ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Gunrit 38* SF

    ลำดับตอนที่ #22 : SF อาจเคยเป็นคนไม่ดี 1

    • อัปเดตล่าสุด 18 ต.ค. 54




     

    จบแล้วเว้ย! เย้ๆๆ
     
           เสียงของนักศึกษาหลายๆคนที่กู่ร้องออกมาด้วยความดีใจเพราะวันนี้เป็นวันที่เค้าประสบความสำเร็จเรียบ

    ร้อยแล้วและหนึ่งในนั้นคือนักร้องหนุ่มชื่อดัง “กัน นภัทร” นั้นเอง นักร้องหนุ่มได้กำลังใจจากครอบครัวและแฟน


    คลับที่มากำลังใจอย่างล้นหลามและอีกคนหนึ่งคือว่าที่คู่หมั้นที่ทางขอบครัวจัดแจงหาให้อย่างเรียบร้อยซึ่งก็ไม่ใช่


    คนอื่นคนไกลที่ไหนคือลูกสาวของผู้ร่วมถือหุ้นรายสำคัญของบริษัทเลยที่เดียว



    “หนูแอร์ วันนี้ที่บ้านของอาจะมีงานเลี้ยงน่ะ ลูกไปร่วมงานกับพวกเรานะลูก” คุณพ่อของนักร้องหนุ่มเอ่ยชวนว่าที่

    ลูกสะใภ้



    “ค่ะ คุณอา ขอบคุณนะคะ”สาวน้อยยกมือขอบคุณคุณพ่อของกัน




     “คุณค่ะเราว่าแยกย้ายกันกลับบ้านก่อนมั้ยค่ะ ทางหนูแอร์จะได้เปลี่ยนชุดด้วย เราคงไม่จัดงานเลี้ยงทั้งๆชุดครุย

    หรอกนะคะ” ผู้เป็นแม่เอ่ยขึ้น


    “ก็ได้ๆ งั้นเดี๋ยวเจอกันที่บ้านข้านะเว้ยไอ้พล” การร่ำลาตามประสาเพื่อนสนิทที่พ่อทั้งสองแสดงต่อกัน


    “โอเคๆ งั้นเดี๋ยวเจอกัน” พ่อของหญิงสาวเอ่ยขึ้นก่อนที่นำทางภรรยาและลูกสาวไปที่รถ

     
    ส่วนทางครอบครัวนี้ของกันก็ภูมิใจไม่น้อยที่ลูกชายของตนเองประสบความสำเร็จทางด้านการเรียนแล้ว

    “ กัน แม่ดีใจด้วยนะลูก” ผู้เป็นแม่เอ่ยขึ้นอย่างซาบซึ้ง


    “ครับแม่ ขอบคุณครับแม่” กันเอ่ยขอบคุณ


    “ทีนี่ผมเองก็ได้ทำงานได้อย่างเต็มตัวสักที ผมจะได้ทุ่มเวลาให้กับงาน งานที่ผมรัก” กันเอ่ยขึ้นซึ่งใบหน้าเต็มไป

    ด้วยรอยยิ้ม


    “พ่อแม่กับไม่ว่าหรอกถ้ากันจะตั้งใจทำงานของตัวเองแต่ก็อย่าลืมเรื่องหมั้นกับหนูแอร์นะ เตรียมตัวไปดูแหวน ไปดู


    ชุดเอาไว้ก็ดีนะเพราะพ่อกับแม่หาฤกษ์ไว้ให้แล้ว” แม่เอ่ยขึ้นมาทำให้กับหุบยิ้มทันทีแพราะความจริงเค้าไม่ได้ยินดี


    แม้แต่น้อยเลยแต่มันเป็นข้อตกลงระหว่างเค้ากับครอบครัว ถ้าเค้าจะเป็นนักร้องทำงานในวงการจะต้องหมั้นกับคน


    ที่พ่อแม่หาไว้ให้เพราะไม่อย่างนั้นเค้าจะต้องมานั่งเป็นผู้บริหารซึ่งเป็นงานที่เค้าไม่ชอบเลยเอาซะเลย


     ค่ำวันนั้นงานเลี้ยงที่เกิดขึ้นก็เต็มไปด้วยความสุขของพ่อแม่ทั้งสองครอบครัวแต่ลูกชายกับลูกสาวก็ยิ้มเพราะ


