ลำดับตอนที่ #4
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : SF แค่คิดถึงกัน
แค่คิดถึงกัน
12 พ.ค.54
วันนี้เป็นวันที่คนตัวพ่อและคนตัวยุ่งแห่งบ้านเดอะดาวปี 6 เปิดตัวการเป็นพรีเซนเตอร์สินค้าตัวแรกของ
ทั้งคู่คือเมืองไทยประกันชีวิตแต่ช่วงระยะเวลาของการเปิดตัวมีแฟนคลับของทั้งคู่มารอให้กำลังใจและมาร่วม
แสดงความยินดีเป็นจำนวนไม่น้อยแต่ทว่าทั้งคู่ก็ไม่ได้เจอแฟนคลับอยู่ดีเพราะงานเปิดตัวครั้งนี้เป็นงานปิดซึ่งคน
ตัวยุ่งยังมีมินิคอนตอนบ่ายยังได้มีโอกาสเจอบรรดาแฟนคลับแต่คนตัวพ่อนี่ซิต้องรีบกลับทำให้ยังไม่ได้เจอแฟน
คลับเลยแถมยังกลับไปทางประตูด้านหลังของห้องเปิดออกไปยังลานจอดรถทำให้บรรดาแฟนคลับของคนตัวพ่อ
ต้องวิ่งตามเพื่อไปส่งและให้ได้เห็นหน้าคนที่พวกเขามาให้กำลังใจก็ยังดี แต่อาจจะตามไปบ้างส่วนเท่านั่นทำให้
คนตัวพ่อเห็นว่าแฟนคลับของตนมาน้อยแต่ก็ดันไปเห็นรูปถ่ายของแฟนคลับที่รวมตัวถ่ายรูปกันทำให้รู้ว่ากลุ่ม
แฟนคลับของเขามามากน้อยเพียงใดทำให้เขาถึงกลับจิตตกและนอยด์ขึ้นมาทันทีจึงรีบขอโทษบรรดาแฟนคลับ
ทันทีโดยผ่านทาง Facebook
ทั้งคู่คือเมืองไทยประกันชีวิตแต่ช่วงระยะเวลาของการเปิดตัวมีแฟนคลับของทั้งคู่มารอให้กำลังใจและมาร่วม
แสดงความยินดีเป็นจำนวนไม่น้อยแต่ทว่าทั้งคู่ก็ไม่ได้เจอแฟนคลับอยู่ดีเพราะงานเปิดตัวครั้งนี้เป็นงานปิดซึ่งคน
ตัวยุ่งยังมีมินิคอนตอนบ่ายยังได้มีโอกาสเจอบรรดาแฟนคลับแต่คนตัวพ่อนี่ซิต้องรีบกลับทำให้ยังไม่ได้เจอแฟน
คลับเลยแถมยังกลับไปทางประตูด้านหลังของห้องเปิดออกไปยังลานจอดรถทำให้บรรดาแฟนคลับของคนตัวพ่อ
ต้องวิ่งตามเพื่อไปส่งและให้ได้เห็นหน้าคนที่พวกเขามาให้กำลังใจก็ยังดี แต่อาจจะตามไปบ้างส่วนเท่านั่นทำให้
คนตัวพ่อเห็นว่าแฟนคลับของตนมาน้อยแต่ก็ดันไปเห็นรูปถ่ายของแฟนคลับที่รวมตัวถ่ายรูปกันทำให้รู้ว่ากลุ่ม
แฟนคลับของเขามามากน้อยเพียงใดทำให้เขาถึงกลับจิตตกและนอยด์ขึ้นมาทันทีจึงรีบขอโทษบรรดาแฟนคลับ
ทันทีโดยผ่านทาง Facebook
คนที่เดินทางกลับไปก่อนรู้สึกว่าก่อนหน้าที่จะมางานเปิดตัวพรีเซนเตอร์ยังต้องถ่ายละครอยู่เลยทำให้
