คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : เด็กสาวผู้ถูกแวมไพร์กัด
“สลิธีรินทางนี้” เสียงเรียกของรุ่นพี่พรีเฟ็คหญิงประจำบ้าน ร้องเรียกเหล่าเด็กปีหนึ่งให้เดินแยกออกไปจากบ้านอื่นๆลงไปยังชั้นล่างที่เป็นชั้นที่หอของบ้านสลิธีรินอยู่ และอยู่ๆก็มีมือหนาที่คว้าไหล่ของนาซอเรียรั้งเธอไว้ทำให้เธอต้องหันหน้าไปหาโดยที่เหล่าเพื่อนๆของเธอเดินไปกันแล้ว
“เดี๋ยวก่อน ขอโทษนะแต่ฉันมีเรื่องจะคุยด้วยหน่อยน่ะ”ชายหนุ่มพรีเฟ็คบ้านกริฟฟินดอร์เจ้าของมือที่รั้งนาซอเรียไม่ให้เดินไปหรือคนเดียวกับคนที่ดักแมวของเธอเอาไว้นั่นเอง
“คือพี่ชื่อ ฮยอนซอ—"
“เธอเป็นเด็กปีหนึ่งตอนนี้เธอต้องตามพรีเฟ็คประจำบ้านไปไม่ใช่รึไง” น้ำเสียงของเด็กหนุ่มในเสื้อคลุมบ้านกริฟฟินดอร์ที่กำลังเปล่งออกมานั้นจู่ๆก็ถูกน้ำเสียงของใครอีกคนขัดขึ้นมาทำให้ทั้งสองหันไปมอง เจ้าของเสียงเดินเข้ามาเรื่อยๆจนมาหยุดตรงข้างๆนาซอเรีย
“ทำไมมาอยู่ตรงนี้ล่ะ” เขามองหน้าหญิงสาวเพียงชั่วครู่ก่อนจะมองไปที่พรีเฟ็คของบ้านกริฟฟินดอร์
“เพราะหมอนี่หรอ เธอถึงไม่ตามเพื่อนไป”
เขาชี้นิ้วไปหาฮยอนซอกก่อนจะชำเลืองตามองเธอและเปลี่ยนไปมองฮยอนซอก คนถูกชี้กระตุกยิ้มมาทีนึงก่อนจะกอดอกและมองมายังคนที่ชี้เขา
“ชีกเกอร์บ้านสลิธีรินมีอะไรกับเรางั้นหรอ ไม่เห็นรึไงว่าคุยกันอยู่”
“ก็รู้นะแต่เด็กปีหนึ่งตอนนี้ต้องไปตามพรีเฟ็คประจำบ้านไม่ใช่รึไง? ยัยนี่ต้องไปดูสถานที่ที่จะต้องพักและไหนจะกฎต่างๆที่ต้องรู้อีกถ้ามารบกวนอย่างนี้เด็กใหม่อย่างยัยนี่จะรู้ทางไปรึไง เป็นถึงพรีเฟ็คก็น่าจะรู้เรื่องนี้ดีนะ”
“ฉันไปส่งเธอได้”
“แล้วรู้รหัสบ้านสลิธีรินรึไง ”
ท่าทีของทั้งสองดูเหมือนจะไม่ค่อยถูกกันสักเท่าไหร่พวกเขามองหน้ากันอย่างเงียบๆสายตาที่ดูกวนประสาทของคนข้างกายนาซอเรียยังคงส่งไปถึงคนตรงข้ามอยู่เรื่อยๆ จนกระทั่ง
“ฮารุโตะ”
เสียงเรียกที่ทำให้เด็กชายผมบลอนด์ทองสว่างหันไปหาจากทางข้างหลัง ด้วยความที่นาซอเรียนั้นไม่รู้ว่าใครคือฮารุโตะและก็อยากรู้ด้วยว่าใครคือฮารุโตะเธอจึงหันไปพร้อมด้วย
“เดี๋ยว นี่เด็กปีหนึ่งไม่ใช่รึไง?ทำไมมาอยู่ตรงนี้ไม่ได้ตามพรีเฟ็คไปงั้นหรอ”
ชายหนุ่มในเสื้อคลุมบ้านสลิธีรินตรงอกขวานั้นมีสัญลักษณ์ตัวอักษรPติดอยู่ซึ่งแสดงว่าเขาคือพรีเฟ็คของบ้านสลิธีริน ชายหนุ่มใช้นิ้วเรียวชี้มาที่นาซอเรียพลางขมวดคิ้วเล็กน้อยและมองหน้าฮารุโตะสลับกับนาซอเรีย
“ก็พรีเฟ็คบ้านกริฟฟินดอร์มาขวางไม่ให้เธอไปน่ะสิ”ฮารุโตะเอ่ยพร้อมกับเลื่อนสายตามองไปยังฮยอนซอก
“นายก็น่าจะรู้นะฮยอนซอก ว่าช่วงเวลานี้ต้องปล่อยให้เด็กปีหนึ่งกลับหอไปกับพรีเฟ็ค ส่วนเธอมากับฉัน”
ชายหนุ่มหลังจากเขาพูดจบเขาก็เดินมาคว้าข้อมือของนาซอเรียและพาเดินออกไป ตามด้วยเด็กหนุ่มผมบลอนด์ทองสว่างหรือคนที่ชื่อว่าฮารุโตะที่เดินตามหลังมาโดยไม่ลืมที่จะส่งยิ้มไปให้ฮยอนซอก
“เธอต้องไปกับพรีเฟ็คบ้านตัวเองสิไม่ใช่พรีเฟ็คบ้านอื่น”
พอเดินได้ไม่นานเขาก็ปล่อยมือและบ่นเธอด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นเพียงประโยคเดียวจากนั้นสถานการณ์ก็กลับมาเงียบดังเดิมจังหวะหนึ่งที่นาซอเรียหันไปมองคนที่เดินตามอยู่ข้างหลัง สายตาเย็นชาถูกส่งมายังเด็กสาวฮารุโตะมองเธออย่างเย็นชาก่อนที่เด็กสาวจะหันกลับไปเธอทำได้แค่เพียงเงียบตามสถานการณ์ตอนนี้และเดินตามชายหนุ่มพรีเฟ็คประจำบ้านไปพร้อมกับฮารุโตะที่เดินตามหลังมา
“ว่าแต่มีอะไรจะคุยกับฉัน” เด็กหนุ่มที่เดินตามอยู่ข้างหลังจู่ๆก็พูดขึ้นมาในระหว่างทางที่มีแต่ความเงียบ
“ไว้ก่อน เดี๋ยวค่อยคุย”
“เรื่องไร”
“ควิดดิช”
การสนทนาที่คุยกันเพียงสองโดยที่เด็กหนุ่มพรีเฟ็คไม่ได้หันหน้ามาคุยด้วยแต่ยังคงเดินต่อไปและการสนทนาจบเพียงแค่คำว่าควิดดิชสถานการณ์ก็กลับมาสู่ความเงียบ
.
