ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เกมรัก...หัวใจนี้เพื่อเธอ (Yuri)

    ลำดับตอนที่ #3 : หลง

    • อัปเดตล่าสุด 2 ก.ค. 51



    ปานดาววางร่างบางลงบนเตียงหลังจากที่เธอประคองมาหนักมากพอดู  เธอมองใบหน้าหวานที่ซีดเผือกลงถนัดตาแค่เจอเธอยั่วโมโหนิดเดียวทำไมถึงเป็นลมได้ คิดแล้วรู้สึกผิดเหลือเกินเธอยิ้มน้อยๆพลางปัดปอยผมที่ปกลงใบหน้าหวาน  เวลาเป็นลมไม่รู้เรื่องนี่ก็ดีเหมือนกันดูแล้วไม่มีปากไม่มีเลียง       

     

    ร่างบางค่อยๆรู้สึกตัว  สายตาพร่ามัวพยายามมองคนที่นั่งปัดปอยผมว่าคือใครยิ่งมองยิ่งชัดว่าใคร   นราปัดมือปานดาวทิ้งอย่างโมโหเมื่อนึกถึงสายตาดูถูกนั่นยิ่งทำให้ครอบตาร้อนผ่าว  เธอเกลียดปานดาว  เกลียดสายตาดูถูกนั่น

     

    ฉันขอโทษ  ฉันไม่ได้ตั้งใจ    ปานดาวพูดอย่างรู้สึกผิด  

     

    ไม่เป็นไร  

     

    นราตอบกลับด้วยสายตาเฉยชา พลางเมินหน้าหนีสายตาว้าววอนนั่น   จนเธอกลัวใจตัวเองเหลือเกิน 

     

    เธอไปหาหมอมั้ย  ฉันจะพาไป   ปานดาวพูดอย่างเป็นห่วงคนตรงหน้านี้จริงๆ   

     

    ไม่จำเป็น   

     

    ที่เธอทำมันเกินไปจริงๆ  เธอไม่ควรพูดจาดูถูกนราแบบนั้นเลยแล้วที่นี้จะทำยังไง  รูสึกไม่สบายใจเลยกับสายตาเย็นชานั่น   คิดแล้วได้แต่ถอนหายใจ      

     

    ฉันอยากอยู่คนเดียว  คุณออกไปเถอะ 

     

    แต่ว่า……”

     

    ไม่ได้ยินหรอไง  บอกว่าอยู่คนเดียว 

     

    นราพูดเสียงดังอย่างเก็บอารมณ์ไม่อยู่ ให้ร่างสูงต้องเดินออกไปอย่างช่วยไม่ได้  ปานดาวหันกลับมามองนราก่อนจะเดินออกไปอีกครั้งแต่ฝ่ายนั้นกลับเมินหน้าหนีเธออยู่อย่างนั้น     ตอนนี้คงเกลียดเธอจริงๆแล้วซิ         

     

    นิ่มเป็นยังไงบ้างครับคุณปาน    รชานนท์รีบถามเมื่อเห็นปานเดินออกจากห้องมา  

     

    นอนพักอีกสักพักเดี๋ยวก็คงดีขึ้นเอง  ไม่เป็นไรมากหรอก    

     

    แค่นี้ใช่มั้ย ฉันไปล่ะ 

     

    เดี๋ยวครับคุณ    

     

    ปานดาวเดินออกไปอย่างไม่ใส่กลับเสียงรชานนท์ที่เรียกตามหลังมา  ก็เธอมั่วแต่เป็นห่วงความรู้สึกของคนป่วยที่นอนอยู่ในห้องนั้น  

     

    ร่างกายที่อ่อนล้าไม่มีแรงแม้จะลุกเดินแต่หัวใจนี่สิ  กลับรู้สึกหนักอึ้งอย่างบอกไม่ถูกไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับความรู้สึกของตัวเองต่อคนที่เดินคอตกออกไปนั่น    นี่เธอพูดจาแรงไปมั้ยแล้วปานดาวจะคิดยังไงกับเธอ  รึจะเกลียดเธอมากกว่าเดิม  

     

    เป็นอะไรปาน       ระวีร์ถามปานดาวที่นั่งหน้ามุ่ยอยู่คนเดียว  พลางเม่อลอยมองไปไหนต่อไหน        

     

    ไม่เป็นอะไรหรอก  แค่รู้สึกผิดยังไงไม่รู้สิ  เฮ้อออ  

     

