คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : วันหยุดคริสต์มาสที่ไม่น่ารัก
18:20
“นาซอเรีย!”ฮยอนซอกตะโกนเรียกสาวน้อยที่กำลังเดินอยู่ตรงโถงทางเดินอยู่คนเดียวในเวลาแบบนี้คนส่วนใหญ่มักจะอยู่ในหอพักไม่ก็อ่านหนังสือหรือติวกันที่ห้องโถงรวมแต่เด็กสาวคนนี้กำลังเดินไปไหนสักที่อย่างโดดเดี่ยวฮยอนซอกจึงร้องทักเธอเมื่อเขาเดินผ่านมาเห็นพอดี
“จะไปไหนงั้นหรอ”ฮยอนซอกเอ่ยถาม
“ห้องสมุดค่ะ สนใจไปด้วยกันมั๊ย?”นาซอเรียเอ่ยชวนคนตัวสูงไม่รอช้าเขาตอบตกลงในทันที
ระหว่างเดินทางไปยังห้องสมุดทั้งสองคุยกันอย่างสนุกสนานโดยไม่รู้ตัวเลยว่าตอนนี้กำลังมีคนแอบมองตามอยู่ห่างๆ
“ไม่แปลกที่จะไม่มีใครรู้สายเลือดที่แท้ของยัยเด็กนั่น”จูดี้กล่าวขึ้นพลางกอดอกไปด้วยโดยที่ข้างๆเธอนั่นยังมีจางยุนซอและซอกฮวามองไล่หลังนาซอเรียและฮยอนซอกอยู่
“ถึงว่าแหละตอนเจอครั้งแรกฉันถึงเห็นว่าตานั้นเป็นสีฟ้า”เมื่อยุนซอพูดจบทั้งจูดี้และซอกฮวาก็ไม่วายจะหันหน้ามาหาเชิงสื่อว่าพวกเขาไม่เข้าใจที่ยุนซอพูด
“บ้ารึเปล่าตาเด็กนั่นสีดำสนิทขนาดนั้นเอาอะไรมาสีฟ้า”จูดี้เอ่ยถามคนข้างๆตน
“ลองจ้องเข้าไปนัยน์ตาของนาซอเรียดูดิ แล้วจะรู้”ยุนซอตอบ
“มีโอกาสที่จะเป็นเวทมนตร์ได้มั๊ย? แบบใช้คาถาเปลี่ยนสีตากับสีผมงี้?”ซอกฮวาเอ่ยถาม
“ดูพยายามเกินมั้ย ยีนส์ด้อยอาจจะมาเจอกับยีนส์ด้อยก็ได้ไม่ได้มีอะไรยืนยันว่าทุกรุ่นจะแสดงลักษณะเด่นหนิ ที่โรงเรียนไม่สอนรึไง?”จูดี้กล่าว
“โทษทีพอดีเรียนที่ฮอกวอตส์ แถมไม่ลงเรียนมักเกิ้ลศึกษาด้วย”ซอกฮวาตอบ
“ถึงลงเรียนเขาก็ไม่สอนเรื่องยีนส์อะไรที่มักเกิ้ลศึกษามาสอนหรอก ยัยนี่รู้เพราะพ่อแม่เป็นหมอเฉยๆแหละ”ยุนซอกล่าว จูดี้นั่นเป็นเลือดผสมเธอมีพ่อที่เป็นคุณหมอมักเกิ้ลส่วนคุณแม่เธอนั่นก็ทำงานเป็นคุณหมอเช่นกันและแถมยังเป็นเลือดบริสุทธิ์อีกซะด้วย ครอบครัวเธอเลือกจะใช้ชีวิตในเมืองเดียวกับเหล่ามักเกิ้ลมันเลยไม่แปลกถ้าเธอจะรู้เรื่องเกี่ยวกับโลกของมักเกิ้ลมาก
“แล้วจะเอาไงกับเด็กนั่นถ้าเกิดไม่ใช่อีกล่ะ”จูดี้กล่าวขึ้นพร้อมนึกถึงข้อผิดพลาดของพวกเขาเมื่อปีที่แล้วที่เลือกเด็กสาวมาผิดคนแต่พวกเขาก็ได้ทำการบิดเบือนความทรงจำของเธอแล้ว
“ฉันคิดว่าไม่น่าจะผิด”ซอกฮวากล่าวอย่างมั่นใจเมื่อเขานึกถึงแผลที่นิ้วมือของเด็กสาวเพราะเขานั้นอยู่ในช่วงที่เด็กสาวถูกกัดด้วยโดยที่เด็กสาวไม่รู้ตัว สิ่งหนึ่งที่หลายคนไม่รู้เกี่ยวกับตัวเขาเลยนั้นก็คือเขานั้นเป็นแอนิเมจัสซึ่งสัตว์ที่เขาแปลงร่างไปเป็นได้นั่นก็คือนกฮูกและเมื่อคืนเขาก็อยู่กับแวมไพร์ตนที่แปลงร่างเป็นนกฮูกและกัดนาซอเรียเข้า
.
.
.
“ถ้าเอื้อมไม่ถึงก็บอกสิ”ฮยอนซอกกล่าวขึ้นพร้อมกับเอื้อมตัวไปหยิบหนังสือ นาซอเรียที่อยู่ในระหว่างอกของฮยอนซอกได้แต่ตกใจจนเผลอเกร็งตัวไปเล็กน้อยเขาเข้ามาในตอนที่เธอนั้นไม่ทันได้ตั้งตัวแถมเธอยังไม่เคยเข้าใกล้ใครนอกจากคนในครอบครัวเธอขนาดนี้มันจึงไม่แปลกที่เธอจะทำตัวไม่ถูกยกเว้นโยชิโนริที่เขาเคยรับตัวเธอไว้กับจองฮวานที่เป็นเพื่อนถึงเขาจะทำอะไรกับเธอก็ตามเธอก็คิดกับเขาแค่เพื่อนนั้นแหละ
“มีพี่อยู่ตรงนี้ทั้งคน”ฮยอนซอกหลังจากหยิบหนังสือออกมาเขาก็ยื่นให้กับสาวน้อยที่ยืนนิ่งอยู่ก่อนจะกล่าวออกมาพร้อมกับลูบหัวนาซอเรียเบาๆตามมาด้วยรอยยิ้มอย่างอ่อนโยน
“ไง”จางยุนซอพรีเฟ็คบ้านเรเวนคลอเดินเข้ามาทักทายทั้งสองในขณะที่ทั้งคู่กำลังอ่านหนังสือกันอยู่เงียบๆ
“พอดีเดินผ่านมาพอดี ขอนั่งอ่านด้วยได้รึเปล่า?”ยุนซอกล่าวพร้อมชูหนังสือในมือให้ดู
“เชิญ”ฮยอนซอกกล่าวอย่างสบายๆโดยนาซอเรียก็ไม่ได้ว่าอะไร
“ได้ข่าวมาว่าช่วงนี้พวกนายชอบเรียกประชุมโดยไม่มีพรีเฟ็คบ้านเรเวนคลอเข้าร่วมด้วยงั้นหรอ”ยุนซอเอ่ยขึ้นหลังจากที่เขานั่งลงข้างๆฮยอนซอก
“นายคิดว่าพวกเรามีเหตุผลอะไรที่จะประชุมแบบไม่มีพวกนายรึไง”ฮยอนซอกกล่าวทั้งๆที่เขายังสนใจหนังสืออยู่
“ก็อยากจะรู้เหมือนกัน”ยุนซอเอ่ย
“พวกเราไม่ได้นัดประชุมแบบไม่มีพวกนายหรอก นายคิดไปเองรึเปล่า”ฮยอนซอกกล่าวโดยที่ยังมองหนังสืออยู่เช่นเดิมส่วนนาซอเรียนั้นได้ทิ้งความสนใจจากหนังสือออกไปหมดแล้วเธอเทความสนใจลงมาที่บทสนทนาของฮยอนซอกและยุนซอมากกว่าหนังสือในมือ
“ก็ขอให้จริงเถอะ”ยุนซอพูดก่อนจะหันไปเปิดหนังสืออ่าน
.
.
.
Yoshinori Part
“โยชิประธานเรียกประชุม”เสียงเรียกจาก โรเซ็ตต้า พรีเฟ็คสาวจากบ้านสลิธีรินดังมาจากข้างหลังของโยชิโนริในขณะที่เขากำลังนั่งทำการบ้านอยู่ที่ห้องโถงรวมของฮอกวอตส์
โยชิแสดงท่าทีแปลกใจเล็กน้อยที่โรเซ็ตต้าเรียกเขาว่าโยชิเฉยๆปกติเขาแทบไม่ชอบให้ใครเรียกแบบนี้เลยแต่ดูจากท่าทีของโรเซ็ตต้าแล้วเธอเหนื่อยๆเขาจึงไม่ได้ติดใจอะไร
“เอาอีกแล้วดิ” ฮวัลหรือฮอ ฮยอนจุนกล่าว เขาเป็นเพื่อนที่ถือว่าสนิทกับโยชิโนริเลยทีเดียวแถมยังรู้เรื่องราวทั้งหมดอีกด้วย
“จริง เดี๋ยวก็เรียกประชุมนั้นแหละ ฉันก็เบื่อมาก”โรเซ็ตต้ากล่าวอย่างเหนื่อยล้าเธอพึ่งถูกอาจารย์ใช้งานไปพึ่งเสร็จพอกำลังเดินกลับก็มีคนมาบอกอีกว่าต้องไปประชุมอีกจึงไม่แปลกถ้าเธอจะแสดงท่าทีที่เหนื่อยล้าออกมา
“ก็ไม่เห็นมีเรื่องไรแล้วเปล่า”ฮยอนจินหรือฮวัง ฮยอนจินกล่าวเสริม เขาก็เป็นเพื่อนสนิทอีกคนของโยชิโนริและรู้เรื่องราวทั้งหมดเช่นกัน
“เออ เรื่องซาไปเยอะเผลอๆไม่มีใครรู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นด้วยซ้ำ”ฮวัลกล่าวเสริม
“เรื่องเงียบแค่ไหนก็วางใจไม่ได้ ไปก่อนล่ะ”โยชิโนริกล่าวก่อนจะเดินออกไป
“รางวัลพรีเฟ็คดีเด่นต้องมาแล้วรึเปล่า?”ฮยอนจินเอ่ยตามหลัง
“จริง”ฮวัลตอบก่อนจะกลับไปสนใจหนังสือต่อ
“ประชุมหรอ?”เสียงกล่าวตามหลังโยชิโนริและโรเซ็ตต้าจากซอกฮวา ซอกฮวาได้สังเกตทั้งสองคุยกันตั้งแต่ในห้องโถงรวมของฮอกวอตส์แล้วและเมื่อเห็นว่าพรีเฟ็คทั้งสองเดินออกมาเขาจึงเดินตามออกมา
เขาคือหนึ่งในพรีเฟ็คที่กำลังถูกสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องแวมไพร์พร้อมกับพรีเฟ็คจากบ้านเรเวนคลอทั้งสองด้วยพวกพรีเฟ็คคนอื่นๆจึงมีการจัดประชุมกันลับโดยไม่ให้ซอกฮวายุนซอและจูดี้แต่เหมือนว่าพวกเขาจะนัดประชุมกันบ่อยไปหน่อยพวกนั้นเลยสังเกตเห็น พวกเขาตอนนี้เหมือนจะกันแบ่งเป็นสองฝั่งโดยทั้งสองฝ่ายมีข้อได้เปรียบโดยทีมฝั่งพรีเฟ็คที่มีคนมากกว่านอกจากนั้นยังมีสปายก็คือมาชิโฮกับฮาร์เชลจากบ้านเรเวนคลอและอาซาฮิจากบ้านฮัพเฟิลพัฟทั้งมาชิโฮ ฮาร์เชลและอาซาฮิต่างสนิทสนมกับเหล่าพรีเฟ็คบ้านตนเป็นอย่างดีจึงไม่แปลกที่พวกเขาจะได้ข้อมูลหรือหลักฐานต่างๆไม่ยากนักโดยส่วนใหญ่คนที่อาซาฮิและมาชิโฮจะมาบอกนั้นเป็นโยชิโนริส่วนฮาร์เชลเธอชอบบอกกับโซเฟีย
“เปล่า พวกเราจะเรียกประชุมโดยลืมนายได้ที่ไหนล่ะ”โรเซ็ตต้ากล่าวด้วยท่าทีปกติของเธอ
“นั้นสินะ... งั้นพวกนายจะไปไหนกันล่ะ”ซอกฮวาเริ่มรู้ทันจึงหลอกถาม ด้วยความที่จำเป็นต้องเปลี่ยนสถานที่เรียกประชุมกันไปเรื่อยๆเพื่อไม่ให้ทั้งสามจับได้เพราะตอนนี้เรายังมีหลักฐานไม่เพียงพอที่จะยืนยันได้จริงๆว่าพวกเขาทั้งสามมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้
“ฉันจะไปห้องปรุงยาน่ะเมื่อกี้อาจารย์เรียกใช้ ส่วนโยชิจะไปห้องสมุดไปหาฮยอนซอกน่ะ”โรเซ็ตต้าทิ้งรหัสบอกโยชิโนริอย่างเนียนๆแถมเธอยังแอบใช้ให้ไปตามหาฮยอนซอกก่อนเธอจะเดินจากไป
“ฉันไปนะ”โยชิโนริกล่าวก่อนเขาจะเดินออกไปเมื่อซอกฮวาพยักหน้าเชิงบอกว่าไปเถอะโยชิโนริจึงเดินออกไปทิ้งซอกฮวาไว้คนเดียว
เมื่อวันก่อนที่โยชิโนริช่วยนาซอเรียไว้นั้นมันไม่ใช่เพราะเขาตามเธอไปแต่เขาตามยุนซอ จูดี้และซอกฮวาที่เดินมารวมตัวกันก่อนที่จะเดินออกมายังสถานที่ลับตาคนและนี่มันเป็นคำสั่งของหัวหน้าพรีเฟ็คประมาณว่าจะแบ่งคนคอยตามสังเกตดูทั้งสามคนนั้นเมื่อเริ่มมีท่าทีแปลกๆ และวันนั้นมันทำให้เขาเจอกับเด็กสาวอย่างนาซอเรียที่จู่ก็เดินมาอยู่ข้างๆเขาอย่างไม่รู้ตัว
End Yoshinori Part[บอกนิดนึงสำหรับเราแบบpart กับ talkต่างกันนะคะ]
“ฮยอนซอ—” เสียงของโยชิโนริหายไปเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าฮยอนซอกไม่ได้อยู่คนเดียวโดยมียุนซอและนาซอเรียอยู่ด้วย
“มีอะไร”เจ้าของชื่อขานรับเมื่อได้เห็นคนเรียก
“มีเรื่องจะคุยด้วย”ประโยคของโยชิโนริทำให้ฮยอนซอกรู้ว่าตอนนี้มีการเรียกประชุมแต่เพราะคนข้างๆเขาทำให้บุคคลตรงหน้าต้องพูดอ้อมๆ
“ตอนนี้อ่ะนะ”ฮยอนซอกเอ่ยอย่างไม่เชื่อหูทุกครั้งที่เขาอยู่กับนาซอเรียจะต้องถูกขัดตลอดและตอนนี้ก็ด้วยเช่นกัน
“ฉันต้องไปด้วยมั้ย?”ยุนซอเอ่ย
“ไม่เป็นไร นี่งานของพวกฉันที่ได้รับให้ทำคู่กัน”ฮยอนซอกกล่าว
“เข้าใจแล้ว งั้นก็ไปกันเถอะเดี๋ยวฉันจะอยู่และเดินไปส่งนาซอเรียถึงหอเอง”ยุนซอพยักหน้าเล็กก่อนจะหันมายิ้มให้นาซอเรีย
“ยืนอยู่กันทำไมอ่ะไม่ไปละหรอ”ยุนซอหันมาเอ่ยกับทั้งสองที่ยังยืนนิ่งมองสาวน้อยกันอยู่
“หวงหรอ?ฉันไม่ทำอะไรหรอกน่า ไปเถอะ”ยุนซอกล่าวพลางยิ้มขึ้นเบาๆ
ครั้งนี้ไม่ทำอะไรครั้งหน้านั้นไม่แน่...
