ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : คนพวกนี้ก็อาจจะอยากได้แค่เงินของหล่อน...ไม่ใช่ชีวิต!
                                                                                บทที่  2
          ท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็นรอบกาย... อรอนงค์ถือกระเป๋าสีดำใบใหญ่ที่บรรจุบางสิ่งบางอย่างไว้  กำลังเดินไปยังจุดนัดหมายตามทางเดินที่เป็นเนินดินชื้นแฉะสายนั้นซึ่งอยู่ห่างออกไปในความมืดเบื้องหน้า...ที่นัดหมายที่ไกลจากตัวหล่อนและรถของหล่อนเองที่จอดอยู่เบื้องหลังอย่างมาก
            หล่อนก้าวเดินไปท่ามกลางหมอกของอากาศหนาวที่ลงจัดจนทำให้มองทางเดินสายนั้นได้อย่างเลือนรางเต็มที สีหน้าและแววตาของหล่อนนั้นเรียบเฉยบ่งบอกได้ถึงอาการอันสงบที่หล่อนเป็นอยู่ มีเพียงมือเรียวบางข้างนั้นที่คอยกระชับสายกระเป๋าใบใหญ่ใบนั้นเป็นระยะ...บอกได้ว่าสิ่งที่บรรจุอยู่ในนั้นมีน้ำหนักมากพอควร
            ลมกรรโชกแรง...ละอองน้ำค้างลงจัดปรากฏเป็นหมอกจางๆ...หญิงสาวในชุดสีดำกำลังก้าวเดินไป เบื้องหน้าอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย...ห่างออกไปมีชายกลุ่มหนึ่งยืนมองมาที่หล่อนด้วยสายตาที่ยากจะคาดเดาถึงความหมายที่ลึกลงไปในดวงตาแต่ละคู่ของชายเหล่านั้น
                “ มันมาแล้วพี่เข้ม ”  เสือเข้มรับฟังคำบอกเล่านั้นด้วยอากาสงบนิ่ง...สายตาจับจ้องที่เงาบางๆที่เคลื่อนตัวเข้ามาใกล้กลุ่มของตนด้วยแววตาแวววับ...นิ่ง...สงบหากแต่ดูน่ากลัวยิ่งนัก
                “ ตรงเวลาดีนี่คุณนาย ” เสือเข้มเอ่ยทักด้วยน้ำเสียงแหบห้วน  “ หวังว่าคงไม่มีอะไรตุกติกนะ ”
            อรอนงค์มิไยกับคำถามนั้นของเสือเข้ม แต่กลับวางกระเป๋าใบนั้นที่ถือมาลงกับพื้นแล้วจึงเปิดมันออกพอให้เห็นว่าสิ่งที่บรรจุอยู่ภายในนั้นมันคือธนบัติจำนวนมาก
            เสือเข้มยิ้มที่มุมปากอย่างน่ากลัว...ผิดกับชายอีกสองคนที่อุทานออกมาอย่างเสียงดัง...นัยน์ตานั้นเบิกกว้างอย่างตื่นเต้น
                “ สามีชั้นหละ ” เมื่อเห็นอาการดังกล่าวของชายเหล่านั้นอรอนงค์บังเกิดความชื้นใจขึ้น  เล็กน้อย...อย่างน้อยคนพวกนี้ก็อาจจะอยากได้แค่เงินของหล่อน...ไม่ใช่ชีวิต!
