Altearla
ในดาวเคราะห์ที่เต็มไปด้วยความสุขของทุกคนกลับมีเรื่องที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น มีคนค้นพบซากของปีศาจ ซึ่งมันกำลังจะฟื้นขึ้นมาเพื่อยึดครองดาวเคราะห์แห่งนั้น แล้วพวกคนต่างมิติอย่างจูเรียและเพื่อนคนอื่นๆที่หลงเข้าไปจะทำอย่างไร
ผู้เข้าชมรวม
151
ผู้เข้าชมเดือนนี้
4
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
"กาเวล นายเห็นอะไรไหม หินนั่นมันเลืองแสง"อาเบลชี้ไปที่หินก้อนหนึ่ง "มันคืออะไรน่ะ"กาเวลถามอาเบลด้วยความสงสัย "ไม่รู้สิ"อาเบลตอบกลับมา แล้วอยู่ๆก้อนหินก้อนนั้นก็แตกออกมาพร้อมกับเจ้าปีศาจตัวใหญ่ที่กำลังจะอาระวาด "ช่วยด้วย"
ทั้งสองร้องขึ้นพร้อมกัน หลังจากนั้นก็ไม่มีใครเห็นทั้งสองอีกเลย วันเวลาผ่านไป
5ปี
" ณ ดาวเคราะห์แห่งหนึ่งที่มีสิ่งมีที่เป็นมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่คล้ายกับมนุษย์แต่ทว่าสิ่งมีชีวิตกลุ่มนั้นกลับโดนจิตใจแห่งการฆ่าครอบงำทำให้สิ่งมีชีวิตนั้นฆ่ากันอย่างดุเดือดไม่นานนักสิ่งมีชีวิตตัวนั้นก็ได้ตายไปจนหมดสิ้นแต่ว่าจิตใจแห่งการฆ่า
กลับปลุกพวกเขาขึ้นมาเพื่อมาฆ่าฟันอีกครั้ง พวกเขาจึงเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่มีวันตายและฆ่าฟันทุกอย่างที่ขวางหน้า ซึ่งสิ่งมีชีวิตกลุ่มนั้นเรียกว่า 'โครนนิ่งฮันเดด'แต่ว่าสิ่งมีชีวิตที่ชื่อโครนนิ่งฮันเดดนั้นกลับน่ากลัวเสียยิ่งกว่าฮันเดดธรรมดาทั่วไป พวกมันไม่ได้ตายด้วยแสงสว่าง และ ไม่มีอาวุธใดสามารถทำลายมันได้นอกจากดาปแห่งแสง ซึ่งเป็นดาปที่ถูกสร้างจากพวกมันเอง ในขณะที่พวกมันกำลังเพื่อมจำนวนเรื่อยๆ ก็ยังมีสิ่งมีชีวิตที่สร้างไว้เพื่อกำจัดพวกมันโดยเฉพาะนั่นก็คือ 'ไวท์ไวรัส' สิ่งมีชีวิตชนิดนี้เกิดจากการละลายของดาปแห่งแสง และไวรัส ซึ่งไวรัสพวกนี้จะเข้าไปอยู่ในร่างกายของผู้ใช้เวทย์ที่มีเลือดของปีศาจและเทพอยู่ แต่ทว่าบางคนนั้นกลับมีจิตใจเช่นเดียวกับพวก โครนนิ่งฮันเดด ทำให้ไวรัสชนิดนี้สลายตัวไปอย่างรวดเร็ว พร้อมกับคนเหล่านั้นด้วย มันมีผลทำให้เกิดโลกระบาดอย่างร้ายแรง และเหลือไม่กี่คนที่มีไวรัสชนิดนี้" ฟรอสอ่านด้วยความกังวลว่าอนาคตของดวงดาวแห่งนี้อาจจะต้องตกอยู่ในกำมือของพวกโครนนิ่งฮันเดดได้ เขาจึงคิดหาวิธีที่จะกำจัดพวกโครนนิ่งฮันเดดอยู่อย่างเงียบๆ ซักพักก็มีเสียงลอดออกมาจากแก้วดื่มน้ำของเขาว่า "องค์ชายน้อยยังไงท่านก็ไม่มีวันปราบเหล่าโครนนิ่งฮันเดดได้หรอก พวกมันมีเยอะจะตาย" "งั้นหรือ เจ้าเอล์ฟน้อย"น้ำเสียงเรียบๆตอบกลับมาทำให้เจ้าเอล์ฟน้ำน้อย
รู้ว่าเจ้านายกำลังอารมณ์เสีย จึงไม่คิดจะพูดกวนใจเพราะเธออาจจะมีชีวิตที่ไม่ยาวเหมือนเอล์ฟ ตัวอื่นๆในระหว่างที่ฟรอสกำลังอ่านหนังสือเกี่ยวกับดาวเคราะห์ที่เขาอยู่อยู่นั้น"ฟรอสเมื่อไหร่ท่านพี่จะลงมาเล่นกับหนูบ้างล่ะคะ หนูเหงาจะแย่อยู่แล้ว"