.
.
“เธอเข้าไปเองได้ใช่มั้ย ฉันมีเรื่องจะคุยกับหมอนั่น”เมื่อเดินทางมาถึงยังทางเดินไปยังหอของสลิธีรินชายหนุ่มพรีเฟ็คหันกลับมาหาเธอด้วยหน้าตาที่เรียบเฉยและเลื่อนสายตาไปมองหน้าของเด็กหนุ่มที่อยู่ข้างหลังเธอเพื่อบ่งบอกว่าจะคุยกับเขา
“แทนกันได้น่ารักที่สุดเลย” ฮารุโตะตอบประชดแสดงถึงความสนิทสนมกันไม่น้อยทีเดียวของสองคนนี้ นาซอเรียพยักหน้าเล็กน้อยและเดินไปแต่ก่อนที่เธอจะได้พูดรหัสผ่าน รุ่นพี่พรีเฟ็คผู้หญิงของบ้านก็ออกมาก่อนด้วยท่าทางที่ร้อนรนดูท่าเหมือนจะไปตามหาตัวเด็กสาวอยู่พอดีและเมื่อได้เห็นเด็กสาวเสียงลมหายใจเฮือกใหญ่ก็ถูกถอนออกมา ดูเหมือนเธอจะตามหานาซอเรียจริงๆนั้นแหละ
พอเธอเข้าไปยังหอพักพรีเฟ็คสาวก็อธิบายลายระเอียดอะไรต่างๆให้เด็กสาวจนหมดแถมยังบอกชื่อพรีเฟ็คที่เดินมาส่งว่าชื่อ คาเนะโมโตะ โยชิโนริและอธิบายหลายๆอย่างให้เธอแล้วค่อยปล่อยเธอไปจัดของที่ห้องนอน
21.02
“ว่าไง เธอเลทมาสองนาที” จองฮวานที่นั่งรอเด็กสาวอยู่ที่ห้องนั่งเล่นของบ้านก็เอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่าเพื่อนของเขาเดินออกมาแล้ว ในขณะที่ทานข้าวจองฮวานได้บอกกับนาซอเรียว่าเขาจะเอานกฮูกของเขาไปไว้ที่โรงนกฮูกและให้เธอไปเป็นเพื่อนด้วยโดยที่นาซอเรียนั้นก็บอกให้ไปหลังเลิกเรียนของพรุ่งนี้แต่จองฮวานกลับร้องท้วงเพราะเขาขี้เกียจเลี้ยงไว้ข้างๆเตียง
แล้วจะซื้อมาเลี้ยงทำไมก่อน
“เอาน่ารีบไปกันเถอะ” นาซอเรียเดินมายังจองฮวานก่อนจะดึงแขนเขาให้ลุกขี้นโดยที่จองฮวานก็ยอมลุกขึ้นอย่างโดยดีและเขาไม่ลืมที่จะหยิบกรงที่มีนกฮูกของเขาไปด้วย
ในขณะที่นาซอเรียกำลังจะเปิดประตูออกไปประตูนั้นก็ถูกเปิดเข้ามาก่อนโดยพรีเฟ็คของบ้านและเด็กชายผมสีบลอนด์ทองสว่างคนที่เคยเห็นเขาในฝันของเธออยู่ด้วยกัน หน้าตาของทั้งสองดูเย็นชาเป็นปกติแต่เพียงเสี้ยววิหนึ่งที่นาซอเรียแอบสังเกตุเห็นว่าใบหน้าของทั้งสองนั้นแสดงความเครียดออกมาหรือมันเป็นหน้าตาปกติของทั้งสองอยู่แล้วนะ เธอได้แต่คิดแล้วก็สงสัย
“จะไปไหนกัน” โยชิโนริเปิดประเด็นถามคนแรกเมื่อไม่มีใครยอมหลบให้อีกฝ่ายเดิน
“จะเอานกฮูกไปไว้ที่โรงนกฮูกครับ” จองฮวานพูดพร้อมกับชูกรงนกฮูกขึ้นให้คนตรงหน้าดูแต่ต่างจากนาซอเรียที่สำรวจใบหน้าของเด็กหนุ่มผมบลอนด์มาสักพักแล้ว
“ทำไมไม่ไปวันพรุ่งนี้มันจะถึงเวลาที่เขาห้ามออกจากหอแล้—“
“เธอจะมองอะไรนักหนาตั้งแต่ตอนกินข้าวแล้วนะ มองอยู่นั้นแหละจะมองอะไรนักหนา รู้จักกันรึไง”โยชิโนริที่กำลังพูดในฐานะพรีเฟ็คประจำบ้านที่เตือนเด็กในบ้านแต่ก็มีเสียงแทรกขึ้นมาทำให้ทั้งโยชิโนริและจองฮวานให้ไปมอง ฮารุโตะที่ดูเหมือนจะมีเรื่องอารมฌ์เสียอยู่แล้วและยังมาเจอกับนาซอเรียอีกคงทนไม่ไหวเลยเผลออารมณ์ขึ้นใส่เธอ
“แล้วนายรู้จักฉันรึเปล่า เราเคยเจอกันที่ไหนมาก่อนรึเปล่า?” นาซอเรียที่ไม่ได้ตั้งใจจะยั่วโมโหเลยสักนิดเธอเอ่ยออกไปด้วยความสงสัยทั้งนั้น แต่คนตรงหน้ากลับหัวเสียเพิ่มขึ้นอีก
“ฉันก็ถามเธออยู่นี่ไงว่ารู้จักฉันรึไง” นาซอเรียจ้องมองคนที่คิดว่าตัวเองกำลังโดนปั่นหัวจากเด็กสาวตรงหน้า เธอจ้องมองเข้าไปยังนัยน์ตา ดวงตาที่ดูไม่สบอารมณ์แถมยังดูเย็นชาอีกต่างหากช่างแตกต่างกับเขาในความฝันที่ดูขี้เล่นนัยน์ตาที่ดูแสดงถึงความอ่อนโยนความอบอุ่นที่มีต่อเธอ แต่ตอนนี้ไม่ใช่ เขาเหมือนไม่ใช่คนนั้น ไม่มีทางใช่ ถึงรูปร่างหน้าตาจะเหมือนกันก็เถอะแต่เขาไม่ใช่คนเดียวกันแน่ๆนาซอเรียถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนเอ่ยออกมากและเดินออกระหว่างพวกเขาทั้งสองออกไป
เขาไม่ใช่คนในฝันหรอกและไม่มีทางที่จะใช่…
“ฉันคิดว่าเราคงไม่รู้จักกันหรอก ขอโทษด้วยละกัน" เธอกล่าวก่อนจะเดินเลี่ยงออกมา
“เดี๋ยวสินาซอเรีย รอกันหน่อยสิ” จองฮวานที่ตะโกนเรียกเพื่อนของเขาก่อนจะรีบเดินตามไป
“ฉันจะตามเด็กพวกนั้นไป นายไปพักเถอะ และอย่าลืมเรื่องที่คุยกันล่ะ“
โยชิโนริบอกย้ำกับฮารุโตะก่อนที่เขาจะเดินตามเด็กปีหนึ่งสองคนไป ฮารุโตะยืนคิดสักพักก่อนจะเดินตามไปที่โรงนกฮูกอีกคน
.
