ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เกมรัก...หัวใจนี้เพื่อเธอ (Yuri)

    ลำดับตอนที่ #1 : การกลับมา

    • อัปเดตล่าสุด 28 มิ.ย. 51


    เอี๊ยดด!!

     

    เสียงรถยนต์คันเล็กที่แล่นเข้ามาจอดอย่างเร็ว  ตามด้วยเสียงเบรกที่จงใจแกล้งคนได้ยินให้ปวดหัวเล่นๆ  เสียงเพลงที่ดังกระหึ่มออกมา  ทำให้หญิงสาวที่มองจากข้างบนบ้านหลังใหญ่ไม่พอใจกับเจ้าของรถคนเล็กนั่นจริงๆ  ทำให้ชักอยากเห็นหน้าตาคนที่ทำตัวไม่มีมารยาทซะเหลือเกิน   

     

    หญิงสาวร่างสูงเพรียวก้าวเท้าออกมาจากรถคันเล็ก    เธอถอดแว่นสีชาออกเผยให้เห็นใบหน้าขาวเนียนที่มีเหงื่อไหลซึมออกมาจากความร้อนของอากาศตอนกลางวันแบบนี้   ผมยาวละต้อคอที่ปลิวไสวตามแรงลมชวนให้คนมองเผลอจ้องอย่างลืมตัว  

     
    หญิงสาวร่างสูงปาดเหงื่อที่ไหลซึมออกมาพลางมองบ้านหลังใหญ่ที่ตัวเธอเองแทบจะจำไม่ได้แล้วว่าเคยอาศัยอยู่ที่นี่  มันช่างแตกต่างกับปัจจุบันของตัวเธอเองเสียเจริงๆ  ต้องอาศัยอยู่บ้านสวนหลังเล็กไม่เห็นแม้แต่รถวิ่งผ่าน  มีเพียงรถเก๋งสีแดงคันเล็กที่พอขับให้โก้หน่อยเท่านั่น   ตอนนี้ทำไมเธอนั่งสบายในบ้านหลังโตนี่ล่ะ  ต้องมายืนร้อนให้เค้ามาเชิญเข้าไปทำไมอดที่จะคิดน้อยเนื้อต่ำใจไม่ได้เลยจริงๆสิ     

     

    คุณปานใช่มั้ยค่ะนั่น    หญิงชราเดินยิ้มมาแต่ไกลพลางขยับแว่นทีใส่เพื่อมองคนตรงนี้ให้ชัดยิ่งขึ้น      

     

    ใช่ค่ะ  เออป้าสมใช่มั้ยค่ะ   

     

    ใช่จริงๆด้วย โถ่คุณหนูของป้าไม่ได้เจอกันนานแค่ไหนแล้วค่ะ     หญิงชรารีบสวมกอดปานดาวที่กอดตอบด้วยความคิดถึง 

     

    ไม่กล้าหรอกค่ะป้า มันไม่ใช่บ้านปานแล้วนี่ค่ะ 

     

     ก็เธอเล่นจากไปเป็นสิบปีได้แล้วมั้งดีนะที่อย่างน้อยก็ยังมีป้าสมจำเธอได้  ไม่รู้ว่ามารดาแท้ๆของเธอจะจำลูกสาวตัวเองได้รึเปล่าก็ไม่รู้  ปานดาวตอบแล้วพลางมองบ้านหลังใหญ่อย่างหวั่นใจเหมือนกัน  

     

    จะกลัวอะไรค่ะนี่มันบ้านคุณหนูเองนะค่ะ  เข้าบ้านดีกว่าค่ะไม่รู้คุณนายท่านเจอคุณหนูจะดีใจแค่ไหนเพราะท่านบ่นถึงแต่คุณหนูตลอดเวลาเลยนะค่ะ        ป้าสมรีบจูงมือปานดาวเข้าบ้านอย่างตื้นเต้น

     

     

    ปานใช่มั้ยลูก   

     

     หญิงสาววัยกลางคนเอ่ยถามคนตรงหน้าเสียงสั่น  ความดีใจมากมายที่ล้นทะลักจนเก็บอาการไม่ได้ต้องผวากอดลูกสาวที่ยืนนิ่งเหมือนหุ่นกระบอกที่ไม่กล้าแม้แต่จะสวมกอดมารดา         

     

    ค่ะ    ปานดาวตอบเสียงเบา 

     

