ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ EXO ] Winter in Frost .. {Chen x Xiumin} ft.exo

    ลำดับตอนที่ #8 : .: Winter in Frost :: Chapter 6 :: Just... :.

    • อัปเดตล่าสุด 14 พ.ย. 57



    seven dwarf.




    .: Winter in Frost :.

     

    { Just.... }















































     

    หลังจากเหล่าผู้พิทักษ์ทั้งหมดสิบคนได้กลับมานั่งที่ประชุมกันอีกครั้ง เทากับคริสก็เล่าเรื่องที่ไปเจอในป่า

    บวกกับเรื่องที่จุนมยอนรับรู้ถึงสิ่งไม่ดีที่ผ่านมากับสายน้ำ และแม่น้ำในลำธารรวมถึงทั่วทั้งเมืองกลายเป็นสีดำ ซึ่งทำให้

    ชาวเมืองไม่สามารถใช้น้ำจากลำธารได้ แบคฮยอนเลยให้จุนมยอนกับคนอื่นๆไปช่วยนำน้ำใต้ดินมาให้ชาวเมืองใช้ก่อน

    ชั่วคราว และยิ่งไปกว่านั้นสัตว์ในป่าก็ล้มตายหมด ถ้าเป็นแบบนี้คิมหันต์อาจจะเสียสมดุลได้ มันเป็นข่าวร้ายแรงในรอบ

    หลายร้อยปีเลยทีเดียว... และทุกคนคิดว่าอาจจะเป็นฝีมือใครบางคนที่ทำ และนั่นอาจจะเป็น ศัตรู คนเดียวกันกับที่

    ตามหาอยู่..

     

    " ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปคงแย่แน่ "
     

    คยองซูเอ่ยขึ้น เซฮุนเลยพูดขึ้นมาบ้าง
     

    " เจ้าจะทำอย่างไรต่อไป แบคฮยอน "
     

    ทุกสายตาจ้องไปที่แบคฮยอนเป็นสายตาเดียวกัน
     

    " ข้าคิดว่าเราต้องรอดูสถานการณ์กันต่อไปอีกสักนิด "
     

    " จะให้พวกเรานั่งรอดูอย่างงี้เหรอ ถ้าศัตรูบุกมาละ "
     

    เทาพูดขึ้น
     

    " ข้าไม่ได้บอกให้พวกเจ้านั่งรอ ข้าแค่บอกว่าให้รอดูสถาการณ์ ไม่แน่บางทีศัตรูอาจจะโผล่มาตอนไหนก็ได้ ถ้าเป็นไปได้

    ตอนนี้พวกเจ้าอย่าผลีผลามกันมากนัก และอย่าทำอะไรบุ่มบ่าม
    "
     

    " ก็ได้ ข้าจะเชื่อเจ้า "
     

    " แบคฮยอน แล้วถ้าสถานการณ์รุนแรงหนักกว่าเก่าเล่า "
     

    คริสเอ่ยถามด้วยสีหน้านิ่งเรียบ
     

    " ข้าคง...ต้องไปขอความช่วยเหลือ จาก ผู้พิทักษ์แห่งน้ำแข็ง.... "
     

    แบคฮยอนดูเหมือนจะลำบากใจเมื่อพูดประโยคสุดท้ายออกมา จนชานยอลพูดขึ้น
     

    " ข้าคิดว่าสถานการณ์คงไม่แย่ขนาดนั้นหรอก ถ้าพวกเราช่วยกัน ไม่นานสถานการณ์แบบนี้ก็จบลง "
     

    " อืม ข้าก็คิดแบบนั้นนะ ถ้าพวกเราร่วมมือกัน เรื่องนี้ต้องจบเร็วแน่ๆ ไม่จำเป็นต้องพึ่งผู้พิทักษ์แห่งพลังน้ำแข็งหรอก"
     

    จงอินเอ่ยขึ้น ทำเอาอี้ชิงไม่พอใจเล็กน้อยที่พูดถึงมินซอกแบบนั้น... แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป
     

    " ตกลงกันตามนี้ เลิกประชุม "
     

    แบคฮยอนเดินออกจากห้องไปพร้อมกับชานยอล ส่วนคนอื่นๆก็แยกย้ายไปตามปกติ
     

    ลู่ฮ่านเดินมาที่ลานกว้างพร้อมกับเซฮุน เซฮุนเลยถามออกไป
     

    " เจ้ามาทำอะไรที่นี่ และนั่นเจ้ากำลังทำอะไรอยู่ "
     

    เซฮุนถามเมื่อเห็นลู่ฮ่านกำลังม้วนกระดาษเล็กๆผูกมัดติดที่ข้อเท้าของนกเหยี่ยว
     

    " ข้าคิดว่าข้าน่าจะส่งข่าวไปหาจงแดสักหน่อย อย่างน้อยจงแดก็น่าจะรู้สถาณการณ์ของคิมหันต์ในตอนนี้เป็นอย่างไร

    และข้าคิดว่าพวกเราอาจจะยังไม่กลับเหมันต์ในเร็ววันนี้ เพราะสถานการณ์ที่นี่สำคัญยิ่งกว่า
    "

     

    " อืมก็แล้วแต่เจ้า "
     

    ลู่ฮ่านปล่อยเหยี่ยวสีน้ำตาลไหม้ออกสู่ท้องฟ้าก่อนจะบินตรงไปยังเหมันต์....