.
.
“เธอรู้จักรุ่นพี่ฮารุโตะด้วยหรอ” จองฮวานที่ถาม ในระหว่างกำลังเดินทางไปหอคอยโรงนกฮูก
“คิดว่าไม่”
“ทำไมถึงคิดว่าล่ะ”
“ก็ไม่รู้จักจริงๆ”
“เดี๋ยว พวกเธอสองคนน่ะ”นาซอเรียและจองฮวานหันไปตามเสียงเรียกและพบเข้ากับพรีเฟ็คประจำบ้านของพวกเขาที่กำลังเดินมาหาพวกเขาทั้งสอง
“รีบขึ้นไปฉันจะรออยู่ตรงนี้”โยชิโนริพูดเสร็จก็เดินไปพิงกับผนังของกำแพงหอคอยและกอดอก เด็กปีหนึ่งทั้งสองหันหน้ามามองก่อนที่ฝ่ายชายจะไหวไหล่ให้และเดินขึ้นไปบนหอคอยตามด้วยเด็กสาว
“ไง” ฮารุโตะเดินมาพร้อมกับโบกมือให้ชายหนุ่มพรีเฟ็คที่กำลังยืนพิงกำแพงอยู่นั้นโยชิโนริที่เห็นเด็กชายรุ่นน้องเดินมาเขาจึงเอ่ยถามพร้อมกับคลายแขนที่กอดอกลง
“มาได้ไง”
“บินมา” ฮารุโตะตอบด้วยน้ำเสียงเรียบตามสไตล์ของเขา
“โอเคร ฉันถามผิดเอง มาทำไม” โยชิโนริเอ่ยถามเด็กชายอีกครั้ง
“มีเรื่องอยากถาม”
“เรื่อง?”
“จำเรื่องเมื่อปีที่แล้วได้เปล่า เรื่องที่มีคนถูกแวมไพร์ดูดเลือด”
“ทำไม”
ฮารุโตะเปลี่ยนสีหน้าเป็นดูจริงจังขึ้นส่วนโยชิโนริก็ขมวดคิ้วเข้าหากันเมื่อนึกถึงเรื่องนั้น
ฮารุโตะพูดถึงเรื่องเมื่อปีที่แล้วที่เขาและโยชิโนริกำลังเดินทางไปยังสนามเพื่อซ้อมควิดดิชแต่เมื่อถึงโถงหนึ่งพวกเขากลับเจอกับเด็กสาวปีหนึ่งบ้านฮัฟเฟิลพัฟนอนหมดสติอยู่ พวกเขาทั้งสองรีบวิ่งเข้าไปดูก่อนจะเจอกับรอยเขี้ยวของแวมไพร์อยู่ตรงต้นคอของเด็กสาวคนนั้น โยชิโนริรีบอุ้มเธอขึ้นเพื่อพาไปยังห้องพยาบาล ก่อนฮารุโตะจะสังเกตุเห็นกระดาษโน๊ตที่ถูกเขียนด้วยเลือดวางอยู่ไม่ไกลเขาไม่ลืมที่จะคว้ามันมาและเปิดอ่านไปด้วย พอถึงห้องพยาบาลศาสตราจารย์ใหญ่และอีกหลายๆคนรีบเข้ามาดูฮารุโตะไม่ลืมที่จะยื่นกระดาษที่เขาเก็บมาได้ให้กับศาสตราจารย์ก่อนที่ศาสตราจารย์ประจำห้องพยาบาลจะช่วยกันรักษาเธอ เพราะเหตุการณ์นั้นส่งผลบ้านสลิธีรินได้คะแนนเพิ่มและได้รางวัลบ้านดีเด่นในปีที่แล้วพร้อมกับโยชิโนริที่ได้รับเลือกให้เป็นพรีเฟ็คประจำบ้าน
“จำเนื้อหาในโน๊ตนั้นได้รึเปล่า...มันเขียนว่าวีล่า...” ฮารุโตะเอ่ยถามคนตรงหน้าก่อนจะพูดถึงสิ่งที่ถูกเขียนไว้ในโน้ต ใบหน้าของโยขิโนริขมวดคิ้วมากกว่าเดิมถึงเรื่องที่เขาลืมไปสนิท
“แวมไพร์ตัวนั้นต้องการเลือดของวีล่า แต่ยัยนั่นไม่ใช่วีล่า”
