ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เหตุที่ฉันมี

    ลำดับตอนที่ #1 : วันที่ฉันโดดเรียน

    • อัปเดตล่าสุด 22 เม.ย. 49


          ในความเป็นจริง ฉันมองตัวเองผ่านกระจกเงาบานนั้น แล้วฉันไม่เคยรู้สึกผิดหวังเลยจริงๆ ที่ได้เกิดมาบนโลกใบนี้ เอ๊ะ นี่มันศตวรรษที่เท่าไหร่กันนะ ทำไมวันนี้ฉํนถึงโดดเรียนมานั่งส่องกระจกได้  เพียงแต่ว่าพ่อแม่ของฉัน ทิ้งฉันให้อยู่บ้านกับพี่สาวไม่กี่วัน ฉันกลับมาทำตัวเหลวไหล มันคงไม่ใช่เรื่องที่ดีของเด็กนักเรียนอย่างฉันที่จะมาโดดเรียนโดยไม่มีความจำเป็น ส่วนพี่สาวของฉันนั้นก็ไม่ได้ทำตัวแตกต่างกับฉันสักเท่าไหร่ วันนี้เธอไปหาผู้ชายที่เพิ่งจะคบกันได้เมื่อไม่กี่เดือน ผู้ซึ่งเธอเรียกว่าแฟน
        ทำไมฉันจึงไม่มีแฟน ตั้งแต่ฉันเริ่มมีสรีระที่เปลี่ยนไปจากเดิม หรือที่เราเรียกปรากฎการนี้ว่าเป็นการแตกเนื้อสาวฉันก็เริ่มที่จะสนใจเพศตรงข้ามที่เดินผ่าน ฉันเริ่มรักสวยรักงามเพื่อให้เป็นที่หมายปองของผู้ชาย อันที่จริงหน้าตาของฉันนั้นก็ไม่ได้แย่อะไร การที่ผู้ชายมาจีบนั้นก็ยังคงเป็นเรื่องที่ธรรมดา แต่ฉันก็ไม่เคยคิดจะมีแฟนในเวลานี้ จะว่าไปแล้วก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเหมือนกัน
        ฉันลุกจากเตียงในห้องนอนของฉันแล้วขี่จักรยานออกไปนอกบ้าน ด้วยสภาพที่ใครๆก็เดาออกว่าเพิ่งตื่นนอน ฉันแล่นจักรยานไปตามทางอย่างเรื่อยเปื่อย จนถึงบริเวณชายหาด นี่ก็เป็นช่วงสายของวัน แสแดดสาดใส่ตัวฉัน ทำให้ฉันต้องเข้าไปหลบอยู่ในที่ที่มีเงากำบัง กั้นขวางระหว่างฉันกับแสงของดวงอาทิตย์ ฉันซื้อไอศกรีมด้วยเงินจำนวนหนึ่งที่พ่อแม่ให้ฉันมาก่อนที่จะไป
    มันเป็นไอกรีมโคนรสสตรอเบอรี่ ฉันไล้เลียก้อนครีมสีชมพูอ่อนๆด้วยลิ้นนิ่มๆสีชมพูเข้ม ความเย็นของไอศกรีม พอจะทำให้ฉันลืมความร้อนจากอากาศโดยตัวการคือแสงอาทิตย์ ดวงอาทิตย์เป็นสัญลักษณ์ของประเทศญี่ปุ่น จุดสีแดงในธงชาติญี่ปุ่น เท่าที่ฉันมองมันไม่ใช่แค่จุดแดงๆธรรมดา แต่ฉันรู้สึกได้ถึงอำนาจของจุดนั้น แต่ฉันกลับไม่รู้สึกถึงว่ามันจะร้อน ร้อนอย่างที่จุดสีแดงนั้นกำลังไล้เลียฉันอยู่ในตอนนี้ แต่ถ้ามองจุดสีแดงจุดนั้นในตอนนี้ ฉันคงจะรู้สึกร้อนยิ่งกว่าเดิม
