ลำดับตอนที่ #26
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #26 : SF อาจเคยเป็นคนไม่ดี 5
อาจเคยเป็นคนไม่ดี 5
เช้าวันรุ่งขึ้นทุกอย่างเป็นเหมือนเดิมผู้จัดการคนนี้นั่งรถแท็กซี่มาหานักร้องดังที่คอนโดเพื่อที่ขับรถแทนกัน
เพื่อไปทำงานและวันนี้ก็คงเหมือนเดิมที่จะหอบตะกร้าใบโตที่มีอาหารเช้าแสนอร่อยมาด้วยแต่ไม่ทันที่ริทจะเดิน
เข้าไปในคอนโดก็ถูกคนที่ตัวเองมาดูแลเรียก
เพื่อไปทำงานและวันนี้ก็คงเหมือนเดิมที่จะหอบตะกร้าใบโตที่มีอาหารเช้าแสนอร่อยมาด้วยแต่ไม่ทันที่ริทจะเดิน
เข้าไปในคอนโดก็ถูกคนที่ตัวเองมาดูแลเรียก
“ขึ้นรถเลย” กันเลื่อนกระจกลงมาพร้อมกับตะโกนเรียกริทผู้จัดการของเค้า
“อ้าว! แล้ววันนี้ทำไมขับรถเองอ่ะ” ริทเอ่ยถามพร้อมกับเปิดประตูเข้าไปในรถ
“พอดีนึกได้ว่าเดี๋ยวริทจะล้าน่ะ วันนี้เลยจะขับเอง” กันบอกก่อนที่จะออกรถทันที
“แล้วกินอะไรหรือยัง วันนี้มีข้าวต้มด้วยนะ” ริทบอก
“เรียบร้อยแล้วครับ ขอบคุณครับ” กันบอกพร้อมกับเอ่ยขอบคุณ
“วันนี้กันเป็นอะไรหรือเปล่า” ริทที่เริ่มรู้สึกว่ากันแปลกๆไปเลยถามออกไป
“เปล่านี่ครับ พอดีว่าวันนี้มีงานเช้ามากผมตื่นตั้งนานแล้วเลยหาอะไรกินไปก่อนระหว่างรอคุณมาน่ะ” กันอธิบาย
“งั้นเก็บไว้ตอนกลางวันก็แล้วกัน” ริทบอกก่อนที่จะเอื้อมเอาตะกร้าใบประจำไปวางไว้ที่เบาะหลังรถ
ตลอดครึ่งวันที่ผ่านมากันเองทำงานอย่างเต็มที่ยิ้มแย้มแจ่มใสกับบรรดาแฟนคลับแต่เวลามาพักข้างเวทีหรือ
เจอหน้าริทรอยยิ้มบนใบหน้าของกันจะหายไปบ้างทำให้ริทเริ่มรู้สึกไม่ดี อยากถามว่าเค้าทำผิดอะไรหรือเปล่าแต่ก็
ไม่กล้าจึงตัดสินใจว่าจะลองคุยเย็นนี้ ปล่อยให้ทำงานให้เสร็จเรียบร้อยเสียก่อน งานช่วงเย็นจัดขึ้นในห้างสรรพ
สินค้าในช่วงเวลาที่กันกำลังแต่ตัวอยู่ ริทแอบไปซื้ออาหารเย็นมาอย่างมากมายเพราะตั้งใจว่าวันนี้จะกินอาหาร
เย็นที่คอนโดของกันเพื่อจะคุยเรื่องที่เกิดขึ้น
เจอหน้าริทรอยยิ้มบนใบหน้าของกันจะหายไปบ้างทำให้ริทเริ่มรู้สึกไม่ดี อยากถามว่าเค้าทำผิดอะไรหรือเปล่าแต่ก็
ไม่กล้าจึงตัดสินใจว่าจะลองคุยเย็นนี้ ปล่อยให้ทำงานให้เสร็จเรียบร้อยเสียก่อน งานช่วงเย็นจัดขึ้นในห้างสรรพ
สินค้าในช่วงเวลาที่กันกำลังแต่ตัวอยู่ ริทแอบไปซื้ออาหารเย็นมาอย่างมากมายเพราะตั้งใจว่าวันนี้จะกินอาหาร
เย็นที่คอนโดของกันเพื่อจะคุยเรื่องที่เกิดขึ้น
