คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : SF ข้างๆหัวใจ
ข้างๆหัวใจ
นานนับได้เลยว่าดวงดาวทั้ง 8 ดวงจากเวทีดาวปี6ไม่ได้อยู่ด้วยกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตาวันนี้พวกเขาทั้งหมดกำลัง
จะเที่ยวต่างจังหวัดกันไปกัน3วัน2คืนแต่ขนของไปอย่างกับอยู่สักหนึ่งอาทิตย์การมาเที่ยวครั้งนี้อาจจะมีสาเหตุอีก1ข้อคือ
การมาเที่ยวทื้งทวนเพราะดวงดาวทั้ง 8 ดวงต่างก็มีหน้าที่ของตนและอาจจะเป็นการมาเที่ยวพร้อมกันก่อนที่ริทจะกลับไป
เรียนที่ขอนแก่นเสียก่อน นี่ก็ผ่านวันคล้ายวันเกิดของริทมาก็อาทิตย์กว่าๆได้แล้วแต่ความสุขยังคงล้นจากใจริทที่ส่งผ่านสี
หน้าได้อย่างชัดเจน
“พี่ริทดูมีความสุขมากเลยนะ” น้องสาวแสนสวยซึ่งเป็นคนเดียวกันกับคนที่เป็นนางอกของเขาด้วยเอ่ยถาม
“แหม เกรซก็พี่มีความสุขนี่” ริทตอบพร้อมกับรอยยิ้มส่งไปให้น้องสาว
“สงสัยจะยังค้างกับวันเกิดตัวเองเป็แน่” น้องสาวอีกคนเอ่ยแซว
“จริงๆนะ มีความสุขที่สุด ของขวัญทุกชิ้น คำอวยพรทุกคำ โทรศัพท์ทุกสาย มันทำให้พี่มีความสุขที่สุด” ริทอธิบายพร้อมกับ
หันไปมองคนตัวพ่อของเวทีที่นั่งอยู่อีกที่
แปลกแหะ ปกติจะนั่งตัวติดกันเป็นปาท่องโก๋แต่ไมวันนี้ไปนั่งเบาะหลังซะงั้น
โดยเฉพาะโทรศัพท์ ริทรู้ดีว่ามันทำให้เขามีความสุขมากเพราะคนที่วันนี้นั่งเบาะหลังโทรมาอวยพรเป็นคนแรก
“ไหนๆก็มีความสุขแล้วก็มีความสุขอีกให้เต็มที่นะ นานแล้วที่พวกเราไม่ได้มาเที่ยวกันอย่างนี้” โตโน่ที่นั่งมองดูน้องๆคุยกันก็
เอ่ยขึ้น
“อยู่แล้วพี่โน่ เก่งจะมาคลายเครียดด้วยเพราะช่วงนี้เรียนหนักสุดๆ” เก่งพูดขึ้นมา
“งั้นวันนี้พวกเราเต็มที” เซนย้ำอีกครั้ง
“วันนี้ผมจะไม่เกรงใจใครเลยนะ นานๆได้กลับมาหาพวกพี่” ไอซ์เองก็พูดขึ้นอย่างยิ้มแย้ม
“ตามสบายเลยไอ้น้อง” โตโน่พูดเชิงยินดี
ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า เสียงหัวเราะมที่เต็มไปด้วยความสุขดังขึ้นลั่นรถแต่มีเพียงตัวพ่อของเวทีกระมั่งที่ไม่ขำด้วยเลยแถมยังนั่งนิ่ง เหม่อลอย
“เฮ้ยไอ้กันมึงเป็นอะไรว่ะ เงียบอย่างกับลืมเอาปากมาน่ะ” เซนเห็นเพื่อนของเขานั่งนิ่งๆจึงเอ่ยถาม
“เปล่า แค่อยากอยู่เป็นคนฟังบ้างเท่านั้นเอง” กันตอบออกมาพร้อมกับย้ายสยตาจากเพื่อนๆไปนอกรถ
“เฮ้ย กันวันนี้มึงเป็นอะไรเนี่ย ปกติจะเห็นนั่งตัวติดกันเป็นปาท่องโก๋กับไอ้เตี้ยมันแต่ไมวันนี้ไปนั่งซะตรงนั้นหล่ะ” โตโน่เอ่ย
ถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงอยู่ไม่น้อย
“อยากกลับมานั่งที่เดิม” กันตอบเสียงนิ่งๆแต่สายตาไม่ได้หันมามองคนถามด้วยซ้ำไปแถบจะไม่มีใครได้ยินแต่เพื่อนที่นั่ง
ข้างๆได้ยินอย่างชัดเจน
ที่เดิมที่ว่าไม่ใช่เบาะที่นั่งแต่เป็นที่เดิมของหัวใจต่างหากที่ไม่เคยมีใครอีกคนเข้ามาต่างหาก
“อะไรนะ ?” โตโน่อุทานเพราะไม่ได้ยิน
