ช่วยด้วยครับผมตกหลุมรักคุณเลขา - นิยาย ช่วยด้วยครับผมตกหลุมรักคุณเลขา : Dek-D.com - Writer
×

    ช่วยด้วยครับผมตกหลุมรักคุณเลขา

    กามเทพชอบเล่นตลกคนที่เคยแอบรักเป็นฝ่ายวิ่งหนี คนที่เคยเมินเฉยต้องเป็นฝ่ายตามง้อขอความรัก ความพลิกผันที่พิศดารนี้จะมีจุดจบอย่างไรนะ

    ผู้เข้าชมรวม

    479

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    4

    ผู้เข้าชมรวม


    479

    ความคิดเห็น


    3

    คนติดตาม


    11
    จำนวนตอน :  1 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  1 ก.พ. 64 / 13:24 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

              



        บทนำ

              บนท้องถนนใจกลางกรุงในชั่วโมงเร่งด่วนเช้าๆแบบนี้ แออัดไปด้วยรถยนต์รถโดยสารสาธารณะ เสียงบีบแตรที่ดังเป็นระยะมาจากทุกสารทิศช่างน่ารำคาญหู แต่สำหรับมนุษย์เงินเดือนอย่างปรางค์ประภาเธอชินเสียแล้วกับวิถีชีวิตแบบนี้ เธอใช้ชั่วโมงรถติดที่แสนน่าแบบนี้แต่งหน้าทำผม เสียงเพลงที่ฟังสบายหูก็เปิดคลออยู่เบาๆ แน่นอนว่าเช้าววันศุกร์อย่างนี้เธอตื่นขึ้นมาทำงานด้วยพลังที่เต็มเปี่ยมเพราะพรุ่งนี้ก็จะเป็นวันหยุดแล้ว ใบหน้านสวยหวานรูปไข่ดูไม่เป็นเดือดเป็นร้อนกับรถที่กำลังติดหนักในตอนนี้

              ตึง!’ เสียงกระแทกพร้อมกับแรงสะเทือนจากด้านหลังรถทำเอาสาวร่างเล็กสะดุ้งสุดตัว พอมองผ่านกระจกมองหลังก็พบว่ารถด้านหลังเบียดมาจนชนท้ายรถเธอเข้าแล้ว

              “เฮ้อ!...ให้มันได้งี้สิ” เธอบ่นพึมพำอย่างหัวเสียอารมณ์แจ่มใสในเช้าวันศุกร์พลันมลายหายไปในทันตา ขาเรียวก้าวลงจากรถ มือก็หยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมาถ่ายรูปเก็บหลักฐานไว้เครมประกัน เคร่ง!’ กันชนด้านหลังหลุดลงกระทบพื้นถนนต่อหน้าต่อตาเธอ ให้ตายเถอะรถที่เธอซื้อมาด้วยน้ำพลัดน้ำแรงและที่สำคัญยังผ่อนไม่หมด ! ชิ้นส่วนหลุดซะแล้ว

              “ขอโทษครับ ขอโทษจริงๆครับเดี๋ยวผมเรียกประกันมาเคลียร์นะครับ” คู่กรณีเปิดประตูลงมาขอโทษขอโพยเธอเป็นการใหญ่

              “นานมั้ยคะเช้านี้ฉันมีประชุม” เธอถามเสียงเนือยๆหลังจากที่ฝ่ายนั้นวางสายจากบริษัทประกันภัย

              “จากรูปที่ผมส่งไปเขาบอกว่ารถคุณต้องส่งซ่อมครับ เพราะว่ากันชนหลุดสีถลอกและมีรอยบุบต้องรออีกประมาณหนึ่งชั่วโมงครับ”

              เธอเหลือบมองนาฬิกาแล้วก็ต้องถอนหายใจเฮือกใหญ่การประชุมวันนี้ท่านประธานย้ำแล้วย้ำอีกว่าสำคัญกับเธอมาก แต่เธอก็ทำได้เพียงแค่สูดลมหายใจเข้าลึกๆเพื่อสงบสติอารมณ์ โชคดีมีชัยแต่เช้าจริงๆ

     

              หลังจากบริษัทประกันมาลากรถเธอไปซ่อมแล้วเธอก็ต้องนั่งวินมาลงที่หน้าตึกจากนั้นเธอก็วิ่งกระเซอะกระเซิงเข้ามาด้านในด้วยอาการรีบร้อน พอมายืนรอลิฟฟ์เธอเหลือบมองนาฬิกาถึงได้รุ้ว่าตัวเองมาสายไปตั้งหนึ่งชั่วโมงครึ่ง ให้ตายเถอะไม่ถูกตัดเงินเดือนก็ถูกสั่งพักงานคราวนี้แหละ เธอแอบโอดครวญในใจ

