ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    นายอำเภอสุดหล่อกับหลานสาวผู้ว่าสุดซ่า

    ลำดับตอนที่ #2 : เมื่อไรจะพูดกันดีๆๆๆสักที

    • อัปเดตล่าสุด 29 มิ.ย. 48






    หลังจากที่ลงจากรถของภาคินแล้วดอกหญ้าก้อเดินเข้าไปในวิทยาลัย แต่ไม่ทันจะเดิน ไปถึงโต็ะที่เพื่อนของเธอนั่งอยู่ ยัยพวกนั้นก้อวิ่งเข้ามาหาเธอเหมือนทนายกำลังรอสักพยานอยู่นั้นแหละ



    “นี้ยัยหญ้าเมื่อกี้ใครมาส่งเหรอ หล่อเป็นบ้าเลยว่ะแก่”ยัยทิพย์ถามขึ้น



    “หล่อตรงไหนของแกว่ะไม่เห็นจะหล่อเลย”



    “แล้วตกลงเค้าเป็นใครกันเหรอ ขับเก๋งราคาเป็นล้านเลยน่ะแกน่ะแก่ ไปรู้จักเขาได้ไงเหรอ”



    ตาเอ่ยถามขึ้นมา



    “เพิ่งรู้จักเมื่อกี้นี้เองแหละพอดีรถเรายางแบนไม่รู้ไปเหยียบตะปูที่ไหนมาน่ะ พอดีอีกตานั้นมาพอดีเค้าเลยชวนเรามาด้วย ตอนแรกเรานึกว่าเค้าเป็นคนบ้าแต่ก็บ้าจริงๆๆนั้น แหละแก”ดอกหญ้าตอบคำถามของเพื่อนๆๆๆที่ถามเธอมา



    “แล้วแกก้อมากับเค้าเฉยเลย”



    “อืม แล้วแกจะให้ฉันทำยังล่ะ ให้ยืนรอรถโดยสารมาน่ะฉันไม่เอาหรอก แถวนั้นน่ะพวกขี้ยาเยอะจะตายไปฉันไม่เสี่ยงหรอกแก”



    “แกคิดถูกแล้วแหละที่มากับเขาน่ะ ถ้าเกิดเป็นฉันไม่ต้องให้เค้าชวนหรอกฉันขอกระโดดขั้นรถเข้าตั้ง เค้ายังทัน ไม่ชวนแล้วแหละย่ะ หล่อขนาดน่ะ” ยัยตาเมื่อเสร็จยัยนั้นนั่งทำตาหวานอยู่อย่างนั้น



    “เอ้ายัยเพื่อนบ้านึกว่าจะเป็นห่วงกันซ่ะอีก”ดอกหญ้าพูดอย่างน้อยใจแต่ที่จริงน่ะไม่ได้คิดแบบนั้นหรอกว่าเธอรู้ว่าเพื่อนๆๆๆของเธอน่ะก็เป็นห่วงเธอเช่นกันแต่ปากมันก็พูดกันไปยังงั้นแหละ



    “เอ้อแล้วเค้าบอกหรือเปล่าว่าเค้าชื่ออะไรน่ะ”ปุ้ยที่แต่นั่งเงียบฟังพวกเราโต้ตอบกันอยู่เมามันก้อเอ่ยขึ้น



    “บอก”



    “ชื่ออะไรน่ะ”ตอนนี้ไม่ใช่ปุ้ยหรอกที่ถามออกมาอย่างดีใจขนาดนั้นน่ะ แต่เป็นยัยสาวที่ไม่รู้มาจากไหนกลับถามขึ้นมา



    “ปลากิม หรือ ภาคิม แล้วจำไม่ได้เหมือนกันว่ะ แต่น่าจะชื่อภาคินว่ะถ้าจำไม่ผิดน่ะ แต่ ฉันจะเรียกตานั้นว่านายปลากิมเผือกว่ะ นายนั้นน่ะตัวขาวเป็นบ้าเลยว่ะ”



    “เอ้ย แกไปเรียกชื่อเค้าแบบนั้นได้ไงว่ะ เดียวเค้าโกธรเอาน่ะแก ชื่อเขาออกจะเพราะขนาดน่ะดันไปชื่อเขาไปอะไรก้อไม่รู้” ทิพย์เอ่ยขึ้น