บรรดาแฟนคลับคิดว่าคงรีบกลับไปถ่ายละครเป็นแน่แต่หารู้ไม่คนตัวพ่อที่มีกุญแจคอนโดของคนตัวยุ่งซึ่งไม่รู้ว่ารู้
ที่ซ่อนของกุญแจหรือไปขอมาจากพี่ชายคนโตนั่นเองเขาเข้ามานอนคิดโน่นคิดนี่หลังจากที่ขอโทษไปแล้วก็ตาม
เขาไม่เคยจะนอนหลับเพราะในหัวสมองคิดวิตกกังวลมากมายกลัวแฟนคลับไม่รักกลัวแฟนคลับน้อยใจกลัวแฟน
คลับไปน้อยเพราะพรุ่งนี้เขาเองก็มีมินิคอนที่งานเช่นกัน นี่ก็ตกเย็นแล้วที่ตัวพ่อยังคงนอนกระสับกระส่ายจิตตกอยู่
อย่างนั่นจนกระทั่งเจ้าของห้องกลับมาถึง
บรรดาแฟนคลับคิดว่าคงรีบกลับไปถ่ายละครเป็นแน่แต่หารู้ไม่คนตัวพ่อที่มีกุญแจคอนโดของคนตัวยุ่งซึ่งไม่รู้ว่ารู้
ที่ซ่อนของกุญแจหรือไปขอมาจากพี่ชายคนโตนั่นเองเขาเข้ามานอนคิดโน่นคิดนี่หลังจากที่ขอโทษไปแล้วก็ตาม
เขาไม่เคยจะนอนหลับเพราะในหัวสมองคิดวิตกกังวลมากมายกลัวแฟนคลับไม่รักกลัวแฟนคลับน้อยใจกลัวแฟน
คลับไปน้อยเพราะพรุ่งนี้เขาเองก็มีมินิคอนที่งานเช่นกัน นี่ก็ตกเย็นแล้วที่ตัวพ่อยังคงนอนกระสับกระส่ายจิตตกอยู่
อย่างนั่นจนกระทั่งเจ้าของห้องกลับมาถึง
“เฮ้ย” คนตัวยุ่งตกใจเมื่อมือบิดลูกบิดเพื่อเปิดห้องแต่ไม่ดันไม่ได้ล็อคเขาคิดว่าเขาลืมล็อคห้องเพราะพี่ชายคนโต
ก็ถ่ายละครอยู่คงยังไม่กลับมา
ก็ถ่ายละครอยู่คงยังไม่กลับมา
“เฮ้ย ! กัน” คนตัวยุ่งตกใจยิ่งกว่าเดิมเพราะเห็นคนตัวพ่อนอนหลับตาอยู่ที่โซฟาถึงแม้จะตกใจว่าเขาเข้ามาได้ยัง
ไงแต่ก็วางกระเป๋าใบโปรดลงและคุกเข่านั่งลงกับพื้น
ไงแต่ก็วางกระเป๋าใบโปรดลงและคุกเข่านั่งลงกับพื้น
“กันเหนื่อยหรอ ไม่สบายหรอ” ริทใช้มือไล้ไปที่ใบหน้าคมของกันพร้อมกับเอ่ยถาม
“ไม่เหนื่อยหรอกแต่ไม่สบายใจมากกว่า”กันจับมือเล็กๆของริทไว้ที่หน้าอกพร้อมกับตอบคำถามทั้งๆที่หลับตาอยู่
“แต่ริทเห็นกันอัพเฟสขอโทษแฟนคลับแล้วนี่” ริทพูดปลอบเพราะเขาเองก็เห็นสถานะล่าสุดเฟสของกันเช่นกัน
“แต่ก็ยังไม่สบายใจอ่ะ”กันยังคงตอบทั้งที่หลับตา
“กันพักผ่อนมั้ยเผื่อมันจะดีขึ้นนะอย่าคิดมากเลย” ริทปลอบเพราะรู้ว่าอาการของคนตรงหน้ายังไม่ดีขึ้น
“กันเสียใจกันไม่อยากให้มันเกิดขึ้นเลยจริงๆนะริท” กันลืมตาขึ้นพร้อมกับลุกนั่งและระบายให้ริทฟัง
“กัน...ริทบอกแล้วไงอย่าเพิ่งคิดมากเลย”ริทยังคงปลอบเช่นเดิม
