ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ใจสามดวง

    ลำดับตอนที่ #2 : บท 2

    • อัปเดตล่าสุด 24 ส.ค. 57


    บท  2

                เสียงรัวชัตเตอร์ดังถี่ ๆ พร้อมแสงวิบวับที่เกิดขึ้นอย่างปัจจุบันทันด่วน เรียกสายตาอยากรู้อยากเห็นของเหล่าบรรดาเซเลบริตี้และผู้ที่อยู่ในงานได้เป็นอย่างดี

                “ใครกันเธอ  ดูดีชะมัด”

              สาวสวยผมทองหนึ่งในผู้ร่วมงาน กระซิบถามเพื่อนสาวอีกคน โดยไม่สามารถละสายตาจาบุรุษผู้ที่พระเจ้าเสกสรรค์ปั้นแต่งได้อย่างสมบูรณ์ผู้นี้ได้ เรือนร่างสูงสง่าซ่อนกายในชุดสูททางการสุดหรู  เครื่องหน้าที่ครบครันทำให้ทั้งเพศชายหรือหญิงร่ำร้องด้วยความอิจฉาและหลงใหล  บุคลิกเคร่งขรึมที่ปรากฏทำให้ใครต่อใครไม่กล้าต่อกร  เขาเดินเข้างานพร้อมคนสนิทที่หน้าตาถึงไม่เด่นสะดุดตา แต่ก็ใช่ว่าจะเลวร้ายเกินไป

                “หล่อนนี่ตาแหลมนะยะ  นั่นน่ะ ชาเบียร์ โคเซ มารีอา ฉันไม่แปลกใจที่เธอจะไม่รู้จักเขา  ถึงชื่อเสียงของเขาจะมีมากพอ ๆ กับเจ้าของงาน แต่น้อยคนนักที่เคยพบหน้า ที่ฉันรู้เพราะญาติทำธุรกิจกับเขาเล่าให้ฟัง  เธอเชื่อไหม...ว่าเขาอันตรายพอ ๆ กับสิงโต เห็นเหยื่อเมื่อไหร่ ขย้ำไม่เลือกหน้า “

              “ถ้าฉันเป็นเหยื่อ ฉันก็ยอมนะ”

                แม่สาวทรงโตในชุดสีแดงสุดเซ็กซี่หัวเราะคิกกับคำพูดของเพื่อนและเธอก็มีความคิดที่ไม่ได้ต่างไปจากนี้เช่นกัน

                “อย่างพวกเราคงหมดสิทธิ เพราะขนาดลูกสาวนักการเมืองที่ทั้งสวยทั้งรวยแถมยังมีชื่อเสียง ไปเสนอตัวถึงที่ เขายังไม่แล”

                สาวทรงโตพูดพร้อมถอนหายใจอย่างเสียดาย

     

              “ไม่เจอกันเสียนาน ยินดีจริง ๆ”

                ฟราน มหาเศรษฐีชาวโคลัมเบียทักทายชาเบียร์  ถ้าไม่ใช่เพราะสายสัมพันธ์ที่เคยมีระหว่างเขากับพ่อของชาเบียร์ คงเป็นไปได้ยากที่จะเจอตัวเป็น ๆ

                “เป็นเกียรติมากครับที่มีโอกาสมางาน”

                ชาเบียร์ยกมุมปากนิดหน่อยแต่ก็แทบหยุดหายใจสำหรับสุภาพสตรีที่มองเห็น  ซามีที่ยืนห่างจากเจ้านายในระยะพอดีในการรักษาความปลอดภัยอมยิ้มกับบรรยากาศรอบข้าง

                เขาไม่แปลกใจกับท่าทีดีอกดีใจจนเกินเหตุของฟราน ก็เพราะเจ้านายของเขาแทบไม่เคยออกงานสังสรรค์ใด ๆ นอกจากงานที่จำเป็นเท่านั้น

                ด้วยชื่อเสียงที่เป็นเจ้าของธุรกิจมากมายทั้งด้านสว่างและด้านมืดทำให้ชาเบียร์ต้องระวังตัวมากเป็นพิเศษ  ศัตรูมีมากพอ ๆ กับมิตร แต่ก็ใช่ว่าเขาจะอ่อนแอปานนั้น

                กลับกันเขาแกร่งพอที่จะต่อสู้กับใครก็ตามที่คิดเป็นศัตรู  เพราะเขาไม่ชอบอะไรที่วุ่นวาย ใส่หน้ากากเข้าหากัน นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เขาไม่ค่อยปรากฏตัว

     

              “ได้ข่าวว่าจะไปอิตาลีเรอะ  ระวังตัวหน่อยก็ดีนะ ที่นั่นเจ้าที่แรงเหลือเกิน”

