คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : 50 %
บท 10
อีกฝั่งหนึ่งของเมื่อวาน...
เปาโลถอนหายใจอย่างโล่งอก
เมื่อเจ้านายที่เขาเคารพรักเริ่มควบคุมสติได้เสียที ก็จะไม่ให้เขาโล่งได้ยังไง
ตั้งแต่ที่เห็นใบหน้าอันปราศจากสิ่งปิดบังของสาวน้อยคนนั้น
ที่เขาพึ่งทราบจากทีมงานว่าชื่อ มะขาม เจ้านายเขายิ่งไปกันใหญ่ แค่เห็นแผลพร้อมเลือดที่ซึมนิดหน่อย
ขอย้ำจริง ๆ ว่ามันเล็กน้อยมากถ้าเทียบกับสิ่งที่พวกเขาได้พบเจอในแต่ละวัน
อันโตนิโอถึงกับเรียกแพทย์ประจำตัวมาที่ห้องทำงานอย่างเร่งด่วน
หลังจากนั้นความโกลาหลเล็ก ๆ ก็เกิดขึ้น
เจ้านายตัวดีสั่งหยุดการถ่ายภาพประหนึ่งเป็นเจ้าของงานซะเอง!!
อย่างว่าก็เจ้านายเขาเป็นคนที่ต้องการอะไรต้องได้อย่างนั้น แล้วก็ต้องเป็นเขา ที่คอยประสานงานโทรเคลียร์กับหัวหน้าทีมงานที่มาถ่ายภาพ
พร้อมเชิญทีมงานและนางแบบกลับไปพัก ซึ่งทีมงานนี่ เขาไม่ต้องพูดมากทุกคนก็ปฏิบัติตามได้อย่างเข้าใจ
แต่กับนางแบบเล่นเอาเขาจะประสาทเสียเสียให้ได้
ให้เขาไปรบกับผู้ก่อการร้ายยังดีเสียกว่าต้องมารับมือกับเหล่าบรรดาเด็กในสังกัดของเจ้านาย เทเรซ่าโวยวายว่าเธอได้รับบาดเจ็บต้องการให้อันโตนิโอดูแล
เธอโอดครวญราวกับแขนหักหรือจะพิการ ทั้งที่ไร้รอยขีดข่วนเพราะมะขามรับไว้ทั้งหมด
เขาต้องโทรแจ้งโรงพยาบาลเอกชนที่ดีที่สุด พร้อมของสมนาคุณอย่างที่ต้องการ เธอถึงยอมไปเข้ารับการรักษา
เนริสซ่าที่มีคิวถ่ายถัดไปเธอยินยอมกลับ แต่สายตาที่มองตามร่างสมบูรณ์แบบของอันโตนิโอที่อุ้มสาวน้อยคนนั้นเข้าห้องพักส่วนตัว
พร้อมออกคำสั่งว่านอกจากแพทย์กับเปาโลแล้ว คนอื่นห้ามเข้าเด็ดขาด
มันเต็มไปด้วยความริษยา อาฆาต ผู้หญิงนี่ช่างน่ากลัวจริง ๆ
“โอ้ย!!
คุณเป็นบ้าอะไรเนี่ย วางฉันลงนะ”
อันโตนิโอไม่สนใจทำตามเจ้าของเสียง
ทันทีที่เห็นเธอได้รับบาดเจ็บ แล้วมีคนอื่นสัมผัสร่างกายของเธอ เขาก็แทบคลั่ง ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันทำไมเขาถึงเป็นได้มากขนาดนี้ แค่เห็นท่าทางเจ็บปวดของเธอ เขาก็รู้สึกอึดอัดในอก
เขาเป็นบ้าอย่างที่เธอว่าหรือเปล่านี่ ??
ช่างหัวมันปะไร!!!
