ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    พรแห่งทะเลใต้กับเจ้าชายมนตรา

    ลำดับตอนที่ #2 : BLESS 2 : พรที่ปรารถนา

    • อัปเดตล่าสุด 18 ก.ย. 50



    BLESS 2 : พรที่ปรารถนา

            "ริน...  ริน...  ริ๊น!"
        
            เสียงเรียกที่ดังแสบแก้วหูในตอนท้ายทำเอาหญิงสาวเจ้าของเรือนผมหยักศกสีดำสะดุ้งเฮือก  พอหันไปก็เห็นเพื่อนของตัวเองกำลังทำหน้ามุ่ย

            "ได้ยินแล้วเหรอยะ  ฉันนึกว่าเธอยืนหลับไปแล้วซะอีก"  หยิงสาวร่างสูงยืนเท้าเอว  ผมสีน้ำตาลแดงซอยสั้นประบ่าทะมัดทะแมง  นัยน์ตาสีสนิมมีแววประชด

            "ฮะๆ  ใครจะหลับได้จ๊ะแอนิต้า  ในเมื่อเบื้องหน้าของเราตอนนี้คือหนึ่งในหาดที่สวยที่สุดของเมืองรีแดม(Redam)"  ริน  อาร์กวินผายมือไปยังท้องทะเลสีคราม  ผืนน้ำต้องแสงแดดยามสายเป็นประกายระยับ  ผมหยักศกสีดำยาวถึงกลางหลังของเธอถูกพัดจนยุ่งเหยิง

            "ย่ะ  ไม่หลับแต่ยืนซะนิ่งเชียว  ถ้าไม่รู้จักกันฉันคงนึกว่าเธอเป็นคนอินเลิฟกำลังคิดถึงแฟน  เรียกตั้งนานก็ไม่หัน"  อนิต้าว่าเปรียบเทียบอย่างไม่จริงจังนัก  หารู้ไม่ว่ามันกระทบใจรินอย่างแรง  หญิงสาวหวนนึกถึงความฝันที่ทำให้ตนครุ่นคิดจนตกอยู่ในภวังค์เมื่อครู่นี้  ความฝันที่ว่าเธอกำลังรอใครบางคนอยู่  ฉับพลันนั้น  เธอรู้สึกได้ถึงความถวิลหาที่เริ่มท่วมท้นขึ้นภายในหัวใจ  คนที่เธอคิดถึงคือใครกันนะ  ทุกครั้งที่เธอฝันซ้ำถึงเหตุการณ์นี้  เธอก็มักจะตั้งคำถามดังกล่าวกับตัวเองทุกครั้ง

            "เป็นอะไรเหรอริน"  อนิต้าถามเสียงอ่อนลงด้วยความห่วงใยเมื่อเห็นใบหน้าของเพื่อนหมองลงอย่างกะทันหัน  นัยน์ตาสีดำของรินมีแววสลดแฝงอยู่  

            "ไม่มีอะไรหรอก"  รินเงยหน้าบอกอนิต้าที่ตัวสูงกว่าเธอมาก  ฝืนยิ้มออกมานิดหนึ่ง  ไม่เป็นไรน่า  รินบอกกับตัวเอง  มันก็แค่ความฝัน...ที่ฝันถึงบ่อยๆเท่านั้นเอง

            "เชริสกับโฮลาฟอยู่ที่ไหนเหรอ"  รินถามถึงเพื่อนอีกสองคน

            "โน่นนนไง"  อนิต้าตอบลากเสียงยาว  มือก็ชี้ไปยังร้านริมหาด  รินมองตามไปก็เห็นเพื่อนอีกสองคนของเธอกำลังนั่งอยู่ที่ชุดเก้าอี้ริมหาด  พูดคุยกันอย่างเพลิดเพลินโดยไม่สนใจอาหารบนโต๊ะ  บรรยากาศรอบตัวคนทั้งคู่ดูเหมือนจะกลายเป็นสีชมพูไปในทันใด

            "หลบแดดร้อนไปสร้างโลกส่วนตัวกันอยู่สองคน  หวานจนฉันกินข้าวไม่ลงต้องเผ่นมาหาเธอนี่นี่แหละ"  อนิต้าถอนใจแรงด้วยความขัดเคือง  "อุตส่าห์รวมก๊วนมาเที่ยวปิดเทอมที่ทะเลใต้ได้ทั้งที  ดันมาสวีทกันแค่สองคนซะนี่  ไม่ได้สนใจคนโสดอย่างเราบ้างเล้ย"

