กับดักพระพรหม

ลำดับตอนที่ #4 : บทที่ 3/3

บทที่ 3/3 (100 %)

  การถ่ายทำในวันนี้เป็นฉากที่ FBI หนุ่มมากความสามารถซึ่งรับบทโดยฟรานเชสโก  ต้องขับเจตสกีไล่ล่าหัวหน้ามาเฟียโดยมีโลเคชั่นเป็นแม่น้ำสายหลักของจังหวัด

การต่อสู้เริ่มต้นจากทั้งคู่ต่อสู้และไล่ล่ากันภายในตัวตึก  ด้วยฝีมือการแสดงที่โดดเด่นของฟรานเชสโกและอีวานผู้ซึ่งรับบทเป็นมาเฟียค้าอาวุธเถื่อนทำให้การถ่ายทำดำเนินต่อเนื่องไปอย่างดุเดือดตามคิวที่ได้ซักซ้อมกันไว้ สุดท้ายเมื่อการถ่ายทำดำเนินมาถึงฉากที่อีวานถูกฟรานเชสโกยิงและต้องล่าถอยหนีลงเรือ  เสียงผู้กับก็ตะโกนผ่านโทรโข่งบ่งบอกว่าฉากนี้เสร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี  

คัท !  “เยี่ยมมากครับ เยี่ยมมาก”

“เฮ้ ! แตะมือกันหน่อยไหมที่รัก”  อีวาน  อีวานอฟหนึ่งในนักแสดงตัวหลักตีหน้าทะเล้นและยื่นมือมาหา  ใช้คำพูดก่อกวนให้ฟรานเชสโกขุ่นใจเล่น

“เสียใจว่ะ ฉันขี้เกียจล้างมือ”  คนที่ถือตนว่าหล่อกว่าตอบอย่างเย่อหยิ่งปรายหางตามองอีกฝ่ายเพียงนิดก่อนจะเดินไปยังที่นั่งส่วนตัวของตนเองอย่างไม่คิดจะแคร์ให้รกสมอง

อีวานยักไหล่ตอบอย่างไม่แยแสดวงตายิ้มพรายฉายแววเจ้าเล่ห์  เพราะต่างฝ่ายต่างไม่เคยยอมใครจึงกลายเป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาตลอด  สิ่งไหนที่ขุดมาเพื่อสร้างความขุ่นใจให้อีกฝ่ายเล่นๆ ได้ก็พร้อมจะทำทันทีเหมือนอย่างเช่นตอนนี้...

“อืม.. ไม่เป็นไร  แต่ถ้านายอยากได้หมอนวดหุ่นสะบึมๆ อีกปรึกษาฉันได้นะ  ที่ฉันรู้จักน่ะ เอ็กซ์ เซ็กซี่กว่าที่เจ้าคลาร์กหามาเยอะ” พูดจบอีวานก็หัวเราะใส่เสียงดังก่อนจะเดินผ่านเลยไปอย่างผู้ชนะ

เพราะเรื่องส่วนตัวแต่กลับหลุดลอดออกไปถึงหูคนอื่น  ดวงตาสีน้ำข้าวจึงขุ่นมัวขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์  แม้จะรู้ดีว่าหูตาหมอนั่นไวยิงกว่าสับปะรดไม่ต่างจากตนเอง  แต่การที่มันล่วงรู้เรื่องส่วนตัวได้นั้นมันหมายถึงความบกพร่องของทีมรักษาความปลอดภัยและคนใกล้ตัว

“คุณฟรานเชสโกครับ ฉากต่อไป....”  และเมื่อคลาร์กเดินมาหาเพื่ออธิบายฉากการแสดงฉากต่อไป  ร่างสูงก็ยกมือขึ้นเป็นเชิงห้ามก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงเอาเรื่อง

“ไอ้คุณคลาร์ก  ไอ้อีวานมันรู้เรื่องหมอนวดได้ยังไง” นัยน์ตาคมจ้องมองบอดี้การ์ดของตนเขม็ง

