คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Intro
2Yaer ago
“วันนี้เป็นไงบ้าง มีความสุขมั้ย” เสียงทุ้มมีเสน่ห์ของคนสีบลอนด์สว่างตรงหน้ากล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม วันนี้ฉันฝันถึงเขาอีกแล้วสินะ...
“วันนี้เธอหกล้มหนิ เจ็บรึเปล่า? ถ้าเจ็บก็ร้องไห้ได้นะฉันรู้ว่าเธออยากร้องออกมา แต่เธอกลับไม่อยากให้ใครรู้สินะ” เด็กหนุ่มตรงหน้ากล่าวออกมาราวกับเขาอยู่ในเหตุการณ์ด้วยแต่เด็กสาวจำได้ว่าตอนที่เธอหกล้มนั้นเธออยู่คนเดียว เขารู้ได้ยังไง
“สงสัยล่ะสิว่าฉันรู้ได้ยังไง” เขาเอ่ยพร้อมรอยยิ้มที่สดใสก่อนจะพูดประโยคต่อมา“ไม่บอกหรอก :p” เขาพูดจบรอยยิ้มของคนแกล้งที่สำเร็จก็เผยอย่างปิดไม่มิด
“ถ้าตื่นแล้วอย่าลืมไปล้างแผลทำแผลดีๆด้วย” ดวงตาที่เปี่ยมไปด้วยความขี้เล่นยังคงจ้องมองมาที่เด็กสาวแม้ประโยคที่เขาพูดนั้นจะจบไปแล้วก็ตามเขายังคงมองมายังนัยน์ตาของเด็กสาวอยู่และเพียงเสี้ยววิมุมปากเขาก็ยกขึ้นเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มสดใสส่งมาเด็กสาว
และภาพก็ตัดมายังเพดานห้องนอน
.
.
.
07:14
นาซอเรีย ฮาร์เปอร์ บีเวย์รอล เด็กสาววัย 11 ปีที่นอนมองเพดานห้องมา5นาทีแล้วตั้งแต่ลืมตาตื่นขึ้นมา ในหัวของเธอยังคงคิดถึงเรื่องที่ฝัน ทุกเช้าหรือทุกครั้งตื่นขึ้นจากการฝันถึงเขาคนนั้นเธอมักจะนอนคิดถึงเรื่องที่ฝันอยู่ตลอด ถึงมันไม่มีอะไรมากมันก็แค่ความฝันแต่มันก็น่าแปลกที่ฝันถึงเขาบ่อยขนาดนี้หรือเธอยึดติดกับเขาเกินไปนะถึงได้ฝันถึงเขาบ่อย ชื่อก็ไม่รู้หน้าตาก็ไม่เคยเจอเลยในโลกแห่งความเป็นจริง อายุก็ไม่รู้แต่เธอคิดว่าอายุเขาคงเท่าๆกับเธอหรืออาจะมากกว่าหรือน้อยกว่าแต่น่าจะรุ่นราวคราวเดียวกัน เด็กสาวไม่ปล่อยให้ตัวเองนอนแช่คิดถึงแต่เรื่องของเขาบนเตียงนานกว่านี้อีกแน่ เธอลุกจากเตียงก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไปและจัดการตัวเอง
"นาซอเรียตื่นรึยัง" เสียงดังมาจากนอกประตูห้องนอนของเด็กสาว
"หนูอาบน้ำอยู่ค่ะ" เสียงตะโกนตอบกลับจากห้องน้ำ
"เสร็จแล้วลงมากินข้าวด้วยนะน้าทำอาหารไว้ให้แล้ว"
"เดี๋ยวหนูลงไปค่ะ" เสียงตะโกนตอบกลับของเด็กสาวทำให้ผู้เป็นน้าเดินออกไป
ไม่นานหลังจากนั้นเธอก็ออกจากห้องและจัดการใส่เสื้อผ้าและจัดเตียงก่อนจะเดินลงไปทานข้าวที่ชั้นล่างที่น้าสาวเตรียมไว้ให้
นาซอเรียนอาศัยอยู่กับน้าสาวและสามีของน้าอยู่ที่ลอนดอน เฮเรน่า บีเวย์รอล บารอฟ เป็นน้องสาวแท้ๆของพ่อเธอ ฮาร์เปอร์ โรบินซ์ บีเวย์รอล พ่อและน้าสาวของเธอนั้นทั้งสองเป็นลูกครึ่งไทย-อังกฤษ ส่วนแม่ของนาซอเรียนั้นเป็นไทยเสี้ยวฝรั่งเศษ หน้าตาของนาซอเรียจึงออกไปทางเอเชียที่มีความหวานหน่อยๆและความฝอนิดๆ และการที่เธอมาอาศัยอยู่กับน้าของเธอนั้นก็เพราะพ่อกับแม่ของเธอนั้นเสียชีวิตไปตั้งแต่เธออายุ7ขวบด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ จึงทำให้น้าสาวรับเธอไปเลี้ยงในฐานะลูกสาวคนหนึ่ง น้าของที่อยากมีลูกเป็นทุนเดิมอยู่เเล้วแต่ไม่สามารถมีลูกเพราะสามีของนั้นไม่สามารถมีลูกได้ น้าของเธอจึงตอบตกลงในทันทีที่จะเลี้ยงหลานสาวคนเดียวครอบครัวนาซอเรียจึงได้มาอยู่กับน้า
เนื่องจากเหตุการณ์ที่พ่อกับแม่เธอเสียทำให้เธอไม่มีใจที่อยากออกไปไหนแม้แต่โรงเรียนจึงทำให้เธอได้เรียนแบบโฮมสคูลตั้งแต่นั้นมา
และวันนี้ก็เหมือนกับทุกวันที่ตื่นมากินข้าวเรียน เรียน เรียน เรียน เรียน กินข้าว และอาบน้ำเข้านอนมันดูเเหมือนจะไม่พิเศษและดูเหมือนทุกๆวันจะน่าเบื่อแต่มันไม่เลยเธอได้เรียนสิ่งที่ชอบและทำให้เธอหายเศร้าได้ถึงจะใช้เวลานานแต่ก็ช่วยทำให้เธอดีขึ้นมาก
.
