คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #21 : SF อีกฝั่งของท้องฟ้า
อีกฝั่งของท้องฟ้า
11/10/2011
วันนี้ก็มาถึง วันที่ริทต้องกลับไปเรียนถึงแม้จะเรียกว่าไปทบทวนบทเรียนก็ตามก็อดคิดถึง อดเศร้าไม่ได้เพราะตลอดเวลาถ้าไม่มี
เรื่องอะไรให้เครียดก็จะคอยแกล้งเพื่อนคนนี้เสมอแล้ววันนี้ก็ไม่มีใครให้แกล้งแล้วถึงแม้เวลาแกล้งจะมีอะไรต่างๆที่กลับมาแล้วจะทำให้
เครียดเบาๆก็ยินดี เมื่อวันอาทิตย์ก็มีงานที่เดียวกันก็ไม่ได้เจอกันเพราะริทต้องรีบไปขึ้นเครื่องที่สนามบินเพื่อกลับไปขอนแก่น ยังไม่ได้
ลากันเลย ยังไม่ได้พูดอะไรกันเลย ไปซะแล้ว อยู่ๆก็หวิวๆในใจยังไงก็ไม่รู้
กลับมาจากการทำงานที่เหนื่อยแต่มีความสุขมากมายแล้วทุกครั้งถ้ายังนอนไม่หลับก็จะโทรไปเพื่อได้ยินเสียงเหวี่ยงๆวีนๆ เพราะ
เราชอบโทรไปตอนที่ริทมันจะนอน ฮ่าๆๆ ตลกเหมือนกันเนาะไม่มีมันให้โทรหาก็น่าจะดีเพราะจะได้ไม่เปลืองเงินค่าโทรศัพท์แต่ทำไม
คิดถึงมันอย่างนี้ ตอนนี้ทำได้เพียงนั่งมองโทรศัพท์อย่าไม่ละสายตาจะโทรไปก็ไม่ได้ ไม่อยากรบกวน อยากให้นอนพักผ่อนเพราะรู้ว่าจะ
ต้องตื่นไปเรียนแต่เช้า นั่งมองโทรศัพท์จนเรื่องเก่าๆวนเข้ามาในหัว
“นอนยัง” ตัวพ่อกรอกเสียงลงไปทันทีเมื่อใครอีกคนรับสาย
“อื้อ จะโทรมาไมเนี่ย นอนแล้ว” เสียงที่ตอบกลับมาคือเสียงงัวเงียๆของคนที่หลับไปแล้วแต่ต้องตื่นขึ้นมารับโทรศัพท์ที่สั่นอยู่ข้าง
หมอน เสียงออกจะเหวี่ยงๆวีนๆ
“ก็นอนไม่หลับอ่ะ”คนที่เพิ่งกลับมาถึงบ้านเอ่ยบอก
“ก็เมิงเพิ่งทำงานเสร็จนี่แต่กูเลิกงานตั้งนานแล้วและตอนนี้ก็อยากนอนมากด้วย แค่นี้นะ”ริทเหวี่ยงๆวีนๆกลับไปพร้อมกับตัดสายทันที
ทุกครั้งที่โดนเหวี่ยง โดนวีนกลับมาจะต้องมานั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กับความน่ารักของเพื่อนเค้าคนนี้ เพื่อนที่มีอิทธิพลต่อหัวใจของเค้าได้มากมายเสียเหลือเกิน
“เฮ้อ! ป่านนี้จะทำไรอยู่นะ นอนหลับแล้วจะฝันถึงเรามั้ยเนี่ย จะฝันถึงคนอื่นหรือเปล่า” คนตัวพ่อถึงกับพูดออกมาลอยๆ ล้มตัวลงนอนบน
ที่เตียงสายตาทอดไปยังเพดานห้องแต่ในมือโทรศัพท์อยู่อย่างนั้น นอนมองสักพักก็เดินออกไปนอกระเบียงห้องนอนตอนนี้ท้องฟ้ามืด
สนิทมีแสงสว่างเพียงแค่ไฟที่มาจากข้างทางและดาวเพียงไม่กี่ดวงเท่านั้นแถมยังมีหนาวมากระทบทำให้ต้องยกแขนขึ้นมากอดตัวเอง
