คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : บทที่ 2/3
บทที่ 2/3 (ต่อฮับ)
บ้านไม้สีขาวชั้นเดียวยกพื้นต่ำชานพักบันไดหน้าประตูถูกดัดแปลงให้กว้างขึ้นและโอบล้อมเป็นระเบียงยาวไปด้านข้างของตัวบ้าน
ปีบต้นใหญ่ จำปีสีเหลืองนวล ต้นหอมเจ็ดชั้นต่างแข่งกันมอบความร่มรื่นให้กับตัวบ้านและส่งกลิ่นหอมระรวย
ดอกบางส่วนร่วงหล่นกระจัดกระจายระอยู่บนพื้นระเบียง
บนลานชานพักใต้ต้นดอกปีบนั้นหญิงสาวร่างเล็กสวมแว่นหนาเตอะนอนคว่ำอยู่บนฟูก เบื้องหน้าคือโน๊ตบุ๊คตัวเก่ง แม้จะเก่าแสนเก่าจนมองแทบไม่เห็นอักขระบนแป้นแต่นั่นก็หาใช่ปัญหา สิบนิ้วยังสามารถพรมระรัวเร็วอย่างคล่องแคล่วยามเมื่อต้องถ่ายทอดจินตนาการออกมาเป็นตัวอักษร
ที่เหลือจากนั้นก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของลูกรักรองรับและเก็บข้อมูลเหล่านั้นไว้อย่างมีประสิทธิภาพสุดๆ
ยกเว้น... เอ่อ ในช่วงเวลานี้...
“ไม่นะ!!”
“อย่านะลูก อย่าเด็ดขาด!”
ร่างที่นอนคว่ำเยียดยาวผลุนผลันลุกขึ้นมองโน๊ตบุ๊คเบื้องหน้าอย่างลุ้นระทึก พยายามส่งทั้งเสียงทั้งสายตาเว้าวอนและร้องขออย่างคาดหวัง ทว่า....
“ไม่ ม่าย...”
พลอยสีรุ้งกรีดร้องอย่างโหยหวนเมื่อหน้าจอลูกรักคู่ใจกระพริบพรึบๆ จากนั้นก็แน่นิ่งลงไปต่อหน้าต่อตา
“ตื่นขึ้นมานะลูกนะ แม่สัญญา
เอ่อ สาบานเลยเอ้า!
ว่าจะไม่ใช้งานลูกหนักอีกแล้ว
แต่ตอนนี้ช่วยฟื้นมาให้แม่เซฟงานก่อนได้ไหม ฮือๆ ”
หมด หมดกัน ที่อุตส่าห์นั่งปั่นมาตั้งแต่เช้า !
หลังจากเขย่า ทุบๆ เคาะๆ อยู่นานเพื่อหวังกระตุ้นชีพจรลูกรักให้กลับมาเต้นอีกครั้งเหมือนที่เห็นในซีรี่ส์ฉากพระเอกใกล้ตาย
สุดท้ายก็ต้องซบหน้าลงกับโน๊ตบุ๊คดีดแข้งดีดขาไปมาอย่างคับแค้นใจกับความสะเพร่าของตนเอง
“ทำไมแกไม่ผายปอดมันด้วยล่ะ” เสียงหนึ่งดังประชดมาจากด้านหลัง
“จริงด้วย!” พลอยสีรุ้งอุทานรับพลางกระเด้งตัวขึ้นมาอีกรอบ
จับเจ้าโน๊ตบุ๊คเจ้าปัญหาหมุนซ้ายหมุนขวา พลิกบนพลิกล่างอย่างเอาเป็นเอาตาย ในขณะที่คนต้นเสียงนั้นกลับส่งสายตามองมาอย่างเอือมระอาปนอ่อนใจในความติสต์แตกของเพื่อน
“แล้วปากมันอยู่ตรงไหนอ่ะ ! ”
ประโยคสุดท้ายที่หลุดออกมาทำเอาคนที่กอดอกยืนมองอยู่ตรงบันไดซี่แรกสุดแทบหัวคะมำและตัดสินใจได้ในทันทีว่า
ไม่ต้องเคาะหรอกโน๊ตบุ๊คน่ะ เคาะกะโหลกมันเนี่ยแหล่ะ
!
“มันมีปากซะที่ไหนล่ะยัยบื้อ
หล่อนเอาเวลาที่มานั่งเคาะพาเจ้าชิสุลูกรักของแกไปซ่อมที่ร้านคอมดีกว่าไหมยะ ยายเบื้อก”
ไม่พูดเฉยมือใหญ่ที่เจ้าตัวทาสีแดงแป๊ดทั้งห้านิ้วยื่นไปผลักหัวเพื่อนอย่างเข่นเขี้ยวจนพลอยสีรุ้งหัวคะมำ
“โอ้ย เจ็บนะเจษะ..”