     

     

     

     







     

     

     

     

     

    มินซอกนั่งอยู่ในสวนกุหลาบขาวภายในปราสาท หลังจากจงแดออกสำรวจศัตรูไปตามสถาณที่ต่างๆของเหมันต์ก็ไม่มีวี่

    แววว่าจะพบศัตรูแม้แต่น้อยก็เดินกลับมายังปราสาทคริสตัลอีกครั้ง ก็เห็นมินซอกอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลเลยเดินเข้าไปหา..

     

    " มินซอก "
     

    " มีอะไร "
     

    น้ำเสียงห้วนดังขึ้นเมื่อจงแดเอ่ยเรียกคนตรงหน้า
     

    " ข้าแปลกใจที่เห็นเจ้ามานั่งที่สวนกุหลาบแห่งนี้ ปกติเจ้าไม่ค่อยออกจากห้องของเจ้า "
     

    " เรื่องของข้า "
     

    จงแดรู้สึกว่าเริ่มชินกีบนิสัยเย็นชาแข็งกระด้างขออีกฝ่าย เลยเดินดุ่มๆเข้าไปนั่งข้างๆมินซอก มินซอกไม่ได้พูดอะไรแค่

    ปรายตามองเท่านั้น ก่อนจะชักสายตากลับไปมองเหล่าดอกกุหลาบเช่นเดิม

     

    " มินซอก ทำไมในหวังเจ้าต้องปลูกดอกกุหลาบขาวเพิ่มด้วย ข้างนอกเจ้าก็ปลูกมันไว้ทั่วปราสาทไม่ใช่หรือ "
     

    " เรื่องของข้า... "
     

    มินซอกพูดทั้งที่สายตายังไม่ละจากดอกกุหลาบขาวเหล่านั้น
     

    " แล้วเจ้ารู้หรือไม่ว่า เหตุใดต้องเป็นกุหลาบขาว "
     

    คราวนี้มินซอกพูดขึ้นมา ทำเอาจงแดขมวดคิ้ว แล้วส่ายหน้า
     

    " เพราะว่า กุหลาบขาวเปรียบเสมือน ความรักที่ใสสะอาด บริสุทธิ์น่าทนุถนอมโดยไม่คิดเลยว่าความรักที่มอบให้ไปนั้น

    จะได้ความรักตอบกลับมาหรือเปล่า
    .... "

     

    มินซอกหน้าหม่นหมอง แล้วหันมามองจงแด ก่อนจะหันหน้ากลับ แล้วลุกขึ้นเดินหนีไปในที่สุด ..


     

    จงแดมองแผ่นหลังร่างบางไปจนหลับตา จงแดรู้สึกว่ากุหลาบนั่นเหมือนตัวแทนใครสักคนของมินซอก และฟังจาก

    ประโยคที่มินซอกพูด แสดงว่าคนๆนั้นจะต้องสำคัญมากแน่ๆ แต่สายตาที่มินซอกมองมาเมื่อกี้มันทำให้จงแดรู้สึกปวดใจ

    อย่างน่าแปลก แต่บางทีเขาอาจจะคิดไปเอง

     

    พลางสายตาของจงแดก็เหลือบไปมองตรงที่นั่งที่มินซอกเคยนั่งเมื่อกี้ ก็พบว่ามีดอกกุหลายสีขาวดอกหนึ่งวางอยู่

    จงแดเอื้อมไปหยิบดอกกุหลาบนั่นมา และก็พบว่า มีแหวนของมินซอกที่เหมือนกับของตนอยู่ในดอกกุหลาบนี้ ...

    จงแดหยิบแหวนออกมา มองด้วยความรู้สึกมากมาย... ทั้งๆที่แหวนวงนี้มินซอกเองเป็นคนบอกว่าเป็นของบรรพบุรุษของ

    ตัวเอง มันคงจะสำคัญมาก แต่นี่กลับวางถอดไว้ในกุหลาบง่ายๆ แล้วเอากุหลาบนั่นมาวางข้างๆตัวเขาอีก...

     

    ตกลง แหวนวงนี้ ได้มาจากไหน...
     