.
.
13:45
"ตื่นได้แล้ว เธอจะหลับระหว่างเรียนไม่ได้นะ" เสียงบ่นจากบุคคลที่ค่อนได้ยินบ่อยจนทำให้เธอเงยขึ้นและพบว่าห้องทั้งหมดเป็นสีขาวมีเพียงโต็ะที่เธอนอนฟุบมันอยู่และเก้าอี้ที่นั่งอยู่ พร้อมกับตรงข้ามมีชายหนุ่มผมบลอนด์นั่งมองหน้าเด็กสาวอยู่
"เธอแอบหลับในคาบเรียน"เด็กหนุ่มผมสีบลอนด์กล่าวพร้อมกับใช้มือเท้ากับโต็ะ
ถ้าฉันจะบอกว่าฉันไม่ได้แอบหลับล่ะต้องทำไง?
"เธอก็ตอบฉันแค่ในใจก็พอ" เด็กหนุ่มเอ่ยพร้อมกับใบหน้าที่เต็มด้วยรอยยิ้ม
อีก1ปัญหาหลักๆนอกจากที่ฉันไม่รู้ชื่อของเขาแล้วก็ยังมีที่ฉันไม่สามารถพูดอะไรออกไปได้เลยแต่เขาก็จะรับรู้ได้ คนเราจะสื่อสารกันให้เข้าใจก็ต้องพูดสิแต่ฉันกลับไม่สามารถเปล่งอะไรออกไปได้เลยนี่เป็นเรื่องธรรมชาติของความฝันรึเปล่านะ? เเล้วเขาเข้าใจสิ่งจะพูดได้ไงล่ะ
"ก็เก่งอ่ะนะ" เขาพูดจบก็ตามด้วยยักคิ้วให้1ทีและกลับมายิ้มต่อ
"แล้วแผลล่ะไปทำรึยัง?" เขาพูดจบก็ก้มไปมองหัวเข่าที่เคยมีแผลแต่ตอนนี้กลับมีพลาสเตอร์ติดปิดแผลนั้นไว้ รอยยิ้มถูกกระตุกขึ้นเมื่อเห็นว่าทำแผลเสร็จเรียบร้อย
"ดูก็รู้ว่าไม่ได้ทำเอง"ไม่ถึงเสี้ยววิเขาก็เงยหน้าขึ้นมาแซะเด็กสาว
ฮื้อหือ ดูถูกกันไปนะแค่ใส่ยาแล้วก็แปะพลาสเตอร์ทำไมจะเองไม่ได้
"ใส่ยาแล้วก็ติดพลาสเตอร์เลยหรอ ไม่ล้างแผลก่อนล่ะ"
ล้างทำไมอาบน้ำแล้ว
"ขอแผลมันติดเชื้อก่อนเถอะ"
โอเคร หวังดีแหละดูออก
ปัญหาของการเรียนโฮมสคูลที่น่าจะรู้ๆกันนั่นก็คือ เธอไม่มีเพื่อน เพื่อนบ้านวัยเดียวกันก็ต่างไปในโรงเรียนกันหมด และเขาคนในฝันของเธอนี้ก็เป็นเพื่อนคนเดียวของเธอถึงไม่เคยเล่นด้วยกันก็เถอะแต่เขาก็มีส่วนที่ทำให้เธอไม่เหงาได้ส่วนนึง เขาเหมือนอยู่ในแต่ละเหตุการณ์ของเด็กสาวเพราะเขามักจะรับรู้เรื่องของเธออยู่บ่อยๆตลอดเวลาแต่สาวน้อยกลับมองไม่เห็นเขา แต่นิดๆก็แอบหลอนอยู่นะ
หลังเงียบอยู่สักพักเด็กชายก็เอ่ยออกมาและภาพก็ตัดเป็นโลกเเห่งความจริง
"ไว้เจอกันนะ:)"
.
.
.