Hyunsuk Talk
คำพูดที่ไม่มีความน่าเชื่อถือของยุนซอนั้นมันทำผมกังวลเล็กน้อยว่าจะทำอะไรเด็กปีหนึ่งที่ผมชอบคนนี้รึเปล่า แต่ก็เลือกไม่ได้ยังไงก็ต้องปล่อยไว้ผมเดินออกมาก่อนจะเอ่ยถามโยชิโนริ
เจ้าเล่ห์ขนาดนี้บอกอยู่สลิธีรินยังน่าเชื่อกว่าอยู่เรเวนคลอเถอะหมายถึงจางยุนซอ
“ที่ไหน”ผมเอ่ยถาม
“ห้องปรุงยาชั้น3”โยชิโนริกล่าวพร้อมกับเดินไปพร้อมกับผมข้างๆ
เมื่อผมและโยชิโนริเดินมาถึงยังห้องปรุงยากลับไม่เจอใครสักคนนั้นนั่นทำให้ผมเกิดคำถามมาว่าไอ่คนข้างๆนี้มันมั่วรึเปล่า
“คนเต็มเลยแหะ”ผมพูดประชดให้กับคนข้างๆแต่โยชิโนรินั้นไม่ตอบก่อนจะเดินไปเจอกับกระดาษที่วางไว้อยู่โต๊ะปรุงยา
“อะพาเรซีอุม”โยชิโนริเปล่งคาถาที่ทำให้หมึกล่องหนปรากฏก่อนจะทำการคลี่กระดาษออกมาปรากฏทั้งข้อความและชื่อผู้เขียน
‘ไปที่ห้องต้องประสงค์ทุกคนรออยู่ที่นั่น รีบๆหน่อยก็ดี’
Rosetta
ผมกับโยชิโนริอ่านเงียบๆก่อนที่โยชิโนริจะพับกระดาษเก็บเข้ากระเป๋าข้างตัวพร้อมกับเดินนำผมไปก่อน
ไม่ใช่ว่าพวกเราไม่ถูกกันนะแต่โยชิโนริมันเป็นคนเงียบๆอยู่แล้วส่วนคนที่ผมไม่ค่อยจะถูกด้วยคือรุ่นน้องทีมคริดดิชบ้านมันอย่างฮารุโตะต่างหากถ้าถามว่าทำไมถึงไม่ค่อยถูกกันเอาจริงเรื่องมันก็ถือว่ายาวพอตัวเลยล่ะ เอาเป็นว่าไอ่เด็กนั้นมันเป็นคนชอบกวนประสาทคนอื่นไปทั่วนั้นแหละและผมเป็นคนนึงที่จะชอบหัวเสียกับการกวนของมันมาก
ผมกับโยชิโนริเดินมาถึงยังห้องต้องประสงค์เจอกับทุกคนที่นั่งรอพวกผมอยู่ ผมและโยชิโนริจึงเดินไปนั่งยังที่ว่างดูเหมือนว่าพวกเขาจะคุยกันไปก่อนแล้วแถมในที่แห่งนี้ยังไม่ได้มีแค่เหล่าพรีเฟ็คซะด้วยยังมีสายสืบของเราอีกสามคนพร้อมกับอีกหนึ่งเด็กสาวจากฮัฟเฟิลพัฟนั่งอยู่ข้างๆอาซาฮิ
“พวกนั้นเจอสิ่งที่ต้องการแล้ว”มินกยูเอ่ยขึ้นท่ามกลางความเงียบของทุกคน คิม มินกยู หัวหน้าพรีเฟ็คอยู่บ้านเรเวนคลอ
“รู้ได้ไง”โยชิโนริเอ่ยถาม คิ้วของผมขมวดเข้าหาโดยไม่รู้สาเหตุด้วยซ้ำตอนนี้แค่ต้องการคำตอบ
มินกยูส่งสายตาหน้าไปทางคนที่เด็กสุดในห้องนี้ เจนนิษฐ์อ่ะนะผมมองอย่างสงสัย
“เธอบังเอิญไปได้ยินที่พวกนั้นคุยกันเข้าน่ะ”โซเฟียกล่าว
“ได้ยินว่าอะไรบ้าง”ผมรีบเอ่ยถามออกไป
“ประมาณว่าพวกเขาเจอตัวเธอแล้ว ใจความสำคัญประมาณนี้”โรเซ็ตต้ากล่าวแทนเด็กสาวที่นั่งก้มหน้าก้มตาอยู่
“เจอแล้วนี่หมายความว่าไง”โยชิโนริเอ่ยถามอย่างรวดเร็ว
“ก็หมายความว่าเขานำอยู่ไง”มินกยูตอบก่อนจะถอนหายใจออกอีกครั้ง
“แล้วเอาไงต่อกันดูเหมือนพวกยุนซอจะเริ่มสงสัยเรื่องแอบนัดประชุมนี้แล้ว”ผมกล่าวออกไปเมื่อนึกถึงตอนที่ยุนซอเอ่ยถามผมในห้องสมุดนั้น ดูก็รู้ว่ามันรู้ตัวแล้วและกำลังพยายามอ่านเกมของพวกเราอยู่สายตาที่มันคุยกับผมตอนนั้นคือจ้องจะจับผิดผมอยู่ตลอด
“ก็จับตาดูให้มากขึ้นว่าช่วงนี้พวกนั้นเข้าหาใครเป็นพิเศษก็คนนั้นแหละแล้วก็เรื่องประชุมคงจะต้องเรียกตอนที่มีเรื่องสำคัญจริงๆ”มินกยูกล่าว
“แล้วรู้รึเปล่าว่าใครคือเป้าหมายของพวกนั้น”โยชิโนริเอ่ยถามกับเจนนิษฐ์และคำตอบที่ได้คือการส่ายหัวเบาๆ
ตอนนี้ทีมนั้นได้เปรียบจริงๆ แบบนี้อาจมีเด็กต้องตายเพิ่มหรืออย่างก็กลายเป็นแวมไพร์สักคน แต่เดี๋ยวนะ ตอนนี้นาซอเรียก็อยู่กับยุนซอหนิ มันจะเป็นไปได้รึเปล่าถ้าคนที่ยุนซอหาคือนาซอเรียจริงๆ... ไม่ใช่หรอก แต่ยังไงก็ต้องให้นาซอเรียอยู่ห่างมันไว้หน่อยก็น่าจะดี
End Hyunsuk Talk
“พี่ว่ามันเริ่มจะดึกแล้วนะ กลับกันเถอะเดี๋ยวพี่ไปส่ง”ยุนซอเอ่ยขึ้นขณะที่เด็กสาวอย่างนาซอเรียกำลังขมวดคิ้วเข้าหากันพลางคิดถึงเรื่องที่ตนเองสงสัยมาตลอดนั่นก็คือเรื่องแวมไพร์อะไรพวกนั้น ยุนซอเขาคือคนที่ไขข้อสงสัยของเธอทั้งหมดเขาเล่าให้เธอฟังทั้งหมดโดยไม่ปิดบังอะไรทั้งสิ้น แต่เธอหารู้ไม่เขาทำไปเพื่อให้เธอตายใจและเชื่อใจเขาเท่านั้น
“หนูขอถามอีกอย่าง เค้าต้องการตัวคนที่มีเลือดวีล่าไปทำไมงั้นหรอคะ”นาซอเรียเอ่ยถามด้วยความสงสัย
“ก็เพราะว่าเขาคิดว่าเลือดของวีล่ามันน่าจะดึงดูดไงล่ะ ถ้าเอาไปอาบก็อาจจะช่วยให้ผิวพรรณผุดผ่องดั่งวีล่าก็เป็นได้ส่วนถ้ากินก็จะทำให้มีเลือดวีล่าในตัวไงล่ะ”ยุนซอกล่าวออกมาโดยไม่รู้ตัวว่าตัวเองกำลังแสดงรอยยิ้มที่ดูมีเลศนัยออกมาก่อนจะกลับมาแสดงรอยยิ้มที่ดูอ่อนโยนแก่เด็กสาว นาซอเรียรู้สึกถึงความไม่ปลอยภัยไม่ใช่จากคนตรงหน้าอย่างเดียวแต่เธอต้องคอยระวังคนรอบตัวไปด้วย
“กลับกันรึยัง”ยุนซอกล่าวพร้อมรอยยิ้มที่ดูยังไงก็มีแต่ความเอ็นดู นาซอเรียทำได้เพียงแค่พยักหน้าไปเบาๆ
“ถ้ารู้ว่าเป็นใครก็มาบอกพี่นะเราจะได้ช่วยกัน”เมื่อมาถึงยังหน้าหอพักของสลิธีรินยุนซอก็หันมากล่าวกับคนข้างๆพร้อมใช้มือลูบหัวของนาซอเรียก่อนจะเดินออกไป
เอาอีกแล้ว อีแมวบ้า นาซอเรียสถบในใจอีกครั้งเมื่อเห็นแมวที่เป็นสัตว์เลี้ยงของเธอมานอนบนตักของฮารุโตะอีกครั้ง เธอถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะเดินตรงไปอุ้มแมวของเธอคืน
“มันติดใจอะไรฉันรึเปล่า”ฮารุโตะเอ่ยขึ้นหลังจากที่นาซอเรียอุ้มแมวขึ้นมาจากตักของเขา
“บอกแล้วว่าแอนิเมจัสแน่ๆ”จองฮวานที่นั่งอยู่ข้างๆฮารุโตะกล่าวเสริมด้วยท่าทีที่มั่นใจร้อยเปอร์เซ็น
“นาซอเรีย”เสียงเรียกที่มาจากทางเข้าหอพัก นาซอเรียหันไปตามเสียงเรียกพบกับโยชิโนริที่เดินเข้ามาใกล้ตัวเธอเรื่อยๆ “เมื่อกี้เธอมากับยุนซอรึเปล่า”โยชิโนริเอ่ยถามด้วยใบหน้าที่ขมวดคิ้วเข้าหากันเล็กน้อย ถึงเขาจะรู้อยู่แล้วก็เถอะแต่มันก็อดคิดไม่ได้จากเรื่องที่เขาพึ่งทราบจากที่ประชุมและก็ตอนที่เขาเดินสวนกันเมื่อสักครู่ด้วยรอยยิ้มที่ยุนซอส่งมานั้นถ้าคนไม่รู้เรื่องอะไรก็จะดูเหมือนเป็นรอยยิ้มที่ส่งมาทักทายคนรู้จักปกติแต่สำหรับโยชิโนรินั้นมันไม่ใช่อย่างนั้น
“พี่เขาก็บอกแล้วไม่ใช่หรอว่าเขาจะเดินมาส่ง”นาซอเรียตอบไปอย่างห้วยๆใจนึงก็รู้สึกโกรธที่เขานั้นไม่คิดจะบอกเรื่องนี้ให้กับเธอเลยทั้งๆที่เธออาจะเป็นเหยื่อแต่อีกใจนึงก็คิดว่าเขาทำตามหน้าที่และที่ไม่บอกเธอก็เพราะเขานั้นไม่รู้
“ฝันดีจองฮวาน” นาซอเรียไม่ปล่อยให้ตนอยู่ที่ตรงนี้อีกนานเธอตัดสินใจไปเข้านอนโดยไม่ลืมที่จะบอกลาเพื่อนของตนเลยก่อนจะเดินออกไป
“ยัยนั่นเมินฉันหรอ อุตส่าห์ให้แมวของเธอนอนอยู่บนตักตั้งนาน”ฮารุโตะพูดไล่หลังของนาซอเรียและเธอก็ได้ยินมันด้วยเพียงแต่ไม่สนใจเท่านั้น
“เวลานี้ไปห้องครัวได้มั้ยอ่ะ ผมรู้สึกหิว”จองฮวานกล่าวก่อนฮารุโตะจะตวัดสายตามามองยังจองฮวานและค่อยเดินกลับห้องนอนของเขาไป
“ไปนอนไป”โยชิโนริพูดกับจองฮวานก่อนจะเดินกลับไปทำหน้าที่พรีเฟ็คของเขาและทิ้งจองฮวานไว้คนเดียวก่อนเขาจะไม่มีทางเลือกและเดินไปยังห้องนอนของเขา
.