    แม้ใจอยากสวมกอดผู้เป็นแม่ใจแทบขาดใจ  เธอจำต้องเก็บอาการเอาไว้เพราะความผิดของคนที่สวมกอดแน่นนี้ได้ทำนั้นไม่มีวันที่เธอจะลืมมันได้จริงๆ   จึงต้องรักษาระยะห่างเอาไว้ก่อนเพื่อไม่ให้อีกคนได้ใจ       ที่เธอมาวันนี้เพื่อจะมาเยี่ยมเยียนตามคำสั่งของพ่อเท่านั้นไม่อย่างนั้นไม่มีวันซะหรอกที่จะอย่างกายเข้ามาที่นี่     

     

    สบายดีมั้ยลูก   

     

    พิมพ์พรรณรีบถอยห่างเมื่อเห็นอาการห่างเหินของลูกสาว    พลอยทำให้อยากจะร้องไห้เหลือเกินทั้งๆที่น้ำตามันตกอยู่ข้างในอยู่แล้ว   สีหน้าผืนๆที่ดูเก็บอาการอึดอัดได้ไม่มิดยิ่งทำให้เศร้าใจเข้าไปใหญ่                        

     

    ก็สบายดีตามประสาสองคนพ่อลูกน่ะค่ะ  คุณล่ะค่ะสบายดีมั้ยเออน่าจะสบายดีใช่มั้ยค่ะ ปานดาวตอบแกมประชดชันผู้เป็นแม่ที่ฟังสีหน้าเจื่อนลงไปอีก   

     

    มาเหนื่อยๆ  พักสักวันสองวันนะลูก     

     

    เห็นคงไม่ได้หรอกค่ะ  จะรีบกลับด้วย     

     

    นั่งคุยให้แม่หายคิดถึงก่อนนะปาน     สายตาคล้ายวิงวอนแกมของร้อง  ทำให้เธอต้องจำใจนั่งลงอีกครั้ง 

     

     เรื่องราวมากมายสมัยเด็กๆที่ได้ฟังที่ไรก็อดยิ้มตามไม่ได้  ปานดาวได้แต่พยายามซ่อนอาการไว้ไม่ให้ออกนอกหน้ามากนัก แต่ใจนั้นกลับรู้สึกดีเหลือเกินเหมือนว่าเธอกำลังเป็นเด็กอีกครั้งหนึ่งให้แม่คอยเฝ้าห่วงดูแลอยู่ไม่ห่าง    จะมาสะดุดก็ต้องเรื่องครอบครัวใหม่ที่ดูเหมือนคนที่เผลอพูออกมาเงียบลงเมื่อรู้ปานดาวเบือนหน้าหนีไม่สนใจขึ้นมาทันที               

     

    คุณพูดจบแล้วใช่มั้ยค่ะ ฉันขอเดินดูบ้านหน่อย  

     

    งั้นตามใจปานนะลูก อยากได้อะไรก็เรียกป้าสมแกได้

     

     พูดเสร็จพิมพ์พรรณได้แต่เดินออกไปอย่างเศร้าใจ  เธออยากจะใช้เวลาทั้งหมดได้พูดคุยใช้เวลาร่วมกันให้นานที่สุดก่อนที่ปานดาวจะเดินจากไปแล้วไม่มีวันกลับมาเหมือนครั้งก่อน

     

    ภาพบรรยากาศเบื้องหน้าคือทะเลสาบที่ไกลสุดลูกหูลูกตา  หอบพัดลมเย็นๆเข้ามาให้สดชื่นใจเหมือนวันเก่าๆที่มันไม่ได้ตายไปจากใจเธอเลยกับฝังลึกให้จำไปจนตายต่างหาก   หลายแล้วปีที่พ่อแม่ตัดสินอย่าขาดกันให้เธอต้องทุกข์ใจที่จะต้องเลือกอยู่กับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง    แล้วเธอก็เลือกที่จะอยู่กับพ่อเพราะความผูกพันธ์ที่มีกว่า    ทุกวันนี้แม้ชีวิตจะไม่ได้เลิศหรูร่ำรวยอะไร  แต่เธอเองก็ความสุขดีมากกว่าอยู่บ้านหลังใหญ่ที่ดูอึดอัดนี่ซะอีก                     

     

    น้ำค่ะ  คุณปาน   

     

    น้ำเสียงกระแทกที่ฟังดูแปลกหูทำให้ปานดาวที่มั่วแต่คิดอะไรเพลินๆต้องหงายหน้าขึ้นมอง  พบเจ้าของใบหวานที่ยิ้มฝืนๆให้ ถ้าทางทำยังกะรังเกียจอะไรเธอมากซะขนาดนั้น    ชั่งปะไรเธอก็มองกลับด้วยสายท้าทายกับเหมือนกัน   รู้สึกถึงความไม่มิตรของผู้หญิงคนนี้จริงๆเลย 