    “ทำไมฉันจะเรียกอย่างนี้มีปัญหาอะไรหรือป่าวว่ะ เอ่ะหรือว่าแก่ชอบอีกตานั้นน่ะ”



    ดอกหญ้าตอบออกไปอย่างนั้นทำให้เพื่อน ๆ ของเธอต่างพากันส่ายหน้ากับความดื่อเอาแต่ใจของเธอ



    “อืมไปเรียนกันเถอะถึงเวลาแล้ว”



    ตาลชวนเพื่อนทุกคนพร้อมกับดึงมือดอกหญ้าให้ตามไป ตอนนี้น่ะอาจารย์เยาว์ลักษณ์สุดโหดกับกำลังเดินเข้าไปไหนห้องเรียนแล้ว



    วันนี้ภาคินไปทำงานด้วยอารมณ์ดีผิดปกติ จนทำให้ลูกน้องในที่ทำงานต่างพากันมอง หน้า เจ้านายกันใหญ่



    “มีอะไรติดที่หน้าผมหรือทำไมพวกคุณจึงมองผมกันแปลกๆๆอย่างนั้นน่ะ”ภาคินหันหน้ามาตามลูกน้อง



    “อ้อ....เปล่าหรอกครับไม่มีอะไรติดหน้านายอำเภอหรอกครับ”



    ชิดชัยลูกน้องคนสนิทของภาคินตอบขึ้น



    “แต่...พวกผมสงสัยกันน่ะครับว่าทำไมนายอำเภอถึงอารมณ์ดีจนผิดปกติน่ะครับ” ภาคินถึงแม้จะเป็นชายหนุ่มที่อารมณ์ดีอยู่แล้วแต่วันเขากลับอารมณ์ดีจนผิดปกติ



    “เปล่าไม่มีอะไรนี้”



    ภาคินตอบพร้อมกับยิ้มให้กับลูกน้องแล้วก้อเดินจากไป



    ภาคินนั่งทำงานไปเรื่อยๆแต่ต้องหยุดทำงานลงกะทันหันเมื่ออยู่ๆเขาก็นึกถึงหน้าของผู้หญิงตัวเล็กๆๆคนหนึ่งที่เขาได้เจอเธอเมื่อเช้าแถบเธอยังกล่าวหาว่าคนเป็นคนบ้าซะอีก เมื่อมาคิดดูๆๆภาคินก้อยิ้มออกมาจนปิดไม่มิดเพราะว่าตั้งโตเป็นหนุ่มขึ้นมาเขาไม่เคยเห็นผู้หญิงที่ไหนเมื่อเห็นเขาแล้วพวกเธอก้อเอาแต่ยิ้มให้กับเขาผิดกับผู้หญิงคนที่ได้เจอเมื่อเช้าไม่เพียงเธอจะไม่ยิ้มให้เขาเธอยังตะโกนด่าเขาอีกแถมเท่านั้นยังไม่พอน่ะเธอยังคิดว่าเขาเป็นคนบ้าซะอีก



    “นายอำเภอค่ะ….นายอำเภอค่ะ”เสียงเรียกของเลขาสาวทำให้ภาคินตื่นจากภวัง



    “มีอะไรหรือครับคุณนิด”



    “อ้อไม่มีอะไรหรอกค่ะคือนิดจะมาเตือนนายอำเภอว่าบ่ายนี้นายอำเภอมีนัดกับท่านผู้ว่าน่ะค่ะ”



    “ครับ....ขอบคุณน่ะครับที่มาเตือน”



    ภาคินกล่าวขอบคุณเลขาสาว



    “ค่ะ...ถ้าไม่มีอะไรแล้วนิดขอตัวก่อนน่ะค่ะ”



    ณ บ้านพักของผู้ว่าราชการจังหวัดสองสามีภรรยากำลังนั่งคุยกันอยู่



    ปรื้อ...ปรื้อ.........