                  “ แหมห่างกันไม่ถึงสองอาทิตย์คิดถึงกันขนาดนั้นเชียวหรือคุณนาย...ช่วงนี้ผมว่างอยากทดลองใช้ทำสามีแทนไหม...รับรอง... ” ไอ้เสียมปล่อยท้ายคำของมันทิ้งค้างไว้อย่างนั้น  พลางหลิ่วตามองอรอนงค์อย่างคะนอง แล้วจึงบังเกิดเสียงหัวเราะชอบใจของพวกอีกสองคนตามมา มีเพียงเสือเข้มคนเดียวเท่านั้นที่ยังคงเฉย...ก่อนที่จะดีดนิ้วเป็นสัญญาณเสียงแทรกเสียงหัวเราะนั้นไป
              ครู่ต่อมา...ชายสองคนเดินหิ้วปีกนวภูมิที่มีอาการไร้สติเดินเข้ามาสมทบกับชายกลุ่มเดิม ก่อนทิ้งร่างนั้นลงกับพื้นเบื้องหน้าอรอนงค์อย่างไม่ไยดีกับร่างไร้สตินั้น
                        “ คุณภูมิ ” อรอนงค์อุทานเสียงดังพร้อมกับถราเข้าประคองร่างไร้สติของสามีไว้
                      “ ไอ้เสียม...กระเป๋า ” เสือเข้มสำทับ...ชายคนดังกล่าวย่างสามขุมเข้าฉวยกระเป๋าที่วางอยู่ใกล้ตัวอรอนงค์ซึ่งมิไยกับกระเป๋าใบนั้นเลยแม้แต่น้อย
                นวภูมิมีอาการแข็งขืน...พยามชันกายทรงตัวให้อยู่แต่มันกลับอ่อนยวบลงบนบ่าของภรรยาเหมือนเดิม ตาของชายหนุ่มหรี่ปรือมีอาการเลื่อนลอย...เขาส่งเสียงอ้อแอ้ซ้ำไปซ้ำมาฟังไม่ได้ความ...คล้ายจะบอกบางอย่างแก่อรอนงค์...แต่หล่อนเองก็จนใจที่จะทราบความนั้น
                      “ นี่มันอะไรกัน! ” เสือเข้มสบถเสียงสูงอย่างไม่พอใจหลังตรวจตราสิ่งที่บรรจุอยู่ในกระเป๋าใบนั้น...แล้วเขาจึงเขวี้ยงมันลงพื้นอย่างแรง “ มันไม่ตลกเลยนะคุณนาย ” ว่าแล้วเขาก็ย่างสามขุมเข้าไปหาคนทั้งคู่
                        “ ก็เงินที่แกอยากได้ไงหละ ” อรอนงค์ตวาดกลับอย่างไม่เกรงกลัว “ แต่ขอโทษนะ..มันรวมๆกันแล้วคงจะมีราวๆสองหมื่นได้กระมั้ง...ผิดหวังสินะเสือเข้ม ” ว่าแล้วหล่อนก็หัวเราะด้วยน้ำเสียงสะใจ
                          “ แก ! ” เสือเข้มยกมือขึ้นหมายจะตบสั่งสอนวาจาเสียดแทงนั้นให้สาสมหากแต่ก็ชะงักไว้  “ แกไม่กลัวว่าชั้นจะฆ่าแกกับผัวทิ้งหรือไง ” น้ำเสียงที่รอดออกมาจากไรฟันนั้นชวนขนลุกสิ้นดี...มันสั่นสะท้านด้วยความโกรธจนสุดระงับ
                          “ แกคิดหรือไงว่าชั้นจะโง่...ไม่ว่าชั้นเอาเงินมาให้พวกแกจนครบหรือไม่ พวกแกก็ฆ่าเราทั้งคู่ทิ้งอยู่ดี ” อรอนงค์กล่าวลั่นอย่างไม่เกรงกลัวชายที่อยู่เบื้องหน้าหล่อนแม้แต่น้อย
                          “ แกหมายความว่ายังไง ” เสือเข้มสบถถามอย่างแปลกใจ
