่าก็ได้แต่กวาดตามองรอบๆ ร้าน ที่มีแต่ผู้ชายซะส่วนใหญ่ในร้านนี้ เพราะ ผู้หญิงที่มีก็นับได้แค่สองสามคนเท่านั้นเอง ซึ่งผู้หญิงสองสามคนนั้นก็นั่งอยู่กับชายผู้หนึ่งที่สุดร้านข้างๆ โต๊ะที่หญิงสาวเดินเข้าไป ทำให้เฟดิน่าไม่สามารถมองเห็นหน้าตาของชายคนนั้นได้ เฟดิน่าก็มองรอบร้านไปเรื่อยจนหญิงสาวเจ้าของร้านได้เดินกลับมาอีกครั้งนึง
“ขอโทษนะคะ ไม่ทราบว่าท่านทั้งสองจะเอาไม่คะ เพราะวันนี้ห้องของเราเต็มหมดแล้วเหลือแค่ห้องเดียวเท่านั้นคะ”
เมื่อคาลได้ยินอย่างนั้นก็ขมวดคิ้วพร้อมความสงสัยไม่ใช่น้อย ว่าร้านที่ใหญ่อย่างนี้มีห้องไม่หน้าจะต่ำกว่าร้อยห้องนี่ มันจะเต็มได้อย่างไร เมื่อที่พักแห่งหมู่บ้านทาร์มีตั้งมากมายเพราะที่นี่เขาทำอาชีพที่พักเป็นอาชีพหลัก
อีกอย่างเขามากี่ครั้งก็มีแต่ร้านที่เหลือห้องว่างทั้งนั้น แต่คราวนี้ที่เขาเดินทางมาที่พักแต่ละที่ก็เต็มหมดอีกอย่างที่นี้เป็นที่สุดท้ายแล้วด้วย
“คือ ขอโทษนะครับ ผมขอถามหน่อยได้ไหมครับ”
“ได้ค่ะ”
หญิงสาวตอบไปพร้อมกับหน้าที่แดงระเรื่อขึ้นมาที่แก้มทั้งสองข้าง และทั้งมือที่บิดเสื้อตัวเองไปมาอีกด้วย
“ผมเดินทางมาร้านอื่นก็เต็มทุกร้าน แล้วที่นี่ยังเหลือที่พักแค่ห้องเดียวอีก ที่นี้จะมีงานอะไรหรือครับ”
คาลถามพร้อมทั้งยิ้มหวานให้หญิงสาวอีกทำให้เธอยิ่งบิดผ้าตัวเองเข้าไปอีก แต่แล้วเมื่อหญิงสาวจะตอบก็มีคนขัดขึ้นมาเสียก่อน
“คือว่า......”
“นี้เจ้าสองคนนั้นนะไม่รู้จริงๆ หรือว่าเขาจะมีงานประลองฝีมือกันนะ”
คาลได้แต่ขมวดคิ้วพร้อมกับเจ้าหญิงเฟดิน่าที่กระชับผ้าที่ปิดหน้ามากกว่าเดิม เมื่อชายคนที่นั่งอยู่หลังสุดกับผู้หญิงทั้งหลายได้ลุกขึ้นยืน พร้อมทั้งเดินมาหาคาลและเฟดิน่าทันที ทำให้คนที่นั่งอยู่ทั้งหมดในร้านเงียบกันขึ้นมาทันที
เมื่อชายคนนั้นลุกขึ้นทำให้เฟดิน่าได้เห็นเครื่องแบบที่ชายคนนั้นสวมใส่อยู่ ทำให้เฟดิน่ารู้ทันทีว่า ชายคนนี้หน้าจะเป็นองครักษ์คนสนิทของเจ้าชายซารัสที่นิสัยเหมือนเจ้านายแบบถอนแบบกันออกมา
“งานประลองอะไรหรือท่าน”
คาลเริ่มถามขึ้นทันทีด้วยความสงสัย แต่แล้วชายคนนั้นก็ยิ้มที่มุมปากพร้อมทั้งตอบคำถามของคาล ที่เริ่มเอาตัวเองบังสตรีอีกคนที่อยู่ข้างหลังเขา เมื่อเห็นว่าชายคนนี้มีท่าทางไม่หน้าวางใจซักเท่าไหร่เลย
“ข้าอยากรู้จริงๆ ว่าทหารแห่งมิเนร่าอย่างพวกเจ้าไปมุดหัวที่ไหนมาหรือแต่มั่วดักดานอยู่ ถึงไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะมีงานประลองเพื่อคัดหาทหารฝีมือดี สำหรับอารักษ์ขาเจ้าชายซารัสแห่งเมืองโมโนซ่า”
เจ้าหญิงฟังอย่างนั้นอยากจะซัดชายคนนี้ซักเปรี้ยงนึงที่มาพูดถากถางนางกับเพื่อนนางรวมถึงทหารของมิเนร่าด้วย
