ลำดับตอนที่ #8
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : ความจริงกำลังจะปรากฏ
ตอนที่ 8 ความจริงกำลังจะปรากฏ .
“ว่าไงเจ้าหญ้าก่อเรื่องอีกแล้วนะเรา ลุงขอให้เลิกนิสัยใจร้อนแบบนี้ไม่รู้จะกี่ครั้งแล้วนะ ครั้งนี้ลุงจะจัดการขั้นเด็ดกับเราสักที” ท่านผู้ว่าวันชัยอารมณ์สียอย่างมากที่เห็นสภาพของหลานสาวของตัวเองที่ดูไม่ได้เอาเสียเลย ๆไม่ใช่ว่าท่านจะไม่เคยเห็นสภาพแบบนี้ของดอกหญ้าท่านเห็นออกจะบ่อยเมื่อครั้งที่อยู่ที่กรุงเทพ และท่านก็ไม่อยากเห็นสภาพแบบนี้ของหลานสาวสุดที่รักของท่านอีกต่อไป เพราะนับวันดอกหญ้าอีกก่อเรื่องหนักมากขึ้นทุกที
“คุณ จะจัดการอย่างไรกับดอกหญ้าเหรอค่ะ”ฝ่ายคุณอร ที่เห็นว่าเหตุการณ์ทั้งหมดมันไม่ค่อยจะดีแล้วจึงเอ่ยขัดจังหวะขึ้น
“ผมจะส่งเจ้าหญ้ามันไปเรียนต่อที่เมืองนอก”
“ว่าไงนะ” เสียงของทุกคนที่นั่งอยู่ตรงนั้นตะโกนออกมาพร้อมกัน โดยเฉพาะดอกหญ้าที่เสียงน่าดังมากกว่าคนอื่น และตอนนี้ก็กำลังช็อกอยู่กับสิ่งที่กำลังได้ยินไป
“ทำไมคุณต้องส่งดอกหญ้าหญ้าไปเรียนต่อถึงเมืองนอกด้วยล่ะค่ะ” คุณอรถามสามีกลับทันที และแสดงสีหน้าที่ไม่ค่อยจะพอใจสักเท่าไร ด้วย เพราะการที่ท่านผู้ว่าจะส่งดอกหญ้าไปเรียนต่อถึงเมืองนอก มันก็จะทำให้เธอต้องอยู่ห่างกับดอกหญ้ากันไกลมาก
คุณอร รักดอกหญ้ามาก เธอไม่ต้องการให้ดอกหญ้าอยู่ไกลเธอ เธอรักดอกหญ้าเหมือนลูกสาวคนหนึ่ง เพาะว่าคุณอรเธอไม่สามารถมีลูกได้
“ผมจำเป็นต้องทำคุณอร ผมหวังดีกับเจ้าหญ้ามัน แกเห็นด้วยกับลุงไหม ต้นกล้า”
เมื่อท่านผู้ว่าอธิบายสาเหตุที่ท่านต้องส่งดอกหญ้าไปเรียนต่อให้คุณอรฟังแล้ว ก็หันไปถามความเห็นของต้นกล้า
“ผมเห็นด้วยครับคุณลุง แต่ผมเป็นห่วงน้องครับ ที่ต้องไปอยู่ที่นั้นคนเดียว”
ไม่ต้องเป็นห่วงเจ้าหญ้ามันหรอก ลุงไม่ให้เจ้าหญ้ามันไปอยู่คนเดียวหรอก ลุงจะส่งเจ้าหญ้าไม่อยู่กับ แคทรีน เพื่อให้เธอช่วยดัดนิสัยใจร้อนของเจ้าหญ้ามันนะ
“แคทรีนนี้ใครเหรอครับคุณลุง” ชาติกล้าเอ่ยถามท่านผู้ว่าทันทีเพราะเขาไม่เคยได้ยิน ชื่อของผู้หญิงคนนี้เลย
“แคทรีนเป็นเพื่อนของลุงเองแหละ เราเป็นเพื่อนกันตอนที่ลุงไปเรียนต่อที่อังกฤษนะ ตอนนี้แคทรีนเธอภรรยาท่านทูตประเทศอังกฤษนะ ตอนนี้เธอกำลังว่างอยู่ลุงจึงจะส่งเจ้าดอกหญ้าไปดัดนิสัย สัก 4-5 ปี แคทรีนเป็นคนที่เรียบร้อยมากและเจ้าระเบียบมาก แต่ก็ใจดีนะ”
