ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    AU[Treasure x oc] White Poppy

    ลำดับตอนที่ #3 : ควิดดิชแมทแรก

    • อัปเดตล่าสุด 9 เม.ย. 64


    TB

     

     “ฉันว่านะ แมวเธอน่ะต้องเป็นอนิเมจัสที่แปลงเป็นแมวเธอแน่ๆ” จองฮวานกล่าวขึ้นในขณะที่นาซอเรียกำลังกินข้าวอยู่ ย้อนกลับไปเมื่อคืนจองฮวานบอกว่าแมวของเธอนั้นลงมาเองพวกเขาไม่ได้ขึ้นไปเอาตัวน้องลงมา อย่างที่รู้ๆกันก็คือผู้ชายไม่สามารถเข้าไปในหอของผู้หญิงได้ยกเว้นพรีเฟ็คชายที่มีเรื่องจำเป็นเอามากๆ จองฮวานบอกว่ามันลงมาหาเองจากนั้นก็ขึ้นมานั่งบนตักของฮารุโตะเลย เขายังเสริมอีกว่าเธออาจจะเปิดประตูทิ้งไว้แล้วน้องเดินออกมาก็ได้แต่เด็กสาวมั่นใจสามพันเปอร์เซ็นเลยว่าเธอปิดประตูห้องแล้วจริงๆ ส่วนเรื่องที่น้องออกมาได้ยังไงยังคงเป็นปริศนา

    “เลิกพูดเรื่องไร้สาระเถอะ จองฮวาน”

    นาซอเรียเอ่ยขึ้นก่อนจะพลางตักอาหารเข้าปากตัวเอง จองฮวานเห็นดังนั้นจึงจะหันไปสนใจกับจานข้าวของตนต่อแต่เขากลับโบกมือให้กับชายหนุ่มที่กำลังเดินเข้ามา เด็กหญิงเหลือบไปเห็นเพื่อนชายของตนที่กำลังยิ้มและโบกมือให้ใครสักคนอยู่เธอจึงหันไปมองตาม ฮารุโตะเดินตรงเข้ามาก่อนจะนั่งอยู่ข้างๆกลุ่มเพื่อนของเขาที่อยู่ไม่ไกลจากตัวนาซอเรียเขามองเธอก่อนที่เธอจะละสายตาไปสนใจอาหารตัวเองต่อ

     

    “พี่ จะเริ่มแข่งควิดดิชกันเมื่อไหร่อ่ะ” จองฮวานไถลตัวไปนั่งข้างๆกับฮารุโตะและปล่อยให้นาซอเรียนั่งคนเดียว เด็กสาวถอนหายใจออกมาพร้อมกับเดาะกระพุ้งแก้มไปทีนึงก่อนจะกลับมาสนใจกับอาหารอีกครั้ง ไม่นานที่นั่งตรงฝั่งข้ามของเธอก็มีคนมานั่ง เธอเงยหน้ามองคนที่มานั่งลงตรงข้ามของเธอเป็นพรีเฟ็คชายของบ้านนั้นตรงมานั่งตรงข้ามเด็กสาวทั้งที่เขาควรจะไปนั่งรวมกับกลุ่มของเขาหรือฮารุโตะมากกว่าที่จะมานั่งกับเธอ

    “พี่ไม่ไปนั่งกับเพื่อนหรอ” เด็กสาวเอ่ยความสงสัยออกมา

    “เดี๋ยวฉันมีเรื่องต้องทำ ถ้าไปนั่งกับพวกนั้นกว่าจะได้ไปก็คงยาก”โยริโนริกล่าวทั้งที่ยังจดจ่อกับจานอาหารโดนไม่มองเด็กสาว

    ช่วงนี้เขาดูยุ่งๆทั้งที่พึ่งจะเปิดเทอมมาด้วยซ้ำ

    “พี่ดูยุ่งๆนะ”

    “อืม”

    “เมื่อคืนได้นอนบ้างรึเปล่า”เด็กสาวเอ่ยความสงสัยออกมา

    “เห็นว่าต้องเดินตรวจทั้งคืนเลยสินะ พี่ไม่เหนื่อยหรอ”โยชิโนริมองยังเด็กสาววัย11ปีนป่าย

    ยัยเด็กนี่เป็นห่วงฉันหรือแค่ถามเฉยๆ

    “กินข้าวไปเถอะ” โยชิโนริกลับมาทำน้ำเสียงเรียบดังเดิม

    “อ้อ! หนูมีเรื่องสงสัย” นาซอเรียที่มองจานของตน เธอเขี่ยจานไปมาก่อนจะนึกถึงเรื่องที่เธออยากรู้เอามากๆผุดเข้ามาในหัวเธอไม่รอช้าที่จะเอ่ยถามมันออกไป โยชิโนริไม่ได้ตอบเขาทำเพียงแค่เงยหน้ามาฟังคำถาม

    “เรื่องแวมไพร์นี่คือยังไงหรอคะเกี่ยวอะไรกับวีล่างั้นหรอ”

    “ไปรู้มาจากไหน”โยชิโนริพูดด้วยท่าทีที่ดูชิลๆเหมือนเรื่องพวกนั้นไม่ใช่เรื่องจริงแต่หาใช่หรือ เรื่องนี้แหละที่ทำให้เขายุ่งจนหัวหมุนไปหมดและที่เขาต้องทำท่าทีแบบนี้ก็เพราะประธานไม่ต้องการให้ใครรู้จึงกำชับให้เงียบปากเท่าที่ทำได้และตามหาหลักฐานเพื่อให้แน่ชัดว่าแวมไพร์นั้นกลับมาจริงๆโดยเรื่องพวกนี้จะรู้กันแค่พรีเฟ็คและศาสตราจารย์เท่านั้น

    “หนูแค่อยากรู้ว่ามีเรื่องอะไรกัน”

    “มันไม่มีอะไรหรอก”

    เมื่อโยชิโนริกล่าวเสร็จเขาก็กลับไปสนใจกับอาหารในจานของเขาอีกครั้งส่วนนาซอเรียที่ไม่ได้รู้คำตอบที่ตนต้องการนั้นเธอจึงมองการกระทำของชายตรงหน้าจนเขารู้ตัว

    “การที่เธอจ้องคนอื่นแบบนี้มันไม่มีมารยาทเอาเลยนะ”

    “ก็พี่ไม่บอกอะไรเลยหนิคะ”

    “ก็ไม่มีอะไรจริงๆ”เขายังคงยืนยันที่จะไม่บอกเธอเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นในตอนนี้

    “สำหรับคนอื่นพี่อาจจะโกหกพวกเขาได้นะแต่สำหรับหนูคงยากหน่อยนะและหนูก็มีสิทธิ์ที่จะรู้นะ”เมื่อนาซอเรียพูดจบโยชิโนริก็แสดงท่าทีที่ไม่สนใจคำพูดของคนตรงหน้าก่อนจะลุกขึ้นเพราะเขาเริ่มรู้สึกว่ามันน่ารำคาญเกินไปแล้วเขาที่พยายามจะกินข้าวเงียบๆแต่กลับมาเจอแค่คนถามแบบนี้มันน่ารำคาญไปหน่อย นาซอเรียเห็นดังนั้นจึงต้องพยายามพูดรั้งเขาไว้

    “แล้วถ้าหนูช่วยพี่ได้ล่ะ!” นาซอเรียเผลอขึ้นเสียงใส่เล็กน้อยมันไม่ได้ดังถึงขึ้นที่ทุกคนในห้องหันมามองเพียงแค่ระยะรอบๆอย่างจองฮวานและฮารุโตะหันมาเพียงแค่นั้น โยชิโนริขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะหันมาพูดกับสาวน้อย

    “อย่างเธอจะช่วยอะไรได้”

    “พี่ยอมรับแล้วสินะว่ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้น”

    โยชิโนริทำหน้าตายพลางแลสายตาไปขวาทีซ้ายทีเพื่อสำรวจว่าตอนนี้มีใครกำลังมองเขาอยู่รึเปล่าก่อนจะกลับมามองยังนาซอเรียเพียงเสี้ยววิก่อนเดินออกไป นาซอเรียเห็นดังเธอจึงรีบลุกขึ้นและรีบตามไปโดยไม่ลืมที่จะบอกเพื่อนของตนเอาไว้