ก็เขาอยากทำแบบนี้ใครจะทำไม
มะขามแทบทนไม่ไหวกับความเอาแต่ใจของผู้ชายข้างตัว แค่เธอมีแผลเล็กน้อย ทำไมต้องทำเป็นเรื่องใหญ่
ไหนจะคุณหมอที่ท่าทางใจดี กำลังบอกอาการพร้อมออกใบสั่งยาให้ เธอทำได้เพียงยิ้มรับ พร้อมกล่าวขอบคุณเพื่อรักษามารยาท
“นี่คุณทำอะไรลงไป
สั่งหยุดงานของฉันทำไม”
เมื่อความเป็นส่วนตัวมาถึง
สงครามจึงเริ่มขึ้นทันที มะขามตวัดสายตามองใบหน้าหล่อเหลาอย่างไม่พอใจ
อันโตนิโอค่อยคลายใจเมื่อรับทราบอาการจากอาหมอ อารมณ์ที่เดือดจัดค่อย ๆ ลดระดับจนอยู่ในเกณฑ์ปกติ
ดวงตาที่ยิ้มได้อันเป็นเสน่ห์ประจำตัวจึงเริ่มเปล่งประกายอย่างที่เจ้าตัวรู้สึก
“อ้าว..ก็คุณได้รับบาดเจ็บระหว่างปฏิบัติหน้าที่
ซึ่งผมเป็นเจ้าของสถานที่
ในเมื่อเกิดเหตุขึ้นในที่ของผม ผมก็ต้องรับผิดชอบ ผมผิดตรงไหน”
ท่าทางยียวนตรงหน้าทำให้มะขามยิ่งไม่ชอบใจ แต่ก็จนด้วยเหตุผลที่จะโต้เถียง แค่เธอแขนถลอกไม่จำเป็นต้องทำเป็นเรื่องใหญ่เรื่องโต
แปะพลาสเตอร์ เธอก็สามารถทำงานต่อได้แล้ว
“ในเมื่อคุณสั่งหยุดงานแล้ว
งั้นฉันกลับไปพักผ่อนเลยละกัน”
ร่างบางลุกขึ้นเดินทั้งที่ยังเอ่ยไม่จบประโยคด้วยซ้ำ
มือหนาใหญ่จึงคว้าหมับทันที
แรงที่มากกว่าทำให้เจ้าของร่างนุ่มนิ่มถึงกับเสียหลักเซถลาหล่นทับร่างหนาราวกับนกปีกหัก
“โอ้ยย “
“เป็นอะไรมากหรือเปล่า
ผมไม่ได้ตั้งใจนะ คนดี ไหนให้ผมดูหน่อยสิ”
อันโตนิโอหน้าเสียเมื่อสาวน้อยของเขามือคลำหน้าผากป้อย
ๆ พร้อมหลับตาแน่น
ก็เขาไม่อยากให้เธอกลับนี่นา มันเป็นไปเองโดยธรรมชาติ แรงเขาก็มากซะด้วย
เลยทำให้เธอล้ม หน้าผากทั้งคู่ชนกันอย่างแรง
ตัวเขาไม่เจ็บสักนิด แต่กับเธอนี่สิ อันโตนิโอขยับเข้าใกล้มะขาม
ผิวขาวละเอียดเป็นรอยแดงเป็นปื้น
ทำให้เขาแทบทำอะไรไม่ถูก
ทำได้เพียงเป่าเบา ๆ สองครั้งแล้วโอบกอดร่างนุ่มนิ่มอย่างทะนุถนอม
ซึ่งเขาไม่เคยทำแบบนี้มาก่อนในชีวิต
“นี่..ปล่อยฉันนะ
คิดจะทำอะไร”
แม้จะรู้สึกแปลก
ๆ แต่มะขามก็รีบขืนตัวออกจากอ้อมกอดนี้อย่างกับโดนไฟลวก
อันโตนิโอไม่ตอบเขาหยิบโทรศัพท์ส่วนตัวที่มะขามทราบดีว่าราคาคงแพงระยับ
โทรหาใครสักคนแล้วออกคำสั่งเป็นภาษาอิตาลีซึ่งเธอฟังไม่เข้าใจอย่างรวดเร็ว
“ก็คุณเจ็บไม่ใช่หรอ เขาว่ากันว่าถ้าเรากอดกันเราก็จะหายเจ็บไง”
มะขามมองใบหน้าที่ใสซื่อ
ซึ่งขัดกับประกายเจ้าเล่ห์อย่างเข็ดเคี้ยวเขี้ยวฟัน มันมีที่ไหนกันที่กอดแล้วหายเจ็บ
ถ้าเป็นเป่าเบา ๆ แล้วหายนี่ก็ว่าไปอย่าง
“คุณเอาอะไรมาพูด
ที่บ้านฉันไม่เคยเห็นมีซะหน่อย”
“นั่นมันบ้านคุณนี่นา ที่นี่บ้านผม ผมว่ามีก็ต้องมีสิ”