“อ่อๆ ไอ้กันมันตอบว่ามันง่วงนอนเลยอยากจะนอนน่ะ” เซนรีบตอบแทนทันทีเพราะเมื่อครู้สิ่งที่เขาได้ยินก็พอที่จะคิดได้ว่า
ต้องมีอะไรที่ทำให้กันเป็นแบบนี้แน่นอนและต้องเกี่ยวกับปาท่องโก๋อีกข้างด้วย
“เออ งั้นก็นอนพักซะช่วงนี้งานเยอะอยู่เหมือนกันนี่” โตโน่รีบไล่ให้น้องชายอีกคนพักผ่อน
ภาพที่ทุกคนคือกันกำลังหลับตาลงช้าและทำให้ทุกคนหันมามองหน้าซึ่งกันและกันอย่างเข้าใจเพื่อนคนนี้แต่คนอีกคนยังคง
ทอดสายตาไปให้คนที่กำลังหลับอยู่เพราะเป็นห่วงใครคนนี้ไม่น้อย
ในระหว่างที่ทุกคนคิดว่าตัวพ่อของเวทีดาวกำลังหลับต่างก้พูดคุยกันอย่างสนุกสนานไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ครั้งตอนที่อยูใน
บ้านและชีวิตประจำวันของทุกคนแต่ก็มีอีกคนที่นั่งเงียบไม่ยอมพูดถึงแต่อาจจะมี ยิ้มบ้างหัวเราะบ้างไปกับเรื่องราวต่างๆของ
เพื่อนๆ
“ริท เป็นอะไรไป” โตโน่เอ่ยถามน้องชายที่นั่งเงียบ
“........................” ความเงียบคือคำตอบแต่ได้ภาพๆนี้กลับมา ริทเอียงหน้าเล็กไปทางคนนอนหลับ
“เป็นห่วงมันหรอ” โตโน่ถามอีกครั้ง
“..........................”ความเงียบอีกแล้วแต่ก็ได้รับการพยักหน้ากลับมาเป็นคำตอบ
“เซน!” โตโน่เรียกเซนและกวักมือให้เซนย้ายที่กับริท การเคลื่อนไหวทำให้กันรู้ทันทีว่ามีการเปลี่ยนแลงที่นั่งแต่ทว่าถ้าเข้า
หลับคงรับรู้การเคลื่อนไหวเพียงอย่างเดียวแต่นี่เขาไม่ได้หลับเลยสักนิดเพียงแค่หลับตาเพื่อพักสายตาเท่านั่นและได้ยินทุก
สิ่งทุกอย่างทั้งหมดด้วย พักสายตาหรือหลบสายตากันแน่ ทันทีที่ริทนั่งข้างๆกันเรียบร้อยแล้วก็คว้ามือของกันข้างที่อยู่ใกล้
ตัวมากุมไว้แต่การกระทำนั้นมันทำให้กันต้องยิ่งหลับตาเพราะต้องการสกัดกั้นน้ำตาที่มาคลอให้รู้สึกหน่วงที่ตาทันทีด้วยแรง
ของการสกัดกั้นน้ำตาทำให้ริทรู้สึกว่ากันตัวสั่นจึงเข้าใจว่ากันหนาว จึงหยิบผ้าห่มข้างๆมาห่มให้
“หนาวหรอ พักผ่อนเยอะๆนะ ริทอยู่ข้างๆนะ” ริทห่มผ้าไปพูดไปถึงแม้จะไม่ได้คำตอบก็ตามมันทำต้องให้กันรีบพลิกตัวให้
ชิดหน้าต่างรถมากที่สุดเพื่อต้องการหนี้ไม่ให้ใครเห็นน้ำตารวมถึงคนข้างๆด้วยเพราะตอนนี้น้ำตาของคนๆนี้ไหลอาบแก้มข้าง
ขวาไปเรียบร้อยแล้ว
พอถึงสถานที่ทุกคนก็แยกย้ายกันไปตามห้องโดยที่สองสาวอยู่ห้องเดียวกันไปโดยปริยายและหนุ่มๆก็จัดตามที่อยู่ในบ้าน
แต่ดันมีคนทักท้วงขึ้นมา
“พี่โน่ เก่งนอนกับพี่นะเพราะว่าไม่ได้เจอกันเลนช่วงนี้จะนอนคุยตามประสาพี่ๆกัน เข้าใจป่ะ น้องๆ” เก่งท้วงขึ้นมาทันที
“ไอซ์จะนอนกับพี่เซนเพราะเพิ่งซื้อกล้องมาใหม่จะให้พี่เซนสอนเทคนิคการถ่ายรูป” ไอซ์พูดเสร็จก็เดินถือกระเป๋าไปหาเซน
ทันที ทำให้ตอนนี้กันกับริทก็ต้องนอนห้องเดียวกันและเมื่อก้าวเข้าห้องทั้งคู่ก็จัดแจงเก็บข้าวของจนเรียบร้อยทุกคนก็ออก
ไปเล่นกิจกรรมของทางที่พักมีแต่ก็ดันเกิดฝนตกขึ้นด้วยความซนของน้องชายคนเล็กจึงลากพี่ๆทั้งหมดมาเล่นน้ำฝนด้วย
