ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ดงมาร

    ลำดับตอนที่ #6 : “ คุณพระ…คุณเจ้าช่วย ”

    • อัปเดตล่าสุด 12 ก.ย. 46


                                                                                           บทที่  6



            “ คุณพระ…คุณเจ้าช่วย ” ช้องนางสบถออกมาอย่างตกใจเมื่อได้ยินคำบอกเล่าของนายตำรวจนายหนึ่งที่มาแจ้งข่าวร้ายให้หล่อนและสามีทราบ

            “ ไม่จริง…ไม่เป็นความจริงใช่ไหมค่ะคุณพี่ดล ” ช้องนางหวีดร้องออกมาเสียงดังด้วยความสะเทือนใจ

            “ คุณ…คุณมีสติหน่อย…มันเป็นเรื่องจริง…ภูมิกับอรเค้าทิ้งเราไปแล้ว หักอกหักใจเสียบ้างเถอะ ” นพดลกล่าวคำปลอบโยนนั้นออกมาอย่างยากเย็น…แขนที่โอบภรรยาไว้นั้นสั่นสะท้านด้วยความสะเทือนใจภายใน

            “ แต่มัน..มันจะเกิดขึ้นได้อย่างไรค่ะคุณตำรวจ ” น้ำเสียงนั้นแหบพร่าระคนสั่นเครือ

            “ ทางชลบุรีเค้าแจ้งมาว่าคุณนวภูมิกับคุณอรอนงค์ได้ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อตอนรุ่งสางนี้เอง รถที่ทั้งคู่ใช้เดินทางเสียหลักชนเข้ากับแผงกั้นถนนบริเวณทางโค้งเป็นเหตุให้รถตกจากหน้าผาลึกประมาณ 50 เมตร สันนิฐานเบื้องต้นว่าอาจเกิดจากความไม่ชินเส้นทางของคุณ   นวภูมิ เป็นเหตุให้ทั้งคุณนวภูมิและคุณอรอนงค์เสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ ” ร้อยตำรวจเอกสมศักดิ์กล่าวเรียบๆขณะที่ลอบสังเกตุพฤติกรรมของคนทั้งคู่ไปด้วย

            “ เป็นไปไม่ได้…ภูมิไปบ้านพักที่นั้นบ่อยมาก…ต้องไม่ใช่อย่างที่พวกคุณคิดแน่ๆ ” นพดลกล่าวด้วยความมั่นใจ

            “ แต่จุดที่ประสบเหตุค่อนข้างชันและคดเคี้ยวมาก…เวลาที่เกิดเหตุก็ดูเหมือนจะเป็นใจให้เราสันนิฐานแบบนี้ ” สมศักดิ์ยังคงเลือกใช้น้ำเสียงดุจเดิม

            “ โถ…คุณพี่ไม่น่าต้องมาทิ้งกันไปแบบนี้เลย…แล้วตาทัพ…ตาทัพหล่ะค่ะคุณตำรวจ” ช้องนางร้องออกไปอย่างเพิ่งนึกอะไรได้

            “ ใช่…แล้วลูกชายของภูมิกับอรหล่ะครับ ” นพดลก็มีอาการไม่ต่างจากภรรยาเท่าไหร่นัก

            “ ลูกชาย ?มีคนเดินทางไปมากกว่าสองคนหรือครับ ” สมศักดิ์ถามอย่างแปลกใจในข่าวที่เพิ่งได้รับมา

            “ ใช่คะ…เด็กชายอายุราวแปดเดือนเศษคุณพี่อรเอาเค้าไปด้วย ” น้ำเสียงของช้องนางดูร้อนรนยิ่งนัก

            “ อย่างไรไม่ทราบครับคงต้องตรวจสอบกับทางสถานนีอีกที…จ่า ” สมศักดิ์หันไปพยักหน้ากับธานีเป็นเชิงให้ช่วยจัดการให้ที

            “ ขอใช้โทรศัพท์หน่อยนะครับ ”

            “ ทางนี้คะ ” ช้องนางตอบรับพลางเดินนำธานีออกไป

            “ แล้วนี่ผม…จะรับศพมาบำเพ็ญกุศลได้เมื่อไหร่ครับ ” นพดลเอ่ยถามออกไปขณะที่อยู่กับสมศักดิ์เพียงลำพัง    

                                    “ วันนี้ค่ำๆคุณคงทำเรื่องขอรับศพได้ ถ้า… ” สมศักดิ์ถอนใจยาวก่อนจะกล่าวสืบไปว่า“ ถ้าผลการชันสูตรออกมาว่าคุณนวภูมิและภรรยาเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุจริงๆ…ไม่มีอะไรแอบแฝง ”

            “ ไม่มีอะไรแอบแฝง?…นี่คุณพูดบ้าอะไรเนี๊ย ” นพดลสบถเสียงขุ่นจัดอย่างไม่พอใจในคำพูดที่ได้ยินนั้น