    “เจอกันที่ห้องเรียนนะจองฮวาน”เธอโบกมือลาให้กับจองฮวานเขาได้แต่พยักหน้าก่อนที่นาซอเรียจะรีบวิ่งตามโยชิโนริไป เธอต้องรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ให้ได้เพราะมันมีสิ่งที่เกี่ยวข้องกับตัวเธอแน่ๆอย่างน้อยก็เลือดวีล่าในตัวเธอแล้วกัน

     

    “เดี๋ยวสินาซอเรีย เธอจะไปไหนน่—“

    “ขอโทษนะคะ ฉันมีเรื่องที่ต้องไปทำอยู่น่ะ ไว้เจอกันใหม่นะ” นาซอเรียพูดอย่างเร่งรีบกับคนที่เอ่ยทักเธออย่างฮยอนซอกที่กำลังเดินเข้ามาหาเธอพอดีในขณะที่เธอกำลังรีบตามพรีเฟ็คประจำบ้านของเธอ ฮยอนซอกที่ยังกล่าวประโยคไม่จบต้องยืนนิ่งเมื่อสาวน้อยที่เขาจะเข้ามาคุยด้วยนั้นรีบวิ่งผ่านไป

    เด็กหญิงรีบวิ่งไปโดนที่ลืมคิดว่าฮยอนซอกก็สามารถบอกเรื่องที่เธอต้องการจะรู้ได้เช่นกันกับโยชิโนริ

    “โถ่ จะคุยด้วยทีไรก็โดนขัดตลอด” ฮยอนซอกหันไปมองยังต้นเสียงที่ดูเหมือนจะส่งมายังเขา ฮารุโตะส่งยิ้มกวนประสาทมายังเด็กชายบ้านกริฟฟินดอร์ที่ยืนไม่ไกลจากตัวเขา ฮยอนซอกมองเขาสักพักก่อนจะละสายตาและเดินกลับหลังหันออกไป

    ไม่อยากทะเลาะกับเด็ก

    .

    .

    .

    “พี่รีบขนาดนั้นเลยหรอ ” นาซอเรียกล่าวด้วยความเหนื่อยพลางสับขาให้ทันคนตรงหน้า โยชิโนริเดินไปข้างหน้าหน้าอย่างไม่สนใจเสียงเรียกของคนข้างหลัง

    “ให้ตายเถอะ..”นาซอเรียสถบออกมาเบาๆก่อนจะรีบสับขาวิ่งไปหยุดอยู่ตรงหน้าของโยชิโนริเธอกลางแขนทั้งสองข้างออกมาเพื่อไม่ให้ร่างสูงเดินต่อไปได้ แต่แค่หัวของนาซอเรียโยชิโนริยังมองข้ามไปอย่างง่ายดายแล้วกับอีแค่แขนสั้นๆแค่นี้จะห้ามเขาไว้ได้หรอ โยชิโนริไม่สนใจพร้อมกับเลี่ยงตัวและเดินต่อไป

    “เฮ้อ.....” เด็กสาวถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ก่อนจะรีบวิ่งไปหาคนที่ทิ้งระยะห่างออกไปเรื่อยๆ

     นาซอเรียวิ่งมาจนไม่ได้สังเกตุว่าคนที่ตนกำลังตามนั้นหยุดเดินพร้อมกับหันหน้ามามองเธอที่กำลังวิ่งลากขาจนมาชนเข้ากับตัวเขา

    “เดินก็ดูทางบ้าง” สาวน้อยใช้มือลูบจมูกตัวเองเบาๆแสดงถึงความระคายเคืองที่เกิดจากการชนเข้ากับตัวของรุ่นพี่พรีเฟ็คก่อนจะมีเสียงจากคนตัวสูงทำให้นาซอเรียเงยหน้าไปฟัง

    “จะตามอีกนานมั้ย ฉันมีธุระ” โยชิโนริพูดก่อนจะทำท่าทีที่กลับหลังหันไปเพื่อเดินออกไปแต่ทันใดนั้นนาซอเรียก็ยื่นมือของตนเข้าไปจับกับมือของโยชิโนริ

    การกระทำนี้ทำให้โยชิโนริหันมามองตัวเด็กสาวที่ตอนนี้จับมือเขาพร้อมกับส่งแววตาอ้อนๆมายังเขา 

    ตื้อเก่งจริง

    “อู้ววว เดี๋ยวนี้ควงเด็กปีหนึ่งเลยสินะ” เสียงทักทายของบุคคลใหม่ทำให้ทั้งสองหันไปมอง เจอเข้ากับเจ้าของเสียง จางยุนซอในเสื้อคลุมบ้านเรเวนคลอพร้อมตราพรีเฟ็คที่ติดอยู่ตรงอกเช่นเดียวกับโยชิโนริ เขาเดินผ่านทางนี้พอดีเลยเจอเข้ากับเพื่อนพรีเฟ็คของเขา ยุนซอมองไปยังเด็กสาวหน้าตาสละสวยข้างๆตัวเพื่อนพรีเฟ็คเขานั้นโยชิโนริสะบัดมือของสาวน้อยออกเบาๆเมื่อเขาเริ่มรู้ตัว

    “พึ่งรู้เหมือนกันนะว่าเด็กปีหนึ่งจะมีคนสวยขนาดนี้ด้วย” ยุนซอกล่าวพร้อมกับย่อตัวมาลูบหัวนาซอเรียด้วยรอยยิ้มก่อนที่สายตาเขาเหมือนจะสะดุดเข้ากับดวงตาของนาซอเรีย

    เขาเห็นสีของนัยน์ตาเด็กสาวคนนี้เป็นสีฟ้าหรือว่าเขาตาฝาดไปกันนะ ยุนซอขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะค่อยๆหุบยิ้มแล้วจ้องเข้าไปในตาของสาวน้อยอีกครั้งจนโยชิโนริต้องร้องทักเขา

    “ทำบ้าอะไรของนาย” โยชิโนริกล่าวพร้อมกับดันไหล่ของยุนซอขึ้นเล็กน้อย

    “โอ้ หวงซะด้วย” ยุนซอละสายตาขึ้นมามองยังเพื่อนพรีเฟ็คที่ขมวดคิ้วสงสัยกับการกระทำของเขา

    "ฉันแค่ปกป้องเด็กบ้านฉัน"โยชิโนริกล่าว

    “เข้าใจแล้วๆ ฉันไปนะ” ยุนซอกล่าวก่อนที่เขาจะเดินออกไป

    สีฟ้า ใช่ หรือว่าตาฝาดไปเอง คำถามที่ผุดขึ้นมาในหัวหัวของยุนซอพลางสับขาของเขาเดินออกไปเรื่อยๆ

    สถานการณ์ตกอยู่ในความเงียบเพียงชั่วครู่ก่อนที่นาซอเรียจะยื่นมือไปจับมือของคนตัวสูงอีกครั้งโยชิโนริก้มมองมือของตนที่ถูกจับก่อนจะสบัดทิ้งอีกครั้ง และนาซอเรียก็จับมันขึ้นมาอีกครั้ง

    “มีอะไรอีก”โยชิโนริยอมให้เด็กสาวจับมือของตนต่อพลางเอ่ยขึ้นพร้อมกับมองสาวน้อยข้างๆด้วยความรู้สึกที่แอบรำคาญเล็กๆ

    “พี่เล่าเรื่องที่กำลังเกิดขึ้นตอนนี้ให้ฟังหน่อยสิ” สาวน้อยกล่าวพร้อมรอยยิ้มและดวงตาที่ดูยากจะปฎิเสธ

    “ไม่มีไรหรอก กลับไปกินข้าวเถอะ” โยชิโนริถอนหายใจออกมาเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยออกมาและไล่ให้เด็กสาวตัวน้อยๆไปกินข้าว

    “อิ่มแล้ว บอกมาซะดีๆเถอะ” นาซอเรียเบะปากลงเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำตอบที่ไม่อยากจะได้ยินเอาซะเลย

    มองจากโบซ์บาตงยังรู้เลยว่าโกหก

    “ก็ไม่มีอะไรจะให้บอกอะไร”

    “พี่หยุดโกหกสักทีเถอะ แค่บอกมา หนูอาจจะช่วยได้นะ”นาซอเรียสลัดมือทิ้งก่อนจะจับเสื้อคลุมของรุ่นพี่ชายตรงหน้าดึงลงมา โยชิโนริไม่ได้ทันตั้งตัวสักเท่าไหร่จึงทำให้เขาเซไปกับแรงน้อยๆของนาซอเรีย

