Freedom Unite Story

ลำดับตอนที่ #2 : EP 001 Crisis (by Jojobizzard)

ในอดีตนานแสนนานมาแล้ว...

                ได้เกิดเหตุการณ์ที่ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของมนุษย์ เมื่อเหล่าผู้มาจากโลกใบอื่นได้เข้ามาพยายามยึดครองโลกไปเป็นของตน เหล่ามนุษย์ได้เข้าต่อสู้อย่างกล้าหาญแต่ไม่สามารถต่อกรกับยุทธโรปกรณ์ของอีกฝ่ายได้เลย เหล่ามนุษย์ผู้หาญกล้าต่างล้มหายตายจากและบ้านเมืองเริ่มถูกยึดครองไปทีละเล็กละน้อย ในขณะที่มนุษย์กำลังจะถึงจุดจบ พระผู้เป็นเจ้าของโลกก็ได้ให้พรหนึ่งอย่างแก่เหล่ามวลมนุษย์

                “นับแต่บัดนี้มนษย์ทุกผู้บนโลกจะได้รับพรจากข้า และทำให้สามารถทำสิ่งที่เหนือจากธรรมชาติได้คนละหนึ่งอย่าง ขอให้ใช้สิ่งนี้เพื่อปกป้องเผ่าพันธุ์ของพวกเจ้า ให้พ้นจากภัยร้ายทั้งปวงด้วยเถิด”

                และไม่นานหลังจากนั้น โลกใบนี้ก็สามารถขับไล่ผู้รุกรานได้สำเร็จ ทว่า...นับจากนั้น...

                สงครามภายในเพื่อชิงความเป็นหนึ่งของมนุษย์ก็เริ่มต้นขึ้น การต่อสู้ยืดเยื้อยาวนานนับศตวรรษ และทำให้เกิดการสูญเสียมากมายยิ่งกว่าเมื่อครั้งต่อสู้กับผู้รุกรานจากภายนอก

                ในที่สุดพระผู้เป็นเจ้าของโลกอดทนเฝ้ามองการกระทำอันโหดร้ายนี้ไม่ไหว จึงได้ทำการถอนพรของตนออกจากเหล่ามวลมนุษย์ แต่ด้วยความที่พระองค์นั้นยังทรงเป็นห่วงความอยู่รอดของเหล่ามนุษย์ จึงทำให้มนุษย์บางคนยังคงได้รับพรวิเศษข้อนั้นอยู่บ้าง

                แต่ไหนเลยที่จะสยบความโลภของเหล่ามนุษย์ได้ ถึงแม้ส่วนใหญ่จะไม่มีพลังนั้นแล้วแต่สงครามก็ยังไม่เคยจบสิ้น และดำเนินต่อเนื่องมาจวบจนถึงปัจจุปัน

                ทวีปวันนาเซีย...

                เป็นทวีปที่มีพื้นที่ใหญ่ที่สุดในโลก ครอบคลุมพื้นที่ที่เป็นผืนดินถึง 70% ของจำนวนผืนดินทั้งหมด ด้วยความที่เป็นทวีปขนาดใหญ่มาก จึงทำให้ทวีปนี้มีความแตกต่างทางภูมิภาค และสภาพภูมิอากาศอย่างมากมาย ทำให้ที่นี่เต็มไปด้วยความหลากหลายทางอารยธรรมของมนุษยชาติ จนได้ชื่อเรียกอย่างนึกสนุกว่า “สวนสัตว์ของพระเจ้า”

                แต่ถึงแม้เหล่ามนุษย์ที่อาศัยอยู่ในที่แห่งนี้จะมีความแตกต่างกันมากมายเพียงใด เกือบทั้งหมดนั้นต่างก็ถูกปกครองภายใต้ธงผืนเดียวกัน...ธงรูปอินทรีแดงเพลิงที่ทะยานไปในท้องฟ้า อันเป็นสัญลักษณ์แห่งจักรวรรดิกลาดิออส ผู้ปกครองสูงสุดของทวีป

                จักรวรรดิแห่งนี้ปกครองโดยบุรุษผู้มีชื่อเสียงเรียงนามว่า ไครอส ซึ่งไม่ได้เป็นเชื้อพระวงศ์หรือชนชั้นสูงแต่อย่างใด และเขาก็ไม่ได้มาจากการเป็นวีรบุรุษผู้กอบกู้อาณาจักร หากแต่เขาเพียงแต่งงานกับเจ้าหญิงแห่งกลาดิออส นามว่า เมอา และขึ้นครองราชย์ต่อจากกษัตริย์องค์ก่อนซึ่งเสด็จสวรรคตไปโดยโรคชรา

