ลำดับตอนที่ #6
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : SF แค่ขอมีเธอ
1 อาทิตย์ผ่านไป
หลังจากที่คนตัวพ่อทิ้งระยะห่างกับคนตัวยุ่งมันมีความเปลี่ยนแปลงหลายอย่างแต่เรื่องงานยังไม่มี
เปลี่ยนเพราะงานยุ่งมาตลอด
1อาทิตย์แต่สิ่งที่เปลี่ยนได้อย่างชัดเจนคือชีวิตประจำวันเพราะปกติแล้วหลังจากเลิกงานจะต้องโทรหากันหรือบีบี
หากันเพื่อเล่าเรื่องราว
ที่ทำผ่านมาให้กันและกันฟังเสมอถึงแม้จะไม่มีเรื่องเล่าอะไรมากมายก็ต้องโทรหาเพื่อคุยกันกวนกัน ตามประสาเพื่อนซี้ที่สนิทสนิทเกิน
เพื่อนอยู่เป็นประจำตั้งแต่ห่างกันออกมาก็เหมือนมีอะไรขาดหายไป
เปลี่ยนเพราะงานยุ่งมาตลอด
1อาทิตย์แต่สิ่งที่เปลี่ยนได้อย่างชัดเจนคือชีวิตประจำวันเพราะปกติแล้วหลังจากเลิกงานจะต้องโทรหากันหรือบีบี
หากันเพื่อเล่าเรื่องราว
ที่ทำผ่านมาให้กันและกันฟังเสมอถึงแม้จะไม่มีเรื่องเล่าอะไรมากมายก็ต้องโทรหาเพื่อคุยกันกวนกัน ตามประสาเพื่อนซี้ที่สนิทสนิทเกิน
เพื่อนอยู่เป็นประจำตั้งแต่ห่างกันออกมาก็เหมือนมีอะไรขาดหายไป
“กัน วันนี้ไปกินข้าวที่คอนโดด้วยกันนะ” โตโน่ชวนน้องชายเพิ่งที่เพิ่งถ่ายละครเสร็จ
“ขอบคุณครับแต่ไม่ดีกว่าพอดีว่าวันนนี้กันจะกลับบ้านน่ะครับ” กันปฎิเสธพร้อมให้เหตุผล
“อยากจะกลับบ้านอยู่แล้วหรือไม่อยากเจอหน้าใครหรือเปล่า” โตโน่ยิงคำถามกลับไปอย่างเสียดแทงหัวใจที่สุด
“ก็นานๆจะได้กลับบ้านทีก็อยากไปอยู่กับพ่อแม่บ้างแล้วพรุ่งนี้ก็ถ่ายต่อตอนเช้าจะได้ไม่เสียเวลา” กันอธิบาย
“อ๋อ แล้วไป วันนี้พี่ต้องไปดูแลริทมันอีกแล้วใช่มั้ยเนี่ย” โตโน่แกล้วพูดเพื่อจะดูปฎิกริยาของน้องชาย
“พี่โตโน่ดูแลริทดีอยู่แล้วเชื่อผมซิแถมยังดูแลริททุกเรื่องได้ดีกว่าผมด้วยซ้ำ” กันพูด
“ไอ้กัน มึงน้อยใจอะไรกูหรือเปล่า” โตโน่ตัดสินใจถามเพื่อความกระจ่างเพราะเขาเองก็พอจะรู้สาเหตุมาแล้วแต่เขาก็ไม่สบายใจนักหรอก
ที่น้องชายของเขาเป็นแบบนี้
ที่น้องชายของเขาเป็นแบบนี้
“เปล่านิ” กันตอบพร้อมกับกำลังจะเดินแต่ก็ต้องหยุดเพราะเสียงท้วงจากพี่ชาย
“เพราะกระทู้บ้าๆนั่นที่เปรียบเทียบกูกับมึงเรื่องริทใช่มั้ยที่ทำให้มึงเป็นแบบนี้”โตโน่ชิงถามทันทีเพราะรู้ว่ายังไงน้องชายคนนี้ไม่ยอม
เอ่ยปากบอกก่อนแน่ๆ
เอ่ยปากบอกก่อนแน่ๆ
“ให้มันผ่านไปเถอะผมไม่อยากจะนึกถึงมันอีกแล้ว” กันเลี่ยงที่จะตอบคำถาม