    โยชิโนริแอบสำรวจใบหน้าของคนตรงหน้าที่ตอนนี้ยืดเท้าตัวเองให้สูงเท่าตัวเขาแต่ก็ยังทิ้งระยะห่างพอสมควร เขาสำรวจไปเรื่อยๆจนเริ่มคิดเหมือนกับคนอื่นๆ ถึงจะน่ารำคาญไปหน่อยแต่หน้าตาชวนหลงใหลเหมือนกัน เขาสลัดความคิดทิ้งก่อนจะรีบผละตัวและเดินออกไป 

    “เดี๋ยวก่อน รอหน่อยสิ”

    โยชิโนริเขายังคงสับขาเดินหนีแม้เสียงเรียกจากนาซอเรียที่ตามมายังคงดังอยู่ตลอดแต่เขาก็ไม่มีท่าทีที่จะหยุดให้เลย เขาเดินมาเรื่อยๆจนไม่มีเสียงของคนเดินตามมาแล้ว โยชิโนริหันกลับไปดูทางด้านหลังของเขาและพบกลับความว่างเปล่าร่างของเด็กสาวไม่ได้ตามเขามาแล้วเขาจึงตัดสินใจไปทำธุระของเขา

    จะบ้าตาย หายไปแล้ว บ้าเอ้ย! ตามเขาไม่ทันแล้วไง นาซอเรียได้แต่คิดพลางเขกหัวตัวเองไปก่อนจะมองไปรอบๆพบกับสถานที่ที่เธอยังไม่เคยมาเธอแค่วิ่งตามพรีเฟ็คของบ้านมาเรื่อยเลยไม่ทันได้สังเกตุรอบข้าง เธอเขกหัวตัวเองไปอีกหลายๆทีก่อนจะมีเสียงจากข้างหลังเธอดังขึ้นมา

    “เขกไปมันไม่ฉลาดหรอกนะ” เด็กชายจากบ้านกริฟฟินดอร์เดินเข้ามาหาเธอด้วยรอยยิ้ม

    “เธอคงจะเป็นนาซอเรียสินะ ฉัน พัค จองอู ปี2”จองอูยื่นมือมาให้นาซอเรียด้วยความป็นมิตรนาซอเรียที่ยังงงๆแต่ก็ยอมยื่นมือไปจับแต่โดยดี นาซอเรียถือว่าเป็นคนที่ถูกพูดถึงในระดับนึงในบ้านกริฟฟินดอร์และอาจจะหลายๆบ้านด้วย

    “ฉันขอเดาว่าเธอกำลังหลงทาง” จองอูพูดขึ้น 

    “ตอนนี้เราอยู่ที่ไหนกันหรอคะ” นาซอเรียเอ่ยถามพลางมองไปรอบๆ

    “ก็...ห้องปรุงยาน่ะสิ เดี๋ยวนะ!!ไม่ใช่งั้นหรอ ให้ตาย ฉันอยู่ไหนเนี่ย!!”จองอูที่เริ่มแรกมั่นใจเอาซะมากแต่เมื่อมองมองไปยังห้องเรียนก็พบว่ามันนั้นไม่ใช่จึงเริ่มลนลาน

    เราจะหลงไปด้วยกัน...

    .

    .

    .

    “เราน่าจะหลงกันจริงๆแล้วล่ะ..”นาซอเรียเริ่มกล่าวอย่างหมดหวังเมื่อเดินมากับจองอูมา5นาทีแล้ว

    “เอ๊ะ!! ฉันเจอแล้วๆๆๆๆ ห้องเรียนของฉัน” จองอูแสดงความดีใจสุดขีดอย่างเจอของที่ต้องการมันมากๆเมื่อชะโงกหน้าเข้าไปดูในห้องเรียนและพบกับเพื่อนร่วมชั้นของเขา แต่สีหน้าของนาซอเรียนั้นแตกต่างออกไปเพราะเธอกำลังจะเข้าเรียนสายแล้ว

    อะไรมันดลบันดาลให้เจอรุ่นพี่พัคจองอูเนี่ย

    “ยัยนี่จะมาเรียนกับปีสองรึไง” เสียงที่คุ้นเคยดังมาจากข้างหลังของนาซอเรียเธอจึงหันไปตามเสียงนั้นและพบกับเด็กชายผมบลอนด์สว่างเดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆ เขาคือฮารุโตะ

    “เธอหลงน่ะ”จองอูเอ่ยขึ้นพร้อมกับฮารุโตะแลตาดูเพียงเสี้ยววิก็กลับมามองยังเด็กสาวปีหนึ่ง

    ไม่ควรจะเธอสิต้องพวกเรามากว่ามั๊ยคะรุ่นพี่

    “ออ....ให้บอกทางให้มั้ย?” ฮารุโตะพยักหน้าทีนึงก่อนจะเดินเข้ามาหาเธอและกล่าวพร้อมยกยิ้มมุมปากเบาๆ

    “เดินตรงไปเรื่อยๆแล้วขึ้นบันไดไปสองชั้นถัดจากทางซ้ายอีกสองห้องก็เจอแล้วล่ะ”นาซอเรียไม่ทันได้เอ่ยถามอะไรฮารุโตะก็ชิงบอกทางไปซะก่อน และสิ่งนี้มันทำให้นาซอเรียขมวดคิ้วเข้าหากัน เธอยังไม่ได้บอกว่าเธอจะเรียนอะไรเลยนะ

    “รู้ได้ยังไง”

    “เก่ง” ฮารุโตะพูดจบเขาก็เดินเข้าห้องเรียนไปโดยปล่อยให้ความสงสัยเข้าครอบงำเด็กสาว

    “มันบอกว่าจองฮวานบอกน่ะ” จองอูพูดจบเขาก็เดินเข้าห้องเรียนไป

    “ห๊ะ?” เสียงความสงสัยที่ถูกเอ่ยออกมาจากปากของนาซอเรียแต่ไม่มีใครทันฟังเธอเลยสักคน

    “เหอะ..ใครจะเชื่ออาจจะแกล้งกันอยู่ก็ได้”นาซอเรียกล่าวอย่างเบาๆกับตัวเองก่อนจะเดินออกไป

    ไงนะ..ตรงไปเรื่อยๆแล้วขึ้นบันไดไปสินะ

    .

    หนูจะไปตีก้นพี่เขา!!!

    สีหน้าของนาซอเรียตอนนี้ก็คือหัวเสียมากๆเพราะห้องที่เธอมาเจอนั้นเป็นเพียงห้องเก็บของที่ไม่สามารถเข้าไปได้

    ก็รู้ว่าอาจจะโดนหลอกแต่ก็ยังเดินตามมาจนได้นะ....

    .

    .

    .

    “เดินเข้าไปงับหัวพี่เขาเถอะถ้าจะมองขนาดนั้น” จองฮวานกล่าวขึ้นเมื่อเห็นว่าคนข้างกายของเขาอย่างนาซอเรียกำลังจ้องอย่างจะกลืนกินไปยังฮารุโตะสลับกับโยชิโนริ

    ตั้งแต่เข้ามายังสนามซ้อมควิดดิชที่วันนี้สลิธีรินได้ซ้อม จองฮวานที่รู้อย่างนั้นจากฮารุโตะเขาจึงลากนาซอเรียนั้นมาด้วย พอมาถึงเธอก็ได้เจอกับคนที่เดินหนีเธอเมื่อเช้ากับอีกคนที่แกล้งเธอเมื่อตอนเช้า

    “เธอสนใจกีฬาหรือเธอสนใจผู้ชายกันแน่ มองตาไม่กระพริบเลยนะ” จองฮวานกล่าวขึ้นอีกครั้งเมื่อเธอไม่ได้สนใจสิ่งที่เขาพูดไปในเมื่อกี้เลยสักนิด

    “ฉันไม่สนใจทั้งสองนั้นแหละ” นาซอเรียพูดทั้งๆที่สายตายังมองอยู่ที่ฮารุโตะอยู่

    “ขนาดพูดกับฉันเธอยังไม่ละสายตาออกมาเลยนะ” จองฮวานจบนาซอเรียก็หันมามองตาขวางใส่เขา

    “พอใจยัง?” ในระหว่างที่นาซอเรียหันหน้าไปหาจองฮวานเธอก็ไม่ทันได้สังเกตเห็นลูกควัฟเฟิลที่ถูกขว้างมาทางเธอโดยฝีมือจากเชสเซอร์คนใหม่ของทีม เขาขว้างมาทางเธอแทนที่จะขว้างไปหาโยชิโนริหรือเชสเซอร์อีกคน

