ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Gunrit 38* SF

    ลำดับตอนที่ #26 : SF อาจเคยเป็นคนไม่ดี 5

    • อัปเดตล่าสุด 28 ต.ค. 54





    อาจเคยเป็นคนไม่ดี  5
     
     
           เช้าวันรุ่งขึ้นทุกอย่างเป็นเหมือนเดิมผู้จัดการคนนี้นั่งรถแท็กซี่มาหานักร้องดังที่คอนโดเพื่อที่ขับรถแทนกัน



    เพื่อไปทำงานและวันนี้ก็คงเหมือนเดิมที่จะหอบตะกร้าใบโตที่มีอาหารเช้าแสนอร่อยมาด้วยแต่ไม่ทันที่ริทจะเดิน


    เข้าไปในคอนโดก็ถูกคนที่ตัวเองมาดูแลเรียก


    “ขึ้นรถเลย” กันเลื่อนกระจกลงมาพร้อมกับตะโกนเรียกริทผู้จัดการของเค้า


    “อ้าว! แล้ววันนี้ทำไมขับรถเองอ่ะ” ริทเอ่ยถามพร้อมกับเปิดประตูเข้าไปในรถ


    “พอดีนึกได้ว่าเดี๋ยวริทจะล้าน่ะ วันนี้เลยจะขับเอง” กันบอกก่อนที่จะออกรถทันที


    “แล้วกินอะไรหรือยัง วันนี้มีข้าวต้มด้วยนะ” ริทบอก


    “เรียบร้อยแล้วครับ ขอบคุณครับ” กันบอกพร้อมกับเอ่ยขอบคุณ


    “วันนี้กันเป็นอะไรหรือเปล่า” ริทที่เริ่มรู้สึกว่ากันแปลกๆไปเลยถามออกไป



    “เปล่านี่ครับ พอดีว่าวันนี้มีงานเช้ามากผมตื่นตั้งนานแล้วเลยหาอะไรกินไปก่อนระหว่างรอคุณมาน่ะ” กันอธิบาย



    “งั้นเก็บไว้ตอนกลางวันก็แล้วกัน” ริทบอกก่อนที่จะเอื้อมเอาตะกร้าใบประจำไปวางไว้ที่เบาะหลังรถ



            ตลอดครึ่งวันที่ผ่านมากันเองทำงานอย่างเต็มที่ยิ้มแย้มแจ่มใสกับบรรดาแฟนคลับแต่เวลามาพักข้างเวทีหรือ


    เจอหน้าริทรอยยิ้มบนใบหน้าของกันจะหายไปบ้างทำให้ริทเริ่มรู้สึกไม่ดี อยากถามว่าเค้าทำผิดอะไรหรือเปล่าแต่ก็



    ไม่กล้าจึงตัดสินใจว่าจะลองคุยเย็นนี้ ปล่อยให้ทำงานให้เสร็จเรียบร้อยเสียก่อน งานช่วงเย็นจัดขึ้นในห้างสรรพ


    สินค้าในช่วงเวลาที่กันกำลังแต่ตัวอยู่ ริทแอบไปซื้ออาหารเย็นมาอย่างมากมายเพราะตั้งใจว่าวันนี้จะกินอาหาร


    เย็นที่คอนโดของกันเพื่อจะคุยเรื่องที่เกิดขึ้น




    “กันเย็นนี้ริทขอคุยด้วยหน่อยนะ” ริทบอกระหว่างที่กันเก็บของเตรียมตัวกลับบ้านเมื่องานจบลง


    “ได้ซิ” กันตอบงก่อนที่จะเดินอกไปแต่ด้วยความที่มีมหาชนมาเยอะแยะมากมายทำให้กันเดินผ่าน



    จุดตรงนั้นไปได้ยากทำให้โดนรุม พยายามยามจะดึงแต่กันเองก็มีกราดที่คอยดูแลอยู่บ้างแต่ก็ยังมาสามารถออกมา



    จากตรงนั้นได้เลยจึงทำให้ที่เห็นท่าไม่ดีจึงเดินเข้าไปช่วยอีกแรง



    “ขอโทษนะครับๆ ขอโทษนะครับ พอดีกันต้องรีบกลับนะครับ” ริทเข้าไปดึงแขนของกันให้เดินตามตัวเองมาทำให้