“แต่กูให้ผ่านไปไม่ได้หรอกนะเพราะมึงสองคนเป็นน้องชายที่กูรักกูไม่อยากมีเรื่องกับมึงเพราะเรื่องบ้าๆนั่น” โตโน่ยังคงรั้งเพื่อเคลียร์ให้
เรื่องนี้จบแต่ก็ยังไม่ทันจะเคลียร์คุณอาก็รับกันเสียแล้ว
เรื่องนี้จบแต่ก็ยังไม่ทันจะเคลียร์คุณอาก็รับกันเสียแล้ว
“กลับก่อนนะครับ สวัสดีครับ” กันลาโตโน่พร้อมกับเดินขึ้นรถไปทันที
หลังจากที่กลับมาจากกองถ่ายตัวพ่อก็ได้อยู่กับครอบครัวสักพักใหญ่จนได้เวลาที่จะอยู่กับตัวเองปกติแล้วจะโทรหาคนตัวยุ่งเพื่อเล่า
สิ่งต่างๆให้ฟังโทรไปกาก โทรไปกวน แต่ตอนนี้คนตัวพ่อได้แต่กระวนะระวาย นอนไม่หลับ
สิ่งต่างๆให้ฟังโทรไปกาก โทรไปกวน แต่ตอนนี้คนตัวพ่อได้แต่กระวนะระวาย นอนไม่หลับ
“โธ่เว้ย ไอ้กันมึงเป็นอะไรเนี่ย นอนดิ พรุ่งนี้มึงมีงานแต่เช้านะเว้ย” กันโมโหตัวเองที่นอนไม่หลับเพราะแต่ก่อนต่อให้ดึกแค่ไหนเขาก็นอน
ได้อย่างสบายเพราะโทรหาคนรู้ใจก่อนนอนทุกครั้งจึงทำให้ต้องบังคับตัวเองให้หลับให้ผ่านไปจากคืนนี้ให้ได้
ได้อย่างสบายเพราะโทรหาคนรู้ใจก่อนนอนทุกครั้งจึงทำให้ต้องบังคับตัวเองให้หลับให้ผ่านไปจากคืนนี้ให้ได้
คอนโด
“ริท กินข้าวยัง” โตโน่ก้าวเข้าห้องก็ถามน้องชายอีกคนทันที
“เรียบร้อยแล้วครับ” ริทตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงอู้อี้และเป็นเหตุผลทำให้รู้ทันทีว่าน้องชายเขากำลังป่วย
“ป่วยหรอ งั้นกินยาแล้วไปนอนเลย” โตโน่ไล่ริทให้ไปพักผ่อน
“วันนี้ฝนตกด้วยครับ ตากฝนนิดหน่อย” ริทอธิบาย
“พรุ่งนี้มีงานป่าว” โตโน่ถาม
“ไม่มีครับ” ริทตอบ
“งั้นรีบไปพักผ่อนเถอะ” โตโน่ไล่ริทอีกครั้งแต่กับพบว่าเหมือนริทมีอะไรอยากจะคุยกับเขาถ้าให้เดาเขาก็รู้ได้ทันทีว่าเรื่องน้องชายอีกคน
แน่ๆ
แน่ๆ
“อยากรู้เรื่องไอ้กันหรอ”โตโน่ชิงยิงคำถามไปก่อนแต่ริทเองก็ไม่ได้ตอบอะไรนอกจากก้มหน้า
“ไอ้กันคนเก่ายังไม่กลับมา ตอนนี้มีแต่กันคนดื้อ คนไร้เหตุผลอย่าเพิ่งไปสนใจมันเลย ไปนอนได้แล้ว ไป” เป็นอีกครั้งที่โตโน่ไล่ให้คน
ป่วยไปนอนหลังที่พูดถึงน้องชายอีกคน
ป่วยไปนอนหลังที่พูดถึงน้องชายอีกคน
เป็นเวลาที่ดึกมากแล้วที่พี่ชายยังนอนไม่หลับเพราะมัวแต่เป็นห่วงเรื่องของน้องชายตัวดีทั้งสองและก็เรื่องที่น้องชายเดอะดาว
