ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : พ่อมดดำ
"ฉันยังไม่อยากกลับ" สายตาของฉันยังมองไปสุดลูกหูลูกตาจนถึงขอบฟ้าอันแสนไกล ที่ยืนอยู่นั้น
"กลับเถอะเพคะ องค์หญิง" หญิงสาวเดินมายืนตรงหน้าด้วยความกระวนกระวายใจ
ฉันไม่อยากกลับจากเนินเขาแห่งนี้ แต่มีนาเธอทำให้ฉันต้องกลับวังอันแสนน่าเบื่อ มีนาเป็นคนที่สนิทกับฉันมากที่สุด เราสองคนรู้จักกันมาตั้งแต่ฉันเด็กๆ เวลาเรียนไม่มีใครเข้ามาคุยกับฉัน แถมยังมองหน้าฉันเหมือนกับคนที่ถูกรังเกลียด แต่ตอนนั้นมันก็เด็กมากจนทำให้ฉันคิดว่า ฉันพิเศษกว่าคนอื่นที่ว่า ฉันเป็นองค์หญิงซึ่งไม่ว่าใครก็ตามที่จะเข้ามาคุย พวกเขาต้องวางตัวให้สมกับฐานะ อาจเป็นเพราะอาญาในเมืองของฉันมันเข้มงวดมากจนทำให้พวกเขากลัว แต่ก็มีแต่ มีนาเท่านั้น ที่เข้ามาคุยกับฉัน และตั้งแต่นั้นมาเธอก็เป็นเพื่อนกับฉันจนถึงปัจจุบัน
ฉันเดินกลับวังด้วยใบหน้าเซ็งๆ เพราะใจจริงยังอยากจะอยู่ต่อ ระหว่างทางที่เดินกลับวัง ต้องผ่านป่าหลังเมืองซึ่งป่านั้นเป็นป่าที่ทึบมาก โดยเฉพาะตอนนี้ก็มืดแล้ว ถ้าหากว่าฉันยังไม่เร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น คนในวังก็คงจะตามหาฉันให้วุ่นวาย
ตอนนี้เมืองของฉันไม่เหมื่อนแต่ก่อนแล้ว เพราะตั้งแต่พ่อมดดำ เข้ามายึดเมืองด้วยอำนาจมืด เมืองซึ่งเคยสงบสุขก็กลับกลายเป็นเมืองที่น่าหวาดกลัว เพราะไม่ว่าทุกคนจะทำอะไร ทุกอย่างก็อยุ่ในสายตาของพ่อมดดำตลอดเวลา พ่อมดดำและพักพวกเข้ามายึดเมืองของฉันดำอำนาจที่น่ากลัว และพ่อของฉันก็ไม่กล้าที่จะต่อรองหรือหาทางสู้กับเขาได้ เพราะแค่เขาใช้คาถาทุกคนก็ทำตามในสิ่งที่เขาต้องการ ตอนนี้ก็กำลังปกครองเมืองซึ่งอดีตเคยเป็นของพ่อฉันอยู่ แต่ความต้องการยังไม่จบแค่นั้น เขาต้องการให้ฉันแต่งงานกับเขาอีก ฉันยอมตายดีกว่า
เดินมาถึงหลังเมือง ฉันกับมีนาก็ไม่รู้จะทำอย่างไง เพราะประตูหลังเมืองได้ปิดซะแล้ว
"ทำไงดีมีนา" ฉันหันหน้าไปถาม เผื่อว่าเธอจะช่วยหาทางแก้ไข และนี้ก็ใกล้เวลาที่จะได้เวลาอาหารแล้วด้วยซิ
"ถ้าจำไม่ผิด หม่อมฉันจำได้ว่าตอนเด็กๆ เรามีช่องลับอยู่" มีนาพูดไปคิดไป
"ช่องลับเหรอ???"
