ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Risen Age

    ลำดับตอนที่ #4 : ฝูงก๊อบลิน - Goblin Tribe

    • อัปเดตล่าสุด 7 พ.ย. 48


        วิลตกใจมากกับภาพที่เห็น เขาเองไม่เคยฝึกเวทย์นี้มาก่อนเลย เละคาถาเมื่อครู่ เขาเองก็ไม่รู้ว่ามันออกมาจากปากเขาได้อย่างไร เขาจ้องมองดูร่างที่ไร้ซึ่งชีวิตของเสือดำจากัวร์ พลางสลับกับมองมือทั้งสองของตัวเองอยู่พักหนึ่ง เสือดำนั่นก็คงจะประหลาดใจไม่น้อยกว่าเขาเป็นแน่ หากแต่มีเพียงเขาที่ยืนตะลึงงันอยู่กับเหตุการณ์เมื่อครู่



        เขาเดินอ้อมร่างของเสือดำนั่นไป โดยไม่เก็บเทียนไขขึ้นมา เพราะเขาเกรงว่าแสงสว่างวาบเมื่อครู่อาจทำให้พวกก๊อบลินรู้ตัวแล้วก็เป็นได้ เขาจึงต้องเดินทางต่อไปในป่าที่รกชัฏโดยปราศจากแสงใดๆนำทาง เขาจึงต้องลำบากยิ่งกว่าเก่า เพราะเขารู้สึกราวกับว่าแนวต้นวิลโลว์ทั้งสองข้างทางเคลื่อนที่ไปมาจนเขาต้องเดินวนอยู่กับที่ แต่แล้วเขาก็พบกับแสงสว่างที่ลอดผ่านพุ่มไม้ข้างทางออกมา เมื่อเขาเดินเข้าไปใกล้ๆและแหวกพุ่มไม้ออกดู เขาจึงได้เห็นกองไฟขนาดใหญ่ที่สว่างโชติช่วงส่องให้เห็นเงาของก๊อบลินจำนานมากมายที่อยู่หลังผืนผ้าใบที่ขึงไว้และมีก๊อบลินอีกตัวหนึ่งที่เฝ้ายามอยู่ข้างกองไฟ แต่ที่ทำให้ตาของเขาต้องเบิกตากว้างมองดู คือเอลลี่ที่ถูกมัดไว้กับต้นเสาที่อยู่ไม่ไกลจากกองไฟนัก เธอยังคงหลับอยู่ พวกก๊อบลินคงใช้ยานอนหลับกับเธอแน่ แต่เขาก็ไม่รู้ว่าพวกก๊อบลินจะจับตัวเธอมาทำไมกัน ในเมื่อพวกก๊อบลินก็ไม่ได้กินเนื้อมนุษย์ แต่สำหรับพวกก๊อบลินที่อยู่แต่ในป่าลึกเช่นนี้แล้ว ไม่น่าจะมีเหตุผลอื่นใดที่สำคัญไปกว่าความอยู่รอด



        วิลได้แต่มองดูเอลลี่อยู่อย่างนั้น เขาคิดหาวิธีช่วยเธอไม่ได้เลย ทั้งๆที่ก็หาตัวเธอเจอแล้วแท้ๆ แต่กลับช่วยเธอไม่ได้  เพราะเขาเองรู้ดีว่าการจะเอาชนะก๊อบลินฝูงใหญ่เช่นนี้แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยสำหรับเด็กอายุ 17 ปีอย่างเขา และคงจะไม่มีปาฏิหารย์เกิดขึ้นซ้ำสองอีกแน่



        เขามองผ่านพุ่มไม้ไปยังผืนผ้าใบที่มีเงาของก๊อบลินจำนวนมากมายฉายทาบอยู่ เขากลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่เมื่อลองคิดดูว่า หากเขาโผล่พรวดเข้าไปกลางฝูงก๊อบลินนั่นแล้วจะเกิดอะไรขึ้นกับเขาบ้าง เขาจึงตั้งหน้าตั้งตาสังเกตพฤติกรรมของพวกก๊อบลินดูก่อน แต่ถึงแม้เขาจะรอถึงครึ่งชั่วยามแล้ว พวกก๊อบลินกลับไม่ขยับเขยื้อนเลยแม้แต่น้อย พวกมันอยู่นิ่งไม่ไหวติง วิลจึงคิดว่า พวกมันอาจจะนอนหลับอยู่ก็ได้ และตอนนี้เวลาก็ล่วงเลยมามากแล้ว หากเขารอไปมากกว่านี้อาจจะไม่ทันการณ์ เขาจึงตัดสินใจรวบรวมความกล้า ยืนขึ้นแล้วเริ่มต้นร่ายคาถา



        \"เปลวเพลิงที่ลุกโชติช่วง โปรดมอบพลังเปลวไฟแก่ข้า เพื่อเผาผลาญสรรพสิ่งตรงหน้าให้สิ้น Burning Flame!\" เมื่อสิ้นเสียงวิล สะเก็ดไฟจากกองไฟของพวกก๊อบลินก็ลอยเข้ามาสู่ตรงหน้าคฑาเวทย์ของเขา และพลันเกิดเปลวเพลิงขนาดใหญ่ แผดเผาออกเป็นวงกว้าง ทั้งผืนผ้าใบและพุ่มไม้บริเวณนั้นถูกเผาผลาญจนไหม้เป็ผงดำ ตอนนั้นเอง ที่วิลรู้ตัวว่าถูกหลอก เพราะที่อยู่ตรงหน้าเขาไม่ใช่เศษซากก๊อบลิน แต่เป็นเพียงรูปปั้นดินเผาที่ถูกเผาไหม้จนดำเท่านั้น...