.
.
ผ่านมาแล้วสองชั่วโมงหลังจากที่นาซอเรียจัดการตนเองตั้งแต่ที่กลับมาถึงห้องเธอนอนคิดเรื่องที่ยุนซอเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ให้เธอฟัง เธอเอาแต่นอนคิดมากได้แต่หวังว่าแวมไพร์ตนนั้นจะไม่รู้ว่าคนที่มันตามหาคือเธอ
เธอกลัวไปหมดโลกที่เธอไม่เคยสัมผัสนี้มันดูน่ากลัวสำหรับเธอตั้งแต่ตอนแรกที่เธอได้เข้ามาสัมผัสมันแล้วทุกอย่างมันทั้งใหม่และเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นสำหรับเธอไปหมดแต่ยังไงเด็กวัยแค่สิบเอ็ดปีต้องออกมาใช้ชีวิตคนเดียวในที่แตกต่างจากเดิมเรื่องความกลัวมันก็ไม่แปลกที่จะมีแต่พอได้รู้เรื่องนี้ความกลัวของเธอก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆแถมยังต้องคอยระวังตัวจากใครหลายๆคนอีก
เธอนอนคิดไปเรื่อยจนเผลอหลับไปโดยไม่รู้ตัวแต่สิ่งหนึ่งที่เธอรู้ตัวและคิดมาดีคือวันพรุ่งนี้หรือไม่ก็วันอื่นในเร็วๆนี้เธอจะบอกจางยุนซอเรื่องที่เธอมีเลือดวีล่าในตัว เหตุผลที่เธอไม่เลือกบอกโยชิโนริก็เพราะว่าเธอคิดว่ายังไงเขาก็คงไม่เชื่อแถมอาจจะหาว่าเธอนั้นบ้าไปอีกขนาดเรื่องทั้งหมดเขายังไม่บอกเธอเลยสักนิดทั้งๆที่เธอก็ตื้ออยู่ตลอด
ในเมื่อเขาเคยดูถูกหาว่าเธอช่วยอะไรไม่ได้แล้วแบบนี้ใครจะอยากบอกล่ะ
.
.
.
3Week Later
ผ่านมาสามอาทิตย์แล้วนาซอเรียยังคงไม่ได้บอกเรื่องเกี่ยวกับตัวเธอให้กับยุนซอ บอกได้ว่าช่วงสามอาทิตย์ที่ผ่านมานี้ยุนซอกับเธอถือว่าสนิทกันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆแต่นาซอเรียก็ยังไม่กล้าที่จะบอกเรื่องนั้นกับใครแถมตอนนี้ใกล้ถึงช่วงวันหยุดคริสต์มาสแล้วด้วยอีกวันนี้มีการแข่งขันควิดดิชครั้งสุดท้ายก่อนหยุดวันคริสต์มาสปีนี้
นาซอเรียเธอเลือกที่จะใช้เวลาในวันหยุดที่ฮอกวอตส์เป็นเพื่อนจองฮวานในปีนี้เขาก็ไม่ได้กลับเหมือนกันเนื่องจากพ่อแม่เขาต้องไปทำงานที่ต่างประเทศจองฮวานจึงใช้เวลาในวันหยุดที่แห่งนี้เช่นกัน
“เธอเชียร์บ้านไหน”จองฮวานถามขึ้นระหว่างรอการแข่งขันระหว่างบ้านฮัฟเฟิลพัฟกับเรเวนคลอ
“สลิธีริน”เด็กสาวตอบอย่างไม่ได้ใส่ใจซะเท่าไหร่
“เลือดสลิธีรินมันแรง”จองฮวานกล่าวพร้อมยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย
“ถ้าเธอจะบอกนัยๆว่าเชียร์ฉันก็พูดมาตรงๆเถอะ”ฮารุโตะเดินมายืนข้างๆนาซอเรียพอดีจึงทำให้เขาได้ยินประโยคก่อนหน้านี้ตามด้วยเหล่าเพื่อนของเขา
“อย่าคิดไปเองได้รึเปล่าฉันบอกเชียร์สลิธีรินไม่ได้บอกเชียร์นาย”นาซอเรียหันมาตอบกับคนข้างตัว
“จะเชียร์ทำไมในเมื่อการแข่งขันครั้งนี้มันไม่มีสลิธีริน”ฮารุโตะกล่าว
“ก็เลือดสลิธีรินในตัวมันแรง”นาซอเรียตอบก่อนที่จะทิ้งความสนใจที่มีให้ฮารุโตะทิ้งไปและไปสนใจกับสนามควิดดิชที่ตอนนี้ใกล้จะเริ่มการแข่งขันเข้าแล้ว ฮารุโตะมองการกระทำของนาซอเรียที่ยกยิ้มขึ้นเมื่อผู้เข้าแข่งลงสนามก่อนเขาจะยกยิ้มขึ้นมาและหันไปสนใจกับเกมตรงหน้า
ฮารุโตะก็อยากรู้เหมือนกันตอนที่เขาลงสนามนั้นเธอยิ้มแบบนี้ให้บ้างรึเปล่า
.
.
.
“ให้ตายเถอะการแข่งขันมันช่างไม่สนุกเอาซะเลย”บัง เยดัมเด็กหนุ่มบ้านเรเวนคลอเอ่ยขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์เมื่อผลการแข่งขันออกมานั้นปรากฏว่าเรเวนคลอแพ้ไปอย่างน่าเสียดาย
“เพราะเราแพ้นายถึงบอกว่าไม่สนุกรึไง”ฮาร์เชลกล่าว
“คงงั้นมั้ง หมอคิมโดยองนี่เก่งชะมัด”เยดัมกล่าวออกมาระหว่างเดินลงจากสเตเดียม
“ก็นะ เขาได้เป็นซีกเกอร์ตั้งแต่ปีสองเลยนะ”ฮาร์เชลกล่าว
“แต่ก็เทียบกับซีกเกอร์บ้านสลิธีรินนั้นไม่ได้หรอกรายนั้นได้เป็นตั้งแต่ปีหนึ่ง”มาชิโฮที่อยู่ข้างๆฮาร์เชลกล่าวขึ้น เมื่อพูดถึงซีกเกอร์ของฮอกวอตส์แต่ละคนนั้นเก่งๆทั้งนั้น
“นายจะบอกเราซีกเกอร์บ้านเรากากหรอมาชิโฮ”เยดัมเอ่ย
“เปล่าสักหน่อย ฉันแค่ชื่นชมซีกเกอร์บ้านนั้นต่างหาก”มาชิโฮกล่าว
“เพราะมาจากประเทศเดียวกันต่างหาก ว่าแต่เอาจริงแมทที่สลิรินเจอกับฮัฟเฟิลพัฟเจอกันนี่ยังถือว่าสุดยอดที่สุดสำหรับผมอยู่เลยนะ”เยดัมเอ่ยถึงปีที่แล้วที่ฮารุโตะและโดยองพึ่งมาเป็นซีกเกอร์ใหม่ๆการแข่งขันครั้งนั้นถือว่าสูสีกันมากๆแถมยังลุ้นกันสุดๆและสุดท้ายสลิธีรินก็ชนะไป
“พูดถึงก็มาเลยนะนั่น”เยดัมกวาดสายตาไปเห็นโดยองที่กำลังตรงมาหาพวกเขา
“เป็นไง”โดยองเอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม
“อย่ามาถามคนบ้านเรเวนคลอที่เป็นศัตรูกับบ้านตัวเองเถอะ”เยดัมตอบกลับเพื่อนของเขา โดยองและเยดัมอยู่ชั้นเดียวกันแถมยังเป็นเพื่อนสนิทกันอีกด้วยแต่น่าเสียดายที่พวกเขานั้นไม่ได้อยู่บ้านเดียวกันแต่มันก็ไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับพวกเขาทั้งสอง
“นั่นก็มาอีกคน”เยดัมที่โดนโดยองตบไหล่เบาๆก่อนจะเหลือบไปเห็นฮารุโตะที่กำลังเดินตรงเข้ามาพร้อมกับนาซอเรียและจองฮวานบวกกับเพื่อนของเขาบางคนก็ตามมาอีก
“ ฉันอุตส่าห์เชียร์เรเวนคลอสุดใจเลยนะแพ้ได้ไงกัน”ฮารุโตะกล่าวเมื่อมาถึง
“ก็ซีกเกอร์ฮัฟเฟิลพัฟมันเก่งอ่ะนะ”โดยองตอบพร้อมมองไปยังฮารุโตะ
“แต่แพ้ชีกเกอร์บ้านสลิธีรินก็โดนมาแล้ว”ฮารุโตะกล่าวพลางแอบหาเรื่องนิดๆ
“นาซอเรีย”เสียงเรียกที่ดังมาจากข้างหลังทำให้ทุกคนหันไปมอง จางยุนซอเขาเดินเข้ามาทักสายน้อยอีกครั้งและนั้นก็เป็นช่วงเวลาที่โยชิโนริเดินมาจากทางข้างหลังของนาซอเรียเช่นกัน
“ช่วงนี้นายไม่ตัวติดนาซอเรียไปหน่อยหรอ เห็นทีไรก็เรียกตลอด”เยดัมกล่าวออกมาอย่างไม่ได้สนใจอะไรมากแต่แตกต่างต่างจากโยชิโนริที่ขมวดคิ้วให้กับคำพูดของเยดัมและมาชิโฮกับฮาร์เชลที่ทำหน้าเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่
การกล่าวออกมาแบบไม่ใส่ใจของเยดัมนั้นมันทำให้โยชิโนรินั้นคิดถึงเรื่องที่เขาต้องหาคนที่ยุนซอนั้นพยายามจะสนิทด้วย จะว่าไปถ้าเขาตั้งใจสังเกตดีๆเขาก็คงจะรู้ได้ง่ายๆแต่อาจจะด้วยเพราะยุนซอนั้นก็รู้ทันเช่นกันเขาจึงเข้าหาใครหลายๆคนเพื่อตบตาเหล่าพรีเฟ็ค
“ไม่รู้สิฉันชอบนาซอเรียมั้ง”ยุนซอกล่าวพร้อมมอบรอยยิ้มส่งมาให้นาซอเรีย
“คำว่าชอบมันพูดออกมาง่ายขนาดนั้นเลยรึไง”ฮารุโตะเอ่ยถาม
“สำหรับฉันมันก็ไม่ได้ยากอะไรนี่ก็ฉันชอบนาซอเรียจริงๆ”ยุนซอตอบ
บรรยากาศเงียบไปสักพักก่อนที่จองฮวานจะกระซิบบอกนาซอเรียเบาๆ
“หิวแล้ว”จองฮวานใช้มือป้องปากพูดอย่างเบาๆนาซอเรียได้ยินดังนั้นจึงก้มหัวเชิงบอกลาให้ทุกคนก่อนจะเดินออกไปพร้อมจองฮวาน
.
.
.