“กันเย็นนี้ริทขอคุยด้วยหน่อยนะ” ริทบอกระหว่างที่กันเก็บของเตรียมตัวกลับบ้านเมื่องานจบลง
“ได้ซิ” กันตอบงก่อนที่จะเดินอกไปแต่ด้วยความที่มีมหาชนมาเยอะแยะมากมายทำให้กันเดินผ่าน
จุดตรงนั้นไปได้ยากทำให้โดนรุม พยายามยามจะดึงแต่กันเองก็มีกราดที่คอยดูแลอยู่บ้างแต่ก็ยังมาสามารถออกมา
จากตรงนั้นได้เลยจึงทำให้ที่เห็นท่าไม่ดีจึงเดินเข้าไปช่วยอีกแรง
จุดตรงนั้นไปได้ยากทำให้โดนรุม พยายามยามจะดึงแต่กันเองก็มีกราดที่คอยดูแลอยู่บ้างแต่ก็ยังมาสามารถออกมา
จากตรงนั้นได้เลยจึงทำให้ที่เห็นท่าไม่ดีจึงเดินเข้าไปช่วยอีกแรง
“ขอโทษนะครับๆ ขอโทษนะครับ พอดีกันต้องรีบกลับนะครับ” ริทเข้าไปดึงแขนของกันให้เดินตามตัวเองมาทำให้
แขนของริทไปขูดกับนาฬืกาของบรรดามหาชนที่มาชื่นชอบนักร้องดังคนนี้แต่เจ้าตัวก็ยังไม่รู้สึกอะไรเพราะคิด
อย่างเดียวว่าจะพานักร้องคนนี้ออกจากตรงนั้นให้ได้ก่อน
แขนของริทไปขูดกับนาฬืกาของบรรดามหาชนที่มาชื่นชอบนักร้องดังคนนี้แต่เจ้าตัวก็ยังไม่รู้สึกอะไรเพราะคิด
อย่างเดียวว่าจะพานักร้องคนนี้ออกจากตรงนั้นให้ได้ก่อน
“กันไม่เป็นอะไรใช่มั้ย” ริทเอ่ยถาม
“ครับ แล้วริทล่ะ” กันเองก็ถามกลับไป
“ไม่ได้เป็นอะไรเหมือนกัน” ริทตอบ
“บอกว่ามีเรื่องจะคุยด้วย งั้นเดี๋ยวไปหาซื้ออะไรไปกินก่อนดีมั้ย” กัยเอ่ยถาม
“ไม่ต้องแล้ว ริทซื้อมาเรียบร้อยแล้ว” ริทบอก
“งั้นกลับกันเลยดีกว่า” กันบอกก่อนที่จะกดรีโมตรถยนต์
ขากลับกันก็เป็นคนขับรถกลับเหมือนเดิมแต่บรรยากาศภายในรถก็ยังเงียบ ดูไม่เหมือนสองวันก่อนที่ผ่านมา
“มีอะไรจะคุยกับผมหรอ” กันเริ่มเอ่ยถามทันทีเมื่อถึงห้อง
“วันนี้ กันเป็นอะไร เงียบๆ” ริทเอ่ยถาม
“เปล่า ผมไม่ได้เป็นอะไร” กันตอบ
"แต่วันนี้กันไม่ค่อยคุยกับริท ริททำอะไรผิดหรอ โกรธอะไรก็บอกมาได้นะ”ริทเอ่ยถามในสิ่งที่ตัวเองอยากรู้ทันที
“คุณไม่ได้ทำอะไรผิดหรอกแล้วอีกอย่างผมเองก็ไม่มีสิทธิ์ไปโกรธคุณด้วย” กันหันมาตอบ
“กัน ถ้ากันจะโกรธเรื่องเมื่อคืนที่ริทว่ากัน ริทขอโทษนะก็กันมากวนประสารทริทก่อนทำไมล่ะ” ริทเอ่ยขอโทษ
เพราะคิดมาตลอดว่ากันโกรธเรื่องนี้ มันทำให้กันถึงกลับตกใจเพราะว่าตัวเองไม่ได้โกรธริทเลย ที่เงียบ ที่ไม่ค่อย
คุยกับริท ตัวเองก็ไม่กล้าเพราะเมื่อคืนกวนใส่ริทไปเยอะเหมือนกัน ตัวเองก็คิดว่าริทโกรธต่างหากและคิดว่าที่ดีกับ