    “ให้ตายเถอะ ใครรับเข้าทีมเนี่ย” ฮารุโตะที่ขี่ไม้กวาดมารับลูกควัฟเฟิลก่อนที่ลูกควัฟเฟิลนั้นจะถึงตัวนาซอเรีย เสียงสถบเบาๆของฮารุโตะทำให้นาซอเรียลืมตาขึ้นจากการที่เธอหลับตาปี๋เมื่อร่างกายของตัวนั้นไม่ยอมขยับหนีเลยเธอจึงต้องหลับตา

    “ไม่เป็นไรใช่มั้ย?? บ้าจริง!! วันนี้ฉันเป็นอะไรเนี่ย” เชสเซอร์คนใหม่ของทีมบ้านสลิธีรินนั้นรีบขี่ไม้กวาดมาหาเธอและถามไถ่สาวน้อยก่อนจะสถบกับตัวเองเบาๆ

    “ทำไมนายถึงโยนมาใส่สาวน้อยคนนี้ล่ะ”ฮวัง ฮยอนจิน เชสเซอร์อีกคนหนึ่งคนในทีมของบ้านสลิธีรินเอ่ยถามยังเด็กหนุ่มปีสี่เชสเซอร์คนใหม่ของทีม

    “ไม่รู้สิวันนี้ฉันควบคุมร่างกายตัวเองไม่ได้เลย” ชายหนุ่มกล่าวพร้อมกับใช้มือนวดขมับทั้งสองข้างเบาด้วยมือเพียงข้างเดียวพลางส่ายหัวเล็กน้อยเพื่อเรียกสติของตน

    “ฉันจะไปบอกกัปตันทีมว่าวันนี้พอแค่นี้เถอะ” โยชิโนริเอ่ยขึ้นก่อนจะขี่ไม้กวาดออกไปนาซอเรียมองตามชายหนุ่มไปก่อนจะมีเสียงของฮารุโตะเอ่ยขึ้นนั่นทำให้เธอหันไปฟัง

    “ฉันไม่ได้จะช่วยเธอนะลูกโกลเด้นสนิชฉันมันมาแถวนี้พอดี” ฮารุโตะกล่าวก่อนจะขี่ไม้กวาดไปเอาลูกโกลเด้นสนิชที่อยู่ทางอีกฝั่งที่ไม่ใกล้กับนาซอเรียสักนิด

    “พี่เขาโกหกเนียนที่สุดเลยว่ามั้ย” จองฮวานพูดประชดสายตาของเขายังคงมองไปที่การกระทำของฮารุโตะ

    “จริง”

    .

    .

    .

    2 months later

    “เร็วสินาซอเรีย !!”จองฮวานเอ่ยเรียกตัวเด็กสาวที่กำลังเดินตามมาอยู่ข้างหลังอย่างไม่เร่งรีบ

    “รีบไปทำไมยังไงมันก็มีที่สำหรับเราอยู่แล้ว” นาซอเรียกล่าวอย่างสบายๆ เมื่อกำลังจะเดินไปดูการแข่งขันควิดดิชระหว่างบ้าน

    “เราต้องอยู่ข้างหน้าสุด ถ้าไม่ได้ฉันโทษเธอ เร็ว”จองฮวานพูดเสร็จเขาก็รีบจับข้อมือของนาซอเรียวิ่งขึ้นไปยังชั้นดูการแข่งขันหรือสแตนเชียร์ของฮอกวอตส์นั้นเอง

    ทั้งนาซอเรียและจองฮวานได้ยืนเชียร์อยู่ข้างหน้าจริงๆตามที่จองฮวานนั้นต้องการเพราะเหล่ารุ่นพี่นั้นเสียสละให้พวกเธอ แมทแรกในการแข่งขันควิดดิชประจำบ้านของฮอกวอตส์นั้น ก็คือบ้านกริฟฟินดอร์เจอกับสลิธีรินนั่นเอง

    การเข่งขันนั้นดำเนินไปเรื่อยๆอย่างดุเดือดในขณะที่กริฟฟินดอร์กำลังมีคะแนนนำกว่าสลิธีรินถึง90:60โดยที่คะแนนของสลิธีรินกำลังตามหลังมาอยู่นั้นจู่ๆก็ถูกเปลี่ยนไปเมื่อฮารุโตะจับลูกโกลเด้นสนิชเอาไว้ได้ทำให้สลิธีรินนั้นเป็นฝ่ายที่ชนะไป

    นาซอเรียแสดงอาการดีใจอย่างสุดขีดโดยที่ตัวเธอก็ไม่รู้ว่าสนุกกับเกมไปเมื่อไหร่เธอรู้เพียงแต่ตัวเองนั้นละสายตาจากเกมนี้ไม่ได้เลยจริงๆ

    ฮยอนซอกเป็นฝ่ายแพ้ในเกมนี้เขาก็เผลอหลุดยิ้มออกมาเมื่อเขามองไปยังเด็กหญิงบ้านสลิธีรินที่แสดงความดีใจออกมาอย่างชัดเจน แทนที่เขาจะเสียใจแต่เขากลับยิ้มออกมานั่นทำให้เหล่าเพื่อนๆในทีมแปลกใจตามๆกันไป

    .

    .

    .

    20.16

    ความคึกในตัวนาซอเรียมันพุ่งขึ้นทันทีหลังจากที่สลิธีรินได้รับชัยชนะจากการแข่งในแมทแรกถึงจะยังไม่ใช่รอบชิงถ้วยรางวัลก็เถอะเผลอๆเธออาจจะมีความสุขมากกว่าคนลงแข่งซะอีกด้วยความคึกของนาซอเรียเธอจึงตั้งใจจะเดินไปส่งจดหมายให้กับน้าของเธออีกครั้ง โดยไม่ได้นัดจองฮวานไว้ล่วงหน้า เด็กสาวตัดสินใจเดินไปคนเดียวเพราะตลอดสองเดือนที่ผ่านมาก็ไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นเลย ไม่ว่าจะเรื่องแวมไพร์ที่ว่าจะมาก็ไม่มาผู้คนต่างไม่มีใครสงสัยอะไรกันและเหล่าคนที่รู้เรื่องก็ดูเหมือนจะลืมเรื่องราวเหล่านั้นไปหมดแล้วรวมถึงเหล่าพรีเฟ็คก็ด้วย พวกเขาได้นอนหลับกันอย่างสบายมากขึ้น

    .

    “พรุ่งนี้เราจะให้เขากลับมาอีกครั้ง” เสียงปริศนาดังขึ้นนาซอเรียบังเอิญไปได้ยินเข้าในระหว่างเดินทางกลับหอพักของสลิธีริน

    “พวกพรีเฟ็คคนอื่นก็น่าจะลืมไปหมดแล้ว”เสียงของอีกบุคคลดังขึ้นน้ำเสียงที่ดูคุ้นหูของนาซอเรียเหมือนเธอจะเคยได้ยินผ่านๆแต่เธอก็ไม่สามารถนึกได้ว่าใคร เด็กสาวแอบย่องเข้าไปใกล้อย่างเบาๆโดยเธอแอบอยู่หลังกำแพงกั้นข้างๆของเธอคือประตูเชื่อมไปอีกฝั่งก่อนจะสังเกตุเห็นเงาของคนสามคน ด้วยความสงสัยของเธอที่ว่าทำไมต้องมาคุยกันในเวลาแบบนี้และสถานที่แบบนี้เธอจึงแอบฟัง ก่อนจะมีหนึ่งในนั้นรู้ตัว

    “มีคนแอบฟังเราอยู่” เสียงที่เอ่ยขึ้นมานั้นเป็นเสียงของผู้หญิงดูเหมือนว่าเธอจะสังเกตเห็นเงาของนาซอเรียก่อนที่พวกเขาจะยกไม้กายสิทธิ์ขึ้นมาและชี้มาทางกำแพงที่มีนาซอเรียนั้นอยู่อีกฝั่ง นาซอเรียนั้นก้าวขาไม่ออกเธอได้แต่อยู่นิ่งๆอย่างเงียบพร้อมกับหลับตาภาวนาให้พวกเขาไม่รู้

