ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Freedom Unite Story

    ลำดับตอนที่ #5 : EP 004 : เรื่องเล่าแดนหิมะ (by. ปลาทองแก้มป่อง)

    • อัปเดตล่าสุด 27 ธ.ค. 54


    ท่ามกลางความหนาวเหน็บเหมือนกับทุกๆ คืนของ ทุกๆ วันในเมืองอลิซเชีย  ชานเมืองสันโดษที่อยู่ห่างไกลออกไปทางตอนเหนือ  เมืองทั้งเมืองปกคลุมไปด้วยหิมะขาวโพลนซึ่งไม่เคยละลายหายไป   นั้นเปรียบเสมือนปราการชั้นดีที่ปกป้องการลุกรานจากเมืองอื่นๆ เพราะคงไม่มีกองทัพใดจะดันทุรัง ดื้อดึง ตั้งค่ายทหารหาญในสภาพภูมิอากาศเช่นนี้ได้ยาวนานนัก  
    หากกระนั้นในลมหนาวก็มีชีวิต  ไม่ได้แห้งแล้งดั่งภาพภายนอกที่มันอำพรางไว้ พื้นที่หลายแห่งถูกแบ่งสรรปันส่วนในการทำเกษตรกรรม เลี้ยงปศุสัตว์ และทำการประมงอย่างทั่วถึง สร้างผลผลิตมากมาย ภายใต้กฎที่ว่า...ในทุกๆ สามเดือน ผลิตผลทุกชนิดที่หามาได้จากทรัพยากรทางธรรมชาติของอลิซเชีย ครึ่งหนึ่งของทั้งหมดในเดือนนั้นๆ จะต้องถูกเก็บเข้าคลังหลวงไว้เป็นเสบียงกักตุน ในยามหากเกิดภัยแล้ง หรือ สงคราม
                    ส่วนผลผลิตที่เหลือหลังจากแบ่งเก็บไว้กินไว้ใช้ภายในครอบครัวแล้วนั้นจะถูกส่งออกจำหน่ายยังศูนย์การค้ารอบบ่อน้ำพุ  บริเวณโดยรอบมีห้างร้านมากมายหลายประเภทจากทั่วทุกมุมเมืองมาเปิดขายสินค้าในราคาย่อมเยาเป็นธรรม  ร้านใดคิดแสวงหากำไรเกินควรก็จะถูกสอบสวนและจ่ายค่าปรับสูงริบ ชาวเมืองจับจ่ายใช้สอยกันอย่างคับคั่งทุกวัน  ไม่เว้นแม้กระทั่งชาวต่างบ้านต่างเมืองที่สู้ทนลมหนาวฝ่ากองหิมะเพื่อเข้ามาแวะเวียนแลกเปลี่ยนสินค้าทุกเดือน  แต่ผู้คนดูหนาตาเป็นพิเศษที่มุมหนึ่งของศูนย์การค้าแห่งนี้
     