        ก๊อบลินที่เฝ้าเวรยามอยู่นั้นไม่ถูกเผา จึงรีบวิ่งหนีไปทันที ซึ่งวิลก็เข้าใจว่าเป็นธรรมชาติของก๊อบลินที่จะไม่พยายามสู้ตัวคนเดียวหากเสียเปรียบ เขารีบวิ่งฝ่าเข้าไปช่วยเอลลี่ทันที เอลลี่ถูกมัดไว้ เขาจึงใช้มีดที่เหน็บติดไว้ข้างลำตัวมาตัดเชือกออก แต่ยังไม่ทันที่เขาจะตัดเชือกเสร็จ เจ้าก๊อบลินที่วิ่งหนีไปนั้น ก็วิ่งกลับมาพร้อมกับพวกของมันเป็นกองทัพนับสิบตัว! ซึ่งทุกตัวนั้นสวมใส่ชุดเกราะและกระบองที่พวกมันทำขึ้นเองด้วย พวกมันวิ่งตรงมายังวิล พอดีกับที่วิลตัดเชือกที่มัดตัวเอลลี่ไว้ออก เขาคิดว่าเวลากระชั้นชิดเพียงนี้ หากจะสู้กับก๊อบลินติดอาวุธทั้งกองทัพพร้อมกัน ตัวเขาคนเดียวคงไม่ไหวแน่ จึงไม่ต้องคิดเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเขาและเอลลี่ วิลจึงงัดเวทย์มนต์ระดับพื้นฐานออกมาใช้...



        \"ข้าแต่เทพประจำลมทิศใต้ โปรดมอบพลังสายลมที่พัดผ่านกายข้า แปรเปลี่ยนเป็นพายุพัดโหมปัดเป่าสิ่งที่อยู่ตรงหน้าข้าให้สิ้นไป Assault Blow !\" สายลมที่พัดเอื่อยแปรเปลี่ยนเป็นพายุขนาดเล็กพัดโหมกระหน่ำเข้าหาพวกก๊อบลินที่วิ่งประจัญหน้าเข้ามา ทำให้ก๊อบลินบางตัวเสียหลักกระเด็นไป ตัวที่สามารถต้านแรงลมไว้ได้ก็ถูกลมพัดพาทรายบริเวณนั้นเข้าตาจนตาบอดไปชั่วขณะหนึ่ง



        ตอนนี้วิลได้โอกาสหนีแล้ว แต่จะติดก็ตรงที่เอลลี่ยังไม่ตื่น เขาจึงต้องประคองเอลลี่ไปอย่างทุกลักทุเล เขาแบกเอลลี่ไว้บนหลัง ผ่านพุ่มไม้ที่เพิ่งถูกเผาไปพร้อมตุ๊กตาก๊อบลิน เพียงเดินออกจากค่ายก๊อบลินมาได้ไม่กี่ก้าว เขาเองก็เริ่มรู้สึกตัวแล้วว่าเขาอ่อนล้าเต็มที เพราะวันนี้เป็นครั้งแรกที่เขาใช้เวทย์มนต์ในการต่อสู้ ถึงพลังเวทย์จะได้ผลน่าพอใจกว่าตอนที่เขาฝึกใช้กับต้นไม้และก้อนหินหลายเท่านัก แต่เขาเองก็ต้องเสียพลังเวทย์ไปมากอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน วิลเริ่มอ่อนล้าหมดแรงลงทุกๆก้าวที่เดินไป เขาเองก็ไม่รู้ว่าจะมีแรงเดินไปได้อีกสักกี่ก้าว ความหวังในตอนนี้ของวิลเหลือเพียงขอแค่เดินไปได้อีกสักก้าวเท่านั้น แต่ความหวังทั้งหมดของวิลก็ราวกับจะหมดสิ้นพลัน เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นและเห็นอสูรกายขนาดยักษ์

    ยืนขวางทางเขาอยู่ ตอนนี้เขาไม่มีแรงที่จะต่อสู้อีกต่อไปแล้ว แม้แต่จะมองรูปพรรณสันฐานของมัน แต่ตาทั้งสองของเขาก็พร่ามัว เขาได้แต่สวดภาวนาขอให้เทพบาลเดอร์ทรงเห็นใจเขาบ้างเท่านั้น...



        \"พระบิดา...ช่วยลูกด้วย...\" เขาเอ่ยขึ้นเป็นคำสุดท้ายก่อนจะทรุดกายลงกับพื้น อสูรกายสีแดงเพลิงนั่นตรงเข้ามา หมายจะทำลายชีวิตของเขาทั้งคู่ ชั่วขณะที่อสูรกายนั่นเงื้อมมือออกมานั้นเอง ก็พลันเกิดแสงสว่างวาบขึ้นจากด้านหลังของวิล แสงสว่างนั้นเจิดจ้ายิ่งกว่าดวงอาทิตย์นับพันดวงแต่เขากลับรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก ราวกับมีพ่อมาปกป้อง เป็นความรู้สึกที่แม้วิลที่พ่อของเขาเสียตั้งแต่เขายังเด็กก็รู้สึกได้.....











        ไม่นานนัก ชาวบ้านแมนิสมอร์และนักรบเซนทอร์จำนวนมากก็วิ่งมาถึงจุดที่วิลและเอลลี่นอนสลบอยู่ พวกเขารู้สึกโล่งใจเป็นอย่างมากที่วิลและเอลลี่ไม่บาดเจ็บอะไร แต่ขณะที่พวกเขาจะเข้าไปช่วยพาตัววิลและเอลลี่กลับหมู่บ้านนั้นเอง ทำให้ทุกคนในที่นั้นต้องตกตะลึงกับภาพที่เห็น...!!











                                                             ***************************





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×