     

    อุ้ย! ขอโทษค่ะน้ำหกหมดเลย 

     

    สายตาเย้ยหยันที่มองกลับอย่างได้ใจของหญิงสาวยิ่งทำให้อารมณ์ขุนมั่วยิ่งทวีสูงขึ้นไปอีก  แต่ตอนนี้เธอทำอะไรไม่ได้ต้องปล่อยไว้ก่อนปานดาวบอกกับตัวเองพลางสูดลมหายเข้าใจเรียกสติให้คืนดั่งเดิม  แล้วค่อยยิ้มหวานอย่างเยือกเย็นให้หญิงสาวกลับรู้สึกกลัวลอยยิ้มนั่นจริงๆ

     

    เธอเป็นใคร   ปานดาวถามพลางแสร้งยิ้มให้เจ้าของใบหน้าหวาน    ที่ทำหน้าเชิดเดาก็รู้ว่าคงไม่อยากคุยกับเธอเท่าไร

     

    ฉันเป็นหลานสาวคุณอรัญ  คอยดูแลความเรียบร้อยของบ้านหลังนี้ค่ะ           

     

    ให้ตายเถอะใครชั่งทำปันหน้ายัยนี่ให้เชิดอยู่ตลอดเวลาอย่างนี้ ไม่เมื่อยคอมั่งรึไง  หน้าตาก็ดีแต่ทำหน้าเหมือนนางมารร้ายในละครอยู่ได้      แต่ปานดาวกลับรู้สึกขำมากกว่าไม่พอใจหญิงสาวตรงหน้านี้     เธอขำในใจจนหลุดหัวเราะออกมาให้หญิงสาวที่ปั้นหน้าเชิดมองตาเขียวใส่         

     

     ทำหน้าเชิด  อยู่อย่างนั้นไม่เมื่อยมั่งหรอไง 

     

    ฉันจะเป็นยังไงมันก็เรื่องของฉันไม่เกี่ยวกับคุณ   อย่ามายุ่ง          นราพูดเน้นย้ำตอนท้ายให้ปานดาวถึงกับสะดุ้ง   แล้วรีบจ้ำเดินออกไปทันทีขืนให้อยู่นานกว่านี้มีหวังเธอได้ฆ่าคนบ้านั่นทิ้งแน่ๆ

     

    ดุจริงๆเลยยัยนี่ ปานดาวมองตามร่างเล็กที่เดินจ้ำไปอย่างขำๆเธอชักอยากอยู่ที่นี่ต่อแล้วล่ะสิ     ที่นี่อาจมีอะไรมากมายให้เธอทำกว่าอยู่บ้านสวนก็ได้   

     

    เป็นอะไรค่ะคุณนิ่ม  หน้าบึ้งมาเชียวค่ะ    

     

    ก็ลูกสาวคุณอาพิมพ์สิค่ะ  กวนประสาทนิ่มอยู่ได้                 

     

    คุณปานเธอน่ารักนะค่ะ   อัธยาศัยดีไปทั่ว       

     

    ค๊ะ     นรารีบถามซ้ำ  กวนประสาทกันนี่เค้าเรียกว่าอัธยาศัยดีกันหรอ   ลำเอียงกันเห็นๆป้าสมนี่

     

    แล้วป้าสม  จะเอาของพวกนี้ไปไหนค่ะเนี่ย    

     

    อ่อ จะเอาไปจัดห้องให้คุณปานน่ะค่ะเห็นว่าจะค้างที่นี่ด้วย  คุณนายท่านดีใจใหญ่เลย   

     

    ห๊า   

     

    เสียงดีใจของป้าสมกลับทำให้เธอจะบ้าตายอยู่แล้ว  ทำไมยัยบ้านั่นต้องเกิดมาอยากค้างอะไรด้วยเนี่ยไหนบอกจะกลับเลยไงเธอยังดีใจไม่ถึงสิบนาทีเลยมีหวังเจอกันอีก พรุ่งนี้เธอคงบ้าจริงๆแน่        

     

    คุณนิ่มช่วยเอาไปให้คุณปานได้มั้ยค่ะ ป้าจะไปทำอาหารเย็นวันนี้คุณหญิงคงเลี้ยงใหญ่เลยค่ะ  

     

    ไม่เอาค่ะป้า  นิ่มไม่อยากเป็นบ้าตอนนี้ค่ะ     

     

    ช่วยป้าหน่อยสิค่ะคุณนิ่ม      

     

    เฮ้อ!”      