ความที่โตมาหลายปีทำให้หลายๆคนเล่นน้ำฝนอย่างสนุกสนานเหมือนย้อนกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง
หลังจากที่ทุกคนเล่นน้ำฝนกันอย่างสนุกสนานแต่กันเหมือนจะรู้สึกตัวว่าถ้าเล่นนานากว่านี้ป่วยแน่นอนจึงขอตัวเดินกลับมาที่
ห้องพักและปล่อยให้เพื่อนเล่นกันต่อไป
“เล่นกันไปเลยนะ ริทจะไปดูกันมันซะหน่อย วันนี้มันแปลกๆไม่ค่อยพูดไม่ค่อยจา เป็นห่วงมันน่ะ เมื่อริทเห็นว่ากันไม่อยู่ตรง
นี้แล้วจึงขอตัวเช่นเดียวกัน
“กันน.. กะ” ริทตะโกนเรียกตั้งแต่ยังไม่เปิดประตูห้องแต่เมื่อเห็นกันนั่งอยู่ปลายเตียงจึงหยุดทันที
“อ้าวยังไม่ไปอาบน้ำอีกหรอ ไปอาบน้ำสระผมได้แล้วเดี๋ยวจะป่วยเอานะ” ริทสั่งให้กันลุกไปอาบน้ำและกันก็ไม่ได้ตอบ
อะไรแต่เดินเข้าไปอาบน้ำแทนและไม่นานนักก็ถึงคิวของริทที่จะต้องไปอาบน้ำบ้างเสียแล้ว
“เออ กันนี่ยาแก้ไข้แต่งตัวเสร็จแล้ว กินยาด้วย กินดักไว้ก่อนน่ะ” ก่อนที่ริทจะก้าวไปยังห้องน้ำก็ยังสั่งให้กันกินยาเสียก่อน
และเมื่อตัวเองอาบน้ำเสร็จก็เห็นว่ากันหลับเรียบร้อยแล้วตัวเองจึงกินยาดักไว้เหมือนกันพร้อมเข้านอนแต่ก็เดินไปทิ้งเศษห่อ
ยาก็กลับเห็นยาแก้ไข้ที่เขาให้กันกินก่อนนอนอยู่ในถังขยะเขาถึงกับตกใจและเดินมานั่งที่ปลายเตียงเพื่อนั่งคิดทบทวนเรื่อง
ราวต่างๆว่าเขาทำอะไรให้กันโกรธหรือเปล่า
คิดไปคิดมาก็คงจะมีเรื่องเดียวตอนนี้ที่สามารถทำให้กันโกรธได้ก็คงเป็นเรื่องคอนของพี่ชายเขาเป็นแน่ เขาเองก็ไม่อยาก
คิดอะไรตอนนี้มากเพราะเขาก็เริ่มทีจะง่วงเหมือนกัน
“พรุ่งนี้ค่อยคุยก็แล้วกัน” ริทหันไปพูดกับคนที่นอนหลับไปแล้วพร้อมกับพาตัวเองไปนอนบ้าง
วันรุ่งขึ้น
ก๊อกๆๆ
“ตื่นๆๆ ปึงๆๆ” เสียงตะโกนเรียกพร้อมกับเสียงทุบประตูดังลั่นก็รู้ทันทีว่าเป็นพี่ชาย
“ตื่นแล้วๆๆ แป๊บนึง” ริทตะโกนตอบออกไป ริทที่ตื่นตั้งนานแล้วก็รีบอาบน้ำแต่งตัวโดยที่ยังไม่ปลุกให้กันตื่นเพราะเขาอยาก
ให้กันพักผ่อนเยอะๆแล้วก็รีบวิ่งมาเปิดประตูให้พี่ชายที่ยืนตะโกนเรียกอยู่
“อ้าวแล้วไมไม่ปลุกไอ้กันเนี่ย” พี่ชายถามน้องชายทันทีที่เห็นว่ากันยังไม่ตื่น
“ริทเห็นว่าช่วงนี้กันงานยุ่งมากๆ นานๆจะมีเวลาพักผ่อนก็เลยอยากให้กันได้พักเยอะๆน่ะ” ริทตอบกลับไป
“แหมๆ เป็นห่วงกันเหลือเกินนะ” โตโน่พูดแซว
“พี่โตโน่ก็รู้ดีนี่ว่ากันมันสำคัญสำหรับริทแค่ไหน” ริทพูดด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความรัก
“ไอ้เตี้ย มึงไม่ต้องเป็นห่วงไอ้ดำมากนักหรอก ดูแลตัวเองเสียบ้าง ส่วนไอ้ดำอ่ะ พี่ดูแลให้ได้เวลาที่มึงสองคนไม่ได้เจอกัน
อ่ะ” โตโน่บอกกับริทด้วยความเต็มใจ
“ขอบคุณนะครับ แต่ทำไมตั้งแต่มานี่ กันไม่ค่อยพูดกับริทเลย โกรธอะไรหรือเปล่า โดยเฉพาะเมื่อคืนนะริทเอายาแก้ไข้วาง
ไว้แล้วบอกให้กินก่อนนอนแต่กันกลับทิ้งยา” ริทอธิบายเศร้า
“กันมันคงไม่อยากให้ริทเป็นห่วงมั้ง มันคงรู้ตัวมันดีว่ามันไหวโดยที่ไม่ต้องกินยาไง อย่าคิดมากเลย” โตโน่อธิบายเหตุผล