    เรื่องกลุ้มใจที่ไม่น่าเอามากลุ้มใจทำให้คนอย่างเธอเป็นถึงขนาดนี้เลยหรอ  คนอย่างปานดาวไม่เคยแคร์ความรู้สึกใคร  แล้วยัยนี่เป็นใครเนี่ยทำไมต้องมานั่งคิดมากด้วย   ใช่สิเธอจะคิดมากทำไม     ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน 

     

      อากาศร้อน  แกคงเพี้ยนแล้วมั้งปาน  

     

    ไม่รู้เหมือนกันว่ะ   ไปเที่ยวกันดีมั้ยคืนนี้ 

     

    แล้วไม่กลับเชียงใหม่รึไงคุณปานดาวขา  ไหนบอกกว่าไม่อยากอยู่นานไงนี่อยู่ข้ามคืนแล้วนะค่ะคุณขา     

     

    ระวีร์พูดแกมประชดประชันปานดาวที่ไม่สนใจกับอะไรเลย  แม้แต่มารดาที่เป็นห่วงนักหนา    

     

    ตกลงแกจะไปมั้ยวีร์  ถ้าไม่ไปฉันไปเองคนเดียวก็ได้     ปานดาวพูดอย่างไม่สบอารมณ์เท่าไร     

     

    ไปก็ไปสิว้า  ทำเป็นโมโหไปได้น่า   

     

    หญิงสาวร่างรูปเพรียวใส่เสื้อกล้ามสีขาวรัดรูป  เข้ากับกางเกงยีนต์เอวต่ำตามสมัยนิยมใบหน้าแต่งแต้มเครื่องสำอางอ่อนๆทำให้ใบหน้าขาวใสน่ามองขึ้นกว่าเดิมเสียอีก   ปานดาวเดินออกมาอย่างอารมณ์ดีพลางฮัมเพลงไปด้วย 

     

    จะไปไหนลูกปาน    เสียงเรียกทำให้เธอต้องเหลียวหลังกลับมาอีก 

     

    จะไปเที่ยวค่ะ  มีอะไรมั้ยค่ะฉันจะไปแล้ว  เอ่อ  คืนนี้อาจจะไม่กลับมานะค่ะ  ปานดาวตอบอย่างไม่ใส่ใจนักแล้วเดินออกไปหน้าตาเฉย      

     

    เสียงเครื่องยนต์ติดๆดับๆทำให้ปานดาวต้องถอยรถกลับมา  เมื่อพบรถยนต์คันหรูที่ไม่สามารถสตาร์ทติดได้อาการกระวนกระวายของผู้เป็นแม่บวกกับการแต่งตัวที่หรูหราเหลือเกิน   ต้องไปงานเลี้ยงไฮโซแน่ๆเธอคิดไม่ผิดแน่นอน  

     

    ในที่สุดเธอต้องพามารดามาส่งยังงานเลี้ยงหรูหรา  ทั้งที่ไม่เต็มใจเท่าไรก็เธอแพ้สายตาอ่อนโยนความห่วงใยที่บอกด้วยสายตาเห็นที่ไรใจอ่อนทุกที  

     

    งานเลี้ยงสุดหรูที่ถูกออกแบบให้ใหญ่โตสมกับเป็นเจ้าของร้านเพชรชื่อดังรายใหญ่   คุณหญิงหรือผู้มีอันจะกินทั้งหลายพากันอวดเครื่องเพชรที่แวววับสะท้อนแสงแยงสายตาให้ปานดาวต้องหลบ  กลัวคนอื่นไม่รู้รึไงว่ามีสตางค์กันปานดาวได้แต่คิดอย่างพาลๆ

     

    หญิงสาวในชุดราตรีสีขาวเรียบหรูที่สะกดทุกสายตาให้หันมามองหล่อนตาค้าง   ปานดาวเพ่งมองหญิงสาวที่ดูโดดเด่นท่ามกลางผู้คนที่รุมล้อมอย่างเอาใจ  ยิ่งมองยิ่งคุ้นยิงชัดเข้าไปใหญ่ก็เธอคือแม่สาวใหญ่ที่ว่านเสน่ห์ให้เธอต้องหลงคืนนั้นใครจะลืมหล่อนลง 

     

    สาวสวยหยิบแก้วไวน์แล้วดื่มเพื่อเป็นพิธีกับผู้คนที่รุมล้อมหล่อนอย่างเอาใจ   ภาพนี่มารยาสิ้นดีเธอรู้สึกได้เพียงแค่ภาพสวยงามที่ถูกฉาบไว้เบื้องหน้าเท่านั้น   แต่ดูเหมือนสายตาทั้งหลายที่รุมล้อมเธออยู่   ต่างหันไปสนใจกับหญิงสาวร่างสูงเพรียวที่แต่งตัวไม่เหมือนใครแต่ดูดีเหลือเกิน  เธอยิ้มน้อยๆเมื่อรู้ว่าคือใคร   