ยัยนั่นที่ฮารุโตะหมายถึงก็คือเด็กสาวที่โดนแวมไพร์กัดเมื่อปีที่แล้ว เจนนิษฐ์ ลี เด็กสาวปีเดียวกันกับฮารุโตะเธอรอดจากเหตุการณ์และผู้คนต่างเชื่อว่าที่เธอไม่ได้กลายเป็นแวมไพร์นั่นก็เพราะเชื่อว่าเธอเป็นวีล่าด้วยลักษณะภายนอกของเธอที่มีผมสีทองและมีดวงตาสีฟ้าที่เป็นลักษณะเด่นของวีล่า ยกเว้นเหล่าศาสตราจารย์ทั้งหลายและฮารุโตะต่างคิดว่าเธอคือสาวน้อยเลือดผสมเฉยๆ เจนนิษฐ์และฮารุโตะกลายเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันและสิ่งที่ฮารุโตะมั่นใจว่าเธอไม่ใช่วีล่าก็คือเธอนั่นไม่ได้มีเสน่ห์ดึงดูดเพศตรงข้ามเยอะจนมีแต่คนหลงไหลเธอขนาดนั้น ในปัจจุบันเจนนิษย้อมผมเป็นสีดำไปเป็นที่เรียบร้อย
“ทำไมนายคิดงั้น แล้วจู่ๆทำไมถึงมาสงสัยเรื่องนี้กัน”โยชิโนรินั่นเขาก็รู้อยู่แก่ใจว่าเด็กสาวที่เขาช่วยไว้นั่นไม่ได้เป็นวีล่าแต่เขาไม่ได้สนใจอะไร เธอก็ถือว่าเป็นรุ่นน้องที่น่ารักคนนึงแต่ความสงสัยที่โยชิโนริสงสัยนั้นก็คือทำไมฮารุโตะถึงมาถามเรื่องนี้
“ก็ยัยนั้นไม่มีอะไรที่ดึงดูดฉันเลย และฉันคิดว่าแวมไพร์ตนนั้นต้องรู้แน่ๆว่ายัยนั่นไม่ใช่และฉันคิดว่าเขาจะกลับมา”
เจนนิษฐ์ก็ถือว่าเป็นคนสวยคนนึงแต่ฮารุโตะไม่ได้ชอบเธอ ใบหน้าของเด็กสาวลูกครึ่งเกาหลี-สวีเดนใบหน้าของเธอนั้นออกแนวหวานราวลูกอแสนอร่อยแถมเธอยังมีเรือนผมสีบลอนด์ดวงตาสีฟ้าไม่แปลกที่จะบอกว่าเธอเป็นวีล่าได้ง่ายๆแต่ก็อย่างที่บอกเธอไม่ได้ดึงดูดเท่าวีล่าขนาดนั้นเธอแค่เป็นคนสวย
“นายคิดมากไปรึเปล่า พวกศาสตราจารย์คงไม่ปล่อยให้แวมไพร์เข้ามาอีกหรอก”
“นายคิดอย่างงั้นจริงดิ นายก็รู้ว่าแวมไพร์ในโลกเวทมนตร์เป็นสิ่งมีชีวิตชั้นสูงอีกอย่างเราก็ยังไม่รู้ด้วยว่าตนไหนกัด เขาจะกลับมาเมื่อไหร่ก็ได้ใครจะรู้”
ก็จริงตามที่ฮารุโตะพูดพวกเขาไม่มีใครรู้เลยว่าตนไหนกัดหรืออาจจะเป็นคนที่แฝงตัวในโรงเรียนอยู่ก็ได้ และคงจะยากที่ฮอกวอตส์จะปฎิเสธการคบค้ากับพวกแวมไพร์ ในขณะที่โยชิโนริกำลังคิดอะไรอยู่นั้นอยู่ๆก็มีเสียงของเด็กชายที่ตะโกนบอกเด็กหญิงที่กำลังวิ่งลงบันไดอย่างรีบร้อน ทั้งฮารุโตะและโยชิโนริหันไปตามเสียงของทั้งสอง
“นาซอเรีย!! อย่าวิ่งสิ เดี๋ยวเธอก็ตกบันไดหรอก!!”
“ไม่สนแล้ว นายจะให้ฉันรอค้างคาวบ้านั่นกัดรึไง!! “
“มันไม่ได้ตามมาสักหน่อย ช้าหน่อยสิ”
“ไม่เอา เดี๋ยวมันก็มา กรี๊ด!!!!”
“ระวัง!!!”