    แล้วทำไมต้องเป็นเขาที่มีแหวนตรงกับมินซอก ....
     

    มินซอก... เจ้าคงไม่โกหกข้า อีกแล้วใช่ไหม....

     

     

     

     


















     

     

     

    จงแดออกมานอกปราสาทอีกครั้ง .. นี่ก็ผ่านมาสองวันแล้ว แต่พวกคริสยังไม่มีท่าทีว่าจะกลับมาเลย

    เกิดอะไรขึ้นที่คิมหันต์รึเปล่า
    ? ... ที่จริงแล้วจงแดตั้งใจจะไปหามินซอก แต่กลัวมินซอกรำคาญและจะไล่ตนอีก

    เลยเลือกที่จะเดินออกมาข้างนอกแทน ส่วนเรื่องที่อยากคุยกับมินซอกเอาไว้ก่อนแล้วกัน.. จงแดเดินมาเรื่อยเปื่อยในป่า

    ของเหมันต์

     

    พลันสายตาก็เหลือบมองเห็นเหยี่ยวตัวหนึ่งบินมาทางนี้ จงแดจำเหยี่ยวตัวนั้นได้มันเป็นหยี่ยวตัวโปรดของลู่ฮ่าน

    เหยี่ยวสีน้ำตาลไหม้บินต่ำลงมาก่อนจะมาเกาะตรงที่ไหล่ของจงแด .. จงแดเห็นกระดาษสีขาวม้วนเล็กๆผูกติดที่ข้อเท้า

    ของเหยี่ยว เลยยื่นมือไปแกะมันออก ก่อนจะกางกระดาษออกมาอ่าน..

     

    คำบรรยายถ้อยคำมากมายในกระดาษแผ่นนี้ถูกถ่ายทอดมายังจงแดภายในเวลาไม่กี่นาที ... จงแดรับรู้สาเหตุแล้วว่า

    ทำไมพวกคริสถึงเดินทางมายังเหมันต์ไม่ถึงสักที ตอนนี้คิมหันต์กำลังตกที่นั่งลำบาก จงแดอยากจะกลับคิมหันต์ด่วน

    เดี๋ยวนี้เลย แต่อีกใจหนึ่ง ก็เป็นห่วงมินซอก... จงแดลงมือเขียนกระดาษกลับลู่ฮ่าน โดยบอกว่าขอเวลาอีกหน่อยแล้วตัว

    เขาจะรีบกลับคิมหันต์ให้เร็วที่สุด เสร็จเรียบร้อย จงแดก็ปล่อยเหยี่ยวตัวนี้กลับไปหาเจ้าของๆมันอีกครั้ง...

     

    " สวัสดียามเช้า คิมจงแด "
     

    เสียบแหบพร่ากระซิบดังขึ้นที่ข้างหู จงแดสะดุ้งก่อนจะหันมาเบื้องหลังอย่างรวดเร็ว พบว่าชายชุดดำ ศัตรู ที่พวกเขากำลัง

    ตามหาตัวอยู่ๆตรงหน้าเขา...

     

    " แก!! "
     

    แค่คิดจงแดก็โกรธขึ้นมาทันที เพราะชายตรงหน้าเป็นคนที่ทำร้ายเพื่อนของเขาและทำร้ายมินซอก..
     

    " โอ๊ะโอ๋ นี่หรือเวลาเจ้าเจอคนอื่นแล้วทักทายกันแบบนี้กัน "
     

    ถึงจะไม่เห็นหน้า แต่น้ำเสียงกลับยียวนจนจงแดกัดฟันแน่น
     

    " เจ้าทำอะไรกับคิมหันต์!!! "
     

    " ข้าเหรอ... ก็แค่ .. ทำให้มันเป็นเหมือนกับในอดีตก็แค่นั้น "
     

    " เจ้าทำไปเพื่ออะไร พวกเราเคยทำอะไรให้เจ้ากัน "
     

    " เคยสิ พวกเจ้าไม่รู้หรอก แต่.. บางทีอาจมีคนหนึ่งที่รู้เรื่องนี้ก็ได้ "
     

    " !!?! "
     

    " อีกไม่ช้าคิมหันต์จะลุกเป็นไฟ! ประชาชนต้องวอดวาย ทุกอย่างจะเสียสมดุล รวมถึงพวกเจ้าทุกคนต้องตายอย่างน่า

    เวทนา
    !!! "

     

    " ไอ้เลว!!! "
     

    จงแดระเบิดพลังสายฟ้าก่อนจะรวบรวมไว้ที่กำปั้นแล้วพุ่งตัวไปอัดชายชุดดำ ชายชุดดำหลบได้ จงแดเลยปล่อยลูกเตะ

    แทน แต่ก็พลาด ชายชุดดำเอามีดพกที่ซ่อนใต้ผ้าคลุมออกมาแล้วตวัดมีดหมายตาที่ใบหน้าของจงแด จงแดกระโดดหลบ

    อย่างว่องไว ... ทั้งคู่ต่อสู้โดยไม่มีท่าทีว่าทั้งคู่จะหยุด จงแดแสดงอาการเหนื่อยออกมา แต่ผิดกับอีกคนที่ดูท่าทีนิ่งเรียบ ดู

    ไม่เหนื่อยเลยสักนิด
    ...
     