เมื่อได้ยินเสียงเล็กๆอย่างนี้ฟรอสก็รู้ได้ทันทีว่าต้องเป็นน้องสาวจอมจุ้นของเขาแน่ๆ "เร็วๆสิคะ ท่านพี่หนูเมื่อยแล้วนะ เดี๋ยวก็ไปฟ้องท่านพ่อซะเลย ว่าท่านพี่ไม่ยอมมาเล่นด้วย"นอซ่าเริ่มอารมณ์เสียที่พี่ชายของเธอไม่ยอมมาเล่นด้วย เมื่อฟรอสลงมาถึง
ห้องโถงของปราสาทแห่งนี้ มอซ่าก็งอน "อะไรอีก"ฟรอสเริ่มหงุดหงิดที่น้องสาวของเขาชอบทำตัวเป็นเด็ก"ก็ท่านพี่ใจร้าย ไม่ยอมมาเล่นกะเค้าบ้างเลย มัวแต่อยู่กับเอล์ฟน้ำอยู่ได้"มอซ่าทำหน้างอน "ก็ลงมาแล้วไง"ฟรอสเริ่มเบื่อกับการกระทำของน้องสาวของเขาที่มัวแต่จะจับคู่ให้เขากับเอล์ฟน้ำอยู่เรื่อยโดยที่เขาคิดแค่เพื่อนกัน "งั้นถ้าท่านพี่จะให้หนูหายงอน ท่านพี่ต้องพาหนูออกนอกปราสาทด้วย"นอซ่าหาข้อต่อรองที่ยากจะตัดสินใจให้ฟรอสเลือก"ไม่ได้"ฟรอสไม่ยอมรับข้อเสนอนั้น"
งั้นหนูจะร้องไห้จริงๆด้วย"นอซ่ายิ้มแบบกวนประสาท จนทำให้พี่ของเธอต้องตัดสินใจในการพาเธอออกนอกปราสาท แม้ว่าแม่ของเขาจะห้ามไว้แล้วแต่เพราะว่าเขาเคยสัญญากับท่านพ่อว้าก่อนแล้วว่าจะไม่ทำให้น้องต้องร้องไห้อีก ตอนนั้นน้องไม่สบายแล้วเขาก็วุ่นอยู่กับการเรียนเวทย์และฟันดาป เขาเลยไม่มีเวลาดูแลน้องคราวนั้นน้องร้องไห้ทั้งวันแล้วโรคแปลกๆก็เกิดขึ้นทำให้เขาตกใจมาก เพราะน้องอยู่ๆก็สลบไปและมีเลือดซึมออกมาจากบริเวณต้นแขน น้องนอซ่าเกือบต้องไปแล้ว แต่โชคดีที่หมอรักษาไว้ทันจึงลอดตัวไป นับตั้งแต่วันนั้นเขาจึงไม่อยากให้น้องร้องไห้อีกเพราะกลัวจะเสียน้องสาวคนเดียวของเขาไป
...................................................................................................................................
"เฮ้...เพื่อนๆเร็วหน่อยสิ"จูเรีย เด็กสาวที่มีนิสัยคล้ายเด็กชายอายุ 11 ปี ดวงตาสีน้ำตาลเช่นเดียวกับผมของเธอตะโกนขึ้นอย่างอารมณ์ดี "มาแล้ว"ไพรินเพื่อนสนิทของเธอพูดขึ้น "มาแล้วก็เร็วๆดิ"จูเรียเร่งเพื่อนสาวของเธอ เมื่อทั้งสองและเพื่อนอีก5คนเดินมาถึงห้อง เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น จูเรีย, ไพริน และเพื่อนอีกห้าคนของพวกเธอ ได้แก่เจน, จูน, อิม, วอรีล, ทิม ตกลงไปในหลุมมืด จูเรียไม่รู้ว่าหลุมมืดนี้คืออะไร แต่ทึ่เธอรู้คือว่าหลุมมืดหลุมนี้มันหนาวมากๆ "ว๊าก! ใครก็ได้ช่วยด้วย"จูเรียร้อง ขอความช่วยเหลือเพราะว่าเธอกำลังตกลงไปในหลุมมืด และเธอคิดว่าชาตินี้ เธอคงไม่ได้เจอพ่อ เจอแม่อีกแน่นอน "จะบ้ารึ ลูกใครเนี่ย พ่อแม่ไม่ได้สั่งสอนรึไงว่าห้ามตะโกนที่นี่ฮะ"ผู้ชายที่สูงประมาณ 152 เซนติเมตรตะคอกใส่เธอ เขาใส่ชุดสีฟ้าอมเขียวทั้งตัวปกยาวซึ่งเป็นชุดที่แปลกมากสำหรับเธอ "ช่วยด้วยค่ะ! ช่วยด้วย!"