ดวงที่ 6 น้อยใจเขาเรื่องของหัวใจเขาพยายามจะสลัดให้ความคิดนี่หลุดไปโดยไปดูริทที่ห้องแต่ก็พบว่าห้องไม่ได้ล๊อคจึงเดินเข้าไปดู
แต่ก็ต้องพบว่าน้องชายคนนี้ร้องไห้เพิ่งจะร้องด้วยซ้ำเพราะน้ำตายังไม่แห้งดี พี่ชายคนนี้ไม่รู้จะปลอบน้องชายคนนี้อย่างไรจึงลูบหัว
เบาๆเพราะก็เกรงจะทำให้คนป่วยตื่นแต่หารู้ไม่ว่าน้องชายคนป่วยคนนี้ก็ยังไม่หลับเลยเหมือนกันเพราะมัวแต่คิดถึงใครอีกคนเหมือนกัน
เหงา คิดถึง รัก อยากกอด อยากพูดคุย อยากบอกรักความรู้สึกต่างๆเข้ามาหมดทุกอย่างทำให้ถึงกลับร้องไห้ออกมา
ดวงที่ 6 น้อยใจเขาเรื่องของหัวใจเขาพยายามจะสลัดให้ความคิดนี่หลุดไปโดยไปดูริทที่ห้องแต่ก็พบว่าห้องไม่ได้ล๊อคจึงเดินเข้าไปดู
แต่ก็ต้องพบว่าน้องชายคนนี้ร้องไห้เพิ่งจะร้องด้วยซ้ำเพราะน้ำตายังไม่แห้งดี พี่ชายคนนี้ไม่รู้จะปลอบน้องชายคนนี้อย่างไรจึงลูบหัว
เบาๆเพราะก็เกรงจะทำให้คนป่วยตื่นแต่หารู้ไม่ว่าน้องชายคนป่วยคนนี้ก็ยังไม่หลับเลยเหมือนกันเพราะมัวแต่คิดถึงใครอีกคนเหมือนกัน
เหงา คิดถึง รัก อยากกอด อยากพูดคุย อยากบอกรักความรู้สึกต่างๆเข้ามาหมดทุกอย่างทำให้ถึงกลับร้องไห้ออกมา
วันรุ่งขึ้น
“ริทพี่ไปทำงานก่อนนะ อย่าลืมกินข้าว กินยานะ ” ประโยคที่ถูกเขียนลงโน๊ตใบเล็กแปะไว้ที่โต๊ะอาหารก่อนที่พี่ชายคนนี้จะไปทำงาน
วันนี้เป็นวันที่เกิดอะไรขึ้นกับคนตัวพ่อไม่รู้เพราะว่าถ่ายกี่เทคๆก็ไม่ผ่านสักทีจนเจ้าตัวเริ่มเครียดอย่างเห็นได้ชัดเจนแต่พี่ทีมงานก็ไม่
ได้ต่อว่าอะไรเพราะเข้าใจว่าเป็นมือใหม่ในการแสดงท่องบทก็ไม่เคยจะจำได้ มุมกล้องก็เข้าผิด บล๊อคกิ้งก็ยืนผิดซึ่งตอนนี้ก็ไม่อะไร
ต่างไปจากคนที่ไม่มีสติเลยสักนิดทีมงานเห็นว่ากันคงเครียดจึงอนุญาตให้พัก
ได้ต่อว่าอะไรเพราะเข้าใจว่าเป็นมือใหม่ในการแสดงท่องบทก็ไม่เคยจะจำได้ มุมกล้องก็เข้าผิด บล๊อคกิ้งก็ยืนผิดซึ่งตอนนี้ก็ไม่อะไร
ต่างไปจากคนที่ไม่มีสติเลยสักนิดทีมงานเห็นว่ากันคงเครียดจึงอนุญาตให้พัก
“กันมึงเป็นอะไรหรือเปล่าแต่ก่อนไม่เห็นเคยเป็น” โตโน่ถามด้วยความเป็นห่วง
“เปล่านี้ครับสงสัยวันนี้บทมันยาวก็เลยจำไม่ได้และมัวแต่ไปกังวลกับมันไปหน่อยเลยทำให้ผิดไปหมดเท่านั่นเอง”กันอธิบายและก็ตั้งใจ
อ่านบทซ้อมบทอย่างไม่สนใจที่จะคุยกับพี่ชายเขาเลย
อ่านบทซ้อมบทอย่างไม่สนใจที่จะคุยกับพี่ชายเขาเลย
“โอ๊ย อ่านยังไงก็ไม่เข้าหัวเลย” กันโวยวายออกมาเพราะว่าตอนนี้ไม่มีสติกระวนกระวาย
