ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Gunrit 38* SF

    ลำดับตอนที่ #6 : SF แค่ขอมีเธอ

    • อัปเดตล่าสุด 28 มิ.ย. 54





    1 อาทิตย์ผ่านไป
                 หลังจากที่คนตัวพ่อทิ้งระยะห่างกับคนตัวยุ่งมันมีความเปลี่ยนแปลงหลายอย่างแต่เรื่องงานยังไม่มี

    เปลี่ยนเพราะงานยุ่งมาตลอด

    1อาทิตย์แต่สิ่งที่เปลี่ยนได้อย่างชัดเจนคือชีวิตประจำวันเพราะปกติแล้วหลังจากเลิกงานจะต้องโทรหากันหรือบีบี

    หากันเพื่อเล่าเรื่องราว

    ที่ทำผ่านมาให้กันและกันฟังเสมอถึงแม้จะไม่มีเรื่องเล่าอะไรมากมายก็ต้องโทรหาเพื่อคุยกันกวนกัน ตามประสาเพื่อนซี้ที่สนิทสนิทเกิน

    เพื่อนอยู่เป็นประจำตั้งแต่ห่างกันออกมาก็เหมือนมีอะไรขาดหายไป
     
    “กัน วันนี้ไปกินข้าวที่คอนโดด้วยกันนะ” โตโน่ชวนน้องชายเพิ่งที่เพิ่งถ่ายละครเสร็จ
    “ขอบคุณครับแต่ไม่ดีกว่าพอดีว่าวันนนี้กันจะกลับบ้านน่ะครับ” กันปฎิเสธพร้อมให้เหตุผล
    “อยากจะกลับบ้านอยู่แล้วหรือไม่อยากเจอหน้าใครหรือเปล่า” โตโน่ยิงคำถามกลับไปอย่างเสียดแทงหัวใจที่สุด
    “ก็นานๆจะได้กลับบ้านทีก็อยากไปอยู่กับพ่อแม่บ้างแล้วพรุ่งนี้ก็ถ่ายต่อตอนเช้าจะได้ไม่เสียเวลา” กันอธิบาย
    “อ๋อ แล้วไป วันนี้พี่ต้องไปดูแลริทมันอีกแล้วใช่มั้ยเนี่ย” โตโน่แกล้วพูดเพื่อจะดูปฎิกริยาของน้องชาย
    “พี่โตโน่ดูแลริทดีอยู่แล้วเชื่อผมซิแถมยังดูแลริททุกเรื่องได้ดีกว่าผมด้วยซ้ำ” กันพูด
    “ไอ้กัน มึงน้อยใจอะไรกูหรือเปล่า” โตโน่ตัดสินใจถามเพื่อความกระจ่างเพราะเขาเองก็พอจะรู้สาเหตุมาแล้วแต่เขาก็ไม่สบายใจนักหรอก

    ที่น้องชายของเขาเป็นแบบนี้
    “เปล่านิ” กันตอบพร้อมกับกำลังจะเดินแต่ก็ต้องหยุดเพราะเสียงท้วงจากพี่ชาย
    “เพราะกระทู้บ้าๆนั่นที่เปรียบเทียบกูกับมึงเรื่องริทใช่มั้ยที่ทำให้มึงเป็นแบบนี้”โตโน่ชิงถามทันทีเพราะรู้ว่ายังไงน้องชายคนนี้ไม่ยอม

    เอ่ยปากบอกก่อนแน่ๆ
    “ให้มันผ่านไปเถอะผมไม่อยากจะนึกถึงมันอีกแล้ว” กันเลี่ยงที่จะตอบคำถาม
    “แต่กูให้ผ่านไปไม่ได้หรอกนะเพราะมึงสองคนเป็นน้องชายที่กูรักกูไม่อยากมีเรื่องกับมึงเพราะเรื่องบ้าๆนั่น” โตโน่ยังคงรั้งเพื่อเคลียร์ให้

    เรื่องนี้จบแต่ก็ยังไม่ทันจะเคลียร์คุณอาก็รับกันเสียแล้ว
    “กลับก่อนนะครับ สวัสดีครับ” กันลาโตโน่พร้อมกับเดินขึ้นรถไปทันที
        หลังจากที่กลับมาจากกองถ่ายตัวพ่อก็ได้อยู่กับครอบครัวสักพักใหญ่จนได้เวลาที่จะอยู่กับตัวเองปกติแล้วจะโทรหาคนตัวยุ่งเพื่อเล่า

