ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Gunrit 38* SF

    ลำดับตอนที่ #17 : SF ไม่รักอย่าทำให้คิด

    • อัปเดตล่าสุด 31 ส.ค. 54





    SF
    ไม่รักอย่าทำให้คิด





    “ไม่ไปได้ไหม?”

    “ไม่อยากอยู่คนเดียว”


     เสียงของคนร่างเล็กที่ยืนอยู่ในอาคารผู้โดยสารของสนามบินแล้วมองท้องฟ้าที่เครื่องบินลอยลำขึ้นสู่ห้วงอากาศเรียบร้อย

    แล้ว วันนี้เค้าจำใจมาส่งคนรักที่จะต้องเดินทางไปเรียนต่อเมืองนอกเป็นเวลา 2 ปีถึงแม้ก่อนหน้านี้จะร่ำลากันแล้วก็แต่วันนี้

    เค้าก็ยังทำใจไม่ได้

    “ริทททท” เสียงตะโตนที่ดังมาแต่ไกล


    “มาแล้วๆๆ ขอโทษๆรถเสียอ่ะ” คนที่มาช้ารีบอธิบายเหตุผลทันที


    “ไม่เป็นไรหรอกกัน พี่โน่แค่ฝากบอกให้กันช่วยดูแลริทก็เท่านั้นเอง” พูดออกมาแต่สายตายังคงมองบนท้องไม่ละสายตา


    “ริท พี่โน่ไปเรียนนะ อย่าคิดมากดิ เดี๋ยวนี้เทคโนโลยีก็เยอะแยะติดต่อกันได้ตลอดเวลา” กันปลอบเพื่อนคนนี้ที่มีอาการ

    เศร้า


    “เอากุญแจรถมา เดี๋ยวขับรถให้” กันแย่งกุญแจจากมือริทมาพร้อมกับดึงร่างของริทตามแรงดึงของมือตัวเอง


    “ไปกลับบ้าน อย่าเศร้าๆ”กันก็ยังคงปลอบเพื่อนคนนี้ตลอดทางที่เดินไปที่รถ


    “คาดเข็ดขัดด้วย”กันออกคำสั่งเมื่อขึ้นมานั่งบนรถเพราะตอนนี้ริทเองก็เหม่อเหมือนคนไร้วิญญาณ


    “ฮือออ  อยู่คนเดียวไม่ได้” ริทที่เอนมาซบไหล่ของกันเอ่ยขึ้นพร้อมกับร้องไห้ทำให้กันหยุดชะงักมองเพราะตัวเองก็ทนไม่

    ได้ที่เห็นคนที่เค้ารักเป็นแบบนี้

    คนรักน่ะหรอมันเกิดตั้งนานมาแล้วแต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ก็แค่นั้นเองเพราะคนๆนี้เป็นคนที่พี่ชายรัก

    “เฮ้ย นายระวัง!” เสียงของกันที่มาพร้อมกับตัวผลักร่างของเคนร่างเล็กที่ยืนอยู่เพื่อไม่ให้โดนลูกบอลที่ลอยมาด้วยความเร็ว

    จนกระทั่งตัวเค้าเองล้มลงกับพื้นทำให้ศรีษะไปกระแทกกับขอบโต๊ะพอดี


    “นายไม่ป็นไรใช่ไหม” กันเอ่ยถาม


    “เฮ้ย เลือด นายหัวแตกนี่” ริทที่เห็นเลือดบนแก้มของกันที่ไหลลงมารีบบอกทันทีพร้อมกับหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาเช็ดเลือด


    “ไม่เป็นไรหรอกแค่นี้เอง”กันพูดจบก็ใช้มือไปจับศรีษะตัวเอง


    “แต่ถึงยังไงนายก็ต้องไปหาหมอนะ” ริทพูดก่อนที่จะพยุงกันให้ลุกขึ้นจากพื้น


    “นาย เราขอบใจมากนะที่ช่วยเราอ่ะ ไม่อย่างนั้นเราคงสลบไปแล้วไ ริทที่ช่วยพยุงกันให้ไปสถานพยาบาลก็เอ่ยขอบคุณ


    “เราชื่อริทนะ แล้วนายล่ะ” ริทเอ่ยถาม


    “เราชื่อกัน เรียนอยู่ ม.6 ห้อง 608


    “งั้นก็เราก็เรียนห้องเดียวกันเลยแต่ว่าเรามาเรียนวันนี้วันแรก เราเพิ่งย้ายมาอ่ะ” ริทอธิบาย


    “ใช่วันนี้เห็นอาจารย์ก็บอกอยู่ว่าจะมีเพื่อนใหม่มา”กันพูดและไม่นานนัก พยาบาลประจำสถานพยาบาลทำแผลและให้ยาแก้

    อักเสบทำให้กันหลับเพราะฤทธิ์ยา


    “เป็นไงบ้าง ปวดหัวหรือเปล่า” กันที่ตื่นจากฤทธิ์ก็เห็นว่าริทมานั่งรอเค้าอยู่ที่ห้องพยายาบาล


    “ไม่ปวดแล้วแหละ” กันตอบกลับไปก่อนที่จะพยุงร่างของตัวเองขึ้นนั่ง


    “เอาข้าวมาให้ กินซะแล้วจะได้กินยา” ริทยื่นจานข้าวที่ซื้อมาให้กับกัน


    “ขอบใจมากนะ” กัยเอ่ยขอบคุณ


    “เราเป็นเพื่อนกันก็ต้องดูแลกันดิ” ริทพูดพร้อมกับยิ้มให้อย่างมีมิตรภาพ

    มันคงเป็นความประทับใจครั้งแรกที่ได้เจอกันและตลอดระยะเวลาที่เป็นเพื่อนกันมาก็มีสิ่งดีๆเข้ามาอยู่เรื่อยๆจนทำให้เผลอ

    ใจไปรักเพื่อนคนนี้เข้าให้แล้ว มันความรู้สึกดีที่กันมีให้ริทมาโดยตลอดแต่ต้องค่อยๆจบลงเพราะพี่ชายของตนประกาศกร้าว

    ว่าชอบริทและในที่สุดคนทั้งคู่ก็รักกัน เป็นแฟนกันและถ้าให้นิยามรักครั้งนี้ได้คงต้องให้เรียกว่า รักแท้แพ้ใกล้ชิด

    เพราะริทสนิทกับกันทาก มากเสียจนสนิมกับทุกคนในครอบครัวและนี่ก็คือสาเหตุที่ทำให้พี่ชายคนโตของบ้านเกิดตกหลุม