พูดไม่ทันได้จบประโยคเสียงที่เจ้าตัวพยายามจะดัดให้แหลมก็แว๊ดสวนขึ้นมาทันที
“ห้ามพูดออกมานะยะ ! เรียกจีจ้า จี๊ดก็ได้อนุโลมแต่อย่าหลุดเจษฎามาไม่งั้นมีตบ”
ชายหนุ่มร่างสูงหนาที่พยายามทำตัวอ้อนแอ้นทิ้งกายลงนั่งพับเพียบข้างๆ
พลางเขวี้ยงค้อนใส่เพื่อนวงใหญ่
“แม่เจ้า !
นี่แกแต่งตัวจะไปไหน..” พลอยสีรุ้งอุทานถามเสียงหลงเมื่อเพิ่งทันสังเกตว่าเพื่อนรักจัดหนักจัดเต็มตั้งแต่หัวจรดเท้า
ร่างสูงใหญ่หนาในชุดแซกแขนกุดสีฟ้าบิดผ้าเช็ดหน้าในมือไปมา ดวงหน้าที่ประโคมมาอย่างครบเครื่อง
ทั้งเขียนคิ้ว ปัดขนตา กรีดอายไลน์เนอร์ แดงระเรื่อขึ้นก่อนจะยกผ้าเช็ดหน้าขึ้นกัดอย่างสะเทิ้นอาย
“สวยใช่มะ”
พูดพลางเชิดหน้าสยายผมอย่างมั่นใจ
ก่อนที่วินาทีต่อมาเรียวปากแดงที่แย้มยิ้มจะหุบลงฉับเมื่อได้ฟังคำตอบจากพลอยสีรุ้ง
“ดีกว่าปอบนิดนึง”
“นัง..”
นิ้วเรียวชี้หน้าส่งตาขุ่นให้เพื่อน ก่อนจะคว้าปิ่นโตที่เพิ่งวางลงขึ้นกอดพลางพูดเสียงงอน
“ดี งั้นไอ้นี่แกก็ไม่ต้องกิน!”
“โอ๋ๆ ที่รักก็... เพื่อนแค่ล้อเล่นเฉยๆ ”
ร่างบางรีบคืนคำ ยื่นมือไปตะครุบปิ่นโตใบนั้นให้มาอยู่ภายใต้อาณัติของตนแล้วแกะออกและลงมือโซ้ยอย่างหิวโหย
ผ่านไปไม่นานปิ่นโตทั้งสามท้องก็มันแผล็บ ทั้งข้าวสวย
แกงหมูเทโพและไข่เจียวหมูสับของโปรดของเจ้าตัวอันตรธานหายเกลี้ยงไม่เหลือแม้แต่เศษเม็ดข้าว
“ตายอดตายอยากอย่างนี้แกไส้แห้งอีกแล้วล่ะสิเนี่ย” เจษฎามองหญิงสาวที่ทิ้งตัวลงนอนผึ่งพุงอย่างไม่ห่วงความสวยความงามแล้วก็ส่ายหน้า
ตั้งแต่รู้จักกันมาจะมีสักวันไหมนะที่ยัยบื้อนี่จะทำตัวให้สมกับเป็นกุลสตรีหน่อย ผมเผ้ายาวดำมันขลับถูกม้วนรวบขึ้นส่งๆ
จนบางส่วนหลุดลุ่ยลงมาปรกหน้าปรกตาอย่างกับยายเพิ้ง
ดีอยู่อย่างเดียวที่ผิวหน้ายังใสช่วยเสริมให้โครงหน้ารูปไข่นั่นให้พอดูได้อยู่
“แหะๆ งานไม่เดินเงินก็เลยไม่มา
ช่วงนี้ฉันตันเลยไม่มีงานส่งสำนักพิมพ์น่ะ”
“แล้วตกลงจะบอกยังว่าแกจะไปไหน”
พลอยสีรุ้งซักต่อ
เจษฎากัดริมฝีปากทำตาหวานเยิ้ม
จินตนาการณ์พาวิญญาณลอยละล่องไปหากองถ่ายละครที่จะมาถ่ายทำใกล้บ้าน เป้าหมาย..
ที่ไม่ว่ายังไงวันนี้เธอต้องนำความงามของเธอออกไปให้พ่อเทพบุตรสุดหล่อคนนั้นยลโฉมให้ได้
“ส่องสิ่งมีชีวิตที่หลุดมาจากสรวงสวรรค์”
เสียงตอบแผ่วเบาลอดออกมาจากปากสีแดงสด ขณะที่แววตาเจ้าตัวยังเคลิ้มลอยละล่องอยู่ในห้วงวิมานเพ้อฝัน
“แมงกะพรุนน่ะเหรอ..”