(ที่ฟังไม่ขึ้น)แต่ลึกๆก็แอบคิดเหมือนกันว่าน้องชายอีกคนของเขาเป็นอะไรไป
“บอกแล้วไง ว่าถ้าวันที่มึงสองคนไม่ได้เจอกันหรือไม่มีเวลาให้กันเดี๋ยวพี่จะดูแลมันให้” โตโน่ย้ำกับริทอีกครั้งเพื่อความมั่น
ใจ
“ขอคุณนะครับ พี่เป็นคนน่ารักมากและสำคัญกับริทมากเลยนะ” ริทพูดพร้อมกับรอยยิ้มที่น่ารัก
“มึงเห็นกูสำคัญก็ตอนนี้นี่แหละ” โตโน่พูดอย่างขำๆ
“จริงๆนะพี่เป็นคนสำหรับสำหรับริทจริงๆ” ริทพูดอีกครั้ง
“เออ กูเชื่อแล้ว”โตโน่เห็นสีหน้าของริทที่เศร้าเพราะกลัวว่าตัวเองจะไม่เชื่อจึงดึงตัวริทเข้ามากอดแต่เขาทั้งสองคนจะรู้มั้ยว่า
ใครอีกคนที่นอนเพิ่งตื่นเห็นและได้ยินทุกสิ่งอย่างที่คนทั้งสองคุยหมดแล้วแต่ได้ยินไม่หมดจึงตอกย้ำความเจ็บปวดในใจ
ของเขามากว่าเดิมเพราะช่วงที่ผ่านมาก็เจ็บมาเกินพอแต่สิ่งที่เขาได้ยิน ได้เห็นมันทำให้ชัดเจนยิ่งขึ้นในใจของเขาทันที
“ขอโทษนะครับ คาดว่าถ้าผมอยู่ในห้องนี้ต่อไปคงจะขัดความสุขน่าดู” กันตื่นขึ้นมาพร้อมกับพูดขึ้นและรีบลุกขึ้นจากเตียง
ทันทีแต่ทว่าด้วยความดื้อของเขาเมื่อคืนที่ไม่กินยาทำให้อาการไข้ครอบครองร่างกายของเขาทันที
“โอ๊ย” จากการที่เป็นไข้ทำให้เขาแทบจะยืนไม่ไหวเกือบจะทรุดลงไปกับพื้น
“กันเป็นอะไร” ริทเห็นจึงรีบวิ่งไปพยุงทันที
“กันตัวร้อนนี่”ริทพูดขึ้นทันที
“ปล่อย แค่นี้ไม่ตายหรอก” กันพูดประชดประชันพร้อมกับดึงตัวออกจากริททันที
“กันทำไมพูดอย่างนี้ แล้วทำไมเมื่อคืนไม่ยอมกินยาล่ะ” ริทตกใจเล็กน้อยแต่ก็ถามต่อด้วยความเป็นห่วงพร้อมกับเดินเข้า
พยุงอีกครั้ง
“ช่วยเอามือของคุณออกไปจากตัวผมที พอดีผมไม่ใช่คนสำคัญของคุณและก็ไม่ใช้สามีของคุณด้วย”กันพูดสิ่งทีอยู่ในใจ
ออกมาและมันก็เป็นจังหวะที่เพื่อนทุกคนมาหาที่ห้องพอดีทำให้เพื่อนทุกคนรับรู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด
“กันจะไปไหน” ริทเอ่ยถามด้วยความรู้สึกช๊อคและสั่นเครือแพราะไม่คิดว่าเรื่องที่เขาตั้งข้อสังเกตุไว้เมื่อคืนมันคืนมันจะเป็น
จริงและเมื่อเห็นกันเดินไปที่ตู้เสื้อผ้า
“จะกลับกรุงเทพ”กันตอบอย่างห้วนๆก่อนที่จะหยิบกระเป่าเสื้อผ้าออกมา
“กันแต่พี่ว่ากันไม่ไหวนะ พักก่อนมั้ย กินยาแล้วนอนพักก่อนเถอะถ้าดีขึ้นแล้วกันจะกลับกรุงเทพพี่จะไม่ห้ามเลย” เก่งเห็นสี
หน้าน้องชายที่กำลังป่วยอยู่เลยอดเป็นห่วงไม่ได้เลยเลยห้ามเอาไว้ก่อน
“ผมไหว” กันเถียงออกมา
“อย่าดื้อซิ พี่เป็นหมอนะทำไมจะดูอาการคนไม่รู้” เก่งอธิบายเชิงดุ
“งั้นไปนอนพักห้องพี่ก็แล้วกัน” เก่งพูดอย่างเข้าใจว่าถ้ายังให้กันนอนที่ห้องเดิมคงไม่ได้นอนเป็นแน่เพราะคงต้องนั่งทะเลาะ
กับริท
“ไม่! ผมไม่อยากนอนทับที่ของใคร” กันพูดพร้อมกับจ้องหน้าริทกับโตโน่
“งั้นไปนอนห้องเราก้แล้วกันนะ” เซนบอกก่อนที่จะช่วยยกประเป๋าเสื้อผ้า
“เกิดอะไรขึ้น ผมงงไปหมดแล้ว ไอ้กันมันเป็นอะไร” เก่งถามอย่าง งงๆ