“กันใจเย็นๆดิว่ะ ตั้งสติ” โตโน่ตบบ่าน้องชายพร้อมกับพูดให้กำลังใจวันทั้งวันกันเองก็พยายามทำทุกอย่างเต็มที่เพราะดึงกำลังใจจาก
พี่ๆทุกคนในกองถ่ายจากครอบครัว จากแฟนคลับ จากเพื่อนๆ มาเป็นแรงขับให้ถ่ายทำผ่านพ้นไปได้ด้วยดีกว่างานจะผ่านไปได้ก็เล่น
เอาดึกพอสมควรวันนี้กันเครียดมากก่อนที่จะกลับบ้านกันไล่ขอโทษทุกคนที่ทำให้เสียเวลาเพราะความไม่มีสติของเขาเองแต่มันก็
เหมือนมีอะไรขาดหายไปอยู่ดี
พี่ๆทุกคนในกองถ่ายจากครอบครัว จากแฟนคลับ จากเพื่อนๆ มาเป็นแรงขับให้ถ่ายทำผ่านพ้นไปได้ด้วยดีกว่างานจะผ่านไปได้ก็เล่น
เอาดึกพอสมควรวันนี้กันเครียดมากก่อนที่จะกลับบ้านกันไล่ขอโทษทุกคนที่ทำให้เสียเวลาเพราะความไม่มีสติของเขาเองแต่มันก็
เหมือนมีอะไรขาดหายไปอยู่ดี
“กันวันนี้มันก็ดึกมาก มึงไปนอนบ้านหรือกลับกรุงเทพ” โตโน่ถามขณะที่กำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อกลับไปพักผ่อน
“ก็กลับไปที่ตึกก่อนเดี๋ยวให้อาหมวยมารับ” กันตอบพร้อมกับเดินขึ้นรถไป
“กัน กูไม่รู้หรอกนะว่าในใจมึงกำลังคิดอะไรอยู่แต่กูจะบอกมึงอย่างนึงนะว่ากูรักพวกมึงสองคนมาก พวกมึงสองคนเป็นน้องชายของกู
เรื่องบ้าๆที่เกิดขึ้นมันก็เป็นแค่ความคิดของคนเขียนเพราะเขาไม่เห็นว่ามึงรักริทมากแค่ไหนเป็นห่วงริทแค่ไหนเขาไม่เห็นไงและทุกครั้ง
มึงก็ไม่เห็นจะเดือดร้อนอะไรเลยมึงก็อยู่มาได้แต่ที่มึงเป็นแบบนี้เพราะเขาดันเอามาเปรียบเทียบกับกูตัวมึงก็รู้ดีไม่ใช่หรอว่ามึงสองคน
รักกันมากแค่ไหนมึงจะกลัวอะไรอีกกลับเรื่องต่างๆที่เข้ามาทำไมมึงทำต่อไปล่ะ” โตโน่ตัดสินใจพูดเรื่องนี้อีกครั้ง
เรื่องบ้าๆที่เกิดขึ้นมันก็เป็นแค่ความคิดของคนเขียนเพราะเขาไม่เห็นว่ามึงรักริทมากแค่ไหนเป็นห่วงริทแค่ไหนเขาไม่เห็นไงและทุกครั้ง
มึงก็ไม่เห็นจะเดือดร้อนอะไรเลยมึงก็อยู่มาได้แต่ที่มึงเป็นแบบนี้เพราะเขาดันเอามาเปรียบเทียบกับกูตัวมึงก็รู้ดีไม่ใช่หรอว่ามึงสองคน
รักกันมากแค่ไหนมึงจะกลัวอะไรอีกกลับเรื่องต่างๆที่เข้ามาทำไมมึงทำต่อไปล่ะ” โตโน่ตัดสินใจพูดเรื่องนี้อีกครั้ง
“ก็ผมไม่จำเป็นที่ต้องดูแลริทแล้ว ไม่ต้องรักริทแล้วเพราะริทเองก็มีคนรักมากมาย” กันตอบเสียงเรียบ
“มึงอย่ามาประชดกูนะ” โตโน่พูดขึ้น
“ผมไม่ได้ประชดพี่ พี่โน่ดูแลริทและดีแล้ว” กันเถียง