เอาไว้
“พระจันทร์ก็สวยนะแต่ทำไมคืนนี้ดาวไม่มีเลยล่ะ” กันเอ่ยขึ้นเบาๆขณะที่เงยหน้ามองท้องฟ้าสายลมเย็นๆก็ยังพัดผ่านเข้ามาแถมยังล้อ
เล่นกับใบไม้ของต้นไม่สูงอีกด้วยตอนนี้ก็คงมีแค่ท้องฟ้าที่หลับใหล พระจันทร์ ดวงดาว สายลมและใบไม้ที่ไหวปลิวคอยอยู่เป็นเพื่อนเรา
สินะถ้าดูจริงๆใบไม้ที่ไหวปลิวที่ล้อเล่นกับสายลมมันก็คงเป็นเพื่อนกันทุกค่ำคืน คงคุยกันทุกคืนเหมือนกันน่ะซิคงจะไม่เหงาเนอะ
“ริท
คิดถึง” สายตาทอดมองไปยังท้องฟ้าที่มืดสนิท มองดาวไม่กี่ดวงแล้วเอ่ยขึ้นเหมือนจะให้ท้องฟ้า พระจันทร์ ดวงดาว สายลมไป
บอกใครอีกคนที่อยู่กันคนละทีในตอนนี้เสียมากกว่า มืออีกข้างที่ถือโทรศัพท์ติดมาด้วยก็อดที่จะถ่ายรูปท้องฟ้าตอนนี้เอาไว้พร้อมกับกด
ส่งรูปนี้ไปให้คนที่คิดถึงและตั้งชื่อรูปว่า
เงียบเหงา !
เมื่อส่งรูปเสร็จรู้สึกว่าหนาวกว่าเดิมเท่าตัวจึงตัดสินใจเดินกลับเข้าไปยังห้องนอนก่อนที่จะวางโทรศัพท์คู่ในไว้บนหมอนก่อนที่จะ
อาบน้ำเพื่อล้างความเหนื่อย คราบเหงื่อแถมอาจจะล้างความล้าในหัวใจไปบ้างก็ได้ พอเดินออกมาจากห้องน้ำโทรศัพท์ก็ดังขึ้นหน้าจอ
สว่างแสดงชื่อหลาว่า “ริท” ส่วนคนที่แสดงชื่อบนหน้าจอนี่พอรู้สึกว่าเหมือนจะได้ยินเสียงเตือนจากโทรศัพท์ชึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่
รู้สึกตัวพอดีก็เปิดดูทันทีพอเห็นเป็นข้อความพร้อมรูปของตัวพ่อก็แอบตกใจและอดห่วงไม่ได้จึงทำให้รีบโทรหาทันที
“ขอโทษนะที่รบกวน” กันกรอกเสียงลงไปทันทีที่รับสาย
“เป็นอะไรไปหึ?” น้ำเสียงของความเป็นห่วงส่งมาทันที
“ก็เหมือนชื่อรูปที่ส่งไปให้นั้นแหละ”กันตอบกลับไป
“ถามว่าเป็นอะไรยังจะมากากอีก” ในที่สุดริทเหวี่ยงกลับมาจนได้
“เหงา ! คิดถึง! เวลาที่กันเลิกงานมาแล้วยังไม่นอนจะโทรไปกวนริท ไปกากใส่ริท ให้ริทเหวี่ยงกลับมาแต่พอริทไม่อยู่แล้วเลยไม่รู้ว่าจะ
ทำไงดี” กันอธิบายด้วยน้ำเสียงที่อีกคนที่กำลังนั่งฟังอยู่อดยิ้มไม่ได้
“กัน”ริทเอ่ยเรียก
“ครับ” กันขานพร้อมกับตั้งใจฟัง
“ริทไม่เคยห้าม ริทไม่เคยบอกว่าโทรไม่ได้ ไม่เคยสั่งว่าห้ามโทรหา” ริทบอก
“กันไม่อยากรบกวนเพราะอยากให้ริทตั้งใจเรียน”กันตอบ