เสียงกรี๊ดของนาซอเรียก่อนจะตามด้วยเสียงกระแทกพื้นหญ้าของโยชิโนริที่รับตัวของนาซอเรียไว้ได้แต่เขาดันพลาดท่าไปซะหน่อยทำให้ทั้งคู่ล้มลงกับพื้นหญ้าโดยที่ตัวของเด็กสาวส่วนสูง150นอนทับตัวของคนสูง175อยู่ เมื่อเธอรู้ตัวจึงรีบลุกขึ้นก่อนจะรีบขอโทษรุ่นพี่ ฮารุโตะเข้าไปช่วยพยุงตัวของโยชิโนริส่วนจองฮวานก็เข้ามาเช็คสภาพเพื่อนของตน ภาพมันจะเป็นยังไงนะถ้าไม่มีโยชิโนริรับตัวไว้
“จะรีบอะไรขนาดนั้น ถ้าไม่มีคนรับเธอจะเป็นไง” ฮารุโตะเอ่ยขึ้นเชิงดุเด็กสาว
“ก็มันมีค้างคาว” นาซอเรียตอบกลับ
“แล้วเธอไม่เคยเห็นค้างคาวรึไง”
“ไม่น่ะสิ ค้างคาวบ้าอะไรจะอยู่ที่นี่”
“แล้วมันอยู่ไม่ได้ว่างั้นเถอะ”
“ก็ไม่ได้น่ะสิ นี่โรงนกฮูกนะ”
“ทำไมจะไม่ได้ กลัวแม้กระทั่งค้างคาวเธอคงเรียนที่โรงเรียนนี้ยากแล้วแหละ”
“มันเรื่องของฉันเถอะ มันจ้องขนาดนั้นแถมยังโผลบินเข้ามาหาอีกใครไม่กลัวก็ให้มันรู้ไป”
“เธอนี่น่าจะไม่มีใครรับตัวไว้นะ”
“จะกลับกันได้ยัง”
โยชิโนริเอ่ยท่ามกลางสงครามย่อมๆของทั้งสอง คนนึงก็ปากหาเรื่องอีกคนก็ไม่ยอมเนี่ยแหละลักษณะหลักๆของคนที่ต้องทะเลาะกัน จองฮวานก็คงอยากกลับไม่ต่างกัน เขาพยักหน้ารัวๆตอนที่โยชิโนริเอ่ยขัดทั้งสอง สงครามสงบลงหลังจากนั้นทั้งนาซอเรียและฮารุโตะหันหน้าเบือนหน้าออกไปคนละทิศคนละทาง และในขณะเดียวกันโยชิโนริก็สังเกตเห็นค้างคาวสามตัวบินออกไปจากยอดหอคอยสิ่งนั้นทำให้โยชิโนรินึกขึ้นมาได้ว่าแวมไพร์สามารถแปลงร่างเป็นค้างคาวได้หรือแม้แต่นกฮูกแวมไพร์ก็แปลงเป็นได้จากสิ่งที่คิดทำให้โยชิโนริเริ่มเห็นด้วยกับฮารุโตะที่ว่าแวมไพร์อาจจะกลับมาก็ได้แต่เป็นเพียงส่วนเล็กเพราะหลักฐานไม่ได้ชัดเจนขนาดนั้น
“ไปได้ยัง?” ขณะที่โยชิโนริหันไปมองยังฮารุโตะพร้อมกับเจ้าตัวก็หันมาพอดี ฮารุโตะเอ่ยคำพูดที่บ่งบอกว่าเขาอยากกลับเต็มทนแล้วโยชิโนริไม่ได้ตอบกลับอะไรเขาได้แต่พยักหน้าก่อนที่ฮารุโตะจะเดินออกไปก่อน
ระหว่างทางเป็นอะไรที่น่าสนใจเอามากๆสำหรับจองฮวานเพราะเขานั้นชวนรุ่นพี่ทั้งสองคุยแต่เรื่องควิดดิช โยชิโนริและฮารุโตะที่อยู่ในทีมควิดดิชของบ้านอยู่แล้วจึงคุยกับจองฮวานได้ดีและจองฮวานนั้นได้ทำการโม้มาทุกอย่างแล้ว ตั้งแต่เขาไปเที่ยวงานเวิลด์คัพกับพ่อทุกปีตั้งแต่เขาอายุได้2ขวบ พวกเขาคุยกันได้ดีมากแต่เด็กสาวเพียงคนเดียวนั้นกลับไม่ได้สนุกด้วยขนาดนั้น เพราะเธอไม่ได้สนใจอะไรพวกนี้อยู่แล้ว
.
.
.
ในระหว่างที่นาซอเรียและจองฮวานกำลังจะเดินเข้าไปทานในห้องโถงของฮอกวอตส์ไปทานข้าวก็มีหญิงสาวที่ดูร้อนรนวิ่งมาชนเข้ากับเธอทำให้นาซอเรียเซไปข้างหน้าเป็นจังหวะเดียวกับที่ฮยอนซอกเดินอยู่ข้างหน้าเธอพอดี เธอเซไปชนกับหลังของฮยอนซอกพอดีก่อนที่เธอจะรีบผละตัวออก ฮยอนซอกขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะหันกลับมามองยังคนที่ชนเขาเต็มๆก่อนจะพบกับเด็กสาวคนเล็กกำลังทำหน้ามุ้ย
“ขอโทษค่ะ”นาซอเรียพูดขอโทษฮยอนซอกเบาๆเขาส่ายหัวเชิงบอกว่าไม่เป็นไรพร้อมกับส่งรอยยิ้มมาให้เธออีกครั้ง
“ขอโทษนะพอดีฉันมีเรื่องด่วนน่ะ” หญิงสาวในชุดบ้านเรเวนคลอรีบหันมากล่าวขอโทษนาซอเรียก่อนที่เธอจะหันกลับไปเพื่อจะเดินต่อไปตรงไปแต่เธอกลับถูกชายหนุ่มบ้านกริฟฟินดอร์ข้างๆฮยอนซอกรั้งไว้ซะก่อน เหตุการณ์ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นภายในเพียงเสี้ยววิเท่านั้น
“มีไรรึเปล่าฮาร์เชล”ชายหนุ่มหน้าหวานในชุดของบ้านกริฟฟินดอร์เอ่ยถามหญิงสาวในชุดบ้านเรเวนคลอด้วยความเป็นห่วง โดยนาซอเรีย จองฮวานและฮยอนซอกยังยืนฟังกันอยู่
“ปล่อยฉันก่อนแจฮยอกฉันต้องไปหาศาสตราจารย์ ฉันมีเรื่องด่วนจริงๆ”
เด็กสาวบ้านเรเวนคลอเอ่ยก่อนจะเลื่อนสายตาไปเจอฮยอนซอกเธอก็สังเกตเห็นตราพรีเฟ็คที่ติดอยู่ตรงอกของฮยอนซอกพอดีก่อนที่เธอจะเปลี่ยนเป้าหมายพร้อมเดินมาหาฮยอนซอกส่วนเจ้าตัวนั้นได้แต่งง
“พี่ก็พรีเฟ็คนี่นา” เธอเดินมาหาฮยอนซอกก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยความจริงจังที่เพิ่มความงุนงงให้กับเขาแต่ประโยคที่เธอพูดออกมาต่อนั้นทำให้ทำให้ทุกคนที่อยู่ในวงสนทนาขมวดคิ้วกันไปตามๆกันโดยมีฮารุโตะและโยชิโนริพร้อมกับเด็กสาวจากบ้านฮัพเฟิลพัฟเดินมาด้วยข้างๆเดินมาอยู่ข้างหลังพอดีทำให้พวกเขาได้ยินประโยคถัดไปมาด้วย
“มีนกฮูกตายอยู่โรงนกฮูกประมาณห้าถึงตัวได้ พี่ต้องไปดูพวกมัน”
“ให้ตายเถอะ”
“จองฮวาน!!”