ตุ๊บ!! เสียงเหมือนใครบางคนหัวทิ่มตกลงมาจากสวรรค์ เมื่อได้ฟังคำถามของเพื่อนรัก “จะบ้าเหรอ แมงกะพรุนบ้านแกอยู่บนท้องฟ้าหรือไง ผู้ชายย่ะ!” จีจ้าแว้ดใส่เพื่อนเสียงเขียว ก่อนจะค้อนขวักชี้หน้าคนที่หัวร่องอหายอย่างคาดโทษ
พลอยสีรุ้งพยายามหยุดหัวเราะอย่างยากลำบาก เพราะมิฉะนั้นอาจจะโดนกระเทยร่างยักษ์ตรงหน้ากระโจนเข้ามาเชือดก็เป็นได้ “ไอ้หนุ่มคนไหนในวินมอเตอร์ไซด์อีกล่ะ” ถามพลางปาดน้ำตาตรงหางตาพลาง
“ชิ.. สินค้าไม่ขึ้นโอท็อปแบบนั้นคนสวยเลิกมองแล้วย่ะ”
“คนนี้น่ะ อิมพ็อตจากนอก ขาว หล่อ ล่ำ น่ากัดน่ากินเป็นที่สุด
ซี๊ดดด..” คำบรรยายที่บวกเอฟเฟคเสียงกระเส่าๆ ทำเอาคนฟังถึงกับตบหน้าผากตนเองอย่างละเหี่ยใจ
จำได้ว่าเพิ่งผ่านมาสองวันเองไม่ใช่เหรอที่เพื่อนสาวของเธอแต่งหญิงไปเดินยั่ววินมอเตอร์ไซด์หน้าปากซอย เดือดร้อนเธอต้องออกไปรับเพราะไม่มีใครยอมให้นั่งซ้อนท้ายเลยสักคน
“ไม่ได้การ !!” เจษฎาตบเข่าตัวเองดังฉาด ทำเอาพลอยสีรุ้งพลอยสะดุ้งโหยงไปด้วย ก่อนที่ร่างบางจะรีบขยับถอยหลังหนีเมื่อเห็นสายตาวิบวาวของเพื่อนสาวที่หันขวับมองมาทางตน
“อย่าบอกนะว่า...” พลอยสีรุ้งโอดถามพอจะเดาชะตากรรมข้างหน้าของตนเองออก ยิ่งเมื่อเพื่อนสาวคนสวยพยักหน้าอย่างช้าๆ
ขยิบตาพร้อมกับทำเสียง อือฮึ ! ในลำคอด้วยแล้ว….
“ค่าข้าว ค่าแกงเทโพ ไข่เจียวหมูสับที่แกกินเมื่อกี้ อ้อ.. คนสวยใจดีไม่คิดค่าหิ้วมาให้แล้วกัน
เพราะฉะนั้นจงตอบแทนบุญคุณด้วยการเป็นทาสให้นางฟ้าใช้ซะดีๆ ” พูดจบแขนยาวก็พุ่งตรงเข้าล็อคคอเพื่อนทันที
“ม่าย....”
พลอยสีรุ้งกรีดร้องโหนหวนพยายามดิ้นหนีวงแขนที่ล็อคคอตนเองเอาไว้ “ฉันไม่ว่าง ฉันต้องทำงาน”
“คอมแกเสียอย่ามาอ้าง อย่าพิรี้พิไรด้วยเดี๋ยวไม่ทันกองถ่าย” พูดจบก็ดีดหน้าผากเพื่อนทีหนึ่ง
เมื่อพลอยสีรุ้งเงยหน้ามองมาด้วยสายตางงๆ ไม่บอกก็รู้ว่ายัยเพิ้งนี่
ตกข่าว!!