    แขนของริทไปขูดกับนาฬืกาของบรรดามหาชนที่มาชื่นชอบนักร้องดังคนนี้แต่เจ้าตัวก็ยังไม่รู้สึกอะไรเพราะคิด




    อย่างเดียวว่าจะพานักร้องคนนี้ออกจากตรงนั้นให้ได้ก่อน


    “กันไม่เป็นอะไรใช่มั้ย” ริทเอ่ยถาม



    “ครับ แล้วริทล่ะ” กันเองก็ถามกลับไป



    “ไม่ได้เป็นอะไรเหมือนกัน” ริทตอบ



    “บอกว่ามีเรื่องจะคุยด้วย งั้นเดี๋ยวไปหาซื้ออะไรไปกินก่อนดีมั้ย” กัยเอ่ยถาม



    “ไม่ต้องแล้ว ริทซื้อมาเรียบร้อยแล้ว” ริทบอก




    “งั้นกลับกันเลยดีกว่า” กันบอกก่อนที่จะกดรีโมตรถยนต์



    ขากลับกันก็เป็นคนขับรถกลับเหมือนเดิมแต่บรรยากาศภายในรถก็ยังเงียบ ดูไม่เหมือนสองวันก่อนที่ผ่านมา



    “มีอะไรจะคุยกับผมหรอ” กันเริ่มเอ่ยถามทันทีเมื่อถึงห้อง



    “วันนี้ กันเป็นอะไร เงียบๆ” ริทเอ่ยถาม



    “เปล่า ผมไม่ได้เป็นอะไร” กันตอบ



    "แต่วันนี้กันไม่ค่อยคุยกับริท ริททำอะไรผิดหรอ โกรธอะไรก็บอกมาได้นะ”ริทเอ่ยถามในสิ่งที่ตัวเองอยากรู้ทันที



    “คุณไม่ได้ทำอะไรผิดหรอกแล้วอีกอย่างผมเองก็ไม่มีสิทธิ์ไปโกรธคุณด้วย” กันหันมาตอบ



    “กัน ถ้ากันจะโกรธเรื่องเมื่อคืนที่ริทว่ากัน ริทขอโทษนะก็กันมากวนประสารทริทก่อนทำไมล่ะ” ริทเอ่ยขอโทษ



    เพราะคิดมาตลอดว่ากันโกรธเรื่องนี้ มันทำให้กันถึงกลับตกใจเพราะว่าตัวเองไม่ได้โกรธริทเลย ที่เงียบ ที่ไม่ค่อย



    คุยกับริท ตัวเองก็ไม่กล้าเพราะเมื่อคืนกวนใส่ริทไปเยอะเหมือนกัน ตัวเองก็คิดว่าริทโกรธต่างหากและคิดว่าที่ดีกับ



    เราเพราะหน้าที่ ทุกครั้งที่ยิ้มให้เวลามาเห็นหน้าริทต้องหุบยิ้มเพราะกลัวริทไม่ยิ้มตอบเลยต้องทำบึ้งตึงมาทั้งวัน


    แต่ความจริงไม่ได้โกรธอะไรริทเลยสักนิด


    นี่ริทคิดว่าเราโกรธหรอกหรอเนี่ย เราก็คิดว่าเค้าโกรธเราแต่ที่ทำดีกับเราเพราะหน้าที่

    กันคิดในใจ



    “ขอโทษนะ” ริทเอ่ยขอโทษอีกครั้ง


    “จะมาขอโทษเราทำไม เราไม่ได้โกรธอะสักหน่อย” กันตอบ



    “แล้วเป็นอะไรถึงดูแปลกๆไป” ริทเอ่ยถามอย่างสงสัย



    “เอ่อหิวแล้วอ่ะ”กันเริ่มเปลี่ยนเรื่องและเดินไปที่โต๊ะอาหารทันที



    “กินข้าวก่อนดีกว่าเดี๋ยวค่อยตอบนะ”กันบอกก่อนที่จะเดินเข้าไปในห้องครัวเพื่อหยิบภาชนะต่างๆ