              ก่อนที่อรอนงค์จะตอบคำถามนั้นของเสือเข้ม...ไอ้เสียมได้วิ่งหน้าตื่นเข้ามาใกล้ “ เอาไงดีพี่...มีเงินจริงไม่ถึงสามหมื่นเลย...ให้มันกลับไปเอาเงินค่าไถ่มาให้ครบก่อนไหมพี่...แล้วค่อยลงมือ ” สิ้นคำถามนั้นไอ้เสียมก็พบว่าตัวเองเซถลาลงไปกองอยู่กับพื้นตามแรงเตะของเสือเข้ม
                            “ แกรู้อะไรอีก...อีคุณนาย ”
            อรอนงค์มองเสือเข้มด้วยสายตาว่างเปล่า...รอยยิ้มชนิดหนึ่งผุดขึ้นเหนือริมฝีปากก่อนกล่าวสืบไปว่า    “ ชั้นก็รู้ว่า...การลักพาตัวครั้งนี้สิ่งที่แกอยากได้ไม่ใช่เงิน...แต่คือชีวิตของเราทั้งสองคนหนะสิ ”
            สิ้นคำกล่าวนั้นบังเกิดเสียงหัวเราะอย่างบ้าคลั่งของเสือเข้มขึ้น...มันเขม่นมองหญิงตรงหน้าอย่างพิจารณา...นึกนิยมในใจนิดๆ
                            “ ที่ใครๆเค้าว่า...คุณอรอนงค์ วงศ์กำจายบุตรสาวคนเดียวของคุณพฤตินัย วงศ์กำจายเป็นผู้หญิงโง่ๆ...อ่อนต่อโลกเห็นทีจะมองผิดไปกระมัง เพราะที่ประจักษ์แก่สายตาไอ้เสือเข้มคนนี้ เธอมันเป็นผู้หญิงที่ฉลาดอย่างร้ายกาจชัด ” น้ำเสียงนั้นแฝงไว้ซึ่งหลายอารมณ์ มันเหมือนแปลกใจ ยกย่องและชื่นชมไปพร้อมๆกัน
                              “ ผิดแล้วเสือเข้ม...ฉันเองมันก็แค่นังคนโง่บัดซบคนหนึ่งเท่านั้น...ถ้าชั้นฉลาดจริงอย่างที่แกว่า ” หล่อนหยุดนิ่งครู่หนึ่งอย่างพยามระงับอารมณ์โกรธที่พลุ่งพล่านอยู่ภายในใจ แล้วจึงกล่าวความต่อว่า “ ชั้นคงมีวิธีจัดการกับไอ้และอีที่มันวางแผนฆ่าชั้นกับคุณภูมิครั้งนี้ได้ดีกว่านี้ และถ้าชั้นฉลาดจริง...ชั้นคงไม่เลือกที่จะเอาชีวิตมาทิ้งที่นี่แน่ๆ ” อรอนงค์สบถเสียงขุ่น
                                “ รู้อย่างนี่แล้วคุณนายยังกล้ามาที่นี่คนเดียวอีกหรือ ” เสือเข้มครางอย่างลืมตัว
                                “ ในเมื่อถึงอย่างไรเสียเราทั้งคู่ก็ต้องถูกกำจัดอยู่ดีไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่ง ฉะนั้น...ชั้นก็เลือกที่จะให้มันจบลงเสียวันนี้เลยดีกว่า...ในเมื่อชั้น ควรตาย เพื่อให้คนที่ ไม่สมควรตาย ได้มีชีวิตอยู่...ชั้นจะวิ่งหนีมันไปเพื่ออะไร ” อรอนงค์ว่าพลางกระชับอ้อมแขนของตนที่โอบสามีที่ไร้สติของหล่อนไว้แน่น
                                “ ถือว่าใจเด็ดมาก...เสือเข้มขอนับถือน้ำใจจริงๆ ” เสือเข้มว่าพลางก้มศรีษะลงต่ำแสดงความนับถือหญิงสาวตรงหน้าอย่างจริงใจ
                              “ ชั้นพร้อมแล้ว...ไหนหละวาระสุดท้ายของเรา ” สายตาที่มองเสือเข้มนั้นเข้มแข็ง    เด็ดเดี่ยว ไร้ความหวาดกลัวใดๆ...หากแต่ใจนั้นเล่า...