    “เสียงรถใครมาน่ะคุณ”ท่านผู้ว่าถามภรรยา



    “ไม่ทราบสิค่ะ...เดียวอรออกไปดูเองค่ะ” (อรหรืออรอุมา) ภรรยายังสาวของท่านผู้ว่าวันชัย รัตนเกียรติ



    “เอ้าตาคินมาได้ยังไงกันเนี้ย ทำไมไม่บอกไงน้ารู้ล่วงนาล่ะว่าจะมาน่ะ”อรอุมาทักทายหลานชายที่อายุอ่อนกว่าตัวเองแค่ 8 ปีเอง ด้วยความแปลกใจ



    “สวัสดีครับน้าอร” ภาคินทักทายน้าสาวของตนเอง



    “ผมมาแวะมาเยี่ยมน้าอรกับน้าชัยน่ะครับ คือว่าผมย้ายมาเป็นนายอำเภอที่จังหวัดนี้ได้เกือบเดือนแล้วล่ะครับ”



    “เกือบเดือนแล้ว”อรอุมาถามทวนประโยคที่หลานชายบอกมา”



    “ครับ.....แล้วนี้น้าชัยอยู่ไหมครับ”ภาคินถามน้าสาวของตัวเอง



    “นั่งอยู่ที่ห้องนั่งเล่นน่ะเดินเข้าไปหาซิ”



    ตอบหลานชายเสร็จอรอุมาก้อเดินหายเข้าไปในครัวปล่อยให้หลานชายเดินไปหาสามีตามลำพัง



    “เอ้ย..หญ้าพวกเราไปก่อนน่ะ”



    เพื่อนร่วมกลุ่มของดอกหญ้าต่างแยกย้ายกันกลับบ้าน



    ปรื้อ...ปรื้อ เสียงแตรรถดังขึ้นทำให้ดอกหญ้าที่กำลังเดินเพลินๆๆอยู่ต้องหันกลับไปตะโกนด่าเจ้าของรถคันนั้นทันทีโดยไม่สนว่าจะเป็นใครหน้าไหนเพราะมันคนนั้นมาทำลายความสุขของเธอที่กำลังเดินเล่นอย่างเพลินๆๆๆ



    “จะบีบหาอะไรของมันว่ะ...ไม่รู้จะบีบไปถึงไหนว่ะ”



    เสียงแต่รยังดังอยู่เรื่อยๆๆๆ



    “เอ่ะ...มันบ้าหรือเปล่าว่ะบีบอยู่ได้ นี้คุณจะบีบอะไรกันหนักหนาหารู้ไหมว่ามันหนวกหูน่ะ”



    ดอกหญ้าตะโกนว่าเจ้าของรถคันนั้นโดยไม่ต้องมองหน้าเลย เพราะตอนนี้อารมณ์โมโห ของเธอที่เก็บสะสมมาตั้งแต่ตอนเช้ากำลังก่อเกิดเป็นน้ำโหลูกใหญ่เลยล่ะจนเธอด่าเจ้าของรถคันโดยไม่ต้องหันมาดูหน้ากันเลย



    “นี้คุณด่าเสร็จหรือยัง” ภาคินเอ่ยถามขึ้นเมื่อเขาเห็นดอกหญ้าเงียบไปสักพักเพราะความเหนื่อย



    “ยัง.....แต่ตอนนี้ขอพักหายเหนื่อยก่อนเดียวค่อยด่าต่อ”



    ดอกหญ้าตอบภาคินไปโดยไม่ได้มองหรอกว่าคนตัวเองด่าเอาเป็นเอาตายน่ะว่าเป็นใคร



    แต่พอหายเหนื่อยสักพักดอกหญ้าก้อค่อยๆๆๆ ว่าทำไมเสียงนี้ทำไมมันถึงคุ้นๆๆจังวะพอเหงยหน้าขึ้นมองคู่กรณีเมื่อตะกี้ก้อต้องร้องออกมาเสียงดัง



    “เอ้ย...นายปลากิม”



    ดอกหญ้าตะโกนชื่อของภาคินที่ตอนนี้ถูกเปลี่ยนมาเป็นปลากิมเรียบร้อยโดยฝีมือเธอซะแล้ว



    “คุณเรียกผมว่าอะไรน่ะ”ภาคินถามดอกหญ้า



    “ก้อฉ้นเรียกนายว่าปลากิมไงทำไมเหรอ...นายชื่อปลากิมไม่ใช่เหรอ”ดอกหญ้าแกล้งถามออกไปแต่ที่จริงน่ะเธอจำชื่อของชายหนุ่มได้แต่เธอก้อเปลี่ยนชื่อของเขาซะงั้นแหละ



    “ป่าวน่ะ.......ผมไม่ได้ชื่อปลากิม....แต่ผมชื่อภาคินตั้งหากล่ะ”