    “เดี๋ยวริทจัดการให้” ริทเดินมาแล้วรับภาชนะมาจากมือของกันเพื่อจัดแจงอาหารบนโต๊ะเอง



    “งั้นเดี๋ยวกันไปเอาน้ำก็แล้วกัน” กันบอกก่อนจะเดินเข้าไปในครัวอีกครั้ง



    “กันบอกไม่ได้หรอว่าเป็นอะไร” ริทเอ่ยถามอีกครั้ง



    “ก็บอกแล้วไงเดี๋ยวจะบอกหลังจากินข้าวเสร็จ” กันอธิบาย



    “แล้วทำไมริทถึงคิดว่ากันโกรธริทล่ะ”กันเอ่ยถามขณะที่เดินถือน้ำเย็นมาสองแก้ว



    “ก็กันดูเงียบๆอ่ะ เราก็คิดว่าเราคงทำไรผิดแล้วก็คิดว่าเรื่องเมื่อคืนแน่ๆที่ริทต่อว่ากันอ่ะ” ริทอธิบายและในมือก็ทำ



    จัดแจงเทอาหารลงจานแต่ทว่าซอสที่เป็นส่วนผสมหนึ่งของอาหารกระเด็นเลอะใบหน้าแต่ริทก็ใช้มือของตัวเอง


    เช็ดบ้างแล้วแต่ไม่รู้ว่ามันยังไม่หมดทำให้กันแอบขำเมื่อเห็นใบหน้าของริท


    “หะ หะ”เสียงของหัวเราะของกันดังขึ้น


    “กันหัวเราะอะไร” ริทเห็นจึงเอ่ยถาม



    “อยากรู้จริงๆหรอว่ากันเป็นอะไร”กันเอ่ยถามพร้อมกับเดินไปหยิบทิชชูและเดินไปยืนตรงหน้าของริททันที



    “ก็ ก็อยากรู้”ริทที่เห็นกันเดินมาประชิดตัวก็ตอบอย่างตะกุกตะกักทันทีและหัวใจของตนดันเต้นแรงอีกครั้ง



    “กันไม่ได้โกรธริท ไม่เคยคิดที่จะโกรธด้วย”กันอธิบายไปพร้อมกับใช้ทิชชูเช็ดหน้าของริทอย่างเบามือ



    “ละ แล้ว ปะ เป็น เป็นอะไร”ริทที่ยืนนิ่งไม่ไหวติงอะไรยิ่งพูดตะกุกตะกักเพราะกันกำลังจ้องหน้าริทอย่างประชิดตัว


    “กลับมาคิดอีกทีกันก็ไม่มีสิทธิ์ไปสั่งริทอย่างนั้นเหมือนกันแล้วกันก็ไม่มีสิทธิ์โกรธริทด้วยเหมือนกัน”กันอธิบาย



    พร้อมกับยังคงเช็ดหน้าของริทอยู่เหมือนเดิม



    “กันคิดว่าริทโกรธกันต่างหากและที่ยังมาทำดีกับกันเพราะมันเป็นหน้าทีเท่านั้น กันอธิบาย



    “ขอโทษนะที่เอาแต่ใจ ออกคำสั่งให้ริททำโน้นทำนี่ ขอโทษจริงๆ” กันเอ่ยขอโทษ



    “มะ ไม่เป็นไรครับ” ริทเอ่ยอย่างให้อภัยแต่ตอนี้กันยังยืนอยู่ที่เดิม ยืนจ้องหน้ามือยังเช็ดหน้าริทเหมือนเดิมจนริ



    ทเริ่มรู้สึกว่าจะไม่ไหวกับหัวใจตัวเองเสียแล้ว



    “ผะ ผมว่าคงหมดแล้วละครับ” ริททักท้วงพร้อมกับรีบหันหลังทันที



    “ทานข้าวกันเถอะ” ริทรีบเปลี่ยนเรื่องก่อนที่ดึงเก้าอี้มานั่ง



    “ครับ” กันขานรับก่อนที่จะเดินมานั่งเก้าอี้ของตัวเอง



    “ที่นี่รู้แล้วใช่มั้ยว่ากันไม่ได้โกรธริท”กันบอก



    “รู้แล้ว ริทเองก็ไม่ได้โกรธกันหรอกนะแต่บางครั้งอย่ากวนประสาทให้มันมากก็ได้นะ”ริทบอกก่อนที่แอบต่อว่ากัน