ฉันคิดถึงตอนเด็กๆ ว่าช่องลับนั้นอยุ่ไหน แต่คิดอย่างไงก็คิดไม่ออก นอกจากจะประตูบานใหญ่ซึงทำด้วยเหล็กกล้าและยากที่จะเปิดออกได้ง่ายๆ นอกจะจากว่าจะมีชายประมาณ 10-15 คนมาเปิดให้ ความคิดเรื่องช่องลับนั้นก็หวนกลับมาอีกครั้ง แต่มันก็ผ่านไปนานมากจนฉันเองก็ยังนึกไม่ออก
มีนาเดินวนไปวนมา อย่างใช้ความคิด ไม่นานนัก เธอก็วิ่งเข้ามาอยู่ตรงหน้าของฉันด้วยความดีใจ
"นึกออกแล้วววว.....องค์หญิงลาเว็นเดอร์ นึกออกแล้วเพคะ"
มีนายิ้มอย่างดีใจพร้อมกับจับมือของฉันไปอีกทางหนึ่งของประตูหลังวัง มันเป็นป่ารก ซึ่งฉันเองไม่คิดว่าช่องทางลับจะอยู่แถวนี้ มีนาเดินไปหยุดอยุ่ตรงกำแพงวังที่สูงประมาณ 100 เมตร แล้วมีนาก็แหวกต้นหญ้าที่รกออกจากกำแพง เธอทำท่าอย่างกะหาอะไรสักอย่าง แต่ไม่นานนัก เธอก็หันหน้ามาหาฉัน
"เจอแล้วเหรอ" ฉันเดินเข้าไปหามีนาพร้อมกับมองกำแพงที่พัง มันเป็นช่องเล็กๆ ที่สามารถรอดเข้าไปได้
เราสองคนไม่รอช้า มีนารอดเข้าช่องกำแพงนั้นไปก่อนฉัน เพราะจะได้ดูลาดราวได้ว่ามีใครอยู่แถวนั้นหรือเปล่า
"องค์หญิงลาเว็นเดอร์ รอดเข้ามาเลยเพคะ" มีนาพูดผ่านช่องกำแพงนั้นออกมา
ฉันรอดเข้าช่องกำแพงนั้นแต่ทำไม่รู้สึกว่ามันรอดยากมากจนฉันเข้าไปไม่ได้ ไม่ใช่ว่ามันเล็กกว่าตัวฉัน แต่มันเหมือนกับว่ากระโปรงของฉันมันติดอะไรสักอย่าง ฉันพยายามเอาตัวดันออกจากช่องนั้น มีนาก็ช่วยอีกแรง
"สงสัยกระโปรงของฉันจะเกี่ยวกับกำแพงอีกฝั่งหนึ่ง มีนาเธอรีบไปวังก่อนเถอะ แล้วบอกกับทุกคนว่าฉันไม่ทานข้าวเพราะไม่สบาย"
"แต่ว่า องค์หญิง"
"นี่คือคำสั่ง ไปซิ ถ้าเธอไม่อยากถูกลงอาญาจากพ่อมดดำ แล้วเดี๋ยวฉันจะตามไป"
"ไปเถอะนะ ไม่ต้องห่วงฉัน"
"....เพ...คะ"
พูดจบมีนาก็วิ่งเข้าวังไป ส่วนฉันเองก็ได้แต่พยายามเอากระโปรงที่ติดกำแพงอีกฝั่งหนึ่งออก มือทั้งสองข้างของฉันช่วยกันดึงกระโปรงที่ติดอีกฝั่งหนึ่งให้ออก ยิ่งดึงมันออก กระโปรงที่ดึงก็รู้สึกจะขาดมากขึ้นทุกที
"เฮ้ยยยย ออกได้สักที"
ฉันออกมาจากกำแพงนั้นได้อย่างปลอดภัย แต่กระโปรงของฉันนะซิ มันขาดจนจะเป็นเศษผ้า แต่ตอนนี้ไม่อยากจะรอให้เวลามันเสียไป เพราะตอนนี้มีนาจะเป็นอย่างไงบ้างนะ ฉันรีบวิ่งเข้าวังอย่างรีบร้อน
"ลาเว็นเดอร์"