“มันโกรธเรื่องที่พี่กับริทเล่นมุขบนเวทีคอนของพี่มั่ง” โตโน่ตอบอย่างเข้าใจเพราะเขารู้ว่าน้องชายเขาเป็นอะไร
“ที่พี่บอกว่า ริทเป็นเมียพี่อ่ะหรอ” เก่งย้อนถาม
“แต่พี่ก็บอกไปแล้วนะว่ามันคือสคริปต์”โตโน่อธิบาย
“สำหรับคนอื่นอาจจะเชื่อแต่สำหรับไอ้กันมันไม่เชื่อง่ายๆหรอกเพราะพี่ก็รู้ไม่ใช่หรอว่าไอกันมันก็รักไอ้ริทมากแค่ไหนแล้วที่
สำคัญพี่เองไอ้กันมันก็รักมาก มันถึงเป็นแบบนี้ไง”เก่งอธิบาย
“ตัวกูเองมันไม่เท่าไรหรอกแต่ดูนั่น” โตโน่พูดกับเก่งพร้อมกับหันไปมองริทที่ตอนนี้นั่งร้องน้ำตาอาบแก้มไปแล้ว
“ใจเย็นๆนะพี่ริท”เกตสาวน้อยที่ยืนมองพี่ชายทั้งถกเถียงกันอยู่นานก็เห็นริทร้องไห้จึงเข้าไปปลอบ
"พี่เซน พี่กันเป็นไงบ้าง” เกรซเห็นเซนเดินมาเอ่ยถามทันที
“พี่ให้มันกินยาแล้วนอนไปแล้วแหละ”เซนอธิบาย
“ตอนนี้พวกเราก็อย่าเพิ่งไปยุ่งกับมันเลยแล้วกันให้มันพักผ่อนทั้งร่างกายและหัวใจมันก่อนก็แล้วกัน”เก่งบอกก่อนที่จะเดิน
ออกไปเพราะวันนี้พวกเขาตั้งใจจะไปเที่ยวกันอย่างสนุกสนานแต่คงมีอีก 2 คนที่คงไม่สนุกมากนักหรอกเพราะว่าเพื่อนและ
น้องชายของเขาทั้งคู่ซึ่งเป็นคนๆเดียวกันกำลังเข้าใจผิดอยู่
“ไปกันเถอะ ริทไม่อยากไปอ่ะ อยากอยู่ดูแลกันมากกว่า” รืทเอ่ยขึ้นเมื่อกำลังจะเดินออกจากที่พัก
“แต่พี่ว่ากันมันคงอยากอยู่คนเดียวมากกว่านะ”เก่งท้วงขึ้นมา
“ขอนะ ริทขอร้องแหละขออยู่ดูแลกันหน่อยนะ ริทอยากคุยกับกันให้รู้เรื่องสักที”ริทย้ำความมุ่งมั่น
“ตามใจก็แล้วกัน ส่วนพี่โตโน่ค่อยมาเคลียร์กับกันมันทีหลังก็แล้วกัน” เก่งบอกก่อนที่จะลากโตโน่ออกไป
ไม่รู้เพราะฤทธิ์ยาหรือเจ้าตัวอยากจะพักผ่อนกันแน่ถึงนอนพักยันค่ำจนละครเรื่องแรกของตัวเองจบถึงตื่นขึ้นมาเพราะร่าง
กายฟื้นตัวหรือเพราะได้ยินเพลงประกอบละครของตัวเองกันแน่
พยายามทำความเข้าใจ สายตาเวลาที่เธอมองฉัน
ไม่อยากคิดอะไร เกินเลยจนพลาดพลั้ง
ก็มันเห็นว่าความห่วงใย ที่เคยดีใจเมื่อเธอให้กัน
ไม่ได้พิเศษกว่า ที่เธอให้กับเขา
ห้ามให้คิดนั้นลำบาก หากยังใกล้ชิดกัน
แต่เธอรู้ไหมว่าใจของฉัน สับสนมากเหลือเกิน
แล้วฉันนั้นสำคัญแค่ไหน คิดฝันไปได้ไกล เท่าไร
มีโอกาสได้ยืน ในหัวใจเธอบ้างไหม
ถอนตัวและถอนใจไม่ทัน แม้เธอจะมองกันเช่นไร
หากเธอไม่ได้รักเลย แค่ขอข้างข้างหัวใจ
ให้ฉันได้ยืนต่อไป เพื่อรักเธอ
ก็วันนี้เธอมาเจอกัน ทั้งที่วันนั้นเธอไปกับเขา
เลยไม่กล้าจะเดา ว่าเรานั้นลึกซึ้ง
ก็ไม่รู้มันคืออะไร หรือไม่มีใจเลยสักนิดนึง
มันค้างค้างคาคา กับฐานะอย่างนี้
ห้ามให้คิดนั้นลำบาก หากยังใกล้ชิดกัน
แต่เธอรู้ไหมว่าใจของฉัน สับสนมากเหลือเกิน
แต่อีกคนอีกเฝ้าคนป่วยก็ไม่รู้ว่าคนป่วยได้ตื่นขึ้นมานั่งทีเซอร์ละครตอนจนเรียบร้อยแล้วจนกระทั่งเสียงร้องท่อนๆหนึ่งดังขึ้น
มา
แล้วฉันนั้นสำคัญแค่ไหน คิดฝันไปได้ไกล เท่าไร มีโอกาสได้ยืน ในหัวใจเธอบ้างไหม ถอนตัวและถอนใจไม่ทัน แม้เธอจะมองกันเช่นไร หากเธอไม่ได้รักเลย แค่ขอข้างข้างหัวใจ ให้ฉันได้ยืนต่อเพื่อรักเธอ