    เล็กๆ



    “ครับผมคุณผู้จัดการ” กันตอบกลับไปอย่างกวนๆ




    “ถามอย่างซิ ริทชอบทำโน้นทำนี่มาให้กันกินทุกวันไม่เบื่อบ้างหรอ” กันเอ่ยถามอย่างสงสัย



    “ไม่หรอก ริทมีความสุขนะ ริทเองยังอยากมีร้านอาหารเป็นของตัวเองเลย รู้สึกว่าเวลาที่ทำอะไรให้ใครกินหรือได้



    ดูแลใครแล้วมันมีความสุข”ริทอธิบาย



    “อ๋อๆ เข้าใจแระ” กันตอบ



    “แล้วถามไปทำไมเนี่ย”ริทถามอย่างสงสัย



    “เปล่าแค่อยากถามถึงเรื่องราวของริทไง” กันบอก



    “งั้น กันช่วยเล่าเรื่องราวของกันให้ฟังบ้างซิ” ริทบอก



    “ได้ๆซิ กันเรียนจบบริหาร พ่อแม่มีบริษัทเป็นของตัวเอง ชอบร้องเพลงเลยทำเพลงแล้วส่งเดโม่เพลงมาให้ที่ค่าย


    ฟัง ทางค่ายสนใจเลยลองเรียกเข้ามาทำเพลงและตัวเองก็ไม่คิดว่าตัวเองจะได้รับความนิยมขนาดนี้เหมือนกัน


    พ่อแม่เป็นคนเผด็จการ สั่งคำไหนต้องเป็นคำนั้นแต่ดีนะที่เรามาเป็นนักร้องก่อนไม่งั้นต้องไปบริหารงานที่บริษัท”



    กันอธิบายเรื่องราวของตัวเองบ้าง



    “มิน่าล่ะ” ริทบ่นออกมาเบาๆ



    “อะไร”กันถามเชิงดุๆ



    “ก็เผด็จการไง”ริทตอบไปตรงๆ



    “โฮ้ ริท งั้นไม่ต้องกินแล้ว” กันบอกก่อนที่จะยกจานข้าวของริทหนี



    “เฮ้ย! กัน” ริทตกใจก่อนที่จะลุกขึ้นแย่งจานข้าวคืน


    “ไม่ให้” กันบอกก่อนที่จะเดินหนี



    “กัน จะกินข้าว เอาคืนมา”ริทบอกอีกครั้ง


    “ไม่ให้” กันบอกเหมือนกันจะรู้ว่าริทจะต้องไปเอาจานของเค้าที่วางไว้แทนก็เลยรีบวิ่งไปเอาจานข้าวของตัวเองมา



    ด้วยเพื่อดักทาง



    “เอาคืนมา” ริทเริ่มดุ


    “ไม่ให้” กันตอบกลับไป



    “กันไม่ให้ใช่มั้ย งั้นไปเอาใบใหม่ก็ได้” ริทบอกก่อนที่จะเดินไปที่ครัว กันเห็นจึงรีบวิ่งไปที่ครัวแล้วหยิบกุญแจที่



    ห้อยเอาไว้ที่ตู้อยู่แล้วไขเพื่อล๊อคตู้ก่อนที่จะเก็บไว้ที่ตัวเอง



    “กันไหนบอกว่าจะไม่กวนประสาทแล้วไง” ริมถามอย่างที่หน้าตาเหวี่ยงๆ



    “ก็ริทมาว่ากันก่อนทำไม” กันบอก



    “ก็แค่ล้อเล่นเอง”ริทบอก



    “แต่กันโกรธจริงๆ”กันบอก



    “ขอโทษ” ริทเอ่ยขอโทษ



    “ไม่ให้อภัย”กันบอก



    “งั้น ตามใจ ไม่กินแล้วข้าวอ่ะ กลับก็ได้” ริทเองที่เริ่มจะระอากับอาการเอาแต่ใจของกันเลยตัดสินใจจะกลับบ้าน