เราเพราะหน้าที่ ทุกครั้งที่ยิ้มให้เวลามาเห็นหน้าริทต้องหุบยิ้มเพราะกลัวริทไม่ยิ้มตอบเลยต้องทำบึ้งตึงมาทั้งวัน
แต่ความจริงไม่ได้โกรธอะไรริทเลยสักนิด
เพราะคิดมาตลอดว่ากันโกรธเรื่องนี้ มันทำให้กันถึงกลับตกใจเพราะว่าตัวเองไม่ได้โกรธริทเลย ที่เงียบ ที่ไม่ค่อย
คุยกับริท ตัวเองก็ไม่กล้าเพราะเมื่อคืนกวนใส่ริทไปเยอะเหมือนกัน ตัวเองก็คิดว่าริทโกรธต่างหากและคิดว่าที่ดีกับ
เราเพราะหน้าที่ ทุกครั้งที่ยิ้มให้เวลามาเห็นหน้าริทต้องหุบยิ้มเพราะกลัวริทไม่ยิ้มตอบเลยต้องทำบึ้งตึงมาทั้งวัน
แต่ความจริงไม่ได้โกรธอะไรริทเลยสักนิด
นี่ริทคิดว่าเราโกรธหรอกหรอเนี่ย เราก็คิดว่าเค้าโกรธเราแต่ที่ทำดีกับเราเพราะหน้าที่
กันคิดในใจ
“ขอโทษนะ” ริทเอ่ยขอโทษอีกครั้ง
“จะมาขอโทษเราทำไม เราไม่ได้โกรธอะสักหน่อย” กันตอบ
“แล้วเป็นอะไรถึงดูแปลกๆไป” ริทเอ่ยถามอย่างสงสัย
“เอ่อ
หิวแล้วอ่ะ”กันเริ่มเปลี่ยนเรื่องและเดินไปที่โต๊ะอาหารทันที
“กินข้าวก่อนดีกว่าเดี๋ยวค่อยตอบนะ”กันบอกก่อนที่จะเดินเข้าไปในห้องครัวเพื่อหยิบภาชนะต่างๆ
“เดี๋ยวริทจัดการให้” ริทเดินมาแล้วรับภาชนะมาจากมือของกันเพื่อจัดแจงอาหารบนโต๊ะเอง
“งั้นเดี๋ยวกันไปเอาน้ำก็แล้วกัน” กันบอกก่อนจะเดินเข้าไปในครัวอีกครั้ง
“กันบอกไม่ได้หรอว่าเป็นอะไร” ริทเอ่ยถามอีกครั้ง
“ก็บอกแล้วไงเดี๋ยวจะบอกหลังจากินข้าวเสร็จ” กันอธิบาย
“แล้วทำไมริทถึงคิดว่ากันโกรธริทล่ะ”กันเอ่ยถามขณะที่เดินถือน้ำเย็นมาสองแก้ว
“ก็กันดูเงียบๆอ่ะ เราก็คิดว่าเราคงทำไรผิดแล้วก็คิดว่าเรื่องเมื่อคืนแน่ๆที่ริทต่อว่ากันอ่ะ” ริทอธิบายและในมือก็ทำ
จัดแจงเทอาหารลงจานแต่ทว่าซอสที่เป็นส่วนผสมหนึ่งของอาหารกระเด็นเลอะใบหน้าแต่ริทก็ใช้มือของตัวเอง
เช็ดบ้างแล้วแต่ไม่รู้ว่ามันยังไม่หมดทำให้กันแอบขำเมื่อเห็นใบหน้าของริท
จัดแจงเทอาหารลงจานแต่ทว่าซอสที่เป็นส่วนผสมหนึ่งของอาหารกระเด็นเลอะใบหน้าแต่ริทก็ใช้มือของตัวเอง
เช็ดบ้างแล้วแต่ไม่รู้ว่ามันยังไม่หมดทำให้กันแอบขำเมื่อเห็นใบหน้าของริท
“หะ หะ”เสียงของหัวเราะของกันดังขึ้น
“กันหัวเราะอะไร” ริทเห็นจึงเอ่ยถาม
“อยากรู้จริงๆหรอว่ากันเป็นอะไร”กันเอ่ยถามพร้อมกับเดินไปหยิบทิชชูและเดินไปยืนตรงหน้าของริททันที