       ในขณะที่ฉันกำลังคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย มีเสียงหนึ่งเรียกฉัน"วากาเมะ" ฉันหันไปหาต้นเสียงนั้น ทาคุโระยืนอยู่ในทิศที่ฉันแสงย้อน ภาพทาคุโระที่ปรากฎตรงหน้าฉัน มันทำให้ฉันแปลกใจที่ทำไมวันนี้เขาถึงไม่ไปโรงเรียน ฉันยังคงเงียบอยู่เขาเดินเข้ามาในที่ร่ม ทาคุโระชายหนุ่มอายุผู้ที่มีรุ่นราวคราวเดียวกับฉันได้บอกว่าเป็นเรื่องบังเอิญจริงๆที่เราได้มาเจอกัน ใช่ฉันก็คิดเช่นนั้น
    แต่เหตุใด "ทำไมนายไม่ไปโรงเรียน"ฉันถาม
     "วันนี้ยายของเราป่วย"ทาคุโระพูดด้วยน้ำเสียงที่ปนทุกข์
     "ยายของนายเป็นอะไรไป"
     "แกเป็นลมเมื่อเช้านี้ ตอนที่ฉันกำลังเตรียมตัวไปโรงเรียน ฉันจึงต้องช่วยแม่พายายของฉันไปโรงพยาบาล"
     "แย่จัง...แล้วนายไม่อยู่ดูแลยายล่ะ"
     "หมอบอกว่าให้ฉันกับแม่ไปไหนก่อนก็ได้ เพราะตอนนี้ยายต้องพักผ่อน"
     "แปลกจัง นี่แค่เป็นลมเหรอ?"ฉันสงสัย เนื่องจากฉันก็เคยเป็นลมมาก่อน แต่ไม่ต้องใช้เวลาในการรักษานานขนาดนี้
     "ไม่ใช่แค่เป็นลมน่ะ เป็นลมแล้วหัวฟาดกับกระถางต้นไม้ที่ฉันตั้งเอาไว้"เสียงเขาดูเหมือนสำนึกผิด
     "นี่ นายไม่ได้ผิดหรอก มันเป็นเรื่องของชะตากรรม"
     "เธอคงจะนับถือศาสนาพุทธสินะ"
     "ใช่"
     "ฉันนับถือคริสต์น่ะ"
     "แล้วไง"
     "เราไม่เชื่อเรื่องเวรกรรม"
     "เอาเหอะ ยังไง นายก็ไม่ต้องกังวล"ฉันตัดเปลี่ยนเรื่อง
     "ฉันดีใจจังที่ได้คุยกับเธอในเวลาแบบนี้ เธอรู้ไหมว่านอกจากแม่ฉันก็มีแค่ยาย พ่อของฉันทิ้งฉันไปตั้งแต่ยังเดินไม่ได้"
     "อืม"ฉันไม่รู้ว่าจะพูดอะไร ได้แต่ปล่อยให้เขาพูดเพื่อให้เค้าได้รูสึกดีขึ้นที่ได้พูดมันออกมา
           เงาของเราเปลี่ยนทิศ นี่มันกี่ชั่วโมงมาแล้ว ทำไมฉันรู้สึกว่าเวลามันผ่านไปเร็วขนาดนี้ ทาคุโระ ได้นอนอยู่ข้างๆฉันเขาคงจะเพลียมาก ฉันลุกขึ้นแล้วเดินฝ่าแสงแดดไปหาเจ้าคุโระ หมาดำประจำหาด มันเป็นหมาที่ฉันชอบเล่นด้วย เวลาที่ฉันไม่สบายใจฉันก็มักจะออกมาเล่นกับมัน ปีหน้าก็จะเป็นปีการศึกษาสุดท้ายแล้ว จนป่านนี้ ฉันยังคงไม่รู้ว่าฉันนั้นเหมาะกับอาชีพอะไร ฉันชอบวิชาคณิตศาสตร์
