คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : EP 008 : เมื่อขนมปังขยับได้ (by.ปลาทองแก้มป่อง)
“นายหญิงน้อยขอรับ หิมะตกอีกแล้ว”
มือเล็ก ๆ สะกิดเขี่ยไปมาบนต้นแขนขาวอวบ เจ้าของร่างนั้นเหลือบหางตาทางไปที่หน้าต่างที่ขุ่นมัวด้วยไอหนาวของปุยหิมะสีขาวสะอาดตาอย่างไม่ใส่ใจ สำหรับโดโรธีนั้นการเห็นหิมะเป็นสัญญาณเดียวที่บอกว่าพรุ่งนี้ลูกค้าจะแน่นร้าน ต่อให้สภาพอากาศอลิซเชียจะโหดร้ายทารุณจับขั้วหัวใจหรือกองหิมะจะสูงท่วมท้นเพียงใด ร้านของเธอคงเป็นร้านเดียวในศูยน์การค้าที่มีคนรอต่อคิวเข้ายาวที่สุด จากเสียงลือเสียงเล่าอ้างถึงสรรพคุณที่ดูเกินเหตุของขนมปังตระกูลไดเทสที่มอบความอบอุ่นแก่ร่างกายได้ดียิ่งกว่านั่งหน้าเตาผิงเป็นไหน ๆ ซึ่งตัวเธอเองก็ไม่รู้หรอกว่าเรื่องนี้จริงเท็จประการใด เล่ากันว่าเลือดในกายจะสูบฉีด กล้ามเนื้อที่สั่นเกร็งจะผ่อนคลาย พลังงานความร้อนจะแผ่ซ่านไปทั่วร่าง กำลังวังชาจะหวนคืนแทนที่ความอ่อนล้าหลังจากที่ได้กัดขนมปังไปเพียงแค่หนึ่งคำ เธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไร สูตรเด็ดเคล็ดลับประจำตระกูลนี้จะถูกส่งต่อเมื่อย่างเข้าสู่วัยเบญจเพศเท่านั้น ยังเหลือเวลาอีกตั้งเจ็ดปีกว่าเธอจะได้รับช่วงสืบทอดกิจการต่อ ตอนนี้เธอทำได้แค่ครูพักลักจำจากแม่เท่านั้น
“ยังเห็นไม่ชินอีกหรือไง...ลงไปเอาฟืนข้างล่างมาเพิ่มซิ”
โดโรธีเบือนหน้าหนี ก้มหน้าก้มตาหันเหความสนใจกลับไปสู่ก้อนแป้งในมือดั่งเดิม
ณ ค่ำคืนหนึ่งเมื่อหลายปีก่อน หิมะโปรยปรายคล้ายละอองเกสรจากฟากฟ้า เด็กน้อยโดโรธีนอนหนาวสั่นอยู่บนเตียงภายใต้ผ้านวมผืนใหญ่ที่ไม่ช่วยอะไร แสงไฟสีแดงริบรี่ใกล้มอดเต็มทีของเศษฟืนที่แม่จุดให้เธอก่อนนอน ‘มันอันตรายเกินกว่าที่เด็ก ๆ จะใช้เตาผิง’ เธอจำประโยคนี้ได้ดีเมื่อเธอลองออดอ้อนขอแม่จุดกองไฟในห้องเอง เด็กหญิงพยายามข่มตาลงให้หลับแล้วแต่ความสั่นสะท้านและเสียงฟันกระทบกันกึก ๆ กำลังรบกวนการนอนของเธอ โดโรธีเคลื่อนตัวลงจากเตียงหันไปคว้าผ้านวมผืนโตมาคลุมตัวไว้ ชายของมันยาวระพื้นเหมือนผ้าคลุมของราชินีในนิทานก่อนนอน เธอเอื้อมมือจับลูกบิดประตูแต่ก็ต้องสะดุ้งชักมือหนี ฝ่ามือเล็ก ๆ ประกบถูกันไปมาให้เกิดความอบอุ่นพอที่จะสู้กับความเย็นเฉียบของลูกบิดประตู ดวงตาเล็ก ๆ ลอดมองผ่านบานประตูที่แง้มไว้ ความมืดมิดปกคลุมทุกสิ่งยกเว้นสิ่งเดียวคือความกลัวในใจ เธอค่อย ๆ ก้าวเท้าออกไปช้า ๆ ฝ่ามือระไปตามผนังไม้ที่เย็นชื้นหวังเป็นที่พึ่ง ในที่สุดนิ้วมือข้างขวาก็สัมผัสอะไรบางอย่างที่คลับคล้ายครับคลาบานประตู ‘ห้องของแม่อยู่นี่เอง’ เด็กน้อยแง้มประตูห้องนั้นโดยที่ไม่ลืมจะถูฝ่ามือก่อน เธอเห็นร่างของหญิงวัยสี่สิบต้น ๆ ของผู้เป็นแม่นอนสงบนิ่งอยู่บนเตียง หน้าอกเคลื่อนไหวขึ้นลงตามลมหายใจแผ่วเบาคงที่ เธอเพิ่งสังเกตเห็นริ้วรอยบางเบาบนใบหน้าเรียวเล็กที่มีรอยยิ้มตรงมุมปาก ฝ่ามือเล็กลูบเส้นเรือนผมสีน้ำตาลทองที่แผ่สยายเต็มหมอน แม่คงกำลังหลับฝันดีและเธอไม่ควรรบกวนท่าน โดโรธีเดินย่องออกจากห้องนั้น ฝ่ามือยังคงกวาดสะเปะสะปะไปทั่วจนสัมผัสกับราวบันได เธอจับยืดมันไว้แน่นพร้อมหย่อนเท้าลงไปตามขั้นอย่างมั่นคง ก้าวแล้วก้าวเล่าจนถึงทางเดินข้างล่าง มีแสงไฟสลัวสาดลอดออกมาจากทางห้องครัว ‘แม่คงลืมดับตะเกียงเป็นแน่’ เธอผลักประตูไม้เข้าไป ภายในเต็มไปด้วยอุปกรณ์ทำครัวมากมาย มีเตาอบหลังใหญ่ทำจากอิฐอยู่ชิดผนังด้านหนึ่ง บนโต๊ะไม้มีถังแป้งที่ถูกคลุมด้วยผ้าขาวบางเพื่อเตรียมไว้สำหรับวันใหม่ เด็กสาวเหลือบมองไปเห็นกองเศษแป้งที่นวดผสมแล้ววางทิ้งไว้ เธอจึงหยิบมันขึ้นมาปั้นเล่นเลียนแบบเหมือนที่แม่เคยทำเป็นรูปมนุษย์จิ๋ว ไม่นานความง่วงเริ่มกลับมาเยือนเธออีกครั้ง เธอคว้าตะเกียงไฟก่อนเดินขึ้นไปบนห้องนอนโดยไม่ลืมเอาเจ้าก้อนแป้งนั้นติดมือมาด้วย
“อยู่ข้างล่างนั้นคงหนาวแย่ซินะ เรามานอนกอดกันบนเตียงดีกว่าเนอะ”
โดโรธีลูบก้อนแป้งนั้นอย่างรักใคร่ซุกเอาไว้ในอ้อมกอดแล้วเข้าสู่ห้วงนิทรา แต่ไม่นานเธอก็ต้องสะดุ้งตื่นจากบางสิ่งที่กำลังขยุกขยิกในอ้อมแขน มีเสียงโอดครวญอู้อี้แว่วเข้ามา เธอหันหน้ามองซ้ายขวาตามกลางความงัวเงีย เมื่อก้มลงมองถึงแรงกระตุ้นแถวต้นแขนดวงตาเธอก็เบิกโพลง ก้อนแป้งรูปคนกำลังเอามือกระจ้อยร่อยดันแขนเธออยู่ เธอเอามือขยี้ตาพร้อมเพ่งมองลงอีกครั้ง
“นายหญิงน้อย...ท่านกอดข้าแน่นไปนะขอรับ”
ตาเธอไม่ได้ฝาด หูเธอไม่ได้แว่ว เธอนอนแข็งนิ่งแต่เจ้าก้อนแป้งนั้นกำลังขยับและพูดกับเธอจริง ๆ เธอไม่ได้กำลังฝันด้วย ร่างกายเริ่มสั่นสะท้านจากภาพตรงหน้า
“ท่านหนาวหรือขอรับ”