“ก็ ก็อยากรู้”ริทที่เห็นกันเดินมาประชิดตัวก็ตอบอย่างตะกุกตะกักทันทีและหัวใจของตนดันเต้นแรงอีกครั้ง
“กัน
ไม่ได้โกรธริท ไม่เคยคิดที่จะโกรธด้วย”กันอธิบายไปพร้อมกับใช้ทิชชูเช็ดหน้าของริทอย่างเบามือ
“ละ แล้ว ปะ เป็น เป็นอะไร”ริทที่ยืนนิ่งไม่ไหวติงอะไรยิ่งพูดตะกุกตะกักเพราะกันกำลังจ้องหน้าริทอย่างประชิดตัว
“กลับมาคิดอีกทีกันก็ไม่มีสิทธิ์ไปสั่งริทอย่างนั้นเหมือนกันแล้วกันก็ไม่มีสิทธิ์โกรธริทด้วยเหมือนกัน”กันอธิบาย
พร้อมกับยังคงเช็ดหน้าของริทอยู่เหมือนเดิม
พร้อมกับยังคงเช็ดหน้าของริทอยู่เหมือนเดิม
“กันคิดว่าริทโกรธกันต่างหากและที่ยังมาทำดีกับกันเพราะมันเป็นหน้าทีเท่านั้น กันอธิบาย
“ขอโทษนะที่เอาแต่ใจ ออกคำสั่งให้ริททำโน้นทำนี่ ขอโทษจริงๆ” กันเอ่ยขอโทษ
“มะ ไม่เป็นไรครับ” ริทเอ่ยอย่างให้อภัยแต่ตอนี้กันยังยืนอยู่ที่เดิม ยืนจ้องหน้ามือยังเช็ดหน้าริทเหมือนเดิมจนริ
ทเริ่มรู้สึกว่าจะไม่ไหวกับหัวใจตัวเองเสียแล้ว
ทเริ่มรู้สึกว่าจะไม่ไหวกับหัวใจตัวเองเสียแล้ว
“ผะ ผมว่าคงหมดแล้วละครับ” ริททักท้วงพร้อมกับรีบหันหลังทันที
“ทานข้าวกันเถอะ” ริทรีบเปลี่ยนเรื่องก่อนที่ดึงเก้าอี้มานั่ง
“ครับ” กันขานรับก่อนที่จะเดินมานั่งเก้าอี้ของตัวเอง
“ที่นี่รู้แล้วใช่มั้ยว่ากันไม่ได้โกรธริท”กันบอก
“รู้แล้ว ริทเองก็ไม่ได้โกรธกันหรอกนะแต่บางครั้งอย่ากวนประสาทให้มันมากก็ได้นะ”ริทบอกก่อนที่แอบต่อว่ากัน
เล็กๆ
เล็กๆ
“ครับผมคุณผู้จัดการ” กันตอบกลับไปอย่างกวนๆ
“ถามอย่างซิ ริทชอบทำโน้นทำนี่มาให้กันกินทุกวันไม่เบื่อบ้างหรอ” กันเอ่ยถามอย่างสงสัย
“ไม่หรอก ริทมีความสุขนะ ริทเองยังอยากมีร้านอาหารเป็นของตัวเองเลย รู้สึกว่าเวลาที่ทำอะไรให้ใครกินหรือได้
ดูแลใครแล้วมันมีความสุข”ริทอธิบาย
ดูแลใครแล้วมันมีความสุข”ริทอธิบาย
“อ๋อๆ เข้าใจแระ” กันตอบ
“แล้วถามไปทำไมเนี่ย”ริทถามอย่างสงสัย
“เปล่าแค่อยากถามถึงเรื่องราวของริทไง” กันบอก
“งั้น กันช่วยเล่าเรื่องราวของกันให้ฟังบ้างซิ” ริทบอก
“ได้ๆซิ กันเรียนจบบริหาร พ่อแม่มีบริษัทเป็นของตัวเอง ชอบร้องเพลงเลยทำเพลงแล้วส่งเดโม่เพลงมาให้ที่ค่าย
ฟัง ทางค่ายสนใจเลยลองเรียกเข้ามาทำเพลงและตัวเองก็ไม่คิดว่าตัวเองจะได้รับความนิยมขนาดนี้เหมือนกัน
พ่อแม่เป็นคนเผด็จการ สั่งคำไหนต้องเป็นคำนั้นแต่ดีนะที่เรามาเป็นนักร้องก่อนไม่งั้นต้องไปบริหารงานที่บริษัท”