เเรงสะกิดเรียกให้สาวน้อยลืมตาจากคุณครูสาวของเธอ ทำให้นาซอเรียตื่นจากความฝันเธอเงยหน้ามองยังผู้ปลุกเธอก่อนจะนั่งทบทวนสิ่งในฝัน ไว้เจอกันนะ งั้นหรอ หมายความว่าไง คืนนี้เขาจะเข้าฝันฉันอีกหรอ โห เกินไปนะ ปกติไม่เคยจะเข้าฝันเกินหนึ่งครั้งต่อหนึ่งวัน วันนี้เข้ามาสองครั้งก็ถือว่าแปลกละนะ เธอนั่งคิดไปโดยไม่สนใจสิ่งที่ครูกำลังสอนเธอในตอนนี้
.
.
.
.
1 Week Later
07:30
ผ่านมา1อาทิตย์เต็มๆแล้วที่นาซอเรียไม่ได้ฝันถึงเด็กหนุ่มคนนั้นอีกเลย ครั้งสุดท้ายที่ฝันถึงเขานั้นคือตอนหลับในคาบเรียนและสิ่งที่เขาพูดไว้คือ 'ไว้เจอกันนะ' เด็กสาวคิดว่าเขาหมายถึงในฝันที่จะเจอกับเขาอย่างปกติแต่กลับไม่ใช่อย่างนั้นเพราะคืนนั้นหรือคืนต่อมาเธอไม่ได้ฝันถึงเขาเลย และวันนี้ก็เป็นอีกวันที่นาซอเรียคิดว่าคงทำอย่างที่ทำเป็นประจำนั่นก็คือ ตื่นนอน กินข้าว เรียน เรียน เรียน เรียนๆๆๆและค่อยกินข้าว อาบน้ำเข้านอน แต่เธอคิดผิด อะไรมันจะเกิดก็ได้นี่นา
.
.
.
19:24
ในขณะที่ทุกกำลังนั่งกินข้าวอยู่ดีๆจู่ๆก็มีเสียงกดกริ่งที่ประตูหน้าบ้าน น้าสาวจึงอาสาเดินออกไปดู แต่พอเธอเปิดประตูกลับไม่มีใครเธอกวาดสายตาไปรอบจนกระดุดตากับซองจดหมายที่วางอยู่ล่างประตู โดยหน้าซองจดหมายระบุไว้ว่า
Miss.Naseoria Harper Beveyral และที่อยู่ของเธอ
ด้านหลังมีประทับตราขี้ผึ้งรูปตัวHไว้ เธอเดินเอามาให้กับหลานสาวสุดที่รัก แน่นอนว่าหลานสาวของเธอต้องเป็นสงสัยเเน่ๆทั้งไม่ระบุผู้ส่ง แถมเธอเเทบจะไม่มีเพื่อน ถ้าจะเป็นปู่กับย่าหรือตากับยายของเธอพวกท่านมักจะโทรหามากว่าที่จะเขียนจดหมายมาแบบนี้ ด้วยความสงสัยจึงทำให้เธอเปิดจดหมาบออกมา ภายในจดหมายมีกระดาษทั้งหมดสองแผ่น
แผ่นแรกนั้นเขียนไว้ประมมาณว่า
โรงเรียนคาถาพ่อมดแม่มดและเวทมนตร์ศาสตร์ฮอกวอตส์
อาจาร์ยใหญ่:มิเนอร์ว่า มักกอนนากัล
เรียน คุณนาซอเรีย
เรามีความยินดีที่จะแจ้งให้คุณทราบว่าโรงเรียนพ่อมดแม่มดและเวทมนตร์ศาสตร์ฮอกวอตส์
รับคุณเข้าในปีนี้ ที่แนบมาพร้อมกันนี้คือ รายการหนังสือและขอให้จำเป็น
โรงเรียนเปิดวันที่ 1 กันยายน เราจะคอยนกฮูกของคุณ จนถึงวันที่31 กรกฎาคม
ขอแสดงความนับถือ
----
(---)
รองอาจาร์ยใหญ่
พอเด็กสาวอ่านจบก็ขมวดคิ้วเข้าหากันทันที
"อะไรเนี่ย เดี๋ยวนี้เรายังส่งจดหมายกันด้วยนกฮูกด้วยอีกหรอ" หนูคิดว่านกพิราบซะอีก
เด็กสาวเผลอพูดออกมาอย่างไม่รู้ตัว น้าสาวของเธอได้ยินดังนั้นจึงยื่นมือขออ่านเนื้อหาในจดหมายนาซอเรียเห็นดังนั้นจึงยื่นไปโดยดีและหยิบอีกใบขึ้นมาอ่าน เนื้อหาภายในกระดาาใบที่2นั้นทำให้เธองงกันไปอีก
อะไรเนี่ย ตำราคาถาพื้นฐาน ประวัติเวทมนตร์ ทฤษฏีเวทมนตร์ คู่มือแปลงร่างเบื้องต้น สมุนไพรและเห็ดราวิเศษพันชนิด ยาวิเศษและยาพิษ สัตว์มหัศจรรย์และถิ่นที่อยู่ พลังมืด:คู่มือป้องกันตนเอง แถมยังมีไม้กายสิทธิ์ หม้อใหญ่ ขวดแก้วหรือแก้วจีระไน กล้องส่องทางไกล และตราชั่งทองเหลือง เครื่องแต่งกายอีก แปลกไปหมด จะให้แต่งแฟนซีไปฮาโลวีนหรอ แต่อีกนานเลยนะ
"อืม.."