แม่ค้าที่ใส่เสื้อลายแปลกๆคล้าย บุรุษคนเมื่อกี้ แต่สูงกว่า 16 เซนติเมตรร้องตะโกนขอความช่วยเหลือ เธอได้ยินไม่ค่อยชัดเลยคิดจะเดินเข้าไปฟังใกล้ๆว่าแม่ค้าคนนั้นขอความช่วยเหลือทำไม แต่ด้วยความซุ่มซ่ามของเธอทำให้เธอเดินไปชนหญิงผู้หนึ่งล้ม "เฮ้ย!"หญิงสาวผู้นั้นร้องพร้อมเงินที่ตกลงมาจากมือ "แกนะแก ตายซะ"หญิงผู้นั้นหันหน้ามามองเธออย่างเคียดแค้น เมื่อเธอได้เห็นโฉมหน้าของหญิงผู้นั้นเธอก็รู้ได้ทันทีว่าหญิงผู้นั้นเป็น โจร! เพราะเธอมีรอยจากการต่อสู้แย่งชิงทรัพย์สมบัติมามากมายนับไม่ถ้วน "โอ้ย! แกใช้เวทย์กับฉันหรือไง ได้งั้นเตรียมตัวตาย ย๊าก!"ขณะที่จูเรียยังไม่ได้ทันตั้งตัว เธอก็ถูกหมัดของหญิงสาวผู้นั้นชกไปที่ท้องเธอรู้สึกเจ็บและโกรธมาก อยู่มือของเธอก็เย็นขึ้นเรื่อยๆอย่างน่าตกใจ เมื่อมันเย็นจัดเธอก็จัดการชกไปที่ท้องของโจรผู้นั้นทันที นั่นเป็นแค่การเริ่มต้นของความโกรธของเธอ
"นังเด็กน้อย กล้ามากที่มาหาเรื่องกับชั้น"โจรสาวสบทอย่างโกรธสุดๆ "เธอนั่นแหละมาหาเรื่องชั้นก่อน แค่นี้มันยังไม่สาสมใจหรอก"จูเรียเริ่มอยากที่จะมีสงครามกับโจรสาวคนนี้จริงๆซะแล้ว "งั้นเจอนี่ หมัดวายุพิโรธ"โจรสาวพูดพร้อมปล่อยหมัดไปที่จูเรีย เธอหลบไม่ทัน แต่อยู่ๆก็มีบาเรียสีน้ำเงินมาป้องกันเธอไว้ เธอได้ยินเสียงชาวบ้านที่มามุงดูเธอและโจรสาวที่กำลังต่อสู้กันพูดว่า "ดูสิเด็กคนนี้แข็งแกร่งไม่เบาเลยนี่นา สร้างบาเรียขั้นสองได้ทั้งที่ยังอายุแค่ประมาณ11ปี" จูเรียคิดว่ามันไม่เห็นแปลกเพราะ นี่เป็นเพียงความฝัน แล้วจู่ๆเธอก็โดนเศษพลังที่ถูกปล่อยออกมาจาก
หมัดของโจรสาวผู้นั้นกระแทกกับขา ทำให้เธอรู้สึกเจ็บขาของเธออย่างมาก 'เดี๋ยวก่อนสิ ฉันมีความรู้สึกเจ็บในฝันได้อย่างไร รึว่านี่ไม่ใช่ความฝัน' สิ่งที่เธอคิดเมื่อกี้ทำให้เธอตกใจอย่างมาก เธอต้องสู้กับคนที่เป็นโจรและเขามีเวทมนตร์ อย่างไรก็ตามเธอต้องชนะเขาให้ได้ เพราะมันไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว จู่ๆแขนของเธอก็มีแสงไฟระยิบระยับขึ้นมามันเป็นแสงสีขาว จูเรียลองขว้างเข้าไปใส่โจรสาวผู้นั้น ปรากฏว่าสิ่งที่เธอเห็นคือโจรสาวผู้นั้นถูกแช่แข็งไปแล้ว เธอคิดว่ายังมีเวทมนตร์อีกหลายบทที่เธอยังไม่รู้และตอนนี้เธอเริ่มสนุกกับการที่เธอใช้เวทมนตร์ เมื่อโจรสาวถูกแช่แข็งจูเรียก็เดินไปหยิบเงินจากมือของโจรสาวแล้วส่งให้แม่ค้าผู้นั้น "ขอบคุณหนูมากนะคะ