“คิดถึง”อยู่ๆริทก็เอ่ยขึ้นพร้อมกับเสียงที่แอบสั่นเครือเล็กน้อยเพราะความจริงแล้วเค้าเองก็คิดถึงตัวพ่อจนจับใจเหมือนกันและเค้าก็ไม่
อยากรบกวนเวลางานของกันเช่นกัน
“แค่ริทไป 2 วันกันก็เหงาจะตายแล้วถ้ามันถึงวันที่ริทจะต้องกลับไปเรียนจริงๆกันรู้ตัวว่าอยู่ไม่ได้แน่ๆ” กันกรอกเสียงลงไปทาง
โทรศัพท์ด้วยน้ำเสียงเศร้าแต่แปลกจังแค่คำประโยคๆนี้ทำให้คนที่กำลังนั่งฟังอยู่ใจกระตุกวูบ
“กัน..ถ้ามันถึงวันนั้นจริงๆกันต้องอยู่ให้ได้นะเพราะวันนั้นกันก็ต้องมีงานอีกมากมายที่เข้ามา ริทเองก็ต้องเรียนอย่างหนักถ้ากันจะเอาตัว
เองมานั่งเศร้าก็ไม่ใช่เรื่อง ริทก็คงไปดูแลกันไม่ได้เหมือนเดิม” ริทอธิบายความรู้สึกออกไปทั้งหมดทั้งมวลแฝงไปด้วยความเป็นห่วง
และเสียงที่สั่นเครือมากขึ้นทำให้ตัวพ่อคิดถึงมากกว่าเดิมเป็นเท่าตัว
“ร้องไห้! เช็ดน้ำตาซะ กันอยู่ไกลเช็ดให้ไม่ได้” กันที่จับเสียงได้ว่าคนของเค้ากำลังร้องไห้
“อื้อ” ริทตอบอยู่ในลำคอพร้อมกับยกมืออีกข้างมาปาดน้ำตา
“แต่ตอนนี้เรายังมีกันอยู่นะ” กันเอ่ยออกไป
“ใช่..เราจะยังมีกันและกันตลอดไปต่างหากล่ะ” ริทตอบกลับไป
“หนาวไหม” กันเอ่ยถามอย่างสัมผัสได้ว่าคิดถึงจับหัวใจ
“หนาว”ริทตอบกลับมา
“อยากกอด” กันเอ่ยออกไปแค่คำพูดก็ทำให้คนฟังรู้สึกอุ่นขึ้นมาในหัวใจ
“ห่างกันอย่างนี้ใจไม่ดีเลย” กันเอ่ยออกมา
“ริทไม่ได้ไปไหนนะ ไม่ได้ไปไกลซะหน่อยแค่ขอนแก่นเอง ถ้าคิดถึงมากก็บินมาหาซิ”ริทอธิบาย
“งั้นพรุ่งนี้ยกเลิกงานทั้งหมดจะบินไปหาเลยนะ”กันตอบกลับไป
“อย่าทำอะไรบ้าๆนะ” ริทตกใจเล็กน้อยพร้อมกับพูดดักการกระทำ
“แล้วใครเค้าจะไปทำอย่างนั้นล่ะ ริทก็รู้ว่างานชิ้นปัจจุบันมันหินแค่ไหน” กันบอก
“ริท..กันพูดจริงๆนะมันรู้สึกใจไม่ดีจริงๆ” กันวกกลับมาเข้าเรื่องอย่างจริงจังอีกครั้ง
“ใจไม่ดีเรื่องอะไร” ริทถามกลับไป
“ระยะทางมันห่าง เวลาก็ไม่มี กลัวมีอะไรเปลี่ยนไปในทางไม่ดี” กันยอมรับออกมาเพราะกลัวใจของอีกคนจะเปลี่ยน
“ทำไมกลัวริทไปรักคนอื่นหรือไง” ริทถามกลับมา ปากถามแต่สีหน้าอมยิ้ม
“ไม่ได้กลัวแต่ไม่อยากให้ไปรักใคร” กันตอบ
“มันไม่ต่างอะไรกันเลยนะเนี่ย กลัวไปรักคนอื่นกับไม่อยากให้ไประ..” ริทพูดยังไม่ทันจะจบก็ถูกพูดแทรก
“หวง!” น้ำเสียงอย่างจริงจังเอ่ยขึ้น
“ไอ้บ้าชอบพูดแทรกไม่มี..”ริทกำลังต่อว่าก็ไม่สำเร็จเพราะถูกพูดแทรกอีกแล้ว
“หึง!”