“แต่กันรักพวกเขามาก กันไม่อยากให้เขาเสียใจ” กันยังมีอาการจิตตกแต่ก็มิวายรั้งตัวของริทขึ้นมานั่งข้างๆ
“แต่ริทคิดว่าถ้าแฟนคลับกันรู้ว่ากันเป็นอย่างนี้เขาเองก็ไม่สบายใจเหมือนกันนะ”ริทยังคงปลอบ
“ริท...ว่ากันคงเหนื่อยจากงานมาเยอะพักผ่อนมั้ยจะได้เลิกคิดมากมันจะได้ดีขึ้น”ริทพูดพร้อมกับมองใบหน้าของ
คนตรงหน้าที่ดูอิดโรยและออกอาการได้อย่างชัดเจนว่าเหนื่อย
คนตรงหน้าที่ดูอิดโรยและออกอาการได้อย่างชัดเจนว่าเหนื่อย
“กันอยากคุยกับริทก่อน”กันตอบก่อนที่ดึงตัวริทเข้ามากอด
“แต่กันดูอิดโรยดูเหนื่อยมากเลยนะ”ริทท้วงอาการดื้อของกัน
“พักผ่อนก่อนนะเดี๋ยวจะป่วยริทไม่อยากเห็นกันป่วย” ริทหว่านล้อมเพื่อให้กันพักผ่อนเพราะสภาพของคนตรงหน้า
มันจะต้องได้รับการพักผ่อนก่อนที่มันจะทรุดไปมากกว่านี้และอีกอย่างที่อยากให้คนตรงหน้าไปพักผ่อนก็คือจะได้
เลิกจิตตกให้หลับไปพร้อมกับความเครียดตื่นขึ้นมาจะได้ไม่เก็บมันมาคิดอีก
มันจะต้องได้รับการพักผ่อนก่อนที่มันจะทรุดไปมากกว่านี้และอีกอย่างที่อยากให้คนตรงหน้าไปพักผ่อนก็คือจะได้
เลิกจิตตกให้หลับไปพร้อมกับความเครียดตื่นขึ้นมาจะได้ไม่เก็บมันมาคิดอีก
“ก็ได้ๆพักผ่อนก็ได้” กันตอบก่อนที่จะเดินเข้าไปนอนที่ห้องนอนริทห้องนอนเดิมที่เคยนอน
หลังจากที่คนตัวยุ่งไล่ให้คนตัวพ่อไปนอนพักผ่อนได้สำเร็จก็จัดการทำภารกิจส่วนตัวจนเรียบร้อยก่อนที่จะ
ออกไปหาซื้ออะไรมากินกับคนที่กำลังนอนหลับอยู่ในขณะนี้จนกระทั่งคนตัวยุ่งกลับมาจากข้างนอกแล้วคนตัวพ่อก็
ยังไม่ตื่นคนตัวยุ่งต้องเดินเข้าไปปลุกเพราะตอนี้ก็ค่ำๆแล้วแต่เมื่อเห็นคนที่กำลังนอนหลับอยู่หายใจอย่าง
สม่ำเสอก็รู้ได้ทันทีว่าอย่าเพิ่งปลุกเสียดีกว่าเพราะคงอดนอนเหนื่อยมาจากการงานที่เยอะจนล้นตัว
ออกไปหาซื้ออะไรมากินกับคนที่กำลังนอนหลับอยู่ในขณะนี้จนกระทั่งคนตัวยุ่งกลับมาจากข้างนอกแล้วคนตัวพ่อก็
ยังไม่ตื่นคนตัวยุ่งต้องเดินเข้าไปปลุกเพราะตอนี้ก็ค่ำๆแล้วแต่เมื่อเห็นคนที่กำลังนอนหลับอยู่หายใจอย่าง
สม่ำเสอก็รู้ได้ทันทีว่าอย่าเพิ่งปลุกเสียดีกว่าเพราะคงอดนอนเหนื่อยมาจากการงานที่เยอะจนล้นตัว