“คำพูดโคตรปลอมเลยเมื่อกี้อ่ะ”จองฮวานพูดเบาๆพลางส่ายหน้าไปมาเล็กน้อยเมื่อนึกถึงคำพูดของยุนซอก่อนจะสนใจกับอาหารที่มีบนโต๊ะ
“เออนาซอเรียเดี๋ยวฉันว่าจะไปส่งจดหมายหน่อยไปด้วยกันมั๊ย ไม่สินี่บังคับต่างหาก”จองฮวานหันมาพูดกับเธอก่อนจะส่งรอยยิ้มให้และกลับมาสนใจอาหารในจานของตนอีกครั้ง เด็กสาวทำได้แค่มองตาขวางใส่
นาซอเรียมองไปรอบๆห้องที่ตอนนี้ตกแต่งไปด้วยต้นศริสต์มาสต้นใหญ่พร้อมกับเกร็ดหิมะเล็กๆที่เกิดจากเวทมนตร์แถมยังมีผู้คนไม่มากเหตุเพราะคนส่วนใหญ่เริ่มเดินทางกลับบ้านสำหรับคริสต์มาสกันแล้วก่อนจะเห็นเด็กชายผมบลอนด์เดินตรงเข้ามาข้างกายไม่มีกระเป๋าเดินทางสักใบให้เดาเขาก็คงไม่กลับบ้านในช่วงวันหยุดนี้เช่นกัน
“วันหยุดนี้ไม่กลับกันหรอ”เจนนิษฐ์เอ่ยถามพร้อมกับตรงเข้ามานั่งข้างๆจองฮวานหรือฝั่งตรงข้ามของนาซอเรียส่วนที่ข้างๆเธอนั้นถูกฮารุโตะนั่งไปแล้ว ที่เจนนิษฐ์เธอสามารถมานั่งด้วยกันได้เพราะตอนนี้คนส่วนใหญ่เขาก็กลับบ้านไปหมดแล้วจึงไม่มีใครมานั่งซีเรียสเรื่องการนั่งตามบ้านซะเท่าไหร่
“ขี้เกียจกลับ”ฮารุโตะตอบพร้อมกับเท้าคางไว้บนมือของตนเขาไม่แม้แต่สนใจอาหารสักนิดจนนาซอเรียต้องหันไปชูน่องไก่ให้เขาเชิงถามว่ากินไหมแต่เขากลับตอบมาเพียงแค่การส่ายหน้า
“ไม่กินจริงหรอ”นาซอเรียหันไปถามอีกครั้งเขามองเข้าไปยังในตาของสาวน้อยอย่างละสายตาออกไม่ได้ก่อนจะได้สติจากเสียงไอสำลักอาหารของจองฮวาน เขาส่ายหัวให้นาซอเรียเล็กน้อย
“ฮารุโตะแล้วเรื่องพี่ชายฝาแฝ—”เจนนิษฐ์กำลังจะเอ่ยถามแต่ก็เจ้าตัวแทรกไปก่อน
“อย่าพูดเรื่องนี้”ทั้งน้ำเสียงและสีหน้าของฮารุโตะเปลี่ยนอย่างรวดเร็วเขาดูไม่สบอารมณ์ในทันทีเขาดูไม่ต้องการพูดถึงเรื่องนี้ นาซอเรียกับจองฮวานได้แต่มองหน้ากันอย่างเงียบๆ
“ไงจ้ะสาวน้อยสุดแสนจะน่ารักของฉัน ไม่ได้กลับบ้านงั้นหรอจ้ะ”โซเฟียเดินตรงมาลูบตามกรอบหน้าของนาซอเรียก่อนจะหยุดและบีบแก้มของสาวน้อยอย่างหมั่นไส้ นาซอเรียพยายามสลัดมือเธอทิ้งด้วยการดึงหน้าหนี
“เห็นโยชิโนริรึเปล่า”โซเฟียยอมปล่อยมือออกดีๆเธอเอ่ยถามด้วยท่าทีที่สบายๆ จริงๆสำหรับนาซอเรียนั้นโซเฟียก็เป็นพี่สาวที่ดีคนนึงถึงเธอจะแอบหมั่นไส้ตัวนาซอเรียเล็กๆก็เถอะ
“ยังไม่เลิกชอบโยชิโนริอีกหรอ”ฮารุโตะกล่าว
“เหมือนนายกำลังเข้าใจอะไรผิดอยู่นะฮารุโตะ”โซเฟียกัดฟันพูดพร้อมส่งรอยยิ้มให้ฮารุโตะเล็กน้อยมันไม่ใช่รอยยิ้มที่แสดงถึงความใจดีเพียงแค่ในรอยยิ้มยังมีความรู้สึกที่อยากจะฆ่าแกงคนพูดให้ได้
“คิดว่าไม่รู้รึไงที่ชอบมาเดินตรวจแถวๆหอพักของสลิธีรินอยู่บ่อยๆอ่ะ”ฮารุโตะกล่าวเสริมอารมณ์ร้อนในตัวของโซเฟียก่อนที่เจ้าตัวจะรีบพูดตัด
“อยากตายรึไงฮารุโตะ”โซเฟียกล่าวด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มแต่ข้างในเธอนั้น...
“อย่าเข้าใจผิดล่ะนาซอเรียฉันเลิกชอบไปแล้ว”โซเฟียหันมาพูดพร้อมกับลูบหัวนาซอเรียเบาๆก่อนจะเดินออกไปโดยไม่ลืมที่จะถลึงตาใส่ฮารุโตะแต่ใช่ว่าเขาจะใส่ใจ
.
.
.
“นายว่าหมอฮารุโตะนั่นมีฝาแฝดจริงป่ะ ฉันเอะใจมาตั้งแต่ตอนพี่เจนนิษฐ์พูดละ”นาซอเรียเอ่ยถามจองฮวานขณะที่กำลังเดินลงหอคอยหลังจากที่ส่งจดหมายกันเป็นที่เรียบร้อย
“ให้ฉันถามให้มั๊ยรูมเมทห้องฉันคนอื่นกลับไปกันหมดเหลือแค่ฉันกับพี่เขาเนี่ย”จองฮวานกล่าวพร้อมกับกระชับเสื้อกันหนาวของตน
“ไม่ต้องหรอก เขาดูไม่อยากจะพูดเอาซะเท่าไหร่”นาซอเรียตอบพลางจัดผ้าผันคอของตนให้ดีๆ
“อีกสักพักเถอะเราค่อยเริ่ม”ระหว่างทางกลับหอทั้งสองนั้นได้ยินเสียงปริศนาที่ครั้งนี้นาซอเรียมั่นใจสุดๆว่าเสียงนั่นคือจางยุนซอรุ่นพี่พรีเฟ็คบ้านเรเวนคลอ จองฮวานจับข้อมือก่อนจะดึงเข้าไปอยู่ในมุมมืดและปิดปากของเธอเอาไว้ ดูเหมือนตอนนี้เขาจะมีนิสัยที่อยากรู้อยากเห็นตามนาซอเรียไปแล้ว
“อย่าบอกนะยุนซอว่านายชอบยัยเด็กนั่นไปแล้ว”เสียงนี้ก็เป็นอีกเสียงที่นาซอเรียและจองฮวานมั่นใจว่านั่นคือเสียงของจูดี้
“ไม่ได้นะนายจะรู้สึกกับคนอย่างนั้นไม่ได้”และแน่นอนว่าเสียงนี้ก็ยังคุ้นหูของพวกเขาทั้งสองนั่นคือเสียงของซอกฮวา
“ยุนซอ นี่นายไม่คิดจะปฏิเสธหน่อยหรอ!?”จูดี้กล่าวน้ำเสียงสั่นเล็กน้อยเมื่อยุนซอนั่นไม่ตอบอะไรทั้งสิ้น เธอนั้นแอบชอบยุนซอมานานแล้วและสิ่งที่เธอเข้ามาร่วมแผนการในครั้งนี้ก็เพราะยุนซอทั้งนั้น
“นาซอเรียมีเลือดวีล่าแบบนี้ใครไม่ชอบบ้างล่ะ”ยุนซอกล่าวเสียงอ่อนเขายอมรับโดยตรงเขานั้นคิดว่านาซอเรียเป็นเด็กสาวที่น่ารักคนนึงและอยากจะได้มาเป็นของตัวเองเช่นกัน บรรยากาศตกอยู่ภายในความเงียบไม่ว่าจะกลุ่มของยุนซอหรือกลุ่มคนแอบฟังอย่างนาซอเรียและจองฮวาน จองฮวานเผลอปล่อยมือออกจากปากนาซอเรียก่อนจะมองมาที่นาซอเรียด้วยสายตาที่อ่านได้ยาก ใบหน้าของนาซอเรียนั้นดูเหมือนจะร้องไห้ออกมาดวงตาใสแวววาวเหมือนมีน้ำตาค่อยๆเอ่อขึ้นมาในวินาทีนั้นในหัวของสาวน้อยนั้นกลัวไปหมด กลัวทั้งเสียเพื่อน กลัวถูกเหยียดหยาม เธอกลัวไปทั้งหมดจริงๆจองฮวานไม่รอช้าเขารีบเดินออกไปอย่างรวดเร็วโดยทิ้งนาซอเรียไว้คนเดียวเท่านั้น
“นาซอเรีย...”เมื่อนาซอเรียเดินมาเกือบจะถึงหน้าหอพักเธอก็เจอเข้ากับฮยอนซอกที่ในมือนั้นเขามีถุงอะไรสักอย่างมาให้เธอด้วย เขาสละถุงในมือของตนทิ้งทันทีเมื่อเห็นว่าใบหน้าของนาซอเรียนั้นมีแต่น้ำตาก่อนจะเดินตรงมาหาเด็กสาว
“เป็นอะไรไป ร้องไห้ทำไม มีอะไรรึเปล่า”ฮยอนซอกเมื่อเห็นน้ำตาก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วเข้าหากันและเอ่ยความสงสัยออกมา
คงไม่มีใครชอบที่จะเห็นเด็กคนนี้เสียน้ำตาหรอก
“เกิดอะไรขึ้นบอกพี่ได้มั้ย?”ฮยอนซอกเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนแต่คนตรงหน้าเขาก็เอาแต่ร้องไห้ไม่ยอมพูดอะไรจนฮยอนซอกเริ่มทนไม่ไหวเขาจึงดึงนาซอเรียนั้นเข้ามากอดพร้อมกับลูบหัวของนาซอเรียเบาๆ
อ้อมกอดที่แสนอบอุ่นของฮยอนซอกมันช่วยปลอบประโลมนาซอเรียได้เป็นอย่างดีเธอรู้สึกดีขึ้นมากแต่ก็คิดไม่ได้ว่าถ้าวันนึงฮยอนซอกได้รู้ถึงสายเลือดที่แท้จริงของเธอเขายังจะกอดเธอแบบนี้อยู่อีกไหม
เมื่อนาซอเรียเริ่มหยุดที่จะร้องไห้แล้วฮยอนซอกก็ผละกอดออกพร้อมส่งรอยยิ้มที่แสนจะอบอุ่นมาให้นาซอเรีย ดวงตาที่แดงกร่ำที่เกิดจากการร้องไห้คราบน้ำตาต่างๆถูกเช็ดออกไปด้วยนิ้วมือของฮยอนซอกเขาเช็คออกอย่างนุ่มนวลพร้อมส่งรอยยิ้มให้เธอตลอดก่อนที่เขาจะเดินไปหยิบของที่ตนทิ้งไปเมื่อกี้มายื่นให้กับนาซอเรีย
“นี่ยังไม่ใช่ของขวัญคริสต์มาสนะ อากาศมันหนาวอย่าลืมใส่ด้วยล่ะ”ฮยอนซอกยื่นถุงกระดาษในมือของตนให้กับนาซอเรีย เธอก็รับด้วยความสงสัยก่อนจะเปิดมันดูและมันก็คือเสื้อไหมพรมสีเขียวที่ดูเข้ากับสีบ้านของสลิธีริน
“แม่พี่เป็นคนถักเองเลยนะ”ฮยอกซอกยังคงส่งรอยยิ้มให้นาซอเรีย ไม่แปลกที่แม่ของฮยอนซอกจะถักให้กับนาซอเรียเพราะฮยอนซอกเขามักเขียนเล่าเรื่องของตัวเองและจะแอบเขียนเรื่องเกี่ยวกับนาซอเรียของแม่เขาอ่านอยู่บ่อยๆ และดูท่าแม่ของเขาก็ดูจะเอ็นดูนาซอเรียในระดับนึงได้เลย
“มันเริ่มดึกแล้วไปนอนเถอะ”ฮยอนซอกพูดพร้อมลูบหัวของนาซอเรียอย่างเบาๆ
“พี่ไม่รู้หรอกว่าหนูร้องไห้เรื่องอะไรแต่พี่ไม่ชอบเลยนะ ถ้าพร้อมเล่าเมื่อไหร่ก็บอกพี่ได้เสมอนะ”ฮยอนซอกยังคงลูบหัวของสาวน้อยไปมาก่อนจะจูบเบาๆลงไปที่หน้าของนาซอเรีย
“วันนี้ร้องไห้แค่นี้ก็พอนะคะ ฝันดี”เด็กชายบ้านกริฟฟินดอร์ยิ้มแป้นให้กับสิ่งที่ตนพึ่งทำไปในใจเขาก็เขินแทบตายต่างจากคนตรงหน้าเขาตอนนี้นิ่งค้างไปเลย
ปฏิเสธไม่ได้เลยจริงๆว่าสิ่งที่เขาทำนั้นมันทำให้ตัวเขาเองรู้สึกดีไม่น้อยเลยทีเดียว
เมื่อจัดการตัวเองเสร็จนาซอเรียก็ล้มตัวลงเตียงทันทีภายในห้องนั้นไม่มีใครนอกจากตัวนาซอเรียเองและแมวของเธอเองเหล่าเพื่อนๆพี่ๆที่เป็นรูมเมทกับนาซอเรียพวกเธอก็ต่างกลับบ้านกันไปหมด นาซอเรียนอนคิดไปเรื่อยอยู่นานก่อนจะผล็อยหลับไปอย่างไม่รู้ตัว
.