                ไม่นานนักพระองค์ก็ทรงมีพระธิดา ซี่งเติบโตขึ้นเป็นเจ้าหญิงองค์น้อยอันเป็นที่รักยิ่งของประชาชน

                เบื้องหน้าของบุรุษผู้นี้เป็นเช่นนั้น หากแต่เบื้องหลังนั้นไม่ใช่...และไม่มีใครรู้ว่าเบื้องหลังของกษัตริย์พระองค์นี้เป็นเช่นไร

เขาไม่ใช่เจ้านครผู้ทรงธรรมอย่างแน่นอน เพราะตั้งแต่ครองราชย์มายาวนานถึงยี่สิบปี ทวีปนี้ก็มีแต่จักประสบพบกับเรื่องเลวร้ายขึ้นทุกวัน

                จริงอยู่ที่ทวีปแห่งนี้ถูกรวมเป็นหนึ่งโดยฝีมือของกษัตริย์ไครอสเมื่อสิบปีก่อน หากแต่ประชาชนของพระองค์นั้นต่างลำบากยากแค้นด้วยขาดแลนอาหาร เพราะทุกที่กลายเป็นสมรภูมิรบในช่วงแรกและหลังจากสงครามผ่านไป ชาวประชาก็ต่างถูกเรียกเก็บภาษีมหาโหดโดยอ้างเหตุผลเหตุผลทางการทหารจนไม่สามารถลืมตาอ้าปากได้อีก และหากครอบครัวใดที่ไม่มีเงินจ่ายภาษี ครอบครัวนั้นก็จะถูกขายกลายเป็นแรงงานทาส และถูกทารุณกรรมอย่างโหดร้ายจนไม่อาจบรรยายเป็นคำพูดได้เลยล่ะ

                ยิ่งกว่านั้นการปกครองประชาชนของพระองค์นั้นเรียกได้ว่าเหี้ยมโหด ด้วยว่าหากใครก็ตามขัดขืนคำสั่งของพระองค์ มันผู้นั้นจะถูกตามล่าจนหมดสิ้นทั้งตระกูล และหากหมู่บ้านใดสนับสนุกผู้ต่อต้าน ก็จะถูกหาว่าเป็นกลุ่มผู้ก่อการร้ายและถูกลบหายไปจากแผนที่ราวกับไม่เคยมีหมู่บ้านนี้มาก่อน

                การปกครองของพระองค์นั้นก็ทำให้เหล่าขุนนางที่คิดคดไม่กล้าแม้แต่จะกระดิกตัวกระทำการใดๆ ทำให้พระองค์เป็นนักปกครองที่ยิ่งใหญ่ผู้เหี้ยมโหดโดยแท้จริง

                แน่นอนว่าหากเป็นเช่นนี้แล้วย่อมมีผู้ที่คิดก่อการกบฏอยู่มากมาย และไม่เคยมีผู้ใดเช่นกันที่ทำสำเร็จ

                จนถึงบัดนี้กษัตริย์ไครอสมีพระชนม์มายุ 40 พรรษาแล้ว พระองค์ทรงอาศัยอยู่ที่มิดแลนด์ซึ่งตั้งอยู่กึ่งกลางของทวีปสมชื่อ ทรงแต่งตั้งให้เมืองแห่งนี้เป็นเมืองหลวง และสร้างพระราชวังใหญ่โตพร้อมกับป้อมปราการที่ทรงพลังไม่แพ้ป้อมปราการใดๆในโลกแห่งนี้

                และวันนี้ก็เป็นเช่นทุกๆวันในรัชสมัยของพระองค์ คือภายในราชวังยังคงเต็มไปด้วยสงบสุข เสียงดนตรีขับกล่อมบรรเลงเพลงไพเราะเสนาะหูคลอเคล้าบางเบาช่วยเพิ่มความรื่นรมย์แก่ราชวัง ภายในท้องพระโรงที่ถูกประดับด้วยทองคำบริสุทธิ์งดงามจนจับตานั้นมีบังลังก์สองหลังตั้งวางเคียงคู่กัน หลังหนึ่งถูกประดับด้วยเพชรและทองคำพร้อมลวดลายวิจิตรตระการตา ส่วนอีกหลังนั้นก็งดงามไม่แพ้กันเพียงแต่ดูน่าเกรงขามน้อยกว่าเท่านั้น ในบังลังก์หลังนี้มีหญิงผู้หนึ่งนั่งอยู่อย่างเงียบเชียบ พร้อมด้วยบริวารสาวซ้ายขวาที่คอยดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี

                กษัตริย์ไครอสเหม่อมองเมืองของตนผ่านทางระเบียงท้องพระโรง เขายืนเกาะราวระเบียงเงียบเชียบพลางครุ่นคิดอะไรบางอย่างเพียงลำพัง