“กันตื่นแล้วหรอ” ริทได้ยินและเห็นกันตื่นขึ้นมาก็รีบลุกขึ้นและเดินเข้าไปหากันทันที
“มาอยู่ที่นี่ทำไม ไมไม่ไปอยู่กับคนสำคัญล่ะ” กันพูดอย่งประชดประชัน
“กัน อย่าคิดเองเออเองซิ ฟังริทบ้าง” ริทเริ่มอธิบาย
“ใช่ พี่โน่สำคัญกับริทแต่กัน แต่คนๆนี้สำคัญกับริทที่สุด ถ้าคนๆนี้เป็นอะไรริทคงอยู่ไม่ได้”ริทเอ่ยพร้อมกับจ้องหน้าคนตรง
หน้า
“บอกผิดคนแล้วหล่ะ”กันพูดขึ้นพร้อมกับทำท่าทางจะลุกหนี
“ริทบอกว่าคนๆนี้ คนๆนี้ที่ชื่อกันได้ยินมั้ย” ริทเอ่ยขึ้นพร้อมกับรั้งตัวกันเอาไว้
“กัน เรื่องคอนพี่โน่อ่ะมันเป็นสคริปต์ทั้งหมดมันไม่ได้เป็นความจริงเลยสักนิด” ริทพยายามอธิบายความจริงของเรื่องที่เป็น
ต้นเหตุของการเข้าใจผิด
“อย่าเลยริท อธิบายไปก็ไม่มีประโยชน์หรอก” กันพูดจบก็ขึ้นจากเตียงทันที
“กันฟังริทก่อน” ริทรั้งกันเอาไว้อีกครั้ง
“ปล่อย” กันดึงตัวเองออกจากการรั้ง
“ขอบคุณที่ทำให้กันมีความสุข ขอบคุณที่เคยทำให้กันเข้าไปยืนในหัวใจ ขอบคุณที่ให้คนๆนี้ได้ใช้หัวใจเพื่อรักใครสักคน
ขอบคุณที่เคยทำให้รักอย่างที่คิดว่าจะไม่รักใครอีกเลย” กันพูดออกมาแต่ก็เจ็บหัวใจไปพร้อมๆกัน
“ไม่เคยคิดว่าเพลงใหม่ที่ได้ถ่ายทอดดอกมาจะตรงกับตัวเองเหมือนกัน” กันพูดก่อนที่จะเดินหนี
“กัน ถ้ามึงจะไม่เชื่อริทล่ะก็ เชื่อพี่ชายอย่างกูหน่อยก็แล้วกัน”โตโน่เปิดประตูเข้ามาพร้อมกับพูดแทรกทันที
“ไม่จำเป็นหรอกมั่งเพราะทุกสิ่งมันเห็นด้วยตาหมดแล้ว” กันเถียงพร้อมกับจะเดินออกนอกห้อง
“ไอ้กัน! ฟังให้จบก่อน” โตโน่ดันร่างของกันเข้าห้องไปพร้อมกับจับร่างของกันด้วยเพื่อจะอธิบาย
“ปล่อย ผมจะไม่ฟังอะไรใครอีกแล้วเพราะทุกสิ่งมันออกมาชัดเจนขนาดนี้ คงไม่ต้องพูด ไม่ต้องฟังอะไรอีกแล้ว” กันยังคง
เถียงอย่างไม่ลดละพร้อมกับกระชากตัวเองให้หลุดจากการรั้งของพี่ชายคนโต
“ตามใจจะไม่เชื่อก็ได้ แค่อยากจะบอกไว้ว่า ไอ้ริทมันดีใจมากที่มึงโทรมาอวยพรวันเกิดมันเป็นคนแรก ดีใจมากที่ละคร
เรื่องแรกของมึนออนแอร์ขนาดออนแอร์วันเดียวกับคอนของมันดึกดืนแค่ไหนมันก็กลับมาดูย้อนหลัง มันดูละครทุกวัน มัน
ติดตามข่าวทุกอย่างที่เกี่ยวกับมึง วันก่อนมันมาดูเบื้องหลังเห็นมึงจะจมน้ำมันเป็นห่วงมึงมาก มาต่อว่ากูว่าแกล้งมึงทำไม
ตามใจถ้ามึงไม่ได้รักมันแล้วก็เดินออกไปได้เลยนะ จะไม่ห้ามเลย” โตโน่อธิบายทุกอย่างภายในใจที่ต้องการจะเคลียร์กับ
น้องชายคนนี้อยู่แล้ว ตัวของกันเองก็งงกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นเขาไม่รู้จะเริ่มต่อไปอย่างไรดีเพราะเขารักริทมากหรือเพราะ
ความกลัว กลัวที่จะไม่มีริทให้รักเลยไม่สามารถห้ามใจ ห้ามความคิด ให้คิดไปตามสิ่งที่พบเห็นไม่ได้แต่ก็ตัดสินวิ่งออกไป
จากห้องของเซนและวิ่งกลับไปยังห้องของตัวเองอีกครั้งเพื่อสงบสติ อารมณ์ทั้งหมดซึ่งตอนนี้ไม่มีใครอยู่เพราะเพื่อนๆน้อง