    รักเพื่อนของน้องชาย นี่ก็ผ่านมา 2 ปีแล้ว เค้าก็ยังไม่สามารถเลิกรักเพื่อนคนนี้ของเค้าได้เลย

    “ ถึงแล้ว”กันจอดรถที่ลานจอดรถพร้อมกับบอกริทที่เอาแต่ซบไหล่ของเค้ามาตลอดทาง


    “ช่วยขึ้นไปอยู่เป็นเพื่อนหน่อยนะ”ริทเอ่ยขึ้น


    “ได้ๆ อยากกินอะรเปล่าจะซื้อขึ้นไปทีเดียวเลย” กันถามก่อนที่จะลงจากรถและทอดสยตาไปยังมินิมาร์ทประจำคอนโด


    “ไม่หิวอ่ะ” ริทลงจากรถพร้อมกับเดินไปที่ลิฟต์ทันที


    “เดี๋ยวตามขึ้นไปนะเว้ย” กันเอ่ยบอกก่อนจะแยกกันหน้าคอนโด


    “ริทกินอะไรหน่อยมั้ย ทั้งวันแล้วนะเว้ยยังไม่ได้กินอะไรเลย” กันทนเห็นริทที่เหมือนคนกำลังจะตายไม่ไหวจึงเดินเข้าไปใน

    ห้องเพื่อสั่งให้ริทกินข้าว


    “ริท พี่โน่เค้าไปเรียนนะเว้ย ไม่ได้ไปตาย เดี๋ยวเค้าก็กลับมาแล้วอีกอย่างเค้ายังไม่ถึงอเมริกาเลย เค้าถึงยังติดต่อกลับมาไม่

    ได้” กันอธิบายให้เพื่อนคนนี้ดีขึ้น


    “ตามใจไม่กินก็ไม่กิน งั้นวันนี้อยู่คนเดียวไปก่อนนะ จะต้องกลับบ้านก่อน” กันบอกก่อนที่เดินออกไป

    ขณะที่ท้องฟ้ากำลังจะเปลี่ยนสีเพราะเวลาที่เดินผ่านไปแต่ก็มีเหตุผลอีกประการที่ทำให้ท้องฟ้าเปลี่ยนสี

    เพราะฝนกำลังตั้งเคล้ามาแล้วและทันทีที่กันกำลังจะกลับบ้านฝนลูกใหญ่ก็เทลงมาพร้อมกับเสียงฟ้าร้อง ฟ้าผ่า อย่างน่ากลัว

    เปรี้ยง !!!

    ครื้น !!!

    กันรู้ทันทีว่าคนอีกคนที่นั่งซึมอยู่ข้างบนห้องนั่งกลัวอยู่แน่นอนทำให้เค้าต้องรีบขึ้นที่ห้องทันที

    “ริท ริท ริท” กันตะโกนเรียกด้วยความเป็นห่วง


    “กัน ริทกลัว” ริทที่เห็นกันก็รีบโผเข้ากอดทันที


    “กันอยู่นี่แล้ว ไม่ต้องกลัวนะ กันจะอยู่เป็นเพื่อนริทเอง” กันพูดปลอบพร้อมกับลูบหลังเพื่อปลอบประโลม

    ทั้งคืนริทร้องไห้เพราะความกลัว เพราะความเหงาที่คิดถึงคนรัก ร้องไห้จนเพลียและหลับไปจนกระทั่งเช้ามา

    “พี่โน่ ริทคิดถึงพี่โน่นะครับ” เสียงของริทที่ดังมาจากหน้าห้องนอน


    “ครับ  รักพี่โน่นะ” ริทที่พูดไปยังปลายสายก่อนที่จะวางสาย


    “อ้าว กันตื่นแล้วหรอ” ริทหันมาเห็นก็เอ่ยถาม


    “อืม งั้นขอตัวกลับบ้านก่อนนะ” กันบอกก่อนที่จะเดินออกจากห้องไปทันที

    หลังจากวันนั้นเป็นต้นมาริทพอที่จะปรับตัวกลับการไม่มีพี่โน่อยู่ข้างๆได้แล้วแต่ก็กลับไม่เหงามากเพราะมีเพื่อนอย่างกันอยู่

    ข้างๆเสมอ

    วันว่างที่กันมานั่งเล่นที่คอนโดริทเพื่ออยู่เป็นเพื่อนริท ไม่ให่ริทเหงา ไม่เห็นริทเศร้า ถึงแม้ว่าเค้าจะดีขึ้นมากแล้วก็ตามเพราะ

    เค้าคุยโทรศัพท์กับพี่ชายของกันแทบทุกวัน

    โอ๊ย! เสียงอุทานเมื่อคนจอมยุ่งโดนมีดบาด


    “เฮ้ย ริทเป็นไรป่าว ไหนดูดิ” คนตัวพ่อรีบวิ่งเข้าไปดูทันที


    “โอ๊ย เบาๆเจ็บ” เสียงของคนตัวเล็กที่ร้องเมื่อกันกดเข้าไปที่แผล


    “มานี่ล้างแผลก่อนนะเดี๋ยวกันจะทำแผลให้”กันดึงมือริทที่โดนมีดบาดไปที่อ้างล้างจานพร้อมกับเปิดน้ำเพื่อล้างแผล


    “แสบอ่ะ” ริทร้อง


    “โทษๆแสบหน่อยนะ”กันปลอบริท


    “อดทนนิดหนึ่งนะแสบหน่อย”กันพูดขึ้นพร้อมกับชูสำลีที่ชุบทิงเจอร์ล้างแผลขณะที่กันพาริทมานั่งที่โซฟาแล้ว


    “แสบ แสบ แสบ”ริทร้องลั่นเมื่อกันลงมือเช็ดไปที่แผลพร้อมกับน้ำตาทื่หน่วงอยู่ริทขอบตา


    “นิดเดียวริท”กันพูดต่อพร้อมกับตัดสินใจทำแผลต่อจนเสร็จ


    “กัน ขอบคุณนะ”ริทขอบคุณพร้อมกับปาดน้ำตาไปด้วย


    “แล้วร้องไห้ทำไมแค่ทำแผลแค่นี้”กันถามพร้อมกับเช็ดน้ำตาให้ริท


    “ก็มันแสบอ่ะ”ริทตอบ


    “นี่เสร็จแล้วไง”กันพูดพร้อมกับชี้ไปที่แผล


    “ขอบคุณนะ”ริทขอบคุณอีกครั้ง

    ขี้แย ขี้อ้อนอย่างนี้นี่เองพี่โน่ถึงรักนักรักหนาแต่พี่โน่และริทจะรู้ไหมเนี่ยว่าคนๆนี้เริ่มคิดไม่ซื่อกับคนร่างเล็กคนนี้เสียแล้ว