“ไม่มีใครถามความเห็นของหญ้าเลยเหรอค่ะ ว่าหญ้าอยากไปหรือไม่นะ” ดอกหญ้าที่นั่งเงียบฟังทุกคนเขาพูดกันตั้งแต่กลับมาถึงบ้าน โผล่งกลางปล้องขึ้น
“เพราะลุงรู้นะสิถ้าลุงถามเรา เราก็ปฏิเสธทันทีนั้นแหละ ลุงเลยไม่ต้องความคิดเห็นเราเลย”
“เราสัญญากับลุงแล้วไม่ใช่เหรอว่าถ้าเหตุเกิดการณ์แบบนี้ขึ้นมาอีกครั้ง เราจะไปเรียนต่อที่อังกฤษทันที จำไม่ได้ แล้วเหรอว่าเคยสัญญาอะไรไว้นะ”
ดอกหญ้าก้มหน้าเงียบทันทีเมื่อได้ยินท่านผู้ทวงสัญญาที่เธอเคยสัญญาไว้กับท่าน ท่านผู้ว่าต้องการส่งเธอไปเรียนที่อังกฤษตั้งนานแล้วตั้งแต่ตอนที่เธอทะเลาะกับพวกเด็กเทคนิคแห่งหนึ่งตอนที่เธออยู่ที่กรุงเทพแต่เธอก็ไม่ยอมไป เธอเลยให้สัญญากับท่านผู้ว่าเธอจะไม่ยกพวกทะเลาะกับใครอีก ถ้าเธอทะเลาะกับใครอีกให้ท่านผู้ว่าส่งเธอไปเรียนที่อังกฤษทันทีได้เลย
“ตกลงค่ะ หญ้ายอมไปเรียนที่อังกฤษก็ได้ค่ะ และจะให้หญ้าไปเมื่อไรค่ะ”
ดอกหญ้าตอบตกลงทันทีเพราะความน้อยใจ เธอคิดว่าลุงกับป้า และพี่ชายไม่ต้องการเห็นหน้าเธอ เลยคิดจะส่งเธอไปที่อื่น เธอเงยหน้าขึ้นมามองหน้าของทุกคนแล้วก็เดินกลับขึ้นห้องของตัวเองอย่างเงียบ ๆ โดยไม่หันมามองหน้าของบุคคลทั้งสามที่นั่งอยู่ด้านหลังของเธอเลย
---------
“เฮ้ย......ไอ้คินข้ามีข่าวดีมาบอกแกวะ”
ภานุเดินเข้ามาหาเพื่อนที่นั่งคอตกอยู่ที่โต๊ะทำงานของตัวเอง
“ข่าวดีอะไรของแกหนักหนาวะไอ้นุ”
ภาคินถามกลับอย่างเซ็งๆๆๆๆ
“แล้วแกอยากรู้ไหมละวะ”
ภานุย้อนกลับ
“แกจะบอกหรือไม่บอกก็ตามใจแกเถอะวะ ข้าไม่อยากรู้หรอก”
“เรื่องของดอกหญ้าสาวน้อยที่แอบปิ้งน่ะโว้ย ไม่อยากรู้ก็ตามใจ แล้วอย่ามีเสียใจภายหลังนะโว้ย”
บอกเสร็จภานุก็ทำท่าจะเดินกลับออกจากห้องไป
“แกบอกว่าเรื่องของใครนะโว้ย เรื่องของดอกหญ้าเหรอ เกิดเรื่องอะไรกับเขาเหรอ”
ภาคินเมื่อได้ยินว่าเป็นเรื่องของดอกหญ้าก็ยิงคำถามใส่ภานุไม่ยั่งเลย
“เฮ้ย.......แกเอาทีละคำถามสิวะ ข้าไม่รู้จะตอบคำถามไหนก่อนดี”
ภานุขำกับท่าทีของเพื่อน
“แกนี้ ท่าจะเป็นเอาหนักมากๆๆๆๆๆๆเลยนะ”
“เฮ้ย....จะตอบได้ยังวะ ท่ามากอยู่นั้นแหละแก”