                คิ้วหนาเข้มเลิกขึ้นอย่างแปลกใจที่ฟรานรู้เรื่องของเขา แต่ก็พอเข้าใจได้ เพราะคนที่ยืนตรงหน้าหาใช่ชายชราทั่ว ๆ ไป

                “ขอบคุณสำหรับความหวังดีครับ  ผมว่า..น่าสนุกดีออก”

                ชาเบียร์หยิบเครื่องดื่มดีกรีแรงมาดื่มแก้กระหาย หาได้สนใจคำเตือนของฟรานไม่ เขาพูดคุยเรื่องราวทั่วไปอีกนิดหน่อยจึงขอตัวกลับซึ่งฟรานก็ไม่ได้ต่อว่าอะไร เพราะแค่มาร่วมงานก็มากเกินพอแล้ว

              ชาเบียร์นั่งนิ่งบนรถยนต์คันหรูระหว่างทางกลับคฤหาสน์  พรุ่งนี้แล้วสินะที่เขาต้องไปคุยงานที่อิตาลี 

    หึ...  เจ้าที่แรงรึ  อยากรู้เหมือนกัน ว่าจะแรงสักแค่ไหน

     

               

                เสียงดนตรีที่ดังกระหึ่มก้องเกสต์เฮ้าส์หาได้สร้างปัญหารบกวนต่อใครไม่ เพราะมันเป็นพื้นที่ส่วนตัวของอันโตนิโอ เชสนีไรบัส  ผู้ทรงอิทธิพลคนสำคัญของอิตาลี

    ทั้งทรัพย์สมบัติที่มากมายมหาศาลและรูปสมบัติที่แม้แต่เทวีความงามยังหลงใหล ด้วยเรือนร่างอันสูงใหญ่ทว่าไม่เทอะทะ  ใบหน้าที่ประกอบกันอย่างลงตัวของคิ้ว คาง จมูก ปาก แต่สิ่งที่สะกดใครต่อใครเห็นจะเป็นดวงตาที่มีประกายกรุ่มกริ่มตลอดเวลา

    ร่างสะโอดสะองในเสื้อผ้าน้อยชิ้นทั้งสามนาง กำลังยักย้ายส่ายสะโพกยวนยั่วตรงหน้า สร้างรอยยิ้มถูกใจให้กับเจ้าของเกสต์เฮ้าส์ยิ่งนัก

    อันโตนิโออ้าปากรับองุ่นฉ่ำหวานจากสาวสวยอีกคนที่คอยนวดเฟ้นด้านซ้าย  ส่วนด้านขวาสาวทรงโตที่มีความสวยไม่แพ้ใคร ก็กำลังพัดวีสร้างความเย็นสบายให้กับเขา

    เปาโลมองภาพเบื้องหน้าอย่างชาชิน  ขึ้นชื่อว่าอันโตนิโอนี่ถือว่ายังน้อยไป เมื่อเดือนที่แล้วเจ้านายเกณฑ์สาวงามจากหลายเวทีมาปาร์ตี้ที่นี่ร่วมครึ่งร้อย

    สร้างความปวดหัวไม่เบาสำหรับฝ่ายรักษาความปลอดภัย แต่พวกเขารู้ดีว่าอันโตนิโอใช่ว่าจะเป็นสิงห์เฉพาะเรื่องผู้หญิง  เรื่องอื่น ๆ เขาก็เป็นสิงห์เหมือนกัน ถึงคุณจะมีปีกก็ไม่สามารถหนีพ้น  เพราะคมเคี้ยวที่แหลมคมและกรงเล็บอันทรงพลัง  หากเขาไม่ขย้ำจนหนำใจ อย่าหวังว่าจะไปจากเขาได้

     

    “อ้าวสาว ๆ ไปพักทานข้าวก่อนเร้ว..เดี๋ยวค่อยมาหม่ำของหวานกัน”

    อันโตนิโอหลิ่วตาอย่างแฝงนัยก่อนรอให้สาว ๆ ทั้งห้าเดินจากไปจนแน่ใจว่าปลอดภัย จึงพยักหน้าให้คนสนิทรายงาน

    “ดูเหมือนว่าแขกแวะมาเยี่ยมเราเยอะเป็นพิเศษครับนาย”

    เปาโลพูดแฝงใบหน้าที่เคร่งเครียด  แค่หนึ่งเจ้าป่าแห่งโคลัมเบียที่ชื่อเสียงพอฟัดพอเหวี่ยงกับอันโตนิโอแล้ว ยังมีอีกหนึ่งสิงห์แห่งรัสเซีย ที่ชื่อชั้นไม่ได้ด้อยกว่าทั้งสองเลย

    “เปาโล เป็นไข้หรือเปล่า ดูหน้าซีด ๆ นะ”