    " ไม่น่าเชื่อว่าน้ำหน้าอย่างเจ้าจะสู้ได้นานขนาดนี้ ถือว่าข้าชมแล้วกัน "
     

    ชายชุดดำทำท่าจะเดินจากไป แต่จงแดเรียกไว้เสียก่อน
     

    " เดี๋ยวเจ้าจะไปไหน ข้ายังเคลียกับเจ้าไม่จบ  "
     

    " ข้าจะไปไหนก็เรื่องของข้า ไว้เราไปเคลียในสนามรบจะดีกว่านะ คิมจงแด "
     

    " สนามรบ?? "
     

    " ใช่ สนามรบ อีกไม่นานสงครามจะเกิดขึ้น และเจ้า ..... จะเป็นหมากรุกที่ดีที่สุดของข้า  "
     

    " แก!!!!!!!! "
     

    " โอ๊ะ ข้าลืมบางเรื่องไป ฝากบอกถึง มินซอกที่รัก ด้วย ว่า  ข้าคิดถึง .. ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ "
     

    จงแดพุ่งตัวเขาหาหมายจะต่อยชายชุดดำ แต่สิ่งที่จงแดต่อยได้คืออากาศที่ว่างเปล่า เพราะร่างของชายชุดดำได้หายไป

    เสียแล้ว...

     

     

     

     

     



















     

     

    หิมะที่โปรยปรายทั่วเหมันต์มานานนับร้อยปี ตอนนี้กลับบางเบาลง และแน่นอนไม่มีใครรู้ ไม่มีใครสังเกตุ แต่ตัวเขาก็รู้ดี

    .... เพราะพลังของเขากำลังลดลงเรื่อยๆไปตามกาลเวลา ...

     

    มินซอกเดินลงมาชั้นใต้ดินของปราสาท มันเป็นทางลับ ที่มีแต่มินซอกคนเดียวเท่านั้นที่รู้ .. เมื่อลงมาถึงชั้นใต้ดินสุด

    ห้องโถงใหญ่ปรากฎแก่สายตา ทุกอย่างใต้ดินนี้มีแต่น้ำแข็งปกคลุมทั่ว ร่างบางเดินตรงไปยัง โลงแก้วใส ก่อนจะนั่งมองดู

    เรือนร่างของใครบางคนหลับใหลอยู่ในโลงแก้ว นี้ นัยน์ตาสีฟ้าจ้องเรือนร่างที่หลับสนิทเหมือนเจ้าหญิงนิทราด้วยอารมณ์

    หม่นหมอง  ก่อนจะพูดออกมาอย่างแผ่วเบา

     

    " ข้าจะไม่ยอมให้เรื่องนี้เกิดขึ้นเป็นอีกครั้งที่สอง ไม่ว่าข้าจะต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม "
     

    ถึงตัวเขาจะพูดไป แต่ร่างที่หลับสนิทอยู่ตรงหน้าก็ไม่มีทีท่าว่าจะตื่นขึ้นมาฟัง ตัวเขาเองรู้ดีที่สุด เพราะการที่ร่างตรงหน้า

    หลับใหลอยู่ในโรงแก้วเป็นฝีมือของเขาเอง ... 

     

    " ฟิวริค ครั้งนี้ข้าจะไม่อ่อนแอเหมือนที่ผ่านมา ข้าเข้มแข็งมากพอที่จะปลิดชีพเจ้าด้วยตัวของข้าเอง "
     

    มินซอกลุกขึ้นแล้วก้าวเดินอีกครั้ง
     

    " ฟรอส "
     

    นกสีขาวพลันปรากฎขึ้นอีกครั้ง
     

    " ไปสืบข่าวทั้งหมดรวมถึงเหตุการณ์ตอนนี้ในคิมหันต์มาให้เร็วที่สุด ดูเหมือนตอนนี้ข้าคงอยู่เฉยไม่ได้อีกแล้ว "
     

    นัยน์ตาสีฟ้ามองไปที่โลงแก้วรวมถึงมองร่างของใครบางคนอยู่ในนั้นครั้งสุดท้าย ก่อนจะชักสายตากลับมาแปรเปลี่ยนเป็น

    แววตาเย็นยะเยือกยิ่งกว่าน้ำแข็ง....