ขอบคุณจริงๆค่ะ"แม่ค้าคนนั้นขอบคุณกับจูเรียยกใหญ่ "ไม่เป็นไรค่ะ"จูเรียยิ้ม จากนั้นคนในหมู่บ้านที่เห็นเหตุการณ์ก็ได้เดินมาแสดงความยินดีและขอบคุณที่เธอช่วยจับโจรสาวที่มาขโมยของบ่อยๆไว้ได้ แต่คนส่วนใหญ่ในหมู่บ้านนั้นสูงไม่เกิน 140 เซนติเมตร นั่นเป็นเหตุทำให้จูเรียประหลาดใจมาก"ขอเชิญนักเดินทางผู้ประสงค์ดี
กับหมู่บ้านเทลล์ไปพักผ่อน"ผู้ใหญ่บ้านที่สูง 132 เซนติเมตร พูดขึ้นเขาใส่ชุดสูตรสีเขียวซึ่งน่าประหลาดใจสำหรับเธอ จูเรียเดินไปอย่างไม่มีจุดหมาย ซักพักเธอก็ได้เห็นเด็กรุ่นเดียวกับเธอแต่พวกเขาสูงกว่าเธอ 2-6 เซนติเมตรและที่สำคัญเขาเป็นผู้ชาย "สวัสดีนะ"เธอยิ้มแล้วพูดขึ้นแต่เสียงมันค่อนข้างสั่นและตะกุกตะกัก
"หืม...หน้าเธอไม่คุ้นเลยนะ"เด็กชายคนหนึ่งพูดขึ้นพร้อมเก็บดาบลงในฝักแล้วเขาก็พูดต่อไปว่า "เธอเป็นนักเดินทางหรือ มาเล่นฟันดาบกันไหม"จูเรียสะดุ้งตอนที่เขาชวนเธอมาเล่นฟันดาบ "ค...ค.เค้าฟันดาบไม่เป็น"จูเรียตอบไปด้วยน้ำเสียงที่ตะกุกตะกัก "ไม่เป็นไร เราสอนเธอก็ได้ เออใช่เกิบลืม เธอชื่ออะไร เราชื่อราเซล"ราเซลยิ้มอย่างเป็นมิตร จูเรียมองหน้าราเซล เขามีผมสีน้ำตาลอ่อน ดวงตาเป็นประกายสีดำ จมูกโด่งเป็นสัน คิ้วโก่ง ปากสีชมพูอ่อน จูเรียคิดว่าเขาต้องเป็นลูกครึ่งแน่ๆ "เค้าชื่อจูเรีย นายเป็นลูกครึ่งเหรอ"จูเรียถามราเซล"เปล่า แล้วทำไมเธอถึงคิดว่าเราเป็นลูกครึ่งล่ะ"ราเซลทำหน้างงๆ "ก็แค่คิด แล้วมันหนักหัวนายรึไง"เรียตอบแบบกวนๆ ที่ปกติมักจะทำให้ผู้ที่ฟังโกรธอยู่เสมอ แต่คงไม่ใช่สำหรับราเซล "แล้วนายไม่มีเพื่อนเหรอ"จูเรียสังเกตได้ว่าราเซลมาชวนเธอคนเดียว "มีนะแต่เค้ากลับเมืองไปแล้วพร้อมกับน้องสาว แต่วันนี้เค้าจะมา"ว่าแล้วราเซลก็ยิ้มอย่างดีใจ "แล้วมีคนเดียวเหรอ"คนขี้สงสัยยังไม่หยุดถามเรื่องส่วนตัวของชาวบ้านเค้า "ก็ใช่น่ะสิ เพื่อนน่ะเค้ามีแค่คนเดียวแต่ตอนนี้เพิ่มเป๋นสองคนแล้วล่ะ"คำตอบที่เล่นเอาคนฟัง ฟังแล้วก็งงว่าใครคือเพื่อนอีกคน "แล้วเค้าชื่ออะไรล่ะ"จูเรียยังถามไม่เลิก "ชื่อฟรอสน่ะ ส่วนน้องสาวของเขาชื่อนอซ่า"จูเรียยิ้มแล้วพยักหน้าอย่างเข้าใจ แล้วทั้งสองก็ไปเล่นฟันดาบกัน
............................................................................................