หลังจากที่หญิงสาวพูดจบจองฮวานก็สถบออกมาก่อนจะรีบหันหลังและรีบวิ่งออกไป เขารีบวิ่งออกไปจนชนเข้ากับไหล่ของเด็กสาวจากบ้านฮัฟเฟิลพัฟข้างๆตัวฮารุโตะ นาซอเรียที่เห็นดังนั้นจึงตะโกนเรียกและรีบเดินตามเพื่อนเธอแต่เธอเจอเข้ากับสายตาของโยชิโนริและฮารุโตะที่มองเธออยู่ เธอมองพวกเขาทั้งสองเพียงเสี้ยววิก่อนจะรีบตามจองฮวานไปก่อนที่ฮยอนซอกและโยชิโนริจะรีบเดินตามไป ฮารุโตะที่หมดหนทางหรืออยากรู้เรื่องที่เกิดขึ้นก็ไม่รู้ก็ตามไปอีกคนพร้อมเด็กสาวข้างตัวส่วนหญิงสาวบ้านเรเวนคลอเธอก็รีบวิ่งไปแจ้งให้กับศาสตราจารย์ใหญ่โดยที่มีแจฮยอกไปเป็นเพื่อน
.
.
.
“โฮกอซ!!!!” จองฮวานตะโกนเรียกนกฮูกที่เป็นสัตว์เลี้ยงของเขาก่อนที่นกฮูกหิมะของเขาจะบินลงมาหา เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่และคลายยิ้มออกมาพร้อมกับเสียงหอบจากความเหนื่อยของนาซอเรียที่ตามมาติดๆเธอใช้มือข้างมือนึงเท้ากับผนังพร้อมหายใจเข้าออกเฮือกใหญ่เพื่อลดความเหนื่อยของตนก่อนที่ทั้งสองจะตั้งสติได้และมองไปทั่วๆพื้นฟางที่มีซากนกฮูกไร้ลมหายใจอยู่ทั่วพื้นฟาง ไม่นานฮยอนซอกและคนอื่นๆก็ตามมาสิ่งแรกที่ทุกคนมาถึงแล้วต้องทำนั่นก็คือการมองหน้าของทั้งสองคนก่อนจะมองลงไปตามที่ทั้งสองมอง ในขณะที่ทุกคนตกอยู่ในความเงียบขาเรียวของเด็กสาวจากบ้านฮัฟเฟิลพัฟก็ถูกก้าวออกเธอเดินไปยังซากนกอูกก่อนจะก้มลงไปดูซากนกฮูกพวกนั้น
“ทำอะไรของเธ—“
“แวมไพร์” ฮารุโตะที่กำลังเอ่ยถามแต่เสียงของคนที่ก้มมองซากนกฮูกพวกนั้นแทรกเข้ามาซะก่อน
“พวกมันน่าจะถูกแวมไพร์ดูเลือดไปนะ ฉันคิดว่าฉันคุ้นเคยกับรอยพวกนี้นะ”เธอหันมาหน้ากลับมาก่อนจะกล่าวและยกยิ้มขึ้นให้เมื่อพูดจบ รอยที่ดูคุ้นเคยกับเธอ เธอคือเจนนิษฐ์เด็กสาวที่ถูกแวมไพร์กัดเมื่อปีที่แล้ว
“หมายความว่ายังไงเจนนิษฐ์” ฮารุโตะเอ่ยถาม
“ก็หมายความว่าแวมไพร์มันกลับมาน่ะสิ ฉันบอกแล้วว่าฉันไม่ใช่วีล่า”
เจนนิษฐ์กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่สั่นไหวต่อสิ่งที่เธอต้องทนโดนต่อว่าว่าเป็นพวกครึ่งพันธุ์มาเป็นเวลานาน แต่คำว่าวีล่านั้นมันไปกระตุ้นนาซอเรียอย่างแรงทำให้เธออยากรู้เอาไม่น้อย เกี่ยวอะไรกับวีล่า
“ตายจริง เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย!!” ศาสตราจารย์คนหนึ่งที่เอ่ยขึ้นท่ามกลางความเงียบของทุกคนพร้อมกับทุกคนหันไปมองยังบุคคลมาใหม่กัน
“ฉันว่าฉันต้องเรียกประชุมพรีเฟ็คแล้วแหละ” ศาสตราจารย์ใหญ่อย่างศาสตรามิเนอร์ว่าเอ่ยขึ้นพร้อมมองไปที่พรีเฟ็คทั้งสองในที่แห่งนั้นและส่งสายตาที่บ่งบอกว่าให้พาเหล่านักเรียนคนอื่นออกไปก่อนออกไป
.
.
.
“ดีนะนกฮูกของฉันไม่เป็นไร”
“ฉันก็อยากจะรู้เหมือนกันถ้าเป็นนกฮูกของนายนายจะร้องไห้รึเปล่า” ในขณะเดินทางกลับไปเพื่อทานข้าวจองฮวานก็กล่าวออกมาอย่างโล่งใจที่ไม่ใช่นกฮูกของเขานาซอเรียจึงกล่าวต่อด้วยการที่แซะเพื่อนชายที่วิ่งแจ้นออกไปเมื่อรู้ว่ามีนกฮูกตาย
“ถ้านายร้องภาพลักษณ์ของสลิธีรินต้องเปลี่ยนไปแน่” การเหน็บแนมของฮารุโตะที่ทำให้จองฮวานต้องหันไปมองคนพูดที่เดินตามหลังของเขามา ฮารุโตะเดินตามหลังนาซอเรียและจองฮวานส่วนข้างๆเขานั้นก็มีเด็กสาวจากบ้านฮัฟเฟิลพัฟเดินอยู่ด้วยตามด้วยชายหนุ่มจากกริฟฟินดอร์และหนึ่งเด็กสาวจากเรเวนคลอ ครบทุกบ้านในที่แห่งนี้
คาบแรกวันนี้ของนอซอเรียและจองฮวานที่ต้องได้เรียนก็คือวิชาประวัติศาสตร์เวทมนตร์ซึ่งวันนี้สลิธีรินเรียนกับกริฟฟินดอร์ต้องเรียนด้วยกัน อย่างที่รู้กริฟฟินดอร์กับสลิธีรินก็ไม่ถูกอยู่นิดหน่อยการเรียนจึงมีความกัดแซะกันบ้างเพิ่มสีสันในการเรียน การเรียนคาบนี้หมดไปอย่างเรียบง่าย....นั้นแหละ เรียบง่าย... คาบต่อไปนั้นนาซอเรียต้องไปเรียนฝึกการบินและสลิธีรินยังคงเรียนกับเด็กปีหนึ่งของบ้านกริฟฟินดอร์เช่นเดิม
ระหว่างกำลังเดินตามอาจารย์นาซอเรียสังเกตเห็นชายหนุ่มพรีเฟ็คของบ้านสลิธีรินเดินผ่านไปสีหน้าของเขาดูเครียดไม่น้อยดูเหมือนว่าเขาพึ่งจะเลิกประชุมกับเหล่าประธารนักเรียนและศาสตราจารย์จังหวะนึงที่เขาหันมาสบตากับเธอพอดีก่อนเขาจะละสายตาออกและเดินเข้าไปในห้องเรียนของเขา
.