    เรียนจบแต่ก็คงไม่ยิ้มกับงานหมั้นที่กำลังจะเกิดขึ้นเลย


    “ตกลงเราจะต้องหมั้นกันจริงๆใช่มั้ยเนี่ย?” หญิงสาวเอ่ยขึ้นในขณะที่แยกตัวออกมาคุยกับกันสองคน

    “ก็ต้องเป็นอย่างนั้นแหละแอร์” กันตอบ

    “แอร์น่ะ ไม่เท่าไรหรอก กันน่ะซิ เป็นนักร้องดังเลยนะเดี๋ยวก็เสียชื่อเสียงหรอก” แอร์เอ่ยด้วยความเป็นห่วง


    “ช่างมันเถอะ อย่าคิดมาก” กันพูดปลอบ


         ในที่สุดงานหมั้นอย่างเรียบง่ายและเงียบๆก็ถูกจัดขึ้นถึงแม้ว่างานหมั้นครั้งนี้จะไม่ถูกใจผู้เป็นพ่อของนักร้อง


    หนุ่มมากนักเท่าไรเพราะมันถูกจัดขึ้นไม่สมฐานะของเค้าแต่ก็ต้องยินยอมเพราะลูกชายของเค้าเองก็กำลังมีชื่อ


    เสียงที่โด่งดังถ้าเกิดนักข่าวรู้ล่ะก็ต้องเป็นข่าวใหญ่และทำให้ชื่อเสียงของลูกชายของเค้าคนนี้ดับลงได้เลยต้อง


    หมั้นเงียบๆไม่ให้เป็นข่าวแต่ก็คงมีส่วนดีอยู่บ้างเพราะ ว่าที่ลูกสะใภ้กำลังจะไปเรียนต่อเมืองนอกแต่วางแผนไว้


    เรียบร้อยอยู่ดีว่าถ้าลูกสะใภ้เรียนจบก็คงจะให้แต่งงานกันเลยแต่จะรู้บ้างไหมว่าลูกชายของเค้าไม่ได้เต็มจำอะไร


    เลยแม้แต่น้อยรวมถึงหญิงสาวคนนี้ด้วยแต่ทีทำทั้งหมดเพราะทางธุรกิจของครอบครัวต่างหาก


    “ไอ้นัช ถ้าลูกสาวข้ากลับมาแล้วให้ลูกของเราแต่งงานกันเลยใช่มั้ย” ผู้เป็นพ่อของหญิงสาวและเป็นเพื่อนกับพ่อ

    ของกันเอ่ยถามเพื่อนเปิดประเด็นสนทนา


    “แน่อยู่แล้ว หนูแอร์น่ารักซะขนาดนี้ใครๆก็อยากให้มาเป็นลูกสะใภ้” พ่อของนักร้องหนุ่มเอ่ยขึ้น


    “แล้วหนูแอร์จะไปบินไปฝรั่งเศสเมื่อไรลูก” พ่อของนักร้องหนุ่มเอ่ยถาม


    “อีก 3 วันค่ะคุณอา” หญิงสาวตอบ


    “งั้น วันเดินทางกันไปส่งน้องแอร์ที่สนามบินด้วยนะลูก” ผู้เป็นแม่หันมาออกคำสั่งกับลูกชายของตน


    “คงไม่ได้ครับแม่ เพราะพรุ่งนี้ผมมีทัวร์ที่ต่างจังหวัดนะครับไปประมาณ 4 วัน” กันเอ่ยตอบ

    “อะไรอีกเนี่ย งานอีกแล้วหรอลูก” แม่เอ่ยด้วยความไม่พอใจ

    “คุณน้าค่ะ ไม่เป็นไรหรอกค่ะ แอร์เข้าใจว่างานของกันกำลังเข้ามาเยอะ แอร์เองก็ไม่อยากรบกวนการทำงานของ


    กันด้วยน่ะคะ” หญิงสาวเอ่ยอย่างเข้าใจ


    “กันเห็นมั้ยลูก เราน่ะมีคู่หมั้นที่น่ารักอย่างนี้ห้ามนอกใจน้องนะลูก” แม่เอ่ยชมว่าที่ลูกสะใภ้อย่างมีความสุข