หญิงชราร้องตะโกนเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่นางจะสลบไป ฟรอสเฝ้าดูเหตุการณ์อย่างเงียบๆ แล้วเขาก็พึ่งนึกได้ว่าเขาทิ้งน้องสาวไว้ที่ถนน "ฮือๆๆ"นอซ่าร้องไห้
ปราสาทของราเซล"ฟรอสยังคงทำหน้าเย็นชาเหมือนเดิม "ท่านพี่เย็นชา คงจะชอบกินชาเย็นล่ะสิ คิกๆ"นอซ่าแหย่พี่ของเธอเล่น แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือความเงียบ เธอเลยเดินหน้ามุ่ยไปที่ห้องเพื่อเก็บสัมภาระของเธอ ซึ่งส่วนใหญ่มีแต่เสื้อผ้าที่สวยๆงามๆทั้งนั้น "จะเอาชุดไหนดีนะ ชุดนี้ก็สวยดี ชุดนั้นก็สวย"นอซ่าเลือกไม่ถูกว่าจะเอาชุดไหนดี เพราะเหลือที่ว่างในกระเป๋าเดินทางเพียงแค่ที่เดียวแต่ชุดของเธอยังมีอีกหลายชุด "คิดออกแล้วไม่เอาเสื้อผ้าดีกว่า เอาอย่างอื่นมั่งดีกว่า"นอซ่ายิ้มกับความคิดของเธอ แล้วเธอก็เหลือบไปเห็นเพชรเม็ดหนึ่ง เพชรเม็ดนั้นสวยมาก มันมีสีเขียวมรกต "อ่า...เอาอันนี้ไปดีกว่า"แล้วนอซ่าก็ตัดสินใจเลือกเพชรเม็ดนั้นไป "นอซ่าน้องเสร็จรึยัง"ฟรอสตะโกนถามน้องสาวจากห้องข้างๆ "เสร็จแล้วค่ะ"นอซ่าตะโกนกลับมา แล้วทั้งสองก็เดินไปที่รถของฟรอส "เบาะยังคงนุ่มเหมือนเดิมเลยนะคะ"นอซ่ายิ้ม "อือ"ฟรอสสตาร์ทเครื่องพร้อมออกเดินทางไปที่ทางทิศตะวันออก
"พี่คะ นั่นตัวอะไรคะ"นอซ่าชี้ไปที่สัตว์ประหลาดตัวหนึ่ง "บ้าชิป"ฟรอสรีบขับยาน เลี้ยวไปที่ทางแคบๆ "พี่ค่ะแล้วมันตัวอะไรคะ"นอซ่ายังคงถามคำถามเดิมๆ "ไม่รู้"ฟรอสตอบเพื่อปิดบังไม่ให้น้องสาวของเขากลัว "แล้วมันคืออะไรล่ะคะ"นอซ่ายังคงถามเหมือนเดิม "ช่างมันเถอะ"ฟรอสตอบปัดๆ แล้วเขาก็มุ่งหน้ากลับไปที่ปราสาท "ท่านพี่ฟรอสคะ แล้วเราจะไปบ้านท่านพี่ราเซลยังไงหรอคะ"นอซ่าถาม "..."ไม่มีเสียงตอบรับกลับมาจากฟรอส "ชิ!"นอซ่าเริ่มอารมณ์ไม่ดี "ไม่อยากคุยแล้วไปดีกว่า"เมื่อเธอพูดจบเธอก็เดินเชิดหน้าหนีทันที "งั้นก็ไปด้วย เจ้าตัวนี้ก็ละกัน"
นอซ่ารีบหันมาที่ฟรอส เธอเห็นเจ้าสัตว์ประหลาดตัวหนึ่งมันมีเขาสองเขาอยู่บนหัว
มันมีลักษณะคล้ายๆม้าแต่มันมีขนที่ยาวกว่าและมีสีน้ำเงิน "โอเช ก็ได้"แล้วเธอก็ยิ้มร่าด้วยความดีใจ
ผลงานอื่นๆ ของ Ice-Fire ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Ice-Fire
ความคิดเห็น