    “กัน กัน ไปเที่ยวกัน” ริทดึงแขนกันที่นั่งอยู่ในห้อง มันคงเป็นเรื่องปกติไปแล้วที่กันจะต้องมานั่งเล่นที่ห้องของริทอยู่ประจำ


    “ไปไหนอ่ะ” กันเงยหน้าถาม


    “ไปไหนก็ได้”ริทตอบกลับมา


    “จะไปไหนเนี่ย” ริทเอ่ยถามเพราะเริ่มรู้สึกว่ามันออกนอกเขตกรุงเทพเสียแล้ว


    “ไปหาอะไรที่มันไม่ต้องปรุงแต่ง” กันหันมาตอบ


    “ห๊ะ อะไรที่ไม่ต้องปรุงแต่ง” ริทหันมาด้วยอาการที่คิ้วขมวด


    “เดี๋ยวก็รู้”  กันหันมาตอบก่อนที่จะขับรถต่อไป


    “ถึงแล้วริท” ในขณะที่กันกำลังจอดรถก็เอ่ยบอกกับริท


    “ทำไมคนเยอะอย่างนี้ล่ะ” ริทพูดขึ้นเมื่อมองเห็นคนที่เยอะเต็มไปหมด


    “ก็มันเป็นสถานท่องเที่ยวที่กำลังนิยมนี่” กันอธิบาย


    “น่ารักมากอ่ะ เอาสิ่งที่มีอยู่แล้วมาพัฒนาให้ได้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวได้มากขนาดนี้” ริทมองไปรอบๆพื้นที่แล้วเอ่ยขึ้น


    “ริทมานี่”กันเรียกพร้อมกับจูงมือริทให้เดินตามไป


    “กัน…ริทเดินเองได้” ริทพูดเมื่อถูกคนร่างสูงดึงมือไปกุมไว้


    “เออน่ะ ขี้เกียจตามหาเวลาหลงน่ะ” กันพูดจบก็จูงมือริทต่อไป


    กันพาริทมาเที่ยวตลาดโบราณ ที่ขายความเป็นอยู่ ที่ขายวิถีชีวิตแบบธรรมดาที่ไม่ได้ปรุงแต่งของคนในบริเวณนี้ทำให้นัก

    ท่องเที่ยวหลายๆคนตกหลุมรักการท่องเที่ยวแบบนี้ร่วมทั้งริทด้วย การท่องเที่ยวแบบไม่ได้ปรุงแต่งไม่ได้จบลงแค่นี้พอตก


    เย็นกันก็พาริทไปเที่ยวอีกทีหนึ่งที่มีความเป็นชาวบ้านๆไม่ต้องปรุงแต่งอะไร ธรรมดายิ่งกว่าสถานที่แรกเสียอีกนั่นก็คืองาน

    วัดนั้นเอง

    “กัน คนเยอะไปมั้ย” ริทเอ่ยถามเมื่อลงมาจากรถ


    “ก็อย่างนี้แหละงานประจำปีของพวกเค้านี่”กันตอบ


    “แต่ก็น่ารักดีเนอะ ริทเองก็ไม่ได้มาเที่ยวแบบนี้นานแล้วเหมือนกัน ครั้งล่าสุดคงจะเป็นเมื่อ 3 ที่แล้ว” ริทเอ่ยบอก


    “ถ้าวันนี้พี่โน่มาด้วยก็ดีเนอะ  กัน” ริทเอ่ยพูดเชิงถามไปที่กัน


    “อืม” กันตอบกลับไปด้วยความจุก จุกที่หัวใจ


    “ริท คิดถึงพี่โน่หรอ” กันเอ่ยถาม


    “คิดถึง คิดถึงมาก” ริทตอบก่อนที่จะเดินนำหน้าไป ปล่อยให้คนที่พาเค้ามายืนอึ้งกับคำตอบ

    “มันก็ถูกแล้วนี่ เค้าก็ต้องคิดถึงคนรักเค้าซิ จะมาคิดถึงเราหรอ”   กันเอ่ยกับตัวเอง



    “กัน เป็นอะไรหรือเปล่า” ริทที่เห็นว่ากันไม่ยอมเดินไปด้วยจึงหันมาเรียก




    “เปล่าๆ กำลังคิดว่าจะพาริทไปตรงไหรก่อนดีอ่ะ” กันแกล้งตอบกลับไป




    “ริทว่าเราไปนั่งชิงช้าสวรรค์กันเถอะ” ริทพูดจบก็จูงมือกันเดินไปทันที กันเองก็ทำได้เพียงมองมือเล็กที่กำลังมือเค้าอยู่

    และในระหว่างที่ทั้งคู่ได้ขึ้นไปอยู่บนชิงช้าสวรรค์เรียบร้อยแล้วและแถมยังหมุนไปได้สัก2-3รอบแล้วเกิดเหตุการณ์ของการ

    ขัดข้องของเครื่องจักรทำให้กระเช้าหยุดชะงักอย่างรวดเร็ว


    “อ่ะ  พี่โน่ ริทกลัว” ริทเอ่ยออกมาด้วยความตกใจและโผล่เข้ากอดคนตรงหน้าทันทีแต่คนๆนี้ไม่ใช่พี่โน่แต่เป็นกันต่างหาก

    สิ่งที่กันกำลังเผชิญอยู่ก็คือความเจ็บปวด เจ็บเพราะรักคนนี้ๆ เจ็บเพราะอีกคนก็พี่ชาย เจ็บที่อยู่ตรงนี้แต่ผิดเวลาที่จะมาอยู่


    “ริทกลัว ริทกลัว” ริทยังร้องด้วยความกลัวและตกใจจนไม่เงยขึ้นมามองว่าคนที่กำลังกอดอยู่คือเพื่อนของเค้าต่างหากล่ะ


    “ริทกลัวอะไร” เสียงของโตโน่ที่เอ่ยถามดังขึ้นมาในหูเพราะกันกดโทรศัพท์ไปหาพี่ชายของตน