                    ควันขาวโพยพุ่งลอยเหนือปล้องควันบ้านไม้หลังเล็ก ส่งผ่านกลิ่นหอมฟุ้งของเนยแสนเย้ายวนให้น้ำลายสอแก่ผู้ที่ผ่านมา ขนมปังสีน้ำตาลนวลนุ่มสดใหม่ถูกนำยกออกจากเตาอบอย่างระมัดระวัง ก่อนจะนำไปแต่งแต้มสีสันด้วยแยมหลากหลายรสชาติ  ไม่ว่าจะเป็นช็อคโกแลต  สตรอเบอร์รี่  บูลเบอร์รี่  หรือส้ม  โรยผงน้ำตาลไอซิ่งขาวละมุนลงไปเล็กน้อย  พร้อมที่จะถูกนำไปวางไว้ในตะกร้าสานตามชั้นต่างๆ
                     เสียงกระดิ่งหน้าร้านดังไม่ขาดสายเป็นเครื่องการันตีถึงความนิยมของผู้คนที่ติดอกติดใจในขนมปังรสเลิศนี้มาอย่างยาวนาน  ณ ร้านเล็กๆ ตรงมุมอับศูนย์กลางค้าที่ไม่น่าสะดุดตา กลับส่งกลิ่นไปสะกิดใจใครต่อใครให้เข้ามาลองลิมชิมรส เล่าขานปากต่อปากจนกลายเป็นชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วแดนหิมะ  เนื่องจากขนมปังสูตรเด็ดเคล็ดลับระดับตำนานที่สืบทอดต่อกันมาภายในตระกูลไดเทส  ตัวแป้งที่เนียนละเอียดเข้ากันดีให้สัมผัสนุ่มลิ้น  กลิ่นหอมกรุ่น  ยังไม่นับเนื้อครีมหลากรสให้ความละเมียดละไมกำลังพอดี ยิ่งเสริมอรรถรสการกินให้เพิ่มขึ้น แถมยังให้ความอบอุ่นอิ่มสบายท้องพอที่จะขจัดความหนาวเย็นของอลิซเชียไปได้ราวกับเวทมนท์
                    ตลอดทั้งวันสองแม่ลูกวิ่งวุ่นแทบไม่ได้หยุดพัก  โดโรธีแทบจะทรุดตัวลงไปกองกับพื้นเมื่อร้านปิด  ถ้าไม่ใช่เพราะว่ามีเด็กคนหนึ่งวิ่งเล่นไปมาทั่วร้านทำเอาเธอหัวหมุนตามไปด้วย  แต่ก็ไม่เท่ากับตอนที่เด็กคนนั้นวิ่งชนชั้นขนมปังจังเบ๋อเริ้ม ร้องไห้โวยวายเสียงดังลั่นร้าน  ขนมปังลอยลิ่วตามแรงกระแทกก่อนตกแหมะกระจายเต็มพื้น  ลูกค้าแตกตื่นจนเผลอเหยียบขนมปังลื่นล้มหงายหลังสะดุดชนกันอีกหลายทอด  กว่าเหตุการณ์จราจลในร้านจะสงบทำเอาเจ้าของร้านทั้งสองแทบล้มทั้งยืน  ไหนจะต้องรีบเข้าไปดูแลเด็กน้อยเจ้าปัญหา เธอแทบจะคุกเข่าขอบคุณพระเจ้าไม่ทันที่ท่านเมตตาประทานแค่รอยโหนกนู้นเท่าลูกมะนาวใบย่อมๆ บนหน้าผากน้อยๆ เท่านั้น  ไหนจะต้องขอโทษลูกค้าท่านอื่นที่ได้รับความเดือดร้อนกันทั่วหน้า  แล้วยังต้องเก็บกวาดทำความสะอาดร้านใหม่ นี่ยังไม่รวมถึงค่าเสียหายและต้องรีบเข้าครัวไปอบขนมปังใหม่มาเพิ่มอีก
                    “โดโรธี...ไหวไหมจ้ะลูก”
                    ผู้เป็นแม่เดินเข้ามาถามลูกสาวคนเดียวของเธออย่างห่วงใย
                    “โถ่แม่ค่ะ  แค่นี้สบายมากค่ะ ลูกสาวแม่อึดอยู่แล”
                    โดโรธีหันมายิ้มหน้าบานใส่ ถึงแม้จะเหนื่อยล้าสักไหนแต่เพื่อแม่แล้ว เธอทำได้ทุกอย่างถ้ามันจะช่วยแบ่งเบาภาระอันแสนหนักอึ้งจากบ่าเล็กๆ ของท่านได้ ตั้งแต่ที่พ่อเสียชีวิตไปก่อนเธอจำความได้ แม่ต้องทำงานหนักมากเพื่อหาเลี้ยงปากท้องสองชีวิตเพียงลำพัง
                    “ให้แม่ช่วยเก็บร้านไหมจ้ะ คนดีของแม่”
                    หญิงสาวหันมองนอกหน้าต่าง ดวงอาทิตย์เริ่มคล้อยตัวหลบหลังขุนเขา แสงสีส้มจาง ๆยามสนธยากำลังจางหายไป ฝูงนกพากันบินกลับรัง  แล้วอีกไม่นานดวงจันทร์คงมาเฉิดฉายแสงนวลตาแทนดวงอาทิตย์ที่เคยสาดแสงแรงกล้าเพื่อมอบความอบอุ่นแก่โลกนี้     
                    “ไม่เป็นไรหรอกค่ะแม่ หนูจัดการเองได้ แม่ขึ้นไปพักผ่อนข้างบนให้สบายเถอะค่ะ”
                    “ขอบใจมากนะ ลูกแม่คนนี้น่ารักจริงๆเลย”
                    ผู้เป็นแม่ลูบหัวลูกสาวที่เป็นยิ่งกว่าแก้วตาดวงใจอย่างรักใคร่ หอมแก้มเบาๆ ก่อนเดินจากไป
                    โดโรธีกวาดตามองสภาพรอบร้าน ตะกร้าสานมากมายที่เคยถูกเติมเต็มด้วยขนมปังน่ากินบัดนี้หลงเหลือแต่เพียงเศษผงแป้ง  รอยน้ำเปียกเป็นทางของอดีตเกร็ดหิมะที่เกาะติดพื้นรองเท้าลูกค้าก่อนหมดแรงเจิ่งอยู่ที่พื้น อีกด้านหนึ่งของผนังมีซากแหลกละเอียดเป็นเศษเสี้ยวของคุ้กกี้รูปคนซึ่งคงมีใครสักคนเผลอทำมันตกและเหยียบซ้ำเติมเป็นการทำลายหลักฐานที่ปกปิดไม่มิดเสียทีเดียว เมื่อเหลือบมองไปที่ประตูกระจกความแวววาวคงดึงดูงให้ลูกค้าประทับรอยผ่ามือนับไม่ถ้วนทิ้งไว้ไม่น้อยแม้แต่ที่จับประตูก็สู้ไม่ได้  โดโรธีผลักประตูไม้ที่เปิดเข้าสู่ห้องครัว  โต๊ะเตรียมของยังเต็มไปด้วยฝุ่นแป้งและน้ำตาลไอซิ่ง  ถาดใส่ขนมปังเยิ้มไปด้วยเนยยังกองพะเนินอยู่ตรงอ่างล้างจาน  เตายังคงเปิดฝาทิ้งไว้รอการทำความสะอาด  เพราะเหตุการณ์วุ่น ๆ เมื่อตอนบ่ายทำให้เธอเร่งรีบจนไม่มีเวลาเก็บกวาด และตอนนี้มันก็รอให้เธอจัดการแล้ว...


