ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Bin

    ลำดับตอนที่ #4 :

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 7
      0
      15 มี.ค. 47

    10 สิงหาคม 2545

                 ผมได้รู้จักหน้าตาของเว็บเด็กดีครั้งแรกจากการ “ ค้นหา \"  เว็บไซด์นักเขียนหน้าใหม่ที่ยังไม่มีที่ส่งงานเขียน …โดยการค้นหาของสนุก ดอท คอม

            ตื่นเต้น…สุดๆครับ (เหมือนตอนไปยืนอยู่หน้าบอร์ดประกาศผลสอบยังไงยังงั้นเลยหล่ะ)

    และก็บอกตัวเองทันทีเลยว่า เฮ้ยความฝัน(ลมๆ) ของเราเริ่มเป็นรูปเป็นร่างแล้วโว๊ย…หลังจากหน่าย…กับการส่งต้นฉบับเรื่องยาวของตนเองไปที่สำนักพิมพ์หลายต่อหลายที่…แต่แล้วก็ได้แต่รอกับรอ…และก็รอ (ทุกวันนี้ก็ยังหน้าด้าน…รอ) คำตอบที่แสนยาวนานของสำนักพิมพ์…แต่จากวันนี้ไป..อะนะ (จะลองทำเชิดๆใส่สำนักพิมพ์สักพัก…คอยดู)

        แต่…พอเปิดเข้าไปที่ส่งเรื่องเท่านั้นแหละ…โอ้แม่เจ้า…อะไรจะขนาดนั้นมีเรื่องส่งไว้ก่อนตั้งเกือบพันห้าร้อยเรื่อง… (โอ้โห…มีคนร่วมเส้นทางมากขนาดนี้เลยเหรอ)

            พอเห็นอย่างนั้นผมก็ตัดสินใจลองเข้าไปชิมลางอ่านงานของคนอื่นดูก่อนว่าเป็นไงกันบ้าง (ยังคิดเข้าข้างตัวเองอีกนะว่า…คงได้อ่านแต่เรื่องของเด็กๆ…รูปแบบการเขียนแบบขอไปทีแหง๋เลย…)

        และเรื่องแรกที่ผม( ยอม )ลองเข้าไปอ่านก็คือเรื่องอัญมณีสีน้ำเงิน( หัวข้อเรื่องของผมนี่แหละ)…ด้วยเหตุผลที่ว่ามีคนเข้าไปอ่านมากติด1ใน5ของเดือน…เรื่องนี้(คิดว่า)คงพออ่านได้…และที่สำคัญคำบรรยายเรื่องน่าสนใจสุด…สุด

                 แต่…ผมคิดผิดไปถนัดเลย…ที่ปรามาสเรื่องนี้เสียตั้งแต่ยังไม่ได้ลองอ่าน...ทำไมนะหรือครับ....





        \" เพราะ…อัญมณีสีน้ำเงินไม่ใข่แค่พออ่านได้…

        และไม่ใช่งานเขียนแบบเด็กๆด้วย \"

        

                    แต่…กลับเป็นงานเขียนที่คล้ายเขียนโดยนักเขียนมืออาชีพเขียนมากทีเดียว    

                    อัญมณีสีน้ำเงิน เป็นเรื่องที่ค่อนข้างออกแนวบู้…หน่อยๆ (ในความคิดของผมนะ) และคนเขียนค่อนข้างจะเป็นผู้มีความสามารถในการบอกเล่าเรื่องราวด้วยตัวหนังสือ (และภาพประกอบ)ได้ดีทีเดียว

        ตอนที่หนึ่งที่ผมอ่านผมมีความรู้สึกว่า…โอ้โหไมพี่แกลำดับเหตุการณ์ได้กระชับแบบนี้ว่ะเนี๊ย…แถมสนุกอีกต่างหาก (อย่างกับนักเขียนอาชีพน่ะ…) ผมลองอ่านรอบที่สองในตอนเดียวกัน…เพื่อหาข้อบกพร่องที่อาจจะเกิดเป็นช่องว่างให้ผมรู้สึก (ภูมิใจ) ว่าต้นฉบับและเนื้อเรื่องของผมสมบูรณ์มากกว่า…