    สิ่งต่างๆให้ฟังโทรไปกาก โทรไปกวน แต่ตอนนี้คนตัวพ่อได้แต่กระวนะระวาย นอนไม่หลับ
    “โธ่เว้ย ไอ้กันมึงเป็นอะไรเนี่ย นอนดิ พรุ่งนี้มึงมีงานแต่เช้านะเว้ย” กันโมโหตัวเองที่นอนไม่หลับเพราะแต่ก่อนต่อให้ดึกแค่ไหนเขาก็นอน

    ได้อย่างสบายเพราะโทรหาคนรู้ใจก่อนนอนทุกครั้งจึงทำให้ต้องบังคับตัวเองให้หลับให้ผ่านไปจากคืนนี้ให้ได้
     
    คอนโด
     
    “ริท กินข้าวยัง” โตโน่ก้าวเข้าห้องก็ถามน้องชายอีกคนทันที
    “เรียบร้อยแล้วครับ” ริทตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงอู้อี้และเป็นเหตุผลทำให้รู้ทันทีว่าน้องชายเขากำลังป่วย
    “ป่วยหรอ งั้นกินยาแล้วไปนอนเลย” โตโน่ไล่ริทให้ไปพักผ่อน
    “วันนี้ฝนตกด้วยครับ ตากฝนนิดหน่อย” ริทอธิบาย
    “พรุ่งนี้มีงานป่าว” โตโน่ถาม
    “ไม่มีครับ” ริทตอบ
    “งั้นรีบไปพักผ่อนเถอะ” โตโน่ไล่ริทอีกครั้งแต่กับพบว่าเหมือนริทมีอะไรอยากจะคุยกับเขาถ้าให้เดาเขาก็รู้ได้ทันทีว่าเรื่องน้องชายอีกคน

    แน่ๆ
    “อยากรู้เรื่องไอ้กันหรอ”โตโน่ชิงยิงคำถามไปก่อนแต่ริทเองก็ไม่ได้ตอบอะไรนอกจากก้มหน้า
    “ไอ้กันคนเก่ายังไม่กลับมา ตอนนี้มีแต่กันคนดื้อ คนไร้เหตุผลอย่าเพิ่งไปสนใจมันเลย ไปนอนได้แล้ว ไป” เป็นอีกครั้งที่โตโน่ไล่ให้คน

    ป่วยไปนอนหลังที่พูดถึงน้องชายอีกคน
     
             เป็นเวลาที่ดึกมากแล้วที่พี่ชายยังนอนไม่หลับเพราะมัวแต่เป็นห่วงเรื่องของน้องชายตัวดีทั้งสองและก็เรื่องที่น้องชายเดอะดาว

    ดวงที่ 6 น้อยใจเขาเรื่องของหัวใจเขาพยายามจะสลัดให้ความคิดนี่หลุดไปโดยไปดูริทที่ห้องแต่ก็พบว่าห้องไม่ได้ล๊อคจึงเดินเข้าไปดู

    แต่ก็ต้องพบว่าน้องชายคนนี้ร้องไห้เพิ่งจะร้องด้วยซ้ำเพราะน้ำตายังไม่แห้งดี พี่ชายคนนี้ไม่รู้จะปลอบน้องชายคนนี้อย่างไรจึงลูบหัว

    เบาๆเพราะก็เกรงจะทำให้คนป่วยตื่นแต่หารู้ไม่ว่าน้องชายคนป่วยคนนี้ก็ยังไม่หลับเลยเหมือนกันเพราะมัวแต่คิดถึงใครอีกคนเหมือนกัน

    เหงา คิดถึง รัก อยากกอด อยากพูดคุย อยากบอกรักความรู้สึกต่างๆเข้ามาหมดทุกอย่างทำให้ถึงกลับร้องไห้ออกมา
    วันรุ่งขึ้น
     
    “ริทพี่ไปทำงานก่อนนะ อย่าลืมกินข้าว กินยานะ ” ประโยคที่ถูกเขียนลงโน๊ตใบเล็กแปะไว้ที่โต๊ะอาหารก่อนที่พี่ชายคนนี้จะไปทำงาน
     
           วันนี้เป็นวันที่เกิดอะไรขึ้นกับคนตัวพ่อไม่รู้เพราะว่าถ่ายกี่เทคๆก็ไม่ผ่านสักทีจนเจ้าตัวเริ่มเครียดอย่างเห็นได้ชัดเจนแต่พี่ทีมงานก็ไม่

    ได้ต่อว่าอะไรเพราะเข้าใจว่าเป็นมือใหม่ในการแสดงท่องบทก็ไม่เคยจะจำได้ มุมกล้องก็เข้าผิด บล๊อคกิ้งก็ยืนผิดซึ่งตอนนี้ก็ไม่อะไร