    “ทำไม” โยชิโนริเดินไปประชันหน้าของทั้งสามคนโดยก่อนที่เขาจะเดินแสดงตัวให้ทั้งสามคนเห็นนั้นเขาได้ใช้ผ้าคลุมล่องหนของเขาคลุมนาซอเรียไว้ก่อนแล้วโดยระยะเวลาการเกิดขึ้นนั้นเป็นเพียงแค่เสี้ยววิเท่านั้น

    เขามาไวอย่างกับอยู่ที่นี่อยู่แล้ว

    “นายมาทำอะไรที่นี่” หนึ่งในกลุ่มนั้นกล่าวขึ้น

    “ก็มาเดินตรวจน่ะสิ พวกนายนั้นแหละมาทำอะไรที่นี่อู้งานรึไง?” โยชิโนริเอ่ยด้วยท่าทีที่เป็นปกติของเขา

    “อะไรกัน ก็ไม่มีใครหนิ” ชายหนุ่มคนหนึ่งโผล่หน้าออกมามองทางด้านอีกฝั่งของกำแพงที่พวกเขาคาดว่ามีคนอยู่แต่เมื่อมองหากับไม่เจอ

    นั่นพรีเฟ็คชายประจำบ้านฮัฟเฟิลพัพ คัง ซอกฮวา เธอมั่นใจนั่นคือเขาจริงๆ

    “ไม่นะ แต่ฉันรู้สึกได้จริงๆ” เสียงใสของผู้หญิงคนเดียวในนั้นไม่นับรวมกับนาซอเรีย เธอเอ่ยพร้อมกับชะโงกหน้าออกมาดูอีกครั้งที่ทำให้นาซอเรียใจเต้นแรงเพราะเธอแอบกลัวหน่อยๆ

    เธอก็คือพรีเฟ็คหญิงบ้านเรเวนคลอนั้นเอง จูดี้ วาดน์และเธอก็พลางนึกได้เมื่อเห็นจูดี้ ชายปริศนาเจ้าของน้ำเสียงที่ดูจะคุ้นเคยกับเธอนั้น นั่นก็คือ จางยุนซอ พรีเฟ็คบ้านเรเวนคลอ

    “เมื่อกี้นายเห็นใครตรงนี้มั้ย”จูดี้หันมาถามกับโยชิโนริ

    “ไม่” โยชิโนริตอบเสียงเรียบ

    “งั้นนายแอบฟังพวกเราหรอ”ยุนซอเอ่ย

    “มีอะไรให้ต้องแอบฟังรึไง นอกจาพวกนายจะมีอะไรจริงๆ” โยชิโนริกล่าวพร้อมก้มตัวไปบอกกับชายหนุ่มพรีเฟ็คบ้านเรเวนคลอก่อนโยชิโนริจะทิ้งท้ายและเดินกลับหลังออกไปโดยผ่านตัวนาซอเรียอย่างไม่แลมอง

    “จะพูดอะไรก็คิดหน่อยว่าถ้าพูดออกไปแล้วอาจจะดูเหมือนมีความลับอะไร อยู่ถึงเรเวนคลอก็น่าจะคิดได้”โยชิโนริพูดจบก็เดินออกไปทันทีโดยไม่รอคำตอบของเหล่าพรีเฟ็คหรือรอนาซอเรียเลย

    “หวังว่าหมอนั่นคงไม่ได้ยินอะไรจริงๆนะ”ซอกฮวาพูดทิ้งท้ายก่อนจะเดินออกไปและกลับไปทำหน้าที่พรีเฟ็คของเขาก่อนที่พรีเฟ็คเรเวนคลอทั้งสองจะเดินตามๆกันไป

    .

    .

    .

    เป็นการเดินกลับหอพักแบบเสี่ยงจริงๆ ด้วยเวลาตอนนี้ก็เลยสี่ทุ่มไปแล้วแถมในขณะเดินกลับนั้นยังเจอเข้ากับรุ่นพี่โซเฟียที่มักจะขู่หักคะแนนเธอให้ได้อยู่บ่อยๆแต่เธอทำไม่ได้เพราะตลอดสองเดือนที่ผ่านมานาซอเรียกับจองฮวานมักจะเจอเข้ากลับโซเฟียรุ่นพี่พรีเฟ็คบ้านกริฟฟินดอร์อยู่บ่อยๆและเวลาที่เจอเธอนั้นยังไม่ถึงเวลาเคอร์ฟิวของฮอกวอตส์แต่ในครั้งนี้ต่างไปเธอเจอเข้ากับโซเฟียแถมยังเกินเวลาเคอร์ฟิวแล้วซะด้วยแต่ครั้งนี้โชคดีไปที่เธอนั้นมีผ้าคลุมล่องหนของโยชิโนริอยู่กับตัวเธอจึงรอดตัวไป

    ให้ตายเถอะทำไมเธอชอบมาตรวจแถวๆหอพักของสลิธีรินกันนะ

    พอเข้ามายังในตัวหอพักของสลิธีริน เจ้าของผ้าคลุมล่องหนที่นั่งรอเด็กสาวอยู่จึงเงยขึ้นมามองยังสาวน้อยที่ถือผ้าคลุมล่องหนไว้ โดยข้างๆโยชิโนรินั้นยังมีจองฮวานและฮารุโตะนั่งอยู่ข้างๆทั้งสามนั้นมองมายังนาซอเรียอย่างๆไม่ได้นัดหมาย

    “ซินเธียบอกว่าเธอไม่อยู่ในห้อง เธอไปไหนมา” ซินเธียที่จองฮวานกล่าวถึงก็คือหนึ่งในรูมเมทของเธอ ซึ่งก็ถือว่าสนิทกันในระดับหนึ่ง

    “ไปแอบฟังคนอื่นคุยกันมา” โยชิโนริกล่าวออกมาอย่างเหน็บแนม

    “แค่ไปส่งจดหมายเอง และก็นี่”นาซอเรียพูดจบเธอก็ยื่นผ้าคลุมไปคืนยังเจ้าของของมัน โยชิโนริก็รับไว้อย่างง่ายดาย

    “ไม่บอกด้วยล่ะว่าไปแอบฟังคนอื่นเขาคุยกัน”

    “แค่บังเอิญไปได้ยินเอง”

    “ได้ยินอะไรไปบ้าง”

    “แค่สามประโยคต้องบอกมั๊ย หนูคิดว่าพี่น่าจะรู้อะไรมากกว่าหนูอีกนะ อยู่ตรงนั้นมานานรึยังก็ไม่มีใครรู้” นาซอเรียเอ่ยตอบโยชิโนริก่อนจะลดเสียงลงให้เบาเหมือนคุยกับตัวเองแต่ทั้งสามคนที่นั่งบนโซฟาก็ได้ยินอย่างชัดเจน

    “ง่วงละ ไปนะ”ฮารุโตะกล่าวเสร็จเขาก็เดินออกไปอย่างรวดเร็วด้วยความที่วันนี้เขามีการแข่งกีฬาเขาจึงเหนื่อยและต้องการพักผ่อนเป็นพิเศษ

    แล้วทำไมเขาไม่ไปนอนตั้งแต่แรกล่ะแล้วมาทำอะไรที่นี่หรือตามจองฮวานมา

    จองฮวานกับฮารุโตะพักอยู่ห้องเดียวกันก็ไม่แปลกถ้าเขาจะตามจองฮวานมาด้วยแต่มาทำไมนี่ก็อีกเรื่องหนึ่ง

    “ไปนอนกันเถอะ”โยชิโนริเอ่ยออกมาหลังจากฮารุโตะเดินออกไปได้ไม่นานจองฮวานที่ดูท่าจะง่วงนอนเอามากๆเขาจึงลุกออกไปโดยไม่ลืมบอกฝันดีแก่เพื่อนของเขา

    “ฝันดี เจอกันพรุ่งนี้”จองฮวานเดินออกไปและทิ้งให้นาซอเรียอยู่กับโยชิโนริกันสองคน

    “ไม่ไปนอนรึไง”โยชิโนริเอ่ยถามนาซอเรียที่ยังคงยืนอยู่กับที่ไม่ไปไหน

    “แล้วพี่ล่ะไม่ไปนอนหรอ” นาซอเรียเอ่ยถามโยชิโนริโดยไม่สนคำถามของเขาเมื่อกี้

    “เดี๋ยวฉันก็ไป เธอไปเถอะ” โยชิโนริพูดพร้อมกับเผลอแสดงความเหนื่อยล้าออกมา พอแข่งขันควิดดิชเสร็จตอนกลางคืนตอนเดินตรวจระเบียงอีกเขาได้พักเพียงไม่กี่ชั่วโมงเอง แต่โชคดีที่วันพรุ่งนี้คาบเช้าเขาไม่มีเรียน