    “ครับ”กันเอ่ยอย่างจำใจ

    “ผมว่าเราปล่อยให้ลูกสองคนเค้าอยู่ด้วยกันจะดีกว่าเนอะ เผื่อมีเรื่องจะคุยกัน” แม่ของหญิงสาวเอ่ยขึ้นพร้อมกับ


    เดินออกไปจากบริเวณตรงนั้นและผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายก็ลุกออกไปด้วยเช่นกัน


    “แอร์ กันขอโทษนะที่มันเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้น” กันเป็นคนเปิดประเด็นในการสนทนาเสียก่อน


    “ไม่เป็นไรหรอกกัน แอร์เองเกรงใจกันมากเสียกว่าอีกเพราะกันอยู่ในวงการและงานกำลังเยอะถ้ามีข่าวออกไปกัน

    เสียชื่อเสียงแน่ๆ” แอร์พูดอย่างเข้าใจ


    “แต่เราจะทำอย่างไรได้ล่ะ พ่อมาของเราเล่นจัดการให้เราไปหมดซะทุกอย่าง คัดค้านก็ไม่ได้ด้วยซิ” กันเอ่ยขึ้นมา

    “แล้วกันจะทำอย่างไรต่อไปอ่ะ” แอร์ถาม


    “เรื่องที่เราหมั้นน่ะหรออ ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก เราก็ทำตัวตามปกติไปนี่แหละ งั้นเอาเป็นว่าเวลาอยู่กับครอบครัว

    เราก็ใส่แหวนให้ท่านเห็นแต่เวลาทำงานค่อยถอดออกซิ” กันเอ่ยอย่างไม่คิดอะไรมาก


    “อีกอย่าง แอร์ก็โคดีนะไปเรียนเมืองนอก ถอดแหวนออกได้เลยนะเ วลากลับมาค่อยใส่” กันเอ่ย


    “แต่กันจะถูกคุณน้ากับคุณอาจับตามองนะ” แอร์เอ่ยด้วยความเป็นห่วง


    “เรามีวิธีของเราอยู่แอร์ อย่าคิดมาก” กันเอ่ยขึ้นเพื่อความสบายใจของแอร์เพื่อนสนิท


    “อย่าลืมนะแอร์ ถ้าใส่แหวนอยู่ที่โน้นจะไม่มีคนมาจีบนะ ถอดออกเลย ฮ่าๆๆ” กันพูดอย่างสนุกสนาน


    “กัน แอร์ขออะไรบางอย่างได้มั้ย” แอร์เอ่ยขึ้นถาม


    “อะไรหรอ” กันถามกลับอย่างสงสัย


    “แอร์ขอให้กันเป็นพี่ชายของแอร์ได้มั้ย เพราะแอร์อยากมีพี่ชายแบบนี้” แอร์เอ่ยขอ

    “ทั้งๆที่เราอายุเท่ากันนี่นะ”กันถามอย่าง งงๆ


    “ก็นั่นแหละ กันเกิดก่อนเราอีกนะ” แอร์บอก


    “ก็ได้ๆ ทำไมจะไม่ได้ล่ะน้องสาว”กันพูดจบก็โยกหัวหญิงสาวคนตรงหน้า


    “ขอบคุณค่ะ พี่ชาย” แอร์เอ่ยขอบคุณพร้อมรอยยิ้มที่น่ารัก


     
         หลังจากนั้นหญิงสาวก็บินไปเรียนที่ฝรั่งเศสคงกลับมาอีกทีก็ 2 ปีข้างหน้าส่วนกันเองก็มีงานเยอะแยะมากจน


    งานรัดตัวแทบจะไม่มีเวลาพักเลยแต่ก็เจ้ากรรมก็ดันมีเรื่องที่ว่าผู้จัดการส่วนตัวของเค้าเรียกได้ว่าเป็นผู้จัดการมือ


    ทองที่ดูแลใครแล้วคนนั้นจะต้องดังเปรี้ยง งานเข้ามาไม่หยุดถูกทางคู่แข่งซื้อตัวไปด้วยจำนวนเงินที่ใครก็ปฏิเสธ