ภาคินชักจะมีอารมณ์โกธรขึ้นมานิดหน่อยแล้วที่เห็นเพื่อนตัวดี เอาแต่ทำท่ามากไม่ยอมบอกเรื่องเกี่ยวกับดอกหญ้าให้ฟังสักที
“คือว่าเมื่อวันก่อน ข้าไป เจอดอกหญ้านะกำลังยกพวกทะเลอะกับเด็กผู้หญิงกลุ่มหนึ่งวะ ข้าเลยจัดการจับมาโรงพักหมดเลยวะ”
“เนี้ยน่ะข่าวดีของแก ดอกหญ้าโดนจำเนี้ยข่าวดี”
ภาคินโวยวายทันทีที่ได้ยินเรื่องที่ภานุเล่าให้ฟังว่าดอกหญ้ายกพวกทะลอะกัน ทำให้เขาคิดเป็นห่วงดอกหญ้าขึ้นมาทันที
“เฮ้ย.....ไอ้บ้าฟังให้มันจบก่อนสิวะ แล้วค่อยโวยวาย เขาไม่ได้เป็นอะไรมากหรอกนะ”
ก็เล่าต่อสิวะ
“คือว่าเมื่อจับพวกนักเรียนมาทั้งหมดมาโรงพักแล้ว แก่รู้ไหมว่าใครมาประกันตัว ดอกหญ้านะ”
“ใครวะ”
“คุณชาติกล้า”
“ก็ไม่เห็น แปลกอะไรนิ เขาสองคนเป็นแฟนกันไม่ใช่เหรอ แฟนมาประกันตัวแฟนมันมีอะไรดีวะ”
ภาคินดูจะไม่แปลกใจเลยที่ภานุบอกว่าชาติกล้ามาประกันตัวดอกหญ้า แต่ใบหน้าของเขาก็ขรึมลงทันที
“โธ้.....ไอ้บ้าแกเข้าใจผิดแล้วโว้ย คุณชาติกล้านะเขาไม่ได้เป็นแฟนกับดอกหญ้าหรอกโว้ย พวกเขา 2 คน นะ เป็นพี่กับน้องกันโว้ย
“จริงๆๆๆๆๆหรือวะไอ้นุ”
“จริงสิวะ ข้าจะโกหกแกทำไมกันวะ”
“ถ้าอย่างนั้นดอกหญ้าก็เป็นหลานสาวของน้าชัย กับ น้าอรสิวะ”
ภาคินพูดออกมาอย่างดีใจ
ก็จริงนะสิวะ
“งั้นเราไปจวนผู้ว่ากันดีว่าวะไอ้นุ”
ภาคินพูดเสร็จก็ไม่รอช้า ลุกขึ้นเดินออกจากห้องทันที
*******
“อ้าวตาคิน แวะมาพอดี น้ากำลังคิดถึงอยู่พอดี”
คุณอร ทักทาย ภาคิน อย่างเป็นกันเอง
“เอ่อ....สวัสดีครับน้าอร นี้ภานุเพื่อนผมครับ”
ภาคินเอ่ยแนะนำเพื่อนให้คุณอรรู้จัก ภานุยกมือขึ้นไหว้ทำความเคารพคุณอรทันทีที่ภาคินเอ่ยแนะนำเขาเสร็จ
จ๊ะ สวัสดีจ๊ะ
“เข้ากันไปในบ้านกินน้ำกินท่ากันก่อนดีกว่าจ๊ะ เชิญจ๊ะ”
“ทำไมบ้านดูวุ่นวายจังเลยครับ น้าอร จะไปไหนกันเหรอครับ”
ภาคินเอ่ยถามขึ้นเมื่อเข้ามานั่งในบ้านเรียบร้อยแล้ว เขาสังเกตเห็นคนในบ้านทุกคนกำลัง เก็บของและค้นกระเป๋าหลายใบไปใส่ไว้ในรถตู้ที่จอดอยู่หน้าบ้าน
“คือว่าดอกหญ้าจะไปเรียนต่อที่อังกฤษนะจ๊ะ”
คุณอรพูดออกไปอย่างไม่คิดอะไรมากเพราะเธอคิดว่าภาคินคงรู้เรื่องแล้ว แต่เธอก็หารู้ไมว่าคนตรงหน้าของเธอตกใจและก็แปลกใจอย่างมากที่อยู่ๆคนที่เขาอยากพบหน้ามากที่สุดจะจากเขาไปโดยที่เขาไม่ได้พูดความในใจอะไรกับเธอเลยสักคำ