โดโรธีรีบสะบัดหัวอย่างแรงยังไม่อยากเชื่อกับภาพตรงหน้า เจ้าก้อนแป้งกำลังพยายามโอบแขนเธออยู่ หัวกลม ๆ คลอเคลียแนบอยู่ที่ผิวเธอ ความอบอุ่นแผ่กระจายไปทั่ว ความกลัวก็เหมือนจะถูกหลอมละลายไปด้วย รอยยิ้มปรากฎที่หน้าเล็ก การสนทนาระหว่างเด็กน้อยกับก้อนแป้งเริ่มขึ้น เสียงหัวเราะคิกคักอบอวนภายในห้อง
“ฉันง่วงแล้วล่ะ เจ้าก็นอนได้แล้วนะ”
รุ่งอรุณวันใหม่มาถึง ดวงตะวันทอแสงเรืองรอง เสียงนกร้องจิ๊บ ๆ อยู่ข้างหน้าต่าง เด็กน้อยลืมตาตื่นขึ้นมา มือควานหาก้อนแป้งเพื่อนเกลอเมื่อคืนกลับพบความว่างเปล่าตอบกลับมา เธอยกผ้านวมขึ้น ก้มตัวลงมองใต้เตียง วิ่งไปเปิดตูเสื้อผ้า เธอค้นหาทั่วห้องแต่ไม่มีแม้แต่เงา
“ตื่นแล้วเหรอโดโรธี...นั้นลูกกำลังหาอะไรอยู่จ้ะ”
แม่เปิดประตูเข้ามา เห็นลูกสาวตัวน้อยก้ม ๆ เงย ๆ อยู่บนเตียง
“แม่เห็นเจ้าก้อนแป้งน้อยของหนูไหมค่ะ”
“ก้อนแป้งอะไรกันลูก...ว่าแต่ลูกเอาคุ้กกี้ขึ้นมากินบนเตียงเหรอจ้ะเนี้ย ลงไปกินข้าวเช้ากันเถอะจ้ะ”
แม่ปัดเศษผงขนมปังออกจากเตียง โน้มตัวพรมจูบที่หน้าผากของลูกสาวสุดที่รัก หันมายิ้มให้ก่อนเดินจากไป
“เจ้าก้อนแป้ง...เจ้าหายไปไหนนะ”
นั้นคงเป็นเหตุการณ์ครั้งแรกที่โดโรธีได้พบเจอกับเรื่องราวมหัศจรรย์ของขนมปังมีชีวิต เธอเคยคุยกับแม่ในเรื่องนี้แต่ท่านกลับคิดว่ามันเป็นจินตนาการของเด็ก ๆ ที่อยากให้สิ่งของรอบตัวมีชีวิตจิตใจ แต่เธอค่อนข้างแน่ใจว่ามันเป็นเรื่องจริง คืนหนึ่งโดโรธีจึงปั่นก้อนแป้งให้กลายเป็นขนมปังรูปสุนัขแล้วสั่งให้มันขึ้นไปหาแม่ข้างบนห้องนอนเพื่อพิสูจน์ว่านี้ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นที่เธออุปมาคิดไปเอง แต่ก่อนที่แม่เธอจะเชื่อท่านก็เกือบเป็นลมล้มตึงไปเหมือนกัน
“นายหญิงน้อย...ฟืนมาแล้วขอรับ”
เจ้าก้อนขนมปังตัวเมื่อครู่ยกกองฟืนสูงมิดหน้าขึ้นมา สงสัยอยู่เหมือนกันว่ามันเอาตาที่ไหนดูทาง แม้ว่าเธอจะไม่ได้วาดลูกตาบนเนื้อแป้งนั้นจริงๆ ก็เถอะนะ
“ถ้าจุดไฟเสร็จแล้ว จะไปไหนก็ไปเถอะ”
กองไฟลุกโชติช่วงลามเลียเนื้อแป้งสีขาวนวลที่ดูเหมือนจะไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับความร้อนที่กำลังแผดเผามันอยู่ เมื่อเตาผิงร้อนได้ที่ตามคำบัญชาของนายหญิงน้อย ตัวมันก็เริ่มปริแตกทีละเล็กทีละน้อยกลายเป็นผุยผงกองอยู่ตรงนั้น
ความคิดเห็น