    “เฮ้ยๆๆๆ ขอโทษๆๆล้อเล่นเฉยๆ” กันรีบบอกก่อนที่รีบวิ่งมาดักแต่ด้วยทว่ามี่มือถือจานข้าวอยู่และที่วิ่งด้วยความ



    เร็วจึงทำให้ไม่ทันระวังตัวและทรงตัวไม่ได้จึงหยุดไม่ทันและพอดีกับจังหวะที่ริทหันตัวมาเพื่อจะเดินออกจากตรง



    นั้นเมื่อหยิบของบนโต๊ะอาหารเสร็จแล้วจึงทำให้ร่างของกันล้มทับไปที่ร่างของริทที่ยืนอยู่ทำให้ร่างของริทช่วงบน



    ราบไปกับโต๊ะอาหารและริมฝีปากหนาของกันประกบเข้ากับริมฝีปากของริททันทีแต่ด้วยความตกใจของทั้งคู่จึงทำ


    ให้อยู่ในท่าทางอย่างนั้นสักพักจนเรียกสติคืนมาได้ริทจึงรีบผลักตัวกันออกทันที



    “เอ่อขอโทษครับ”กันรีบเอ่ยขอโทษ


    “งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ” ริทรีบบอกก่อนที่จะรีบออกจาห้องไปทันที


    ในขณะที่นั่งรถกลับบ้านริทเผลอยกมือของตัวเองมาสัมผัสปากของตัวเองเบาๆพร้อมกับลอบยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว


    บ่อยครั้ง



    ส่วนกันเองก็นั่งคิดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นก็เผลอยกมือของตัวเองมาสัมผัสริมฝีปากของตัวเองเหมือนกันแต่ก็ต้อง


    หลุดจากภวังค์ตรงนั้นเพราะเสียงโทรศัพท์

     
    “ครับ” กันที่เห็นหน้าจอโทรศัพท์แสดงชื่อริทก็รีบหลับทันที


    “ถึงบ้านแล้วนะครับ”ริทบอก


    “ครับ อย่าลืมทานข้าวและก็พักผ่อนเยอะๆนะครับ”กันเอ่ยบอก


    “ครับ ฝันดีนะครับ” ริทเอ่ยบอก


    “ขอบคุณครับ ฝันดีเหมือนกันนะครับ”กันเอ่ยบอกกลับไปแต่ก็แอบตกใจเล็กๆเพราะไม่คิดว่าริทจะบอกกับเค้าอย่าง



    นี้และไม่คิดว่าริทจะทำตามที่เค้าสั่งว่ากลับถึงบ้านแล้วให้โทรหา


        ทั้งคู่นั่งมองโทรศัพท์หลังจากที่วางสายกันไปเรียบร้อยแล้ว นั่งอมยิ้มอยู่อย่างนั้นแสดงว่าหัวใจของทั้งคู่คงเริ่ม



    เปิดให้กันและกันมากขึ้นโดยเฉพาะ”ริท”ที่เริ่มรู้คำตอบบ้างแล้วว่าทำไมหัวใจถึงเต้นแรงเวลาที่ใกล้ชิด”กัน
     
    >>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>> 
     
    Writer Talk
     
    มาอัพอีกแล้วๆๆ ตอนที่ 5 แล้วนะ  กำลังเข้มข้นเลยเนอะ(หรือเปล่า) 555 ความรักกำลังทำงานให้ใจทั้งคู่เต้นแรง


    แล้วเนอะ ตามๆๆต่อไปนะคะ  ตรงไหนผิดก็ขอโทษนะคะ  อิอิ

    ขอบคุณที่อ่าน ที่เม้นนะคะ ขอบคุณมากจริงๆนะคะ


    ปล.  ย้ำ !! SF เรื่องนี้แต่งขึ้นมาจากจินตนาการเท่านั้นไม่ได้มีเจตนาให้ศิลปินเสียหาย
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×