.
.
เด็กสาวพยายามนวดใบหน้าที่บวมของเธอไปเรื่อยแต่ผลออกมาก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย นาซอเรียตัดสินใจหยิบแว่นตาขึ้นมาใส่เพื่ออย่างน้อยเธอก็หวังว่าอาจจะช่วยพรางตาบวมๆที่เกิดจากการร้องไห้จากเมื่อคืนได้บ้าง
เมื่อเดินมาถึงห้องโถงรวมของฮอกวอตส์นาซอเรียไม่ได้หิวข้าวแต่อย่างไรเธอแค่จะออกมาเดินเล่นเฉยๆและก็ไม่ได้หวังที่จะมาเจอกับจองฮวานเลย แต่น่าเสียดายเธอเจอเข้ากับใครหลายคนที่เธอรู้จักไม่ว่าจะเป็นฮารุโตะ จองอู เจนนิษฐ์ โยชิโนริ โซเฟียและคนที่นาซอเรียไม่ได้คาดหวังว่าจะมาเจออย่างจองฮวานอีกด้วย
“วันนี้ตื่นสายรึไง”ฮารุโตะเอ่ยทัก โดยสายตาของทุกคนนั้นจับจ้องมาที่ตัวสาวน้อย
“วันนี้ใส่แว่นตามาด้วยแหละ สายตาสั้นหรอจ้ะ”โซเฟียเอ่ยขึ้นหลังจากฮารุโตะเพียงไม่กี่วิ
“ไม่มากินข้าวล่ะ”ฮารุโตะเอ่ยถามอีกครั้งเมื่อไม่เห็นว่านาซอเรียจะเดินมากินข้าวหรือพูดอะไรสักคำ
นาซอเรียส่ายหัวเล็กน้อยเชิงบอกว่าเธอไม่ต้องการที่จะทานอาหารในตอนนี้ก่อนเธอจะกลับหลังหันและเดินออกไป เธอคงจะรีบไปหน่อยจึงไม่ทันได้ระวังจึงชนเข้ากลับเด็กสาวที่กำลังเดินเข้ามาพอดีจนทำให้แว่นตาของเธอหลุดลงไปกับพื้น
ฮาร์เชลรีบก้มตัวลงไปเก็บแว่นให้ก่อนที่นาซอเรียจะก้มตัวลง
“ขอโทษทีนะ”ฮาร์เชลกล่าวพร้อมกับสวมแว่นให้นาซอเรีย
“มีไรกัน”เสียงดังมาจากข้างหลังของฮาร์เชลทั้งสองหันไปตามเสียงพบกับชายหนุ่มบ้านกริฟฟินดอร์เจ้าของเสียงคือแจฮยอกก่อนจะตามมาด้วยฮยอนซอกจุนกยูและจีฮุน ฮยอนซอกชำเลืองมองยังคนข้างหลังฮาร์เชลก่อนจะเห็นนาซอเรียเข้า เขายกยิ้มขึ้นอย่างอัตโนมัติก่อนจะเดินไปหา
“โอ้ว กลายเป็นสาวแว่นแล้วงั้นหรอ”จีฮุนเอ่ยแซวเด็กสาวเมื่อเห็นนาซอเรียอย่างชัดเจน
“น่ารักดีออก”ฮยอนซอกกล่าวแต่สายตายังคงมองมาที่คนตัวเล็กเช่นเดิมพร้อมกับส่งรอยยิ้มไปให้ตลอด นาซอเรียไม่รู้จะทำไงจึงพยายามเลี่ยงสายตาออก
“ก็จริงดูน่ารักกว่าใครบางคนซะอีก”การพูดของจุนกยูดูเหมือนกำลังตั้งใจประชดใส่ใครสักคนแถวๆนี้
“แล้วกินข้าวรึยัง”ฮยอนซอกเอ่ยถามคนตัวเล็ก
“ตาดูบวมๆนะนาซอเรีย”แจฮยอกกล่าว เมื่อเธอได้ยินดังนั้นจึงก้มหน้าลงมองไปยังพื้นห้องก่อนจะพยายามเลี่ยงตัวเดินออกไปแต่ไม่สำเร็จฮยอนซอกนั้นได้คว้าข้อมือของหญิงสาวตัวไว้ได้ก่อน
“จะไปไหน กินข้าวแล้วหรอ” ฮยอนซอกเอ่ยถามด้วยความสงสัย
“หนูว่าจะกลับห้องแล้ว”นาซอเรียกล่าวพลางดึงข้อมือของตนคืนกลับมาและเดินต่อออกไปโดยปล่อยให้ใครหลายๆคนมองตามเธอไปอย่างนั้น
“ผมไปนะ”จองฮวานวางช้อนลงอย่างเบาๆวันนี้เขารู้สึกไม่ค่อยจะอยากอาหารเอาซะเท่าไหร่
“เดี๋ยว นายกินแค่นี้จริงดิ”ฮารุโตะกล่าวอย่างไม่เชื่อตาตัวเองเขายังเห็นว่าในจานของจองฮวานยังเหลือของกินอีกเพียบ
“ผมไม่ค่อยหิวอ่ะ”จองฮวานกล่าวพลางลุกขึ้นซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่ฮยอนซอกเดินมาพอดี
“นายทะเลาะกับนาซอเรียหรอ”ฮยอนซอกเอ่ยถามเขาสังเกตุเห็นถึงความผิดปกติตั้งแต่เมื่อคืนปกติจองฮวานกับนาซอเรียตัวติดกันตลอดแต่เมื่อกี้ไม่เพียงแต่จะคุยกันเลยสักนิดเขาจึงเอ่ยความสงสัยของตนออกมา หลายๆคนได้ยินดังนั้นจึงมองไปที่จองฮวานด้วยความสงสัย
“ไม่นะครับ”จองฮวานส่ายหัวเล็กน้อย
“แล้วเมื่อคืนนาซอเรียร้องไห้เรื่องอะไร”ฮยอนซอกกล่าวออกมานั้นทำให้จองฮวานงงหนักกว่าเดิม
“นายทำยัยนั่นร้องไห้หรอ แกล้งอะไรยัยนั่น”ฮารุโตะสวนขึ้นอย่างรวดเร็ว ฮารุโตะถึงว่าแหละว่าเมื่อคืนหลังจากเขากลับมาจองฮวานเขาก็ไม่ค่อยจะยอมพูดอะไรเลยแถมยังเอาแต่เงียบ
“เดี๋ยวก่อน ผมเปล่านะ”จองฮวานชูมือขึ้นในระดับศรีษะเชิงบอกว่าเขาไม่ได้ทำอะไรจริง
“แล้วนาซอเรียร้องไห้ทำไม”ฮยอนซอกถาม
“ไม่รู้ ผมไม่ได้ทำอะไรเธอจริงๆนะ”จองฮวานย้ำอย่างเสียงดัง
“แล้วยัยนั่นจะร้องไห้ทำไม”ฮารุโตะเอ่ยถาม
“ผมไม่รู้ แต่เดี๋ยวนะ ผมไปนะ”จองฮวานตอบย้ำและแสดงท่าทีที่เขาไม่รู้เรื่องจริงๆแต่จู่ๆเขาก็นึกได้ก่อนจะรีบวิ่งออกไปปล่อยให้ใครหลายๆคนงงตามๆกันไป
“นาซอเรีย”จองฮวานเอ่ยขึ้นเมื่อวิ่งออกมาแล้วเจอเข้ากับนาซอเรียและจางยุนซอโดยที่สาวน้อยนั่นดูมีท่าทางกลัวๆคนตรงหน้าจองฮวานเห็นดังนั้นจึงรีบเดินออกไปยืนอยู่ข้างๆนาซอเรีย
“โทษทีนะครับ ผมมีเรื่องจะคุยกับนาซอเรีย”จองฮวานกล่าวโดยไม่มีท่าทีที่ดูขี้เล่นดั่งแต่ก่อน จริงๆแล้วท่าทีแบบนี้มันก็คือปกติของเขาเวลาเจอคนที่ไม่รู้จักหรือไม่อยากจะรู้จักด้วยหรือไม่ว่าจะเป็นรุ่นพี่หรือรุ่นเดียวกันเขายังแสดงท่าทีที่ดูเย็นชาออกมา
“ผมคงไม่ได้มาขัดจังหวะอะไรใช่มั้ย”จองฮวานกล่าว
“ก็รู้หนิ”ยุนซอกล่าวอย่างไม่ค่อยจะพอใจซะเท่าไหร่
“แต่โทษทีผมจะคุยกับเธอ”จองฮวานกล่าวก่อนจะจับข้อมือของนาซอเรียและดึงเธอให้เดินตามเขาไป โดยมีสายตาของยุนซอมองไล่หลังไป
“เอาล่ะ เล่ามาให้หมดนาซอเรีย”เมื่อเดินมาถึงจุดหนึ่งจองฮวานตัดสินใจหยุดเดินและหันมากล่าวกับนาซอเรีย
.
.
.
“เธอเก็บเรื่องแบบนี้ไว้คนเดียวได้ไง”จองฮวานหลังจากได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดจากปากนาซอเรียโดยตรง
“แล้วฉันบอกใครได้บ้างล่ะ”นาซอเรียตอบ
“ฉันนี่ไงยืนอยู่ตรงหน้าเธอเนี่ย”จองฮวานพูดพร้อมกับพยายามแสดงที่ยืนของตนโดยการชี้ลงไปที่ตัวเองบ้างที่พื้นบ้างแถมยังกระทืบเท้าเบาๆ
“จองฮวาน”นาซอเรียเอ่ยเรียกคนตรงหน้าเบาๆ
“ฉันไม่ได้รังเกียจอะไรเธอหรอกเมื่อคืนฉันแค่ช็อคนิดหน่อยเอง”จองฮวานกล่าวอย่างอ่านใจเด็กสาวตรงหน้าได้ก่อนจะค่อยเผยรอยยิ้มของเขาออกมาอีกครั้ง
“อืม ขอบคุณ”นาซอเรียกล่าวออกมาอย่างเบาๆและจองฮวานก็ได้ยินมัน
“เธอต้องเอาเรื่องนี้ไปบอกพรีเฟ็คสักคนนะ เก็บไว้คนเดียวอย่างนี้อันตรายแน่”จองฮวานเอ่ยขึ้น
“อืม บอกไปใครจะเชื่อ”นาซอเรียตอบ
“จริงๆมันก็ยากจะเชื่อหรอกนะแต่เธอก็ไม่ควรเก็บเรื่องนี้ไว้”จองฮวานพยักหน้าเบาๆเขาก็คิดแบบนั้นเรื่องที่จะเชื่อว่านาซอเรียนั้นมีเลือดวีล่าจริงๆลักษณะภายนอกของเธอคือไม่ใช่เอาซะเลยแต่เขาก็คิดว่าเรื่องแบบนี้ไม่ควรเก็บไว้เป็นความลับกันแค่สองคนอย่างน้อยเธอก็ต้องคิดถึงสถานการณ์ที่ดูเป็นอันตรายต่อตนเองในตอนนี้ซะหน่อย
“เอาน่าใครจะรังเกียจเธอก็ช่างเขายังไงเธอก็มีฉันอยู่ข้างๆนี่ไง”จองฮวานพูดพลางตบไหล่เพื่อนสาวอย่างเบาๆ
“อืม พรุ่งนี้ละกัน”นาซอเรียถอนหายใจออกเมื่อคิดถึงสิ่งที่เธออาจจะต้องพบเจอหลังจากบอกความลับของตนไป
“วันนี้สิยิ่งเร็วยิ่งดี”จองฮวานไม่ค่อยจะพอใจเท่าไหร่กับการพลัดวันของนาซอเรีย ชีวิตตัวเองแท้ๆ
“โอเครๆๆแต่ตอนนี้ฉันต้องไปให้อาหารแมวของฉันก่อน ไปนะ”นาซอเรียตอบรับอย่างง่ายก่อนจะแสดงท่าทีเหมือนกำลังจะเดินออกไป
“เดี๋ยวก่อน ถ้าเธอไม่บอกเองฉันจะบอกให้พวกเขารู้เองนะ”จองฮวานรั้งตัวไว้ได้ก่อนเขาพูดออกมาเขาหวังว่าเธอจะไปบอกให้กับเหล่าพรีเฟ็คตอนนี้เลย
“ก็บอกไปสิ”ผิดคาดของจองฮวานนาซอเรียเธอกล่าวออกมาหน้าตายด้วยซ้ำ
“แล้วใครมันจะเชื่อฉัน” จองฮวานกล่าว การที่จู่ๆเขาก็เดินไปบอกมันค่อยข้างที่จะไม่มีน้ำหนักเอาซะเลย
“ก็บอกทุกเรื่องที่ฉันบอกนายไปสิ”นาซอเรียตอบ เธอมั่นใจสุดๆว่าจองฮวานจะไม่บอกใครเพราะนิสัยส่วนตัวของคนๆนี้เขาจะไม่ทำอะไรที่มันเกินเลยความเป็นส่วนตัวหรือสิทธิส่วนบุคคลเลยถ้าใครไม่ร้องขอให้เขาทำจริงๆหรือไม่เต็มใจให้ทำเขาก็จะเลี่ยง เขาแค่จะคอยย้ำและหาทางแนะนำให้เท่านั้นเขาเคารพการตัดสินใจของคนอื่นๆถึงจะมีแย้งๆบ้างสุดท้ายก็จะยอมตามนั้น
“แต่นี่มันเป็นเรื่องของเธอ แถมยังอันตรายมากๆด้วย”จองฮวานพยายามพูดโน้มน้าวให้นาซอเรียรีบตัดสินใจ
“ก็เพราะมันเป็นเรื่องของฉันฉันถึงต้องคิดก่อนทำยังไงล่ะ”นาซอเรียตอบ จองฮวานนั้นยืนนิ่งจ้องมองดวงตาคู่นั้นที่ดูเหมือนกำลังคบคิดและลังเลใจอยู่
“เฮ้อ ฉันไปกินข้าวต่อก็ได้ จู่ๆก็กลับมาหิวแหะ”จองฮวานยอมแพ้กับนาซอเรียเขาเงียบไปสักพักก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่และเดินกลับไป
.