ขณะที่เด็กสาวงุนงงไปหมดแต่น้าสาวของเธอกลับเข้าใจเนื้อหาทั้งหมดและเอ่ยเสียงที่ทำให้เด็กสาวหันมามองหน้า
"มันคืออะไรหรอคะ"
เด็กสาวไม่รอช้าเอ่ยความสงสัยของตนออกไป
"จดหมายเข้าเรียน"
"ที่ไหน หนูเรียนที่บ้านนะ"
"ฮอกวอตส์"
"ฮอกวอตส์ไหน โรงเรียนอะไร ประจำหรอคะ"
"โรงเรียนของพ่อมดแม่มด"
"ห๊ะ?"
"พ่อของหนูเป็นเลือดบริสุทธิ์และแม่หนูเป็นคนที่มีเลือดวีล่าและหนู--"
"อืม"
คำเดียวที่หลุดออกมาจากปากของนาซอเรียในขณะที่น้าเธอกำลังอธิบาย
"ไม่เคยสังเกตุรึไงเรื่องที่เรียนส่วนใหญ่เนื้อหามันแปลกๆ "
ก็จริงส่วนใหญ่ที่เนื้อหาที่เธอได้เรียนนั้นค่อนข้างจะแปลกและแตกต่างจากในหนังสือของโรงเรียนที่เธอเคยเรียนไปไม่น้อย
"พ่อของหนูเป็นพ่อมดสายเลือดบริสุทธิ์น้าก็ด้วยแต่น้าเป็นสควิบ ส่วนแม่หนูมีเชื้อสายของวีล่า"
"อะไรคือสควิบกับวีล่าคะ พ่อมดเลือดบริสุทธิ์คืออะไรแล้วหนูเป็นตัวอะไรเนี่ย?"
"เหมือนครูจะเคยสอนให้แล้วนะ"
คุณอาสามีของน้านาซอเรียเอ่ยขึ้นทำให้ตัวเธอต้องกลับไปนึกคิดว่าตอนไหน
"เมื่ออาทิตย์ที่แล้วไง"
"ยังไม่ได้สอนหรอกค่ะ"
"ก็คาบที่หลับแล้วที่ถูกครูปลุกไงล่ะ " คุณอาเสริม
"อ๋อ..จริงด้วย" ขอโทษหนูไม่ได้ฟัง
"งั้นก็รู้แล้วล่ะว่าวีล่ากับสควิบคืออะไร เราต้องไปตรอกไดอากอนกันเร็วๆนี้แล้ว"
"ว่าแต่วีล่ากับสควิบคืออะไรคะ.." นาซอเรียเอ่ยด้วยเสียงเเผ่วเบา
"สควิบก็คือบุคคลที่เกิดจากพ่อหรือแม่อย่างน้อยหนึ่งคนเป็นผู้วิเศษแต่เกิดมาแล้วไม่สามารถใช้เวทมนตร์ได้ส่วนวีล่าสิ่งมีชีวิตกึ่งมนุษย์กึ่งวิญญาณเพศหญิงที่อาศัยอยู่ในโลกผู้วิเศษมีลักษณะเด่นคือเรือนผมสีบลอนด์สว่างหน้าตางดงามสละสลวยลูกครึ่งวีล่านั้นเกิดจากการข้ามสายพันธุ์ระหว่างวีล่ากับมนุษย์ ในที่นี้หมายถึงพ่อมดแม่มด เป็นที่รู้จักกันดีว่าพวกวีล่าสามารถแต่งงานและสร้างครอบครัวกับมนุษย์ได้ โดยที่น้อยคนนักจะรู้ถึงการดำรงและมีอยู่ของพวกวีล่า ดังนั้นลูกครึ่งวีล่าส่วนมากจึงได้รับลักษณะเด่น รวมถึงเสน่ห์ในการดึงดูดเพศตรงข้ามมาจากบรรพบุรุษวีล่า และ ความสามารถทางเวทมนตร์มาจากบรรพบุรุษที่เป็นผู้วิเศษ"
"หนูคือลูกครึ่งวีล่า แต่หนูผมดำ"
"หนูมีเชื้อสายวีล่าอยู่หนึ่งส่วนจากแปดส่วน และใช่หนูเป็นส่วนน้อยไม่รับลักษณะเด่น"
...
.
.
.
.