                                                     
          ท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็นรอบกาย... อรอนงค์ถือกระเป๋าสีดำใบใหญ่ที่บรรจุบางสิ่งบางอย่างไว้  กำลังเดินไปยังจุดนัดหมายตามทางเดินที่เป็นเนินดินชื้นแฉะสายนั้นซึ่งอยู่ห่างออกไปในความมืดเบื้องหน้า...ที่นัดหมายที่ไกลจากตัวหล่อนและรถของหล่อนเองที่จอดอยู่เบื้องหลังอย่างมาก
            หล่อนก้าวเดินไปท่ามกลางหมอกของอากาศหนาวที่ลงจัดจนทำให้มองทางเดินสายนั้นได้อย่างเลือนรางเต็มที สีหน้าและแววตาของหล่อนนั้นเรียบเฉยบ่งบอกได้ถึงอาการอันสงบที่หล่อนเป็นอยู่ มีเพียงมือเรียวบางข้างนั้นที่คอยกระชับสายกระเป๋าใบใหญ่ใบนั้นเป็นระยะ...บอกได้ว่าสิ่งที่บรรจุอยู่ในนั้นมีน้ำหนักมากพอควร
            ลมกรรโชกแรง...ละอองน้ำค้างลงจัดปรากฏเป็นหมอกจางๆ...หญิงสาวในชุดสีดำกำลังก้าวเดินไป เบื้องหน้าอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย...ห่างออกไปมีชายกลุ่มหนึ่งยืนมองมาที่หล่อนด้วยสายตาที่ยากจะคาดเดาถึงความหมายที่ลึกลงไปในดวงตาแต่ละคู่ของชายเหล่านั้น
                “ มันมาแล้วพี่เข้ม ”  เสือเข้มรับฟังคำบอกเล่านั้นด้วยอากาสงบนิ่ง...สายตาจับจ้องที่เงาบางๆที่เคลื่อนตัวเข้ามาใกล้กลุ่มของตนด้วยแววตาแวววับ...นิ่ง...สงบหากแต่ดูน่ากลัวยิ่งนัก
                “ ตรงเวลาดีนี่คุณนาย ” เสือเข้มเอ่ยทักด้วยน้ำเสียงแหบห้วน  “ หวังว่าคงไม่มีอะไรตุกติกนะ ”
            อรอนงค์มิไยกับคำถามนั้นของเสือเข้ม แต่กลับวางกระเป๋าใบนั้นที่ถือมาลงกับพื้นแล้วจึงเปิดมันออกพอให้เห็นว่าสิ่งที่บรรจุอยู่ภายในนั้นมันคือธนบัติจำนวนมาก
            เสือเข้มยิ้มที่มุมปากอย่างน่ากลัว...ผิดกับชายอีกสองคนที่อุทานออกมาอย่างเสียงดัง...นัยน์ตานั้นเบิกกว้างอย่างตื่นเต้น
                “ สามีชั้นหละ ” เมื่อเห็นอาการดังกล่าวของชายเหล่านั้นอรอนงค์บังเกิดความชื้นใจขึ้น  เล็กน้อย...อย่างน้อยคนพวกนี้ก็อาจจะอยากได้แค่เงินของหล่อน...ไม่ใช่ชีวิต!