“แล้วพวกเราสามารถเข้าร่วมประลองด้วยได้ไหม”
เมื่อคาลถามออกไปทำให้เฟดิน่าถึงกับคร้างในลำคอ เพราะ การประลองเป็นองครักษ์เจ้าชายเส็งเคร็งนั้นเป็นสิ่งสุดท้ายที่เฟดิน่าคิดจะทำ
“ได้ เพราะ พวกเรารับทุกคนไม่จำกัดว่าเป็นคนแคว้นใดขอให้มีฝีมือเป็นพอ”
“แล้วงานประลองเริ่มเมื่อไหร่ละครับ”
คาลเริ่มถามต่อด้วยความสนใจ ทำให้ชายคนนั้นได้แต่ยิ้มขึ้นอีกครั้งนึง เมื่อคิดว่าหน่วยก้านของคาลหน้าจะเก่งใช้ได้ในการเป็นองครักษ์ แต่ถึงจะคิดอย่างนั้นเขาก็อดที่จะพูดจาทำร้ายน้ำใจไม่ได้ เพราะ ถ้าไม่พูดชายคนนี้คงจะไม่แสดงฝีมือจริงๆ หรอก
“งานเริ่มตอนเที่ยงตรง แต่ถ้าเจ้าเกิดปอดขึ้นมา เพราะรู้ว่าฝีมือของเจ้าไม่ถึงไหนก็ไม่เป็นไหรหรอกนะ”
“ทำไมข้าต้องปอดด้วยละท่าน”
คาลพูดแล้วก็เริ่มยิ้มเจ้าเล่ห์ในแบบฉบับที่ไม่มีใครรู้ยกเว้นเจ้าหญิงที่เป็นเพื่อนกันมาช้านานที่คิดว่ารอยยิ้มนั้นไม่มีความหน้าไว้วางใจ
“เพราะว่า ข้าไม่ได้เข้าร่วมการประลองซักหน่อย”
เมื่อคาลพูดแค่นั้นก็ทำให้ชายคนนั้นงงเข้าไปอีก
“เจ้าไม่ประลองแล้วเจ้าจะถามเราทำไม”
“ฮึๆ”
เมื่อนายชายคนนั้นพูดคาลก็เริ่มหัวเราะในลำคอเบาๆ ก่อนจะเดินมาอยู่ข้างหลังเฟดิน่า พร้อมทั้งคว้ากุญแจจากหญิงสาวที่ยืนอยู่ด้วย ก่อนจะขยิบตาหนึ่งที
“เพราะว่าข้าจะให้เพื่อนข้าคนนี้ร่วมประลองต่างหากละ”
คาลพูดแค่นั้นก็ทำให้เพื่อนที่โดนพลักอยู่ข้างหลังถึงกลับหันมามองเพื่อนจอมวางแผนตาเขียว เพราะ พูดกับเขาดีๆ อยู่ก็โยนภาระมาให้ซะงั้น
“งั้นข้าขอตัวก่อนนะท่านพรุ่งนี้เจอกัน”
แล้วคาลก็เริ่มพลักหลังเพื่อนขึ้นห้องพักทันที
โดยหารู้ไม่ว่าตอนนี้เจ้าหญิงเฟดิน่า ผู้เป็นเพื่อนที่โดนโยนภาระกำลังหักนิ้วตัวเองพร้อมขยับมือไปมาเพื่อจะย้ำเจ้าเพื่อนจอมวางแผนทันทีเมื่อถึงห้องพัก
เมื่อสองบุรุษผ่านไปแล้วเสียงเฮฮาก็เริ่มดังขึ้นอีก แต่ชายผู้ที่ใครๆ ก็คิดว่าเป็นองครักษ์ของเจ้าชายจากเครื่องแบบที่ใส่อยู่ ยังคงยืนอยู่กับที่เพราะ ยังคงแปลกใจกลับบุรุษทั้งสองที่เดินผ่านไปไม่หาย แต่แล้วก็มีนายทหารแห่งมิโนซ่าเดินมาพร้อมทั้งกระซิบชายที่ยังคงยืนอยู่กลับที่เบาๆ เพื่อให้ได้ยินกันแค่สองคนเท่านั้น
“เจ้าชายซารัส ท่านกิวให้มาตามท่านกลับที่พักเดี๋ยวนี้เลยพระเจ้าค่ะ”
“เดี๋ยวข้าก็กลับแล้วละ ฝากบอกกิวด้วยไม่ต้องเป็นห่วง”
เมื่อเจ้าชายผู้อยู่ในคราบองครักษ์ตรัสดังนั้น นายทหารก็ได้แต่พยักหน้าพร้อมทั้งเดินออกจากที่ร้านทันที
แล้วเจ้าชายในคราบองครักษ์ก็เดินไปยังโต๊ะเดิมของตนพร้อมทั้งหัวเราะเบาๆ กลับรางสังหรของตน
“งานนี้ต้องมีอะไรสนุกๆ เกิดขึ้นแน่ ฮึๆ”
เจ้าชายซารัสหัวเราะเบาๆ กลับตัวเองก่อนจะจ่ายเงินแล้วเดินออกจากร้านนั้นทันที
ความคิดเห็น