              ในขณะนั้นเอง ปรางค์ประภาก็เริ่มสังเกตุเห็นความผิดปกติของสายตาคนรอบข้างที่มองมาที่เธอ เรื่องอะไรอีกล่ะคราวนี้เธอตัดพ้อในใจดวงตากลมโตแอบเหลือบมองบนอย่างเบื่อหน่าย รถชนตั้งแต่เช้ามาถึงบริษัทก็กลายเป็นขี้ปากพวกขี้นินทา คนอะไรจะดวงดีขนาดนี้นะเธอนึกประชดประชันโชคชะตาที่ทำให้ชีวิตของเธอวันนี้วุ่นวายสุดๆ

    ที่ผ่านมาไม่ใช่ว่าเธอไม่เคยเจออะไรแบบนี้ การที่เธออายุยังน้อยเป็นแค่นักศึกษาจบใหม่แต่ได้เข้าทำงานในตำแหน่งเลขาส่วนตัวของประธานบริษัท รูปร่างหน้าตาที่จัดว่ามีเสน่ห์ของเธอนั้นถูกเอาไปเป็นประเด็นนินทาในวงน้ำชายามพักเบรกอยู่บ่อยครั้ง ทุกครั้งที่เธอทำโอทีจนดึกและท่านประธานก็กลับดึกเช่นกัน ทุกครั้งที่ต้องออกไปดูงานนอกสถานที่ไม่ว่าจะในหรือต่างประเทศและต้องนอนค้างคืน ทุกครั้งต้องประเด็นของพวกขี้นินทากับพวกขี้อิจฉา

    แต่ว่า...ครั้งนี้มันแปลกๆ เมื่อวานเธอก็กลับบ้านเร็ว และหกเดือนมานี้ก็ไม่ได้ออกไปทำงานนอกสถานที่กับท่านประธานเลย ในเช้าวันศุกร์ที่แสนสดใสวันสุดท้ายของการทำงานในสัปดาห์นี้เธอควรจะได้ทำงานแบบมีความสุขสิไม่ใช่ว่าต้องมาเจอสายตามองเหยียดตั้งแต่ก้าวขาเข้าออฟฟิศแบบนี้

    แต่ความซวยในเช้าวันศุกร์ยังไม่จบเท่านั้น พอขึ้นมาถึงออฟฟิศของตัวเอง แล้วก็ต้องถอนหายใจกับแฟ้มงานที่กองอยู่บนโต๊ะ เธอมาสายชั่วโมงครึ่งก็จริงแต่ไม่คิดว่างานจะกองเท่าภูเขาเหล่ากา นี่เป็นการลงโทษหรือเปล่านะ หรือมีใครแกล้ง เธอเลือกหยิบแฟ้มที่วางอยู่บนสุดขึ้นมาเปิดอ่านเป็นอันดับแรก มันคือโครงการใหม่ของ S.A. Real estate company ที่มีแผนที่จะดำเนินงานมาสักพักแล้วตั้งแต่ที่ทางบริษัทสัมปทานเกาะได้ ทำไมรายละเอียดโครงการจึงมากองอยู่บนโต๊ะเธอแบบนี้กันนะ

    “พี่ปรางค์คะสู้ๆนะคะเดี๋ยวมันก็ผ่านไป” น้องนุ้งนิ้งรุ่นน้องที่เพิ่งเริ่มงานได้ไม่ถึงปีเดินหน้าเจื่อนๆเข้ามาหาเธอพร้อมกับพูดอะไรแปลกที่เธอเองไม่เข้าใจแล้วก็เดินผ่านโต๊ะเธอไปโดยที่เธอยังไม่ทันได้เอ่ยปากถาม ว่ามันเรื่องอะไรกัน

    สมาร์ทโฟนที่เธอวางไว้ขึ้นแจ้งเตือนข้อความแปลกๆจากรุ่นพี่คนหนึ่ง “น้องปรางค์ครับพี่เชื่อในตัวน้องนะ สู้ๆนะครับเป็นกำลังใจให้” พี่นนท์ รุ่นพี่ที่เธอค่อนข้างจะสนิทนั่นเอง เขายืนมองเธอมาจากมุมหนึ่งของออฟฟิศแล้วส่งข้อความแปลกๆมาให้กำลังใจ นี่มันเรื่องอะไรกันนะ

              “น้องปรางค์!” เสียงพี่ใบหม่อนนั่นเอง พี่ใบหม่อนคือรุ่นพี่ที่เธอสนิทที่สุดตั้งแต่เข้ามาทำงานปีแรกตอนนี้กำลังวิ่งหน้าตื่นเข้ามาหาเธอ