กันอธิบายเรื่องราวของตัวเองบ้าง
ฟัง ทางค่ายสนใจเลยลองเรียกเข้ามาทำเพลงและตัวเองก็ไม่คิดว่าตัวเองจะได้รับความนิยมขนาดนี้เหมือนกัน
พ่อแม่เป็นคนเผด็จการ สั่งคำไหนต้องเป็นคำนั้นแต่ดีนะที่เรามาเป็นนักร้องก่อนไม่งั้นต้องไปบริหารงานที่บริษัท”
กันอธิบายเรื่องราวของตัวเองบ้าง
“มิน่าล่ะ” ริทบ่นออกมาเบาๆ
“อะไร”กันถามเชิงดุๆ
“ก็เผด็จการไง”ริทตอบไปตรงๆ
“โฮ้ ริท งั้นไม่ต้องกินแล้ว” กันบอกก่อนที่จะยกจานข้าวของริทหนี
“เฮ้ย! กัน” ริทตกใจก่อนที่จะลุกขึ้นแย่งจานข้าวคืน
“ไม่ให้” กันบอกก่อนที่จะเดินหนี
“กัน จะกินข้าว เอาคืนมา”ริทบอกอีกครั้ง
“ไม่ให้” กันบอกเหมือนกันจะรู้ว่าริทจะต้องไปเอาจานของเค้าที่วางไว้แทนก็เลยรีบวิ่งไปเอาจานข้าวของตัวเองมา
ด้วยเพื่อดักทาง
ด้วยเพื่อดักทาง
“เอาคืนมา” ริทเริ่มดุ
“ไม่ให้” กันตอบกลับไป
“กัน
ไม่ให้ใช่มั้ย งั้นไปเอาใบใหม่ก็ได้” ริทบอกก่อนที่จะเดินไปที่ครัว กันเห็นจึงรีบวิ่งไปที่ครัวแล้วหยิบกุญแจที่
ห้อยเอาไว้ที่ตู้อยู่แล้วไขเพื่อล๊อคตู้ก่อนที่จะเก็บไว้ที่ตัวเอง
ห้อยเอาไว้ที่ตู้อยู่แล้วไขเพื่อล๊อคตู้ก่อนที่จะเก็บไว้ที่ตัวเอง
“กันไหนบอกว่าจะไม่กวนประสาทแล้วไง” ริมถามอย่างที่หน้าตาเหวี่ยงๆ
“ก็ริทมาว่ากันก่อนทำไม” กันบอก
“ก็แค่ล้อเล่นเอง”ริทบอก
“แต่กันโกรธจริงๆ”กันบอก
“ขอโทษ” ริทเอ่ยขอโทษ
“ไม่ให้อภัย”กันบอก
“งั้น ตามใจ ไม่กินแล้วข้าวอ่ะ กลับก็ได้” ริทเองที่เริ่มจะระอากับอาการเอาแต่ใจของกันเลยตัดสินใจจะกลับบ้าน
“เฮ้ยๆๆๆ ขอโทษๆๆล้อเล่นเฉยๆ” กันรีบบอกก่อนที่รีบวิ่งมาดักแต่ด้วยทว่ามี่มือถือจานข้าวอยู่และที่วิ่งด้วยความ
เร็วจึงทำให้ไม่ทันระวังตัวและทรงตัวไม่ได้จึงหยุดไม่ทันและพอดีกับจังหวะที่ริทหันตัวมาเพื่อจะเดินออกจากตรง
นั้นเมื่อหยิบของบนโต๊ะอาหารเสร็จแล้วจึงทำให้ร่างของกันล้มทับไปที่ร่างของริทที่ยืนอยู่ทำให้ร่างของริทช่วงบน
ราบไปกับโต๊ะอาหารและริมฝีปากหนาของกันประกบเข้ากับริมฝีปากของริททันทีแต่ด้วยความตกใจของทั้งคู่จึงทำ
ให้อยู่ในท่าทางอย่างนั้นสักพักจนเรียกสติคืนมาได้ริทจึงรีบผลักตัวกันออกทันที
เร็วจึงทำให้ไม่ทันระวังตัวและทรงตัวไม่ได้จึงหยุดไม่ทันและพอดีกับจังหวะที่ริทหันตัวมาเพื่อจะเดินออกจากตรง