            “ อะไรกันค่ะคุณพี่ดล ” ช้องนางร้องถามขึ้นขณะที่กลับเข้ามาในห้อง

            “ ทางเรายังหาเหตุอันควรมารองรับไม่ได้ว่าทำไมคุณนวภูมิและภรรยาต้องรีบร้อนเดินทางในเวลาใกล้เช้าอย่างนั้น ทางเราจึงไม่สามารถปักใจเชื่อเรื่องอุบัติเหตุเพียงอย่างเดียวได้… ประเด็นของผู้ใกล้ชิดเกี่ยวข้องที่อาจมีส่วนได้ส่วนเสียในการเสียชีวิตของคนทั้งคู่…ทางเราจำต้องรวมความน่าจะเป็นข้อนี้เข้าไปด้วย ” สมศักดิ์ยังคงกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย

            “ คุณพระช่วยนี่คุณตำรวจคิดว่า…คุณพี่ถูกฆ่าตายหรือค่ะ ” ช้องนางอุทานเสียงสั่น

            “ บัดซบที่สุด…คุณพูดอย่างนี้ออกมาได้อย่างไร  ” ท้ายน้ำเสียงสูงจนเกือบกลายเป็นตวาด

                       “ ไม่เอาคะคุณพี่…ใจเย็นๆนะค่ะ ” ช้องนางว่าด้วยน้ำเสียงปนสะเอื้อนพลางลุกขึ้นยึดตัวสามีของหล่อนไว้ด้วยเกรงว่าเรื่องจะบานปลายใหญ่โต

            “ ผมพูดไปตามหน้าที่…ไม่ได้ตั้งใจจะทำให้พวกคุณไม่พอใจ ” สมศักดิ์ยังคงไม่แสดงท่าทีอะไรออกมา

            “ มันหน้าที่ของคุณ…ใช่มันหน้าที่ของคุณผมไม่เถียง แต่คุณไม่ควรและไม่มีสิทธิที่จะมาพูดแบบนี้กับเรา เราที่กำลังอยู่ในสภาพของคนเสียขวัญ…คนอันเป็นที่รักของเราทั้งคู่เพิ่งจะมาทิ้งเราไปแล้วไหนจะยังหลานผมอีกที่ยังไม่รู้ว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไร คุณคิดว่าท่าทางเราสองคนดูเหมือนยินดีนักหรือ ผมอยากรู้นักว่าคุณมันยังพอมีความเป็นมนุษย์เหลืออยู่บ้างไหม ” นพดลมองสมศักดิ์อย่างขวางๆ มือนั้นกำแน่นอย่างพยามระงับโทสะที่มันพลุ่งพล่านอยู่ภายใน…แต่ท้ายน้ำเสียงนั้นสั่นด้วยความโกรธระคนสะเทือนอารมณ์

            “ เราไม่มีเจตนาจะพูดให้พวกคุณรู้สึกแย่แบบนี้…แต่ ” ธานีที่เพิ่งจะกลับเข้ามาพยามไกล่เกลี่ยเมื่อเห็นว่าเรื่องราวมันชักจะไปกันใหญ่

            “ ไม่เจตนา…แต่ขอโทษทีเถอะ ที่ผมได้ยินเต็มสองหูเมื่อครู่ ก็คือพวกคุณกำลัง…กล่าวหาพวกเราว่าอาจเป็นต้นเหตุที่ทำให้พี่ชายและพี่สะใภ้ตาย…หรืออีกนัยหนึ่งคุณกำลังจะบอกว่าหากพวกเค้าตายไปพวกผมก็จะสุขสบายอย่างนั้นหรือ? คุณเห็นไหม…เห็นผู้หญิงที่น่าสงสารคนนี้ไหม…เธอกำลังเสียใจ…เสียขวัญแค่ไหน คุณคิดบ้างไหมว่าคำพูดพล่อยๆของพวกคุณมันกำลังทำลายเธออยู่ ” นพดลว่าพลางชี้นิ้วไปที่ช้องนางที่ยังคงสะเอื้อนไห้อยู่…อย่างนึกสงสารหล่อนจับใจ

            “ แต่ถ้าพวกคุณไม่ได้ทำอะไรก็ไม่เห็นต้องร้อนตัวเลยนี่ครับ ” ธานีชักน้ำเสียงอย่างไม่พอใจกับคำพูดและกริยาเดือดดานของนพดลนัก

        ก่อนที่เรื่องราวจะลุกลามไปมากกว่านี้ ช้องนางที่ยื้อยุดแขนสามีของหล่อนอยู่ก็พลันล้มพับหมดสติไป สร้างความตกใจให้กับทุกคนเป็นอย่างมาก

                         “ คอยดูนะ…ถ้าเมียผมเป็นอะไรไปผมจะถือว่าพวกคุณนั้นแหล่ะที่เป็นคนทำร้ายเธอ ” นพดลกล่าวเสียงกร้าวก่อนจะช้อนร่างของช้องนางอุ้มออกไปจากตรงนั้น โดยมีนายตำรวจทั้งสองนายมองตามจนลับสายตา…โดยยากที่คาดเดาได้ว่าพวกเค้ากำลังคิดอะไรกันอยู่





                                           ……………………………………………………………………

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×