            รินฟังเสียงเพื่อนบ่นกระปอดกระแปดอย่างขำๆ  ช่วยไม่ได้เลย  คนเป็นแฟนกันก็ต้องอยากจะใช้เวลาอยู่ร่วมกันเป็นธรรมดา  พลพรรคคนโสดอย่างพวกเธอจึงรู้สึกเป็นส่วนเกินไปโดยปริยาย

            "เพราะงั้นเราก็ไปเที่ยวกันบ้างเถอะ"  อนิต้าชวน  นัยน์ตาสีสนิมเป็นประกายเหมือนเด็กซนๆ

            "ที่ไหนเหรอ"

            "นั่นไง"  อนิต้าชี้ไปทางทะเล  "เห็นเกาะนั่นไหม  เกาะยูทูเทจ(Youtotage)  อยู่ไม่ไกลเท่าไหร่หรอก  มีเรือรับจ้างไป-กลับด้วยนะ  สะดวกสบายหายห่วง"

            "เกาะยูทูเทจ?"

            "ใช่  คุณลุงคนขับเรือเล่าให้ฟังว่าที่นั่นมีที่ขอพรที่ขึ้นชื่อเรื่องทำให้ความปรารถนาเป็นจริง  รู้สึกว่าที่ขอพรจะอยู่ในถ้ำด้วย  เห็นเขาว่าที่นั่นสวยมากๆเลย  ไปนะริน  เราจ้างเรือไว้แล้วล่ะ"

            ชวนทั้งๆที่จ้างเรือไว้ก่อนแล้วเนี่ยนะ  มัดมือชกชัดๆ  สงสัยคงอยากไปเต็มที่เลยล่ะสิเนี่ย  รินแกล้งปั้นหน้าบึ้ง  "ถ้าเราบอกว่าไม่ไปล่ะ" 

            "ไม่ไปเหรอ"  อนิต้าถามเสียงอ่อยลง  "แต่เราจ้างเรือแล้วนะ  ไปเหอะนะๆ  น่าสนุกออก"  ไม่พูดเปล่า  อนิต้ายังจับมือรินเขย่าเบาๆอย่างออดอ้อน  นัยน์ตาสีสนิมปรอยละห้อย

            รินหลุดมาดขรึมยิ้มออกมาจนได้  "จ้ะๆ  ไปก็ได้"  ใช่ว่าไม่อยากไปหรอกนะ  แค่อยากจะแกล้งแหย่เพื่อนตัวสูงนิดหน่อยแค่นั้นเอง  มาทะเลทั้งทีก็ต้องเที่ยวให้เต็มที่สิ

            อนิต้าหน้าชื่นขึ้นทันตา  "เย้  รินน่ารักจังเลย"  เธอบอกด้วยเสียงเริงรื่น  คว้าเพื่อนตัวเล็กมากอดหมับด้วยความดีใจ

            "ปล่อยได้แล้วน่า  เดี๋ยวคนอื่นก็เข้าใจผิดว่าพวกเราเป็นคู่สวีททอมดี้หรอก"

            อนิต้าคลายวงแขนทันที  เธอหัวเราะร่า  ก่อนจะจูงมือรินเดินย่ำเม็ดทรายละเอียดสีทองไปยังท่าเรือเล็ก

    * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

            รินหย่อนขาลงจากเรือเล็ก  สัมผัสความเย็นสบายของน้ำทะเลที่สูงเพียงครึ่งแข้ง  เรือเล็กจะกลับมารับพวกเธอภายในหนึ่งชั่งโมง  รินเดินคู่กับอนิต้าไปยังหาดสีทองสะอาดของเกาะยูทูเทจ  บรรยากาศของที่นี่สงบเงียบกว่าหาดที่พวกเธอเพิ่งจากมา  เกาะเล็กๆนี้เต็มไปด้วยต้นไม้เขียวร่มรื่น  รินสูดลมหายใจลึกรับเอาไอทะเลเข้าไปเต็มปอด