                    “นายหญิงน้อยที่รัก...ข้าทำความสะอาดเสร็จแล้วขอรับ”
        เสียงเล็ก ๆ นั้น ปลุกให้หญิงสาวตื่นจากภวังค์ เธอหันหลังไปมองก้อนขนมปังสีขาวนวลเนียนจ้ำม้ำที่กำลังบิดตัวไปมาราวกับจะคลายความเมื่อยล้าออกจากตัวมันเสียให้ได้  มันใช้อุ้งมือเล็ก ๆ ประคองยกกาน้ำชารินใส่ถ้วยอย่างบรรจงไม่ให้กระเซ็นออกสักหยดเพื่อเอาใจเธอ
                    “โอ้...เจ้าทำได้ดีมาก เจ้าขนมปังแสนดีของข้า หมดหน้าที่เจ้าแล้วล่ะ” 
                    สุดสิ้นเสียงหวานนั้น  เจ้าก้อนขนมปังเมื่อครู่ก็ส่องแสงประกายระยิบระยับสีเหลืองทองค่อย ๆ พลันสลายหายไป  หลงเหลือแต่เพียงฝุ่นผงแป้งที่กำลังล่องลอยกลับไปสู่ถุงแป้งสีฟ้าอ่อนดังเดิม  โดโรธีจิบน้ำชาแอปเปิ้ลหอมหวานช้า ๆ  สายตากรุ้มกริ่มกวาดมองพื้นที่โดยรอบที่สะอาดเรียบร้อยหมดจดโดยที่เธอแทบไม่ต้องเสียเหงื่อแม้แต่หยดเดียว




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×