                  “ แหมห่างกันไม่ถึงสองอาทิตย์คิดถึงกันขนาดนั้นเชียวหรือคุณนาย...ช่วงนี้ผมว่างอยากทดลองใช้ทำสามีแทนไหม...รับรอง... ” ไอ้เสียมปล่อยท้ายคำของมันทิ้งค้างไว้อย่างนั้น  พลางหลิ่วตามองอรอนงค์อย่างคะนอง แล้วจึงบังเกิดเสียงหัวเราะชอบใจของพวกอีกสองคนตามมา มีเพียงเสือเข้มคนเดียวเท่านั้นที่ยังคงเฉย...ก่อนที่จะดีดนิ้วเป็นสัญญาณเสียงแทรกเสียงหัวเราะนั้นไป
              ครู่ต่อมา...ชายสองคนเดินหิ้วปีกนวภูมิที่มีอาการไร้สติเดินเข้ามาสมทบกับชายกลุ่มเดิม ก่อนทิ้งร่างนั้นลงกับพื้นเบื้องหน้าอรอนงค์อย่างไม่ไยดีกับร่างไร้สตินั้น
                        “ คุณภูมิ ” อรอนงค์อุทานเสียงดังพร้อมกับถราเข้าประคองร่างไร้สติของสามีไว้
                      “ ไอ้เสียม...กระเป๋า ” เสือเข้มสำทับ...ชายคนดังกล่าวย่างสามขุมเข้าฉวยกระเป๋าที่วางอยู่ใกล้ตัวอรอนงค์ซึ่งมิไยกับกระเป๋าใบนั้นเลยแม้แต่น้อย
                นวภูมิมีอาการแข็งขืน...พยามชันกายทรงตัวให้อยู่แต่มันกลับอ่อนยวบลงบนบ่าของภรรยาเหมือนเดิม ตาของชายหนุ่มหรี่ปรือมีอาการเลื่อนลอย...เขาส่งเสียงอ้อแอ้ซ้ำไปซ้ำมาฟังไม่ได้ความ...คล้ายจะบอกบางอย่างแก่อรอนงค์...แต่หล่อนเองก็จนใจที่จะทราบความนั้น
                      “ นี่มันอะไรกัน! ” เสือเข้มสบถเสียงสูงอย่างไม่พอใจหลังตรวจตราสิ่งที่บรรจุอยู่ในกระเป๋าใบนั้น...แล้วเขาจึงเขวี้ยงมันลงพื้นอย่างแรง “ มันไม่ตลกเลยนะคุณนาย ” ว่าแล้วเขาก็ย่างสามขุมเข้าไปหาคนทั้งคู่
                        “ ก็เงินที่แกอยากได้ไงหละ ” อรอนงค์ตวาดกลับอย่างไม่เกรงกลัว “ แต่ขอโทษนะ..มันรวมๆกันแล้วคงจะมีราวๆสองหมื่นได้กระมั้ง...ผิดหวังสินะเสือเข้ม ” ว่าแล้วหล่อนก็หัวเราะด้วยน้ำเสียงสะใจ
                          “ แก ! ” เสือเข้มยกมือขึ้นหมายจะตบสั่งสอนวาจาเสียดแทงนั้นให้สาสมหากแต่ก็ชะงักไว้  “ แกไม่กลัวว่าชั้นจะฆ่าแกกับผัวทิ้งหรือไง ” น้ำเสียงที่รอดออกมาจากไรฟันนั้นชวนขนลุกสิ้นดี...มันสั่นสะท้านด้วยความโกรธจนสุดระงับ
                          “ แกคิดหรือไงว่าชั้นจะโง่...ไม่ว่าชั้นเอาเงินมาให้พวกแกจนครบหรือไม่ พวกแกก็ฆ่าเราทั้งคู่ทิ้งอยู่ดี ” อรอนงค์กล่าวลั่นอย่างไม่เกรงกลัวชายที่อยู่เบื้องหน้าหล่อนแม้แต่น้อย
                          “ แกหมายความว่ายังไง ” เสือเข้มสบถถามอย่างแปลกใจ
              ก่อนที่อรอนงค์จะตอบคำถามนั้นของเสือเข้ม...ไอ้เสียมได้วิ่งหน้าตื่นเข้ามาใกล้ “ เอาไงดีพี่...มีเงินจริงไม่ถึงสามหมื่นเลย...ให้มันกลับไปเอาเงินค่าไถ่มาให้ครบก่อนไหมพี่...แล้วค่อยลงมือ ” สิ้นคำถามนั้นไอ้เสียมก็พบว่าตัวเองเซถลาลงไปกองอยู่กับพื้นตามแรงเตะของเสือเข้ม