     

     

     

     

     

     



















     

     

    จงแดวิ่งมาที่ปราสาทคริสตัล ก่อนจะรีบเดินไปหามินซอกที่ห้อง ' มินซอกจะต้องรู้อะไรบางอย่างเกี่ยวกับชายชุดดำแน่ '

    จงแดกำลังจะเปิดประตูห้องของมินซอก แต่ยังไม่ทันใด ประตูก็ถูกเปิดขึ้นซะก่อน

     

    " มีอะไร ดูจากหน้าตาของเจ้าคงรีบเชียว "
     

    มินซอกตอบหน้าตาย กลับกับจงแดดูเร่งรีบ
     

    " เจ้ารู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับชายชุดดำ "
     

    มินซอกเงียบ ก่อนจะถอนหายใจออกมา
     

    " ทำไมเจ้าถึงถามคำถามแบบนี้กับข้า "
     

    " ตอบข้ามา! "
     

    จงแดเองก็ตอบด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าวเช่นกัน มินซอกกัดริมฝีปากแน่น แต่ตอบออกมาด้วยสีหน้าเรีบเฉย
     

    " ศัตรูเก่าข้า ก็แค่นั้น "
     

    " ศัตรูเก่า? "
     

    จงแดขมวดคิ้ว เลยถามออกไปอีก
     

    " งั้นข้าขอถามหน่อย ทำไมศัตรูเก่าเจ้าถึงต้องเล่นงานพวกข้า รวมถึงเพื่อนขอข้าที่อยู่ในแดนคิมหันต์กัน ทั้งที่เป็นศัตรูของ

    เจ้าแท้ๆ
    "

     

    " ข้าจะไปรู้ได้ยังไง "
     

    เขารู้.....
     

    " เจ้าต้องรู้แน่มินซอก! "
     

    " อะไรๆก็ข้า ... เจ้าคิดว่าข้ารู้หมดทุกอย่างหรือไง "
     

    " ข้าไม่รู้หรอกว่าเจ้าจะรู้หรือไม่ แต่ข้าคิดว่าเจ้านั่นต้องเกี่ยวข้องกับเจ้าแน่ "
     

    " ฮึ ... คิดได้แค่นี้เหรอ "
     

    มินซอกแค่นหัวเราะ แล้วเดินผ่านจงแดไป แต่จงแดก็คว้าไหล่ของมินซอกหันมาเผชิญหน้า
     

    " เจ้าจะหนีไปไหน เจ้ายังไม่ได้ตอบข้าเลย "
     

    มินซอกตวัดสายตาอย่างไม่พอใจ ก่อนจะปัดมือของจงแดออก มินซอกกำลังจะพูด แต่จงแดชิงตัดหน้าเสียก่อน
     

    " ข้าถามจริงเถอะมินซอก ... เจ้าเคยคิดที่จะบอกความจริงกับข้าไหม? "
     

    " ทุกสิ่งทุกอย่างที่ข้าเอ่ยออกมาข้าไม่เคยโกหก "
     

    " แล้วแหวนของเจ้าละ "
     

    จงแดนำแหวนที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อออกมา พร้อมกับแหวนของตน ที่ประกบคู่กันลงตัวอย่างพอดิบพอดี

    มินซอกปรายตามอง

     

    " สงสัยข้าคงลืมเลยถอดทิ้งไว้ "
     

    " เจ้าจงใจถอดมัน ถ้าเป็นแหวนของบรรพบุรุษจริง เจ้าคงไม่ลืมง่ายขนาดนี้หรอกกระมัง"
     

    " มันก็แค่ แหวนธรรมดาๆ ที่บรรพบุรุษของข้าทิ้งไว้ให้ ข้าจะใส่ใจหรือไม่ใส่ใจก็เรื่องของข้า "
     

    " มินซอก... เจ้าเลิกดื้อเสียทีเถอะ "
     

    มินซอกหันหลังให้อีกครั้ง ก่อนจะเดินผ่านจงแดไปอย่างเฉยชา
     

    " มินซอก!! "
     

    " เจ้าควรจะรีบเดินทางกลับคิมหันต์ และอีกอย่าง...  ถ้าทุกอย่างจบลง.... "
     

    " ?? "
     

    มินซอกหยุดเดิน ก่อนจะพูดออกมา แต่ไม่ได้หันหน้ามาหาจงแด  ทำให้จงแดได้แต่มองแผ่นหลังร่างบาง...
     