“เอ่อ.. ” คนปากโป้งเพราะเห็นแก่กินถึงกับอึกอัก  คลาร์กส่งสายตาละห้อยไปให้เจ้านายของตน

เท่านี้ก็รู้แล้วว่าหลุดมาจากใคร  ฟรานเชสโกยกขาขึ้นวางพาดโต๊ะพลางกอดอกจ้องคลาร์กเขม็ง “ฉากต่อไปฉันไม่เข้าไปนายไปจัดการแก้ปัญหาเองแล้วกัน”

“โถ่.... เจ้านายครับ จะลงโทษผมอย่างไรก็ได้แต่อย่าทำอย่างนี้จะได้ไหม  ตอนนี้ทุกคนรอคุณฟรานเชสอยู่เพียงคนเดียวนะครับ” คลาร์กโอดครวญ ทว่าคำตอบที่ได้รับคือฟรานเชสโกกลับปิดเปลือกตาลงบ่งบอกว่าเจ้าตัวไม่ยอมรับรู้อะไรแล้ว

คลาร์กถอนหายใจออกมาอย่างปลงๆ ก่อนจะเดินไปยังจุดที่ผู้กำกับนั่งอยู่  ดีหน่อยที่หนังบู๊แอคชั่นจะมีทีม Stunt  Coordinator  มืออาชีพประจำกองอยู่  ซึ่งเขาเหล่านั่นพร้อมจะทำหน้าที่แสดงแทนนักแสดงในฉากที่เสี่ยงอันตราย

การถ่ายทำเริ่มขึ้นอีกครั้งหลังจากเสียเวลาไปนาน  ฉากต่อไปเป็นฉากที่พระเอกของเรื่องต้องขับเรือไล่ล่ามาเฟียค้าอาวุธและเมื่อมาถึงตรงจุดที่มาร์คไว้เรือของฟรานเชสโกจะต้องถูกยิงถังน้ำมันและพระเอกหนุ่มต้องกระโดดลงน้ำหนีให้ทันก่อนที่เรือจะระเบิด  ขณะที่ผู้ร้ายสามารถขับเรือหลบหนีไปได้

“เอาล่ะ  เรือจะสตาร์ทตรงจุดสีฟ้านะครับ  ขันเรือไล่กันมาแล้วพอถึงจุดธงสีแดงฝ่ายตรงข้ามจะยิงถังน้ำมันเรือของคุณ  คุณอีวานจะยกปืนขึ้นเล็งเพื่อเป็นการให้สัญญาณจากนั้นให้กระโดดลงน้ำนะครับ  เอฟเฟคระเบิดเราเซ็ทไว้ตรงท้ายเรือด้านซ้ายมือและจะกดระเบิดทันทีเวลากระโดดให้กระโดดออกทางด้านขวานะ  ถ้าพร้อมแล้วให้สัญญาณด้วยครับ”  เสียงผู้กำกับย้ำคิวอีกครั้งและเมื่อผู้ที่อยู่บนเรือชูนิ้วหัวแม่มือให้สัญญาณ คำสั่งเริ่มถ่ายทำก็ดังขึ้น

“แอคชั่น !”

เรือเจ็ตสกีสองคันขับไล่ล่ากันมาตามบทและเมื่อถึงจุดที่นัดหมายไว้อีวานก็ยกปืนขั้นเล็งและยิง!

ปัง !

ตู้ม ! ตู้ม !

เอฟเฟคระเบิดดังขึ้นสนั่นหวั่นไหวอย่างที่ควรจะเป็น  ต่างกันก็ตรงที่ตอนซ้อมจะไม่มีเปลวไฟลามเลียเรือทั้งคันแบบนี้  ไหนจะเศษชิ้นส่วนลอยละล่องเกลื่อนผิวน้ำนั่นอีก

ร่างสตั้นผู้เคราะห์ร้ายลอยแน่นิ่งคว่ำหน้าอยู่บนผิวน้ำ  เรือที่ทางทีมงานเตรียมไว้ยามฉุกเฉินแล่นตรงไปยังที่เกิดเหตุเสียงกรีดร้องของคนที่มุงดูการถ่ายทำดังระงมเมื่อได้เป็นภาพอุบัติหตุที่เกิดขึ้นคาตา