            "ได้เวลาผจญภัยแล้ว"  อนิต้ายิ้ม  หลิ่วตาให้รินด้วยความสนุกอย่างเต็มที่  รินยิ้มรับจนนัยน์ตาสีดำของเธอเป็นประกายเช่นกัน  ได้เวลาสำรวจเกาะยูทูเทจแล้ว

            เกาะเล็กเกาะนี้ยังมีธรรมชาติที่สวยงามสมบูรณ์  สงบเงียบเป็นส่วนตัวอย่างไม่น่าเชื่อ  รินไม่เห็นคนพลุกพล่านอย่างที่เกาะอื่นเป็น  ว่ากันตามจริงแล้ว  รินไม่เห็นใครอื่นนอกจากพวกเธอ

            "แปลกจัง  ไม่เห็นเจอนักท่องเที่ยวคนอื่นเลย"  รินเปรยขณะเดินลอดผ่านกิ่งไม้

            "ก็ดีแล้วไง  แบบนี้ก็เหมือนเราเป็นเจ้าของเกาะเลยนะ"  อนิต้าที่เดินนำหน้าอยู่ออกความเห็นบ้าง  "ดูนั่นสิริน"  อนิต้าร้องบอกด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น  จนรินต้องรีบสาวเท้าตามไป  หูได้ยินเสียงน้ำดังแว่วมา  เมื่อพ้นหมู่พุ่มไม้  รินก็ได้เห็น

            น้ำตกขนาดกลางสูงราวสี่ชั้น  น้ำที่ตกลงมานั้นสะอาดบริสุทธิ์ราวน้ำทิพย์  ซ่านกระเซ็นเป็นละอองสีขาวสวย  รินมองเห็นปลาฝูงเล็กที่กำลังแหวกว่ายภายในธารน้ำใส  ก้อนหินและแมกไม้โอบล้อมน้ำตกนี้ไว้ราวกับเป็นห้องส่วนตัว

            "สวยจังเลย"  รินรินชื่นชมดื่มด่ำไปกับธรรมชาติรอบตัว  เธอวักน้ำใสขึ้นล้างใบหน้า  ความร้อนที่เกิดจากการเดินไกลมลายหายไปในพริบตา

            "ใช่  เหมือนสรรค์น้อยๆเลยเนอะ"  อนิต้าที่กำลังล้างหน้าอยู่พูดขึ้นบ้าง  "น่าเสียดายที่มีเวลาแค่นิดเดียว  เดี๋ยวไว้เราไปชวนเจลิซกับโฮลาฟมาด้วยกันอีกรอบดีกว่าเนอะ"  
            
            "อื้ม"  รินหลุดหัวเราะคิกก่อนพูด  "บรรยากาศที่นี่เหมาะแก่การมาสวีทหวานจริงๆเลยเนอะ  สองคนนั้นคงจะชอบ"

            อนิต้าปั้นหน้าบึ้ง  ย่นจมูกพูดเสียงจริงจัง  "งั้นฉันไม่ชวนแล้ว  เดี๋ยวกองทัพมดจะแห่กันมาที่นี่เพราะความหวานของสุดยอดคู่รักแห่งปี  เสียบรรยากาศสุนทรีย์ของคนโสดหมด"  พูดจบ  อนิต้าและรินก็พร้อมใจกันหัวเราะประสานเสียง  ในความเงียบของเกาะนี้  เสียงหัวเราะของพวกเธอดูเหมือนจะดังก้องไปมา

            อนิต้ามองนาฬิกาข้อมือ  เวลาล่วงเลยมาถึงครึ่งชั่วโมงแล้ว  พวกเธอเหลือเวลาอีกครึ่งชั่วโมงตามที่นัดไว้กับเรือจ้าง  "ไปหาที่ขอพรกันดีกว่า  เห็นคุณลุงคนขับเรือบอกว่าทางเข้าถ้ำอยู่ข้างหลังน้ำตกนี่เอง"