    ต่างไปจากคนที่ไม่มีสติเลยสักนิดทีมงานเห็นว่ากันคงเครียดจึงอนุญาตให้พัก
    “กันมึงเป็นอะไรหรือเปล่าแต่ก่อนไม่เห็นเคยเป็น” โตโน่ถามด้วยความเป็นห่วง
    “เปล่านี้ครับสงสัยวันนี้บทมันยาวก็เลยจำไม่ได้และมัวแต่ไปกังวลกับมันไปหน่อยเลยทำให้ผิดไปหมดเท่านั่นเอง”กันอธิบายและก็ตั้งใจ

    อ่านบทซ้อมบทอย่างไม่สนใจที่จะคุยกับพี่ชายเขาเลย
    “โอ๊ย อ่านยังไงก็ไม่เข้าหัวเลย” กันโวยวายออกมาเพราะว่าตอนนี้ไม่มีสติกระวนกระวาย
    “กันใจเย็นๆดิว่ะ ตั้งสติ” โตโน่ตบบ่าน้องชายพร้อมกับพูดให้กำลังใจวันทั้งวันกันเองก็พยายามทำทุกอย่างเต็มที่เพราะดึงกำลังใจจาก

    พี่ๆทุกคนในกองถ่ายจากครอบครัว จากแฟนคลับ จากเพื่อนๆ มาเป็นแรงขับให้ถ่ายทำผ่านพ้นไปได้ด้วยดีกว่างานจะผ่านไปได้ก็เล่น

    เอาดึกพอสมควรวันนี้กันเครียดมากก่อนที่จะกลับบ้านกันไล่ขอโทษทุกคนที่ทำให้เสียเวลาเพราะความไม่มีสติของเขาเองแต่มันก็

    เหมือนมีอะไรขาดหายไปอยู่ดี
    “กันวันนี้มันก็ดึกมาก มึงไปนอนบ้านหรือกลับกรุงเทพ” โตโน่ถามขณะที่กำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อกลับไปพักผ่อน
    “ก็กลับไปที่ตึกก่อนเดี๋ยวให้อาหมวยมารับ” กันตอบพร้อมกับเดินขึ้นรถไป
    “กัน กูไม่รู้หรอกนะว่าในใจมึงกำลังคิดอะไรอยู่แต่กูจะบอกมึงอย่างนึงนะว่ากูรักพวกมึงสองคนมาก พวกมึงสองคนเป็นน้องชายของกู

    เรื่องบ้าๆที่เกิดขึ้นมันก็เป็นแค่ความคิดของคนเขียนเพราะเขาไม่เห็นว่ามึงรักริทมากแค่ไหนเป็นห่วงริทแค่ไหนเขาไม่เห็นไงและทุกครั้ง

    มึงก็ไม่เห็นจะเดือดร้อนอะไรเลยมึงก็อยู่มาได้แต่ที่มึงเป็นแบบนี้เพราะเขาดันเอามาเปรียบเทียบกับกูตัวมึงก็รู้ดีไม่ใช่หรอว่ามึงสองคน

    รักกันมากแค่ไหนมึงจะกลัวอะไรอีกกลับเรื่องต่างๆที่เข้ามาทำไมมึงทำต่อไปล่ะ” โตโน่ตัดสินใจพูดเรื่องนี้อีกครั้ง
    “ก็ผมไม่จำเป็นที่ต้องดูแลริทแล้ว ไม่ต้องรักริทแล้วเพราะริทเองก็มีคนรักมากมาย” กันตอบเสียงเรียบ
    “มึงอย่ามาประชดกูนะ” โตโน่พูดขึ้น
    “ผมไม่ได้ประชดพี่ พี่โน่ดูแลริทและดีแล้ว” กันเถียง
    “ทุกวันนี้ที่กูดูแลริทก็เพราะคนริทมันรักไม่มาดูแลมัน” โตโน่พูดด้วยน้ำเสียงโมโห
    “มึงจะไม่รักมันแล้วก็ตามใจแต่ถ้าคิดว่ามันเป็นเพื่อนก็ไปเยี่ยมมันหน่อยมันตากฝนจนป่วย” โตโน่พูดเตือนสติ เตือนให้ทบทวนหัวใจ

    น้องชายคนนี้แล้วก็นั่งเงียบ ตลอดทางภายในรถมีแต่ความเงียบงัน
     
    “นี่มันก็ตี2กว่าแล้วนะมึงไปนอนที่คอนโดก่อนมั้ย ไม่ต้องรบกวนให้อามึงมารับ” โตโน่เอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงลึกๆแล้วพี่ชายคนนี้ไม่