     

    สวัสดีค่ะ  มาด้วยหรอค่ะ    สาวสวยยิ้มหวานพลางมองสำรวจการแต่งตัวอย่างสงสัย 

     

    ฉันไม่ได้จะมาหรอกค่ะ  บังเอิญมาส่งคุณแม่ท่านเลยให้อยู่เป็นเพื่อนแปบหนึ่ง      

     

    หรอค่ะ    

     

    เธอยิ้มเขินๆกับสายตาที่จ้องมองอย่างมีเลศนัย  สายตาคมกริบที่สะกดให้ใจเธอหวั่นไหวตั้งแต่แรกเจอ  แต่หัวใจเธอกำลังเต้นไม่เป็นจังหวะเพราะคนตรงหน้านี้      

          

    ไม่รู้เลยนะค่ะว่าคุณมางานนี้ด้วย   

     

    มณีรินทร์คนนี้ต้องไม่ธรรมดาแน่ๆ  ถ้าไม่ใช่แขกสำคัญจริงๆคงไม่ได้รับเชิญมางานเลี้ยงที่รวมผู้ส่งออกเพชรระดับต้นๆของประเทศแน่นอน  

     

    คือฉัน  เป็นน้องสาวพี่นันท์เจ้าของร้านเพชรนี่ค่ะเลยมาช่วยรับแขก

     

      ดีใจนะค่ะที่ได้เจอคุณอีกครั้ง   

     

    มณีรินทร์ยิ้มหวานเธอต้องเมินหน้าหนีสายตาหวานเชื่อม  ทำให้เธอต้องเขินจัดไม่กล้าแม้แต่จะสบสายตาคมกริบที่แฝงความเจ้าชู้เอาไว้   ปานดาวคงเจ้าชู้ไม่ใช่เล่นดูจากสายตาหวานเชื่อมขนาดนั้นแต่เธอก็ชอบไม่ใช่หรือ  มณีรินทร์ขำกับความคิดตัวเองให้ปานดาวที่มองอยู่ขมวดคิ้วเป็นคำถาม  

     

    ป่าวค่ะ  แค่คิดอะไรเพลินๆ      

     

    คิดอะไรค่ะ  ยิ้มใหญ่เลยหรือคิดถึงปานค่ะ  

     

    นั่นไงปานดาวชั่งรู้ทันความคิดเธอเสียจริง  มณีรินทร์ต้องหัวเราะอีกครั้งเพราะความคิดปานดาวที่แทงใจดำเธออย่างแรง  

     

    รู้ได้ไงค่ะ  อ่านใจคนออกด้วยหรอ   

     

    อาจจะใช่ค่ะ  เพราะแววตาคุณฟ้องอย่างนั้น    แววตาที่จริงจังทำให้มณีรินทร์ต้องหลบสายตาที่จดจ้องเธออยู่

     

    สายลมที่พัดมาทำให้มณีรินทร์ต้องกอดอกเพราะความเหน็บหนาว   เพราะชุดที่เธอใส่มันช่างบางเบาเหลือเกิน   ปานดาวถอดเสื้อโค้ดตัวนอกออกบรรจงสวมทับให้มณีรินทร์ที่หันมาสบตาพอดีแววตาลึกซึ้งที่ประสานกันอย่างรู้ความในใจ  เป็นมณีรินทร์ที่ต้องเมินใบหน้าหนีสายตาหวานเชื่อมคู่นั่นซะก่อน   เธอกำลังหลงเด็กคนนี้เข้าแล้ว     

     

    ปาวดาวที่ตอนนี้เหลือเพียงเสื้อกล้ามสีขาวตัวจิ๋ว    ทำให้มณีรินทร์ต้องอมยิ้มเพราะดูแล้วแล้วปานดาวคงหนาวไม่แพ้เธอหรอกแล้วยังจะมาเสียสละให้เธออีก  

     

    คุณใส่เสื้อทับเถอะค่ะ  ฉันรู้คุณก็หนาว  

     

    ฉันไม่หนาวหรอกค่ะ  ฉันเต็มใจใส่ให้คุณเดี๋ยวฉันจะกลับแล้วเหมือนกัน   

     

    กลับแล้วหรอค่ะ   มณีรินทร์พูดอย่างผิดหวังให้ปานดาวต้องอมยิ้ม

     