    แต่กลับไม่ชอบภาษาอังกฤษ วิทยาศาสตร์คือวิชาที่ฉันชอบมากที่สุด แต่ฉันกลับไม่อยากจะเป็นนักวิทยาศาสตร์เลยสักนิด แปลกจริงๆ
        ลมพัดผมของฉันไปคนละทิศละทาง ผมทรงบ๊อบของฉันดูไม่เป็นทรงยิ่งกว่าตอนที่เพิ่งลุกจากเตียง แต่ฉันไม่สนใจเรื่องเล็กๆน้อยๆแค่นี้หรอกในเมื่อลมนั้นมันยังไม่ได้พัดให้ศรีษะของฉันปลิวว่อนไปไหน
        ทาคุโระตื่นได้ขึ้น แล้วเดินมาหาฉัน ฉันบอกกับเขาว่า ฉันอยากไปเยี่ยมยายของเขา แล้วในเวลาไม่กี่นาที เราทั้งคู่ก็ได้มายืนอยู่หน้า
    ห้องหมายเลขที่F8742 เขาบิดกรประตูนำฉันเข้าไปภายในห้องที่ดูสิ้นหวัง ภายในผู้ที่เป็นแม่ของทาคุโระกำลังนอนอยู่ และก็ได้ตื่นขึ้นเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าของเรา
    แม่ของทาคุโระแสดงทีท่าแปลกใจ จนทาคุโระแนะนำฉัน
     "แม่ครับนี่คือวากาเมะ เพื่อนที่โรงเรียนของผม"
     "สวัสดีค่ะ คุณแม่ทาคุโระ"
     "สวัสดีจ้ะ ว่าแต่วันนี้ไม่ได้ไปเรียนหรือจ๊ะ"
     "คือว่าวันนี้หนูป่วยน่ะค่ะ"ฉันโกหกเธอไปอย่างน้ำขุ่นๆ
    ทาคุโระเดินเข้าไปหาคุณยาย ภายในห้องมีเสียงชีพจรดังอยู้เนืองๆ สายต่างๆทะลุผ่านร่างกายของยายไป จนฉันแทบไม่เชื่อว่านี่หรือ ผลจากการ
    เป็นลมแล้วล้มไปกระแทกกับกระถาง ทำไมมันดูหนักหนาขนาดนี้ มันคงจะแย่จริงๆถ้าเกิดขึ้นกับคนที่ฉันรัก แต่ถ้าฉันเป็นแบบนี้
    ก็ขอให้ฉันไม่รู้สึกตัวทีเถิด บรรยากาศในนี้ช่างน่าอึดอัด ฉันไม่อยากใคร่ที่จะเห็นภาพแบบนี้มากนัก ถาพของความทรมารและความทุกข์
    ฉันอยู่ได้เพียงครึ่งชั่วโมงฉันก็ขอตัวกลับบ้าน ทาคุโระอาสาจะไปส่งฉัน แต่ฉันไม่อยากจะพรากเขากับยายจึงขอให้เขาอยู่ดูแลคุณยายที่นี่
    แล้วฉันจะมาเยี่ยมพรุ่งนี้หลังเลิกเรียนฉันจะมาใหม่
       ประตูบ้านที่ล็อคอยู่ได้ถูกปลดโดยฉัน ฉันเข้าไปในบ้านที่ว่างเปล่า ว่างเปล่าในที่นี้หมายถึงความเดียวดาย ฉันนั่งลงหน้าทีวีแล้วก็ใช้เวลาจมอยู่หน้าจอทีวี ฉันไม่ได้สนใจว่าอะไรมันได้เกิดขึ้นในจอทีวีเลย ฉันดูมันด้วยความว่างเปล่าเช่นกัน ในหัวฉันกลับคิดอะไรต่างๆมากมาย และเหมือนว่ายังคงจะมีอะไรให้คิดอีกเยอะ


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×