                พระองค์เป็นกษัตริย์ผู้หล่อเหลา ทรงมีแววตาดุดันดุจเหยี่ยว ไว้ผมตัดสั้นยาวเพียงแค่ไม่กี่เซน เคราหนาของพระองค์นั้นไม่ยาวมากนักแต่กลับส่งผลให้ใบหน้านั้นดูน่ากลัวมากขึ้น พระองค์เริ่มมีผมขาวอยู่ศีรษะบ้างเล็กน้อยและใบหน้าเกร็งกระด้างนั้นมีริ้วรอยแห่งการต่อสู้อยู่เต็มไปหมด แต่กระนั้นก็ยังดูองอาจและสมกับเป็นกษัตริย์อันเหี้ยมโหด ห้าวหาญและไร้ซึ่งน้ำใจ หากเพลงบรรเลงในวังไม่ใช่รับสั่งของพระองค์แล้ว อาจจะเรียกไดว่าท่านเป็นกษัตริย์ผู้ไร้อารมณ์สุนทรีย์เลยทีเดียว

                ภาพเมืองเบื้องหน้าของพระองค์นั้นเต็มไปด้วยสวยงามทันสมัยและงดงามศิวิไลซ์  ผู้คนมากมายในเมืองต่างใช้ชีวิตอย่างอยู่ดีกินดีราวกับผู้สูงศักดิ์ เสียงครื้นเครงและเสียงพูดคุยจอแจดังมาแต่ไกลบ่งบอกถึงชีวิตอันแสนสงบสุขของผู้คนในเมือง พระองค์ยิ้มมองภาพเหล่านั้นและยิ้มออกมาเล็กน้อยอย่างพึงใจดังเช่นทุกวันๆ

                ภาษีทั้งหมดของประชาชนถูกนำมาสร้างเมืองแห่งนี้ขึ้นใหม่ และประชาชนทั้งหมดของที่นี่คือผู้มีอันจะกินเพียงกลุ่มเดียวของประเทศนี้ ด้วยเพราะใครก็ตามที่มีสิทธิ์อาศัยอยู่ในเมืองต่างก็มีเส้นสายหรือไม่ก็เป็นพ่อค้าผู้ร่ำรวยทั้งสิ้น

ไครอสยังคงยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นจนกระทั่งนายทหารนายก้าวเข้ามาการเฝ้ามองเมืองอันเป็นกิจวัตรยามเช้าก็เป็นอันยุติลง

 “กระหม่อมนำรายงานที่สั่งให้ไปสืบมาส่งพะยะค่ะ”ทหารนายนั้นนั่งคุกเข่า พร้อมนำสาสน์ฉบับหนึ่งมอบให้ ซึ่งพระองค์ก็รับไว้ด้วยอารมณ์เช่นเดิม หลังจากที่เขาอ่านสาสน์นั้นจนจบ ก็เริ่มรับสั่งคำสั่งต่อไปทันที

“เตรียมไพร่พลให้พร้อม เราจะบุกไปทำลายพวกมันให้ราบคาบ!!”

เหมือนจะลืมเล่าไปเรื่องหนึ่ง...

ในทวีปที่แผ่นดินเกือบทั้งหมดตกอยู่ภายใต้ธงอินทรี ยังมีประเทศเล็กๆประเทศหนึ่งที่ยังคงโบกสะบัดภายใต้ธงนกพิราบสีขาวบริสุทธิ์

หากถามว่าทำไมน่ะหรือ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่าประเทศนี้ตั้งอยู่สุดขอบตะวันออกของทวีปซึ่งมีภูมิประเทศเป็นที่ราบสูง ทำให้ยกทัพขึ้นมาได้ยาก และเสียเปรียบทางภูมิประเทศ

อีกเหตุผลหนึ่งก็คือ เหล่าผู้ต่อต้านทั้งหลายต่างมารวมกันที่นี่และร่วมมือกันต่อสู้กับกลาดิออส ด้วยความที่เหล่าผู้ต่อต้านมาจากหลายพื้นที่ จึงทำให้ความสามารถทางการทหารนั้นหลากหลายรูปแบบจนรับมือยากนั้นเอง

และอีกเหตุผลก็คือการที่คนในประเทศมีผู้ได้รับพรมากมายอย่างไม่น่าเชื่อ จนได้รับการขนานนามว่า “เมืองแห่งวีรบุรุษ

และนี่คือฐานที่มั่นสุดท้ายของกลุ่มผู้ต่อต้านซึ่งรวมกันในชื่อว่า “Freedom Unite”