อันโตนิโอลอยหน้าลอยตาพูดอย่างดันทุรัง ร่างสูงใหญ่ลุกขึ้นพร้อมฉุดให้มะขามลุกตาม
เขาเดินนำเธอออกจากห้องส่วนตัวแล้วลงลิฟต์สำหรับผู้บริหาร
มะขามก็เดินตามอย่างงง ๆ เหลียวมองด้านหลังเห็นเป็นผู้ช่วย แต่เธอคิดว่าน่าจะเป็นบอดี้การ์ดคงเหมาะกว่า
เดินถือกระเป๋าพร้อมของใช้ส่วนตัวของเธอติดมือมาด้วย
“นั่นของ ๆ
ฉันนี่”
“คุณแขนเจ็บให้เปาโลถือให้แหละดีแล้ว
แค่ยืนเฉย ๆ ก็พอ”
เสียงทรงอำนาจออกคำสั่งทำให้มะขามแอบไม่พอใจแต่ก็ขัดอะไรไม่ได้
ถ้าเธอไม่เริ่มรู้สึกเจ็บแผลนะ เธอแย่งมาถือเองแล้ว
ใบหน้าบึงตึงที่เจ้าตัวแสดงออกอย่างชัดเจนไร้ซึ่งจริตมารยาทำให้อันโตนิโอมองอย่างเพลิดเพลิน
น่าแปลกที่ผู้หญิงตรงหน้าไม่ว่าจะทำหน้าตาแบบไหน
ท่าทางอย่างไรเขากลับชอบไปเสียหมด
รู้สึกเอ็นดูด้วยซ้ำไปที่เห็นท่าทางน่ารัก ๆ ที่เป็นธรรมชาติของเธอ
มะขามอดรู้สึกกังวลไม่ได้
ผู้ชายคนนี้ท่าทางแปลก ๆ อยู่ดี ๆ ก็ยิ้มซะได้ ทำให้เธอเริ่มขยับไปยืนชิดอีกด้าน
แล้วได้รับคำตอบเป็นการเลิกคิ้วหนาขึ้น พร้อมเสียงหัวเราะดังก้องลิฟต์
สายตาหวาดระแวงและเคลือบแคลงที่มองมาเมื่อครู่พร้อมการขยับตัวหนีทำให้เขาถึงกับหลุดขำ
นี่เขากลายเป็นตัวอะไรไปแล้วสำหรับเธอ ถ้านิตยสารยอดนิยมในอิตาลี่ที่โหวตให้เขาเป็นที่สุดของหนุ่มชวนฝันมาเห็นท่าทางของแม่ตัวบางเข้า
เป็นต้องต่อว่าต่อขานผู้หญิงคนนี่อย่างหนัก!!
มะขามรับกระเป๋ารวมถึงกล้องคู่ใจมาถือเอง
กล่าวขอบคุณพร้อมร้อยยิ้มเป็นมิตร ซึ่งทำให้ร่างสองร่างเกิดปฏิกิริยาต่างกัน
เปาโลถึงกับตาค้าง
ต้องยอมรับกับตัวเองอีกครั้งว่าสาวน้อยของเจ้านายคนนี้ยิ้มแล้วสวยมาก ๆ สวยแทบหยุดหายใจ
รอยยิ้มของเธอดูจริงใจ น่าคบหาเป็นที่สุด
อันโตนิโอแม้ตอนแรกจะตกอยู่ในภวังค์แต่หลังจากเห็นท่าทางเคลิ้ม
ๆ ของมือขวาคนสนิทเข้า อารมณ์ก็ดิ่งลงเหวทันที ความรู้สึกไม่ชอบใจที่คนอื่นได้รับรอยยิ้มจากเธอทำให้เขาแทบอยากทำลายทิ้ง
มะขามสบตาที่เคยมีประกายแย้มหัวตลอดเวลาแต่
ณ ตอนนี้กำลังมีเปล่งประกายโกรธเกี้ยวอย่างมึนงง
เป็นอะไรของเขากัน เธอไม่คิดที่จะค้นหาคำตอบ เพียงหันหลังกลับ
ไม่ได้ฟังถ้อยคำที่อีกฝ่ายพยายามตะโกนตามหลังว่าจะไปส่งที่พักให้
แต่เธอไม่สนใจ
เรื่องอะไรจะให้ไปส่งเธอกันเล่า แค่นี้ก็อึดอัดจะแย่!!
ท่าเดินแกมวิ่งที่ไม่เหลียวกลับทำให้อันโตนิโอหัวเสียเป็นที่สุด
ไอ้เราสู้อุตส่าห์เป็นห่วงแต่เธอกลับไม่แม้แต่จะสนใจ
เขาทำให้เพียงเดินกลับเข้าบริษัทอย่างฉุนเฉียว แม้แต่เปาโลมือขวาคนสนิทยังต้องเก็บปากเก็บคำ
……….
^___^
มีความสุขกับการอ่านค่ะ (งานเยอะแต่ก็ต้องปั่น) สู้ไปด้วยกันค่ะ
ความคิดเห็น