    ไม่ลงทำให้กันนักร้องหนุ่มต้องหาผู้จัดการใหม่แต่ขณะที่ยังไม่มีมาใหม่ก็ต้องรับงานเองแต่ก็โชคดีที่ว่ากันเองก็มี


    งานที่ผู้จัดการคนก่อนจัดแจงไว้ให้แล้วอย่างเสร็จสรรพอาจจะไม่มีเรื่องวุ่นวายอะไรมากแต่ก็ต้องเหนื่อยกว่าเดิม


    นิดหน่อยและวันนี้ก่อนที่จะไปทำงานกันต้องเข้าไปที่บริษัทก่อนเพื่อไปคุยรายละเอียดของงานวันนี้

     
    คุณ  ระวัง!!!!!!!!!

     
    เสียงของกันดังขึ้นเมื่อเห็นคนกำลังจะถูกรถชนและวิ่งเข้ารั้งร่างเของคนๆนั้นให้พ้นจากอันตราย


    “คุณเป็นอะไรหรือเปล่าครับ” กันเอ่ยถามชายหนุ่มที่กำลังตกใจ

    “ครับไม่ได้เป็นอะไรครับ”เสียงที่เอ่ยตอบยังมีสั่นเครือด้วยความตกใจ

    “ขอบคุณนะครับที่ช่วยผมเอาไว้ พอดีว่าผมมัวแต่เก็บเอกสารเลยไม่ได้ดูรถเลยน่ะครับ” ชายหนุ่มเอ่ยขอบคุณ

    พร้อมกับอธิบายเหตุผล


    “ไม่เป็นไรครับ คุณเองก็ไม่ได้เป็นอะไรมากก็ดีแล้วแหละครับ” กันตอบกลับไปพร้อมกับรอยยิ้มแต่อีกคนที่เพิ่งผ่าน


    เหตุการณ์ที่น่ากลัวยังยืนหน้าซีด ตกใจอยู่จนกระทั่ง


    “คุณครับ นี่เอกสารของคุณครับ เอ่อ..คุณไม่ได้เป็นอะไรแน่นะครับ หน้าคุณดูซีดมากเลย” กันเดินไปเก็บเอกสาร


    ที่ตกอยู่บนถนนพร้อมกับยื่นให้คนตรงหน้าแถมยังเอ่ยถามคนตรงหน้าอีกครั้งเพราะดูเหมือนอาการจะไม่ดีเลย


    “ครับ ครับ ขอบคุณครับ ผมไม่ได้เป็นอะไรแล้วครับ ขอบคุณมากนะครับ คุณ?” ชายหนุ่มขอบคุณอีกครั้งและ


    กำลังถามชื่อแต่กันดันมีโทรศัพท์เข้ามก่อน

    “ครับผมอยู่หน้าบริษัทแล้วครับ กำลังจะเข้าไปหาแล้วครับ” กันกรอกเสียงไปยังปลายสาย

    “งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ” กันเอ่ยขึ้นเพื่อขอตัวไปทำธุระ

    “ครับ” เค้าขานรับพร้อมกับลงมองเอกสารในมือแต่ดันเจอสมุดเล่นหนาของกันที่คงเผลอรวมมากับเอกสารของ


    เค้ามาด้วย

    “เอ่อ..คุณครับ” กำลังจะเอ่ยเรียกแต่ก็ไม่ทันเสียแล้วเพราะกันเดินเข้าไปในบริษัทเรียบร้อยเสียแล้ว เค้าได้แต่ยืน

    มองสมุดเล่นนั้นอย่างงๆเพราะเค้าเองก็ไม่รู้จักชื่อและไม่รู้ว่าจะคืนคนๆนั้นอย่างไรเช่นกัน



    >>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
     
    Writer Talk
    มาอีกแล้วๆอีกตอนแต่ SF นี้จะหลายตอนจบนะคะแต่ไม่รู้ว่ากี่ตอนเหมือนกัน อิอิ ^^ ติดตามต่อไปด้วยนะคะว่าจะ

    เป็นอย่างไรต่อไปนะคะ ขอบคุณที่ยังอ่าน
    SF ของเค้าเสมอๆ

    ปล. เรื่องนี้จิตนาการทั้งหมดไม่ได้อ้างอิงเหตุการณ์แต่อย่างไร
     
    รักกันสุดริท รักริทเหมือนกัน :D

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×