    " ข้าอาจจะบอกบางอย่างให้พวกเจ้าที่ไม่รู้ให้พวกเจ้ารับรู้... "





























    ......................... ( มาอัพเพิ่ม 100 )

































     







     

    ฟิวริค จะสร้างสงครามขึ้นอีกครั้ง ... เรื่องนี้มินซอกรู้ดีอยู่แก่ใจ ฟิวริคเป็นคนที่กระหายสงคราม ไม่ว่าจะหายใจเข้าหายใจ

    ออก ก็เป็นเกี่ยวกับการฆ่าฟันไปหมด และนั่นก็เป็นเหตุผลที่มินซอกควรจะเคลื่อนไหวอยู่เงียบๆ หากโจ่งแจ้งไปไม่จะทำ

    ให้ฟิวริครู้ตัว และจับทางเขาได้ ..

     

     

     มินซอกมองจงแดที่ขี่ม้าออกไปไกลจากข้างบนของหน้าต่าง แล้วเงยหน้ามองที่ท้องฟ้า พลางหลับตาลง...      

     

     

     















     

     

     

     

    " สถาณการณ์เป็นยังไงบ้าง "
     

     แบคฮยอนเอ่ยถามชานยอล พลางพลิกหน้ากระดาษในมือตามเคย แต่คราวนี้ดูเหมือนว่าจะมีแต่ความกังวลเต็มใบหน้า

    ของแบคฮยอน ที่นานๆจะได้เห็นสีหน้าแบบนี้

     

    " ยังคงตัว .. แต่ก็ไม่มีอะไรดีขึ้นหรือแย่ลง "
     

    แบคฮยอนสีหน้าดูผ่อนคลายลงบ้าง แต่ก็ยังไม่วายอดกังวลไม่ได้
     

    " ตามหาตัวศัตรูเจอรึยัง? "
     

    ชานยอลส่ายหัว แล้วพูดออกมาเมื่อเห็นสีหน้าของแบคฮยอน
     

    "ข้าว่าช่วงนี้เจ้าดูโทรมไปนะ เจ้าควรจะพักผ่อนให้มากกว่านี้ ถึงข้าจะรู้ว่าสถาณการณ์ในตอนนี้เป็นยังไงก็ตาม "
     

     " ขอบคุณที่เจ้าเป็นห่วง แต่ข้าก็แค่อยากทำหน้าที่ในฐานะผู้พิทักษ์ให้เต็มที่ก็เท่านั้น ... "
     

     แบคฮยอนพูดไปตาปรือก่อนจะฟุบหลับคาโต๊ะ... ชานยอลส่ายหัว
     

    ' ชอบทำอะไรเพื่อคนอื่น จนลืมดูแลตัวเองทุกที ' ชานยอลเดินเข้าไปใกล้ก้อนจะช้อนตัวของแบคฮยอนขึ้นมาแล้วอุ้ม

    แบคฮยอนไปที่เตียงก่อนจะวางร่างเล็กลง ... ชานยอลลูบหัวคนตรงหน้าอย่างอ่อนโยน ก่อนจะเดินออกมาจากห้องของ

    แบคฮยอน... ในขณะที่ชานยอลเดินลงมาชั้นล่าง ก็เห็นจุนมยอนวิ่งมาด้วยท่าทางเหนื่อยหอบ และเสื้อผ้าที่จุนมยอนใส่

    อยู่มีรอยขาดตามร่างกายเหมือนจะไปปะทะต่อสู้อะไรมาสักอย่าง ... 

    " ชานยอล! อี้ชิงถูกพวกมันเอาตัวไป!!!! "     

     

     

     
















     

     

     

     

    จุนมยอนเดินกับอี้ชิงเดินมาที่สะพานข้ามแดนของคิมหันต์และเหมันต์ ทั้งคู่ตั้งใจลองมาที่นี่ดูอีกครั้ง ..จุนมยอนมองฝั่ง

    เหมันต์ที่มีแต่สีขาวโพลนจนตาเหลือก ทำเอาอี้ชิงอดหัวเราะไม่ได้ จุนมยอนหันมามองอี้ชิงด้วยสายตาว่ามีอะไรน่าขำ
    ?

    แต่อี้ชิงกลับสายหัวพลางยกยิ้มยกใหญ่

     

    " จุนมยอน เจ้าอยากลองข้ามฝั่งไปเหมันต์ดูสักครั้งไหมละ "
     

    " ทำไมข้าต้องข้ามไปด้วย "
     

    " สีหน้าเจ้ามันฟ้อง "
     

    " ข้าเปล๊า~ "
     

    จุนมยอนเสียงสูง ทำเอาอี้ชิงอดหัวเราะอีกรอบไม่ได้ เลยจูงมือของจุนมยอนก่อนจะเดินข้ามมาฝั่งเหมันต์
     

    " เดี๋ยวๆๆ "
     

    " เอาน่า มันออกจะเย็นสบาย "
     