    เคยโกรธน้องชายคนตัวพ่อเลยสักนิด
    “และช่วยเอาไอ้กันคนเดิมของกูกลับมาที” โตโน่พูดขึ้นลอยๆก่อนที่จะเดินนำหน้ามันจึงต้องเป็นอย่างนั่นโดนปริยายเพราะนี่ดึกมาเกิน

    กว่าคุณอาจะมารับทำให้กันต้องไปนอนที่คอนโด
     
    “ริทยังไม่นอนอีกหรอ” เสียงโตโน่ที่ถามริทเพราะได้ยินเสียงทีวีเปิดทิ้งไว้
    “ริททำไมมานอนนี่” โตโน่รีบเดินไปดูริทที่นอนหลับอยู่หน้าทีวี
    “เฮ้ย กัน ริทตัวร้อนว่ะ” เสียงโตโน่ตะโกนบอกกันที่ยืนดูริทอยู่ห่างๆแต่จริงๆแล้วกันก็ดีใจไม่น้อยที่ได้เจอริท
    “งั้นเดี๋ยวผมพาริทเข้าไปนอนในห้องก่อน” กันบอกโตโน่ก่อนที่จะอุ้มร่างของริทเข้าไปในห้องพร้อมกับวางร่างเล็กลงบนเตียงเบาเพราะ

    ก็กลัวว่าจะทำให้ตื่นและนั่งลงกับพื้นมองคนป่วยอยู่
    “อ่ะ ไอ้กันเช็ดตัวริทซะ ถ้าเสร็จแล้วมึงก็อาบนอนพักผ่อนเลยนะดึกมากแล้ว” โตโน่ยื่นชามแก้วใสที่ใส่น้ำอุ่นๆและผ้าขนหนูผืนเล็กมาให้

    เพราะเขาเองรู้อยู่แล้วว่าทั้งคู่คงมีอะไรอีกมากมายจะพูดคุยหรือดูแลกันเป็นแน่
    “ทำไมดื้อ ทำไมไปนอนตรงนั้นที่แอร์ตก ป่วยอยู่นะ” กันพูดขึ้นทั้งที่ริทเองก็หลับอยู่พร้อมกับเช็ดตัวริทไปด้วย
    หลังจากที่กันเช็ดตัวริทเรียบร้อยแล้วก็นั่งกุมมือ นั่งมองริทพร้อมกับเข้าไปกอดริทด้วยความคิดถึงและเป็นการให้ไออุ่นริทไปในตัวจน

    ไม่รู้ว่าเผลอหลับไปตั้งแต่เมื่อไรจนกระทั่งริทตื่นขึ้นมา
    “อื้อ เอ้า กันนี่” ริทตื่นขึ้นมาตกใจเหมือนกันที่เห็นกันมานั่งกอดเขาอยู่และก็เหมือนจะรู้ไปในตัวว่ากันแน่ๆที่พาริทเข้ามานอนในนี้
    “กันครับ กัน” ริทปลุกกันโดยเขย่าแขนกันเบาๆ
    “ห๊ะ ริท ตื่นมาทำไม”กันเห็นริทตื่นขึ้นก็ตกใจเหมือนกัน
    “กันลุกขึ้นมานอนบนนี้ดีกว่า ไปนั่งข้างล่างทำไม” ริทบอกกันกับพร้อมกับมาพยุงกันให้ลุกขึ้นมา
    “ริทนอนต่อเถอะ พักผ่อนเยอะๆ” กันบอกกับริทพร้อมกับเอนตัวริทให้นอนลง
    “กันทำงานเหนื่อยมากมั้ย” ริทเองก็ยังคงถามคำถามเดิมๆ
    “อย่าเพิ่งถามกันเลยริทนอนพักผ่อนก่อน”กันเองเลี่ยงที่จะตอบแถมกับสั่งให้ริทนอนพักด้วยซ้ำ
    “นอนไม่หลับแล้ว ร้องเพลงให้ฟังหน่อย” ริทอ้อน
    “ตั้งใจนะครับ มันเป็นความรู้สึกกันเลยนะ” กันบอก
     
     
     