“ทุกวันนี้ที่กูดูแลริทก็เพราะคนริทมันรักไม่มาดูแลมัน” โตโน่พูดด้วยน้ำเสียงโมโห
“มึงจะไม่รักมันแล้วก็ตามใจแต่ถ้าคิดว่ามันเป็นเพื่อนก็ไปเยี่ยมมันหน่อยมันตากฝนจนป่วย” โตโน่พูดเตือนสติ เตือนให้ทบทวนหัวใจ
น้องชายคนนี้แล้วก็นั่งเงียบ ตลอดทางภายในรถมีแต่ความเงียบงัน
น้องชายคนนี้แล้วก็นั่งเงียบ ตลอดทางภายในรถมีแต่ความเงียบงัน
“นี่มันก็ตี2กว่าแล้วนะมึงไปนอนที่คอนโดก่อนมั้ย ไม่ต้องรบกวนให้อามึงมารับ” โตโน่เอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงลึกๆแล้วพี่ชายคนนี้ไม่
เคยโกรธน้องชายคนตัวพ่อเลยสักนิด
เคยโกรธน้องชายคนตัวพ่อเลยสักนิด
“และช่วยเอาไอ้กันคนเดิมของกูกลับมาที” โตโน่พูดขึ้นลอยๆก่อนที่จะเดินนำหน้ามันจึงต้องเป็นอย่างนั่นโดนปริยายเพราะนี่ดึกมาเกิน
กว่าคุณอาจะมารับทำให้กันต้องไปนอนที่คอนโด
กว่าคุณอาจะมารับทำให้กันต้องไปนอนที่คอนโด
“ริทยังไม่นอนอีกหรอ” เสียงโตโน่ที่ถามริทเพราะได้ยินเสียงทีวีเปิดทิ้งไว้
“ริททำไมมานอนนี่” โตโน่รีบเดินไปดูริทที่นอนหลับอยู่หน้าทีวี
“เฮ้ย กัน ริทตัวร้อนว่ะ” เสียงโตโน่ตะโกนบอกกันที่ยืนดูริทอยู่ห่างๆแต่จริงๆแล้วกันก็ดีใจไม่น้อยที่ได้เจอริท
“งั้นเดี๋ยวผมพาริทเข้าไปนอนในห้องก่อน” กันบอกโตโน่ก่อนที่จะอุ้มร่างของริทเข้าไปในห้องพร้อมกับวางร่างเล็กลงบนเตียงเบาเพราะ
ก็กลัวว่าจะทำให้ตื่นและนั่งลงกับพื้นมองคนป่วยอยู่
ก็กลัวว่าจะทำให้ตื่นและนั่งลงกับพื้นมองคนป่วยอยู่
“อ่ะ ไอ้กันเช็ดตัวริทซะ ถ้าเสร็จแล้วมึงก็อาบนอนพักผ่อนเลยนะดึกมากแล้ว” โตโน่ยื่นชามแก้วใสที่ใส่น้ำอุ่นๆและผ้าขนหนูผืนเล็กมาให้
เพราะเขาเองรู้อยู่แล้วว่าทั้งคู่คงมีอะไรอีกมากมายจะพูดคุยหรือดูแลกันเป็นแน่
เพราะเขาเองรู้อยู่แล้วว่าทั้งคู่คงมีอะไรอีกมากมายจะพูดคุยหรือดูแลกันเป็นแน่
“ทำไมดื้อ ทำไมไปนอนตรงนั้นที่แอร์ตก ป่วยอยู่นะ” กันพูดขึ้นทั้งที่ริทเองก็หลับอยู่พร้อมกับเช็ดตัวริทไปด้วย
หลังจากที่กันเช็ดตัวริทเรียบร้อยแล้วก็นั่งกุมมือ นั่งมองริทพร้อมกับเข้าไปกอดริทด้วยความคิดถึงและเป็นการให้ไออุ่นริทไปในตัวจน
ไม่รู้ว่าเผลอหลับไปตั้งแต่เมื่อไรจนกระทั่งริทตื่นขึ้นมา
ไม่รู้ว่าเผลอหลับไปตั้งแต่เมื่อไรจนกระทั่งริทตื่นขึ้นมา