.
.
เมื่อนาซอเรียกลับมาถึงห้องเธอตรงเข้าไปหาแมวที่ไม่มีท่าทีที่ดูหิวเอาซะเลยมันยังคงนอนนิ่งมองหน้าผู้เป็นเจ้าของมันอย่างนั้นโดยไม่แสดงท่าทีที่อยากจะกินอะไรเลยเธอเดินตรงไปอุ้มแมวนั้นขึ้นก่อนจะเจอกับจดหมายฉบับนึงที่แมวของเธอนอนทับมาอยู่
เมี๊ยว แมวในมือทั้งสองข้างร้องออกมาอย่างน่าประหลาดปกติแค่ร้องเหมียวเฉยๆยังไม่ร้องจนเธอเคยคิดว่าบางครั้งมันอาจจะป่วยอะไรอยู่แต่บางทีก็คิดว่านี่อาจจะเป็นลักษณะของแมวปกติทั่วไปในโลกของพ่อมดแม่มดก็ได้ นาซอเรียปล่อยแมวของตนลงกับพื้นอย่างเบามือก่อนจะมาสนใจกับจดหมายที่วางอยู่บนเตียงของเธอ แต่แมวของเธอยังคงมาอ้อนใช้หัวถูขาบ้างแถมยังร้องเหมียวๆไม่หยุดเธอคิดว่าแมวของตนเริ่มหิวแล้วเธอจึงวางจดหมายลงก่อนจะหยิบอาหารแมวเลียออกมาให้แต่ท่าทีของมันนั้นไม่แม้แต่เหลียวมองสักนิด
พอดีแมวหนูมันเลือกกิน
นาซอเรียเลือกที่จะไม่สนใจแมวเรื่องมากและกลับมาสนใจยังจดหมายต่อนี่เธอก็ยังมีความสงสัยว่าจดหมายนี้นั้นมันมาได้ยังไง หอพักของสลิธีรินนั้นอยู่ชั้นใต้ดินของปราสาทฮอกวอตส์แถมถ้าใช้นกฮูกมันก็ส่งถึงแค่หน้าห้องแต่นี่วางถึงบนเตียงเลย
นางเงือกเอ็กซ์เพรสหรอ?
เธอจะไม่คิดอะไรมากอีกแล้วนาซอเรียตัดสินใจเปิดอ่านข้อความในจดหมายในนั้นเขียนประมาณว่า
‘มีคนกำลังรอเธออยู่ในป่าต้องห้ามให้ไปพบกับเขาในเวลา2ทุ่มแล้วเธอจะได้รู้ความจริงเกี่ยวกับการตายของพ่อแม่เธอ’
นิรนาม
คิ้วของนาซอเรียขมวดเข้าหากันอย่างรวดเร็วหลังจากเธออ่านข้อความนั้นจบความสงสัยแล่นเข้ามาในหัวไม่หยุด ใครส่งมา พ่อกับแม่ของเธอเสียเพราะอุบัติเหตุและนี่คือความจริงที่ตัวนาซอเรียรับรู้มาโดยตลอดแต่หลังจากที่เธอได้อ่านข้อความนี้มันทำให้เธอเริ่มสงสัยขึ้นเรื่อยๆคนที่ส่งมารู้เรื่องราวทั้งหมดของการเสียชีวิตของพ่อกับแม่เธอหรอ มันมีอะไรที่เธอไม่รู้อีกงั้นหรอ ดวงตาของเธอเริ่มสั่นไหวน้ำตาเริ่มเอ่อขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้กว่าเธอจะทำใจเรื่องการจากไปอย่างกะทันหันของพ่อกับแม่มันก็ค่อนข้างใช้เวลามากเลยทีเดียว ครั้งนี้เธอยังต้องรับรู้เรื่องอื่นที่ถูกปิดบังไว้อีกมันต้องเป็นเรื่องเลวร้ายขนาดไหนพวกเขาถึงเลือกที่จะปิดบังจากตัวเธอกัน
นาซอเรียล้มตัวลงนอนและนึกถึงช่วงเวลาที่เธอผ่านเรื่องพวกนั้นมาได้มันต้องใช้อะไรตอนนี้เธอแทบจะไม่มีอะไรเหมือนตอนนั้นเลยไม่ว่าจะเป็นเด็กชายที่เคยอยู่ในความฝันของเธอตอนนี้เขากลับไม่เหมือนตอนนั้นแล้วเธอนอนคิดไปเรื่อยก่อนจะผล็อยหลับไป
.
.
.
“นี่คิดว่าอิ่มแล้วที่ไหนได้ไปเดินย่อยมาหรอ กินไม่หยุดจริงนะ”ฮารุโตะเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่าจองฮวานกลับมาก็เดินตรงมานั่งกินเพิ่มอีก
“ก็คนมันหิว”จองฮวานตอบทั้งๆที่มีน่องไก่ยังอยู่เต็มๆปาก
“คืนดีกับนาซอเรียแล้วรึไง”ฮยอนซอกเอ่ยถามเมื่อสังเกตว่าทีของจองฮวานดูเป็นปกติ
“ไม่ได้ทะเลาะอะไรสักหน่อย”จองฮวานตอบและยังคงสนใจกับอาหารเหมือนเดิม
“เออพี่ ว่าแต่ว่างกันหรอมานั่งดูผมกินเนี่ย”จองฮวานเอ่ยทักเหล่ารุ่นพี่ที่ต่างโฟกัสกับการกินของเขาจึงทำให้มีช่วงเดดแอร์ไปพักนึงก่อนจะมีโยชิโนริที่ลุกออกไปจริงๆก่อนที่เขาจะมามันก็เกิดการทะเลาะของคู่นึงขึ้นในระหว่างที่คุยเรื่องราวทั้งหมดเกี่ยวกับแวมไพร์จึงมีบางคนลุกออกไป
“ขอให้กินข้าวให้อร่อย” เจนนิษฐ์กล่าวพร้อมกับตบบ่าจองฮวานเบาๆก่อนจะลุกไป จองฮวานมองตามเธอด้วยความสงสัย ใครอนุญาตให้แตะตัว?
“นาซอเรียล่ะ”ฮยอนซอกเอ่ยถามทำให้จองฮวานหันมาสนใจเขา
“พิศวาสอะไรยัยนั่นเถอะถามจริง ถามหาตลอดในหัวมีแต่เรื่องของยัยนั่นรึไง”ฮารุโตะเปิดประเด็นการหาเรื่องกับเด็กหนุ่มบ้านกริฟฟินดอร์
“แล้วยุ่งไรด้วย ไม่ใช่ว่าตัวเองก็พิศวาสเค้าหรอกหรอ”ฮยอนซอกตอบ
“จะบ้ารึไงยัยนั่นมีอะไรให้น่าสนใจรึไง”ฮารุโตะกล่าว
“นั่นต้องถามตัวเองแล้วแหละคิดว่าดูไม่ออกรึไงว่าคิดยังไงกับนาซอเรียน่ะ”ฮยอนซอกกล่าวเขามองออกอยู่ระดับนึงฮารุโตะพยายามที่จะชวนทะเลาะบ้างพยายามชวนคุยไปบ้างแต่น่าเสียดายที่นาซอเรียไม่เอาด้วย
“อะไร ถ้าเป็นความรู้สึกหมั่นไส้รำคาญเนี่ย ก็ใช่นะ”ฮารุโตะตอบอย่างกวนประสาท
“นายลืมอะไรรึเปล่า ก็ความรู้สึกที่นายและฉันมีเหมือนๆกันยังไงล่ะ”ฮยอนซอกก้มตัวลงไปพูดข้างหูของฮารุโตะ
“ความรู้สึกที่บอกว่าตัวเองหล่ออะนะ?ไม่สิ หล่อนั่นฉันคนเดียวหนิ”ฮารุโตะเขารู้อยู่แก่ใจว่าความรู้สึกนั้นคืออะไรแต่เขาก็จะไม่ยอมรับง่ายๆหรอก
ใครจะไปเชื่อว่าตัวเองจะชอบคนที่ตัวเองเคยรำคาญ
.
.
.