    จะไปต่อน่ะค่ะ  สนใจไปด้วยกันมั้ยค่ะ

     

     แล้วคุณแม่คุณล่ะค่ะ  เอ่อท่านจะกลับยังไง       มณีรินทร์ถามอย่างลังเลเมื่อมองไปยังคุณหญิงพิมพ์พรรณที่กำลังร่วมวงสนทนากับพี่สาวเธออย่างสนุกสนาน    

     

    ฉันแค่มาส่งค่ะ  เดี๋ยวคนขับรถก็มารับท่านกลับ   

     

    เป็นผลให้มณีรินทร์ฉีกยิ้มหวาน  เธอจะปฏิเสธปานดาวได้อย่างไรไม่รู้เหมือนกันว่าปานดาวกำลังรุกเธอ  หรือเธอกันแน่ที่ใจง่ายไปเองคิดแล้วตลกตัวเองชะมัดเธอเองก็อายุปาเข้าไปสามสิบกว่าๆแล้วยังทำเหมือนเพิ่งเคยมีความรักครั้งแรกไปได้    นี่เธอหนักใจกับตัวเองจริงๆ            

     

    เสียงเครื่องยนต์ที่แล่นจากไปพร้อมสาวสวยคุ้นตา    ทำให้คุณหญิงพิมพ์พรรณต้องขมวดคิ้วด้วยความสงสัย  ไม่รู้ว่าสองคนนั่นไปรู้จักกันเมื่อไรแล้วทำไมดูสนิทสนมกันแท้  

     

    ..................................................................................................................

     

    เสียงบรรดาสาวใช้ที่กุลีกุจอกันต่างเตรียมความพร้อมของบ้านอย่างออกนอกหน้าทำให้ปานดาวต้องสงสัย  เมื่อความสงสัยดำรงอยู่ได้ไม่นานก็เพราะหนุ่มใหญ่ในมาดนักธุรกิจเดินเข้ามาในบ้าน  ดูน่าเกรงขามสำหรับทุกคนเหลือเกินเธอเริ่มรู้อะไรได้ลางๆแล้ว  

     

    คุณอรัญ  หนุ่มใหญ่นักธุรกิจระดับต้นๆของประเทศที่ตัดสินใจแต่งงานกับแม่หม้ายสาวพราวเสน่ห์ด้วยความอ่อนหวานของหล่อนทำให้เค้าหลงรักตั้งแต่แรกเจอจนทุกวันนี้ 

     

    เป็นไงบ้างค่ะคุณเหนื่อยมั้ย    

     

    แค่เห็นหน้าคุณกับลูก  ผมก็หายเหนื่อยแล้วล่ะ      อรัญตอบพลางรั้งร่างภรรยาเข้ามากอดด้วยความคิดถึง

     

    อายเด็กๆบ้างค่ะคุณ  

     

    ไม่ต้องอายครับคุณแม่  น้องพีปิดตาก็ได้     ทุกคนต่างหัวเราะน้องพีกับท่าทางปิดตาแอบดูให้ทุกคนเอ็นดูกับความน่ารัก      

     

    เห็นมั้ยค่ะคุณ  น้องพีแก่แดดใหญ่แล้ว 

     

    เค้าเรียกว่าฉลาดใช่มั้ยครับ  ลูกชาย       คุณอรัญหันไปถามน้องพีที่รีบตอบขึ้นมาทันที  

     

    ใช่ครับ   

     

    ภาพครอบครัวที่อบอุ่นหยอกล้อกันอย่างสนุกสนานมันกลับแทงใจดำปานดาวที่มองจากข้างบนอย่างจัง  เธอไม่เคยรู้จักคำว่าครอบครัวมานานเท่าไรแล้วก็เพราะคนที่ยืนยิ้มอยู่ข้างล่างหยิบยื่นให้   ต่อไปนี้จะได้รู้ว่าทรมานมันเป็นอย่างไร 

     

    ปานดาวเหยียดยิ้มจนนราต้องกลัวรอยยิ้มที่ซ่อนความน่ากลัวเอาไว้    ไม่รู้ว่าปานดาวคิดอะไรอยู่แต่ที่รู้ๆปานดาวคนนี้น่ากลัวเหลือเกิน   

     

    ............................................................................
    ติชมกันนิดหนึ่ง  เพื่อกำลังใจในตอนต่อไปนะค่ะ          

    ......................บ๊าย บายค่ะ.................................. 

     

     

     

      

     

     

        

     

      

     

             

     

     

     

     

       

     

     

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×