    “พี่โน่!” ริทเอ่ยเรียกเพราะตั้งสติได้จึงเงยหน้าขึ้นมามองคนที่กำลังกอดอยู่


    “ป่าวหรอกครับ พอดีเมื่อกี้เกิดเหตุขัดข้องของเครื่องเล่นนิดหน่อยครับ พอดีว่ากันพามาเที่ยวงานวัดครับ” ริทเอ่ยไปยังปลาย


    สายและขณะนี้คนทั้งสองคนก็นั่งอยู่คนละมุมของกระเช้า อีกคนตกใจที่ทำเรื่องหน้าแตกและกำลังตั้งใจคุยโทรศัพท์กับคน


    รัก ส่วนอีกคนนั่งทอดสายตาไกลออกไปพร้อมกำลังสกัดกั้นน้ำตาที่กำลังจะไหลออกมาและเป็นจังหวะเดียวที่เครื่องเล่น


    ชนิดนี้ทำงานต่อและเมื่อหมดรอบของทั้งคู่ก็เข้าสู่ภาวะเงียบงันของคนทั้งคู่เช่นกัน


    “ขอบใจนะ” ริทยื่นโทรศัพท์คืนให้กันพร้อมกับเอ่ยขึ้น


    “ไม่เป็นไร นี่ก็ดึกแล้ว กลับกันเถอะ” กันรีบตัดบทชวนริทกลับบ้านทันที ดูเหมือนมาไม่ได้ทำอะไรเลยแต่การซ่อมเครื่องก็

    กินเวลาไปนานจนน่าเบื่อเลยทีเดียว



    “อืม  กลับกันดีกว่า ริทเริ่มเบื่อๆแล้วเหมือนกัน” ริทพูดจบก็เดินนำหน้ากันไปที่รถ  ริทเองก็อยากจะขอโทษเรื่องที่เกิดขึ้นแต่

    ก็ไม่รู้จะเริ่มยังไงเพราะเค้าก็ผิด  ผิดที่ทักผิดคน ผิดที่ทำให้กันไม่สบายใจดูจากสีหน้าแล้ว

    “กัน ริทขอโทษนะเรื่องที่เกิดขึ้นอ่ะ” ริทที่นั่งนิ่งอยู่นานก็เอ่ยขึ้น




    “ไม่เป็นไรๆ กันต้องดูแลริทให้ดีตามคำสั่งของพี่โน่อยู่แล้ว”กันตอบก่อนที่หันไปยิ้มให้ริท


    8 เดือนผ่านไป


    ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา กันเริ่มจะชินกับอาการแอบรักแฟนพี่ชายและเหมือนจะยอมรับพร้อมทำใจได้แล้วว่า ยัง



    ไงคนอย่างเค้าคงไม่มีวันได้หัวใจจากริทแน่นอน ส่วนริทเองก็ยังคงติดต่อกับโตโน่แทบทุกวัน ความรักสุกงอม



    เข้าใจกันหวานซะมดจะเป็นเบาแทนเสียเองซึ่งอยู่ในสายตาของคนที่แอบรักตลอดเวลา



      ขณะที่กันกำลังจะไปรับริทเพื่อไปเรียนจึงแวะซื้ออาหารเช้าเข้าไปให้แต่ในระหว่างนั้นมีเด็กคนนึงกำลังเดินอยู่แต่


    ไม่ทันได้มองรถที่วิ่งมาอย่างเร็วทำให้เกิดจะชนเด็กคนนั้นแต่ทว่ากันเข้าไปคว้าตัวเด็กออกมาเสียก่อนทำให้ตัวเอง


    ถูกรถชนเข้าอย่างจัง




    โครม!!!!!!!!



    “คุณค่ะๆ” เสียงของผู้หญิงที่เป็นแม่คนเด็กคนนั้นวิ่งเข้ามาดูอาการของกัน ผู้หญิงคนจึงโทรเรียกรถพยาบาลเมื่อ


    ถึงโรงพยาบาลกันก็ถูกส่งเข้าห้อง ICU ทันที พร้อมกับนางพยาบาลก็โทรหาคนที่กันติดจ่อคนล่าสุดซึ่งคนๆนั้นก็


    คือ ริท


    “ครับ ผมจะรีบไปเดี๋ยวนี้” ริทวงสายก็รีบออกไปโรงพยาบาลทันที


    “กัน”ริทที่วิ่งมาหน้าตาตื่นก็ตะโกนเรียกเพื่อนของเค้าทันที


    “พยาบาลตรวจเช็คคลั่งเลือดด่วน คนไข้เสียเลือดมาก” หมอที่เปิดประตูออกมารีบตะโกนบอกพยาบาลทันที


    “หมอครับ ใช่คนไข้ที่ถูกรถชนใช่มั้ยครับ” ริทรีบถามหมอทันที


    “ใช่ครับ” หมอรีบตอบก่อนที่จะรีบเดินเข้าไปในห้อง


    “ผมเป็นเพื่อนเค้า ผมจะให้เลือดเค้า” ริทรีบบอกทันที


    “ผมกรุ๊ปเลือดเดียวกับเค้า” ริทรีบตะโกนอีกครั้ง


    “พยาบาลพาคุณคนนี้ไปให้เลือดคนไข้ด่วน” หมอหันมาสั่งพยาบาลที่ตามมาด้วย


    ผมนอนมองคนทากำลังถูกให้เลือด  คนที่เสื้อผ้าเต็มไปด้วยเลือด  มองคนที่ถูกรุมล้อมด้วยหมอและพยาบาล

    “กัน อย่าเป็นอะไรนะ ริทกำลังให้เลือดกันนะ” คนที่นอนให้เลือดเอ่ยขึ้น


    “กัน ตื่นขึ้นมาก่อนนะ” คนๆนี้ยังคงนอนมองเพื่อนที่ไร้สติอยู่บนเตียงในห้องข้างๆ

    “ริท ริท” เสียงของกันเอ่ยเรียกหลังจากที่ตัวเองออกมาจากห้องไอซียู


    “กัน” ฟื้นแล้วหรอ” ริทเอ่ยขึ้นถาม


    “กันเป็นไงบ้าง ยังปวดหัวอยู่หรือเปล่า” ริทเอ่ยถามเพื่อนของเค้าที่กำลังตื่นจากห้วงนิทราหลังจากที่ย้ายออกจากโรง

    พยาบาลแล้วและตลอดระยะเวลาริทเองก็คอยดูแลกันมาเสมอๆจนกระทั่งย้ายออกมาพักฟื้นที่บ้าน