1 Month Later
PLETFROM NINE AND THREE QUARTERS[ชานชาลาที่9¾]
10:54
"เดินทางปลอดภัยนะ"น้าสาวและสามีของเธอเดินมาส่งหลานสาวสุดที่ดั่งลูกแท้ๆในไส้ก่อนจะเดินมาสวมกอดและหอมแก้มหลานสาวหนึ่งครั้งแล้วปล่อยให้เธอเดินขึ้นรถไฟไป
หลังจากที่มีจดหมายจากฮอกวอตส์ส่งมาถึงนาซอเรียเธอก็ได้ส่งจดหมายตอบกลับไปว่าเธอจะเข้าเรียนในปีนี้ โดยที่เธอนั้นได้ไปซื้อของทุกอย่างตามรายการที่เขียนแนบมาให้ในกระดาษก่อนจะส่งจดหมายตอบกลับไปยังฮอกวอตส์ ครอบครัวของเธอถือว่ามีฐานะในระดับนึงจึงทำให้เธอไม่มีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายในการซื้อของ
ตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมาเธอได้อ่านหนังสือศึกษาและความรู้ที่เกี่ยวกับโลกเวทมนตร์มาไม่น้อยเลยทีเดียว และจากการได้อ่านอะไรมากมายจึงทำให้เธอตื่นเต้นกับโลกเวทมนตร์อย่างมาก เธอได้แต่คิดหรือทายดูว่าเธอจะได้อยู่บ้านไหน แต่อีกใจนึงก็แอบกังวลไม่น้อยว่าเธอจะมีเพื่อนรึเปล่า จะเข้ากับคนอื่นได้รึเปล่า ตลอดระยะเวลา4ปีนี้เธอเเทบจะไม่มีเพื่อนแต่มันไม่ได้เป็นปัญหาเพราะเธอยังมีคุณอาที่พร้อมเล่นกับเธออยู่เสมอ แต่ในสถานที่แบบนั้นมันไม่ใช่ เธอต้องมีเพื่อนเธอก็คือมนุษย์คนนึงที่ต้องการเพื่อนเหมือนกับคนอื่นๆ
ระหว่างที่เธอเดินหาตู้รถไฟนั้นนั่งและอุ้มเเมวที่เป็นสัตว์ของเธอนั้นจู่ๆก็มีเสียงเรียกจากเด็กชายคนนึงเอ่ยเรียกเธอให้ไปนั่งด้วย
"เฮ้ เธอน่ะมานั่งด้วยกันเปล่า? เห็นเดินไปเดินมาหลายรอบแล้วนะ เดี๋ยวรถก็จะเดินเเล้ว เข้ามาเถอะ"
เด็กชายอายุรุ่นราวความเดียวกับเธอเปิดประตูออกมาและเรียกให้เธอไปนั่งด้วย นาซอเรียคิดอยู่สักพักก่อนตัดสินใจเดินไปนั่งด้วย ภายในตู้นี้ไม่มีใครนอกจากเขา ที่เขาเรียกเธอมานั่งด้วยคงอยากหาเพื่อนเหมือนกัน
" ฉันโซ จองฮวาน ปี1 เลือดบริสุทธิ์ เธอล่ะ"
พอนาซอเรียเข้ามานั่งได้ไม่ถึงสองวิเขาก็เเนะนำตัวอย่างรวดเร็วพร้อมกับยื่นมือมาจับด้วยรอยยิ้มเด็กสาวยื่นมือไปและเเนะนำตัวไปพร้อมกัน
" ฉันนาซอเรีย บีเวย์รอล ปี1 เลือดผสม"
จากที่รู้มาเธอไม่ควรบอกใครว่าเป็นลูกครึ่งพันธุ์เพราะในโลกเวทมนตร์นั้นผู้วิเศษไม่ว่าจะเลือดผสมหรือเลือดบริสุทธิ์จะมีทัศนคติไปทางลบกับพวกอย่างเธอด้วยอคิที่คิดว่ามนุษย์นั้นฉลาดและพิเศษกว่าเผ่าพันธุ์ใด และสำหรับนาซอเรียยังดีที่เธอมีเชื้อสายวีล่าและลักษณะของเธอดูเหมือนมนุษย์มากกว่าเผ่าพันธุ์อื่นแถมยังมีผมสีดำดวงตาสีน้ำตาลอ่อนที่แตกต่างจากคนที่มีเชื้อสายวีล่าคนอื่นๆ เธอจึงโกหกคนอื่นได้ไม่ยากที่จะบอกว่าเธอเป็นเลือดผสม
"สัตว์ของเธอเป็นแมวงั้นหรอ ชื่ออะไร"
เด็กชายเหลือบไปเห็นเเมวที่อยู่บนตักของนาซอเรียจึงตั้งมันเป็นบทสนทนา
"น้องชื่อ ชิฟฟ่อน เป็นเเมวพันธ์ุเปอร์เซียน่ะ"
เด็กสาวอธิบายลักษณะของสัตว์เลี้ยงของตนชิฟฟ่อน เป็นตัวสีขาวล้วนตาสีฟ้าอมเขียว พันธ์เปอร์เซีย อินสปายเรชั่นในการตั้งชื่อคือความหิว
"นายล่ะเลี้ยงสัตว์อะไร"
นาซอเรียเอ่ยถามกลับเมื่อเห็นข้างกายเขานั้นไม่มีสัตว์อะไรเลย
"นกฮูก ชื่อโฮกอซ มันถูกเก็บไว้ท้ายรถไฟนู่นน่ะ ฉันขี้เกียจเอามันมาด้วย "
เด็กชายพูดพร้อมกับหยิบขนมเข้าปากจากการที่เขาซื้อมาก่อนรถไฟเดินทาง แถมยังแบ่งให้เเก่เด็กสาวซะด้วย เเน่นอนว่าเธอกินเพราะ หิว
.
.
.