19:57
“อีกสักพักจะสองทุ่มแล้วนาซอเรียต้องออกไปแล้วแล้วเราค่อยตามไปสมทบทีหลัง”จูดี้กล่าวให้แก่เพื่อนทั้งสองของตนตอนนี้พวกเขาอยู่ในห้องสมุดและอยู่ในโซนที่ไม่มีใครอยู่ แต่บังเอิญว่ามีชายหญิงจากบ้านเรเวนคลอสองคนผ่านมาและได้ยินพอดี นั่นก็คือมาชิโฮและฮาร์เชลนั่นเองและในขณะเดียวกันก็เป็นช่วงที่นาซอเรียออกจากตัวประสาทพอดี
“นั่นไงออกไปแล้ว”จูดี้กล่าวพร้อมกับชี้ไปที่สาวน้อยที่กำลังเดินตรงไปยังป่าต้องห้าพอดีเธอค่อนข้างที่จะระแวงเธอจึงเอาแมวของตัวเองไปด้วย สองคนที่แอบฟังนั่นรีบขมวดคิ้วเข้าหากันโดยทันที
“เลิกทำหน้าอย่างนั้นสักทียุนซอ”เป็นจูดี้อีกครั้งที่เอ่ยขึ้นมาเมื่อมองไปยังใบหน้าที่แสดงถึงความรู้สึกผิดที่ทำต่อสาวน้อยที่ตนแอบชอบ
“นายไปมีความรู้สึกดีกับคนที่ต้องตายงั้นหรอ”ซอกฮวากล่าวขึ้น ประโยคยิ่งทำให้คนที่แอบฟังทั้งสองขมวดคิ้วเข้าหากันมากขึ้น
“ยัยเด็กนั่นเป็นวีล่าและตอนนี้หล่อนก็กำลังจะตายด้วยน้ำมือของแวมไพร์ เลือดเธอจะถูกดูดออกไปจนหมดตัวแล้วเธอก็ตา—”เสียงของจูดี้ถูกขัดโดยยุนซอและจากการได้ยินแบบนี้นั้นทำให้ทั้งสองตกใจมากคนที่พวกเขามองข้ามตอนนี้กำลังจะตกเป็นเหยื่อทั้งสองไม่รอช้าที่จะรีบวิ่งออกไปโดยให้เกิดเสียงเบามากที่สุด
“เลิกพูดได้มั๊ย”ยุนซอกล่าวอย่างแผ่วเบา
“จะไปกันรึยัง”ซอกฮวาเอ่ยถาม
นาซอเรียยังคงเดินมาเรื่อยๆแต่เธอยังคงไม่สังเกตเห็นใครจนแว็บนึงเธอคิดว่าตนกำลังถูกหลอกในขณะที่เธอหันหลังจะเดินกลับไปนั่นจู่ๆก็มีหญิงสาววัยกลางคนเดินออกมานาซอเรียไม่รอช้าที่จะชี้ไม้กายสิทธิ์ไปยังหญิงคนนั้นเธอใส่หมวกปีกกว้างสีดำผูกโบว์กับกรอบหน้าปิดบังใบหน้าส่วนบนของเธอเอาไว้ริมฝีสีแดงสดพร้อมกับเดรสรัดรูปแขนยาวสวยสง่าเธอส่งยิ้มมายังนาซอเรีย
“วางไม้กายสิทธิ์ลงก่อนสิ”เธอกล่าวพร้อมรอยยิ้มที่ดูน่ากลัว
“สวยจริงๆด้วยนะ”เธอก้มตัวลงพลางใช้มือที่มีถุงมือของตนลูบตามกรอบหน้าของนาซอเรียก่อนจะบีบคางของสาวน้อยเชิดขึ้นมามองเต็มๆตอนนี้นาซอเรียได้เห็นใบหน้าของหญิงสาวแล้วดวงตาสีฟ้าแต่แววตาของเธอนั้นกลับไม่มี
“มาฟังการตายของพ่อแม่เธอก่อนดีมั๊ย”หญิงสาววัยกลางคนปล่อยคางของนาซอเรียลงอย่างแรงก่อนจะถอยออกมายืนในระยะที่เหมาะสม นาซอเรียไม่ได้ตอบเธอทำเพียงแค่มองหน้าคนตรงหน้าเฉยๆ
“พวกเขาไม่ได้ตายเพราะอุบัติเหตุหรอกนะ”สิ่งที่หญิงสาวตรงหน้ากล่าวออกมานั่นทำให้นาซอเรียหวั่นใจอย่างรุนแรง
“พวกเขาน่ะถูกคนของกระทรวงเวทมนตร์ฆ่าต่างหากล่ะ” ใจของนาซอเรียเต้นแรงขึ้นอย่างรวดเร็ว
“ทำไม”นาซอเรียเอ่ยถาม
“ก็เพราะพ่อแม่พวกเธอฆ่าเหล่ามักเกิ้ลน่ะสิ”นาซอเรียแทบจะไม่เชื่อหูตัวเองพวกเขาทั้งสองจะฆ่าคนไปทำไมกัน
“เหตุผลที่พ่อกับแม่เธอฆ่าก็เพราะลูกสาวตัวน้อยๆของเขาคนนี้เผลอแสดงใช้พลังให้เหล่ามักเกิ้ลเห็นน่ะสิแถมพวกมักเกิ้ลพวกนั้นยังเป็นพวกคลั่งศาสนาซะด้วยสิ พ่อแม่ของเธอกลัวเธอจะเป็นอันตรายเลยฝากตัวเธอไว้กับย่าของเธอแถมพ่อแม่และกลับไปฆ่าคนพวกนั้นด้วยเหตุผลที่กลัวว่าคนเหล่านั้นจะมาฆ่าลูกสาวเพียงคนเดียวของพวกเขาน่ะสิ”เธอเล่าพร้อมท่าทางที่เดินวนรอบตัวนาซอเรียไปอย่างช้าๆ
“พอกระทรวงทราบเรื่องกระทรวงก็ส่งคนมาจัดการแต่ดูเหมือนพวกเขารู้ทันและพยายามหนีแต่มันก็ไม่รอดยังไงล่ะ การต่อสู้ที่เกิดขึ้นในครั้งมีการสูญเสียไปกว่าครึ่งโดยเพียงพ่อมดแม่มดสองตนที่ฆ่าฝั่งกระทรวงไปมากกว่าครึ่งสุดท้ายมือปราบมารคนหนึ่งตัดสินใจใช้คาถาต้องห้ามใส่พ่อกับแม่ของเธอ อะวาดาเคดาฟรา...”หญิงสาววัยกลางคนพูดอย่างเบาๆก่อนจะใช้ปลายนิ้วของตนแตะกันพลางๆและแยกออกแสดงถึงความตายของพวกเขาก่อนจะเผยรอยยิ้มออกมา
“ส่วนเรื่องอุบัติเหตุมันแค่เหตุผลบังหน้าน่ะ”นาซอเรียไม่สามารถพูดอะไรหัวของเธอตอนนี้เริ่มหนักอึ้งขึ้นเรื่อยๆ
“เอาล่ะ การที่ฉันทำแบบนี้ฉันไม่ได้ให้ฟรีๆหรอกนะมันต้องมีของแลกเปลี่ยนด้วย”หญิงสาวกล่าวพลางยกมือขึ้นกอดอก นาซอเรียเมื่อเธอได้ยินอย่างนั้นเธอก็เริ่มมั่นใจว่าสิ่งที่คาดเดานั้นถูกต้องของมันแน่อยู่แล้วอยากจะได้อะไรก็ต้องยอมแลกกลับอะไรสักอย่าง เธอรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยมาก่อนอยู่แล้วจึงไม่แปลกที่เธอจะพาแมวของตนมาด้วย
“อยากได้อะไร”นาซอเรียกล่าวพลางเดินถอยหลังไปอย่างช้าพร้อมกับมือข้างนึงกำลังล้วงหยิบไม้กายสิทธิ์ของเธอออกมาอย่างช้าๆ
“เอกซ์เปลล์ลิอาร์มัส” จู่ๆไม้กายสิทธิ์ในมือข้างๆตัวเธอก็ถูกปลดออกนาซอเรียหันไปตามเสียงที่ดังมาจากทางข้างหลังพบกับจูดี้ที่ชี้ไม้กายสิทธิ์ของตัวมาทางเธอพร้อมกับมียุนซอและซอกฮวาประกบข้าง
“สตูเปฟาย!”จูดี้ยิ้มให้นาซอเรียสักครู่ก่อนจะกล่าวคาถาที่ทำให้คนโดนนั้นหมดสติไปแต่คาถากลับถูกสะท้อนกลับไปทำให้พวกเขาทั้งสามต้องรีบก้มตัวหลบคาถา
“โพรเทโก้!”เด็กชายผมบลอนด์ชี้ไม้กายสิทธิ์มาทางนาซอเรีย เขาช่วยเธอเอาไว้คาถาที่เขาใช้นั้นก็คือคาถาเกราะวิเศษที่จะช่วยป้องกันคาถาและสะท้อนกลับไปยังผู้ร่าย
“ฮารุโตะงั้นหรอ?”ยุนซอกล่าวขึ้นอย่างเบาๆเมื่อหันไปเห็นเด็กชายที่ยืนอยู่หลังพวกเขา
“ฮารุโตะงั้นหรอ”นาซอเรียเงยหน้าขึ้นมามองยังคนตรงหน้าเขารีบเดินมาพยุงตัวนาซอเรียขึ้นและดันตัวของเธอไปอยู่ข้างหลังเขา
“ไม่เป็นไรใช่มั้ย ”เด็กหนุ่มพูดพลางชี้ไม้กายสิทธิ์ของตนไปรอบๆ
“ไม่ต้องกลัวนะฉันอยู่นี่แล้วฉันมาหาเธอแล้ว”เด็กชายพยายามพูดปลอบนาซอเรียอย่างอ่อนโยนราวกับไม่ใช่ตัวฮารุโตะจริงๆ
“บอกตัวเองเถอะ”นาซอเรียตอบไปท่าทีที่ดูเหมือนจะไม่ได้กลัวเลยสักนิดแต่ในใจนั้นจะร้องไห้ได้อยู่แล้ว
เธอไม่ยอมโชว์ด้านที่ดูอ่อนแอออกมาหรอกแถมยังเป็นฮารุโตะมีหวังเขาต้องล้อเธอเยอะแน่ๆ ศักดิ์ศรีมันสำคัญมากตอนนี้
“เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนเลยนะ”สิ่งที่เด็กชายกล่าวออกมานั้นทำให้นาซอเรียสงสัยเป็นอย่างมาก ไหนเขาบอกว่าไม่เคยรู้จักกับเธอไง
“ไฮยาโตะ”เสียงกล่าวเรียกเบาๆแต่ได้ยินกันอย่างทั่วถึงของบุคคลใหม่
“What the fu**”จองฮวานเผลอหลุดปากออกมาเมื่อเห็นว่าในที่แห่งนี้มีฮารุโตะอยู่สองคน ทุกคนอยู่ในอาการที่ต่างพากับช็อกกับภาพตรงหน้ากันไปจึงถือเป็นโอกาสที่ดีของซอกฮวาที่จะใช้ช่วงเวลานี้ร่ายคาถาปลดอาวุธใส่คนที่บังตัวนาซอเรียไว้อยู่
“เอกซ์เปลล์ลิอาร์มัส!” ซอกฮวาร่ายคาถาใส่จึงช่วยให้หลายคนกลับมาได้สติและเป็นช่วงเวลาเดียวกันที่หญิงวัยกลางคนเดินมาดึงตัวนาซอเรียไป
“นาซอเรีย!!!”ฮยอนซอกเผลอตะโกนเรียกอย่างตกใจก่อนจะถูกโซเฟียดึงตัวไปก่อนหลบเหล่าฝูงนกที่เริ่มบินตรงมาจะจู่โจมพวกเขา
“อาวิส อ็อพพักโน” ซอกฮวาคือคนที่ร่ายคาถาออกมาคาถาอาวิสคือการเสกนกฝูงนกออกมาจากไม้กายสิทธิ์และถ้าใช้พร้อมกับคาถาอ็อพพักโนแล้วจะทำให้ตรงเข้าไปจู่โจมศัตรู
“อินเซนดิโอ!” ไฟลูกใหญ่ที่กระพืออกมาจากไม้กายสิทธิ์ของผู้ร่ายอย่างฮารุโตะ ไฟนั้นได้แผดเผาฝูงนกให้ตายจนหมดก่อนจะโดนตัวของพวกยุนซอไฟก็ถูกดับไปอย่างรวดเร็ว
“อากัวเมนตี”ลำน้ำถูกพ่นออกมาดับไปจากไม้กายสิทธิ์ของจูดี้ วาดส์
ในขณะที่ทุกคนชุลมุนกันอยู่นั้นนาซอเรียถูกหญิงวัยกลางคนลากออกไปให้ห่างออกไปแต่มันไม่ได้รอดพ้นสายตาของไฮยาโตะเด็กชายหน้าตาราวกับฮารุโตะ เขาที่กำลังรีบตามไปแต่กลับต้องทรุดตัวลง
“อินคาเซอรัส”ยุนซอร่ายคาถาชี้ไปยังไฮยาโตะก่อนที่เขาจะทรุดตัวลงและโดยผูกมัดด้วยเชือก
“ เซอร์เพนซอร์เทียอ็อพพักโน” ฮารุโตะร่ายคาถาที่เสกงูออกมาจากไม้กายสิทธ์ของตนพร้อมกับชี้ไปที่ยุนซอ มันแสดงถึงการสั่งงูให้โจมตีไปยังยุนซอก่อนจะเขาจะเดินมาปลดคาถาให้ไฮยาโตะ
“รู้จักเธอใช่มั้ย?”ฮารุโตะถามยังพี่ชายฝาแฝดของเขาที่หายตัวไปตั้งแต่พวกเขาได้เพียงแค่อายุแปดขวบ
“เออ”ไฮยาโตะตอบพร้อมกับพยายามพยุงตัวตนเองขึ้น
“แล้วไปตายไหนมาตั้ง6ปี”ฮารุโตะเอ่ยถามอย่างขวานผ่าซาก
“ตอนนี้มันไม่ใช่เวลาที่จะมาตอบ”ไฮยาโตะกล่าวก่อนจะเดินไปหยิบไม้กายสิทธิ์ของตนและนาซอเรียก่อนจะรีบเดินตามทางที่นาซอเรียไปฮารุโตะก็ไม่รอช้าเขาก็ตามไปช่วยอีกแรง