    “ดีขึ้นแล้วแหละ ไม่ปวดหัวแล้ว” กันตอบก่อนที่ขอตัวไปธุระส่วนตัว


    “ยังเจ็บอยู่มั้ย ? ” ริทยืนและพยายามจับศรีษะของกันที่มีผ้าพันแผลพันไว้โดยรอบ


    “ไม่ค่อยเจ็บแล้วแหละ” กันเอียงหัวเล็กๆเพื่อหลบมือของริทและแตะเบาๆที่มือของริทเพื่อบ่งบอกว่าไม่เป็นไร เพราะไม่

    อยากอ่อนแอเพราะความรักไปมากกว่านี้ ตัวเองก็ต้องคอยบอกตัวเองอยู่เสมอว่า ริท เป็นแฟนของพี่ชาย


    “งั้นเดี๋ยวริททำแผลให้นะ” ริทพูดจบก็เดินไปหยิบอุปกรณ์ทำแผลมาทันที


    “ไม่เป็นไร เราทำเองได้” กันทักท้วงและแย่งอุปกรณ?ทำแผลจากมือของริท


    แล้วกันจะทำได้อย่างไรล่ะ ตัวเองจะเห็นแผลหรอ” ริททักท้วงกับการกระทำของกันเช่นกัน


    “ ก็ทำแผลหน้ากระจกไง” กันพูดจบก็จะเดินไปที่หน้ากระจกทันที


    “นั่งนี่แหละ ก็บอกว่าเดี๋ยวจะทำแผลให้” ริทแอบดุเล็กน้อยและรั้งร่างให้กันนั่งกับที่


    “เดี๋ยววันไหนริทไม่อยู่ กันจะได้ทำเองไง” กันพูดขึ้น


    “ริทก็อยู่กับกันทุกวันนี่แหละ ริทจะไปไหนล่ะ” ริทพูดไปทำแผลไป


    “อ่ะ เสร็จแล้ว” ริทพูดเมื่อทำแผลเร็จเรียบร้อย


    “ขอบใจนะ” กันเอ่ยขอบใจ


    “ไม่เป็นไร งั้นเดี๋ยวอะไรให้กินนะ” ริทพูดจบก็เตรีบมเดินออกจากห้องของกัน


    “เราไม่ได้ป่วยหนักอะไรนะ เดี๋ยวเราหาเองดีกว่า” กัรเอ่ยก็ลุกขึ้นและเดินออกจากห้องก่อนริท


    “จะเอาอย่างนั้นหรอ ตามใจคนเค้าอยากดูแลยังจะดื้ออีก” ริทพูดตามหลังและเดินลงตามกันไป


    “ริท.. กันว่าพรุ่งนี้เราไปเรียนได้แล้วแหละ” กันพูดระหว่างนั่งเล่นชิวๆที่โซฟา หลังจากที่ทานข้าวเช้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว


    “ไม่ต้องเลย รอให้แผลหายก่อนแล้วค่อยไป” ริทพูดเชิงออกคำสั่ง


    “แต่เบื่อแล้วนะ อยากไปเรียน” กันเถียงกลับมา


    “ทนหน่อยดิ” ริทหันมาค้อนควับพร้อมกับออกคำสั่งอีกครั้ง

    “กลับบ้านก่อนนะ พรุ่งนี้จะมาทำแผลให้แต่เช้าแล้วก็จะเอาชีทวิชาที่กำลังจะสอบมาให้ด้วย” ริทพูดก่อนที่จะเดินออกจาก

    บ้านของกัน


    “ขอบใจนะ ที่มาดูแลตลอดเลย” กันตะโกนออกไป


    “ไม่เป็นไร เราเป็นเพื่อนกันนี่” ริทตะโกนกลับมา


    เค้าคนนั้นจะรู้บ้างมั้ยว่าเพื่อนของเค้าคนนี้มันไม่ได้คิดอะไรอย่างนั้นเลยสักนิด

    เช้าวันใหม่


    เช้าวันนี้คนเจ็บคนนี้ตื่นแต่เช้าเพราะเมื่อคืนฝนตก บรรยากาศน่านอน เลยนอนเต็มอิ่มหลังจากที่ตื่นทำธุระส่วนตัว

    เรียบร้อย



    แล้วก็ได้รับข้อความจากใครอีกคนที่บอกว่าจะมาหาแต่เช้า

    “ กำลังจะออกจากห้องแล้วนะ รอแป๊บบบบบ !!”


    และอีกไม่ถึง 5 นาที

    “ฝนตกหนักมาก รอก่อนนะ !!!”

    ข้อความนี้ทำให้กันรีบออกจากบ้านทันทีเพราะ รู้ว่าถ้าฝนตก ริทจะกลัวเสียงดังของฟ้ามาก ทำให้กันรีบขับรถไปหาทันที

    อีกมุมของกรุงเทพ



    ก๊อก ก๊อก ก๊อก



    “มาแล้วคร้าบ” เสียงของริทที่ดังมาแต่ไกลก่อนจะเปิดประตูห้อง


    “พี่โน่!!” ริทเรียกชื่ออย่างตกใจแทบไม่เชื่อสายตาตนเองว่าคนๆนี้จะมายืนอยู่ตรงหน้าห้องขอตัวเองได้


    “ริท...คิดถึงจัง” โตโน่พูดจบก็ดึงร่างของริทเข้ามากอด


    “ริทก็คิดถึงพี่โน่ครับ”ริทเอ่ยออกไป


    “แล้วพี่โน่มาได้อย่างไรเนี่ย” ริทเอ่ยถามพร้อมกับจูงมือคนรักเดินเข้าห้อง


    “ก็ช่วงนี้เป็นช่วงที่มหาลัยมีเทศกาลสัมมนาของอาจารย์น่ะ เลยกลับมาหา” โตโน่อธิบายก่อนที่นั่งลงที่โซฟา


    “แล้วไอ้กัน น้องชายพี่หล่ะ” โตโน่เอ่ยถามถึงน้องชายของตน


    “กันอยู่บ้านครับ ตอนแรกกำลังจะไปหาแต่ฝนตกหนักเลยยังไม่ไป” ริทอธิบาย


    “ริท..พี่เริ่มหิวแล้วอ่ะ” โตโน่แสดงท่าทีให้เห็น


    “งั้นรออยู่ตรงนี้นะครับ เดี๋ยวริทจะไปหาอะไรให้กินนะ” ริทพูดจบก็เดินเข้าไปในครัว


    “คิดถึงเมืองไทยมากอ่ะ” โตโน่พูดไปดูทีวีไป


    “แล้วพี่โน่มาอยู่กี่วัน” ริทเอ่ยถามออกมา


    “อยู่ประมาณ 3-4 วันน่ะ” โตโน่ตอบฃ


    “มาแล้วๆ” ริทเดินถือถ้วยบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่เข้าไมโครเวฟเรียบร้อยแล้วออกมา