"เอาล่ะเด็กปีหนึ่งทางนี้"
เสียงเรียกจากชายร่างสูงลูกครึ่งยักย์ รูบีอัส แฮกริด เรียกเหล่าเด็กปี1ที่กำลังทยอยออกมาจากรถไฟ
"เธออยากอยู่บ้านอะไร"
จองฮวานที่เดินมาอยู่ข้างๆของตัวเด็กหญิงสาวและเปี่ยมไปด้วยความอยากรู้
ให้ตายเถอะ เขาถามฉันรอบที่ล้านแล้ว
" ให้ตายเถอะ จองฮวานนายถามฉันรอบที่ล้านแล้วนะ"
เด็กหญิงที่กำลังอุ้มเเมวและเดินไปเพื่อเอาน้องไปใส่กล่องใส่แมวสำหรับเดินทางโดยข้างๆมีจองฮวานตามด้วย เขายังคงยืนยันที่กำลังจะเอาคำตอบจากเด็กหญิงที่ไม่ได้แคร์หรือซีเรียสว่าตัวเธอนั้นจะได้อยู่บ้านไหนเธอขอเพียงแค่เธอมีเพื่อนก็พอ
"ก็ต้องมีบ้านที่อยากอยู่สิ แบบฉันที่อยากอยู่เรเวนคลอเพราะฉันฉลาดไง เธอก็ต้องมีบ้างสิ"
"เฮ้อ....ฮัฟเฟิลพัฟก็ได้"
"ทำไมๆๆๆๆๆ"
"เพราะ ใกล้ห้องครัว ฉันหิวบ่อย "
เด็กหญิงมั่นใจเลยว่าตนได้ยินเสียงถอนหายใจมาจากคนข้างๆ
"อ่ะ อุ้มน้องให้หน่อย"
นาซอเรียยื่นสัตว์เลี้ยงของเธอให้กับจองฮวานถือเมื่อเจอยังกล่องใส่สำหรับเดินทางของเธอเเล้วเด็กสาวก้มตัวลงเพื่อเปิดกล่องใส่แต่ทันใดนั้นแมวที่อยู่ในอ้อมแขนของจองฮวานก็กระโดดออกไปดื้อๆจากแขนของเขาทำให้ทั้งสองต้องรีบไล่จับมันทันที โดยที่ทุกคนหารู้ไม่ว่าแมวตัวนั้นวิ่งตามเด็กชายคนนึงที่เดินผ่านไปเมื่อครู่ก่อนจะหยุดเข้าด้วยการที่มีรุ่นพี่คนนึงอุ้มตัวมันขึ้นมาแต่แมวก็ยังจะพยายามที่จะกระโดดออกจากอ้อมแขนของเด็กหนุ่มคนนีงเช่นกัน จนนาซอเรียมาเจอเข้าและอุ้มมันคืนกลับมาหาตน
"ขอบคุณมากนะคะ" นาซอเรียไม่วายที่จะลืมขอบคุณเด็กหนุ่มที่ใส่เสื้อคลุมบ้านกริฟฟินดอร์มีเข็มกลัดตัวPติดตรงอกให้เดาก็รู้ว่าเด็กบ้านกริฟฟินดอร์คงไม่ใช่เรเวนคลอหรอก
เด็กหนุ่มตรงหน้ายิ้มเป็นการตอบกลับและไม่ได้พูดอะไรทำได้แค่ยิ้มและมองหน้าเด็กสาวปีหนึ่งจนเธอต้องขอตัวไปเพราะเสียงเรียกเหล่าเด็กปีหนึ่งให้รวมตัวกันยังคงดังเรื่อยๆ
ชเว ฮยอนซอก เขาไม่อาจละสาวตาออกจากเด็กหญิงเจ้าของเเมวที่ตนจับได้เมื่อกี้เลยเขามองจนเด็กหญิงหายลับไปกับฝูงชนนักเรียนฮอกวอตส์
"จะไปได้ยัง"เสียงร้องเรียกจากเพื่อนคนสนิทของฮยอนซอก คิมจุนกยู
"เด็กปี1ต้องขนาดนี้เลยหรอวะ"เพื่อนชายอีกคนกล่าวเสริม พัค จีฮุน
"สวยจริงอันนี้ยอมรับ" จุนกยูตอบ
ขอให้ได้อยู่กริฟฟินดอร์เถอะ นั่นคือคำขอในใจของฮยอนซอกเด็กหนุ่มพรีเฟ็คบ้านกริฟฟินดอร์ก่อนจะเดินออกไปพร้อมกับเพื่อนอีกสองคน
.
.
.