    ต้องอยู่อย่างไร้ค่า ท้องฟ้าชั่งว่างเปล่า

    มีแต่ความเหงาคอยใกล้ชิดเหมือนเงาติดตัว

    นับตั้งแต่เธอไปในใจฉันก็พลันมืดมัว

     ยิ่งมองแสงไฟสลัวให้หัวใจยิ่งเริ่มสลาย 

         เธอไปอยู่ไหนกันคิดถึงฉันหรือเปล่า 

         ความเจ็บรุมเร้าความเงียบเหงาไม่เคยคลี่คลาย 

         ไม่ว่าเธออยู่ไหนอยากให้รู้ให้เธอเข้าใจ 

         ฉันคงไม่มีความหมายหากไม่มีเธอเหมือนเก่า

    *ไม่ว่าปัญหานั้นมีมากมายเท่าไร 

      ต่อให้สูญเสียเท่าไรแลกได้เสมอ 

     **    แค่ขอมีเธอ แค่ได้พบเธอ

            เจอะเจอเรื่องใดไม่หวั่น 

            เธอนั้นคือแรงแห่งแสงตะวันให้ฉันก้าวเดิน 

            อยากพบหน้ากันซบสายตากันคิดถึงเหลือเกิน 

            เมื่อไหร่ความห่างเหินจะจบสิ้นลงซะที

    ไออุ่นจากอ้อมกอดแววตาที่โอนอ่อน

     คือภาพสะท้อนบอกให้ค้นหาเธอต่อไป

    ทุกครั้งที่มองฟ้าอยากตะโกนให้เธอเข้าใจ

    ฉันคงไม่มีความหมายหากไม่ได้เธอคืนมา ...
     
     
    “ฮึก ฮึก” เสียงสะอื้นจากริททำให้กันถึงกลับตกใจ
    “ริทร้องไห้ทำไม” กันถามพร้อมกับเช็ดน้ำตาให้ริท
    “กันอย่าทำแบบนี้อีกนะ ริทคิดถึง ริทเหงา” ริทเงยหน้าตอบกัน
    “ครับ กันจะไม่ทำอย่างนี้อีกแล้ว จะไม่อวดเก่งแล้ว เข็ดแล้ว” กันพูดพร้อมกับรั้งตัวของริทเข้ามากอด
    “รู้มั้ย เวลาที่กันไม่มีริท กันเหมือนขาดหายอะไรไปยังไงก็ไม่รู้ริทเป็นเหมือนแรงผลักให้กันก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างสมดุลถ้าขาด 

       ริทไปการก้าวเดินของกันคงจะสะดุด คิดถึงริทนะครับ” กันอธิบายพร้อมกับกระชับอ้อมกอด
    “ริทก็เหมือนกันครับ กันคนเดิมของริทกลับมาแล้ว คิดถึงจัง” ริทพูดพร้อมกับยืดตัวขึ้นไปหอมแก้มแล้วกอดกันไว้แน่น
    “กัน..ห้ามเอาเพลงนี้ไปร้องให้คนอื่นนะ” ริทบอกทั้งที่ยังนอนกอดกันอยู่
    “เพลงนี้กันจะเก็บเอาไว้ร้องกับริทคนเดียวเท่านั่นครับ”กันให้คำมั่นกับริทพร้อมกับจูบไปที่หน้าผากริทเบาๆ
    “พักผ่อนนะครับ” กันบอกให้ริทนอนพักก่อนที่กระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น
    “หื้อ” กันอุทานเบาๆและตกใจเล็กน้อยกับการกระทำของริทที่ใช้ริมฝีปากบางมาแตะที่ริมฝีปากของเขา
    “รักกันนะ” ริทบอกก่อนที่จะนอนกอดกันแน่นและหลับตาช้าๆ
    “รักริทเหมือนกันนะครับ”กันบอกรักริทและเมื่อเห็นว่าริทนอนยิ้มอย่างมีความสุขคนตัวพ่อก็ฉกฉวยริมฝีปากบางด้วยริมฝีปากของตนอีก

    ครั้งแต่ต่างกันตรงที่ครั้งนี้เขาเป็นคนเริ่มก่อนจากแตะเบาๆกลับกลายเป็นการจูบและจากการจูบก็กลับกลายเป็นการบอกรักด้วย

    ภาษากายและท่ามกลางคงามเงียบงันของเวลาที่ใกล้จะเช้าอย่างนี้ยังมีแค่คน2คนที่ยังบอกรักซึ่งกันและกันอย่างไม่รู้จักเบื่อที่เกิดจาก

    ความรักความคิดถึงที่โหยหาจากที่ไม่เคยได้รับมาเป็นระยะอาทิตย์กว่าๆ

    ..................................................................................................................................................................................................................
     
    Writer Talk
     
     อัพภาคต่อให้แล้วนะคะ SF จบแล้วค่ะคงถูกใจนะคะ เรื่องทั้งหมดเกิดจากจินตนาการนะคะ

    รักกันสุดริท รักริทเหมือนกัน
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×