เสียงนั้น ทำให้ฉันต้องหยุดวิ่ง แล้วกลับหันหลังไปมองเจ้าของเสียงนั้น เขาเป็นชายร่างสูง อยู่ในชุดดำคลุมตัวตั้งแต่หัวจรดเท้า แต่ฉันก็ไม่กล้าที่จะมองหน้าเขาแม้แต่น้อย เพราะเขาคือ พ่อมดดำ ฉันกลับหันหลังแล้วเดินต่อไปอย่างไม่สนใจเขา ฉันไม่เคยเห็นแม้แต่หน้าของเขา เพราะเวลาเจอเขาที่ไรฉันก็เอาแต่วิ่งหนีหรือไม่ก็หลบหน้าหลบตาเขาอย่างเดียว ที่ฉันทำแบบนั้นก็เพราะว่า เขาเป็นคนไม่ดี เขาแย่งทุกอย่างจากฉันไป เขาทำให้ฉันต้องอยู่อย่างนกในกรงทอง ไม่มีทางออกไปไหนได้แต่อยู่ในที่สบายทุกอย่าง
"หยุดเดี๋ยวนี้นะ ลาเว็นเดอร์"
ฉันหยุดตามคำพูดของเขา เพราะเขาใช้คาถาอะไรสักอย่างที่ทำให้ฉันหยุดนิ่งเหมือนกับคนอื่นๆ ทั่วไปที่โดน ซึ่งฉันเองก็ไม่ใช่คนแรกที่ถูกคาถานี้
"กลับเถอะเพคะ องค์หญิง" หญิงสาวเดินมายืนตรงหน้าด้วยความกระวนกระวายใจ
ฉันไม่อยากกลับจากเนินเขาแห่งนี้ แต่มีนาเธอทำให้ฉันต้องกลับวังอันแสนน่าเบื่อ มีนาเป็นคนที่สนิทกับฉันมากที่สุด เราสองคนรู้จักกันมาตั้งแต่ฉันเด็กๆ เวลาเรียนไม่มีใครเข้ามาคุยกับฉัน แถมยังมองหน้าฉันเหมือนกับคนที่ถูกรังเกลียด แต่ตอนนั้นมันก็เด็กมากจนทำให้ฉันคิดว่า ฉันพิเศษกว่าคนอื่นที่ว่า ฉันเป็นองค์หญิงซึ่งไม่ว่าใครก็ตามที่จะเข้ามาคุย พวกเขาต้องวางตัวให้สมกับฐานะ อาจเป็นเพราะอาญาในเมืองของฉันมันเข้มงวดมากจนทำให้พวกเขากลัว แต่ก็มีแต่ มีนาเท่านั้น ที่เข้ามาคุยกับฉัน และตั้งแต่นั้นมาเธอก็เป็นเพื่อนกับฉันจนถึงปัจจุบัน
ฉันเดินกลับวังด้วยใบหน้าเซ็งๆ เพราะใจจริงยังอยากจะอยู่ต่อ ระหว่างทางที่เดินกลับวัง ต้องผ่านป่าหลังเมืองซึ่งป่านั้นเป็นป่าที่ทึบมาก โดยเฉพาะตอนนี้ก็มืดแล้ว ถ้าหากว่าฉันยังไม่เร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น คนในวังก็คงจะตามหาฉันให้วุ่นวาย
ตอนนี้เมืองของฉันไม่เหมื่อนแต่ก่อนแล้ว เพราะตั้งแต่พ่อมดดำ เข้ามายึดเมืองด้วยอำนาจมืด เมืองซึ่งเคยสงบสุขก็กลับกลายเป็นเมืองที่น่าหวาดกลัว เพราะไม่ว่าทุกคนจะทำอะไร ทุกอย่างก็อยุ่ในสายตาของพ่อมดดำตลอดเวลา พ่อมดดำและพักพวกเข้ามายึดเมืองของฉันดำอำนาจที่น่ากลัว และพ่อของฉันก็ไม่กล้าที่จะต่อรองหรือหาทางสู้กับเขาได้ เพราะแค่เขาใช้คาถาทุกคนก็ทำตามในสิ่งที่เขาต้องการ ตอนนี้ก็กำลังปกครองเมืองซึ่งอดีตเคยเป็นของพ่อฉันอยู่ แต่ความต้องการยังไม่จบแค่นั้น เขาต้องการให้ฉันแต่งงานกับเขาอีก ฉันยอมตายดีกว่า
เดินมาถึงหลังเมือง ฉันกับมีนาก็ไม่รู้จะทำอย่างไง เพราะประตูหลังเมืองได้ปิดซะแล้ว
"ทำไงดีมีนา" ฉันหันหน้าไปถาม เผื่อว่าเธอจะช่วยหาทางแก้ไข และนี้ก็ใกล้เวลาที่จะได้เวลาอาหารแล้วด้วยซิ
"ถ้าจำไม่ผิด หม่อมฉันจำได้ว่าตอนเด็กๆ เรามีช่องลับอยู่" มีนาพูดไปคิดไป
"ช่องลับเหรอ???"