“จะไปเมื่อไรครับน้าอร”
เมื่อดึงสติของตัวเองกลับมาได้ ภาคินจึงเอ่ยถามสิ่งที่เขาอยากรู้ออกไป
“ตอนเย็นนี้แหละจ๊ะไปส่งน้องด้วยกันไหม”
คุณอรตอบถามที่ภาคินถามและขอเอ่ยชวนภาคินและชวนภานุไปส่งดอกหญ้าด้วยกัน
“ไม่ดีกว่าครับน้าอรพอดีผมมีธุระนะครับตอนเย็น และนี้ดอกหญ้าอยู่หรือเปล่าครับ ผมก็ลาที่นี้เลยที่กว่า”
ภาคินไม่ยอมไปส่งดอกหญ้าที่สนามบินเพาะเขายังทำใจยอมรับการจากไปของเธอไม่ได้ เขาเลยจำเป็นที่ต้องโกหกคุณอรว่าเขาติดติดธุระ
“ดอกหญ้าไม่อยู่หรอกจ๊ะ เขาไปลาเพื่อนๆๆ นะจ๊ะ คงจะกลับมาตอนเย็นๆ แล้วก็ไปสนามบินเลยนะจ๊ะ”
ถ้าอย่างนั่นผมฝากส่งดอกหญ้าด้วยนะครับ
ภาคินบอกเสร็จก็ขอตัวลากลับอย่างคนสิ้นหวัง
ต้องขอโทษด้วยนะ ที่นับมาลงช้านะ พอดี ว่ามีช่วงนี้เรียนหนักค่ะ เลย ไม่เคยมีเวลาค่ะ
และอย่างไรขอตาม ขอให้เพื่อนทุกคนช่วยเป็นกำลังช่วยนะค่ะ
ขอคะแนนโหวตและคำติชมด้วยนะค่ะ
ขอขอบพระคุณอย่างมากค่ะ ที่ติดตามชมค่ะ คอยติดตามชมนะค่ะว่าความรักระหว่างนายอำเภอสุดหล่อของเรากับหลานสาวผู้ว่าจะดำเนินไปอย่างไรค่ะ
“ว่าไงเจ้าหญ้าก่อเรื่องอีกแล้วนะเรา ลุงขอให้เลิกนิสัยใจร้อนแบบนี้ไม่รู้จะกี่ครั้งแล้วนะ ครั้งนี้ลุงจะจัดการขั้นเด็ดกับเราสักที” ท่านผู้ว่าวันชัยอารมณ์สียอย่างมากที่เห็นสภาพของหลานสาวของตัวเองที่ดูไม่ได้เอาเสียเลย ๆไม่ใช่ว่าท่านจะไม่เคยเห็นสภาพแบบนี้ของดอกหญ้าท่านเห็นออกจะบ่อยเมื่อครั้งที่อยู่ที่กรุงเทพ และท่านก็ไม่อยากเห็นสภาพแบบนี้ของหลานสาวสุดที่รักของท่านอีกต่อไป เพราะนับวันดอกหญ้าอีกก่อเรื่องหนักมากขึ้นทุกที
“คุณ จะจัดการอย่างไรกับดอกหญ้าเหรอค่ะ”ฝ่ายคุณอร ที่เห็นว่าเหตุการณ์ทั้งหมดมันไม่ค่อยจะดีแล้วจึงเอ่ยขัดจังหวะขึ้น
“ผมจะส่งเจ้าหญ้ามันไปเรียนต่อที่เมืองนอก”
“ว่าไงนะ” เสียงของทุกคนที่นั่งอยู่ตรงนั้นตะโกนออกมาพร้อมกัน โดยเฉพาะดอกหญ้าที่เสียงน่าดังมากกว่าคนอื่น และตอนนี้ก็กำลังช็อกอยู่กับสิ่งที่กำลังได้ยินไป
“ทำไมคุณต้องส่งดอกหญ้าหญ้าไปเรียนต่อถึงเมืองนอกด้วยล่ะค่ะ” คุณอรถามสามีกลับทันที และแสดงสีหน้าที่ไม่ค่อยจะพอใจสักเท่าไร ด้วย เพราะการที่ท่านผู้ว่าจะส่งดอกหญ้าไปเรียนต่อถึงเมืองนอก มันก็จะทำให้เธอต้องอยู่ห่างกับดอกหญ้ากันไกลมาก