“อื้อ เอ้า กันนี่” ริทตื่นขึ้นมาตกใจเหมือนกันที่เห็นกันมานั่งกอดเขาอยู่และก็เหมือนจะรู้ไปในตัวว่ากันแน่ๆที่พาริทเข้ามานอนในนี้
“กันครับ กัน” ริทปลุกกันโดยเขย่าแขนกันเบาๆ
“ห๊ะ ริท ตื่นมาทำไม”กันเห็นริทตื่นขึ้นก็ตกใจเหมือนกัน
“กันลุกขึ้นมานอนบนนี้ดีกว่า ไปนั่งข้างล่างทำไม” ริทบอกกันกับพร้อมกับมาพยุงกันให้ลุกขึ้นมา
“ริทนอนต่อเถอะ พักผ่อนเยอะๆ” กันบอกกับริทพร้อมกับเอนตัวริทให้นอนลง
“กันทำงานเหนื่อยมากมั้ย” ริทเองก็ยังคงถามคำถามเดิมๆ
“อย่าเพิ่งถามกันเลยริทนอนพักผ่อนก่อน”กันเองเลี่ยงที่จะตอบแถมกับสั่งให้ริทนอนพักด้วยซ้ำ
“นอนไม่หลับแล้ว ร้องเพลงให้ฟังหน่อย” ริทอ้อน
“ตั้งใจนะครับ มันเป็นความรู้สึกกันเลยนะ” กันบอก
ต้องอยู่อย่างไร้ค่า ท้องฟ้าชั่งว่างเปล่า
มีแต่ความเหงาคอยใกล้ชิดเหมือนเงาติดตัว
นับตั้งแต่เธอไปในใจฉันก็พลันมืดมัว
ยิ่งมองแสงไฟสลัวให้หัวใจยิ่งเริ่มสลาย
เธอไปอยู่ไหนกันคิดถึงฉันหรือเปล่า
ความเจ็บรุมเร้าความเงียบเหงาไม่เคยคลี่คลาย
ไม่ว่าเธออยู่ไหนอยากให้รู้ให้เธอเข้าใจ
ฉันคงไม่มีความหมายหากไม่มีเธอเหมือนเก่า
*ไม่ว่าปัญหานั้นมีมากมายเท่าไร
ต่อให้สูญเสียเท่าไรแลกได้เสมอ
** แค่ขอมีเธอ แค่ได้พบเธอ
เจอะเจอเรื่องใดไม่หวั่น
เธอนั้นคือแรงแห่งแสงตะวันให้ฉันก้าวเดิน
อยากพบหน้ากันซบสายตากันคิดถึงเหลือเกิน
เมื่อไหร่ความห่างเหินจะจบสิ้นลงซะที
ไออุ่นจากอ้อมกอดแววตาที่โอนอ่อน
คือภาพสะท้อนบอกให้ค้นหาเธอต่อไป
ทุกครั้งที่มองฟ้าอยากตะโกนให้เธอเข้าใจ
ฉันคงไม่มีความหมายหากไม่ได้เธอคืนมา ...
มีแต่ความเหงาคอยใกล้ชิดเหมือนเงาติดตัว
นับตั้งแต่เธอไปในใจฉันก็พลันมืดมัว
ยิ่งมองแสงไฟสลัวให้หัวใจยิ่งเริ่มสลาย
เธอไปอยู่ไหนกันคิดถึงฉันหรือเปล่า
ความเจ็บรุมเร้าความเงียบเหงาไม่เคยคลี่คลาย
ไม่ว่าเธออยู่ไหนอยากให้รู้ให้เธอเข้าใจ
ฉันคงไม่มีความหมายหากไม่มีเธอเหมือนเก่า
*ไม่ว่าปัญหานั้นมีมากมายเท่าไร
ต่อให้สูญเสียเท่าไรแลกได้เสมอ
** แค่ขอมีเธอ แค่ได้พบเธอ
เจอะเจอเรื่องใดไม่หวั่น
เธอนั้นคือแรงแห่งแสงตะวันให้ฉันก้าวเดิน
อยากพบหน้ากันซบสายตากันคิดถึงเหลือเกิน
เมื่อไหร่ความห่างเหินจะจบสิ้นลงซะที
ไออุ่นจากอ้อมกอดแววตาที่โอนอ่อน
คือภาพสะท้อนบอกให้ค้นหาเธอต่อไป
ทุกครั้งที่มองฟ้าอยากตะโกนให้เธอเข้าใจ
ฉันคงไม่มีความหมายหากไม่ได้เธอคืนมา ...