              “ว่าไงคะพี่หม่อน วิ่งหน้าตื่นมาเชียวมีอะไรเหรอคะ”

              “พี่นึกไว้แล้วเชียวถามอย่างนี้แสดงว่ายังไม่รู้เรื่องใช่มั้ย”

    คิ้วสวยได้รูปขมวดเข้าหากัน เริ่มมีรางสังหรณ์ไม่ดีซะแล้ว เอาวะเธอก็อยากรู้เหมือนกันว่าที่คนมองเธอแปลกๆ กับคำพูดเชิงปลอบใจแปลกๆนี่มันเรื่องอะไรกัน การที่เธอมาทำงานสายชั่วโมงครึ่งเธอพลาดอะไรไปงั้นเหรอ

    “มันเรื่องอะไรกันเหรอคะทำไมเช้านี้ทุกคนมองปรางค์แปลก ๆ ตั้งแต่ข้างล่างละ”

    “ดูนี่สิคะ” พี่ใบหม่อนยื่นสมาร์ทโฟนที่กำลังเล่นคลิปเจ้าปัญหามาต่อหน้าเธอ ในคลิปคือเจ้านายเธอ...เจตฎ์ ทรัพย์อนันต์ ทายาทเพียงคนเดียวของตระกูลทรัพย์อนันต์ ตระกูลที่เป็นผู้ก่อตั้งบริษัทแห่งนี้

             

    1 hour ago

              “ผมถือหุ้นตั้งสามสิบเปอร์เซ็นต์ ทำไมผมจะไม่มีสิทธิ์ดูแลโครงการนี้ คิดว่าตัวเองถือหุ้นไว้หกสิบเปอร์เซ็นต์แล้วจะแต่งตั้งใครไปบริหารงานก็ได้งั้นเหรอ” ชายเจ้าปัญหาที่กำลังโวยวายอยู่กลางออฟฟิศอย่างไม่สนใจสายตานับร้อยของพนักงานคือท่านองอาจ หนึ่งในผู้บริหารของ S.A. Real estate company และพ่วงด้วยตำแหน่งอดีตพ่อตาของคุณเจษฎ์ โครงการใหม่ที่ท่านอยากเอาเข้าไปอยู่ในความดูและนักหนาคือ โครงการสร้างเมืองท่องเที่ยวแบบครบวงจรบนเกาะที่ทางบริษัทเพิ่งสัมปทานมาได้

              “ตามที่ระบุไว้ในตราสารจัดตั้งบริษัทถ้า2ใน3ของผู้บริหารเห็นชอบว่าอย่างไรหนึ่งเสียงที่เหลือต้องยอมรับตามนั้นนะครับ ในเมื่อผมซึ่งถือหุ้น60เปอร์เซ็นต์และคุณนิรุทผู้ถือหุ้น10เปอร์เซ็นต์ เห็นชอบให้คนอื่นดูแลแล้ว คุณก็ต้องยอมรับเสียงข้างมากด้วยสิครับ” หลังจากลงมติแต่งตั้งผู้ดูโครงการใหม่ คุณองอาจก็เกิดความฉุนเฉียวรุนแรง เดินออกจากห้องประชุมแล้วออกมาโวยวายกลางออฟฟิศ อย่าคนไร้วุฒิภาวะ

              “นังเด็กนั่นเป็นแค่พนักงานใหม่ทำงานได้แค่สามปีคุณคิดว่าเลขาของคุณมีความสามารถพอที่จะบริหารงานใหญ่ขนาดนี้ได้งั้นเหรอ ใช่สิผมมันผู้บริหาร เวลาคุยงานผมนั่งคุยกับคุณจะไปสู้คนนอนคุยกันได้ยังไง หลงก็หลงให้มันพอสมควรหน่อยไม่ใช่ว่าจะเอาเรื่องผู้หญิงมาทำให้เสียการเสียงานอย่างนี้” ยิ่งพูดก็ยิ่งเหมือนจะไปกันใหญ่

              “อย่าพูดอะไรพล่อยๆนะคุณองอาจผมฟ้องคุณได้นะ ปรางค์ประภามีความสามารถ ไอเดียดี ๆ ในโครงการนี้ มาจากเธอทั้งนั้น ถ้าเธอไม่เสนอว่าให้ผมทำเมืองท่องเที่ยวครบวงจรผมคงตัดสินใจ สร้างโรงแรมห้าดาวที่มีคู่แข่งเยอะอยู่แล้วหรือไม่ก็บังกะโลโง่ๆ ไว้ปล่อยให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเช่า” ตอนนี้เขากำลังพยายามอดกลั้นอย่างเต็มที่กับชายแก่วัยเกษียณตรงหน้า ไม่อยากเชื่อว่าครั้งหนึ่งเขาเคยเป็นลูกเขยของคนไร้สติปัญญาอย่างนี้