คุณอร รักดอกหญ้ามาก เธอไม่ต้องการให้ดอกหญ้าอยู่ไกลเธอ เธอรักดอกหญ้าเหมือนลูกสาวคนหนึ่ง เพาะว่าคุณอรเธอไม่สามารถมีลูกได้
“ผมจำเป็นต้องทำคุณอร ผมหวังดีกับเจ้าหญ้ามัน แกเห็นด้วยกับลุงไหม ต้นกล้า”
เมื่อท่านผู้ว่าอธิบายสาเหตุที่ท่านต้องส่งดอกหญ้าไปเรียนต่อให้คุณอรฟังแล้ว ก็หันไปถามความเห็นของต้นกล้า
“ผมเห็นด้วยครับคุณลุง แต่ผมเป็นห่วงน้องครับ ที่ต้องไปอยู่ที่นั้นคนเดียว”
ไม่ต้องเป็นห่วงเจ้าหญ้ามันหรอก ลุงไม่ให้เจ้าหญ้ามันไปอยู่คนเดียวหรอก ลุงจะส่งเจ้าหญ้าไม่อยู่กับ แคทรีน เพื่อให้เธอช่วยดัดนิสัยใจร้อนของเจ้าหญ้ามันนะ
“แคทรีนนี้ใครเหรอครับคุณลุง” ชาติกล้าเอ่ยถามท่านผู้ว่าทันทีเพราะเขาไม่เคยได้ยิน ชื่อของผู้หญิงคนนี้เลย
“แคทรีนเป็นเพื่อนของลุงเองแหละ เราเป็นเพื่อนกันตอนที่ลุงไปเรียนต่อที่อังกฤษนะ ตอนนี้แคทรีนเธอภรรยาท่านทูตประเทศอังกฤษนะ ตอนนี้เธอกำลังว่างอยู่ลุงจึงจะส่งเจ้าดอกหญ้าไปดัดนิสัย สัก 4-5 ปี แคทรีนเป็นคนที่เรียบร้อยมากและเจ้าระเบียบมาก แต่ก็ใจดีนะ”
“ไม่มีใครถามความเห็นของหญ้าเลยเหรอค่ะ ว่าหญ้าอยากไปหรือไม่นะ” ดอกหญ้าที่นั่งเงียบฟังทุกคนเขาพูดกันตั้งแต่กลับมาถึงบ้าน โผล่งกลางปล้องขึ้น
“เพราะลุงรู้นะสิถ้าลุงถามเรา เราก็ปฏิเสธทันทีนั้นแหละ ลุงเลยไม่ต้องความคิดเห็นเราเลย”
“เราสัญญากับลุงแล้วไม่ใช่เหรอว่าถ้าเหตุเกิดการณ์แบบนี้ขึ้นมาอีกครั้ง เราจะไปเรียนต่อที่อังกฤษทันที จำไม่ได้ แล้วเหรอว่าเคยสัญญาอะไรไว้นะ”
ดอกหญ้าก้มหน้าเงียบทันทีเมื่อได้ยินท่านผู้ทวงสัญญาที่เธอเคยสัญญาไว้กับท่าน ท่านผู้ว่าต้องการส่งเธอไปเรียนที่อังกฤษตั้งนานแล้วตั้งแต่ตอนที่เธอทะเลาะกับพวกเด็กเทคนิคแห่งหนึ่งตอนที่เธออยู่ที่กรุงเทพแต่เธอก็ไม่ยอมไป เธอเลยให้สัญญากับท่านผู้ว่าเธอจะไม่ยกพวกทะเลาะกับใครอีก ถ้าเธอทะเลาะกับใครอีกให้ท่านผู้ว่าส่งเธอไปเรียนที่อังกฤษทันทีได้เลย
“ตกลงค่ะ หญ้ายอมไปเรียนที่อังกฤษก็ได้ค่ะ และจะให้หญ้าไปเมื่อไรค่ะ”