    อี้ชิงพาจุนมยอนข้ามมาฝั่งเหมันต์ในที่สุด จุนมยอนยืนนิ่งอยู่กับที่
     

    " เห็นไหม ข้าบอกแล้วว่า มันออกจะเย็นสบาย "
     

    จุนมยอนไม่พูดอะไร มัวแต่สัมผัสอากาศเย็นอย่างเพลิน จนลืมคนข้างๆไปเสียสนิท เพราะตัวเขาไม่เคยสัมผัสอากาศเย็น

    มาก่อน... แต่เมื่อไปๆมาๆ จุนมยอนก็เริ่มรู้สึกหนาว เลยหันไปถามอี้ชิงที่เอาแต่ยืนสบายๆ

     

    " อี้ชิง เจ้าไม่หนาวบ้างเหรอ "
     

    " ตอนแรกข้าก็หนาวอยู่หรอก แต่มินซอกใช้พลังของตนปกป้องข้าจากความหนาวเย็น "

    " มินซอก? หรือเจ้าจะหมายถึง ผู้พิทักษ์แห่งน้ำแข็ง "

     

    " อืม ใช่แล้วละ "
     

    " มินซอกนี่เป็นคนดีขนาดนั้นเลยเหรอ "
     

    " ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน ข้าเดาใจของมินซอกไม่ออกจริงๆ จะว่าดีก็ดีแต่จะเย็นชาก็เย็นชา ข้าเองก็บอกไม่ถูก "
     

    " งั้นรึ ... แต่ว่าตอนนี้ข้าชักหนาวแล้วสิ กอดข้าหน่อย "
     

    " อะไรของเจ้าละเนี่ย "
     

    " ข้าหนาว "
     

    " ก็ได้ๆ "
     

    อี้ชิงเดินไปกอดจุนมยอน ก่อนจะคลายออก
     

    " แค่เนี่ย "
     

    " ใช่ "
     

    " เจ้ากอดข้าแปบเดียวเอง ข้ายังหนาวอยู่เลย "
     

    " เจ้าเนี่ย -/-.... ตกลงพวกเรามาทำอะไรเนี่ย ทั้งที่พวกเราตั้งใจมาหาศัตรูแท้ๆ "
     

    " ก็ได้ๆ แต่ว่าเจ้าจะต้องกอดข้าด้วยนะ "
     

    " ไว้หาศัตรูก่อนแล้วกัน _//_ "
     

    ทั้งคู่ตั้งใจจะเดินกลับคิมหันต์แต่อี้ชิงเพิ่งนึกได้ว่ามีสมุนไพรบางอย่างที่อี้ชิงลืมเก็บมาเผื่ออาจใช้ในโอกาสหน้า

    เลยขอเวลาสักครู่ จุนมยอนเลยเลยรอตรงหน้าสะพานที่จะข้ามไปฝั่งคิมหันต์...

















     

     

     

     

     

     

     

    อี้ชิงเดินมาเรื่อยๆจนเจอสมุนไพรที่ตยยเองต้องการ แต่ทันที่อี้ชิงเหยียบพื้นตรงหน้า ก็มีบล็อกสี่เหลี่ยมใสปรากฎขึ้นมาขัง

    อี้ชิงอยู่ข้างใน ... อี้ชิงตะลึ้งค้าง ก่อนจะพยายามทุบกล่องใสออกไป ... แต่ก็ไม่สำเร็จ และพอยิ่งคิดถึงพลังของตนก็ทำให้

    ตัวเองท้อ .. เพราะว่าพลังของอี้ชิงเป็นพลังในการรักษา...

     

    " ใครก็ได้ ช่วยด้วย!!!! "
     

    อี้ชิงตะโกนสุดเสียง แต่ดูเหมือนว่าเสียงของอี้ชิงดังสะท้อนในกล่องใบนี้ และเสียงมี่อยู่ภายในกล่องไม่สามารถดังออกไป

    ข้างนอกได้

     

    ' ทำไงดี '
     

    ' จุนมยอนช่วยข้าด้วย... '



     

     

    พลันกล่องใสก็หายวับไปกับตาพร้อมกับร่างของอี้ชิง... 

     

    อย่างกับว่าที่ตรงนั้นไม่เคยมีใครอยู่เลย...

     

     

     

     

     

     


















     

    จุนมยอนรู้สึกว่าอี้ชิงไปนานมาก นี่ก็ผ่านมาหลายนาทีแล้ว แต่ไม่มีทีท่าว่าอี้ชิงจะกลับมาสักที จุนมยอนกังวล..

    จนมนไม่ไหว เลยออกตามหาตัวอี้ชิง .. แต่ยิ่งเดินเท่าไหร่ ร่างกายก็เริ่มเคลื่อนที่ช้าคงเพราะความหนาวเย็นของแดน

    เหมันต์ ยิ่งนานยิ่งหนาวจับใจ .. แต่ก็ห่วงคนรักสุดใจเหมือนกัน ...