    “พี่มาตั้งแต่เมื่อไหร่”นาซอเรียหมายถึงตอนที่เขาคลุมผ้าคลุมล่องหนให้กับเธอ

    “ฉันไม่ได้ตามเธอไปไหนแล้วกัน” โยชิโนริตอบกลับมาแต่มันไม่ตรงคำถามของนาซอเรียมันยิ่งทำให้เธอสงสัยเขานิดๆ

    “ตอบไม่ตรงคำถามนะรู้ตัวรึเปล่า” นาซอเรียเอ่ยออกมาก่อนที่เธอจะเอ่ยความสงสัยอีกอย่างออกมาว่า “หรือว่าพี่อยู่ตรงนั้นอยู่แล้ว” นาซอเรียเอ่ยประโยคที่ไปสะกิดโยชิโนริเล็กน้อยแต่เขาไม่ได้แสดงออกมาชัดเจนถึงขึ้นที่สามารถสังเกตุได้

    “ฉันง่วงแล้ว ไปนะ” โยชิโนริรีบลุกขึ้นอย่างรวดเร็วก่อนจะแสดงท่าทางที่ดูเหนื่อยล้าของเขาออกมา เขากำลังหนีเธออีกแล้วเขาพยายามเลี่ยงสาวน้อยตัวเล็กๆตลอดทั้งสองเดือนที่ผ่านมาและตอนนี้เขาก็กำลังทำเหมือนที่เคยทำ การเลี่ยงการตอบคำถามเหล่านี้

    “เอาอีกแล้วนะ หนีอีกแล้ว” นาซอเรียกล่าวก่อนจะรีบเดินตัดหน้าและตรงไปยังห้องนอนของเธอแสดงถึงความงอแงเมื่อมีสิ่งที่ไม่ได้ดั่งใจของเด็กวัยนี้ โยชิโนริทำได้เพียงแค่มองตามจนไม่สามารถเห็นตัวของสาวน้อยได้เขาจึงเดินไปหอนอนของเขาบ้าง

    เมื่อนาซอเรียถึงห้องเธอก็ล้มตัวลงนอนบนเตียงทันทีโดยไม่ได้สังเกตสิ่งผิดปกติของเตียงเธอเลย

    Haruto Talk

    ผมเดินกลับมายังห้องนอนของตัวเองอย่างเหนื่อยๆส่วนตัวก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามีเหตุผลอะไรต้องไปรอยัยเด็กนั่นทั้งๆที่ผมควรจะนอนอยู่บนเตียงและหลับไปตั้งนานแล้วแต่กลับไปหาเด็กสาวปีหนึ่งที่เคยบอกผมเมื่อเดือนก่อนว่าเธอนั้นเคยฝันถึงผมมาก่อนเข้ามาเรียนในโรงเรียนนี้ เอาจริงใครจะไปอยากจะเชื่อ แต่สายตาที่ดูจริงจังของเธอและการกระทำตอนเจอกันในช่วงแรกๆนั้นมันทำให้ผมคิดได้แต่ก็เสี้ยวเล็กๆนั้นแหละ

    เมื่อผมเปิดประตูเข้ามาอย่างแรกที่สังเกตเห็นเลยนั้นก็คือรูมเมทของผมนั้นยังไม่นอนกันแถมยังมานั่งเล่นบนเตียงของผมอีก ด้วยความสงสัยผมจึงรีบเดินเข้าไปดูก่อนจะเจอกับแมวตัวสีขาวตาสีฟ้าตัวเดียวกับที่เคยเดินมานั่งบนตักของผม และถ้าจำไม่ผิดเจ้าของแมวตัวนี้ก็คือยัยเด็กที่ผมเห็นทีไรก็รู้สึกแปลกๆทุกที

    “เดี๋ยว มันมาอยู่นี้ได้ไง” ผมกล่าวออกไปด้วยความสงสัย

    “ไม่รู้ดิ เข้ามาในห้องก็เห็นว่านอนบนเตียงนายแล้ว”แดเนียล หนึ่งในรูมเมทกล่าว

    “เรียกไปหาก็ไม่ไป นี่ก็เลยมาหาเอง” วินหรือบัง จุนฮยอกกล่าวเสริม อยู่ถึงสลิธีรินใครบอกว่าจะไม่มีมุมที่อ่อนโยนล่ะนี่ทาสแมวกันทั้งห้อง

    “เดี๋ยวนะ นี่ชิฟฟ่อนหนิมันมาอยู่นี่ได้ไงอ่ะ”จองฮวานเดินเข้ามาและแสดงท่าทีตกใจและสงสัย ก็อยากรู้เหมือนกันเนี่ย

    “พี่ไปเอามันมาหรอ?” จองฮวานพูดขึ้นอีกครั้ง

    “คิดว่าพวกเราขึ้นหอผู้หญิงได้รึไง”ผมตอบ

    “เดี๋ยว แมวตัวนี้ของเพื่อนนายหรอ”วินพูดขึ้นอย่างตาใสแป๋ว จองฮวานก็ได้พยักหน้าไป วินยกยิ้มขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด ดูเหมือนเขาจะสนใจในตัวของยัยเด็กนั่น

    “ลุกดิ จะนอน ง่วง” ผมไม่สนอะไรทั้งสิ้นพลางปัดแขนให้ทุกคนที่นั่งอยู่เตียงของผมลุกเพื่อผมจะได้นอน ทุกคนก็ยอมลุกแต่โดยดีแต่ไอ่แมวบ้านี่ดิ ไม่ขยับสักนิด ผมขมวดคิ้วก่อนจะอุ้มมันลงไปนอนกลับพื้น และมันก็ไม่ขยับไปไหนอีก คือผมต้องเอามันไปคืนเจ้าของมันใช่มั๊ย?แต่ดูท่าเจ้าของมันก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไรหนิ หรือว่าไม่รู้เรื่อง

    เฮ้อ ไม่รู้แล้ว ผมลุกขึ้นและอุ้มแมวมันขึ้นมาและเดินออกไปนอกห้องก่อนจะตรงไปที่ห้องนอนของโยชิโนริที่เป็นพรีเฟ็คชายของบ้าน ปกติเขาก็ห้ามให้นักเรียนชายเข้าหอพักนักเรียนหญิงยกเว้นพรีเฟ็คชายที่มีเรื่องด่วนจริงๆ ผมตรงไปแบบนี้ก็คงจะรู้ว่าผมจะทำอะไร

    เจ้าของแมวตัวนี้ตอนนี้จะเป็นยังไงนะ กระวนกระวายหาแมวไปทั่วหรือจะกำลังร้องไห้เพราะหาแมวไม่เจออยู่กันนะ อยากเห็นหน้าคนร้องไห้จริง

    End Haruto Talk

    นาซอเรียกำลังหลับปุ๋ยอยู่ต่างหากแต่ทะว่าเธอไม่ใช่คนที่ตื่นยากอะไรแต่ก็ไม่ง่ายขนาดนั้น โยชิโนริที่อุ้มแมวและยืนเคาะประตูห้องนอนของนาซอเรียอยู่นาน เขาจึงตัดสินใจเดินไปหาพรีเฟ็คหญิงของบ้านให้เธอมาเปิดประตูให้ เธอเปิดประตูให้พร้อมกับโยชิโนริปล่อยแมวตัวนั้นลงไปกับพื้นห้องเบา เขาสังเกตเห็นห้องที่มืดมิดมีเพียงแต่ข้างเตียงของนาซอเรียที่ยังเปิดโคมไฟไว้อยู่เขาจึงเห็นใบหน้าที่หลับเคลิ้มอยู่จนไม่รู้เลยว่าแมวของตัวเองนั้นไปอยู่ไหน โยชิโนริเผลอยิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนจะเดินออกไปและเจอเข้ากลับฮารุโตะที่นอนสัปหงกอยู่ในห้องพักรวม

    ฮารุโตะเดินมาส่งโยชิโนริก่อนจะนั่งรออยู่ข้างล่างเพราะเขานั้นไม่สามารถเข้าไปได้ โยชิโนริเห็นดังนั้นจึงเดินไปสะกิดเด็กชายก่อนจะบอกสิ่งที่ฮารุโตะอาจจะอยากรู้

    “เธอหลับ ไม่รู้เรื่องอะไรเลย” เธอที่โยชิโนริหมายถึงนั้นก็คือนาซอเรีย ฮารุโตะตุกยิ้มขึ้นเล็กน้อยเมื่อรู้ว่าสิ่งที่เขาคาดไว้ว่าเธออาจจะกำลังร้องไห้อยู่หรืออาจจะกำลังร้อนรนใจกระวนกระวายไปหมดนั้นไม่เป็นความจริงสักนิดเลย และต่างกันอย่างหริบหรี่

    ก็ดีที่ไม่ใช่เด็กขี้แง.....