ฉันคิดถึงตอนเด็กๆ ว่าช่องลับนั้นอยุ่ไหน แต่คิดอย่างไงก็คิดไม่ออก นอกจากจะประตูบานใหญ่ซึงทำด้วยเหล็กกล้าและยากที่จะเปิดออกได้ง่ายๆ นอกจะจากว่าจะมีชายประมาณ 10-15 คนมาเปิดให้ ความคิดเรื่องช่องลับนั้นก็หวนกลับมาอีกครั้ง แต่มันก็ผ่านไปนานมากจนฉันเองก็ยังนึกไม่ออก
มีนาเดินวนไปวนมา อย่างใช้ความคิด ไม่นานนัก เธอก็วิ่งเข้ามาอยู่ตรงหน้าของฉันด้วยความดีใจ
"นึกออกแล้วววว.....องค์หญิงลาเว็นเดอร์ นึกออกแล้วเพคะ"
มีนายิ้มอย่างดีใจพร้อมกับจับมือของฉันไปอีกทางหนึ่งของประตูหลังวัง มันเป็นป่ารก ซึ่งฉันเองไม่คิดว่าช่องทางลับจะอยู่แถวนี้ มีนาเดินไปหยุดอยุ่ตรงกำแพงวังที่สูงประมาณ 100 เมตร แล้วมีนาก็แหวกต้นหญ้าที่รกออกจากกำแพง เธอทำท่าอย่างกะหาอะไรสักอย่าง แต่ไม่นานนัก เธอก็หันหน้ามาหาฉัน
"เจอแล้วเหรอ" ฉันเดินเข้าไปหามีนาพร้อมกับมองกำแพงที่พัง มันเป็นช่องเล็กๆ ที่สามารถรอดเข้าไปได้
เราสองคนไม่รอช้า มีนารอดเข้าช่องกำแพงนั้นไปก่อนฉัน เพราะจะได้ดูลาดราวได้ว่ามีใครอยู่แถวนั้นหรือเปล่า
"องค์หญิงลาเว็นเดอร์ รอดเข้ามาเลยเพคะ" มีนาพูดผ่านช่องกำแพงนั้นออกมา
ฉันรอดเข้าช่องกำแพงนั้นแต่ทำไม่รู้สึกว่ามันรอดยากมากจนฉันเข้าไปไม่ได้ ไม่ใช่ว่ามันเล็กกว่าตัวฉัน แต่มันเหมือนกับว่ากระโปรงของฉันมันติดอะไรสักอย่าง ฉันพยายามเอาตัวดันออกจากช่องนั้น มีนาก็ช่วยอีกแรง
"สงสัยกระโปรงของฉันจะเกี่ยวกับกำแพงอีกฝั่งหนึ่ง มีนาเธอรีบไปวังก่อนเถอะ แล้วบอกกับทุกคนว่าฉันไม่ทานข้าวเพราะไม่สบาย"
"แต่ว่า องค์หญิง"
"นี่คือคำสั่ง ไปซิ ถ้าเธอไม่อยากถูกลงอาญาจากพ่อมดดำ แล้วเดี๋ยวฉันจะตามไป"
"ไปเถอะนะ ไม่ต้องห่วงฉัน"
"....เพ...คะ"
พูดจบมีนาก็วิ่งเข้าวังไป ส่วนฉันเองก็ได้แต่พยายามเอากระโปรงที่ติดกำแพงอีกฝั่งหนึ่งออก มือทั้งสองข้างของฉันช่วยกันดึงกระโปรงที่ติดอีกฝั่งหนึ่งให้ออก ยิ่งดึงมันออก กระโปรงที่ดึงก็รู้สึกจะขาดมากขึ้นทุกที
"เฮ้ยยยย ออกได้สักที"
ฉันออกมาจากกำแพงนั้นได้อย่างปลอดภัย แต่กระโปรงของฉันนะซิ มันขาดจนจะเป็นเศษผ้า แต่ตอนนี้ไม่อยากจะรอให้เวลามันเสียไป เพราะตอนนี้มีนาจะเป็นอย่างไงบ้างนะ ฉันรีบวิ่งเข้าวังอย่างรีบร้อน
"ลาเว็นเดอร์"
เสียงนั้น ทำให้ฉันต้องหยุดวิ่ง แล้วกลับหันหลังไปมองเจ้าของเสียงนั้น เขาเป็นชายร่างสูง อยู่ในชุดดำคลุมตัวตั้งแต่หัวจรดเท้า แต่ฉันก็ไม่กล้าที่จะมองหน้าเขาแม้แต่น้อย เพราะเขาคือ พ่อมดดำ ฉันกลับหันหลังแล้วเดินต่อไปอย่างไม่สนใจเขา ฉันไม่เคยเห็นแม้แต่หน้าของเขา เพราะเวลาเจอเขาที่ไรฉันก็เอาแต่วิ่งหนีหรือไม่ก็หลบหน้าหลบตาเขาอย่างเดียว ที่ฉันทำแบบนั้นก็เพราะว่า เขาเป็นคนไม่ดี เขาแย่งทุกอย่างจากฉันไป เขาทำให้ฉันต้องอยู่อย่างนกในกรงทอง ไม่มีทางออกไปไหนได้แต่อยู่ในที่สบายทุกอย่าง
"หยุดเดี๋ยวนี้นะ ลาเว็นเดอร์"
ฉันหยุดตามคำพูดของเขา เพราะเขาใช้คาถาอะไรสักอย่างที่ทำให้ฉันหยุดนิ่งเหมือนกับคนอื่นๆ ทั่วไปที่โดน ซึ่งฉันเองก็ไม่ใช่คนแรกที่ถูกคาถานี้
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น