ไปเดินเล่นกันหมดเหลือเพียงโตโน่คนเดียวที่กลับมาเพื่อจะขอทำความเข้าใจกับน้องชายของเขา
“ริท ช่วยบอกกันทีเถอะว่ามันหมายความว่ายังไง กันสับสนไปหมดแล้ว” กันที่ยืนพิงอยู่ที่ประตูห้องด้านในพูดกับความเงียบ
ราวกับริทอยู่ตรงหน้า
“ตกลงกันอยู่ในฐานะไหนกันแน่” พูดมันออกมาอีกครั้ง
“ฮึก ...ฮึก” เสียงสะอึกที่หลุดมาจากการสกัดกั้นการร้องไห้ของกันเริ่มจะไม่ไหวแล้วเพราะเขาเองเสียใจ ซึ่งตอนนี้ไม่แน่ใจ
ว่าเขาควรจะอยู่ตรงไหน เขาไม่รู้ว่าเป็นอะไร สำหรับริท
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“กัน ริทขอเข้าไปหน่อยได้มั้ย”ริทเดินมาเคาะประตูพร้อมกับเอ่ยเรียก
“มีอะไร” กันตะโกนถามกลับมา
“ริทจะคุยเรื่องของเราถ้ามันจะต้องจบจริงๆก็ให้มันจบวันนี้เถอะนะ”ริทพูดอย่างประณีประนอมพยายามไกล่เกลี่ยเพื่อให้เข้าไป
ในห้อง
“มีอะไรก็เข้ามา” ก่อนที่กันจะตัดสินใจเปิดประตูเขาเองก็หายใจเต็มปอดเพื่อเรียกพลัง เช็ดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มเพื่อไม่ให้
ใครเห็นถึงความอ่อนแอของเขา
“มีอะไรก็ว่ามาซิ” กันเห็นริทนิ่งเงียบจึงเอ่ยถามแต่ตอนนี้ต่างคนต่างไม่มองหน้า
“ในเมื่อกันเชื่อในสิ่งที่กันเห็น ในเมื่อกันไม่คิดจะเชื่อใจริท ในเมื่อกันไม่ฟังอะไรเลย ริทจะไม่ว่าอะไรเลยริทเคารพการ
ตัดสินใจของกัน” ริทเอ่ยอย่างตรงไปตรงมามันเจ็บทั้งคนพูดและคนฟัง
“ริทจะมาขอหัวใจของริทคืน และก็เอาหัวใจของกันมาคืนด้วย”คำพูดเหมือนเก่ง เหมือนแข็งแรงแต่ความจริงแล้วภายใจ
อ่อนแอเสียจนเกินรับมือ เสียงที่พูดก็สั่นเครือนิดๆทำให้อีกคนหันมาทั้งตัวเพื่อมาสังเกตุอาการ
“กันเป็นได้แค่คนข้างๆใจของริทใช่มั้ย ไม่ใช่สิ คนข้างนอกหัวใจแล้วซิ” กันเอ่ยขึ้นพร้อมกับน้ำตาที่คลอๆ
“กันไม่เคยอยู่ข้างนอกใจ ไม่เคยอยู่ข้างใจ ของริทด้วยซ้ำไปแต่กันอยู่ในใจของริทต่างหากและจะอยู่ตลอดไป ฝากดูแลตัว
เองให้ดีๆนะเพราะริทคงไม่ได้ดูแลกันอีกแล้วถ้ากันเป็นอะไรไปริทคงอยู่ไม่ได้แน่ๆ ฝากดูแลตัวเองให้ดีๆด้วยนะ”ริทพูดด้วย
น้ำเสียงที่สั่นเครือเพราะตอนนี้ไม่สามารถห้ามน้ำตาไว้ได้แล้ว
“กัน...ยังคงเป็นคนที่ริทรักและสำคัญเสมอ” ริทพูดจบพร้อมกับก้าวออกจากห้องแต่ก็โดนรั้งไว้ด้วยอ้อมกอดของกัน
“ขอโทษ....อย่าไปนะ ขอโทษที่รักริทมากเกินไป ขอโทษที่กลัว กลัวจะไม่ได้รักริทอีก กลัวจะไม่มีริทให้กันรัก” กันพร่ำ
บอกพร้อมกับน้ำตาของลูกผู้ชายของคนทั้งคู่ที่ไหลออกมา
“ขอโทษที่ไม่เชื่อใจริท ขอโทษที่คิดมาก ขอโทษ...”กันยังคงขอโทษคนในอ้อมกอด
“กัน...ริทไม่เคยโกรธกันเลยสักนิดแต่ทำไมมีอะไรอยู่ในใจไม่ถามกันดีๆชอบคิดไปเองอยู่เรื่อย ต้องทะเลาะกันอยู่เรื่อย
เลย”ริทติการกระทำของกันพร้อมกับหันมามองหน้ากัน
“ก็กันกลัว” กันตอบพร้อมกับเช็ดน้ำตาให้ริท
“กลัวอะไร” ริทถามอย่างสงสัย