“ก็กองถ่ายภาพยนตร์ต่างประเทศเรื่อง xxxx ไง วันนี้เขามาถ่ายทำแถวบ้านเราตรงสะพานหลังตึกฝรั่งเก่าในตลาดน่ะ ฟรานเชสโก เอเดน วิลสัน
พ่อยอดขมองอิ่มของฉันรับบทเป็นพระเอกด้วยนะ”
“หยุด แล้วก็ไม่ต้องถามอะไรทั้งสิ้น ลุกขึ้นมาแล้วทำหน้าที่สารถีให้คนสวยซะดีๆ
อย่าชักช้าเดี๋ยวที่นั่งวีไอพีด้านหน้าจะเสร็จชะนีนางอื่นหมด”
และที่นั่งวีไอพีที่ว่าของเจษฎาก็คือการนั่งยองๆ จุ้มปุกอยู่หลังเส้นกั้น พลอยสีรุ้งตบยุงที่วนเวียนมาสูบเลือดเธอไปกินอย่างไม่คิดขออนุญาตตายไปอีกตัว ให้ตายเถอะ
ตอนนี้เธอคันคะเยอและเหนียวไปทั้งตัวแล้วนะ เจษฎาลากเธอมาตั้งแต่บ่ายจนบัดนี้สี่ทุ่มยังไม่เห็นแม้แต่เส้นขนของพ่อพระเอกดังโผล่ออกมาเลย
เหลือบไปมองคนนั่งข้างๆ ที่สารรูปตอนนี้ก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่รองเท้าส้นสูงขนาดสี่นิ้วถูกเจ้าตัวถอดออกแล้วมาถือไว้แทน
แป้งที่ประโคมพอกมาอย่างดีบัดนี้หายวับเหลือแต่หน้ามันแผล็บ นี่ยังไม่รวมวิกปลอมที่เจ้าตัวร่ำๆ
จะทึ้งออกอยู่หลายรอบเพราะคันเหงื่อนั่นอีก
“จีจ้า
พ่อยอดขมองอิ่มแกไม่มาแล้วมั้ง
เรากลับบ้านกันเถอะ” พลอยสีรุ้งโอดครวญแข้งขาเป็นเหน็บจนแทบกระดิกกระเดี้ยไม่ได้
“ไม่ได้ๆ อีกนิดน่ะแกเดี๋ยวฟรานเชสโกสุดที่รักของฉันก็ออกมาแล้ว นั่นไง !”
เจษฎาพูดไม่ทันจบเสียงกรี๊ดของเหล่าสาวแท้และเทียมทั้งหลายก็ดังกระหึ่ม เมื่อร่างสูงสมาร์ทของชายชาวต่างชาติค่อยๆ
เดินออกมาจากรถตู้สีขาวเพื่อเตรียมตัวเข้าฉาก
ฟรานเชสโก โบกมือให้บรรดาแฟนคลับเพียงนิด
ส่งยิ้มหล่อบาดใจอีกหน่อยเสียงกรี๊ดที่ดังขึ้นเมื่อกี้ยิ่งกระหึ่มขึ้นไปอีก
โอเค เรตติ้งใช้ได้ !
นั่นคือความจริงที่อยู่ในใจภายใต้หน้ากากหล่อเหลานั่น ร่างสมาร์ทโดดเด่นก้าวเดินตามผู้จัดการส่วนตัวไปยังฉากเพื่อเตรียมตัว ขายาวๆ ก้าวตรงไปข้างหน้าอย่างมั่นใจก่อนที่จะชะงักไปเพียงนิดเมื่อหางตาเหลือบไปเห็นสิ่งมีชีวิตกลมๆ
ป้อมๆ นั่งจุ้มปุกเอาไม้จิ้มๆ กับพื้นดินอย่างไม่สนโลก ไม่สนแม้กระทั่งว่าคนอื่นเขาลุกขึ้นยืนกันหมดจนแทบจะเหยียบหัวเจ้าตัวอยู่รอมร่อแล้ว
หึ สิ่งมีชีวิตที่น่าเบื่อ !
ฟรานเชสโกเหยียดมุมปาก
มาไม้นี้อีกแล้วนะไอ้มุกแกล้งทำเป็นไม่สนใจเพื่อหวังดึงดูดสายตาเขาน่ะเมื่อไหร่มันจะหมดโลกไปนะ อยากมาเป็นหนึ่งในคอลเลกชั่นของเขาน่ะไม่เห็นยาก
แค่สวยๆ พกอึ๋มมาให้เยอะๆ หน่อย แล้วเดินเข้ามาหาและพูดว่า ที่รักคะ
เราไปดินเนอร์กันมั๊ย แค่เนี้ยะ ง่ายกว่ามากกก
อ้อ.. อีกอย่างถึงเขาจะชอบคั่วแต่ก็เลือกวัตถุดิบนะ อย่างยายป้านั่นน่ะฝันไปเถอะ !
ฟรานเชสโกแค่นเสียง หึ ในลำคอก่อนจะก้าวเดินต่อไปอย่างไม่คิดจะจำให้รกสมอง
.........................................
Talk.1 ฝากเม้นท์ฝากกำลังใจให้นักหัดเขียนตาดำๆ
ด้วยนะฮับ
Talk.2 นางเองเรื่องนี้เอ๋อนิดๆ รั่วหน่อยๆ คนอ่านโปรดทำใจ ^_^
ฝากติดตามนิยายเรื่องนี้และร่วมพูดคุยกับนักหัดเขียนคนนี้ ได้ที่...
เฟซบุ๊ค วรินทรากร นักเขียน
ความคิดเห็น