    คนมันไม่รู้เรื่องต่างหาก...

    .

    .

    .

    07:15

    เอาอีกแล้ววว อีแมวบ้าเอ้ยยยยยย นาซอเรียสถบอยู่ในใจเมื่อได้รู้เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนก่อนจากปากจองฮวาน เมื่อคืนพอเธอมาถึงเตียงเพียงเวลาไม่ถึงห้านาทีเธอก็หลับไปซะแล้วโดยลืมคำนึงถึงสัตว์เลี้ยงของเธอเลย

    “อนิเมจัสแน่ๆ”จองฮวานย้ำคำเดิมๆให้นาซอเรียจนเธออยากจะฟาดเขาด้วยแซนวิชในมือจริงๆ น่ารำคาญจริงๆ แมวของเธอเป็นสัตว์ที่น่ารักมากไม่มีทางเป็นอนเมจัสแน่ๆ

    “ฉันรำคาญ” นาซอเรียกล่าว

    “หลับสบายเปล่าเมื่อคืน” ฮารุโตะเดินกล่าวพลางเดินเข้ามานั่งลงตรงข้ามของทั้งสอง

    “เห็นว่าหลับสนิทเลย”โยชิโนริกล่าวเสริมเขาเดินตามหลังฮารุโตะเพียงแค่ไม่กี่เมตรก่อนจะเดินมานั่งลงข้างๆฮารุโตะหรือตรงข้ามนาซอเรีย เด็กสาวมองหน้าเขาเพียงชั่วพริบตาก่อนจะกลับมาสนใจแซนวิชในมือ

    เธอกำลังแสดงอาการโกรธต่อโยโนริ

    “แมวเธอนี่มันยังไง เธอเป็นคนปล่อยมันขึ้นไปบนหอชายรึเปล่า” ฮารุโตะพูดเอ่ยขึ้นเมื่อโยชิโนริมานั่งข้างๆ

    “บ้ารึไง” นาซอเรียตอบเธอพูดทั้งๆเธอยังคงให้ความสนใจกับแซนวิชในมืออยู่

    “อ้อ งั้นหรอกหรอ” ฮารุโตะพูดอย่างช้าๆเหมือนว่าเขาเข้าใจแล้วก่อนจะพูดออกมาอีกครั้งด้วยความกวน “ใครจะเชื่อ” การปั่นหัวเล็กๆของฮารุโตะมันทำให้นาซอเรียเงยหน้าขึ้นมามองขวางใส่เขาก่อนที่สายตาจะเลื่อนไปเห็นคนตรงข้ามเธอที่จ้องเธอมาอยู่สักพักแล้วแต่สาวน้อยก็ไม่ได้สนใจ

    “ไม่ใช่ว่านายเอามันไปหรอกหรอ” นาซอเรียกล่าวเพื่อเลี่ยงการสบสายตากับโยชิโนริ

    “คิดว่าฉันจะเดินขึ้นไปเอาในห้องเธอรึไง” อารุโตะตอบ

    “คงงั้นมั้ง” นาซอเรียตอบแบบปัดๆไป

    “คิดได้นะ” ฮารุโตะสถบออกมาเล็กน้อยก่อนจะกลับมาสนใจกับอาหารของตน

    .

    .

    .

    “เดินเข้าไปหาเถอะถ้าจะมองขนาดนั้น” ฮารุโตะพูดขึ้นเมื่อคนข้างกายเขาอย่างโยชิโนริกกำลังจ้องเด็กสาวที่เมื่อเช้านั่งกินข้าวฝั่งตรงข้ามพวกเขา แต่ท่าทีของเด็กสาวดูเหมือนจะไม่ได้สนใจพวกเขาสักนิด

    ตอนนี้นาซอเรียกับจองฮวานอยู่ในห้องสมุดและกำลังอ่านหนังสือเพื่อศึกษาหาข้อมูลของเนื้อหาที่ศาสตราจาร์ยได้สั่งให้เด็กปีหนึ่งบ้านสลิธีรินและฮัพเฟิลพัฟไปหามา โดยที่ทั้งสองไม่ได้สังเกตถึงการอยู่ของโยชิโนริและฮารุโตะที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งของทางเดิน

    “ฉันไม่ได้มองนาซอเรียสักหน่อย” โยชิโนริกล่าวก่อนจะกลับมาสนใจหนังสือในมือ

    “ยังไม่ได้บอกชื่อเลยว่ามองใครแค่พูดรวมๆถึงสองคนนั้นเอง”ฮารุโตะพูดก่อนจะตามมาด้วยอีกประโยคนึงที่ไปกระทบส่วนใดส่วนนึงของโยชิโนริ“หรือว่ามองยัยนั่น”โยชิโนริแสดงท่าทีที่เรียบเฉยออกมาและไม่ได้ตอบกลับอะไรฮารุโตะ

    “แล้วเรื่องแวมไพร์เป็นไงบ้าง”ฮารุโตะเอ่ยถามด้วยท่าทีที่เบื่อหน่าย ห้องสมุดไม่ใช่สถานที่ที่เขาโปรดปานเอาซะเท่าไหร่และไม่ได้อยู่ในลิสต์สถานที่ที่อยากมาในหัวของเขาแถมยังไม่เคยคิดจะเข้ามาด้วยซ้ำถ้ามันไม่ใช่เรื่องจำเป็นจริงๆแต่ครั้งนี้แตกต่างไปนิดตรงที่เขาต้องมาหาโยชิโนริเพราะว่าเขานั้นได้ไปรู้มาว่ากัปตันทีมควิดดิชของบ้านนั้นอาการหนักขึ้นจากแข่งขันเมื่อวานจึงถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลเซนต์มังโกเขาจึงมาหาโยชิโนริเพื่อบอกข่าวและให้โยชิโนรินั้นเป็นกัปตันทีมชั่วคราว แต่แทนที่เขาจะกลับเมื่อมาบอกธุระเสร็จเขากลับเลือกนั่งโง่ๆอยู่ตรงนี้ต่อโดยที่ไม่คิดจะหยิบหนังสือมาอ่านเลย

    “ก็เรื่อยๆ”โยชิโนริตอบแบบปัดๆและยังคงอ่านหนังสือในมือต่อ

    “ตอบเหมือนไม่เข้าใจคำถาม ถามว่า เ รื่ อ ง แ ว ม ไ พ ร์ เ ป็ น ไ ง บ้ า ง”ฮารุโตะย้ำเป็นทีละคำให้กับโยชิโนริ

    “ถามเหมือนไม่เข้าใจคำตอบ บอก ก็ เ รื่ อ ย ๆ ไง”โยชิโนริย้ำคำทีละคำเหมือนฮารุโตะ

    “เดี๋ยว มาได้ไงเนี่ย” ฮารุโตะตกใจเล็กน้อยเมื่อหันไปเห็นคนที่มานั่งข้างๆตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้วแต่เขานั้นพึ่งรู้ตัว

    “ได้ยินคำว่าแวมไพร์แว็บๆก็เลยมา” อาซาฮิตอบพลางใช้นิ้วเรียวลูบตามสันหนังสือ

    “ไง” มาชิโฮเดินเข้ามาพร้อมรอยยิ้มและโบกมือให้

    ครบกลุ่มเจแปนไลน์

    “มาทำไมกัน” ฮารุโตะเอ่ยถามเมื่อทั้งสองเข้ามาอย่างกับถูกนัดหมายเอาไว้แล้ว

    “มาไม่ได้หรอ”มาชิโฮกล่าวพร้อมกับทำหน้าตาน่ารักๆส่งไปให้ยังฮารุโตะ แน่นอนว่าฮารุโตะต้องทำหน้าตาที่ดูสะอิดสะเอียนตอบ