    “น่ากินเหมือนกันนะเนี่ย แต่ว่าบะหมี่กึ่งฯอีกแล้วหรอ” โตโน่ถามพร้อมกับทำหน้ามุ่ย


    “ก็มีอยู่แค่นี้เหมือนกันอ่ะ” ริทตอบก่อนที่วางถ้วยลงที่โต๊ะ


          อีกมุมหนึ่ง กันที่เป็นห่วงริทกลัวจะอยู่คนเดียวไม่ได้เพราะกลัวเสียงดังของฟ้าก้เดินมาถึงคอนโดของริทเรียบร้อยแล้ว

    ทันทีที่ก้าวออกจากลิฟต์ที่ขึ้นมาส่งยังชั้นที่ห้องของริทอยู่ กันก็รีบเนแทบจะวิ่งด้วยซ้ำเพราะตอนนี้ฝนตกหนักกว่าเดิมเสียอีก


    “ริ....ท” กันรีบเปิดประตูเข้าไปแต่ก็ต้องทำอะไรไม่ถูก เรียกชื่อไม่ออกเพราะเห็นพี่ชายของตนกำลังยืนกอดริทอยู่


    ภาพของโตโน่ที่กำลังก้มลงไปหอมแก้มริท เห็นภาพของทั้งคู่กำลังกอดกัน พูดคุยกันอย่างมีความสุขทำให้กันรู้ตัวทันทีว่ามา

    ผิดเวลาและรีบปิดประตูทันที

    ฝนตกหนักมาก รอก่อนนะ !!!


    ข้อความเก่าเมื่อเช้าที่กันเปิดดูทำให้น้ำตาใสๆเริ่มหนักที่ดวงตา

    “ให้รอทำไม ในเมื่อคนของคุณก็มาแล้วนี่” เสียงของกันที่พูดพร้อมกับกำมือแน่นเพื่อเป็นการสกัดกั้นน้ำตาไม่ให้ไหลมาทำ

    ให้กันต้องรีบเดินออกมาจากที่ตรงนั้นอย่างรวดเร็วและเมื่อออกจากคอนโดริทได้ก็เหยียบเร่งของความเร็วของรถเพื่อให้

    พ้นๆจากที่ตรงนี้และเมือถึงบ้านเรียร้อยแล้วแต่ยังไม่ทันที่จะเข้าไปจอดในโรงรถก็ได้รับข้อความอีกครั้ง

    “วันนี้ไปหาไม่ได้แล้ว ฝนตกหนักมาก ดูแลตัวเองดีๆนะ ทำแผลเองก็ระวังด้วยนะ เป็นห่วง คิดถึงนะเว้ย”

    ข้อความที่ริทส่งมาจากความรู้สึกเพราะตลอดระยะเวลาที่ผ่านมามันเป็นความรู้สึกผูกพันแต่ต่างกันตรงที่ อีกคนแสดงความ

    รู้สึกจากหัวใจและอีกคนคือความรู้สึกของเพื่อน แต่ก็ไม่รูเว่าความผูกพันทั้งหมดสงสัยจะเริ่มทำให้ใจของใครอีกคนเริ่มหวั่น

    ไหวเสียแล้วแต่เพียงเจ้าตัวไม่รู้ก็เท่านั้นเอง

    กันมองโทรศัพท์ในมือแทบจะเขวี้ยงทิ้งลงกับพื้นด้วยซ้ำไปกันลงจากรถทันทีและเดินลงจากรถเดินตากฝนเพื่อให้น้ำฝนชะ

    ล้างน้ำตาออกไป


    “ต่อไปนี้คงไม่ต้องรบกวนใครมาล้างแผลให้อีกแล้ว” กันพูดไปเดแผลตัวเองที่หน้ากระจกไป


    “ต่อไปนี้อยู่คนเดียวอย่างเดิมก็ไม่เห็นจะเป็นอะไรไปเลย” กันพูดบอกกับตัวเอง


    กัน...ที่ยังตัวเปียกที่นั่งทำแผลอยู่ก็ต้องตกใจอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงของริท


    “กัน..ตากฝนทำไมเดียวก็ไม่สบายหรอก”ริทที่เดินเข้ามาก็เอ่ยถามทันทีเมื่อเห็นสภาพของกัน


    “แล้วไปไหนมา รถถึงได้จอดอยู่ข้างนอก” ริทยังคงเอ่ยถามไม่เลิกและแถมยังไปหยิบผ้าขนหนูผืนเล็กมาเช็ดผมให้กัน


    “ตอนนี้อย่าเพิ่งทำแผล ไปอาบน้ำก่อนเดี๋ยวจะทำแผลให้” ริทพูดจบก็เดินไปหยิบผ้าขนหนูมาให้กัน


    “ดูซิ แผลเปียกหมดแล้ว ไปตากฝนทำไมเนี่ย”หลังจากที่กันไปอาบน้ำตามคำสั่งแต่โดยดีก่อนที่จะมานั่งให้ ริทแกะผ้าพัน

    แผลเดิมออกพนร้อมกับมีการแอบดุเล็กน้อย


    “ไม่ต้อง!” กันตวาดออกมาขณะที่ริทกำลังจะใช้สำลีเช็ดแผลให้


    “อย่ามาทำอย่างนี้อีกเลย กันขอร้อง”กันบอก


    “หมายความว่ายังไง” ริทถามอย่างงงๆ


    “อย่ามายุ่งกับเราอีก ออกไปจากชีวิตเราสักที” กันเอ่ยออกมา


    “กัน!” ริทเอ่ยเรียกอย่างตกใจ


    “ทุกวันนี้ ริทมาทำอย่างนี้ทำไม” กันเอ่ยถาม


    “ก็เราเป็นเพื่อนกัน ริทเป็นห่วงกัน” ริทตอบกลับมา


    “ไม่ต้องมาเป็นห่วง แค่นี้ไม่ตายหรอก”กันพูดออกไป


    “ที่จริง วันนี้มาไม่ได้ไม่ใช่หรอแล้วมาทำไม”กันถามกลับไปโดยไม่มองหน้าริทแม้แต่น้อยเพราะรู้ว่าริทอยู่กับใคร