นี่หรอที่บอกว่าอยากคุยกับเราก่อนไม่ยอมนอนพักแต่หลับสนิทเลยนี่นะคนตัวยุ่งคิดในใจ
คนตัวยุ่งถือวิสาสะดูสมุดคิวของคนที่กำลังหลับถึงกลับตกใจ
“ ห๊ะพรุ่งนี้ถ่ายละคร4ซีนแล้วต่อด้วยมินิคอนที่อิมแพค” ริทพูดออกมาพร้อมกับหันไปมองคนที่กำลังนอนหลับ
“โห้ คิวงานยามเยียดเลยหนักไปมั้ยเนี่ยไอ้ตัวพ่อ”ริทเปิดดูคิวงานต่อพร้อมกับมองด้วยความเป็นห่วง
“ไอ้ตัวพ่อเอ้ย หนักไปแล้วนะงานอ่ะเยอะเกินตัวแล้วจะเอาเวลาที่ไหนไปพักผ่อนเนี่ย” ริทนั่งมองคนที่กำลังนอน
หลับสนิทก่อนที่พูดขึ้นด้วยความเป็นห่วง
หลับสนิทก่อนที่พูดขึ้นด้วยความเป็นห่วง
“ว่าแต่เขา เราก็เหมือนกันนะไอ้เตี้ย” เสียงของกันที่เอ่ยขึ้นแต่ตาก็ยังคงหลับ
“ริทมาทำให้กันตื่นป่ะเนี่ยขอโทษนะ...ไอ้ดำ!”ริทล้อเลียนบ้างพร้อมกับค้อนไปชุดใหญ่คนอุสาห์เป็นห่วงกากใส่อีก
สงสัยจะดีขึ้นแล้วมั่งกากได้เนี่ย
สงสัยจะดีขึ้นแล้วมั่งกากได้เนี่ย
“ริทไมมาเรียกกันอย่างงี้เนี่ย”กันลุกขึ้นนั่งก่อนจะพูดพร้อมกับทำหน้าตาเย๋เก
“ก็คุณมึงมาเรียกไอ้เตี้ยก่อนไมอ่ะ”ริทพูดอย่างเชิดๆ
“ก็อยากมาแอบดูคิวงานของกันก่อนทำไมอ่ะ” กันสวนไปทันที
“นี่กันตื่นแล้วหรอนึกว่าหลับอยูซะอีก” ริทพูดด้วยน้ำเสียงที่เบาลงเพราะเขาผิดจริงที่ถือวิสาสะดูคิวงานของคน
อื่น
อื่น
“ตื่นตั้งแต่ได้ยินเสียงก๊อกแก๊กข้างหูแล้ว” กันตอบ
“เออ..งั้นกูขอโทษ” ริทพูดก่อนที่จะเดินออกจากห้องแต่ก็ไม่เร็วพอทำให้กันดึงตัวริทเข้ามากอดไว้จากข้างหลัง
“โกรธหรอ...กันขอโทษครับ”กันถามพร้อมกับกดจมูกลงไปที่แก้มของริททันที
“เปล่า...แต่ริทเป็นห่วงกันจริงๆนะงานเยอะไปมั้ย” ริทพูดด้วยความเป็นห่วง
“ส่วนใหญ่ก็ถ่ายละครนะช่วงนี้เร่งถ่ายน่ะ”กันอธิบาย
“แต่ก็เห็นมีงานอีเว้นท์ต่างๆด้วยนิ” ริทหันไปประจันหน้ากับกันพร้อมกับเอ่ยถาม
“อย่าว่าแต่กันเลยริทก็เหมือนกันงานเยอะใช่ย่อย” กันพูดพร้อมกับใช้หน้าผากแตะหน้าผากของคนในอ้อมกอด
“แต่ริทเป็นห่วงกันนะ”ริทพูด
“ครับ...กันรู้ครับว่าริทเป็นห่วงกันแต่อย่าลืมเป็นห่วงตัวเองด้วยนะ”กันพูดจบก็ใช้ริมฝีปากหนาของตนแตะไปที่ริม
ฝีปากบางของริท
ฝีปากบางของริท
“เอ้ย...กันอ่ะ” ริทเขินพร้อมกับตีไปที่แขนของกันทันที