นาซอเรียพยายามดิ้นตัวอยู่ตลอดเวลาเพื่อให้ตัวเธอหลุดพ้นจากแขนของหญิงสาววัยกลางคนที่ตอนนี้เธอได้รู้แล้วว่าหญิงคนนี้คือแวมไพร์เธอแยกเขี้ยวใส่นาซอเรียระหว่างเดินมา เธอรู้สึกว่าดิ้นเท่าไหร่มันก็ไม่หยุดเธอจึงตัดสินใจที่จะกัดแขนของแวมไพร์ตนนี้และมันได้ผลดีด้วย
“ให้ตายเถอะยัยเด็กบ้า!!!”หญิงวัยกลางคนตะวาดเสียงดังพร้อมกับใช้มือจับไปที่แขนข้างที่ถูกกัด
“ไม่คิดว่าจะเจ็บเป็นแวมไพร์ไม่ใช่หรอ”นาซอเรียกล่าว
“แวมไพร์ก็มีความรู้สึกได้มั๊ยล่ะ”เธอตอบอย่างหัวเสีย
“ตรงนั้นมันไม่มีเลือดไปเลี้ยงสักหน่อย ”นาซอเรียกล่าวอีกครั้ง
“ฉันบอกว่าเจ็บก็เจ็บสิ”หญิงวัยกลางเดินตรงเข้ามาก่อนจะบีบคอนาซอเรียอย่างแรง เป็นที่รู้ๆกันอยู่แล้วว่าแวมไพร์นั้นมีแรงมหาสารแน่นอนว่านาซอเรียไม่มีทางต่อกรกันแรงนี้ได้แน่
“เอาให้ตายตอนนี้เลยดีมั๊ย”เธอพูดพร้อมออกแรงบีบมากกว่าเดิม
“ลาคาร์นัม อินฟลามาเร”ฮารุโตะร่ายคาถาพร้อมกับชี้ไประหว่างตัวนาซอเรียและหญิงสาวปล่อยตัวนาวอเรียจากการเกิดลูกไฟขึ้นระหว่างทั้งสองก่อนจะหันไปสนใจกับสองฝาแฝดโดยปล่อยให้นาซอเรียทรุดตัวลงไปนั่งกับพื้นและกอบโกยอากาศเข้าไปก่อนที่เธอจะหันมาไปมองยังคนที่ช่วยเธอไว้
สิ่งที่เธอเห็นนั่นก็คือฮารุโตะสองคนนึงเธอมั่นใจว่านั่นฮารุโตะจริงๆส่วนอีกคนนั้นเธอไม่มั่นใจเอาซะเลยแต่เธอก็คุ้นตาอย่างบอกไม่ถูก
“ไง ไฮยาโตะหนีหายไปนายเลยนะ”หญิงสาวทักทายดั่งคนรู้จัก
“ไม่คิดจะมาอยู่กับเด็กนี่ โลกกลมจริงๆ”เธอกล่าวอย่างขบขัน
“ตอนแรกที่โผล่มาเนี่ยฉันก็ตกใจนะไหงกลายมาเป็นแมวของเด็กผู้หญิงที่ต้องมาตายเพราะเจ้านายเก่าของนายด้วยนะ” ประโยคที่เธอกล่าวออกมานั้นมันทำให้ทั้งนาซอเรียและฮารุโตะงง
“หยุดเถอะขอร้อง อาริน่า”อาริน่านั่นคือชื่อของแวมไพร์สาวคนนี้
“ลงทุนทำสีผมตามแฝดคนน้องเพื่อให้ฉันสับสนขนาดนั้นเลยหรอ อยู่กับฉันไม่มีความสุขขนาดนั้นเลยหรอ”อาริน่ากล่าวพลางถอดหมวกใบของตนออกเผยให้เห็นสีผมสีส้มแดงที่ดูเป็นธรรมชาติพร้อมกับทรงผมเกล้าต่ำ
“จะบอกอะไรให้นะสาวน้อยแมวที่เลี้ยงมันน่ะ หนึ่งมันเป็นผู้ชายและสองมันเป็นคนที่ถูกสลักไว้ในร่างแมวเหมียวเมื่อสี่ปีที่แล้วแถมฉันยังเป็นเก็บมาเลี้ยงคนแรกซะด้วย”ฮารุโตะและนาซอ้รียได้ยินดังนั้นถึงกับพูดไม่ออก
‘งั้นคนในความฝันก็’นาซอเรียกล่าวอยู่ในใจเธอไม่มีแรงแม้แต่จะเปล่งเลยพูดออกมาด้วยซ้ำ
“ฉันเองแหละ”ไฮยาโตะกล่าวออกมาอย่างไม่มีสาเหตุนั่นทำให้ทั้งฮารุโตะและอาริน่าไม่เข้าใจแต่เพียงไม่นานเธอก็ประติดประต่อได้
“คุยกับเด็กนั้นอยู่รึไงอ่านใจเธออยู่หรอ”อาริน่ากล่าว เธอรู้ว่าไฮยาโตะมีสามารถพินิจใจได้แถมยังรู้เรื่องน้องฝาแฝดของเขาอีกด้วยนั่นก็เพราะไฮยาโตะเป็นคนเล่าให้เธอฟังโดยตอนในช่วงที่ไฮยาโตะจะกลายเป็นคน
“บอกเขาไปขนาดนั้นเลยรึไง”ฮารุโตะเอ่ยถามพี่ชายฝาแฝดของตนด้วยภาษาบ้านเกิด
“อือ ตอนนั้นแค่อยากกลับบ้านแถมเธอยังบอกว่าจะช่วย”ไฮยาโตะตอบเป็นภาษาญี่ปุ่นเช่นกัน
“งั้นจะหนีไปไหนก็ไปกันซะและปล่อยให้เด็กนี่ตายไปเถอะ”หญิงสาวกล่าวก่อนจะเดินมากระชากตัวของนาซอเรียให้ลุกขึ้น
“ฝันไปเถอะ”ฮารุโตะกล่าวอย่างไม่ยอมแพ้ก่อนจะเดินตรงเข้าพร้อมชี้ไม้กายสิทธิ์ไปที่อาริน่าแต่ช้าไป หญิงสาวหยิบไม้กายสิทธิ์ของตนขึ้นมาก่อจะร่ายคาถาที่ทำให้คู่ต่อสู้ล้มหน้าคะมำหรือสร้างความเจ็บปวดอย่างรุนแรง
“อีเวอร์เต สตาตัม”อาริน่ากล่าวก่อนฮารุโตะจะทรุดตัวลงด้วยความเจ็บปวดที่แล่นเข้าไฮยาโตะไม่รอช้าเขารีบเดินเข้าไปดูอาการของน้องชายเขาก่อนจะได้เริ่มคายความเจ็บลงให้กับฮารุโตะจู่ๆไม้กายสิทธิ์ของไฮยาโตะก็กระเด็นออกกไปเป็นผลมาจากคาถาปลดอาวุธของอาริน่าก่อนที่เธอจะใช้คาถาให้พวกเขาถูกมัดติดกัน
“กระจอก เด็กปีสองเนี่ยนะจะทำอะไรฉันได้”อาริน่ากล่าวซึ่งเป็นช่วงเดียวกับที่นาซอเรียใช้ไม้กายสิทธิ์ของเธอชี้เข้าไปที่ตัวของฮารีน่า โดยนาซอเรียอาศัยจังหวะที่พวกเขาสู้กันคานเข้าไปหยิบไม้กายสิทธิ์ของตน
“โถ่นาซอเรีย”อาริน่าเดินมารูปกรอบหน้าของสาวน้อยอีกครั้งเมื่อเธอปลดอาวุธของนาซอเรียออกอย่างง่ายดาย ในตอนแรกนาซอเรียตั้งใจจะใช้คาถาแสงอาทิตย์แต่ตอนหัวสมองเธอตื้อมากจนไม่สามารถจำคาถานั้นได้ถึงจึงโดนปลดอาวุธออกซะก่อน
อาริน่าจิกผมนาซอเรียไปข้างหลังเธอพยายามมองจุดที่เธอจะดูเลือดของสาวน้อยคนนี้ ปกติเธอไม่เคยดูเลือดของหญิงสาวตรงๆเธอจะใช้แค่อาบและกินแบบเทใส่แก้วหรือถ้ามีโอกาสดูเลือดตรงๆจากร่างกายเธอมักจะดูดเฉพาะผู้ชาย
มือทั้งสองข้างของนาซอเรียนั้นจับคอเสื้อของคนตรงหน้าไว้แน่นเธอไม่มีแรงแม้แต่ขัดขืนเลยสักนิดวันนี้ทั้งวันเธอแทบไม่ได้กินอะไรนอกจากขนมขบเคี้ยวเล็กๆของเธอที่พกมาด้วย อาริน่าตัดสินใจอยู่นานก่อนจะก้มตัวลงไปกัดต้นคอของนาซอเรีย
ความเจ็บปวดแผ่ซ่านไปทั่วร่างกายของเด็กสาวเรี่ยวแรงที่จะต่อกรแทบไม่เหลือเลยมือน้อยๆค่อยๆร่วงลงอย่างช้าๆสติเริ่มเลือนไปหายไปเรื่อยๆดวงตาเริ่มมีน้ำตาไหลออกมาจากความเจ็บปวด สองฝาแฝดไม่อาจทำอะไรได้มากพลางดิ้นตัวอย่างสุดใจเพื่อให้หยุดพ้นจากการผูกมัด
นาซอเรียสังเกตเห็นชายหนุ่มพรีเฟ็คบ้านสลิธีรินพยายามเดินเข้ามาทางข้างหลังของแวมไพร์สาวให้เบาที่สุดเท่าที่จะทำได้ในมือของเขาถือกริชเงินมาด้วย โยชิโนริมองหน้าของเด็กสาวที่ตอนนี้กำลังมองหน้าเขาอยู่อย่างไม่อาจเหลือเรี่ยวแรงอันใดแล้วเขามองเข้าในนัยน์ตาของเธอแสดงถึงความเจ็บปวดอย่างรุนแรง โยชิโนริไม่รอช้าก่อนจะให้กริชเงินแทงเข้าไปกลางหลังของแวมไพร์สาวก่อนจะดึงออกมาและแทงเข้ากลางอกของแวมไพร์สาวอีกครั้งในตอนที่อาริน่าหันมาหาเขาพอดีจากนั้นเขาก็รีบไปรับตัวของนาซอเรียไว้ก่อนที่เธอจะล้มลงกับพื้นเขายอมสละแม้กระทั่งตำแหน่งพรีเฟ็คประจำบ้านไปเนื่องจากเขาฆ่าอมุษย์ตนหนึ่งเขายอมเสียตำแหน่งนั้นไปถ้าให้เลือกระหว่างเสียตำแหน่งไปกับปล่อยเรื่องพวกนี้ไปและปล่อยให้เด็กในสังกัดบ้านของเขาถูกฆ่าตายแต่เขายังคงได้รับตำแหน่งพรีเฟ็คต่อ เขายอมเสียตำแหน่งไปยังดีกว่า
ก่อนนาซอเรียจะหมดสติไปเธอมองไปยังใบหน้าของคนที่มารับตัวของเธอไว้ใบหน้าของโยชิโนริเป็นสิ่งสุดท้ายที่สาวน้อยเห็นก่อนหมดสติไปโยชิโนริมองยังคนที่หมดสติพลางเห็นภาพซ้อนทับของใครคนนึงซ้อนขึ้นมา นั่นทำให้เขาอ่อนไหวมาก
.
.
แถมให้นิดนึง
“แล้วทำไมผมต้องมาติดอยู่กับพวกพี่ด้วยเนี่ย!!!”จองฮวานกล่าวอย่างหัวเสียที่ตอนนี้เขาถูกมัดรวมอยู่กับยุนซอซอกฮวาจูดี้และเจนนิษฐ์ เขาแค่อยู่บริเวรใกล้ๆกับพวกยุนซอเฉยๆแต่กลับโดนคาถาของโซเฟียไปด้วยซะงั้น
“แล้วใครบอกให้อยู่ใกล้พวกเราอ่ะ”จูดี้กล่าว
“ก็ยัยพี่เจนนิษฐ์ลากผมมาด้วยอ่ะ”จองฮวานกล่าวพลางพาดพิงคนที่อยู่ข้างๆเขาเธอเป็นคนร่วมเขามาโดนด้วยจริงๆ
“ใจเย็นๆฉันก็ต้องมาอยู่เฝ้าพวกนายแทนที่จะได้ไปช่วยนาซอเรียแท้ๆ”จองอูกล่าว เขาถูกสั่งให้เฝ้าพวกคนที่ถูกมัดรวมกันอยู่คนเดียว
“holy sh**”จองฮวานสถบออกมาเบาๆ
To be continued
.
.
.
.
Talk with me
ขอโทษที่มาช้านะคะคือช่วงอาทิตย์นี้คือแบบบเราแทบจะไม่มีเวลาเขียนเลยมีแค่ตอบคอมเม้นเช็คยอดวิวบ้าง เนื้อเรื่องในส่วนนี้ถ้าตรงไหนไม่เข้าใจลองคอมเม้นถามดูได้นะคะอย่างที่บอกเราไม่ค่อยว่างเลยนี่ว่างแค่ช่วงสามทุ่มขึ้นไปวันเราเขียนไปยันตีหนึ่งตีสองถ้างงๆตรงไหนลองถามดูได้นะคะ
พี่ซอกมาน้อยก็จริงแต่มาครั้งนี้เค้าเปิดตัวกับแม่เค้าไปแล้ว ไฮยาโตะคือพี่ชายฝาแฝดของฮารุโตะที่หายตัวไปเมื่อ6ปีก่อนตอนพวกเขาอายุได้ประมาณ8ขวบซึ่งเป็นวันเดียวกันกับนาซอเรียที่เสียคุณพ่อคุณแม่ไปในวัย7ขวบไปส่วนนี้เราไม่รู้จะเสริมใส่ไปตรงไหนก็เลยมาเล่าตรงนี้และคนที่เข้าฝันนาซอเรียคือไฮยาโตะที่หนีจากอาริน่ามานะคะ แมวของนาซอเรียคือไฮยาโตะนะคะและย้อนกลับไปในบทนำที่คนในฝันบอกกับนาซอเรียว่าไว้เจอกันนะ หมายถึงตอนเขาที่เป็นแมวค่ะส่วนฮารุโตะนั้นแค่โผล่มาเฉยๆและนาซอเรียเข้าใจผิดไปเอง
*เราเข้ามาแก้ไขคำพูดความรู้สึกตัวละครบางส่วนนะคะไม่ได้กระทบตัวเนื้อเรื่องค่ะ เอ็นจอยนะ
ความคิดเห็น