ดอกหญ้าตอบตกลงทันทีเพราะความน้อยใจ เธอคิดว่าลุงกับป้า และพี่ชายไม่ต้องการเห็นหน้าเธอ เลยคิดจะส่งเธอไปที่อื่น เธอเงยหน้าขึ้นมามองหน้าของทุกคนแล้วก็เดินกลับขึ้นห้องของตัวเองอย่างเงียบ ๆ โดยไม่หันมามองหน้าของบุคคลทั้งสามที่นั่งอยู่ด้านหลังของเธอเลย
---------
“เฮ้ย......ไอ้คินข้ามีข่าวดีมาบอกแกวะ”
ภานุเดินเข้ามาหาเพื่อนที่นั่งคอตกอยู่ที่โต๊ะทำงานของตัวเอง
“ข่าวดีอะไรของแกหนักหนาวะไอ้นุ”
ภาคินถามกลับอย่างเซ็งๆๆๆๆ
“แล้วแกอยากรู้ไหมละวะ”
ภานุย้อนกลับ
“แกจะบอกหรือไม่บอกก็ตามใจแกเถอะวะ ข้าไม่อยากรู้หรอก”
“เรื่องของดอกหญ้าสาวน้อยที่แอบปิ้งน่ะโว้ย ไม่อยากรู้ก็ตามใจ แล้วอย่ามีเสียใจภายหลังนะโว้ย”
บอกเสร็จภานุก็ทำท่าจะเดินกลับออกจากห้องไป
“แกบอกว่าเรื่องของใครนะโว้ย เรื่องของดอกหญ้าเหรอ เกิดเรื่องอะไรกับเขาเหรอ”
ภาคินเมื่อได้ยินว่าเป็นเรื่องของดอกหญ้าก็ยิงคำถามใส่ภานุไม่ยั่งเลย
“เฮ้ย.......แกเอาทีละคำถามสิวะ ข้าไม่รู้จะตอบคำถามไหนก่อนดี”
ภานุขำกับท่าทีของเพื่อน
“แกนี้ ท่าจะเป็นเอาหนักมากๆๆๆๆๆๆเลยนะ”
“เฮ้ย....จะตอบได้ยังวะ ท่ามากอยู่นั้นแหละแก”
ภาคินชักจะมีอารมณ์โกธรขึ้นมานิดหน่อยแล้วที่เห็นเพื่อนตัวดี เอาแต่ทำท่ามากไม่ยอมบอกเรื่องเกี่ยวกับดอกหญ้าให้ฟังสักที
“คือว่าเมื่อวันก่อน ข้าไป เจอดอกหญ้านะกำลังยกพวกทะเลอะกับเด็กผู้หญิงกลุ่มหนึ่งวะ ข้าเลยจัดการจับมาโรงพักหมดเลยวะ”
“เนี้ยน่ะข่าวดีของแก ดอกหญ้าโดนจำเนี้ยข่าวดี”
ภาคินโวยวายทันทีที่ได้ยินเรื่องที่ภานุเล่าให้ฟังว่าดอกหญ้ายกพวกทะลอะกัน ทำให้เขาคิดเป็นห่วงดอกหญ้าขึ้นมาทันที
“เฮ้ย.....ไอ้บ้าฟังให้มันจบก่อนสิวะ แล้วค่อยโวยวาย เขาไม่ได้เป็นอะไรมากหรอกนะ”
ก็เล่าต่อสิวะ
“คือว่าเมื่อจับพวกนักเรียนมาทั้งหมดมาโรงพักแล้ว แก่รู้ไหมว่าใครมาประกันตัว ดอกหญ้านะ”
“ใครวะ”
“คุณชาติกล้า”
“ก็ไม่เห็น แปลกอะไรนิ เขาสองคนเป็นแฟนกันไม่ใช่เหรอ แฟนมาประกันตัวแฟนมันมีอะไรดีวะ”
ภาคินดูจะไม่แปลกใจเลยที่ภานุบอกว่าชาติกล้ามาประกันตัวดอกหญ้า แต่ใบหน้าของเขาก็ขรึมลงทันที
“โธ้.....ไอ้บ้าแกเข้าใจผิดแล้วโว้ย คุณชาติกล้านะเขาไม่ได้เป็นแฟนกับดอกหญ้าหรอกโว้ย พวกเขา 2 คน นะ เป็นพี่กับน้องกันโว้ย
“จริงๆๆๆๆๆหรือวะไอ้นุ”
“จริงสิวะ ข้าจะโกหกแกทำไมกันวะ”
“ถ้าอย่างนั้นดอกหญ้าก็เป็นหลานสาวของน้าชัย กับ น้าอรสิวะ”