        แต่…ไม่ยักกะมีฮ่ะ..ทั้งสั้น…ง่าย…ได้ใจความ และก็สนุก…ชวนติดตามอีกต่างหาก (เค้าไม่ได้ติดสินบนผมมาเขียนหลอกนะครับ…แค่500ร้อยเอง..แฮ่ๆล้อเล่นนะครับ)

        ผมอ่านไปตอนเดียวความคิดผมตะเหลิดไปถึงเงื่อนที่มันควรจะเป็นปมของเรื่องเลยทีเดียว… มันทำให้ความกระหายที่ซุกซ่อนอยู่ในส่วนลึกๆของหัวใจ (สะออน) ของผม…เกิดความอยากจะรู้เรื่องราวในตอนต่อไปขึ้นมาอย่างประหลาด…

        นิยายที่ดี…มันควรจะเล่นกับความรู้สึกของคนอ่านได้…ทำให้ใคร่อ่าน…ใคร่รู้…และสนุกไปพร้อมๆกัน

        ผมอดไม่ได้ที่จะลอง( ขโมย) อ่านข้อความที่ฝากให้นักเขียนที่ฝากกันไว้มากมายด้านล่าง…พลางเอามือจับที่หน้าอกข้างซ้ายแล้วขยำอย่างแรง…ทำไมน่ะหรือครับ

                   แต่ละ…ข้อความที่ฝากให้นักเขียนน่ะสิครับ…มันโดนใจผมอย่างแรงเลย

        เกิดคำถามขึ้นในใจว่า….

        ...นี่นักเขียนสมัครเล่นหรือ…

        …ทำไมคิดพล็อตได้โป๊ะเช๊ะขนาดนี้

                  … เอาข้อมูลแบบนี้มาจากไหนนะ

        และอีกมากมายที่ผุดขึ้นในสมองของผม…มีแต่คำถามและคำถาม

        และคำถามสุดท้ายที่ทำให้…ผมยอกสแยกในใจอย่างช่วยไม่ได้ว่า…

        แล้วงานของผมล่ะ…จะมีคนอ่านกับเขาไหมเนี๊ย…

        ผมสลัดความคิดนั้นออกไปจากหัวอย่างรวดเร็ว…ทำไมนะหรือครับ

           

                    แหม…ใครจะกล้าคิดหล่ะครับว่า “ ถ้างานที่แสนจะรักและหวงแหนของผมเอง…ที่อุตส่าห์หาที่ลงอวดสายตาชาวโลกได้แล้ว…แต่กลับไม่มีใครอ่าน…จะเกิดอะไรขึ้น” …แค่คิดก็หดหู่พิลึกแล้ว

        ผมค่อยๆลงทะเบียนนักเขียน…ด้วยสมองที่ไม่เป็นสุขนัก…มีหลายเรื่องเชียวครับที่ผมกำลังคิดอยู่ซึ่งส่วนใหญ่เกี่ยวกับงานของผมทั้งนั้นเลย…

        แต่ความคิดหนึ่งที่ผมคิดว่ามันน่าจะมีประโยชน์มากๆสำหรับผู้อ่านที่น่ารักทุกคนของผม( ก็อุตส่าห์อ่านผมพล่ามมาถึงขนาดนี้…ไม่รักคุณแล้วจะให้ไปรักแมวที่ไหน ) ก็คือ…

        ผมเพิ่งเข้าใจว่า…ทำไมงานเขียนของผมจึงต้องรอการพิจารณานาน…ขนาดนั้น ( นานชนิดที่เรียกว่าลืมกันไปข้างเลย)