                            “ แกรู้อะไรอีก...อีคุณนาย ”
            อรอนงค์มองเสือเข้มด้วยสายตาว่างเปล่า...รอยยิ้มชนิดหนึ่งผุดขึ้นเหนือริมฝีปากก่อนกล่าวสืบไปว่า    “ ชั้นก็รู้ว่า...การลักพาตัวครั้งนี้สิ่งที่แกอยากได้ไม่ใช่เงิน...แต่คือชีวิตของเราทั้งสองคนหนะสิ ”
            สิ้นคำกล่าวนั้นบังเกิดเสียงหัวเราะอย่างบ้าคลั่งของเสือเข้มขึ้น...มันเขม่นมองหญิงตรงหน้าอย่างพิจารณา...นึกนิยมในใจนิดๆ
                            “ ที่ใครๆเค้าว่า...คุณอรอนงค์ วงศ์กำจายบุตรสาวคนเดียวของคุณพฤตินัย วงศ์กำจายเป็นผู้หญิงโง่ๆ...อ่อนต่อโลกเห็นทีจะมองผิดไปกระมัง เพราะที่ประจักษ์แก่สายตาไอ้เสือเข้มคนนี้ เธอมันเป็นผู้หญิงที่ฉลาดอย่างร้ายกาจชัด ” น้ำเสียงนั้นแฝงไว้ซึ่งหลายอารมณ์ มันเหมือนแปลกใจ ยกย่องและชื่นชมไปพร้อมๆกัน
                              “ ผิดแล้วเสือเข้ม...ฉันเองมันก็แค่นังคนโง่บัดซบคนหนึ่งเท่านั้น...ถ้าชั้นฉลาดจริงอย่างที่แกว่า ” หล่อนหยุดนิ่งครู่หนึ่งอย่างพยามระงับอารมณ์โกรธที่พลุ่งพล่านอยู่ภายในใจ แล้วจึงกล่าวความต่อว่า “ ชั้นคงมีวิธีจัดการกับไอ้และอีที่มันวางแผนฆ่าชั้นกับคุณภูมิครั้งนี้ได้ดีกว่านี้ และถ้าชั้นฉลาดจริง...ชั้นคงไม่เลือกที่จะเอาชีวิตมาทิ้งที่นี่แน่ๆ ” อรอนงค์สบถเสียงขุ่น
                                “ รู้อย่างนี่แล้วคุณนายยังกล้ามาที่นี่คนเดียวอีกหรือ ” เสือเข้มครางอย่างลืมตัว
                                “ ในเมื่อถึงอย่างไรเสียเราทั้งคู่ก็ต้องถูกกำจัดอยู่ดีไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่ง ฉะนั้น...ชั้นก็เลือกที่จะให้มันจบลงเสียวันนี้เลยดีกว่า...ในเมื่อชั้น ควรตาย เพื่อให้คนที่ ไม่สมควรตาย ได้มีชีวิตอยู่...ชั้นจะวิ่งหนีมันไปเพื่ออะไร ” อรอนงค์ว่าพลางกระชับอ้อมแขนของตนที่โอบสามีที่ไร้สติของหล่อนไว้แน่น
                                “ ถือว่าใจเด็ดมาก...เสือเข้มขอนับถือน้ำใจจริงๆ ” เสือเข้มว่าพลางก้มศรีษะลงต่ำแสดงความนับถือหญิงสาวตรงหน้าอย่างจริงใจ
                              “ ชั้นพร้อมแล้ว...ไหนหละวาระสุดท้ายของเรา ” สายตาที่มองเสือเข้มนั้นเข้มแข็ง    เด็ดเดี่ยว ไร้ความหวาดกลัวใดๆ...หากแต่ใจนั้นเล่า...
                                                     
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น