"ฉันจะไม่ให้นายอุ้มแมวของฉันอีก"
"เธอต้องเข้าใจนะ มันกระโดดออกไปเอง"
นาซอเรียบ่นใส่จองฮวานที่เดินอยู่ข้างๆส่วนจองฮวานก็พยายามอธิบายว่ามันไม่ใช่ความผิดของเขาแมวมันกระโดดไปเองให้กับเด็กสาวที่ทำหน้ามุ่ยอยู่
"นายไม่อุ้มน้องดีๆน่ะสิ แล้วก็อย่าแทนว่ามัน เรียกว่าน้อง"
"เข้าใจแล้วๆเดี๋ยวเธอก็เจอน้องที่ห้องแล้ว ว่าแต่เธออยากอยู่บ้านอะไร"
จองฮวานที่พยายามชวนคุยในระหว่างเดินตามชายวัยกลางคนที่กำลังเดินนำไปไหนสักที่ แต่เขารู้ตัวรึเปล่าว่าตัวเองเอาแต่ามคำถามเดิมอยู่เรื่อยๆและมันเพิ่มความรำคาญให้กับสาวน้อยได้ดีเลยหละ
"จองฮวาน"
นาซอเรียเอ่ยเสียงเข้มใส่เมื่อคนข้างๆยังถามคำถามเดิมที่ถามเป็นรอบที่ไม่สามารถนับได้แล้วจองฮวานสัมผัสได้ถึงความที่เธอเริ่มอารมณ์เสียหรือเริ่มรำคาญเขาจึงยิ้มเบาๆหลังจากตอบเธอไป
"โอเครๆเข้าใจแล้วๆ"
"เอาล่ะแบ่งขึ้นเรือกันนะ ลำละสี่คน"
เสียงของชายลูกครึ่งยักษ์หันมากล่าวแก่เหล่าเด็กปีหนึ่ง แน่นอนว่านาซอเรียและจองฮวานต้องขึ้นเรือลำเดียวกันอยู่แล้วและตามมาด้วยเด็กผู้ชายอีก2คนขึ้นเรือลำเดียวกัน
เด็กปีหนึ่งที่ต้องนั่งเรือไปยังฮอกวอตส์ทุกคนต่างแยกกันไปขึ้นเรือกันหมดก่อนที่เรือจะเคลื่อนไปเองโดยไม่มีอะไรพายแค่สิ่งๆนี้ก็ทำให้นาซอเรียตื่นเต้นจนใจเเทบทะลักออกมาแต่ความกังวลเรื่องที่กลัวจะไม่มีเพื่อนและบ้านที่เธอต้องอยู่ยังคงผุดมาเรื่อยๆ สภาพแวดล้อมที่เธอจะได้เจอนั้นจะดีหรือไม่นะ แต่ความกังวลก็หายไปชั่วครู่เมื่อเรือแล่นถึงจุดที่สามารถมองเห็นตัวปราสาทฮอกวอตส์ เสียงโห่ร้องที่แสดงถึงความตื่นเต้นและความสวยงามของสถานที่ตรงหน้า
เมื่อเข้ามายังตัวปราสาทเหล่าเด็กปีหนึ่งต้องยืนรออยู่หน้าประตูบานใหญ่สักพักก่อนจะมีคนเปิดประตูให้เหล่าเด็กปี1ได้เดินเข้าไป ภายในห้องนั้นแบ่งโต๊ะเป็นสี่โต๊ะแบ่งตามบ้านบนเพดานมีเทียนที่ถูกจุดลอยอยู่โดยที่ไม่มีเชียงเทียนวางไว้ ถ้าจากที่นาซอเรียอ่านมานั้นคือเวทมนตร์ เธอมองไปรอบๆเหมือนกับเด็กคนอื่นๆก่อนจะสะดุดเข้ากับรุ่นพี่บ้านกริฟฟินดอร์คนที่เก็บเเมวให้เธอนั้น เขาส่งรอยยิ้มที่ดูอบอุ่นมาให้เธอ เธอจึงส่งรอยยิ้มตอบกลับไปก่อนจะมองไปรอบๆอีกครั้งพบว่ามีหลายสายตากำลังจ้องมาที่เธอเธอที่รู้สึกเหมือนได้รับความกดดันจึงทำได้แค่ก้มหน้าและเดินต่อไป
ความกังวลมันแล่นอยู่ในหัวของเธออีกเเล้ว
และเมื่อถึงเวลาที่จะขึ้นไปคัดสรรค์บ้านความตื่นเต้นครั้งนี้มันสุดจริงๆแต่ต่างจากคนข้างๆที่ดูชิวและมั่นใจเหลือเกินว่าตัวเองนั้นจะได้อยู่เรเวนคลอ
แล้วถ้าไม่ได้อยู่จะร้องไห้มั้ยนั่น
" จองฮวาน โซ" เสียงเรียกชื่อของเพื่อนชายข้างตัวเธอทำให้เธอส่งยิ้มให้เพื่อนเพียงคนเดียวของเธอก่อนที่เขาจะเดินขึ้นไป
"สลิธีริน"
เสียงของหมวดคัดสรรค์ดังไปทั่วห้องใบหน้าของเด็กชายนั้นแอบแสดงความผิดหวังนิดหน่อยแต่เพียงเสี้ยววิเขาก็ยิ้มออกมาเพราะเสียงร้องต้อนรับจากสลิธีรินทำให้เขายิ้มและเดินไปยังโต๊ะของไ่ม่ลืมที่จะหันมายิ้มให้กับนาซอเรีย ความกังวลที่ทำให้เธอหายใจติดๆขัดๆแต่ก็ฝืนยิ้มส่งให้แก่เพื่อนชาย