“กลัวจะเป็นจริงทั้งหมดถ้ามันเป็นจริงขึ้น คนๆนี้จะไปยืนอยู่ตรงไหนจะยังคงเป็นคนสำคัญของริทมั้ย” กันตอบกลับไป
“กันก็ยังอยู่ที่เดิมนี่แหละ ยังคงอยู่ในใจของริท ยังเป็นคนสำคัญของริทเพราะริทจะไม่มีวันเลิกรักผู้ชายคนนี้ได้เลยด้วย”
ริทตอบกลับไปอย่างมั่นใจ
“ขอบคุณนะครับที่เข้าใจกัน” กันเอ่ยขอบคุณ
“แต่ว่าตอนนี้ต้องไปขอโทษพี่โตโน่ก่อน” ริทออกคำสั่งทันที
“ไม่ต้องหรอกเพราะพี่เข้าใจว่าไอ้กันมันเป็นอะไร พี่ไม่โกรธมัน” โตโน่เอ่ยขึ้นเมื่อริทเปิดประตูออกพร้อมกับเจอเพื่อนๆอยู่
หน้าห้องอีกด้วย ที่เพื่อนมาอยู่หน้าห้องเพราะเป็นห่วง(โกหก แอบฟังต่างหาก)
“เคลียร์กันรู้เรื่องก็ดีแล้วจะได้หมดห่วง งั้นพวกเราแยกย้ายไปพักผ่อนเลยพรุ่งนี้จะได้กลับกรุงเทพกัน
“พี่โตโน่ขอบคุณนะครับที่เข้าใจและก็ขอโทษด้วยที่ก้าวร้าว” กันเอ่ยขอโทษพร้อมกับขอบคุณหลังจากที่ทุกคนแยกย้ายกัน
ไปพักผ่อนริทก็เอ่ยขอร้องกัน
“กันช่วยร้องเพลงเมื่อกี้อีกครั้งได้มั้ย เอาตรงท่อนฮุคนะ” ริทบอก
“ร้องทำไมอ่ะ” กันถามกลับไป
“ร้องเถอะน่า” ริทก็ตอบกลับไป
แล้วฉันนั้นสำคัญแค่ไหน คิดฝันไปได้ไกล เท่าไร
“สำคัญที่สุด”
มีโอกาสได้ยืน ในหัวใจเธอบ้างไหม
“ยืนในหัวใจไปตลอดชีวิตเลยนะ”
ถอนตัวและถอนใจไม่ทัน แม้เธอจะมองกันเช่นไร หากเธอไม่ได้รักเลย
แค่ขอข้างข้างหัวใจ ให้ฉันได้ยืนต่อเพื่อรักเธอ
“ก็ดีแล้วถ้าถอนตัวถอนใจเมื่อไรนะ ตายแน่และก็ไม่ต้องอยู่ข้างๆหัวใจหรอกให้อยู่ข้างในเลย”
คำพูดของริทแทรกมาตลอดเนื้อเพลงเพื่อบ่งบอกว่าเขาให้คนๆนี้ที่อยู่ตรงหน้าของเขารู้ว่า ริทรักเขามากแค่ไหนและเขาก็
สำคัญมากแค่ไหน
“รักกันนะครับ” ริทเขย่งปลายเท้าขึ้นไปหอมแก้มกัน
“รักเหมือนกันครับ” กันก้มมาหอมแก้มพร้อมกับกอดริทไว้แน่น
“คนอะไร หึงเรื่องไม่เป็นเรื่อง” ริทแกล้งต่อว่ากัน
“ก็ให้กันไปเล่นอย่างนี้กับคนอื่นบ้างมั้ยล่ะ ริทจะเข้าใจความรู้สึกริทเลยแหละ” กันเถียงกลับ
“ไม่ ก็ลองดูซิ จะโกรธตลอดชาติเลย” ริทตอบอย่างเอาเรื่อง
“นั่น แล้วมาว่าคนอื่นเขานะว่าหึงไม่เข้าเรื่อง” กันท้วง
“เออน่ะ จะอะไรก็ช่าง แค่วันนี้เราเข้าใจกันก็พอเนอะ” ริทพูดพร้อมกับรอยยิ้ม
“ครับ”กันรับคำพร้อมกับกอดริทให้แน่นขึ้นกว่าเท่าตัว
ไม่รู้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอาจจะเป็นบททดสอบความรัก ทดสอบหัวใจ ของเขาทั้งคู่หรือเปล่าแต่สิ่งสำคัญเขาคือคนที่สำคัญ
ซึ่งกันและกันและไม่มีใครได้อยู่ตรงข้างๆหัวใจมีแต่เข้าไปอยู่ในหัวใจต่างหาก
.................................................................................................................................................................................................................
Writer Talk
มาแล้วๆๆ เอา SF มาส่งค่ะ จิตนาการล้วนๆเจ้าค่ะ 555
ปล. ไม่ได้มีเจตนาให้ศิลปินเสื่อมเสียนะคะ
ความคิดเห็น