“ฮึก ฮึก” เสียงสะอื้นจากริททำให้กันถึงกลับตกใจ
“ริทร้องไห้ทำไม” กันถามพร้อมกับเช็ดน้ำตาให้ริท
“กันอย่าทำแบบนี้อีกนะ ริทคิดถึง ริทเหงา” ริทเงยหน้าตอบกัน
“ครับ กันจะไม่ทำอย่างนี้อีกแล้ว จะไม่อวดเก่งแล้ว เข็ดแล้ว” กันพูดพร้อมกับรั้งตัวของริทเข้ามากอด
“รู้มั้ย เวลาที่กันไม่มีริท กันเหมือนขาดหายอะไรไปยังไงก็ไม่รู้ริทเป็นเหมือนแรงผลักให้กันก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างสมดุลถ้าขาด
ริทไปการก้าวเดินของกันคงจะสะดุด คิดถึงริทนะครับ” กันอธิบายพร้อมกับกระชับอ้อมกอด
ริทไปการก้าวเดินของกันคงจะสะดุด คิดถึงริทนะครับ” กันอธิบายพร้อมกับกระชับอ้อมกอด
“ริทก็เหมือนกันครับ กันคนเดิมของริทกลับมาแล้ว คิดถึงจัง” ริทพูดพร้อมกับยืดตัวขึ้นไปหอมแก้มแล้วกอดกันไว้แน่น
“กัน..ห้ามเอาเพลงนี้ไปร้องให้คนอื่นนะ” ริทบอกทั้งที่ยังนอนกอดกันอยู่
“เพลงนี้กันจะเก็บเอาไว้ร้องกับริทคนเดียวเท่านั่นครับ”กันให้คำมั่นกับริทพร้อมกับจูบไปที่หน้าผากริทเบาๆ
“พักผ่อนนะครับ” กันบอกให้ริทนอนพักก่อนที่กระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น
“หื้อ” กันอุทานเบาๆและตกใจเล็กน้อยกับการกระทำของริทที่ใช้ริมฝีปากบางมาแตะที่ริมฝีปากของเขา
“รักกันนะ” ริทบอกก่อนที่จะนอนกอดกันแน่นและหลับตาช้าๆ
“รักริทเหมือนกันนะครับ”กันบอกรักริทและเมื่อเห็นว่าริทนอนยิ้มอย่างมีความสุขคนตัวพ่อก็ฉกฉวยริมฝีปากบางด้วยริมฝีปากของตนอีก
ครั้งแต่ต่างกันตรงที่ครั้งนี้เขาเป็นคนเริ่มก่อนจากแตะเบาๆกลับกลายเป็นการจูบและจากการจูบก็กลับกลายเป็นการบอกรักด้วย
ภาษากายและท่ามกลางคงามเงียบงันของเวลาที่ใกล้จะเช้าอย่างนี้ยังมีแค่คน2คนที่ยังบอกรักซึ่งกันและกันอย่างไม่รู้จักเบื่อที่เกิดจาก
ความรักความคิดถึงที่โหยหาจากที่ไม่เคยได้รับมาเป็นระยะอาทิตย์กว่าๆ
..................................................................................................................................................................................................................
ครั้งแต่ต่างกันตรงที่ครั้งนี้เขาเป็นคนเริ่มก่อนจากแตะเบาๆกลับกลายเป็นการจูบและจากการจูบก็กลับกลายเป็นการบอกรักด้วย
ภาษากายและท่ามกลางคงามเงียบงันของเวลาที่ใกล้จะเช้าอย่างนี้ยังมีแค่คน2คนที่ยังบอกรักซึ่งกันและกันอย่างไม่รู้จักเบื่อที่เกิดจาก
ความรักความคิดถึงที่โหยหาจากที่ไม่เคยได้รับมาเป็นระยะอาทิตย์กว่าๆ
..................................................................................................................................................................................................................
Writer Talk
อัพภาคต่อให้แล้วนะคะ SF จบแล้วค่ะคงถูกใจนะคะ เรื่องทั้งหมดเกิดจากจินตนาการนะคะ
รักกันสุดริท รักริทเหมือนกัน
รักกันสุดริท รักริทเหมือนกัน
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น