            "จริงเหรอ"  ทางเข้าอยู่หลังน้ำตกนี่นะ สุดยอดไปเลย

            "อื้ม  เขาบอกมาอย่างนั้นน่ะ  เห็นว่าศักดิ์สิทธิ์มากเลยล่ะ"  อนิต้าออกเดินนำเช่นเคย  เธอหันไปช่วยฉุดดึงเพื่อนตัวเล็กปีนก้อนหินใหญ่เป็นครั้งคราว  และแล้วพวกเธอก็ได้เห็นทางเข้า  มันซ่อนตัวอยู่หลังม่านน้ำและกลุ่มเถาวัลย์กลมกลืนไปกับธรรมชาติอย่างลงตัว  ทางเดินถายในค่อนข้างมืดสลัว  อนิต้าใช้ไฟฉายขนาดใหญ่ที่ขอยืมมาจากคุณลุงคนขับเรือกราดแสงดูทางเดินขรุขระเพื่อความปลอดภัย  มือข้างที่ว่างก็จับจูงมือรินเดินไปพร้อมๆกัน

            รินมองไปรอบๆตัว  ถ้ำที่มืดสลัวก่อให้เกิดความรู้สึกหวั่นเกรง  แต่ในขณะเดียวกันก็สวยงามด้วยธรรมชาติแห่งความลึกลับของมันจนหญิงสาวไม่อาจถอนสายตา  ผนังและหินงอกหินย้อยมีแสงระยิบระยับยามเมื่อต้องแสงไฟฉาย  บรรยากาศภายในนี้ทึบก้อง  รินพยายามเดินให้ทันอนิต้าที่ขายาวกว่าโดยไม่ให้ซุ่มซ่ามสะดุดพื้นขรุขระจนหกล้ม

           "ทางแยก"  อนิต้าหันมาบอกเป็นเชิงขอความเห็น  ข้างหน้าเธอมีทางเดินสองทางแยกซ้ายขวา  "ไม่เห็นคุณลุงบอกเลยว่ามีทางแยก  ไปทางไหนดีล่ะริน"

            "ซ้าย"  รินนบอกไปทันทีโดยไม่ลังเล  ประหลาอใจเล็กน้อยที่ตัวเองรู้สึกแน่ใจว่าต้องเดินไปทางนั้น  ทั้งๆที่เธอก็ไม่เคยมาที่นี่มาก่อน  แต่เธอก็แน่ใจว่าต้องเป็นทางซ้ายอย่างแน่นอน

            "โอเค  ทางซ้ายนะ"  ทางเดินทางซ้ายเป็นทางเดินแคบๆที่ค่อยๆลาดลง  เมื่อพ้นช่องทางเดินแคบๆจึงกลายเป็นพื้นที่โล่งว่าง  รินถึงกับเผลอกลั้นลมหายใจเมื่อเห็นภาพเบื้องหน้า

            สิ่วที่ดึงดูดสายตาของเธอนั้นอยู่ที่กึ่งกลางทะเลสาบในร่ม  รูปสลักหญิงสาวขนาดเท่าคนจริงตั้งอยู่อย่างสงบนิ่งตรงนั้น  อิริยาบถของรูปสลักคือการเยื้องก้าว  นั่นทำให้ดูเหมือนกับว่ามีหญิงสาวกำลังเดินอยู่บนผิวน้ำที่เรียบราวกระจกเงาจริงๆ  ศิลปินที่สรรค์สร้างงานชิ้นนี้จะต้องมีฝีมือเยี่ยมมากเป็นแน่  เพราะรูปสลักที่ทำจากหินสีขาวนี้ดูมีชีวิตชีวาเหมือนคนจริงๆ  ทุกเส้นสายที่แกะสลักนั้นพลิ้วไหวราวกับมีชีวิต  ใบหน้าที่ประกอบด้วยเครื่องหน้างดงาม  เส้นผมยาวถึงเข่าปลิวอย่างเป็นธรรมชาติ  ชุดกระโปรงยาวดีไซน์แปลกตาทว่าสง่างาม  ในมือถือคทาเรียวยาวร่วมเมตรครึ่ง  หัวคทาที่เป็นรูปจันทร์เสี้ยวประดับเปลือกหอยเหลือบวาวหลากสีและบางสิ่งที่ดูคล้ายไข่มุกเม็ดงาม

            "สุด...ยอด..."  อนิต้าพูดออกมาเป็นคนแรกด้วยความประทับใจ  รูปสลักนี้สามารถตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติได้อย่างกลมกลืน  ไม่ได้รู้สึกขัดแย้งแปลกแยกเลยสักนิด

            ถึงแม้รินจะไม่ได้พูดอะไร  แต่เธอก็เห็นด้วยกับอนิต้า  ที่นี่ช่างเป็นสถานที่ที่สวยงามอย่างน่าอัศจรรย์จริงๆ