“อะไร...ตีกันไมนิทำอย่างกับไม่เคยนั่นแหละ” กันพูดปนอมยิ้มจนแก้มบุ๋มลึกลงไปได้อย่างชัดเจนพร้อมกับจับมือ
ริทข้างที่ตีตัวเองไว้และใช้มืออีกข้างบีบจมูกของริทเบาๆ
ริทข้างที่ตีตัวเองไว้และใช้มืออีกข้างบีบจมูกของริทเบาๆ
“โอ๊ย ...กันชอบแกล้งริทอ่ะ” ริทเงยหน้าจากความเขินขึ้นมาประจันอีกครั้ง
“ก็อยากน่ารักทำไมเล่า” กันพูดจบก็กอดริทไว้แน่น
“อย่าลืมดูแลตัวเองนะริท เป็นห่วงตัวเองไม่ต้องมาห่วงกันหรอกครับ” กันยังคงย้ำด้วยความเป็นห่วง
“ไมชอบย้ำให้ริทดูแลตัวเองจัง”ริทถามด้วยความสงสัย
“ก็กันไม่มีเวลาดูแลนี่ครับ” กันอธิบาย
“นึกว่าที่ให้ริทเป็นห่วงตัวเองเพราะกันไม่เป็นห่วงซะอีก”ริทพูดอย่างน้อยใจนิดๆ
“ริทครับ...กันเป็นห่วงริทนะแต่กันไม่มีเวลามาดูแลอย่างที่บอกไง” กันอธิบายอีกครั้ง
“โอเคๆ...ริทเชื่อแล้วครับเพราะดูจากตารางงานแล้วคงมาดูแลริทได้ยาก”ริทพูดพร้อมกับทำท่าทางยียวน
“ยังมาทะเล้นอีกที่เข้ามานี่จะมาปลุกใช่มั้ย” กันถามจุดประสงค์หลักที่ริทเดินเข้ามาในห้องหลังจากที่คุยนอกเรื่อง
มานาน
มานาน
“จะมาปลุกไปกินข้าว”ริทตอบ
“ริทขอถามอีกคำถามนึงก่อนไปกินข้าวริทโกรธมั้ยที่กันไม่มีเวลามาดูแลริทเลย” กันถามริทด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง
“ไม่โกรธหรอกครับ....ดูแลตัวไม่ได้ก็ดูแลหัวใจของริทให้ดีๆก็แล้วกัน”ประโยคแรกตอบเสียงดังฟังชัดแต่ประโยค
หลังที่ตามมาเบาเสียจนคนฟังแทบจะไม่ได้ยิน
หลังที่ตามมาเบาเสียจนคนฟังแทบจะไม่ได้ยิน
“อะไรนะไม่ได้ยินเลยประโยคหลังอ่ะ”กันแกล้งทำเป็นไม่ได้ยินเพิ่อที่จะฟังมันอีกครั้ง
“ป๊าว ไปกินข้าวเถอะหิวแล้ว” ริทแกล้งทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้นและรีบเปลี่ยนทันที
“บอกมาก่อนอย่ามาเปลี่ยนเรื่องนะ” กันรั้งตัวที่กำลังจะหนีออกจากห้องไว้โดยการกอดและจี้เอว
“ไม่เล่นนะกัน กัน กัน ไม่เล่น” ริทดิ้นขลุกในอ้อมกอดเพราะตอนนี้ถูกคนจี้เอวอย่างสนุกสนาน
“บอกมาก่อนดิเมื่อกี้พูดว่าไร” กันหยุดจี้เอวและตั้งใจถาม
“..................”ริทยังนิ่งเงียบ
“ริท” กันใช้หน้าผากตัวเองแตะที่ตัวผากคนในอ้อมกอดอีกครั้งพร้อมเรียกชื่อด้วยเสียงดุ