    ว่าแล้วก็หัวเราะอย่างอารมณ์ดี  อันโตนิโอรู้ว่าเปาโลห่วงเรื่องอะไร แต่ที่นี่คือบ้านของเขา ไม่ว่าใครที่คิดมาทำลายหรือสร้างความเสียหายให้กับเขา

                ดวงตาที่มีประกายกรุ่มกริ่มกลับเปลี่ยนเป็นดุดันน่ากลัว  ซึ่งน้อยครั้งนักที่จะได้เห็น  เปาโลนิ่งเงียบอย่างเข้าใจความหมายของเจ้านาย

                “มามะ...สาว ๆ เรามาทานของหวานกันดีกว่า”

     
     

     

                “ดะ..ได้..ปะ..โปรด”

           น้ำเสียงอ่อนระโหยโรยแรงของชายร่างผอม เลือดเกรอะกรัง บาดแผลทั่วตัว ดวงตาแฝงประกายเว้าวอน

                “ได้โปรดไว้ชีวิ....”

                ใบหน้าสง่างามแฝงกลิ่นอายมรณะนิ่งเฉย  ดวงตาไร้แววปราณีใด ๆ ราวกับไร้ซึ่งความรู้สึก มองคู่สนทนาอย่างว่างเปล่า

                เครื่องหน้าคมสันที่บุรุษและสตรียังต้องริษยา ส่วนผสมระหว่างความงามของสตรีและความหล่อเหลาของบุรุษได้ประกอบกันบนใบหน้านี้!!

                เรือนร่างอันแข็งแกร่งไม่แพ้ใบหน้าถูกอำพรางด้วยเสื้อสเวตเตอร์ไหมพรมชั้นดีสีทึม  กางเกงสีเข้มยิ่งเพิ่มความน่าหวาดหวั่นขึ้นเท่าตัว

                “ปัง!!!!

          เพียงเจ้าของใบหน้าเย็นชาสะบัดมือ เสียงมัจจุราชก็ดังขึ้นทันที 

                “ทำความสะอาดซะ”

                น้ำเสียงเย็นเยียบเอ่ยขึ้นก่อนจะเดินหายเข้าสู่ห้องทำงาน  มักซิมพยักหน้ารับอย่างไร้เสียง  ถึงเขาจะทำงานกับอีวาน อีวานโนวิช อีวานนอฟมานาน จนได้รับความไว้วางใจ  แต่เขาก็ยังอดหวั่นเกรงต่อเจ้านายไม่ได้

                ตลอดระยะเวลาที่เขาอยู่ที่นี่ไม่เคยมีสักครั้งที่อีวานมีความเมตตาต่อสิ่งใด  ไร้ซึ่งหัวใจและความรู้สึก

    ดังเช่นชายที่เคยมีลมหายใจตรงหน้าเขานี้  รามานเป็นหนึ่งในลูกสมุนของมักซิม สนิทสนมคุ้นเคยกันพอควร แต่เพราะความโลภที่มีมากกว่าความกลัว ทำให้เขาคิดทรยศ หวังขโมยเพชรของอีวาน

    ทว่าหนูริอาจลองดีกับราชสีห์ผลจึงกลายเป็นซากศพกองอยู่ตรงหน้าเขาแทน ในสมองคิดคำนึงแต่ร่างกายกลับออกคำสั่งให้ลูกน้องเก็บกวาดที่ตรงนี้ให้แล้วเสร็จ 

                มักซิมยืนประจำที่ในห้องทำงานของเจ้านาย  ภาพเจ้านายนั่งเปิดแฟ้มงานที่เขาจำได้ว่าเยอะพอควรแต่ตอนนี้เหลือไม่มากนัก ทำให้เขาอดเป็นห่วงอีวานไม่ได้

                ด้วยธุรกิจมากมายทั้งในรัสเซียและต่างประเทศรวมถึงถูกกฎหมายและผิดกฎหมายอยู่ภายใต้การดูแลของอีวานเพียงคนเดียว  เขาไม่เคยเห็นอีวานพักหรือป่วย  สิ่งที่เห็นจนชินตาคือการทำงาน

                “ทุกอย่างพร้อมแล้วครับ”

                มักซิมกล่าวเมื่อเห็นแฟ้มงานสุดท้ายวางลง 

                อีวานพยักหน้าอย่างเข้าใจ  เพราะเป็นการเปิดตลาดอัญมณีแห่งใหม่ในอิตาลี เขาจึงต้องเดินทางไปด้วยตัวเองและสิ่งที่จะกลับมาพร้อมเขาคือความสำเร็จ!!

               

     

     


     

    ปล.  ^^  วังเวงไงไม่รู้ ฮ่า ฮ่า (เงียบเกินไปแล้ว) 

     

     

     

     

               

     

               

                

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×