    ภาคินปฏิเสธ….พร้อมกับบอกชื่อตัวเอง



    “งั้นเหรอ...นายชื่อภาคิน แต่ฉันจะเรียนนายว่าปลากิมทำไมนายจะทำอะไรฉันง่ะ”



    พูดเสร็จดอกหญ้าวิ่งจรูดหายไปเลย เพราะเธอรู้ว่าถ้ายังอยู่ที่ตรงนี้อีกเธอจะต้องหายไปจากโลกนี้ก้อได้



    “เด็กแสบ”



    ภาคินมองคนที่ด่าเขาเสร็จพร้อมกับมาเปลี่ยนชื่อของเขาซะงั้นที่ตอนนี้น่ะวิ่งหนีหายไปไหนแล้วไม่รู้อย่างยิ้มๆๆๆ



    “สวัสดีค่ะ คุณลุงคุณป้า” ดอกหญ้าทักทายผู้เป็นลุงเป็นป้า ด้วยอารมณ์ไม่ค่อยจะดีเท่าไร



    “อ้าว เป็นอะไรหรือเปล่าน่ะเจ้าหญ้าอารมณ์ไม่ค่อยดีเลย”ท่านผู้ว่าทักทายหลานสาวสุดของตัวเอง



    “เปล่านี่ค่ะหญ้าไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ” ดอกหญ้าตอบปฏิเสธท่านผู้ว่า



    “ไม่เป็นอะไรแล้วทำไมทำหน้ายุ่งแบบนั้นล่ะ” อรอุมาถามหลานสาวขึ้นมาอีกคน



    “ก่อวันนี้ไม่รู้เป็นวันอะไรนะสิค่ะหญ้าซวยทั้งวันเลย”ดอกหญ้าตอบคำถามของลุงกับป้าแต่ก็ไม่ได้เล่ารายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดในวันนี้ในกับทั้งสองฟัง”



    “ไม่มีอะไรแล้วหญ้าขอตัวไปอาบน้ำนะค่ะ”ดอกหญ้าบอกลุงกับป้า



    “จ๊ะ เดี่ยวอาบน้ำเสร็จแล้วลงมาทานข้าวนะจ๊ะ” อรอุมาเอ่ยสั่งหลานสาว



    “เจ้าหญ้าวันนี้ไปเที่ยวกรุงเทพฯกับลุงไปไหม” ท่านผู้ว่าเอ่ยชวนหลานสาว



    “คุณลุงจะไปทำไม่ค่ะ” ดอกหญ้าถามท่านผู้ว่าพร้อมกับทำหน้าสงสัยเพราะทั้งแต่ตอนที่เธอขึ้นไปสอบที่กรุงเทพฯแล้วเธอสอบไม่ติดลุงกับป้าของเธอก้อไม่เคยเอ๋ยอะไรที่เกี่ยวกรุงเทพฯให้เธอได้ยินอีกเลย เพราะพวกท่านรู้ว่าดอกหญ้าเสียใจแค่ไหนที่ตัวเองสอบไม่ติด แล้วทำไมวันนี้อยู่ดีถึงชวนไปเที่ยวกรุงเทพได้นะ



    “คือลุงกับป้าจะไปเยี่ยมลุงสมิตเพื่อนของน่ะเราจำได้ลุงเค้าที่เจอตอนงานศพพ่อกับแม่เราน่ะได้หรือป่าวล่ะ” ท่านผู้ว่าถามหลานสาว



    “อ้อ..........จำได้ค่ะคนที่มีภรรยาสวยๆๆๆแล้วภรรยายังเป็นน้าของป้าอรด้วยใช่มั้ยค่ะ”



    “ดอกหญ้าตอบคำถามของท่านผู้ว่าอย่างรวดเร็ว ทำให้ท่านผู้ว่ากับภรรยาหันมายิ้มให้กับท่าทางของหลานสาวของตัวเอง



    “แล้ว.....ตกลงเราจะไปไหมล่ะ”ท่านผู้ว่าถามย้ำดอกหญ้าอีกครั้ง



    “ไป!!!!ซิค่ะ”ดอกหญ้าตอบตกลงอย่างรวดเร็วเพราะกลัวว่าจะไม่ได้ไป



    “ถ้าจะไปก็ไปแต่งตัวเร็วเข้า ลุงกับป้าแต่งตัวเสร็จแล้วนะ”



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×