            หญิงสาวทั้งสองก้าวไปหยุดยืนริมทะเลสาบราวต้องมนตร์สะกด  ตรงแท่นบูชาสี่เหลี่ยมทำจากหินสีขาวสลักขอบสวยงาม  น้ำตาเทียนจากเชิงเทียนตรงขอบแท่นไหลนองจับตัวเลอะผิวหินตัด  แต่ถึงแม้จะเลอะครบฝุ่นและน้ำตาเทียน  หญิงสาวทั้งสองก็ยังพอจะอ่านข้อความที่จารลงแท่นหินนี้ได้

                                                 "  หากท่านคือผู้มีปรารถนา
                                                  จงศรัทธาต่อมารดาแห่งทะเล
                                                    อธิษฐานตั้งมั่นไม่รวนเร
                                                  คือเวลาท่านจะสมประสงค์ใจ  "            

            ดูท่าว่าแท่นหินนี้จะเป็นที่อธิษฐานต่อ'มารดาแห่งทะเล'  รินและอนิต้า  สองสาวต่างบุคลิก  ต่างทุดตัวลงนั่งคุกเข่า  สองมือประสานตรงอก  ค่อยๆปิดเปลือกตา  สัมผัสบรรยากาศสงบเย็นของถ้ำกว้าง  สายลมที่พัดแทรกผ่านช่องหินอย่างอ่อนโยน  หยดน้ำจากหินย้อยหล่นกระทบผืนน้ำทะเลสาบเป็นวงคลื่น

            รินพยายามทำใจให้สงบ  กำลังจะขอพรเรื่องการสอบที่เพิ่งผ่านพ้นไปได้สองวัน  แต่ใจกลับประหวัดดไปถึงความฝันเมื่อคืน  หวนนึกถึงใครบางคนที่เธอเฝ้ารอมาตลอด  ...เธออยากจะพบใครคนนั้นสักครั้ง

            รินรู้สึกถึงสายลมอุ่นพัดแผ่วระผิวแก้มและเส้นผมหยักศกสีดำของเธอราวกับปลอบโยน  เธอลืมตาขึ้นช้าๆ  สบตากับอนิต้าที่มองมาก่อนแล้ว  อดไม่ได้ที่จะรู้สึกขนลุกวาบอย่างประหลาด  ทั้งสองพยักหน้าให้กันมองรูปสลักกลางทะเลสาบเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะจับจูงกันเดินออกจากถ้ำศักดิ์สิทธิ์

            บรรยากาศภายนอกถ้ำนั้นต่างออกไปลิบลับ  สดใสและสว่างจ้า  รินลูบแขนตัวเองเบาๆราวกับกำลังหนาว

            "เธอรู้สึกแปลกๆไหมอนิต้า"

            สาวห้าวพยักหน้า  บรรยากาศในถ้ำเมื่อครู่ช่างเปี่ยมไปด้วยมนตร์ขลัง  ทั้งๆที่มีเพียงรูปสลักและแท่นอธิษฐาน  ปราศจากพิธีกรรมใดๆ  แต่ก็มีพลังที่สัมผัสไม่ได้ทว่ารู้สึกได้อยู่มากเกินพอ

            อนิต้ามองนาฬิกาข้อมือ  เหลือเวลาอีกไม่มากแล้ว

            "รีบไปกันเถอะ  เดี๋ยวลุงเขาจะรอนาน"

            รินพยักหน้า  ทั้งคู่รีบเร่งฝีเท้ายิ่งกว่าขามา  ระหว่างนั้น  อากาศที่เคยสว่างจ้าค่อยๆสลัวครึ้มขึ้นเรื่อยๆ  ลมพัดแรงกว่าที่เคย  เมื่อทั้งคู่ไปถึงชายหาดก็พบว่าเรือมารออยู่ก่อนแล้ว

            "รีบไปเถอะครับ  เดี๋ยวจะไม่ทันฝน"

    * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

            เรือยนต์ลำเล็กแล่นตัดผ่านระลอกคลื่นที่ใหญ่และแรงกว่าขามา  ลมที่พัดปะทะหน้านั้นเย็นและแรงจนรินรู้สึกเจ็บ  เธอหยีดวงตาสีดำเลี่ยงแรงลม  อนิต้าเองก็ไม่ต่างกันนัก

            ท้องฟ้ามืดขึ้นเรื่อยๆ  คลื่นยิ่งทวีขนาดและความรุนแรง  เมื่อคลื่นลูกยักษ์ถัดโถมมาทางเรือยนต์ที่พวกเธอโดยสาร  เรือลำน้อยก็ไม่อาจต้านพลังมหาศาลของคลื่นน้ำได้  มันจึงพลิกคว่ำอย่างรวดเร็ว

            โครม!