"นาซอเรีย ฮาร์เปอร์ บีเวย์รอล"
"นั่งลงบนเก้าอี้เลย"
เสียงเรียกชื่อของเธอทำให้หายใจติดขัดมากกว่าเดิมเธอสูดลมหายใจเข้าเฮือกใหญ่ก่อนจะเดินขึ้น เสียงพูดคุยต่างๆทำให้เธอรู้สึกแปลกๆเมื่อเธอเดินมาถึงยังเก้าอี้เสียงบอกของศาสตราจารย์ทำให้นาซอเรียได้สติจากการเงี่ยหูฟังสิ่งที่เหล่ารุ่นพี่พูดและแน่นอนเธอไม่ได้ยิน เธอจึงขึ้นไปนั่งบนเก้าอี้และหมวกก็ถูกสวมลงหัวของเธอ
"อืมม..เข้าใจแล้วทำไมถึงมีคนพูดถึงเยอะเพราะมีเลือดวีล่านั้นเอง" หมวกคัดนั้นพูดเบาๆเหมือนให้ได้ยินแค่เธอคนเดียวแต่ศาตราจารย์ที่ยืนอยู่ข้างๆก็พลางได้ยินด้วยเขาทำเพียงแค่พยักหน้าเล็กน้อยบ่งบอกว่าเขาเข้าใจแล้ว แต่นาซอเรียนั้นไม่ได้ฟังเธอมองไปรอบๆห้องทุกสายตาจับจ้องมาที่เธอ จนเธอสะดุดตากับบุคคลที่คุ้นตาเธอที่สุดเด็กชายผมสีบลอนด์นั่งอยู่ที่โต๊ะสังกัดบ้านสลิธีรินเธอจ้องเขาและมีคำถามในหัวเป็นร้อยๆแต่สายตาที่เขามองมานั้นเพียงแค่อยากรู้เท่านั้นว่าเธอจะได้อยู่บ้านไหน
"สลิธีริน"
เสียงที่ทำให้นาซอเรียละสายตาจากเขาคนนั้น ก่อนจะตามมาด้ายเสียงดีใจของเด็กบ้านสธีรินเธอเดินลงไปด้วยความงุนงง เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง และเสียงการแซะจากจองฮวานของเธอทำให้เธอกลับมาได้สติอีกครั้งและมองขวางเขาทันทีแต่ใครจะยอม
"สมน้ำหน้าไม่ได้อยู่ฮัฟเฟิลพัฟไม่ได้อยู่ใกล้ห้องครัวซะแล้ววววว"
"สมน้ำหน้าไม่ได้อยู่เรเวนคลอสงสัยคงฉลาดไม่พอสินะ"
"ฉันรู้อยู่แล้วล่ะว่าฉันจะได้อยู่สลิธีรินเพราะพ่อฉันก็อยู่บ้านนี้แหละ"
จองฮวานไหวไหล่ก่อนจะอธิบายให้เด็กสาวฟัง อีกฝั่งนึงของบ้านกริฟฟินดอร์ฮยอนซอกที่รู้สึกเสียดายเล็กน้อยที่เด็กสาวที่เขาเจอนั้นไม่ได้อยู่บ้านเดียวกับเขาสายตาของเขายังคงจ้องมองเด็กสาวบ้านสลิธีรินที่ตอนนี้กำลังยิ้มแป้นและทักทายกับรุ่นพี่ในบ้าน
"เสียดายว่ะ"เสียงจีฮุนเอ่ยขึ้นมาทำให้ฮยอนซอกหันมามองเพื่อนที่ทำหน้าเซ็งเล็กน้อย
หลังจากคัดเลือกบ้านให้กับเด็กปีหนึ่งครบหมดทุกคนอาหารก็ผุดออกมาทำให้ความหิวของนาซอเรียนั้นพุ่งสูงมากจริงๆเธออยากกินเป็นที่สุดแต่เธอก็คายความสงสัยไม่ออกว่าทำไมเขามาอยู่ที่นี่ เขาจำเธอได้รึเปล่า เขาเป็นใคร เข้าฝันของเธอได้ยังไง การที่เธอจ้องเขาอยู่นั้นแน่นอนว่าเจ้าตัวต้องรู้ตัวอยู่แล้วเขาหันมาจ้องเธอกลับทำให้นาซอเรียนั้นหลบตาและก้มลงไปกินไก่ในมือีกครั้งก่อนจะเเลขึ้นมามองเขาอีกครั้งและพบว่าสายตาของเขาก็กำลังจ้องเธออยู่เหมือนกันเธอจึงก้มลงไปมองไก่ในมืออีกครั้ง สายตาของเขาเหมือนมีคำพูดออกมาเลยล่ะ
'จะมองอะไรนักหนา'นั้นคือสิ่งที่สายตาเขาบอก
ฮือ...แค่สายตาที่มองกันนั้นก็เเตกต่างแล้ว แววตาที่ขี้เล่นนั้นไม่มีอีกแล้วมีเเต่สายตาที่พร้อมบวกตลอดเวลา
To be continued
.
.
.
.
Talk with me
ก็อกๆๆ เค้ามาแก้บางจุดนะคะเค้าแก้ลวกๆรู้สึกเขินเวลาย้อมมาอ่าน555 เอ็นจอยนะคะะ
ความคิดเห็น