“โอ๊ย....กัน” ริทตกใจพร้อมกับใช้มือแตะที่ริมฝีปากตัวเองเพราะจู่ๆกันก็ก้มมากัดที่ริทฝากปากล่างของริท
“จะบอกไม่บอกงั้นโดนมากกว่านี้นะ” กันแกล้งแกมบังคับโดยการกะชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นและกำลังก้มหน้าไป
ใกล้ๆ
ใกล้ๆ
“โอเคๆ...บอกแล้วๆ”ริทกลัวจะมีอะไรที่มากกว่านี้ตามมาเลยจึงยอมแต่โดยดี
“ริทบอกว่า ...ดูแลตัวไม่ได้ก็ดูแลหัวใจของริทให้ดีๆก็แล้วกัน” ประโยคหลังริทเน้นที่ละคำอย่างชัดเจน
“เรื่องนั่นไม่ต้องห่วงนะกันยอมดูแลทั้งชีวิตเลย”กันพูดอย่างอ้อนๆ
“ก่อนจะมาดูแลคนอื่นทั้งชีวิตอ่ะตอนนี้ไปกินข้าวก่อนมั้ยดึกแล้วนะกันจะได้รีบกลับไปพักผ่อนพรุ่งนี้มีงานเยอะนี่”
ริทท้วงพร้อมกับพาคนขี้อ้อนไปกินข้าว
ริทท้วงพร้อมกับพาคนขี้อ้อนไปกินข้าว
“ริทครับ” กันเรียกคนตัวยุ่งที่นั่งอยู่ข้างๆที่โต๊ะอาหาร
“ครับ” ริทขานรับ
“มานั่งนี่”กันพูดพร้อมกับรั้งตัวริทขึ้นมานั่งตักตัวเอง
“เฮ้ย...กันเล่นไรเนี่ยกินข้าว”ริทท้วงพร้อมกับตกใจแต่ก็ยอมมานั่งแต่โดยดี
จะท้วงทำไมเนี่ยริทท้วงไปก็พ้นสายตาอ้อนของคนตรงหน้าอยู่ดี
“อ่ะ...ช้อน” กันหยิบช้อนที่จานข้าวของผมมายื่นให้
“ทำไร..งง” ริทถาม
“ก็กินข้าวไง...หรือจะกินช้อนคันเดียวกัน” กันถามด้วยหน้าตายียวน
“กินข้าวจานเดียวกันนี่แหละ” กันพูดก่อนที่กระชับอ้อมเข้ามาและรั้งร่างของริทให้นั่งตักเขาอย่างเต็มตัก
“กันเล่นไรเนี่ย นั่งกินข้าวดีๆไม่ได้ไงเนี่ย” ริทถามด้วยความสงสัย
“ก็ริทจะไปฝรั่งเศสแล้วอ่ะตั้งอาทิตย์นึงแน่ะคิดถึงตายเลย” กันพูดพร้อมกับหอมแก้มริทและตักข้าวเข้าปาก
“เอ้า...กินข้าวถนัดมั้ยเนี่ย”ริทหันมามองหน้ากันอย่างงงๆเพราะกันก็ทำได้เนอะนั่งกอดเขาไว้แล้วก็กินข้าวไปด้วย
เนี่ย
เนี่ย
“กินข้าวดิ....บอกให้คนอื่นกินแต่ตัวเองไม่ยอมกิน” กันสั่ง
“โอ๊ย” ริทร้องด้วยความตกใจเพราะกันตีที่มือของเขาที่เขากำลังจะเอื้อมไปหยิบจานข้าวของเขามา
“กินจานนี้”กันชี้ที่จานข้าวของเขาและก็ก้มหน้าก้มตากินข้าวต่อ
“อ่ะ...กิน” กันจ่อช้อนที่เต็มไปด้วยข้าวพร้อมกับข้าวที่ปากของผม
“ห๊ะ....กินเองดะ...”เสียงที่กำลังจะเถียงหายไปเพราะกันดันช้อนเข้าปากผมทันที
“ริทกินข้าวให้หมดนะ กันอิ่มแหละ” กันออกคำสั่งพร้อมกับวางช้อนแล้วนั่งกอดผมไว้