        นั่นอาจเกิดจากคนที่มีงานเขียนเป็นของตนเองนั้นมีจำนวนมาก…และงานเขียนดีๆก็เกิดขึ้นทุกวัน…นี่ล่ะสาเหตุสำคัญเชียว

                    ดังนั้นงานเขียนที่ส่งต้นฉบับย่อมต้องใช้เวลาคัดสรรนานที่เดียว…กว่าจะบอกได้ว่างานชิ้นนั้นโดนหรือไม่โดน…หรือ…ไม่อย่างไร

        คิดได้อย่างนี้แล้วก็เอาแต่นั่งปลงอนิจจัง(บวกสบายใจขึ้นอีกโขเลย) อะครับ (พลางกับส่งเนื้อเรื่องขึ้นเว็บ)

        และก็ได้แต่คาดหวังว่า( ไอ้) งานของเราคงจะป๊อปไม่แพ้อัญมณีสีน้ำเงินเหมือนกัน

                    แต่ตอนนี้…ผมขอไปอ่านเรื่องนี้ (อัญมณีสีน้ำเงิน) ตอนที่6ก่อนนะครับ…มันชักติดใจเสียแล้ว

                                                  

                                                                                                      วานิช นิ่มสกุล



    ปล. ใครเคยอ่านเรื่องอะไรมาบ้างครับ…เนื้อหาเป็นไงวิจารณ์กันตามสบายเลยนะครับ…มาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน…ส่วนเรื่องต่อไปที่ผมจะเอามาเล่า…เอามาแฉ (ความรู้สึก) รับรองว่าคุณๆหลายๆคนคงเคยอ่านแล้วแน่นอน…โพทบอกเรื่องที่คุณเคยอ่าน…หรือโพทโฆษณางานของตัวเองก็ได้นะครับไม่ว่ากัน…ถือว่ามาเปิดโอกาส(ให้ผมและคนอื่นทราบว่ามีงานเขียนแนวนี้อยู่ที่บอร์ดเราด้วย) ในการอ่านกัน…วันนี้บาย…ครับ



    เนื่องด้วยบทวิจารณ์เรื่องนี้ลงไว้ตั้งแต่วันที่ 3 เดือนตุลาคมปี2546 ซึ่งเวลาได้ล่วงเลยมานานมากแล้ว...ผมเองในฐานะผู้วิจารณืงานก็จึงขอปรับปรุงเนื้อหาบางส่วนที่ผู้เขียนได้ทำการปรับปรุงครับ...กล่าวคือ....



    1.ตอนที่2-8ตอนนี้ปิดปรับปรุงครับ



    2. เนื้อเรื่องในตอนที่1ผิดไปจากเดิมเล็กน้อยในด้านข้อมูล



    3. กระนั้นผู้เขียนยังมีความสามารถในการดำเนินเรื่องได้อย่างวดีเยี่ยมเช่นเคย...เพียงแต่ว่าบางช่วงใส่ความเปแนเหตุเป็นผลลงไปมากเกินจำเป็นเสียหน่อย...( เพราะบางเรื่องผมว่าคนอ่านคิดเองเดาเองมันก็ให้อารมณืได้ดีอีกแบบหนึ่ง...แต่นี่อาจเป็นรูปแบบการนำเสนอของคุณก็ได้)



    4.ใครสนใจเรียนเชิญสมาชิกทุกท่านที่ http://www.dek-d.com/entertain/viewlong.php?id=8899ครับ...รับรองว่าสนุกตื่นเต้นไม่แพ้ละครเรื่องใดๆในเด็กดีแน่นอนครับ





    5.และนักเขียนท่านี่ก็มีผลงานที่รอให้เราพิสูจน์ด้วยสายตาอีกเรื่องครับที่http://www.dek-d.com/entertain/viewlong.php?id=8900 ต้นกุมภาพันธ์นี้ครับ

    ( Up date 5 /1/04)

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×