     

    ในที่สุดก็ต้องทำตามจริงๆ   ยิ่งพยายามหลบเท่าไรต้องมีเหตุให้ต้องเผชิญหน้ากับคนบ้านั่นทุกที  นราเดินขึ้นบันไดไปอย่างเหนื่อยๆเมื่อคิดแล้วต้องเจอกับอะไรข้างบนนั่นคงหนีไม่พ้นสงครามน้ำลายเช่นเดิม              

     

    ร่างสูงนอนเหยียดขายาวบนเตียงพลางฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดี ขาอีกข้างกระดิกไปตามจังหวะเพลงคนอะไรชั่งสุขสบายซะเหลือเกิน   ทำให้เธอมั่นไส้อีกจนได้

     

    ร่างสูงสะดุ้งพรวด    หลีกกองผ้าห่มผืนโตที่อีกคนตั้งใจโยนลงมาเพราะความมั่นไส้

     

    เธอบ้ารึเปล่า  ให้ดีๆไม่ได้รึไง    

     

    แล้วคุณล่ะ  ทำกิริยามารยาทให้มันดีๆหน่อยสิให้สมเป็นลูกผู้ดีมั่งเถอะค่ะ  

     

     แล้วเธอเป็นใครไม่ทราบมาสั่งสอนฉันเนี่ยเสร็จธุระก็ไปเลย    

     

    ก็คุณมันไม่มีมารยาท     นราพูดกระแทกเสียงใส่คนที่มองจ้องเธอเขม็ง   

     

    ปานดาวมองหญิงสาวร่างเล็กตรงหน้าที่กล้าพูดจาสั่งสอนเธอ  ทั้งที่ไม่เคยไม่มีใครกล้ามาก่อนเพราะต่างก็รู้อารมณ์ร้ายกาจของตัวเธอเองดี  เธอมองร่างเล็กแล้วยิ้มกริ่มเมื่อนึกอะไรดีๆออก   ปานดาวเดินเข้าหานราที่ค่อยๆเดินถอยหลังไปเรื่อยๆ จนติดกำแพงแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์ให้นราที่อยู่ใต้วงแขนเธอเรียบร้อยแล้ว  

               

     หลีกไปเลยนะ 

     

    นราบอกร่างสูงที่ตอนนี้เอาใบหน้าเขามาไกล้ จนเหลือไม่กี่คืบแต่ดูเหมือนยิ่งพูดปานดาวยิ่งยิ้มยียวนยั่วโมโหเธออยู่อย่างนั้น      

     

    ลองยิ้มให้ฉันดูหน่อยสิ   แล้วฉันจะปล่อยเธอไป

     

    ปานดาวเผลอยิ้มอ่อนโยนให้คนที่อยู่ใต้วงแขนอย่างลืมตัว    แววตานิ่งเฉยที่จ้องกลับยิ่งเหมือนมีดึงดูดให้ปานดาวเลือนใบหน้าเข้าใกล้ริมฝีปากบางที่นิ่งสนิทเหมือนต้องมนต์สะกดให้แขนขาไม่มีแรงดิ้นหนีจากใต้วงแขนแข็งแรงนี่  ทั้งที่ในใจเธอประทวงให้ร่ำๆให้หลุดพ้นเสียทีแต่สายตาสิกลับจ้องกลับเหมือนเชิญชวนอย่างเต็มใจ   

     

     ดูทำเข้า  จะยั่วฉันหรอ  55555555      

     

    บ้าสิ   ยัยโรตจิต  

     

    ปานดาวมองนราตั้งแต่หัวจดเท้า  พลางทำสายตากรุมกริ่มให้ร่างเล็กโมโหขึ้นไปอีก    

     

    เธอนี่มันบ้าจริงๆ    

     

    นราพูดแล้ว  เธอรีบเดินออกจากห้องนี้ไปทันทีถ้าอยู่นานกว่านี้เธออาจจะเปลืองตัวกว่านี้แน่ๆ    แต่หัวใจเธอเองทั้งๆที่สั่งงานให้มันรีบปฏิเสธแต่กลับไม่มีแรงขัดขืนแถมยังเผลอใจไปกับร่างสูงจอมยียวนนั่นอีกทั้งที่บอกกับใจตั้งแต่แรกเห็นว่าไม่ชอบขี้หน้าเพียงใด     คนที่เธอเกลียดกลับทำให้ใจเธอหวั่นไหวไปหมด   เธอไม่ควรเลยจะรู้สึกแบบนั้นกับคนนิสัยไม่ดีอย่างยัยบ้านี่      

     

    ไม่ๆๆ  ไม่คิดแล้ว       นราสะบัดหัวไปมาไล่ความคิดที่ชักจะเลยเถิดไปไกลเหลือเกิน      

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×