            รินรู้สึกถึงแรงเหวี่ยง  เธอกรีดร้อง  รู้สึกถึงน้ำทะเลปั่นป่วนที่เย็นเฉียบจนเสียดแทงผิวเนื้อ  สำลักน้ำเค็มจนแสบตาไปหมด  เธอเห็นเพื่อนรักลอยคออยู่ไม่ไกลนัก  ตั้งใจจะร้องเรียก  หากรู้สึกราวกับมีบางสิ่งดึงเธอลงสู่เบื้องล่าง

            อนิต้ากวาดสายตามองไปรอบๆอย่างรวดเร็ว  เธอเห็นลุงคนขับเรือลอยคออยู่ห่างออกไปไม่ไกล  แต่เธอไม่เห็นริน!  นัยน์ตาสีสนิมมีแววตระหนก  ลุงคนขับเองก็ดูจะรับรู้ถึงการหายตัวไปของผู้โดยสารอีกคน  ทั้งคู่รีบว่ายดำเพื่อค้นหาทันที

            รินเหนื่อยล้ากับการต้านกระแสคลื่นและพลังบางอย่างที่ดึงเธอให้จมดิ่งลงไป  รั้งไม่ให้เธอขึ้นสู่ผิวน้ำ  ภายใต้ความปั่นป่วนของโลกสีครามที่บัดนี้ขุ่นมัว  ภาพที่มองเห็นช่างพร่าพราย  แต่ในความลางเลือนนั้น  รินเห็นอนิต้าว่ายน้ำเข้ามาใกล้เธอ  หญิงสาวพยายามออกแรงเหวี่ยงแขนขาเพื่อเคลื่อนตัวไปหาเพื่อน  แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผลเอาซะเลย  มิหนำซ้ำ  อนิต้าที่อยู่ห่างเธอออกไปเพียงนิด  กลับว่ายน้ำผ่านเธอไปทางอื่นราวกับมองไม่เห็น  นี่เธอต้องมาตายที่นี่อย่างนั้นเหรอ

            สติของรินใกล้จะขาดเต็มที  ภายใต้ผืนน้ำ  ผมหยักศกสีดำของเธอปลิวกระจายราวสาหร่ายทะเล  เธอเลิกที่จะเคลื่อนไหวดิ้นรนแล้ว  หญิงสาวกำลังจมลึกลงไปทุกที

            เงียบจริงๆ  ทั้งๆที่เหนือท้องน้ำกำลังปั่นป่วนอลหม่าน  แต่ข้างล่างนี่กลับเงียบสงบ  และมืดมิด  รินรับรู้ทางดวงตาที่กำลังจะปิดสนิท

            แต่ก็ไม่มืดเท่าไหร่นี่นา  น่าแปลก  ที่เธอรู้สึกว่ามันกลับสว่างขึ้นเรื่อยๆ  ผิวกายที่เย็นจนเริ่มชาค่อยๆอุ่นวาบขึ้น  โดยเฉพาะตรงหน้าอก  หญิงสาวรู้สึกอุ่นจนเกือบร้อน

            ทั้งๆที่ตรงนี้คือโลกสีครามและมีเธอเพียงลำพัง  รินกลับได้ยินเสียงๆหนึ่ง  ดังฟังชัดคล้ายกระซิบที่ริมหู  เสียงอ่อนหวานนั้นบอกว่า

                                                           "   ริน  อาร์กวิน
                                                                     :
                                           ข้าจะทำให้ความปรารถนาของเจ้าเป็นจริง
                                                                     :
                                                               ขอให้เจ้า
                                                                     :
                                                                    จง          
                                                                     :
                                                                  โชคดี
                                                                     :
                                                                     :              "

            เสียงหวานดังแผ่วจนจางหายไปในที่สุด

    * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

                                                            



     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×