“เอ้า”ริทงงกับกริยาของกันที่เป็นอยู่
“โอ๊ย...ริทเล่นไรเนี่ย” กันตกลงใจและเอ่ยถามเมื่อริทกัดมาที่ต้นแขน
“กินข้าวอยู่ไม่ต้องกอดแน่น...จุก” ริทตอบเพราะกันกำลังนั่งกอดเขาแน่นจนแทบหายใจไม่ออก
“อิ่มยัง?” กันถามคนที่กำลังเคี้ยวข้าวอยู่
“สั่งให้เขากินให้หมดแล้วมาถามอีกว่าอิ่มยัง...บ้าป่ะเนี่ย”ริทต่อว่ากัน
“พอๆๆไม่ต้องกินแล้ว”กันจับช้อนที่ริทกำลังจะตักข้าวเข้าปากวางลงและดึงตัวริทให้ลุกจากหน้าตักพร้อมกับลาก
ริทมานั่งที่โซฟา
ริทมานั่งที่โซฟา
“กัน...ริทงงมากกันเป็นไรเนี่ยตามไม่ถูกแล้วนะ”ริทถามด้วยความสงสัย
“ก็กันอยากอยู่กับริทนานๆ”กันพูดจบก็นอนหนุนตักริททันที
“วันอาทิตย์นี้ริทไปฝรั่งแล้ว กันคิดถึงแย่เลย” กันพูดพร้อมกับจับมือริทมาวางไว้ที่หน้าอก
“ก็โทรมาคุยซิ”ริทเสนอแนะ
“กอดหน่อยนะ”กันลุกขึ้นทันทีพร้อมกับนั่งกอดริทไว้
“กอดแน่นๆเลยนะเดี๋ยวจะไม่ได้กอดอีกตั้งอาทิตย์” ริทแกล้งแย่กันเล่น
“ยังมาตอกย้ำอีกนะคิดถึงนะเนี่ย”กันพูดพร้อมกับกอดแน่นจากเดิมมาก
“กันอยากได้อะไรมั้ย...เดี๋ยวริทซื้อมาฝาก” ริทถาม
“ไม่อยากได้อะไรเลย...แค่คิดถึงกันก็พอแล้ว” กันตอบ
“ครับ...ริทจะคิดถึงกันทุกวันเลยกันก็ต้องคิดถึงริทด้วยนะ”ริทตอบอย่างอ้อนๆ
“คิดถึงอยู่แล้วขนาดนั่งกอดอยู่ตรงนี้ยังคิดถึงเลย”กันก็อ้อนกลับไปเช่นกัน
“กันดึกแล้วนะกลับบ้านไปพักผ่อนเถอะพรุ่งนี้ทำงานอีกเยอะ”ริทที่เงยหน้าไปมองนาฬิกาเอ่ยขึ้น
“รออีกแป๊บนะครับคุณอายังไม่โทรมาเลย”กันบอกกับริทเพราะก่อนหน้านี้เขาโทรบอกคุณอาเอาไว้แล้วว่าถ้าใกล้
ถึงตึกแล้วให้โทรบอกเขา
ถึงตึกแล้วให้โทรบอกเขา
“กัน” ริทเรียกกันที่กำลังเดินไปหยิบกระเป๋าของตัวเองที่อยู่ในห้องนอนที่เผลอถือติดไปตอนไปนอนพักผ่อน
“ครับผม”กันเดินมากอด
“รักกันนะ”ริทบอกรักกัน
“กันก็รักริทเหมือนกันครับ”กันก็บอกรักริทเช่นกัน
“ริทไปอยู่ที่โน้นอากาศเย็นๆห่มผ้าหนาๆนะ”กันบอกด้วยความเป็นห่วง
“ครับ...ริทจะคิดว่ากันกอดริทอยู่แล้วกันนะครับ”ริทใช้หน้าผากแต่ที่หน้าผากของกันแล้วทำหน้าอ้อนๆ
“ครับ”คำตอบของกันเพียงคำเดียวคำสั้นๆแต่คนสองยังอยู่อย่างนั่นเป็นเวลานานเพราะคนตัวพ่อบรรจงแตะริม