    โยชิโนริพับหนังสือลงไว้ข้างๆตัวก่อนจะขยับตัวเล็กน้อยและจัดท่ายืนพิงกำแพงของเขาเล็กน้อย แสงสว่างที่ส่องเข้ามาด้านในนั้นถูกบดบังจากโยชิโนริจึงทำให้นาซอเรียเงยหน้าไปมองยังต้นตอที่บังแสงสว่างจากดวงจันทร์ของธอก่อนจะสบตาเข้ากับโยชิโนริและเพียงชั่วครู่เธอก็กลับไปสนใจหนังสือของตนอีกครั้ง

    เธอรู้อยู่แล้วต่างหากว่าเขาอยู่ตรงนี้ด้วยเพียงแต่แค่ไม่สนใจ

    “วันนี้ก็ระวังหน่อยละกัน”อาซาฮิกล่าวขึ้นทั้งๆที่ยังคงใช้นิ้วเรียวลูบกับสันหนังสือตรงหน้าต่อ

    “ไม่วันนี้ก็วันพรุ่งนี้ เชื่อเถอะเร็วๆนี้แหละ”มาชิโฮกล่าวเสริม ใบหน้าของโยชิโนริแสดงเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรไปด้วย แต่ฮารุโตะนั้นไม่รู้เรื่องเลย

    “มีเรื่องอะไรกัน” ฮารุโตะเอ่ยถามด้วยท่าทีที่สงสัยแต่เขากลับถูกทุกคนเมิน

    .

    .

    .

    “อ๊ะ!!!”นาซอเรียแผดเสียงร้องออกมาเมื่อเธอถูกนกฮูกตัวหนึ่งมากัดระหว่างที่เธอกำลังจะเดินกลับหลังจากยื่นซองจดหมายให้นกฮูกไปแล้ว เธอไม่รอช้าเอานิ้วชี้ของตนที่ถูกกัดเอาเข้าปากเธอดูดเลือดที่ซึมออกมาโดยที่ลืมคิดว่าอาจจะติดโรคอะไรจากนกฮูกตัวนั้นก็ได้เพราะเชื้อโรคในนั้นอาจมีไม่น้อยเลย

    “เป็นอะไร”จองฮวานรีบวิ่งเข้ามาดูเมื่อได้ยินเสียงร้องของเพื่อนสาว เขาดึงนิ้วของนาซอเรียออกมาดูก่อนจะเห็นเลือดที่ไหลไม่หยุดไหลออกมาเรื่อยๆ

    “ไปห้องพยาบาลเถอะ”จองฮวานกล่าวอย่างเป็นห่วง

    “ฉันอยากกลับห้องแล้ว”นาซอเรียพูดตาแป๋วที่ดูเหมือนจะร้องไห้

    “บ้ารึไงถ้ามันเป็นอะไรขึ้นมาอ่ะ ทั้งดูดเลือดที่ไม่รู้ว่ามีเชื้อโรคอะไรบ้าง เนี่ยนะจะไม่ไป”จองฮวานใช้มือข้างหนึ่งผลักหน้าผากของนาซอเรียไปข้างหลังก่อนจะบ่นออกมาเรื่องที่สาวน้อยที่ทำอะไรไม่คิด

    โอเคร นกฮูกนี่ทำให้เป็นโควิดได้เปล่า

    .

    .

    .

    “นิ้วไปโดนอะไรมา”ฮารุโตะเอ่ยถามเมื่อเห็นว่านิ้วชี้ของนาซอเรียนั้นถูกพันไว้ด้วยผ้าก็อซ

    “แมวกัด”นาซอเรียตอบปัดๆไป

    “ไปโกหกกับแมวเธอนะ สรุปโดนอะไร” ฮารุโตะถามอีกครั้ง

    “มีดบาด” นาซอเรียตอบปัดๆเช่นเดิม

    “ล่าสุดเข้าไปทำอาหารแทนเอลฟ์ประจำบ้านแล้วรึไง” ฮารุโตะกล่าวพลางใช้มือของตนเท้าคางมองคนตรงหน้าที่แถไปเรื่อยๆ

    “จะมองอีกนานมั๊ย” นาซอเรียกล่าวพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมามองยังฮารุโตะ

    ผมว่ารูปประโยคมันคุ้นๆ

    “ก็บอกมาสิว่าไปโดนอะไรมา”ฮารุโตะดูเหมือนจะต้องการจะรู้มากจริงๆและเขายังคงยืนยันถามคำถามเดิม

     เขาจะไม่ทำอะไรเลยถ้าไม่รู้เลยรึไง

    “โดนจองฮวานกัดมา” คนที่ถูกพาดพิงถึงขึ้นหันหน้ามาพร้อมช้อนที่กำลังจะเข้าปากที่กำลังอ้าอยู่นาซอเรียเห็นดังนั้นจึงดันช้อนนั้นเข้าปากจองฮวานไป

    “เห็นโยชิโนริรึเปล่า”ยุนซอเดินเข้ามาถามระหว่างที่นาซอเรียกำลังใช้มือดันช้อนเข้าปากจองฮวานอยู่พอดีจึงทำให้เขาเห็นผ้าก็อซที่นิ้วชี้ของนาซอเรีย ฮารุโตะได้ยินดังนั้นจึงมองซ้ายมองขวาก่อนจะเห็นคนที่ถูกถามหากำลังก้าวเข้ามาจากประตู

    “นู่นไง”ฮารุโตะมองไปยังคนที่กำลังเดินเข้ามาจากประตู

    “นิ้วไปโดนอะไรมางั้นหรอ”ยุนซอไม่ได้หันไปตามเสียงบอกของฮารุโตะแต่เขามองมายังนิ้วมือของนาซอเรีย

    “อ๋อ มันแค่โดนกัดนิดหน่อยน่ะค่ะ”นาซอเรียตอบกลับไปพร้อมกับรอยยิ้ม

    “โดนอะไรกัด” นาซอเรียสัมผัสได้ถึงความเยือกเย็นที่กล่าวออกมาจากปากของยุนซอ

    “นกฮูก...” สายตาที่ส่งมานั้นมันทำให้นาซอเรียกลัวเล็กน้อยจึงทำให้เธอตอบเอาเบาๆ

    “เข้าใจแล้ว หายไวๆนะ แล้วก็ขอบคุณมาก”เขาเงียบไปชั่วขณะและเพียงเสี้ยววิใบหน้าของยุนซอก็เปลี่ยนเป็นรอยยิ้มเขาลูบหัวนาซอเรียเบาๆก่อนจะหันมาขอบคุณฮารุโตะและเดินมาเจอกับโยชิโนริพอดี

    “มีอะไร”โยชิโนริกล่าวเมื่อยุนซอไม่ยอมเดินออกไปยังคงยืนขวางเขาไว้

    “ไม่มี ”ยุนซอตอบกลับและจะยกยิ้มมุมปากให้กับโยชิโนริก่อนจะเดินออกไป

    ก็กะว่าจะคุยกันหน่อยแต่ไม่ดีกว่ามีเรื่องอื่นสำคัญกว่า หึ

    “อ้าว ไหนถามหานายแต่กลับเดินผ่านไปงั้น?”ฮารุโตะที่มองสถานการณ์เมื่อกี้ทั้งหมดก็กล่าวออกมางงๆ โยชิโนริได้แต่คิดถึงรอยยิ้มเมื่อกี้ก่อนจะไปเห็นผ้าก็อชที่นิ้วชี้ของนาซอเรีย

    “ไปโดนอะไรมา”โยชิโนริเอ่ยถามเด็กสาวตรงหน้า

    “ผมกัดเองแหละ หิว”จองฮวานกล่าวออกมาโดยไม่รอคำตอบจากคนที่ถูกถามตอบ

    .

    .

    .

    .

    //To Be Continued//

    ใดๆคือพิซอกหนูค่าตัวแพงจังคะจะคุยด้วยทีไรโดนขัดตลอดเลยจริงๆ แง ว่าแต่เค้าหายไปนานเปล่า?พอดีไปปั่นวิวwayoมาอยู่55 จริงๆนะ เวโยๆยังติดอยู่ในหัวอยู่เลย


    ยังไงก็ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะติชมเราได้เลย และอย่าลืมไปฟังเพลงของเยดัมด้วยนะคะ เอ็นจอยนะคะ

     

     

     

     

     

     

     





     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×