     

    จุนมยอนนเดินมาเรื่อยๆก่อนจะหยุดลงเพราะเหมือนตอนนี้ร่างกายของเขาคงรับไม่ไหว และก็อยู่ในเหมันต์มานานพอ

    ควรแล้วด้วย...

     

    ' อี้ชิง เจ้าหายไปไหนกัน '

     

    โฮก!!!!!

     

    จุนมยอนสะดุ้งตกใจกับน้ำเสียงที่ดังมาจากด้านหน้า
     

    ' หมีป่าสีดำ?? '
     

    ถ้าที่เคยได้ยินมาว่ากันว่าสัตว์ที่อยู่มนแดนเหมันต์จะมีขนสีขาวหรือผิวสีข่าวหมดไม่ใช่หรือ??? ในขณะที่จุนมยอนมัวแต่

    คิด มีป่าสีดำก็พุ่งตัวมาโจมตี ก่อนจะตวัดเล็บที่แหลมคมของมันใส่จุนมยอน ..จุนมยอนหลุดออกจากห้วงความคิด ก่อน

    จะเบี่ยงตัวหลบ .. แต่ด้วยร่างกายที่ไม่เอื้ออำนวยเพราะความหนาวเย็นทำให้ร่างกายของจุนมยอนตอบสนองช้า จน

    โดนกรงเล็บของมันฉีกเสื้อแหว่งไป ..
    ' เกือบไป ' จะให้ใช้พลังตอนนี้ก็คงไม่ไหว .. และยิ่งจุนมยอนไม่มีเวลามาสู้กับหมีป่า

    สีดำนี่อีก เขาต้องหาอี้ชิงก่อน... แต่... ดูเหมือนหมีสีดำตรงหน้าจะไม่ยอมอย่างงั้น เลยพุ่งตัวเข้ามาจุนมยอนรอบสอง ..

    จุนมยอนต้องคอยหลบตลอดเวลา .. ทั้งที่ร่างกายเป็นแบบนี้ ต้องกัดฟันทนความหนาวแบบนี้ ...

     

    แล้วอี้ชิงไปไหน....ในเวลาแบบนี้กัน

     

    อี้ชิงกัดฟันแน่น ก่อนจะวิ่งไปทางที่ตัวเองเดินมา....

     

    เขาถอย

     

    ' น่าสมเพศที่สุด...... '

     

    ทั้งที่คนรักของตนหายไปทั้งคนแท้ๆ ควรจะตามหา.. นี่อะไร? ตัวเขากลับหันหลังหนี .. แค่ร่างกายตัวเองเสียสมดุล...

    แค่นั้น...

     

    เขามันอ่อนแอที่สุด...

     

     

     

     

     


















     

     

    " งั้นรึ สถาณการณ์ในตอนนี้ที่คิมหันต์ ตกที่นั่งลำบากอยู่งั้นสินะ "
     

    นัยน์ตาสีฟ้ารับรู้ผ่านทางนกสีขาวบริสุทธิ์ที่เขาเป็นคนสร้างมันขึ้นมาเอง พลันหิมะทั่วฟ้าก็เหมือนกับสัญญาณแจ้งเตือน

    ไปยังเจ้านายมัน.

     

     นัยน์ตาสีฟ้าปรากฎด้วยความตกใจ ..
     

    ในขณะนั้นตัวเขาอยากจะรีบไปช่วยเพื่อนสุดใจ ... แต่ด้วยที่เป็นตัวเขาในตอนนี้ ...





    ทำได้แต่เพียงรับรู้...

     

     

     

     



















    ..............

    Talk :ถ้าไรท์พิมพ์ผิดตรงไหนขออภัยล่วงหน้าด้วย(ชอบพิมพ์ผิด)

    ตอนนี้อาจจะสั้นไปหน่อยนะ ( สารภาพผิด 5555 )

    รู้สึกเหมือนไรท์จะกระอักเลือดตาย >>เอาหัวโขกโต๊ะ

    ทำไมเรื่องเก่ายังไม่เคลียเรื่องใหม่มาอีกละ >> เอาหัวโขกพื้นมั้ง

    ไรท์จะจิกรายยยยยยย

    เนื้อเรื้องเริ่มเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆนะ ...

    อัพเต็มแล้ว อย่าลืม

    ***เม้นๆๆๆๆๆ

    (เพื่อกำลังใจของไรท์ T T )


    รักคนอ่านทุกคน



    น่ารักฟุ้งฟริ้ง




















    อี้ชิงน่ารัก



    อย่าลืมติดตามเรื่องของมินซอกฮยองด้วยน๊าา





     



     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×