    “กลับไปซะเถอะ เราอยู่คนเดียวได้” กันออกปากไล่ทันทีและเดินออกจาห้องของตัวเอง


    “ริท...คิดถึงกัน”กันต้องชะงักเพราะสิ่งที่ตัวเองได้ยิน


    “คิดถึงผิดคนแล้วมั่ง” กันท้วงกลับไป


    “ไม่..ริทคิดถึงกันจริงๆ” ริทยังคงยืนยันคำพูดเดิม


    “แล้วจะมาคิดถึงกันทำไม กันไม่ใช่พี่โน่ ไม่ใช่คนรักของริทแล้วจะมาคิดถึงทำไม" กันยังคงเอ่ยถามเพื่อหาคำตอบ


    “ริทก็ตอบไม่ได้หรอกนะแต่ทำไมเวลาที่ไม่เจอกันแล้วมันรู้สึกขาดหายอะไรไปในชีวิต” ริทพยายามอธิบาย


    “อย่ามาทำให้ใครคนนี้รู้สึกไม่ดีอีกเลย ทุกวันก็ทำผิดมากพอแล้ว”กันหันมาพูดกับริทพร้อมทั้งที่ดวงตากำลังมีน้ำใสๆเอ่อล้น


    “ทุกวันนี้เพื่อนคนนี้ก็ตายเพราะความรู้สึกตัวเอง ไม่อยากทำลายความรักของเพื่อนและพ่ชายนักหรอก คนนี้ไม่อยากแอบ

    รักเพื่อนตัวเอง ไม่อยากทำให้พี่ชายตัวเองเสียใจ ไม่อยากให้ความรักของใครต้องพัง”กันระบายความรู้สึกของตัวเองมาทั้ง

    หมด


    “ริทรู้มั้ยว่าคนนี้ที่ริทเรียกว่าเพื่อน มันแอบรักริทมาตลอด มันแอบรักแฟนพี่ชายตัวเองมาตลอดเวลา รู้มั้ยว่ามันทรมาน” กัน

    ระบายความรู้สึกทั้งน้ำตาส่วนคนฟังก็ยืนอึ้งรวมทั้งพี่ชายที่ยืนอยู่หน้าห้องที่จะมาเยี่ยมน้องชาย จะกลับมาบ้าน


    “การที่ริทบอกว่าเวลาไม่ได้เจอกันแล้วเหมือนอะไรขาดหายไป รู้บ้างมั้ยมันจะให้ความหวังคนๆนี้ให้ใจมันคิดเกินไปมากกว่า

    นี้ ต่อไปนี้ก็อย่าเจอกกันอีกเลย ขอโทษที่ใจมันไม่รักดี ขอโทษที่ใจมันคิดเกินเลย” กันพูดจบก็เปิดประตูห้องจะเดินออกไป

    แต่ก็ต้องชะงักเพราะพี่ชายของตนยืนอยู่


    “พี่โน่!” เสียงของริทและกันเรียกพร้อมกันด้วยความตกใจ


    “ช่วยเอาคนของพี่ออกไปจากชีวิตผมที่ ผมจะได้ไม่ต้องทรยศใครอีก”กันพูดจบก็หยิบกุญแจรถตรงโต๊ะหัวเตียงแล้วรีบขับ

    รถออกไปทันทีส่วนคนอีก 2คนที่ยืนนิ่งต่งมองกันไปมาไม่มีคำถามหรือคำพดจากปากของใครเลย

    “ริทรักใครกันแน่?” คำถามใจใจของโตโน่

    “พี่โน่ ริทกำลังสับสน” คำพูดที่ริทอยากบอกโตโน่

    สิ่งเหล่านี้ก็อยู่แต่ในใจของคนทั้งคู่เท่านั้น ไม่มีใครจะเอ่ยมันออกมา



    3 ปีผ่านไป





    เวลาผ่านมานานแล้วเช่นกันยังไม่มีใครรู้ว่าอีกคนไปอยู่ที่ไหน ไม่มีการติดต่อกลับมาอีกเลย สาวนโตโน่ก็เรียนจบจึงย้ายมา

    อยู่ที่เมืองไทยและความรักของทั้งคู่ต่างก็ก็โกหกว่ายังรักกันอยู่เหมือนเดิม


    โตโน่ก็โกหกหัวใจตัวเองว่า ริท ยังรักเค้าเหมือนเดิมและตัดสินใจย้ายมาเรียนที่เมืองไทยเพื่อดูแลความรักและประคอง

    ความรักต่อไป


    ส่วนริทที่สับสนว่าตัวเองรักใครกันแน่ก็ได้ใช้เวลาอยู่กับตัวเองและมีโตโน่อยู่ข้างๆก็เหมือนจะรู้ว่าตัวเองรักโตโน่เหมือนเดิม

    ทำให้พยายามประคองความรักให้สวยงามต่อไป แต่ทำไมถึงเรียกว่ากำลังโกหกตังเองก็เพราะตลอดเวลาที่ริทแสดงออกกับ

    โตโน่จะทำเหมือนที่แสดงกับกันทุกอย่างมาว่าจะเป็นการโทรรายงานว่าตัวเองอยู่ไหนเพราะตลอดเวลาที่ริทอยู่กับกัน ริทจะ

    โทรรายงานกันตลอดว่าอยู่ไหนเพราะกันสั่ง


    “พี่โน่ริทอยู่บ้านเพื่อนนะ กำลังทำรายงานอยู่” ช่วงแรกๆที่ริทกระทำเช่นนี้กับโตโน่ก็แอบตกใจเบ็กๆเพราะปกติแล้ว ริทจะไม่

    ชอบรายงานอะไรหรือบ่งบอกอะไรมากนักเค้าจะชอบใช้เวลาได้อยู่กับเพื่อนอย่างเต็มที่ถ้าถึงเวลาที่ต้องแยกย้ายกับเพื่อน

    ถึงค่อยโทรหาโตโน่  ริทกระทำเช่นนี้มาโดยตลอดระยะเวลที่ผ่านมาเพื่อจะทดแทนใครบางคนที่ทิ้งเค้าไป


    “พี่โน่เช้าแล้ว ตื่นได้แล้ว” ทุกเช้าจะโทรไปปลุกโตโน่ทุกเช้าเพราะติดนิสัยจากการโทรปลุกกันให้ตื่นตอนเช้าเพราะรู้ว่ากัน