ขณะที่เหล่าทีมงานต่างเร่งรุดช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ  คลาร์ก คาร์โกเองก็กระโจนเข้าไปหาผู้เป็นนายทันทีก่อนจะลากฟรานเชสโกที่พุ่งพรวดออกมาจากที่พักรับรองเพราะได้ยินเสียงกรีดร้องแล้วตรงดิ่งไปยังรถยนต์ส่วนตัวทันที

“เกิดอะไรขึ้นคลาร์ก”  ฟรานเชสโกถามขึ้นขณะที่ถูกคลาร์กลากตัวผ่านกลุ่มคนไปยังรถยนต์ส่วนตัวที่จอดรออยู่

“อุบัติเหตุการถ่ายทำครับ”  คลาร์กตอบเสียงนิ่งๆ ทั้งๆ ที่ในใจนั้นร้อนรน  มือหนึ่งนั้นลากเจ้านายของตน ส่วนอีกมือนั้นก็ปัดป้องและใช้มันกันนักข่าวและแฟนคลับที่ถือโอกาสพุ่งเข้าหาฟรานเชสโก

“แล้วทำไมเราไม่อยู่ช่วยพวกเขาก่อน นายจะมาลากฉันกลับทำไม”

“มีคนไปช่วยเขาแล้วครับไม่ต้องห่วง  เจ้านายรีบออกไปจากที่นี่ก่อนเถอะก่อนที่นักข่าวจะมารุมทึ้งถ่ายภาพคุณ” แววตาในความมืดฉายแววบางอย่างออกมาก่อนที่เจ้าตัวจะซุกซ่อนมันให้เลือนหายไปอย่างรวดเร็ว

เบนซ์สีดำมันปลาบเคลื่อนตัวออกไปแล้วพร้อมๆ กับร่างของดาราหนุ่ม  เสียงอื้ออึงผู้คนที่มามุงดู  ไซเรนของรถตำรวจและรถพยาบาลยังคงดังระงมอยู่  ทว่าสายตาของหญิงสาวนางหนึ่งกลับเอาแต่จ้องมองไฟท้ายสีแดงของคันที่เพิ่งจากไปจนมันค่อยๆ เลือนหายลับไปตรงมุมโค้งถนนด้วยสายตาชื่นชม

ภาพชายหนุ่มชาวเอเชียที่ใช้วงแขนของเขากางกั้นและปกป้องดาราหนุ่มจนสามารถขึ้นไปอยู่บนรถได้ยังคงตรึงอยู่ใจหัวใจ  ไหนจะช่วงที่เขาพยายามใช้ตัวเองกันกลุ่มนักข่าวที่ไม่มีจรรยาบรรณบางคนที่พยายามรุมทึ้งถ่ายภาพและยื่นไมล์มาสัมภาษณ์ถามนั่นอีก  ความทุ่มเทเหล่านั้นมันดึงหัวใจของเธอออกไปทั้งดวง!

เจอแล้ว ! ในที่สุดฟ้าก็ประทานเขาลงมาให้เสียที  พ่อพระเอกในนิยายของเธอ !!

Talk. เนื้อเรื่องตอนนี้อาจดูสั้นๆ ไปหน่อย นั่นเพราะคนเขียนแบ่งขนาดตอนผิด (ฮี่ๆ ) อีกสองวันเจอกันใหม่นะคะ  ตอนหน้าพ่อพระเอกตัวดีกับนางเอกแสนมึนจะเริ่มต่อปากต่อคำกันแล้ว

ปูลู.พระเอกเรื่องนี้มีดีที่หน้าตา  นอกนั้น....(โปรดเติมคำในช่องว่าง  ^_^)

 ฝากติดตามนิยายเรื่องนี้และร่วมพูดคุยกับนักหัดเขียนคนนี้ได้ที่...

เฟซบุ๊ค  วรินทรากร นักเขียน