ภาคินพูดออกมาอย่างดีใจ
ก็จริงนะสิวะ
“งั้นเราไปจวนผู้ว่ากันดีว่าวะไอ้นุ”
ภาคินพูดเสร็จก็ไม่รอช้า ลุกขึ้นเดินออกจากห้องทันที
*******
“อ้าวตาคิน แวะมาพอดี น้ากำลังคิดถึงอยู่พอดี”
คุณอร ทักทาย ภาคิน อย่างเป็นกันเอง
“เอ่อ....สวัสดีครับน้าอร นี้ภานุเพื่อนผมครับ”
ภาคินเอ่ยแนะนำเพื่อนให้คุณอรรู้จัก ภานุยกมือขึ้นไหว้ทำความเคารพคุณอรทันทีที่ภาคินเอ่ยแนะนำเขาเสร็จ
จ๊ะ สวัสดีจ๊ะ
“เข้ากันไปในบ้านกินน้ำกินท่ากันก่อนดีกว่าจ๊ะ เชิญจ๊ะ”
“ทำไมบ้านดูวุ่นวายจังเลยครับ น้าอร จะไปไหนกันเหรอครับ”
ภาคินเอ่ยถามขึ้นเมื่อเข้ามานั่งในบ้านเรียบร้อยแล้ว เขาสังเกตเห็นคนในบ้านทุกคนกำลัง เก็บของและค้นกระเป๋าหลายใบไปใส่ไว้ในรถตู้ที่จอดอยู่หน้าบ้าน
“คือว่าดอกหญ้าจะไปเรียนต่อที่อังกฤษนะจ๊ะ”
คุณอรพูดออกไปอย่างไม่คิดอะไรมากเพราะเธอคิดว่าภาคินคงรู้เรื่องแล้ว แต่เธอก็หารู้ไมว่าคนตรงหน้าของเธอตกใจและก็แปลกใจอย่างมากที่อยู่ๆคนที่เขาอยากพบหน้ามากที่สุดจะจากเขาไปโดยที่เขาไม่ได้พูดความในใจอะไรกับเธอเลยสักคำ
“จะไปเมื่อไรครับน้าอร”
เมื่อดึงสติของตัวเองกลับมาได้ ภาคินจึงเอ่ยถามสิ่งที่เขาอยากรู้ออกไป
“ตอนเย็นนี้แหละจ๊ะไปส่งน้องด้วยกันไหม”
คุณอรตอบถามที่ภาคินถามและขอเอ่ยชวนภาคินและชวนภานุไปส่งดอกหญ้าด้วยกัน
“ไม่ดีกว่าครับน้าอรพอดีผมมีธุระนะครับตอนเย็น และนี้ดอกหญ้าอยู่หรือเปล่าครับ ผมก็ลาที่นี้เลยที่กว่า”
ภาคินไม่ยอมไปส่งดอกหญ้าที่สนามบินเพาะเขายังทำใจยอมรับการจากไปของเธอไม่ได้ เขาเลยจำเป็นที่ต้องโกหกคุณอรว่าเขาติดติดธุระ
“ดอกหญ้าไม่อยู่หรอกจ๊ะ เขาไปลาเพื่อนๆๆ นะจ๊ะ คงจะกลับมาตอนเย็นๆ แล้วก็ไปสนามบินเลยนะจ๊ะ”
ถ้าอย่างนั่นผมฝากส่งดอกหญ้าด้วยนะครับ
ภาคินบอกเสร็จก็ขอตัวลากลับอย่างคนสิ้นหวัง
ต้องขอโทษด้วยนะ ที่นับมาลงช้านะ พอดี ว่ามีช่วงนี้เรียนหนักค่ะ เลย ไม่เคยมีเวลาค่ะ
และอย่างไรขอตาม ขอให้เพื่อนทุกคนช่วยเป็นกำลังช่วยนะค่ะ
ขอคะแนนโหวตและคำติชมด้วยนะค่ะ
ขอขอบพระคุณอย่างมากค่ะ ที่ติดตามชมค่ะ คอยติดตามชมนะค่ะว่าความรักระหว่างนายอำเภอสุดหล่อของเรากับหลานสาวผู้ว่าจะดำเนินไปอย่างไรค่ะ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น