    เป็นคนขี้เซาซึ่งต่างจากโตโน่ที่เป็นคนตื่นแต่เช้าและทุกเช้าเช่นกันที่โตโน่จะตื่นก่อนที่ริทโทรมาปลุก


    ซึ่งตอนนี้ต่างคนต่างก็รู้แล้วว่ากำลังโกหกใจตัวเองกันอยู่ โตโน่ก็รู้ว่าริทไม่มีใจให้กับเค้าแล้วส่วนริทเองก็เหมือนจะรู้ว่าที่ทำ

    ลงไปเพื่อจะลืมใครอีกคนเท่านั้น


    “พี่โน่/ริท” เสียงเอ่ยเรียกชื่อที่ดังพร้อมกัน


    “ริทพูดก่อนเลย” โน่ให้ริทบอกธุระมาก่อน


    “ริท…ว่าเราสองคน…เลิกกันเถอะ ! ” ริทพูดยังไม่ทันที่จะหมดประโยคก็ถูกโตโน่ชิงพูดตัดหน้าเสียก่อน


    “พี่โน่รู้” ริทเอ่ยถามอย่างกังวล




    “พี่ไม่อยากฝืนหัวใจของริท พี่รู้ว่าริทไม่มีใจให้พี่แล้ว ในเมื่อไม่ได้รักกันแล้วก็อย่ารั้งอีกเลย”โตโน่อธิบายอย่างเข้าใจว่าคน

    รักของตนเป็นอย่างไร


    “พี่โน่ ริทขอโทษ ริทไม่รู้จริงๆว่ามันเป็นยังนี้ได้ยังไง”ริทเอ่ยขอโทษ


    “ไม่เป็นไรหรอก ความรักมันไม่เข้าใครออกใครจริงๆ” โตโน่เอ่ยอย่างเข้าใจ


    “พี่คืนหัวใจให้ริทแล้วไปตามหาคนที่เป็นเจ้าของหัวใจของตัวเองซะนะ” โตโน่พูดจบก็ยิ้มให้ริท


    “แต่ไอ้น้องชายพี่คนนี้มันก็ไม่คิดจะติดต่อมาเลย คงจะยากหน่อยนะ”โตโน่เอ่ยถึงกัน น้องชายที่เป็นคนที่ริทรักไปที่เรียบ

    ร้อยแล้ว


    “ขอบคุณนะครับที่เข้าใจริท ริทขอโทษนะครับ”ริทเอ่ยขอโทษอีกครั้ง


    “กันเป็นคนที่ชอบอะไรที่ไม่ปรุงแต่ง ก็ลองไปตามหาดูแล้วกันนะ” โตโน่บอกก่อนที่เดินออกไป


    “กันรอริทก่อนนะ” ริทเอ่ยขึ้นก่อนจะขับรถมุ่งหน้าไปยังสถานที่ที่เคยไปด้วยกัน

    หวังว่าเค้าทั้งคู่จะได้ใช้หัวใจได้รักกันจริงๆเสียทีหรือไม่ใครอีกคนก็อยากจะบอกว่า

    "ไม่รักก็อย่าทำให้คิด"

    เหมือนเพลงที่ดังขึ้นระหว่างการเดินทางตามหาหัวใจ

    ขอให้เจอกันหน่อย ได้ปลดปล่อยฉันไป  อย่าให้ฉันงมงายกับเธอเหมือนเดิมอีกได้ไหม

    ขอให้สงสารกันหน่อย ก็มันเหนื่อยหัวใจ เธอทำให้ฉันจะเป็นจะตาย มากมายเพราะรักเธอ



    ไม่ต้องดีกับฉันอย่างนั้นมากไป ขอบใจ หากไม่คิดอะไรจริงๆ ก็อย่าเล่นแบบนี้

    ใจของฉันมันไม่เก่งพอ เก็บอะไรงงๆ เช่นนี้บอกให้รู้ความจริงสักทีให้พอเข้าใจ


    ถ้าหากเธอไม่รัก ก็อย่าทำแบบนั้นให้คิด ให้มันชัดไปเลยว่าสองเราในวันนี้คบกันแบบไหน

    ถ้าหากเธอไม่รัก ก็ช่วยทำเหมือนคนอื่นทั่วไป เธอไม่ต้องเกรงใจหรือกลัวว่าฉันจะเสียใจ




    ไม่ต้องโทรมาบ่อย ก็ไม่อยากคิดไกล ไม่ต้องคิดถึงกันเลยได้ไหม ถ้าเธอจะไม่รัก

    ไม่ต้องทำเป็นห่วง ให้ลำบากหัวใจ ปล่อยให้ฉันเหงาคนเดียวเรื่อยไป ยังดีกว่าพบกัน



    ไม่ต้องดีกับฉันอย่างนั้นมากไป ขอบใจ หากไม่คิดอะไรจริงๆ ก็อย่าเล่นแบบนี้

    ใจของฉันมันไม่เก่งพอ เก็บอะไรงงๆ เช่นนี้ บอกให้รู้ความจริงสักทีให้พอเข้าใจ
     


    ถ้าหากเธอไม่รัก ก็อย่าทำแบบนั้นให้คิด ให้มันชัดไปเลยว่าสองเราในวันนี้คบกันแบบไหน
     
    ถ้าหากเธอไม่รัก ก็ช่วยทำเหมือนคนอื่นทั่วไป เธอไม่ต้องเกรงใจหรือกลัวว่าฉันจะเสียใจ



    ถ้าหากเธอไม่รัก ก็อย่าทำแบบนั้นให้คิด ให้มันชัดไปเลยว่าสองเราในวันนี้คบกันแบบไหน

    ถ้าหากเธอไม่รัก ก็ช่วยทำเหมือนคนอื่นทั่วไป เธอไม่ต้องเกรงใจหรือกลัวว่าฉันจะเสียใจ




    ถ้าไม่รักกันจริงก็อย่าทำให้ฉันคิดเลย

    .............................................................................................................................................................................................................


    Writer Talk

    จบแบบ งงๆ เนอะ ^^ เอา SF มาฝากหลังจากที่หายไปนานมากๆๆๆๆๆๆๆ


    ไม่รู้ว่าชอบกันหรือเปล่า ถ้าไม่ถูกใจก็ขอโทษด้วยนะคะ ^^

    ถ้าคำผิดตรงไหนขอโทษด้วยนะคะ

    ปล. เพลง ไม่รักอย่าทำให้คิด เป๊ก ผลิคโชค




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×