.
.
19:55
วันแรกผ่านไปด้วยดีตอนนี้นาซอเรียอาบน้ำเสร็จเรียบร้อยและเธอเตรียมพร้อมที่จะนอนเต็มทีแต่ในเวลาแบบนี้ใครมันจะไปนอนหลับ ปกติเวลานี้นาซอเรียพึ่งกินข้าวเย็น เพื่อนๆที่เป็นรูมเมทเธอพวกเขาก็ลงไปข้างล่างกันหมดทิ้งให้เธอนอนคิดอะไรไปมาบนเตียงคนเดียว ไม่นานเธอจึงลุกขึ้นและตรงไปเขียนจดหมายเพื่อจะส่งไปหาน้าสาวและคุณอาของเธอ
เมื่อเธอเขียนเสร็จจึงตรงมาข้างล่างและมองหาเพื่อนชายของเธอก่อนเห็นเขากำลังคุยกับฮารุโตะอย่างออกรสอยู่จึงทำให้เขาไม่ได้สังเกตเห็นสาวน้อยที่ในมือยืนถือจดหมายไว้อยู่ นาซอเรียตัดสินใจที่จะไปคนเดียวเพราะเธอไม่ต้องการรบกวนเขา
ยืนอยู่จากจุดนี้ยังได้ยินเลยว่าเขากำลังคุยเรื่องควิดดิชอีกแล้ว ดูเหมือนเขาจะสนใจเรื่องนี้จริงๆ
เมื่อเธอเดินออกมาจากตัวหอพักของสลิธีริน และขึ้นมาถึงยังทางเดินที่ผ่านหน้าหอกริฟฟินดอร์เธอเดินมาเจอกับเด็กสาวบ้านฮัพเฟิลพัฟพอดีเธอส่งยิ้มมาให้พร้อมกับเดินมายังนาซอเรีย
“จะไปไหนงั้นหรอ”
“จะไปส่งจดหมายะ”เธอเดินเข้ามาถามด้วยความเป็นมิตรนาซอเรียได้ยินดังนั้นเธอจึงตอบกลับด้วยรอยยิ้มเช่นกัน
“คนเดียวหรอ? ฉันไปส่งดีกว่านะมันอันตราย”นาซอเรียได้ยินดังนั้นความรู้สึกที่แล่นมาตอนนั้นก็คือความเกรงใจแต่สายตาที่เธอส่งมานั้นคงยากที่จะปฎิเสธนาซอเรียพยักหน้าพร้อมกันเด็กสาวจากบ้านฮัพเฟิลพัฟเดินเข้ามาหาและเดินออกไปพร้อมกัน
ระหว่างทางพวกเธอได้แนะนำตัวให้กันและกันแถมรุ่นพี่สาวยังเล่าเรื่องที่เจอเมื่อปีที่แล้วให้ฟังซะด้วยพี่สาวจากบ้านฮัลเฟิลพัฟนั้นเธอชื่อเจนนิษฐ์ ลี เธอคือคนเดียวกับคนที่โดนแวมไพร์กัดเมื่อปีที่แล้วแถมยังโดนเข้าใจผิดว่าเป็นวีล่าซะอีก เจนนิษฐ์ยังบอกอีกว่าเธอมีเพื่อนเพียงแค่ไม่กี่คนแถมยังอยู่คนละบ้านกับเธอซะอีกหนึ่งในนั้นนั่นก็คือฮารุโตะบ้านสลิธีรินและพัคจองอู บ้านกริฟฟินดอร์สองคนนี้คือคนที่เธอสามารถเรียกว่าเพื่อนได้เต็มปาก ส่วนคนอื่นถึงจะบ้านเดียวกันแต่พวกเขายังแสดงท่าทีเหยียดใส่เธอไม่มากก็ไม่น้อยแต่เพราะกาลเวลามันก็ทำให้บางคนลืมไปแล้ว
“ให้ตายเถอะ ฉันเบื่อแล้วนะ เราต้องอยู่อีกนายขนาดไหนกันเนี่ย” เมื่อนาซอเรียและเจนนิษฐ์เดินขึ้นมาเกือบถึงโรงนกฮูกพวกเธอทั้งสองก็หยุดชะงักเมื่อมีเสียงใสของหญิงสาวดังออกมาจากด้านในโรงนกฮูกน้ำเสียงของเธอบอกได้ชัดเจนเลยว่าเธอเบื่อเต็มทีที่ต้องมาอยู่ที่นี่แล้ว ไม่นานก็มีเสียงตอบกลับมาเสียงที่คุ้นเคยสำหรับนาซอเรีย พวกเธอทั้งสองหยุดฟังพวกเขาอย่างไม่มีสาเหตุ
“โซเฟียพวกเรายังอยู่ไม่ถึง1ชั่วโมงเลยด้วยซ้ำ”
“นายไม่คิดว่ามันน่าเบื่อหรอกหรอ เชื่อฉันเถอะแวมไพร์ตัวนั้นก็น่าจะรู้ว่าเรารู้ตัวแล้วมันก็คงไปที่อื่นมากกว่า เฮ้อ...ฉันว่าวันนี้เหล่าพรีเฟ็คคงจะได้หลับกันยากน่าดู” บทสนทนาของฮยอนซอกและหญิงสาวปริศนาที่ดูเหมือนจะเป็นพรีเฟ็คเช่นกันจากบทสนทนาของทั้งสองทำให้นาซอเรียเข้าใจได้ว่าพวกเขาทั้งสองคนโดนสั่งให้มาเฝ้าที่นี่และฝ่ายหญิงแสดงถึงความเบื่อหน่ายชัดเจนเอามากๆ