“ยังไม่เลิกอีก” ริทจะเถียง
“เหงา”
“คิดถึง”
“เป็นห่วง”
“อยากไปอยู่ข้างๆ”
ริทนั่งนิ่งปล่อยให้คนบ้าพูดอยู่คนเดียว
“ริท ริท ริท” กันที่เห็นว่าอีกคนเงียบก็นึกว่าสายตัดไปพอมองหน้าจอไม่ใช่จึงตัดสินใจเรียก
“พูดจบยังจะพูดบ้าง” ริทวีนกลับมานิดๆ
“ว่า” กันพูดเชิงเป็นคำถาม
“จะบอกว่า..ไม่ต้องเป็นห่วง ไม่นอกใจ ไม่มีคนอื่นหรอกเพราะหัวใจมันเรียกเจ้าของของมันอยู่ทุกวัน” ริทพูดความรู้สึกออกมา
“แหวะ! เน่า” กันได้ทีก็แกล้งริทกลับไปแต่ที่จริงนอนยิ้มอก้มแทบแตก
“ก็เน่าเหมือนไอ้คนกากๆนั้นแหละ” ริทเถียงกลับไป
“ใครกาก” กันถามกลับไปอย่างหน้าเฉย
“ก็ไอ้คนที่มันชอบพูดแทรกขึ้นมานั้นแหละ” ริทตอบ
“ริท กันจะรอริทกลับมานะครับ” กันเอ่ยอย่างจริงจัง เล่นเอาคนฟังปรับอารมณ์ไมทันเลยทีเดียว
“ครับ ริทก็ยังไปๆมาๆระหว่างกรุงเทพกับขอนแก่นอยู่แหละเพราะยังมีงานอีกเยอะเลย”ริทอธิบาย
“กันเองก็ต้องตั้งใจทำงานนะ ทำให้เต็มที่แล้วริทจะคอยเป็นกำลังใจให้นะ” ริทบอก
“ถ้าเหงาก็นอนกอดหมอนข้างไปก่อนนะ ฮ่าๆๆ” ริทบอกพร้อมกับหัวเราะขึ้นมาเฉยๆ
“ก็ให้กลับมาก่อนแล้วกันจะนอนกอดให้ไม่ต้องไปไหนเลย” กันตอบกลับไป
“ดึกแล้ว ริทไปนอนก่อนนะ” ริทบอก
“ครับ ขอโทษที่รบกวนเวลาพักผ่อนของริทนะ” กันเอ่ยขอโทษ
“เอาไว้จะกลับไปให้นอนกอดก็แล้วกัน ไปแล้วนะ ฝันดี” ริทเอ่ย
“สัญญาต้องเป็นสัญญานะ ฝันดีครับ” กันบอกแต่เหมือนคนทั้งคู่ไม่ยอมวาง ดูเหมือนจะเงียบฟังว่าใครจะว่างก่อน เงียบกันอยู่สักพักนั่ง
ฟังลมหายใจของกันและกัน
“รัก”
เสียงของคนสองคนแต่หัวใจเดียวกันที่ประสานออกมาพร้อมกันและก็เหมือนจะรู้ว่าคนทั้งคู่อยากที่จะบอกมันออกมา
“รีบกลับมานะ” กันเอ่ยทิ้งท้าย
“ครับ” ริทเอ่ยกดจะกดวางสาย
แค่นี้ความรู้สึกของคนทั้งสองก็รับรู้ได้ทั้งหัวใจว่ายังมีคนอีกฝั่งฟ้ากำลังเฝ้ารอการกลับมา เฝ้ารอวันเวลาที่จะได้อยู่ด้วยกันอีกครั้งและคง
เป็นความรู้สึกที่ว่านับตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไปต่อให้เหลือเวลามากแค่ไหนก็จะใช้เวลาที่เหลือทั้งหมดให้คุ้มค่า ให้เต็มหัวใจเพื่อทดแทน
ความรู้สึกต่างๆที่ขาดหายไปแค่เวลาไม่นานที่ได้พูดคุยกันก็ส่งให้คนที่กำลังจะเข้านอนมีความสุขและสามารถตื่นขึ้นมาแล้วมีแรงเพื่อ
เผชิญกับสิ่งต่างๆได้อีกมากมาย
...............................................................................................................................................................................................................
Writer Talk
มาแล้วๆอัพอีกแล้ว อิอิ ไม่รู้ว่าจะถูกใจหรือเปล่า ตอนนี้ตั้งใจจะแต่งให้รู้สึกเหงาๆไม่รู้ว่าจะให้ความรู้สึกอย่างนั้นหรือเปล่า คงชอบกับ
ตอนนี้เนอะ อิอิ
ขอบคุณทุกคนอีกครั้งที่อ่านฟิคของเค้าเสมอๆแล้วจะมีตอนใหม่มาต่อเรื่อยๆนะคะ
ปล. SF ตอนนี้แอบมีแรงบรรดาลใจจากเพลง อีกฝั่งของท้องฟ้า วงไอน้ำ ข้ามค่ายเลยทีเดียว ^^
ความคิดเห็น