นั้นเมื่อหยิบของบนโต๊ะอาหารเสร็จแล้วจึงทำให้ร่างของกันล้มทับไปที่ร่างของริทที่ยืนอยู่ทำให้ร่างของริทช่วงบน
ราบไปกับโต๊ะอาหารและริมฝีปากหนาของกันประกบเข้ากับริมฝีปากของริททันทีแต่ด้วยความตกใจของทั้งคู่จึงทำ
ให้อยู่ในท่าทางอย่างนั้นสักพักจนเรียกสติคืนมาได้ริทจึงรีบผลักตัวกันออกทันที
“เอ่อ
ขอโทษครับ”กันรีบเอ่ยขอโทษ
“งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ” ริทรีบบอกก่อนที่จะรีบออกจาห้องไปทันที
ในขณะที่นั่งรถกลับบ้านริทเผลอยกมือของตัวเองมาสัมผัสปากของตัวเองเบาๆพร้อมกับลอบยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว
บ่อยครั้ง
บ่อยครั้ง
ส่วนกันเองก็นั่งคิดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นก็เผลอยกมือของตัวเองมาสัมผัสริมฝีปากของตัวเองเหมือนกันแต่ก็ต้อง
หลุดจากภวังค์ตรงนั้นเพราะเสียงโทรศัพท์
หลุดจากภวังค์ตรงนั้นเพราะเสียงโทรศัพท์
“ครับ” กันที่เห็นหน้าจอโทรศัพท์แสดงชื่อริทก็รีบหลับทันที
“ถึงบ้านแล้วนะครับ”ริทบอก
“ครับ อย่าลืมทานข้าวและก็พักผ่อนเยอะๆนะครับ”กันเอ่ยบอก
“ครับ ฝันดีนะครับ” ริทเอ่ยบอก
“ขอบคุณครับ ฝันดีเหมือนกันนะครับ”กันเอ่ยบอกกลับไปแต่ก็แอบตกใจเล็กๆเพราะไม่คิดว่าริทจะบอกกับเค้าอย่าง
นี้และไม่คิดว่าริทจะทำตามที่เค้าสั่งว่ากลับถึงบ้านแล้วให้โทรหา
นี้และไม่คิดว่าริทจะทำตามที่เค้าสั่งว่ากลับถึงบ้านแล้วให้โทรหา
ทั้งคู่นั่งมองโทรศัพท์หลังจากที่วางสายกันไปเรียบร้อยแล้ว นั่งอมยิ้มอยู่อย่างนั้นแสดงว่าหัวใจของทั้งคู่คงเริ่ม
เปิดให้กันและกันมากขึ้นโดยเฉพาะ”ริท”ที่เริ่มรู้คำตอบบ้างแล้วว่าทำไมหัวใจถึงเต้นแรงเวลาที่ใกล้ชิด”กัน
เปิดให้กันและกันมากขึ้นโดยเฉพาะ”ริท”ที่เริ่มรู้คำตอบบ้างแล้วว่าทำไมหัวใจถึงเต้นแรงเวลาที่ใกล้ชิด”กัน
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
Writer Talk
มาอัพอีกแล้วๆๆ ตอนที่ 5 แล้วนะ กำลังเข้มข้นเลยเนอะ(หรือเปล่า) 555 ความรักกำลังทำงานให้ใจทั้งคู่เต้นแรง
แล้วเนอะ ตามๆๆต่อไปนะคะ ตรงไหนผิดก็ขอโทษนะคะ อิอิ
แล้วเนอะ ตามๆๆต่อไปนะคะ ตรงไหนผิดก็ขอโทษนะคะ อิอิ
ขอบคุณที่อ่าน ที่เม้นนะคะ ขอบคุณมากจริงๆนะคะ
ปล. ย้ำ !! SF เรื่องนี้แต่งขึ้นมาจากจินตนาการเท่านั้นไม่ได้มีเจตนาให้ศิลปินเสียหาย
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น