“พวกเธอสองคนมาทำอะไรกัน” เสียงที่ดังมาจากข้างหลังของนาซอเรียและเจนนิษฐ์พวกเธอทั้งสองสะดุ้งตัวแรงแต่ดีที่ไม่ถึงกับกรี๊ดเพราะเสียงที่มาจากข้างหลังของทั้งสองทำให้พวกเธอหันไปมองยังตัวต้นเหตุที่ทำให้พวกเธอตกใจ ส่วนสองคนที่อยู่ด้านในก็พลางได้ยินไปด้วยจึงออกมาดู
“พี่มาแบบให้สุ่มให้เสียงหน่อยก็ได้มั๊ย” เจนนิษฐ์เอ่ยโทษโยชิโนริที่ยืนอยู่ข้างหลังของทั้งสองเขาเป็นตัวต้นเหตุที่ทำให้เธอทั้งสองตกใจ
“นาซอเรีย” เสียงเอ่ยเรียกของฮยอนซอกทำให้เด็กสาวหันไปหาเขา เขามองเธอก่อนสายตาจะเลื่อนไปมองโยชิโนริที่ยืนอยู่ข้างหลังนาซอเรีย
“มีอะไรรึเปล่าโยชิโนริ” เสียงใสของเด็กสาวผู้ที่ยืนอยู่ข้างๆฮยอนซอกเอ่ยขึ้นมา เธอเป็นผู้หญิงที่สวยใช่ย่อยส่วนสูงของเธอน่าจะร้อยหกสิบกว่าๆต่างจากนาซอเรียที่ตอนนี้สูงเพียงหนึ่งร้อยห้าสิบเซนติเมตร
“ประธานเรียกประชุม แล้วพวกเธอมาทำอะไรที่นี่” โยชิโนริตอบหญิงสาวพรีเฟ็คของกริฟฟินดอร์ถึงสิ่งที่เขามาที่นี่ก่อนเลื่อนสายตามามองเด็กสาวสองคนที่ยืนระหว่างพวกรุ่นพี่ปีห้า เจนนิษฐ์จับข้อมือของนาซอเรียข้างที่ถือจดหมายชูขึ้นเชิงบอกว่าพวกเธอมาส่งจดหมาย
“รีบเข้าไปฉันจะรอ พวกเธอไปก่อนเลยเดี๋ยวตามไป” โยชิโนริกล่าวบอกเด็กสาวทั้งสองก่อนเลื่อนสายตาไปบอกพรีเฟ็คของบ้านกริฟฟินดอร์ทั้งสอง
“เธอไปก่อนเลยเดี๋ยวฉันตามไป”
“เดี๋ยวนะนี่พวกนายจะให้ผู้หญิงอย่างฉันเดินไปคนเดียวงั้นหรอ?”
ฮยอนซอกหันไปบอกหญิงสาวข้างเขาก่อนที่เธอจะหัวเสียเล็กน้อยที่ปล่อยให้เธอเดินไปคนเดียวเพื่อรอเด็กสาวปีหนึ่งที่มาส่งจดหมายเพียงคนเดียวเธอเสยผมไปหหนึ่งครั้งก่อนจะเดินไปพิงตัวที่กำแพงเพื่อบ่งบอกว่าเธอก็จะรอเช่นกัน ก่อนที่นาซอเรียและเจนนิษฐ์จะเดินเข้าไปข้างใน
“โฮกอซ มานี่มา” นาซอเรียร้องเรียกนกฮูกหิมะของเพื่อนตนก่อนจะใช้มันไปส่งจดหมายจองฮวานเป็นคนบอกเธอเองว่าจะเรียกใช้นกของเขาเมื่อไหร่ก็ได้มื่อต้องการเขาพึ่งบอกเธอไปเมื่อเช้าและแน่นอนเธอจะใช้มันคืนนี้เลย
“ฝากด้วยนะ” เธอยื่นจดหมายให้มันก่อนจะลูบหัวของมันและบอกมันบินไป เธอมองตามมันก่อนพวกเธอทั้งสองจะเดินออกไป
.
.
.
“นาซอเรีย เธอไปไหนมา”
“เดี๋ยวนะ”
จองฮวานที่ตะโกนเรียกนาซอเรียเมื่อเธอกำลังเดินผ่านห้องโถงของสลิธีรินเพื่อเข้าไปในหอนอนของเธอต้องชะงักและหันไปตามเสียงเรียกของจองฮวานก่อนจะเหลือบไปเห็นคนข้างๆจองฮวานที่มีแมวของเธอนอนอยู่บนตักเขาอยู่
สัตว์สุดแสนจะน่ารักและแสนจะรักมากของนาซอเรียกำลังนอนอยู่บนตักของฮารุโตะ เธอรีบตรงไปอุ้มแมวพร้อมมองตาขวางใส่ฮารุโตะกับจองฮวาน
ให้ตายเถอะนี่พวกเขาไปเอาแมวของเธอมารึไงเนี่ย
To be continued
.
.
.
Talk with me
มาแล้วนะ มาช้าหน่อยเพราะมันเปิดเรียนออนไลน์แล้วอ่ะเนาะเวลาก็ไม่ค่อยมีเขียนเท่าไหร่คือรร.เค้าเรียนในกูเกิ้ลมีต ถึงจะเรียนวันละสามถึงสี่คาบและยังพักหนึ่งชั่วโมงระหว่างคาบแต่เค้าก็ยังรู้สึกถึงความเหนื่อยอย่างเเรงอาจจะเพราะจ้องคอมทั้งวันด้วยแหละมันปวดตามากๆจริงๆ กำลังใจเขียนคือมีเยอะมากๆนะแต่ตาเราแทบจะไม่ไหวแล้วเลยค่ะ55 ยังไงก็ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะจะติหรือชมเค้าได้ตามสบายเลย เอ็นจอยนะคะ
ความคิดเห็น