ฝีปากของตนไปที่ ริมฝีปากของริทก่อนที่จะเพิ่มความอบอุ่นขึ้นไปเรื่อยๆจนกลายเป็นการแลกความหวานในโพรง
ปากเสียแทนจากมือทั้งสองข้างของคนตัวยุ่งปล่อยนิ่งเฉยกลับกลายมาโอบรอบคอของคนตัวพ่อการแลกเปลี่ยน
ความหวานครั้งนี้นานพอสมควรอาจจะเป็นกักเก็บความหวานและความอบอุ่นให้มากถึงมากที่สุดก็เป็นได้
ฝีปากของตนไปที่ ริมฝีปากของริทก่อนที่จะเพิ่มความอบอุ่นขึ้นไปเรื่อยๆจนกลายเป็นการแลกความหวานในโพรง
ปากเสียแทนจากมือทั้งสองข้างของคนตัวยุ่งปล่อยนิ่งเฉยกลับกลายมาโอบรอบคอของคนตัวพ่อการแลกเปลี่ยน
ความหวานครั้งนี้นานพอสมควรอาจจะเป็นกักเก็บความหวานและความอบอุ่นให้มากถึงมากที่สุดก็เป็นได้
“กันครับ”ริทเรียกกันหลังจากที่ถอนริมฝีปากออกมา
“ว่า...?” กันเลิกคิ้วเชิงถามด้วยความสงสัย
“อย่าไปทำแบบนี้กับใครนะ”ริทบอก
“จะให้กันไปทำกับใครได้ล่ะครับในเมื่อกันมีคนๆนี้คนเดียวก็ต้องทำกับคนนี้คนเดียวซิ”กันตอบพร้อมกับไปหอม
แก้มไปอีกครั้ง
แก้มไปอีกครั้ง
“สัญญาแล้วนะ”ริทพูดพร้อมกับรอยยิ้มที่แสนจะมีความสุข
“ครับ”กันตอบขึ้นมาพร้อมกับเสียงโทรศัพท์ของเขาที่ดังขึ้นเพื่อบ่งบอกว่าถึงเวลาที่เขาจะต้องกลับบ้านเสียแล้ว
“พักผ่อนเยอะๆนะครับ”ริทพูดเมื่อกันวางสายจากคุณอา
“ครับ”กันตอบพร้อมกับส่งยิ้มให้ก่อนที่เดินออกจากห้อง
“กัน..เดี๋ยว”ริทเรียกกันไว้ก่อนที่ริทจะยกปลายเท้าเล็กน้อยเพื่อขะเย่งไปหอมแก้มกันเสียเอง
“ไปแล้วครับ”กันพูดพร้อมกับส่งยิ้มให้ ริทเองก็ส่งยิ้มหวานให้ก่อนจะปิดประตูห้อง
วันนี้เขาเองก็โดนเอาเปรียบโดยการหอมแก้มการกอดและจูบไปมากเหมือนกันแต่เขาก็ยินดีเพราะทุกอย่างมันเกิด
จากความรักทั้งหมดที่เขาให้มีกันและกันเสมอ
จากความรักทั้งหมดที่เขาให้มีกันและกันเสมอ
..............................................................................................................................................................
Writer Talk
SF สั้นๆเผื่อจะหายคิดถึงริทบ้างนะคะไรเตอร์เพ้ออ่ะ ทั้งหมดทั้งมวลจินตนาการล้วนๆ
ระวังน้ำตาลในเลือดจะขึ้นสูงนะคะ ^^
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น