              “เหอะ !ความสามารถ ความสามารถบนเตียงของยัยเลขานั่นที่อาจจะถึงใจคุณมันไม่ได้ช่วยให้งานของบริษัทออกมาดีหรอกนะ”       

    ร่างสูงก้าวยาว ๆ เข้าไปประชิดตัวอดีตพ่อตา วินาทีนั้นสิ้นแล้วซึ่งความเคารพนับถือทั้งหมดที่เคยมีให้หากไอ้แก่นี่ด่าทอแค่ตัวเขาเขาจะไม่โกรธขนาดนี้ แต่นี่กลับพูดถึงปรางค์ประภาให้เสียหาย ช่างไร้ความเป็นสุภาพบุรุษสิ้นดี เขาไม่ปล่อยให้ไอ้แก่นี่พ่นถ้อยคำสถุล ๆ ออกมาอีกจังหวะนั้นหมัดหนักๆของชายหนุ่มซัดเข้าที่ใบหน้าของชายอาวุโสอย่างจัง

              เสียงฮือฮาเกิดขึ้นรอบตัวเขา พนักงานรักษาความปล่อดภัยกรูเข้ามาล็อคตัวท่าองอาจไว้ “ถ้าไม่รู้จักคำว่าให้เกียรติผู้หญิงก็ไปหากระโปรงมาใส่ซะ”

              “แก! ไอ้เด็กเมื่อวานซืน!” คุณองอาจทำท่าว่าจะกระโจนเข้ามาชกเขาแต่ก็ถูกพนักงานรักษความปลอดภัยล็อคตัวเอาไว้ แล้วลากออกไป

     

              ปรางค์ประภาแทบหยุดหายใจกับคลิปนั้น ความจริงระหว่างเธอกับคุณเจษฎ์คืออะไรเธอรู้ดีอยู่แก่ใจ เขาเป็นเจ้านายที่วางตัวดีเสมอ จริงที่ว่าเธอแอบปลื้มเขาตั้งแต่ปีแรกที่ได้ทำงานด้วยกันแต่เธอก็ไม่เคยแสดงออกไม่เคยทำอะไรที่มันล้ำเส้นของหน้าที่เลขาเธอไม่เคยคุยเรื่องส่วนตัวกับเขาด้วยซ้ำ แต่ในเมื่อเรื่องฉาว ๆ ที่ไม่มีมูลความจริงหลุดออกมาจากผู้อาวุโสของบริษัทขนาดนี้แล้ว ใครบ้างล่ะจะสนใจความจริง

              “น้องปรางค์จะเอายังไงต่อคะ พี่ล่ะปวดหัวแทนจริง ๆ เลย” พี่ใบหม่อนที่รู้จักเธอดีอยู่แล้ว คงจะเป็นคนเดียวที่ไม่เชื่อคำพูดของท่านองอาจ

              “ลาออกหรือลาตายดีล่ะปรางค์ยังไม่ได้ตัดสินใจ” เธอพึมพำอย่างประชดประชันให้กับโชคชะตาของตัวเอง เธอก็แค่พนักงานตัวเล็ก ๆ ที่ตั้งใจและทุ่มเททุกอย่างให้กับงานเพราะหวังความก้าวหน้าในอาชีพการงานเหมือนกับคนอื่น ๆ ทำไมต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วยนะยังปรางค์เอ้ย

              “คุณปรางค์ประภาเข้ามานี่หน่อย” เสียงเข้มๆของเจ้านายดังผ่าน Intercom ออกมา


    ...........................................

    สวัสดีค่าท่านผู้อ่านที่น่ารักทุกคนของไรท์ แล้วก็ขอภัยท่านผู้อ่านที่กดติดตามไว้ทั้ง 14 คนด้วยนะคะที่ไรท์หายไปหลายเดือนมาก และกลับมาอีกทีพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงเนื้อหาที่อ่านจะทำให้คนที่เคยอ่านมาก่อนงงกันตาแตก 

    หลังจากที่ได้นั่งคิดนอนคิดตีลังกาคิดอย่างรอบคอบแล้วว่าพล็อตไหนจะมีความเป็นไปได้มากกว่ากัน ไรท์ก็ได้ตัดสินใจเลือพล็อตใหม่ซึ่งอาจจะทำให้คนอ่านเดิมสับสน แต่ไรท์รับรองเลยว่าความสนุกไม่น้อยหน้าพล็อตเก่าแน่นอน 

    ยังไงไรท์ก็ฝากติดตามหนูปรางค์กับคุณเจษฏ์ด้วยนะคะ ^^

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น